อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ และมหาสถูปเขาคลังนอก จ.เพชรบูรณ์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย วสุธรรม, 5 มิถุนายน 2010.

  1. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    อืมมองเห็นคล้ายเทพเทวดา เป็นสีเหลืองๆ
    อยู่บนบันไดขั้นสุดท้ายทางด้านซ้ายมือครับ
    แปลกดี
    ขออุโมทนาครับ
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** ศรีเทพ ****

    เมืองศรีเทพตั้งอยู่ในเขตตำบลศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
    ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ <METRICCONVERTER w:st="on" productid="240 กิโลเมตร" />240 กิโลเมตร</METRICCONVERTER />
    ห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ <METRICCONVERTER w:st="on" productid="120 กิโลเมตร" />120 กิโลเมตร</METRICCONVERTER />
    ตั้งอยู่บนลุ่มน้ำสำคัญคือ “ลุ่มน้ำสัก”หรือ “แม่น้ำป่าสัก”
    และ “ลุ่มน้ำเหียง” ที่เคยเป็นแม่น้ำสักสายเก่าในยุคโบราณ
    ไหลผ่านเมืองทางทิศตะวันตก

    [​IMG]


    ���Ҥ�ѧ�͡� 䢻��ȹҾѹ�� ���ʶٻ਴����������ͧ���෾

    สังเกต ... พิกัด ตำแหน่ง ที่ตั้ง ศรีเทพ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2010
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #1161

    *** แม่น้ำใหญ่ ยุคสมัยโบราณ ****

    ก่อนที่น้ำจากหิมาลัย จะไหลบ่าท่วมภาคเหนือ พัดหินดินโคลน มาถมเป็นภาคกลาง
    เมื่อน้ำเริ่มแห้ง เกิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา เหมือนยุคปัจจุบัน
    ดินแดนดั้งเดิม มีแม่น้ำสายใหญ่โบราณ ไหลผ่านตามเส้นสีฟ้า ไหลลงทะเลสาปในเขมร
    บริเวณนครพระกฤษณ์

    [​IMG]

    http://palungjit.org/threads/สมเด็จ...-กับ-ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม.178195/page-59

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    ทีนี้เรามานั่ง Time Machine ย้อนเวลากลับไปศึกษา เกี่ยวกับ ภูมิอากาศยุคโบราณกันดูนะครับ ^^

    โลกกำลังร้อนขึ้น.... Ok ข้อนี้ไม่มีใครเถียง
    แต่จุดที่เป็นข้อถกเถียงคือโลกร้อนขึ้นเพราะเหตุใด ??

    มีคนกลุ่มหนึ่ง ตั้งทฤษฎีว่าโลกร้อนขึ้น เพราะการกระทำของมนุษย์ คือ
    Anthropogenic Global Warming (AGW) theory
    เชื่อว่ามนุษย์ทำให้อิทธิพลของปรากฏการณ์เรือนกระจกในบรรยากาศเพิ่มขึ้น
    โดยเฉพาะจากกาซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากการเผาเชื้อเพลิงจำพวกฟอสซิล

    ผมขอเล่าข้อมูล ประวัติของภูมิอากาศโลกย้อนหลังไปประมาณหนึ่งหมื่นปี
    เพราะมีความสำคัญ ต่อการใช้วิจารณญาณ ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

    ***แบบง่ายๆ เลยแล้วกัน***

    ตอนนี้ โลกกำลังอยู่ในมหายุคน้ำแข็งครั้งที่สี่ เรียกว่า Pleistocene Ice Age
    แต่ระหว่างมหายุคน้ำแข็ง โลกไม่ได้หนาวเย็นต่อเนื่องตลอดเวลา
    มีช่วงเวลาที่หนาวเย็น และอบอุ่น เปลี่ยนแปลงสลับกันหลายต่อหลายครั้ง

    ช่วงของ มหายุคน้ำแข็งครั้งที่สี่ ได้ดังนี้

    1.ช่วงที่ธารน้ำแข็งก่อตัวกว้างขวาง เรียกว่า glacial period
    2.ช่วงอบอุ่นระหว่างยุคน้ำแข็ง เรียกว่า interglacial period

    สี่ล้านปีที่ผ่านมา ธารน้ำแข็งแผ่ขยายและถดถอยสลับกันมากกว่ายี่สิบครั้ง ช่วงที่ธารน้ำแข็งขยายตัวปกคลุมโลก มักจะยาวนานเป็นหลักแสนปี แต่ช่วงอบอุ่นระหว่างธารน้ำแข็งมักจะสั้น เป็นหลักหมื่นปีเท่านั้น
    จนกระทั่ง การขยายตัวของธารน้ำแข็งครั้งสุดท้ายเรียกว่ายุคน้ำแข็ง Wisconsin ซึ่งเริ่มต้นเมื่อประมาณหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นปี จนสิ้นสุดลงเมื่อหมื่นหกพันปีที่แล้ว โลกค่อยๆอุ่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธารน้ำแข็งค่อยๆถดถอยอย่างช้าๆ

    จนกระทั่งถึงหนึ่งหมื่นหนึ่งพันปีก่อนปัจจุบัน เป็นช่วง คาบเกี่ยวระหว่างยุคน้ำแข็ง กับยุคที่โลกอบอุ่น ซึ่งโลกอุ่นขึ้นอย่างฉับพลัน ละลายธารน้ำแข็งนอกเขตขั้วโลกหมดไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็โลกพลิกกลับหนาวลงอย่างรวดเร็ว จนเกือบกลับเข้ายุคน้ำแข็งเต็มตัวเป็นช่วงสั้นๆ แล้วก็กลับอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง จนกลับมาอุ่นเท่ากับตอนเริ่มต้น เมื่อประมาณเก้าพันห้าร้อยปีก่อนปัจจุบัน (พูดง่ายๆว่า มันร้อนๆ หนาวๆ อย่างงี้ สลับกันมาเป็นพันๆ ปีแล้ว)

    ช่วงอบอุ่นที่สุดของ Medieval Warm Period (MWP) ตรงกับศตวรรษที่ 9-11 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการจดบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ทางภูมิศาสตร์ ค่อนข้างแพร่หลาย
    ในช่วงที่โลกอุ่นนั้น ธารน้ำแข็งถดถอย น้ำแข็งที่ละลาย อาจทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ช่วงนี้ตรงกับสมัยทวาราวดีปลายๆ ถ้าใครเคยเห็นแผนที่ทางโบราณคดีของยุคนั้น จะเห็นแนวชายฝั่งทะเลของอ่าวไทยโบราณ กินแดนลึกเข้ามาถึงอ่างทอง

    [​IMG]
    ภาพแผนที่สมัยทวาราวดี ดูดิ น้ำเคยท่วมเข้าไปไกลขนาดนั้นเลย

    My Blog :: Mass Comunication<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #1165

    *** น้ำหิมาลัย ท่วมยุคโบราณ ****

    สีฟ้า : แม่น้ำใหญ่ ยุคโบราณ หายไป แผ่นเปลือกโลกดันกัน เกิดเป็นสัน สูงขึ้น แถบเขาใหญ่
    สีส้ม : น้ำหิมาลัยสมัยดบราณ ไหลเข้าท่วม จากเชียงแสน เชียงของ ไหลลง สู่ภาคกลาง เกิดเป็นภูมิประเทศใหม่ ตั้งแต่ตากลงมา ลักษณะพื้นราบเรียบ มียอดเขาโผล่ขึ้นมา

    [​IMG]

    อนาคต ให้ะวัง จะเกิดแบบสีส้มอีกครั้ง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #1166

    คำถาม...
    เพราะเหตุใด...ทะเลสาปในเขมร จึงมีแนวยาวเฉียง
    จากตะวันตกเฉียงเหนือ ไปตะวันออกเฉียงใต้

    ตอบ....
    เพราะเคยมี แม่น้ำใหญ่สายโบราณ ที่หายไป
    แผ่นดินเบียดยกตัวสูงขึ้น ถล่มทับแม่น้ำบางช่วง เมื่อไม่มีน้ำไหล ก็แห้งเป็นพื้นดิน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #1167

    *** ค้นหาแม่น้ำโบราณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ****

    ดูใน Google map แบบดาวเทียม
    สังเกตสีของพื้นดิน จะเห็นแนวแม่น้ำเก่า
    คือ แนวทางหลวงสาย 21 ไล่จากใต้ คือทางตะวันออกของ ลพบุรี
    ขึ้นไปทางเหนือ ถึงหล่มสัก ต่อขึ้นเหนือ สาย 203 ผ่านภูเรือ ขึ้นไปจรดแม่น้ำโขง

    ส่วนของแม่น้ำที่ไหลลงมา จากลพบุรี ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ถึง อ.ตาพระยา
    จะถูกทับด้วยแผ่นโลกดันตัว ถล่มกลายเป็นบริเวณเขาใหญ่
    เมื่อเลยบริเวณเขาใหญ่ จะไหลผ่านบริเวณตาพระยา ลงทะเลสาปโบราณในเขมร บริเวณศรีโสภณ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #1168

    พิจารณาเหตุการณ์
    ยุคเมืองเหนือล่ม ช่วงยุคเจ้าแม่จามเทวี...
    ยุคแม่น้ำโขง ทะลักเข้าท่วมแผ่นดินไทยปัจจุบัน
    ยุคน้ำท่วมโลก....<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #1177

    เปรียบเทียบ ตำแหน่ง ทิศทาง ระยะ
    ตำบล เมือง นคร ประเทศ
    ใน จารึกประวัติศาสตร์ในอดีต อีกครั้ง
    เพื่อความสมบูรณ์ เพื่อพิสูจน์ช่วงระยะเวลาที่เกิด ที่จารึกไว้ในอดีต
    สุวรรณภูมิ เป็นดินแดนเก่าแก่จริง
    คนไทเรา อาศัยอยู่มานานมาก
    อิฐที่อยู่ใต้ดิน ไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อย ไม่ใช่แค่พันสองพันปี
    แต่มันเก่าแก่มาก ประวัติที่เขียนเรื่องปี ยังสับสนกันอยู่

    กเบื้องจาร<!-- google_ad_section_end -->

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    ศรีเทพ...

    ตั้งอยู่ ใกล้ฝั่งตะวันออก
    ของแม่น้ำโบราณสายใหญ่ ที่ไหลมาจากหิมาลัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2010
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ****


    [​IMG]

     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** ตัวกระทำในอดีต ****

    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946

    Thepkunya
    14-05-2010, 12:09 AM
    สมเด็จพระพุทธองค์ ศรีอาริยเมตไตรย์ กับ ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม #955

    คัมภีร์สุวรรณโคมคำได้ผ่านกาลสมัยมาช้านาน ต่อมาคัมภีร์นี้ได้ตกทอดมาถึง " สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีศรีรัตนลงกาทีปมหาสวามี" นามเดิม คือ พระศรีศรัทธา เป็นโอรสของกมรเตงอัญรามคำแหง ประสูติ ณ เมืองสองแคว (พิษณุโลก) เมื่อเจริญชันษาได้ศึกษาศิลปวิทยา และเจนจบคัมภีร์มหาจักรพรรดิราช หรือคัมภีร์สุวรรณโคมคำ สำเร็จโสฬสแต่ครั้งเยาว์วัย นอกจากนี้ ยังทรงเชี่ยวชาญในวิชาคชศาสตร์ และอัศวศาสตร์ (อันหนึ่งรู้คุณช้าง อันหนึ่งรู้คุณม้า อันหนึ่งรู้คุณสีหะ จารึกวัดศรีชุมว่างั้น) ในช่วงวัยหนุ่ม พระศรีศรัทธาได้สู้รบกับขุนต่าง ๆ มากมาย จนสุดท้าย ได้ทำยุทธหัตถีกับขุนจัง แทนพ่อขุนรามคำแหง ได้รับชัยชนะอย่างสง่างาม ต่อมาพระศรีศรัทธาเห็นภัยในการครองเรือน ได้ทิ้งอาวุธ นำทรัพย์สมบัติออกบริจาคทาน และได้ยกพระธิดา และพระชายาให้แก่ผู้ที่มาขอ ได้เจริญรอยตามพระเวสสันดรโพธิสัตว์ เสด็จผนวชบวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาได้จาริกไปแสวงบุญที่เกาะลังกา หลังจากที่กลับจากการแสวงบุญที่เกาะลังกา ด้วยสมเด็จพระธรรมราชาลิไทย ตรัสให้บัณฑิตไปอาราธนานิมนต์กลับสู่กรุงสุโขทัยแล้ว ครูบาอาจารย์สายสุวรรณโคมคำ เล่าสืบมาว่า "สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ได้ผนวกเนื้อหาของพระอภิธรรมเข้าไว้ในคัมภีร์สุวรรณโคมคำ (ซึ่งท่านชำนาญอยู่แล้ว) จนครบสมบูรณ์ ซึ่งแต่เดิมนั้น คัมภีร์สุวรรณโคมคำมีเนื้อหาธรรมะครบถ้วนอยู่แล้ว แต่ด้วยผ่านกาลเวลามาช้านาน ทำให้หลักธรรมกร่อนไปเป็นอันมาก เหลือเพียงหลักการคำนวณ และคำพยากรณ์เท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่ศึกษาวิชาในคัมภีร์สุวรรณโคมคำ เพื่อให้สำเร็จในขั้นสูง จำเป็นต้องศึกษาธรรมะ และฝึกกสิณสมาธิควบคู่ไปด้วย" เมื่อบั้นปลายชีวิตของสมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด คือ วัดจุฬามณี จนกระทั่ง ละสังขารลาจากโลกนี้ไป รวมอายุได้ประมาณ ๘๓ ปี
    เชื่อกันว่า แม้พญาลิไทก็ได้รับการถ่ายทอดคัมภีร์นี้จากสมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ด้วยเช่นกัน ต่อมาในสมัยหลัง คัมภีร์นี้ตกทอดมาจนถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คงประกอบด้วยเหตุนี้ พระองค์ท่านจึงปรีชาสามารถกอบกู้เอกราชได้สำเร็จภายในเวลาอันสั้น และก่อนสวรรคต โปรดให้คนนำคัมภีร์สุวรรณโคมคำไปคืนไว้ที่เมืองสุวรรณโคมคำเดิม (ประเทศลาว)



    ข้าพเจ้ามาค้นหา คำว่า....ศรีชุม ใน Google (จากข้อมูลท่านหนุมาน ที่เพิ่งจะสื่อสารมา) ก็มาเจอ

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700><TBODY><TR><TD>[SIZE=+2]ความลับในจารึกวัดศรีชุม-ป่ามะม่วง…สิ่งที่นักประวัติศาสตร์ซึ่งไม่รู้ธรร[/SIZE] </TD></TR></TBODY></TABLE>




    <B><CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=10 width=700 bgColor=#853a7b><!"#853A7B"><TBODY><TR><TD width="100%" align=middle><CENTER><TABLE border=0 width="100%" bgColor=#bbddff><TBODY><TR><TD colSpan=2>เนื้อความ :
    ความลับในจารึกวัดศรีชุม-ป่ามะม่วง…สิ่งที่นักประวัติศาสตร์ซึ่งไม่รู้ธรรมมองข้าม
    </B>

    เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (๒ มี.ค.) ผมได้ไปพบคุณลุงชุบ โตจับ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้เคยรับใช้ใกล้ชิดท่านเจ้าคุณอ่ำ ธมฺมทตฺโต วัดโสมนัสวิหาร ซึ่งท่านเจ้าคุณนี้เองเป็นผู้ที่ได้อ่านกเบื้องจาร ที่ได้จากคูบัว และแหล่งอื่น ๆ จนกระทั่งเขียนเป็นหนังสือออกมาเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า “พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย” วันนั้น หลังจากสนทนากันได้พักใหญ่จนได้เวลาสมควรต้องลากลับ คุณลุงได้กรุณามอบหนังสือซึ่งเป็นของคุณลุงใช้ศึกษา เล่าเรียน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังบวชจนเป็นมหาชุบ ก่อน ที่จะลาสิกขาบทมาทำงานรถไฟ เพราะฉนั้นหนังสือแต่ละเล่มของคุณลุงจึงเก่ามาก จนบางเล่มผมไม่กล้าเปิด เพราะเนื้อกระดาษกรอบมากแล้ว แต่แล้วในกลางดึกซึ่งเข้าสู่วันใหม่แล้ว เพราะเป็นเวลาราวตีสามเศษของวันที่ ๓ มี.ค. ผมก็ต้องตื่นขึ้นมา เพื่อที่จะอ่านหนังสือ ๒-๓ เล่ม ที่ได้มานั้น ไม่ว่าจะเป็น พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ก็ดี ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาก็ดี และก็มาถึงเล่มนี้ “ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ ๑ จารึกกรุงสุโขทัย......................
    </B>
    .................................................
    </B>
    ..........แล้วพระคีวาธาตุจึงเสด็จเข้าในโกศทอง ฝูงพระธาตุ....จึงเข้ามาสู่พระเจดีย์ ดังผึ้งพา..เข้ามาสู่รังนั้นแล กูจึงลุกขึ้นอัญชุลี...ลองมา....มาพระศรีรัตนมหาธาตุเจ้ากู ลูกหนึ่งมีพรรณงามดังทองรัศมีเท่าลูกหมาก....เสด็จมาแต่กลางหาวลงมาฉวัดเฉวียนรอบตนท่านแลจึงเสด็จขึ้นอยู่เหนือหัว และพระรัตนธาตุจึงเสด็จมาอยู่กึ่งหน้าผาก พระศรีสรัธาราชจุลามุนีศรีรัตนลังกาทวีป จึงยอสองมือรับเอาและไหว้พระเกศธาตุ เส้นหนึ่งเลื่อมงามคว้างแต่บนสพัดเหนือหัวพระศรีสรัธาราชจุลามุนี ญีนศรัทธาน้ำตาถั่งตกหนักหนาบูชาทั้งตน อกเข่าซองทั้งหลายบ่มีว่าถีเลย ชาวสิงหลทั้งหลายเห็นอัศจรรย์ดังอันเขาจึงชันทอดตนไหว้สนนทพัดเบญจางค์นอนพกชัง ตีนพระศรีสรัธาราชจุลามุนี คนทั้งหลายไหว้............เต็มแผ่นดิน อุปมาดังเรียงท่อนอ้อยไว้มากดามดาสเต็มที่สถานนั้นแล เขาจึงขึ้นบังคม ลางคนว่าราชกุมารมหาสามีหน่อพุทธางจริงแลนะ เขาจึงเอาน้ำมาล้างตีนพระมหาสามีสุมเอาน้ำกิน ขุดเอาดินที่พระมหาสามีศรีสรัธาราชจุลามุนี เหยียบที่ใดย่อตีนที่นั้น ขุดเอาดินที่นั้นอันคันเอาไปไหว้บูชา รุ่งนั้นพระมหาธาตุสองลูกเรือง...ดังดาวคอยเสด็จไปกลางหาวก่อน พระศรีสรัธาราชจุลามุนี จึงข้ามน้ำคงคาไป.”

    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></B></B>



    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></B>

    และพบชื่อ....สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีศรีรัตนลงกาทีปมหาสวามี หรือ พระศรีศรัทธา ในจารึกวัดศรีชุม ด้วย
    ดังนั้นสรุปได้ว่า มีความเกี่ยวข้องกัน ทั้ง.....สุวรรณโคมคำ ทั้ง....จารึกวัดศรีชุม ทั้ง..... จารึก จ.พะเยา ที่กำลังจะได้รับจากทางเหนือ แน่นอน<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #962

    “ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ ๑ จารึกกรุงสุโขทัย
    ......................

    </B>
    ..........แล้ว พระคีวาธาตุ จึงเสด็จเข้าในโกศทอง ฝูงพระธาตุ....จึงเข้ามาสู่พระเจดีย์ ดังผึ้งพา..เข้ามาสู่รังนั้นแล กูจึงลุกขึ้นอัญชุลี...ลองมา....มา พระศรีรัตนมหาธาตุ เจ้ากู ลูกหนึ่งมีพรรณงามดังทองรัศมีเท่าลูกหมาก....เสด็จมาแต่กลางหาวลงมาฉวัดเฉวียนรอบตนท่านแลจึงเสด็จขึ้นอยู่เหนือหัว และ พระรัตนธาตุ จึงเสด็จมาอยู่กึ่งหน้าผาก พระศรีสรัธาราชจุลามุนีศรีรัตนลังกาทวีป จึงยอสองมือรับเอาและไหว้พระเกศธาตุ เส้นหนึ่งเลื่อมงามคว้างแต่บนสพัดเหนือหัวพระศรีสรัธาราชจุลามุนี ญีนศรัทธาน้ำตาถั่งตกหนักหนาบูชาทั้งตน อกเข่าซองทั้งหลายบ่มีว่าถีเลย ชาวสิงหลทั้งหลายเห็นอัศจรรย์ดังอันเขาจึงชันทอดตนไหว้สนนทพัดเบญจางค์นอนพกชัง ตีนพระศรีสรัธาราชจุลามุนี คนทั้งหลายไหว้............เต็มแผ่นดิน อุปมาดังเรียงท่อนอ้อยไว้มากดามดาสเต็มที่สถานนั้นแล เขาจึงขึ้นบังคม ลางคนว่าราชกุมารมหาสามีหน่อพุทธางจริงแลนะ เขาจึงเอาน้ำมาล้างตีนระมหาสามีสุมเอาน้ำกิน ขุดเอาดินที่พระมหาสามีศรีสรัธาราชจุลามุนี เหยียบที่ใดย่อตีนที่นั้น ขุดเอาดินที่นั้นอันคันเอาไปไหว้บูชา รุ่งนั้นพระมหาธาตุสองลูกเรือง...ดังดาวคอยเสด็จไปกลางหาวก่อน พระศรีสรัธาราชจุลามุนี จึงข้ามน้ำคงคาไป.”

    ______________________________________


    *** เล่าฝัน ****


    ก่อนออกเดินทาง พบเด็กชายตัวน้อยเดินมาคนเดียว ถือถุงเสื้อผ้าใบหนึ่งสีน้ำเงิน เพิ่งเข้ามาในเมือง
    เราถามว่าจะไปไหน เด็กน้อยบอกไม่มีที่ไป
    เราจึงชวนไปด้วยกัน ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น กินข้าวก้นบาตร จะไปไหม
    เด็กชายตัวน้อยตอบรับ จึงไปด้วยกัน



    เมื่อไปถึงริมฝั่งแม่น้ำหนึ่ง มีคลอง มีเพิงเล็กอยู่บนท้องร่อง
    มีเด็กผู้หญิงตัวน้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส มาต้อนรับ เราบอกจะขอนอนที่นี้ได้ไหม
    เด็กหญิงตัวน้อยยิ้ม บอกว่าจะไปขอหลวงปู่ให้...



    แล้วจึงนั่งบนเพิง กินมะขาม
    ทิ้งเศษ มะขาม ลง คลอง



    - " หนุมาน ผู้นำสาร "




    <!-- google_ad_section_end -->
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #958

    พลังงานภายในของท่าน ยังคงดูแลรักษาพระศาสนามาโดยตลอด

    พลังงานนี้...
    คือ พลังที่เกิดจากการกระทำ จากสัจจะ จากความตั้งใจจริง
    สมัยพุทธกาล....เรียกว่า "ตัวกระทำ"

    ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
    คือ แก่นสารของสัจจะธรรม<!-- google_ad_section_end -->

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    #1116

    [​IMG] [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    ไปทบทวน ล่องรอยโบราณอีกครั้ง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    แผนที่ปราสาทหิน โบราณสถานเก่าแก่นี้...
    ยังไม่ครอบคลุมถึง ในลาว ในเขมรอีกมาก

    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,819
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [​IMG]

    รูปนี้คล้ายไตเติ้ลหนังเรื่อง อโศกมหาราช มากเลยค่ะ

    ถ้าเขาคลังนอกเคยสวยขนาดนี้ คงเป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองมากแห่งหนึ่ง เนื้อหาของกระทู้น่าสนใจค่ะ​
     

แชร์หน้านี้

Loading...