อุคฆติตัญญูโพธิสัตัว์, วิปจิตตัญญูโพธิสัตว์, เนยยโพธิสัตว์

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย wonderisland, 19 มกราคม 2008.

  1. wonderisland

    wonderisland เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +8,009
    พระโพธิสัตว์ ๓ ประเภท ที่บำเพ็ญพระบารมีเพื่อต้องการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ได้แก่

    ๑. อุคฆติตัญญูโพธิสัตว์ : คือพระโพธิสัตว์ประเภทที่มี " ปัญญา" แก่กล้ากว่า "ศรัทธา" สามารถตรัสรู้ได้ "เร็วที่สุด" และใช้ระยะเวลาในการบำเพ็ญพระบารมี "น้อยกว่า" ประเภทอื่น มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ปัญญาธิกะโพธิสัตว์"

    ๒. วิปจิตัญญูโพธิสัตว์ : คือ พระโพธิสัตว์ประเภทที่มี "ศรัทธา" แกกล้ากว่า "ปัญญา" สามารถตรัสรู้ได้เร็ว "ปานกลาง" ใช้ระยะเวลาในการบำเพ็ญพระบารมีมากกว่าพระโพธิสัตว์ประเภทที่ ๑ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ศรัทธาธิกะโพธิสัตว์"

    ๓. เนยยโพธิสัตว์ : คือ พระโพธิสัตว์ประเภทที่มี "วิริยะ" แก่กล้ากว่า "ปัญญา" สามารถตรัสรู้ได้ "ช้าที่สุด" และใช้ระยะเวลาในการบำเพ็ญพระบารมีมากกว่าพระโพธิสัตว์ทุกประเภท มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่ว่า "วิริยาธิกะโพธิสัตว์"



    ระยะเวลาในการบำเพ็ญพระบารมี :

    พระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญพระบารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ประเภท "สัมมาสัมพุทธเจ้า" จะต้องใช้ระยะเวลาในการบำเพ็ญดังนี้ คือ

    ๑) พระปัญญาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีทั้งสิ้น : ๒๐ อสงไขย + ๑๐๐,๐๐๐ กัป แยกตามปณิธานได้ ดังนี้

    ๗ อสงไขย : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน มโนปณิธาน

    ๙ อสงไขย : ระยะเวลาที่ใช้บำพ็ญพระบารมีใน วิจีปณิธาน

    ๔ อสสงไขย : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน กายวีจปณิธาน (รับพุทธพยากรณ์, เข้าเขตบารมีขั้นต้น, เป็นนิยตโพธิสัตว์, ธรรมสโมธานบริบูรณ์)

    ๑๐๐,๐๐๐ กัป : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน กายวจีปณิธาน

    ๒) พระศรัทธาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีทั้งสิ้น : ๔๐ อสงไขย + ๑๐๐,๐๐๐ กัป แยกตามปณิธานได้ ดังนี้

    ๑๔ อสงไขย : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน มโนปณิธาน

    ๑๘ อสงไขย : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน วจีปณิธาน

    ๘ อสงไขย : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน กายวจีปณิธาน (รับพุทธพยากรณ์, เข้าเขตบารมีขั้นต้น, เป็นนิยตโพธิสัตว์, ธรรมสโมธานบริบูรณ์)

    ๑๐๐,๐๐๐ กัป : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน กายวจีปณิธาน

    ๓) พระวิริยาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมี : ๘๐ อสงไขย + ๑๐๐,๐๐๐ กัป แยกตามปณิธานได้ ดังนี้

    ๒๘ อสงไขย :
    ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน มโนปณิธาน

    ๓๖ อสงไขย : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน วจีปณิธาน

    ๑๖ อสงไขย : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน กายวจี ปณิธาน (รับพุทธพยากรณ์, เข้าเขตบารมีขั้นต้น, เป็นนิยตโพธิสัตว์, ธรรมสโมธานบริบูรณ์)

    ๑๐๐,๐๐๐ กัป : ระยะเวลาที่ใช้บำเพ็ญพระบารมีใน กายวจี ปณิธาน



    (เรียบเรียงจาก ปุจฉา - วิสีชนา ปฐมภาค ของ พระสัทธัมมโชติกะ ธัมมจริยะ หน้า ๑๐๒, คัมภีร์อนาคตวงศ์ ของ ประภาส สุระเสน หน้า ๑๗๘ - ๑๗๙ และคู่มือคลังประยัติเล่ม ๑ ของ นายแพทย์เกิด ธนชาติ หน้า ๑๐๕)
     
  2. extremeorb

    extremeorb สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    สอบถาม

    อยากทราบข้อมูลเบื้องลึกนะครับ ว่าเอาข้อมูลมาจากไหนที่มาเปรียบเทียบกับพระพุทธเจ้ากับจำพวกบัวทั้ง 4 เหล่า เกี่ยวกับระยะเวลาการตรัสรู้ของพระองค์ท่านและเปรียบเทียบสติปัญญาของแต่ละพระองค์ ว่ามีไม่เหมือนกัน คนหนึ่งสติปัญญาดีกว่า อีกคนก็โง่กว่า เพราะที่เคยอ่านในหนังสือต่างๆก็ไม่ได้มีพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆพระองค์ใดได้ตรัสบอกแก่ผู้ที่ได้รับคำทำนายว่า "ท่านจะได้บังเกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปด้วย 1.ปัญญา 2.ศรัทธา 3.วิริยะ เลย"

    ซึ่งนอกจากอ่านจากหนังสือพระไตรปิฏกก็ไม่พบว่า พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันหรือพระสมณะโคดมได้กล่าวการเปรียบเทียบสิ่งเหล่านี้แก่พระภิกษุผู้เป็นธรรมเสนาอย่างเช่นพระสารีบุตรหรือ พระโมคคัลลานะ หรือพระอานนท์ เลย

    ข้อมูลสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวถึงมีความเชื่อถือได้มากขนาดไหนครับ มีข้อมูลจริงหรืออาจารย์หรือพระเถระแต่งเสริมขึ้นมา
    สิ่งเหล่านี้ผมว่าไม่ควรนำเอามาเปรียบเทียบนะครับ

    เพราะการที่ผู้ได้รับคำทำนายว่าจะได้มาบังเกิดและตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า มันก็ขึ้นอยู่ว่าท่านได้สร้างบารมีมาทางใด ประพฤติปฏิบัติทางใด เสียมากกว่าใช่ว่าท่านเหล่านั้นจะเป็นผู้มีปัญญาน้อยต้องคอยบอกสอน

    ยกตัวอย่าง ถ้ายังนี้ผมจะกล่าวว่าถ้าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเก่ง จริง ฉลาด มีปัญญาหลักแหลมจริง ทำไมท่านถึงไม่สามารถประคองอายุพระพุทธศาสนาของท่านให้อยู่ได้นาน มันเป็นเพราะอะไร จึงอยากให้ลองกลับไปคิดดู นะครับ

    ขอโทษนะครับที่อาจใช้คำพูดที่แรงแต่ก็อยากให้มองดูในมุมที่กว้างนะครับ

    บุคคลทุกคนย่อมมีอุปนิสัยที่ไม่เหมือนกัน เลือกที่จะรัก จะชอบ จะทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ต่างกัน อย่างเช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ที่ได้รับคำทำนายพยากรณ์ไว้ ต่างคนต่างมีทางเดินไม่เหมือนกัน ใช่ว่าจะตัดสินกันด้วยระดับปัญญา เลยที่เดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...