อ่าน...เอาเรื่อง ..... ล่าสุด .....

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย แสงแข, 27 พฤษภาคม 2014.

  1. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    อ่านเอาเรื่อง ขอนำเสนอบทความที่ จขกท. อ่านแล้วต้องการเผยแพร่ให้ท่านสมาชิกได้อ่าน กระแสความคิดต่อสังคมปัจจุบัน บางบทความอาจเป็นที่ถูกใจหรืออาจไม่ถูกใจ แต่ได้อ่านแล้ว คิดแล้ว ว่าน่าจะเป็นมุมมองสะท้อนความคิดที่เจ้าของบทความได้ถ่ายทอดออกมา

    เราอาจได้ประโยชน์จากท่านเจ้าของบทความ ไม่มากก็น้อย ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของบทความทุกท่านที่ อ่านเอาเรื่อง คัดนำมาเสนอมาณที่นี้ด้วยค่ะ





    บนความเป็น "ผู้มีอำนาจเต็ม"

    เปลว สีเงิน
    Tuesday, 27 May, 2014 - 00:00



    บนความเป็น "ผู้มีอำนาจเต็ม"

    ------------------
    - ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของประเทศไทย
    - ความเจริญ-ก้าวหน้าของบ้านเมืองไทย
    - ความรักสามัคคี-อยู่ดี-กินดี-มีสุขของคนไทย
    - ความล่มสลายหรือล้มเหลวของสังคมชาติไทย


    นับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผู้บัญชาการทหารบก
    เป็น "หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ" ณ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗

    ด้วยศักดิ์และสิทธิ์แห่งความเป็น "ผู้มีอำนาจเต็ม" ในการบริหารประเทศ ภายใต้พระบรมราชโองการ นั้น

    ทั้งหลาย-ทั้งปวง นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป.......
    พลเอกประยุทธ์...ท่านไม่อยู่ในฐานะที่จะทำให้ชาวไทยในไทย และชาวไทยทั่วโลก "หัวใจสลาย" ด้วยผิดหวังในตัวท่าน!

    ในประชาธิปไตยโจรแฝง ไม่มีรัฐประหารครั้งไหนที่มวลมหาประชาชนคนไทยไม่ว่าข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ-พ่อค้า-ประชาชน จะยินดีปรีดา พร้อมใจส่งเสริมให้คณะท่านปฏิบัติการ

    แทบเป็น "เอกฉันท์" เท่าครั้งนี้!


    ขึ้นชื่อว่า "อำนาจ" จะเป็นอำนาจด้วยเผด็จการ หรืออำนาจด้วยประชาธิปไตย ไม่ใช่คำตอบว่าอำนาจนั้น...ดีหรือไม่ดี
    เพราะจะดี หรือไม่ดี คำตอบอยู่ที่ "เจตนา" บนการใช้อำนาจของผู้นั้นๆ ว่า เป็นไปเพื่อประโยชน์สุข และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

    หรือ...เป็นไปเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง โดยไม่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย!?
    วันนี้...ด้วยมวลมหาประชาชนเป็น "ธรรมในอำนาจ" ให้ท่าน ให้คณะ คสช.แล้ว ท่านและคณะจงทำความสะอาดให้ประเทศชาติบ้านเมือง และจัดระบบ-ระเบียบสังคมชาติให้เข้าที่-เข้าทางเถิด


    สิทธิมนุษยชนของใคร เสรีภาพของใคร จะถูกตีกรอบบ้าง ถูกลิดรอนไปบ้าง ให้ถือเสียว่า "เสียสละ" ให้กับส่วนรวมในระยะสั้นๆ

    ให้ คสช.เข้าทำหน้าที่ปัดกวาดได้สะดวก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ใช้สิทธิเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน ด้วยมาตรฐานสังคมสะอาด ประชาธิปไตยมาตรฐานในหนทางยาวข้างหน้าพร้อมๆ กัน

    อย่าเพิ่งเรียกร้อง จะเป็น-จะตาย แค่ไม่ได้พูด ไม่ได้พ่น ไม่ได้เขียน ก็จะลงแดงตายห่า อย่างที่นักวิชาการบางคนดัดจริตเรียกหา

    โปรดอย่าทำตัวเป็นที่น่าหมั่นไส้ของสังคมขนาดนั้นเลย!

    นักวิชาการบางคนนี่...เก่ง แต่แยกไม่ออกระหว่าง "ความเข้าใจ" โลกและสังคมเป็นจริง กับการท่องจำกากตำรามากางเป็นแผนที่ชีวิตของกิ้งก่า

    ดูซิ...ประชาธิปไตยทักษิณเป็นไง...?

    ร่ำๆ ชาติหวิดถูกขายเป็นสินค้า FTA ไทย-สหรัฐ เฉพาะข้าว ด้วยสิทธิเสรีภาพในการคอร์รัปชัน ภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตยโจรแฝง
    ฟาดไป ๕ แสนล้าน แถมข้าวหายอีก ๓ ล้านตัน ชาวนาฆ่าตัวตาย เพราะประชาธิปไตยชักดาบค่าจำนำข้าวไปอีกแสนกว่าล้าน

    แล้วดูซิ...เผด็จการ คสช.เป็นไง....?
    แค่ ๕ วัน....การแก้ปัญหางานแรก ชาวนากว่า ๘ แสนรายที่ถูกประชาธิปไตยโกงไปนานกว่า ๖ เดือน ได้รับเงินทันที-ทันใด ชาวนาหน้าใส แห่ป้ายขอบคุณเผด็จการ คสช.

    ตรงข้ามกับประชาธิปไตยทักษิณ ชาวนาแห่ป้ายตามหา...นังห่าจิกอยู่ไหน เอาข้าวไป แล้วเงินกูอยู่ไหน ทำไมไม่เอามาจ่ายให้พวกกูชาวนา?
    และด้วย "ศรัทธาและความเชื่อ" ระหว่างประชาธิปไตยทักษิณ กับเผด็จการ คสช.วันนี้....

    ข้าราชการขี้ฉ้อ-กังฉิน เลียตีนประจบอำนาจ กระเด็น-กระดอนไป คืนสัจธรรมเป็นที่ประจักษ์ "คนดีต้องอยู่ได้ คนจัญไรต้องพินาศสูญ"!

    ข้าราชการกระทรวงคลัง กระตือรือร้นร่วมมือผู้นำ คสช.หมุนกงล้อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
    สถาบันการเงินทุกแห่งบอก "จะเอาเท่าไหร่...บอกมา" ยินดีร่วม คสช.แก้ปัญหาให้สังคมชาติ
    หอการค้าไทยบอก "โรดแม็พ คสช." แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้แน่ เริ่มวันนี้..พรุ่งนี้ เม็ดเงิน ๓-๔ แสนล้าน จะไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ GDP ปีนี้มีโอกาสกลับมาโตที่ ๓% ได้

    ด้านส่งออก ยังไม่เห็นผลปีนี้ แต่จะออกดอก-ออกผลตอนต้นปีหน้า แต่ถึงอย่างไร ปีนี้ไม่ต่ำกว่า ๕% ได้ตามที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้แน่ ปีต่อไป ส่งออกจะกลับมาโตที่ ๑๐% ได้อีก

    หอการค้ายังให้ความเห็นที่ถูกใจผมมาก คือเขาบอกว่า.....
    "ต้องกวาดบ้านตัวเองก่อน หากทำตามใจต่างชาติมากไป บ้านเราก็ทำความสะอาดไม่เสร็จ เชื่อว่า คสช.ทราบปัญหาความเหลื่อมล้ำในด้านต่างๆ ดี จึงทำให้เกิดการปฏิรูปขึ้นทั้งภาคการเมือง ภาคราชการ เศรษฐกิจและการศึกษา"

    ท่านคงฟังคำแถลงพลเอกประยุทธ์เมื่อวานนี้ (๒๖ พ.ค.) ไปแล้ว หลังได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะ คสช.

    ถ้าสังเกตจะทราบว่า ในความเหมือนคนเจ้าอารมณ์ของพลเอกประยุทธ์ แต่จริงๆ แล้ว ท่านเป็นคนมีความอดทนต่อการยั่วยุสูง เหมือนจะร้าย แต่ลึกๆ เป็นคนใจดี อารมณ์สนุก และเมตตานักข่าวมาก

    จะยกตัวอย่างที่นักข่าว "ยิงคำถาม" ชนิด นัดเดียวตัดขั้วหัวใจ แต่หัวหน้า คสช.หลบและตอบโต้ฉับไวปานมาเวอริค มาให้ดู


    นักข่าว : จะมีนายกฯ หรือไม่ หรือท่านจะเป็นนายกฯ โดยควบตำแหน่งหัวหน้า คสช.ด้วย?
    พล.อ.ประยุทธ์ : ทำไมถามอย่างนี้ มันยังมาไม่ถึง
    นักข่าว : หลายคนอยากรู้
    พล.อ.ประยุทธ์ : มันอยู่ในแผนการอยู่แล้วนะ ใจเย็น จะมี มันต้องมี ยังไงมันต้องมี
    นักข่าว : หมายถึงว่า อย่างไรต้องมีนายกฯ ชั่วคราวขึ้นมา
    พล.อ.ประยุทธ์ : มันต้องมีนายกฯ
    นักข่าว : คือยังไง ต้องมีคณะรัฐมนตรี
    พล.อ.ประยุทธ์ : มีนายกฯ คนเดียว มันไม่มีคณะรัฐมนตรี มันจะเป็นไปได้ไหมล่ะ มันก็ต้องมีมั้ง ย้อนกลับไปดูเก่าๆ เค้าทำยังไง มันต้องมีแนวทางอยู่บ้างแล้วล่ะ บางอย่างก็มีอาจจะคล้ายคลึง บางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ชอบธรรม การใช้อำนาจต้องระมัดระวัง การมีอำนาจมาก ผมบอกไปแล้วว่า ยิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง อย่าคิดว่าตัวเองมีอำนาจแล้วจะทำได้ทุกอย่าง ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น
    นักข่าว : การตั้ง ครม.หรือนายกฯ จะมีภายในเร็วๆ นี้หรือไม่ เพราะจะได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานประเทศ
    พล.อ.ประยุทธ์ : วันนี้ก็ขับไป แต่หลายวันมาแล้ว ขับตั้งแต่ ๒๒ พ.ค. ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคณะทำมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว
    นักข่าว : หลังจากนี้จะมีการตั้งสภานิติบัญญัติ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เมื่อไร?
    พล.อ.ประยุทธ์ : พูดไปเมื่อกี้ ทำไมไม่ฟัง
    นักข่าว : ฟังแล้วครับ
    พล.อ.ประยุทธ์ : งั้นย้อนกลับไปอ่านคำถามแรก ตอบไปแล้ว
    นักข่าว : คือจะมีในเร็วๆ นี้ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใช่หรือไม่?
    พล.อ.ประยุทธ์ : ย้อนกลับไปดูคำตอบที่หนึ่ง
    นักข่าว : ท่านเป็นนายกฯ เอง เลยหรือไม่?
    พล.อ.ประยุทธ์ : มันอยู่ในขั้นตอน ยังไม่รู้ ก็รอดู ใจเย็น อยากเป็นเองไหมล่ะ อยากเป็นไหม พอแล้ว ขอบคุณครับ
    นักข่าว : จะใช้เวลาอีกเท่าไรจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง?
    พล.อ.ประยุทธ์ : จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ
    นักข่าว : ผบ.ตอบอย่างนี้ อาจเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ พล.อ.ประยุทธ์ : ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ผมไม่มีกำหนด ไม่กำหนด ต้องดูสถานการณ์ โดยเร็วที่สุด
    เนี่ย...ถ้าเป็นคนอื่น ถูกถามแบบนี้ อาจ "หลุด" ด้วยคุมอารมณ์ไม่อยู่ แต่พลเอกประยุทธ์ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน นักข่าวก็แบบนี้ และท่านก็แบบนี้ "น้ำพึ่งเรือ-เสือพึ่งป่าอัชฌาสัย" ก็เลยไปกันรอด
    ถ้าเป็นคนอื่น ไม่ใช่นักข่าว มีหวัง "เจอสวน" อย่างชัยเกษมแล้ว!

    ที่พลเอกประยุทธ์บอกให้ย้อนไปดูเก่าๆ เขาทำกันยังไงนั้น ผมอยากให้ไปดูสมัยจอมพลสฤษดิ์ ปฏิวัติครั้งแรก ๒๕๐๐ ไม่เป็นนายกฯ เอง ให้ "นายพจน์ สารสิน" เป็น ๙๐ วัน แล้วให้ "พลโทถนอม กิตติขจร" เป็นนายกฯ

    การเป็นหัวหน้าปฏิวัติ แต่ไม่เป็นนายกฯ เอง งานจึงไม่เข้าเป้า จอมพลสฤษดิ์ต้องยึดอำนาจรัฐบาลตัวเองในปี ๒๕๐๑

    เอาจอมพลถนอมลง แล้วบริหารประเทศเอง ตั้งแต่ตุลา ๐๑ ด้วยอำนาจ "หัวหน้าคณะปฏิวัติ" ประกอบด้วย บก-เรือ-อากาศ-ตำรวจ และพลเรือน เหมือน คสช.บริหารประเทศขณะนี้

    จนกระทั่ง ๙ กุมภา ๐๒ คืออีกประมาณ ๔ เดือนต่อมา จอมพลสฤษดิ์ถึงขึ้นเป็น "นายกรัฐมนตรี"

    ทำไมจอมพลสฤษดิ์จึงรอถึงกุมภา ถึงขึ้นเป็นนายกฯ...เท่าที่ผมดู เพราะปฏิวัติใหม่ๆ ไม่มีรัฐธรรมนูญปกครองประเทศ มีเพียงประกาศคณะปฏิวัติเป็นกฎหมายปกครองประเทศ

    เหมือนตอนนี้ ก็ยังไม่มีธรรมนูญการปกครอง ยังไม่มีสภานิติบัญญัติ มีแต่ประกาศ คสช.เป็นกฎหมายบริหาร

    จนกระทั่ง มีรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว ตอน ๒๘ ม.ค.๐๒ นั่นแหละ จอมพลสฤษดิ์จึงขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี มีรัฐบาล มีคณะรัฐมนตรีบริหารประเทศ แทนคณะปฏิวัติ!

    ฉะนั้น คำตอบว่า "พลเอกประยุทธ์จะขึ้นเป็นนายกฯ เองมั้ย จะมีรัฐบาล-มี ครม.เมื่อไหร่ อยู่นานแค่ไหน"
    "ย้อนกลับไปดูคำตอบที่หนึ่ง" นั่นแหละ!




    บนความเป็น "ผู้มีอำนาจเต็ม" | ไทยโพสต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กันยายน 2014
  2. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410

    ทหารคือประชาชน ประชาชนคือทหาร !!


    ขอวิเคราะห์สภาพต่างๆที่ปรากฎในระยะปัจจุบันให้เข้าใจโดยทั่วกัน

    วันนี้อำนาจรัฐเปลี่ยนมือจากระบอบทักษินมาอยู่ในมือของทหารและประชาชน ปรากฎการณ์ผีสันติภาพคือปรากฎการณ์ล้มล้างอำนาจรัฐที่เพิ่งเปลี่ยนมือมา ปรากฎการณ์ประทุษร้ายทหารด้วยการใช้สารพิษใส่้น้ำและอาหารคือปรากฎการ์ทำลายกองทัพและทหารไม่ต่างกับการใช้อาวุูธ จะดูเบาไม่ได้เป็นอันขาด

    สำรวจแนวรบแล้ว ทหารยังมีภาระอันหนัก -มาก ที่ต้องผนึกพลังกับประชาชน ไม่ใช่เป็นกลางนะ เป็นกลางเมื่อไหร่แพ้เมื่อนั้นเพราะจะโดดเดี่ยว

    ต้องผนึกพลังกับประชาชนแก้ไขปัญหาชาติ นี่คือธงการเมืองที่ต้องกุมให้มั่น

    ๑ แนวรบกับกองกำลัง ทหารมีข้อมูลแล้วอย่างแน่นอน คงกวาดล้างเฉียบขาดในฐานะกบฎก่อการร้าย ใครทำ ร่วม สนับสนุน มีความผิดที่ต้องขึ้นศาลทหารทั้งหมด

    ๒ แนวรบมวลชนที่จะออกมาในรูปแบบผีสันติภาพ ที่ทหารใช้ยุทธการสาวใยไหม และใช้กองหลอนปฏิบัติการเป็นหลัก ป้องปรามเป็นรอง ตัดเครือข่ายสื่อสารนัดหมายนั้นถูกต้อง และน่าจะใช้ความอดทนไปอีกระยะหนึง แต่แนวรบนี้ไม่สามารถล้มอำนาจรัฐได้ เพราะประชาชนจับตามองพร้อมหนุนช่วยทหารอยู่ทั่วประเทศ

    ๓ แนวรบ วงราชการรัฐวิสาหกิจ ที่มีการวางกำลังเครือข่ายนับสิบปี คงอาศัยเวลาขุดรากถอนโคนและการทำให้กลับตัว อาจเพิ่มมาตรการให้ครบกระบวน คือ ปลดออกจากราชการแต่ให้บำนาญ ย้ายไปเข้ากรุ ปลดจากตำแหน่งไม่ให้มีอำนาจ ตั้งข้าราชการของแผ่นดินเข้าแทนที่

    ๔ แนวรบต่างประเทศ ปมเงื่อนอยู่ที่เขายังลวงบางประเทศว่าเมื่อเลือกตั้งเขาจะกลับมาอีก และถ้ากลับมาโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ๒ ล้านล้านจะจัดให้ โครงการน้ำ ๓๕๐,๐๐๐ ล้านจะจัดให้ อะไรๆก็จะจัดให้ บางประเทศจึงยังโลภหลง จึงต้องเร่งกำจัดพลังนี้ และช่วงชิงพลังนี้มาใช้เอง รวมทั้งปรับดุลยภาพความสัมพันธ์กับมหาอำนาจและนานาชาติให้สมดุลย์เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ชาติ คนไทยทั่วโลกจะออกหน้าร่วมรบในแนวรบนี้ด้วย ทูตและกงศุลทั่วโลก และ กปปส ทั่วโลก และ กปปส ต่่างประเทศ ต้องเป็นกำลังรบในแนวรบนี้ด้วย

    ๕ แนวรบสื่อ ยังถูกยึดครองอยู่เหมือนเดิม เพียงปิดไว้ชั่วคราว ตัวสถานีทีวี สำนักพิมพ์ เป็นตัวฮาร์ดแวร์ คนเป็นซอร์พแวร์ จำแนกให้ชัดว่าศัตรูอยู่ที่ไหน ก็ยกซอร์ฟแวร์ออก เปลี่ยนซอร์พแวร์ของประชาชนแทน ดีกว่า่ไปปิดเยอะเลย ถ้าเข้าใจว่าอยู่ในสงครามก็จัดการง่าย ถ้าคิดว่าเล่นขายของก็เหนื่อยเรื่อยไป เพราะมันทำเนียนเก่ง บางแห่งยังได้เงินค่าโฆษณา ประชาสัมพันธ์หรือทำอีเว้นอยู่เลย ปล่อยไว้ทำไมจ๊ะ นี่มันเอาเงินแผ่นดินไปจ้างสื่อชั่วให้เป็นฝักฝ่ายบ่อนทำลายอย่างเลือดเย็นอยู่นะ

    ๖ ทำสงครามต้องทำลายกำลังข้าศึก ทำลายเสบียงอันเป็นพลังรบ
    กำลังข้าศึกอยู่ที่ไหนผมไม่รู้สู้ทหารไม่ได้ แต่เสบียงอยู่ที่ไหนนั้นบอกได้ว่าก็คือสมบัติชาติที่ถูกโกงไปไงละ จะปล่อยให้เป็นพลังรบของข้่าศึกหรือว่าจะตัดกำลังนี้ของข้าศึกแล้วยึดมาเป็นกำลังเอง ทำดีๆจะได้เงินมาใช้ในปีงบประมาณ ๕๘ นับล้านล้านบาทเชียวนะ ทำเป็นเล่นไป
    ถ้าคิดว่าเรียกไปรายงานตัวแล้วจะกลับตัวเด็ดขาดก็ฝันไปหน่อย จึงต้องมีทั้งมาตรการติดตามต่อและปฏิบัติการที่เฉียบขาดหากฝ่าฝืน ในขณะเดียวกันก็ต้องขยายงานมวลชน ประชาชน ให้กว้า่งขวางที่สุด เพราะมันมีสงครามแย่งมวลชนปนอยู่ด้วย

    ส่วนการบริหารราชการแผ่นดินก็เพิ่มก่อตัวเริ่มต้น "สิ่งที่พวกเราไม่ถนัด กำลังเผชิญหน้าเรา"


    Paisal Puechmongkol
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage
     
  3. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    สมเด็จพระญาณสังวรฯสมเด็จพระสังฆราช ทรงรับอาราธนาพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงอาราธนาให้ดำรงพระชนม์ อย่าเพิ่งละสังขารขอให้อยู่ช่วยพระเจ้าอยู่หัวก่อน

    ทรงตรากตรำพระวรกายและทรงสถิตย์ในอิทธิบาทวิหารเป็นเวลานาน จนถึงกาลที่สิ้นกังวลในพระราชหฤทัยแล้ว จึงทรงละสังขาร นั่นเพราะอะไร

    เหตุมีมาก็เพราะไอ้พวกสารเลวไปแก้กฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อจะชิงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช โดยไม่สำนึกว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งสำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเคยเป็นพระราชอำนาจมาแต่เดิม

    ใครคิดอ่านจะแก้ไขปัญหานี้โปรดไปปรึกษาท่านเจ้าคุณวัดยานนาวาเถิด



    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage
     
  4. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    พิเคราะห์จากผลการประชุม ๗ ฝ่าย ที่ว่าโครงการจำนำข้าวขาดทุนถึง ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ข้าวหาย ๓ ล้านตัน

    นับเป็นความฉิบหายวายวอดจากการโกงตลอดโครงการทุกขึ้นทุกตอนตามที่ ปปช ชี้มูลไว้ และดูจากการเรียกเครือข่ายขบวนโกงชาติไปรายงานตัวแล้ว

    คาดว่า กระบวนการอายัดทรัพย์-ยึดทรัพย์พวกโกงชาติและเรียกเอาค่าภาษี คงจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้


    พี่น้องเอ๊ยอย่าไปกดดันเรียกร้องมากนักเลย


    ผมดูกระบวนท่าที่กรีดกรายแล้ว เพลงรบชุดนี้จะไม่เหมือนกระบวนท่ายึดทรัพย์แบบยัดใส้ที่ทำมาหากินกันเหมือนครั้งก่อนๆแน่


    และคราวนี้อาจได้เห็นกระบวนการทางภาษีอากรที่ให้พิสูจน์การเสียภาษีเงินได้อันเป็นที่มาของทรัพย์สิน


    และอาจมีการเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งเบาะแสทรัพย์สินของพวกโกงชาติที่ซุกไว้ในชื่อคนอื่นด้วย


    ใจเย็นๆนะครับ อย่าไปกดดันเขาเลย





    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage
     
  5. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    รายงานการเมือง

    ไม่เหนือความคาดหมายที่ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” (คสช.) ที่นำโดย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. ปล่อยตัวบรรดาแกนนำ กปปส.เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 พ.ค. โดยใช้เหตุผลที่ต้องส่งแต่ละคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามที่มีคดีติดตัวพะรุงพะรังกันอยู่

    แต่ก็ต้องถือว่าหัวขบวนม็อบกำนันได้รับอิสรภาพเร็วเกินไป เพราะพิจารณาภาพกว้างแล้ว กปปส.ถือเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรง อีกทั้งมีส่วนสำคัญในการจุดชนวนความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ยิ่งเมื่อปล่อยตัวออกมาเร็ว ก็ย่อมทำให้อีกฟากฝั่ง “คนเสื้อแดง” รู้สึกว่า คสช.ว่าได้รับความไม่ยุติธรรม

    วาทกรรม “สองมาตรฐาน” ก็ถูกบ่นฮึมฮัมในที่ลับ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จนถึงเวลานี้ยังไม่มีใครรู้เป็นแน่ชัดว่า บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงถูกเก็บตัวอยู่ที่“ค่ายทหาร” แห่งใด

    ซึ่งเมื่อ คสช.เลือกปล่อยตัวแกนนำ กปปส.ก่อน ก็ต้องมีมาตรการรองรับ เพื่ออธิบายกับ “คนเสื้อแดง” ไม่ให้นำไปเป็นประเด็น เปิดแผลมาด่า-ต่อว่า คสช.ได้ เพราะชั่วโมงนี้ต้องไม่ลืมว่า “แรงต้าน” ยังมีอยู่ประปรายทิ้งเป็น “หัวเชื้อ” ให้จุดประเด็นได้ทุกเมื่อ

    ประเมินแล้วบรรดาหัวโจกคนเสื้อแดง ไล่ตั้งแต่ “จตุพร พรหมพันธ์” ประธาน นปช. “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” เลขาธิการ นปช. “วีระกานต์ มุสิกพงษ์” หรือ “ก่อแก้ว พิกุลทอง” ส่อแววต้องถูกจองจำนอนในค่ายทหารไปอีกพักใหญ่

    เพราะรู้ดีว่าหากตัดสินใจปล่อยคนเหล่านี้ออกมาเพ่นพ่าน ก็สุ่มเสี่ยงเข้าแนวปล่อยเสือเข้าป่า ไม่นานก็จะกลับมาแว้งกัดได้ โดยเฉพาะเมื่อมีความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มต่อต้านรัฐประหาร” ที่จัดกิจกรรมตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมา ในลักษณะเลี้ยงกระแสเอาไว้

    โดยแม้ภาพที่ปรากฎผ่านสื่อดูเหมือน “กลุ่มต่อต้านรัฐประหาร” มีพลังและแนวร่วมพอสมควร เพราะมีทั้งผู้ที่ต่อต้านการรัฐประหารอย่างจริงจัง และพวกที่ผสมโรงปั่นกระแส หรือที่ถูกขนานนามว่า “แดงชุบแป้งทอด” จำแลงตัวมาร่วมด้วย แต่ยังขาดการจัดการบริหารการชุมนุมให้เป็นระบบ เพราะไม่มีใครกล้าขึ้นมาเป็นแกนนำ

    คนทำม็อบมืออาชีพรู้ดีว่า เมื่อมีมวลชน บวกกับการบริหารจัดการที่ดี ใช้คนระดับ “แม่เหล็ก” เข้ามาร่วมด้วย มีสิทธิที่จะขยายตัวสร้างความหนักใจให้ คสช.ได้ แม้จะอยู่ในช่วง “กฎอัยการศึก” ซึ่งทหารมีอำนาจเต็มก็ตาม เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดก็สุ่มเสี่ยงอีกว่า จะเกิดภาพความรุนแรง หรือทหารทำร้ายประชาชน

    เข้าทางของฝ่ายต่อต้านรัฐประหารและคนเสื้อแดง

    ทางที่ดีที่สุดคือควบคุมตัว “แกนนำคนเสื้อแดง” ระดับแม่เหล็กให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ และอาจจะนานเป็นเดือน

    อย่าลืมว่าความผิดพลาดหนึ่งของ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ภายหลังเสร็จศึกเมษา-พฤษภา 2553 สามารถกักตัว “หัวโจกแดง” ได้หลายเดือน แต่สุดท้ายแล้วก่อนการเลือกตั้ง เพียงไม่กี่เดือน “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ตัดสินใจปล่อย “เสือ” เข้าป่า ปล่อย “แกนนำคนเสื้อแดง” ให้ออกมาช่วงหาเสียงพรรคเพื่อไทย

    ด้วยการไปอะลุ่มอล่วยไม่คัดค้านการประกันตัว ทั้งที่มีเสียงทักท้วงมาแล้วว่าอาจจะเป็นอุปสรรคได้ เมื่อ “พี่มาร์ค” ตัดสินใจปล่อยตัว “แกนนำคนเสื้อแดง” ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ “แพ้” การเลือกตั้ง

    บทเรียนตรงนี้ “บิ๊กตู่” รู้ดี ยิ่งสถานการณ์ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีทางที่ “บิ๊กตู่” จะยอมใจอ่อน-อ่อนใจ ปล่อย “แกนนำคนเสื้อแดง” เป็นอันขาด

    และดูเหมือน “บิ๊กตู่” จะมีท่าทีแข็งกร้าวกับทุกกลุ่ม-ทุกคน ที่ยังมีแนวคิด-ความคิด ที่จะออกมาต่อต้าน “รัฐประหาร” ด้วยการสั่งติดตามความเคลื่อนไหว “สื่อมวลชน” ทุกสื่ออย่างไม่ลดละสายตา

    กรณี “ประวิตร โรจนพฤกษ์” ผู้สื่อข่าวสังกัดกองบรรณาธิการเดอะเนชั่น แม้จะเป็นความเห็นของ “สื่อ” แค่คนเดียว คสช.ก็ไม่อาจจะละเว้นได้ เพราะเกรงว่าไฟจะลามทุ่ง

    จุดติดขึ้นมาเดี๋ยวจะยุ่ง

    และที่แจ๊คพอร์ตแตกไม่แพ้ใครเพื่อนหนีไม่พ้น “แทนคุณ จิตร์อิสระ” ที่ออกมาทำตัวเป็นพระเอกต่อต้าน “รัฐประหาร” ไม่ทันข้ามคืน โดน คสช.เรียกเข้ามาติวเข้มทันที ไม่ปล่อยทิ้งเชื้อเอาไว้ให้รอฝักไข่กันเลย

    “บิ๊กตู่” พูดชัดเจนว่า “สื่อต้องไม่ขยายความขัดแย้ง facebook ที่มีคนคอมเม้นทะเลาะกัน จะสั่งปิด ส่วนสื่อให้อยู่นิ่งถึงเวลาสมาคมนักข่าวฯ ก็ช่วยไม่ได้”

    น้ำเสียง “บิ๊กตู่” แข็งกร้าวเอาจริง นาทีนี้หากมี “สื่อมวลชน” หัวหน้าไหน-ฉบับไหน-ช่องไหน กล้าแหลมต่อต้าน “รัฐประหาร” มีหวังโดนปิดแน่นอน

    ส่วนรายชื่อบุคคลที่ “คสช.” เรียกรายงานตัว หากใครเปรี้ยวผิดนัด “คสช.” มีหวังโดนเล่นงานหนัก เหมือนกรณีของ “จาตุรนต์ ฉายแสง - จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” แม้จะเคยเรืองอำนาจมากมายแค่ไหน แต่อย่าลืมว่ายุคนี้ “ทหาร” ครองเมือง

    มาตรการขั้นแรก “จาตุรนต์-จารุพงศ์” โดนอายัดธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด หมดสิทธิช่วยพรรคพวกเครือข่ายแดงเคลื่อนไหวแน่นอน โดยเฉพาะ “จาตุรนต์” ที่มีความสนิทชิดเชื้อกับ “แดงวิชาการ” หลายคน เพราะเคยทำงานในการป้องป้อง “เพื่อไทย” ด้วยกันมาตลอด

    หนำซ้ำ “จาตุรนต์-จารุพงศ์” ยังต้องโดน “คสช.” เล่นงานต่อในข้อหาที่หนักขึ้น แถมยังเล่นงานในชั้นของ “ศาลทหาร” ซึ่งเป็น “ศาลเดียว” ตัดสินทีเดียวจบ ไม่มีอุทธรณ์-ไม่มีฎีกา ให้เสียเวลา

    เส้นทางชีวิต “จาตุรนต์-จารุพงศ์” ในทางการเมืองคงจบไปแล้ว ส่วนเส้นทางชีวิตคงเสียวสันหลังน่าดู

    หลังจากนี้ต้องจับตาว่า คสช.จะสกัดขบวนการที่เคลื่อนไหวท้าทายอำนาจอย่างไร เพราะหากปล่อยให้ขบวนการขวางชาติยังมีลมหายใจอยู่ในแผ่นดินไทย มีหวังสักวันหนึ่งต้องกลับเข้าสู่วังวนเดิม

    ภารกิจหลักของ “บิ๊กตู่” ที่ต้องล้างสีเสื้อ-ปฏิรูปบ้านเมือง เพื่อนับหนึ่งกันใหม่ทั้งหมด แล้วก้าวเดินไปพร้อมๆกัน โดยเริ่มจากปฏิบัติการกรอกยาแรง “หัวโจกแดง” ทั้งหลาย หวังสะกดพวกที่ซ่าไม่เลิกให้รู้ว่าบ้านเมืองนี้ใครคุม


    ��áԨ��Һ�������� ��͡���ç �᡹��ᴧ� - Politics - Manager Online
     
  6. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    4 hours ago ·

    ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย

    วันหนึ่งในขณะที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชกำลังประทานประกาศนียบัตรแก่เด็กนักเรียนในโบสถ์

    ก็มีประกาศตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช อ้างว่าพระองค์ท่านประชวร

    นี่คือการแย่งตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชของนักการเมืองเพื่อประโยชน์พวกพ้อง

    พวกนี้ชั่วมากมันทำเพื่อทำร้ายจิตใจคนไทยทั้งชาติ มุ่งหวังถึงขนาดว่าจะเปลี่ยนพระสังฆราชใหม่ด้วยอำนาจการเมือง

    เพราะอดีตนายกคนหนึ่ง ได้ตั้งแท่นแก้กฎหมายคณะสงฆ์รอไว้แล้วว่าถ้าสมเด็จพระสังฆราชมีอันเป็น ด้วยอำนาจการเมืองก็จะบังคับเอาตามกฎหมายที่แก้ไหม่ชิงตำแหน่งได้

    แต่เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราชพระองค์นี้ทรงบรรลุธรรมขั้นสูง มีอินทรีย์สังวร ศีลสังวรและถึงซึ่งญาณสังวร ผู้คนนับถือมากจึงต่อต้านนักการเมืองที่ทำผิดคิดร้ายนั้น จึงไม่กล้าปลดพระองค์ท่านและคาราซังมานานปี


    ลุถึงปีหนึ่งจำ พศ.ไม่ได้ สมเด็จพระสังฆราชประชวร มีพระอาการมาก มีข่าวว่าใกล้สิ้นพระชนม์ และคณะแพทย์น่าจะถวายรายงานเช่นนั้น

    จากนั้นวันหนึ่งยามบ่ายพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า และพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ได้เสด็จเยี่ยมที่โรงพยาบาลจุฬา เสร็จแล้วทุกพระองค์ก็จะเสด็จกลับ

    แต่พระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเข้าไปที่ประทับนอนของสมเด็จพระสังฆราชอีกครั้งหนึ่ง

    ทรงนั่งข้างเตียงสมเด็จพระสังฆราช พระหัตถ์จับเข่าสมเด็จพระสังฆราช ทรงเขย่าเบาๆแล้วตรัสว่า "พระอาจารย์ พระอาจารย์ พระอาจารย์ ยาที่ไหนดีหม่อมฉันหามาถวายหมดแล้ว หมอที่ไหนดีหม่อมฉันหามารักษาหมดแล้ว ต่อไปนี้กราบทูลพระอาจารย์รักษาพระองค์ด้วย หม่อมฉันขออาราธนาอย่าเพิ่งละสังขาร ขอให้อยู่ช่วยหม่อมฉันก่อน"


    พระอาการดีขึ้นโดยลำดับ พ้นขีดอันตรายและเมื่อทรงฟื้น ทรงเล่าให้นายมนตรี ตัณฑวิรัตน์ อดีตรองเลขาธิการสภาผู้แทนซึ่งเป็นเลขานุการด้านต่างประเทศของพระองค์ท่านฟังว่า
    ในวันนั้นพระสติแทบไม่เหลืออยู่แล้ว แต่เมื่อพระเจ้าอยู่หัวเขย่าที่เข่า พระสติก็มีกำลังขึ้นได้ยินพระสุรเสียงและความที่ทรงตรัสก็สงสาร

    จึงกำหนดพระสติมั่นและเข้าฌานแล้วกระทำอธิษฐานจิตในฌาน(ในปฐมฌานหรือทุติยฌาน สามารถใช้อุปจารสมาธิกระทำอธิษฐานได้)
    ว่าทรงรับอาราธนาพระเจ้าอยู่หัว จะทรงดำรงสังขารอยู่ต่อไปจนกว่าจะสิ้นเหตุปัจจัยที่ทรงอาราธนา

    ทรงเล่าต่อว่าจากนั้นพระองค์ก็เจริญอิทธิบาทสี่ตามที่พระบรมศาสดาทรงสอนไว้ ปรารภอายุสังขารให้ดำรงอยู่ตามเหตุปัจจัยนั้น พระอาการก็ฟื้นดีขึ้น


    ทรงดำรงสังขารมานานหลายปีและระหว่างนั้นก็ยังทรงปฏิบัติหน้าที่ในวาระสำคัญต่างๆแม้การเสด็จมาวัดบวรเพื่อลงปาฏิโมกข์ด้วย

    จนกระทั่งวันหนึ่ง หลวงตามหาบัวได้ขึ้นมาเยี่ยม ทั้งสององค์นั่งจับมือกันแต่ไม่ได้พูดอะไรกัน

    หลวงตาได้เล่าให้ศิษย์ฟังในเวลาต่อมาว่าสมเด็จพระสังฆราชทรงปรารภให้ฟังในฌานว่าใกล้เวลาที่จะทรงละสังขารแล้ว

    เพราะเหตุปัจจัยอันหนักพระราชหฤทัยใกล้สิ้นลงแล้ว ศิษย์ทั้งหลายไม่ทราบความหมาย

    วันหนึ่งศิษย์หลวงตาก็มาเล่าความนี้

    ผมจึงพอคาดได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

    ต่อมาหลวงตาป่วยหนัก พระเจ้าอยู่หัวโปรดให้ทางศิริราชรับขึ้นมารักษาที่ศิริราช

    พออาการดีขึ้นหน่อยหลวงตาก็ขอกลับวัด แล้วบอกคณะศิษย์ว่าหลวงตาป่วยคราวนี้ไม่ต้องรักษาเพราะถึงเวลาจะดับขันธ์แล้ว

    หลวงตาว่าท่านและสมเด็จพระสังฆราชดำรงขันธ์อยู่ก็เพื่อสนองพระคุณค้ำจุนพระชาตาพระเจ้าอยู่หัว บัดนี้เมฆหมอกหมดแล้ว หลวงตาจะดับก่อน

    อีกไม่นานสมเด็จพระสังฆราชก็จะทรงเสด็จตาม ไม่กี่วันหลวงตาก็ดับขันธ์

    สมเด็จพระสังฆราชยังทรงดำรงอายุสังขารต่อมาจนถึงกาลฉลองพระชนมายุ ๑๐๐ ปี
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ สิ้นบุญลง

    ผมได้เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ในเวลานั้นว่า

    ในขณะนั้นแม้พระอาการจะยังปกติตามวัยอยู่ก็ตามที แต่ผมวิตกว่าใกล้เวลาที่สมเด็จพระสังฆราชจะจากพวกเราไปแล้ว หลังจากนั้นไม่กี่วันก็สิ้นพระชนม์ ตั้งพระศพที่วัดบวร
    และเคยแว่วว่ารัฐบาลนางยิ่งลักษณ์เคยเตรียมการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงมาทีหนึ่งแล้ว แต่ได้เลื่อนไปไม่มีกำหนด

    ก็เป็นธรรมดางานนี้ใครไม่มีบุญมากพอไม่มีโอกาสใด้ร่วมงานพระราชทานเพลิงพระศพดอก

    กาลบัดนี้ผู้มีบุญปรากฎเงาให้เห็นแล้ว การเตรียมการพระราชพิธีก็คงจะเริ่มแล้ว คนทั้งหลายก็จะได้มีโอกาสร่วมงานครั้งสำคัญนี้

    ก็อย่าลืมชำเลืองดูกฎหมายคณะสงฆ์นะครับว่าจะถวายคืนพระราชอำนาจไหม



    Paisal Puechmongkol
    https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage?fref=photo
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 พฤษภาคม 2014
  7. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    Paisal Puechmongkol
    2 ชั่วโมงที่แล้ว


    ปฏิวัติทำไม?
    โดย สิริอัญญา
    วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2557



    เมื่อประเทศไทยถึงทางตัน เพราะพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งหลาย คำนึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตน โกงบ้านกินเมือง เข่นฆ่าสังหารประชาชน และก่อกรรมทำชั่วทุกรูปแบบ

    ก็ย่อมต้องมีทางออก นั่นคือเมื่อไม่สามารถหาทางออกตามปกติได้ ก็ต้องใช้ทางออกที่ไม่ปกติ


    คณะ คสช. ได้ประกาศยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.00 น.

    ปิดฉากรัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ นับเป็นการยึดอำนาจครั้งที่ 13

    เป็นโอกาสอันดีที่ทหารจะได้ทำหน้าที่สำคัญ คือการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้สมบูรณ์ ให้เป็นจริง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามอย่างแท้จริง อันเป็นการไถ่บาปที่สร้างประชาธิปไตยไม่แล้วเสร็จ กลายเป็นประชาธิปไตยแบบครึ่งผีครึ่งเปรต และทำร้ายบ้านเมืองต่อเนื่องมาถึง 80 ปีแล้ว


    นักประชาธิปไตยแต่ปากที่เอาแต่โกงกิน และไม่ทำประโยชน์ใดแก่บ้านเมืองหุบปากได้แล้ว

    เวลาของบรรดาซ่องโจรและมหาโจรทั้งหลายหมดไปแล้ว และควรต้องรับผิดชดใช้บาปกรรมออกนอกวงการเมืองไปให้ไกล ไปให้นานชั่วชีวิตจะดีกว่า อย่าคิดกลับมาหลอกหลอนทำร้ายบ้านเมืองอีกต่อไปเลย

    ฝ่ายทหารยึดอำนาจการปกครองได้ไม่ถึงสามวัน

    ก็มีนักประชาธิปไตยเฟ้อหรือประชาธิปไตยไร้เดียงสา หรือประชาธิปไตยที่มีวาระซ่อนเร้น กระหายใคร่ไปเลือกตั้ง กระหายได้ดำรงตำแหน่งในระบบการเลือกตั้งแบบเส็งเคร็ง ก็เริ่มโผล่หน้าออกมาเรียกร้องว่า คสช. ไม่ควรอยู่ในอำนาจนานเกินไป อย่างมากปีหรือปีครึ่งก็พอแล้ว

    นี่คือเสียงปีศาจที่ต้องการคืนอำนาจให้แก่ระบอบทักษิณโดยการอาศัยเลือกตั้งฟอกตัว เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2551 และเป็นผลทำให้ประเทศไทยต้องจมปลักอย่างยาวนานจนกระทั่งฝ่ายทหารต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง

    คนไทยจะต้องสรุปบทเรียนให้ได้ว่า ระบอบทักษิณได้ฝังหยั่งรากลึกทั้งในระบบราชการ ทั้งในส่วนกลาง ทั้งในส่วนภูมิภาค ตลอดจนรัฐวิสาหกิจทั้งหลาย

    แม้กระทั่งระบบเศรษฐกิจทั้งประเทศก็ครอบงำและควบคุมจนเป็นข้าทาสที่โงหัวไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่ถอนรากถอนโคนออกไปให้สิ้นแล้ว ขืนเลือกตั้งแบบเส็งเคร็งดังที่เป็นอยู่


    ผลแท้จริงก็คือการคืนอำนาจให้กับระบอบทักษิณกลับมายึดประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง และอาจไม่มีโอกาสแก้ไขดังที่ คสช. ได้เข้ามาแก้ไขอีกต่อไปแล้ว

    ดังนั้นจึงไม่พึงให้เสียงปีศาจเหล่านี้มาทำให้ไขว้เขว

    ยกเลิกภารกิจอันสำคัญที่สุดในการปฏิวัติ แล้วไปหลงอยู่กับเวลาที่จะคืนอำนาจให้กับระบอบทักษิณเป็นอันขาด จะต้องยึดมั่นในภารกิจอันสำคัญของการปฏิวัติครั้งนี้ให้มั่นคง

    ตราบใดที่ภารกิจยังไม่ลุล่วงสำเร็จอย่างสมบูรณ์

    ตราบนั้นต้องไม่มีการเลือกตั้ง และเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ต้องเป็นการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

    แล้วภารกิจอะไรเล่าที่ต้องทำให้มีการปฏิวัติในครั้งนี้? ก็อาจสรุปได้เป็นสองภารกิจสำคัญคือ


    ภารกิจแรก การโค่นล้มและถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณให้สิ้นแผ่นดินไทย

    ต้นไม้พิษ ผลไม้พิษ และรากพิษทั้งหลาย จะต้องรื้อถอนเพื่อทำให้การเมืองการปกครองของประเทศกลับสู่ความถูกต้องและเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามอย่างแท้จริง


    ภารกิจที่สอง คือการกอบกู้ฟื้นฟูชาติให้กลับคืนสู่ความเป็นปกติสุข และความรุ่งเรืองไพบูลย์

    ภารกิจทั้งสองนี้คือภารกิจที่ คสช. จะต้องแบกรับและทำให้สำเร็จ เช่นเดียวกับการทำสงครามที่ต้องมีแต่ชนะเท่านั้น หากไม่สำเร็จหรือปราชัยก็จะส่งผลร้ายแรงถึงขนาดสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์


    ณ เวลาบัดนี้ คสช. ได้ควบคุมสถานการณ์ทั่วทั้งประเทศ ให้กลับคืนสู่ความเป็นปกติสุขโดยพื้นฐานแล้ว ยังต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าจะบรรลุความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ แต่ในขณะเดียวกัน ภารกิจในการบริหารราชการแผ่นดินก็เร่งรัดให้ต้องจัดการโดยไว


    สภาพการณ์จึงเป็นเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่กองทัพปลดแอกประชาชนจีนได้รับชัยชนะในขอบเขตทั่วประเทศ กองทัพปลดแอกประชาชนจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้แยกส่วนปฏิบัติการที่สำคัญเพื่อบรรลุภารกิจในการปฏิวัติเป็นสองส่วน คือ


    ส่วนแรก พรรคคอมมิวนิสต์และกองทัพปลดแอกประชาชนจีนยังคงดำรงอยู่และทำหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ในการทำให้ประเทศชาติกลับสู่ความเป็นปกติสุขอันเป็นรากฐานแห่งการพัฒนาทั้งปวง โดยเหมาเจ๋อตุงดำรงตำแหน่งทั้งประธานพรรคและประธานคณะกรรมการการทหาร ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน


    ส่วนที่สอง การจัดตั้งรัฐบาลประชาชนและสภาประชาชน เพื่อทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ ซึ่งในระยะแรกอำนาจเด็ดขาดก็ยังคงดำรงอยู่ที่เหมาเจ๋อตุง โดยมีรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลเป็นผู้นำ


    นั่นคือการแบ่งภาคส่วนอย่างเป็นทางการที่รับรู้กันทั่วโลก แต่อีกส่วนหนึ่งซึ่งอยู่นอกระบบและไม่เป็นทางการก็คือ สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนและแนวร่วมหลายสิบล้านคนที่เป็นกำลังของการปฏิวัติและของรัฐบาล


    การปฏิวัติไม่ใช่การเย็บปักถักร้อย หรือเป็นเด็กเล่นขายของ จะต้องไม่เสียเปล่า เพราะมันเป็นการสงครามครั้งประวัติศาสตร์ที่ต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้น แพ้ไม่ได้ หากแพ้ก็สิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์!




    [​IMG]

    บทความใน นสพ.แนวหน้า เรื่อง "ปฏิวัติทำไม?" 27 พ.ค.2557
     
  8. The Shadow

    The Shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +1,732
    เชียร์กันจังนะครับ เด่วเงาสลิดปรากฎทาบทับร่างประยุทแล้วจะรู้สึก
     
  9. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ประสงค์พูด
    ประสงค์ สุ่นสิริ

    [​IMG]

    วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้ (1)

    การประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรของฝ่ายทหาร ตั้งแต่ตอนดึกของคืนวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น เป็นสัญญาณที่บอกให้ทุกคนรู้ว่า “วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้” เพราะ “เมื่อวานนี้” และวันอื่นๆที่ผ่านมานานนับปีๆนั้น บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพที่วุ่นวายและเดือดร้อนอย่างสุดๆจากการกระทำที่บ้าระห่ำในอำนาจของพวกสมุนบริวารทั้งหลายในระบอบทักษิณ ดังทราบกันดีทุกคน


    เป็นการเข้ามาใช้อำนาจ ในการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายทหารได้อย่างถูกต้องเต็มที่ของฝ่ายทหาร ตามมาตรการต่างๆที่ให้ไว้ในพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นกับบ้านเมืองต่อไปอย่างมีกฎมีเกณฑ์ และมีประสิทธิภาพในการควบคุมความบ้าระห่ำในการใช้อำนาจของพวกในระบอบทักษิณ มิให้มีต่อไปอีก


    เพราะฉะนั้น “วันนี้จึงต้องดีกว่าเมื่อวานนี้”

    และ “วันพรุ่งนี้” ก็จะต้องดีขึ้นไปอีกนั่นเอง

    พูดมาถึงตรงนี้แล้วทำให้นึกถึงคำพูดของ “จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์” ที่ได้พูดปราศรัยแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2505 โดยมีเนื้อหาใจความดังต่อไปนี้

    “พี่น้องร่วมชาติร่วมประเทศที่รักทั้งหลาย”

    ณ บัดนี้ ถึงวารดิถีขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2504 กำลังจะผ่านพ้นไป และพุทธศักราช 2505 กำลังจะมาถึง ระยะปีหนึ่งๆย่อมมีกำหนดแน่นอนสม่ำเสมอตามปฏิทินและฤดูกาล แต่ความสั้นยาวของเวลาไม่เหมือนกัน สำหรับคนทุกคน ผู้ที่ยังอยู่ในวัยเด็กและหนุ่มสาว อาจจะรู้สึกว่าแต่ละปีมีระยะยาว แต่สำหรับผู้ที่ต้องรับผิดชอบในชีวิตและการงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องรับภาระในงานของชาติเช่นข้าพเจ้า ย่อมจะรู้สึกว่าเวลาหนึ่งปีสั้นนิดเดียว ทุกท่านที่กำลังสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตนเองและประเทศชาติ ก็คงจะมีความรู้สึกอย่างเดียวกันว่า วันเวลาล่วงไปเร็วเหมือนมีปีกบิน


    ทางปรัชญาสอนให้เราทำใจว่า วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้ และวันพรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้ ข้าพเจ้าก็ยึดหลักปรัชญาข้อนี้ และพยายามทำใจไว้ว่าในปี 2505 เราจะดีกว่าปี 2504 การทำใจเช่นนี้ ได้กลายเป็นปณิธานความปรารถนาและเป็นพรที่ข้าพเจ้าจะให้แก่พี่น้องร่วมชาติร่วมประเทศที่รักทั้งหลาย จากดวงใจอันบริสุทธิ์ของข้าพเจ้าว่าขอให้โชคชะตาของเราในปีพุทธศักราช 2505 ดีกว่าเมื่อปี 2504


    แต่เราก็จะต้องทำความพยายามให้ได้ผลจริงจังอย่างที่เราทำใจหรือมุ่งมาดปรารถนาเอาไว้ คือเราต้องตั้งความมุ่งหมายสำหรับชีวิตของตนเองและของประเทศชาติ ว่าเราจะต้องทำอะไรในปี 2505 นี้ ให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าที่ทำมาแล้วในปี 2504 หรือปีก่อนๆมา โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับงานของรัฐและการบำรุงความผาสุกของประชาชนนั้น ข้าพเจ้าได้เคยบรรยายมาหลายครั้งหลายหนในโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคำปราศรัยของข้าพเจ้าเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบสามปีแห่งการปฏิวัติ และก็จะต้องบรรยายอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันครบรอบสามปีแห่งอายุของรัฐบาลนี้


    งานนี้ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมงานทั้งหลายได้พยายามทำมา นับตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2501 นั้น เรียกว่างานปฏิวัติ ซึ่งได้ทำโดยมีแผน มีวิธีการ และแผนปฏิวัตินั้นถ้าจะกล่าวอย่างย่นย่อที่สุด ก็มีสองแผน คือแผนเศรษฐกิจ และแผนการเมือง สำหรับแผนเศรษฐกิจนั้นก็แยกออกไปเป็นสอง คือ เศรษฐกิจของรัฐ และ เศรษฐกิจของประชาชน ส่วนแผนการเมืองก็มีสองแผนเหมือนกัน คือ แผนการเมืองภายใน และแผนการเมืองภายนอก


    ในเรื่องเศรษฐกิจของรัฐ ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นและใคร่ที่จะกล่าวยืนยันว่า เราได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สำหรับความพยายามที่ทำมาในระหว่าง 3 ปี ข้าพเจ้าขอสารภาพความจริงข้อหนึ่งว่า เมื่อทำการปฏิวัติมาแล้วสองเดือนครึ่งคือเมื่อจวนสิ้นปี 2501 ข้าพเจ้าได้รับรายงานว่า ดุลการค้าขาดทุนถึง 1,790 ล้านบาท และขาดทุนจำนวนมากมาตลอดเวลา 5 ปี ข้าพเจ้าก็คิดว่าเป็นกรรมของข้าพเจ้าที่มารับภาระงานของประเทศชาติในยุคสมัยที่ฐานะการเงินและการคลังยากลำบากที่สุด แต่อีกใจหนึ่งข้าพเจ้าก็คิดว่า ถ้าข้าพเจ้าไม่สนองคุณประเทศชาติในยามนี้ ข้าพเจ้าจะไปสนองในยามไหน แทนที่จะคิดว่าเป็นกรรม ข้าพเจ้าควรจะเห็นเป็นโชคดีที่ได้มารับประเทศชาติในยามคับขัน และข้าพเจ้าจะต้องมุมานะต่อไปด้วยความพากเพียรพยายาม ดำเนินงานอย่างรอบคอบระมัดระวังด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา ด้วยความร่วมมือของผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนร่วมงานที่มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันในอันที่จะกอบกู้เศรษฐกิจของรัฐ


    ในชั่วเวลา 3 ปีเราได้แก้ไขดุลการค้าจากการขาดทุนเกือบสองพันล้านบาท กลับมามีกำไรเป็นบางเดือนในปี 2504 และถ้าปลายปีนี้จะขาดทุนบ้าง ก็จะเป็นจำนวนเงินไม่มากนัก เราได้แก้ฐานะเงินคงคลังจากการเป็นลูกหนี้ธนาคารชาติราว 1,500 ล้านบาท ให้กลับเป็นเจ้าหนี้ธนาคารชาติราว 960 ล้านบาท เราได้แก้ไขฐานะดุลการชำระเงินให้กลับมามีกำไรราว 1,400 ล้านบาท เราได้เพิ่มทุนสำรองบรรดาที่เป็นทองคำและเงินตราต่างประเทศ จาก 304 ล้านดอลล่าร์เมื่อก่อนการปฎิวัติ ให้เป็น 407 ล้านดอลล่าร์ในเวลานี้

    เรื่องเหล่านี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ในทางเศรษฐกิจของรัฐนั้น รัฐบาลนี้แก้ไขได้สำเร็จ


    (อ่านต่อวันอังคาร)

    น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
    แนวหน้า - วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้ (1)
     
  10. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ประสงค์พูด
    ประสงค์ สุ่นสิริ

    [​IMG]


    วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้ (2)

    เมื่อตอนที่แล้วได้นำคำกล่าวของ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในวันขึ้นปีใหม่ 2505 มาลงให้ทราบ ถึงการทำงานแก้ปัญหาชาติหลังจากได้ทำการปฏิวัติมา 3 ปี โดยเฉพาะในปัญหาเศรษฐกิจภาครัฐ ซึ่งได้แก้ไขให้พื้นขึ้นมาได้ด้วยความพากเพียรพยายามของผู้ร่วมงานที่มีประสบการณ์ ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภาคประชาชนในลำดับถัดมานั้น จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กล่าวไว้ให้ทราบดังต่อไปนี้


    “ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการเศรษฐกิจของประชาชน ซึ่งหมายถึงการครองชีพ และการยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรนั้น แม้ข้าพเจ้าจะเชื่อใจว่าได้ทำสิ่งที่ดีมากขึ้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ยังไม่อาจจะกล่าวได้ว่าประสบผลสำเร็จ เพราะเรื่องเศรษฐกิจของประชาชนนี้ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามแผนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มผลผลิต เพิ่มทางคมนาคม เพิ่มชลประทาน การสาธารณสุข การพัฒนาท้องถิ่นและอื่นๆอีกหลายเรื่อง และการปฏิบัติตามแผนเศรษฐกิจนี้ก็เพิ่งดำเนินการมาเพียงปีเดียว ข้าพเจ้าได้เคยกล่าวมาเมื่อปี กลายนี้ว่า จะได้กวดขันการปฏิบัติงานตามแผนเศรษฐกิจให้ลุล่วงไปเป็นผลดีที่สุด ซึ่งข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอันนี้ โดยตั้งผู้ตรวจสอบผลการปฏิบัติตามแผนเศรษฐกิจ และผู้ตรวจสอบที่แต่งตั้งนั้นก็กำลังดำเนินงานตรวจสอบอยู่อย่างละเอียด ว่าเจ้าหน้าที่ทุกกระทรวงทบวงกรมได้ปฏิบัติงานใดไปแล้วเพียงใด จะได้หาโอกาสแถลงให้ทราบในโอกาสหลัง ซึ่งข้าพเจ้ามั่นใจว่า เมื่อการปฏิบัติการสมบูรณ์แล้ว เศรษฐกิจของประชาชนจะดีขึ้นจริงๆ



    คราวนี้เรามาพูดถึงปัญหาเรื่องการเมือง สำหรับการเมืองภายในประเทศนั้น ความสำคัญอยู่ที่เรื่องสร้างเสริมเสถียรภาพ กวาดล้างความระส่ำระสาย สร้างความสามัคคีกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในชาติ พี่น้องทั้งหลายคงระลึกได้ว่า ความยุ่งยากระส่ำระสายได้มีมากเพียงใดเมื่อก่อนการปฏิวัติ และการปฏิวัติได้ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยได้เพียงใด งานของชาติได้รับความร่วมมือจากคนทุกฝ่าย มีผู้รู้ผู้สามารถ มีมันสมองดีที่สุดของชาติ ได้เข้ามาร่วมมือกันอยู่ในรูปของสภา เช่น สภาร่างรัฐธรรมนูญ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาการศึกษาแห่งชาติ และสภาวิจัยแห่งชาติ ไม่เคยมีในสมัยใดที่คนดีของชาติจะได้เข้ามาร่วมมือกันทำงานให้แก่ชาติเหมือนครั้งนี้ โดยไม่มีการแตกแยกแบ่งพรรคแบ่งพวก อันนี้ถือว่าเป็นเสถียรภาพที่คณะปฎิวัติและรัฐบาลปฏิวัติได้สร้างขึ้นเป็นผลสำเร็จ


    แต่ต้องไม่ลืมว่าการเมืองภายในนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองภายนอกอยู่เป็นอันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ขณะนี้มีลัทธิบ่อนทำลายกำลังแพร่หลายเรื่องจารกรรม วินาศกรรม ตลอดถึงการใส่ร้าย ประทุษร้ายกัน เรื่องการเมืองภายในและการเมืองภายนอก จึงมักเกี่ยวข้องกันอยู่เสมอ เหตุการณ์ภายในประเทศจึงมีการจับกุมคนเป็นจำนวนมาก และต้องโทษอย่างรุนแรงไปบ้างแล้ว ก็เนื่องมาจากการเมืองภายนอกนี่เอง



    ข้าพเจ้าพยายามสร้างสรรค์เสถียรภาพแห่งการเมืองภายนอก เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าพยายามสร้างสรรค์เสถียรภาพแห่งการเมืองภายใน และในการสร้างสรรค์เสถียรภาพการเมืองภายนอกนั้นเป็นงานที่ยากมาก เพราะเราไม่สามารถจะสร้างเองได้โดยลำพัง อะไรจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา ภยันตรายจากภายนอกอาจจะมีขึ้นได้โดยเราไม่ได้ทำผิดอะไรเลย หากแต่เป็นการจงใจคิดร้ายของประเทศหรือบุคคลที่มุ่งร้ายต่อเรา ฉะนั้น ภาระของเราเกี่ยวกับการเมืองภายนอก จึงเป็นการที่ต้องระมัดระวังอยู่ทุกวิถีทาง และทุกลมหายใจ นโยบายการเมืองต่างประเทศมีอยู่อย่างเดียวคือ การปกป้องรักษาความปลอดภัย ผลประโยชน์ และเกียรติศักดิ์ของประเทศชาติ


    การป้องกันรักษาเหล่านี้จะต้องอาศัยสติปัญญาความรอบคอบ จะต้องใช้กำลังกาย กำลังความคิด และในที่สุดเราจะต้องใช้จนถึงเลือดเนื้อและชีวิตของเราเอง ซึ่งเหตุการณ์จากภายนอกได้บีบรัดตัวเข้ามาทุกที


    สงครามเย็นได้เปลี่ยนสภาพเป็นสงครามร้อนไปทีละน้อย แม้ในดินแดนที่ไม่ห่างไกลจากประเทศเรา ข้าพเจ้าไม่พยายามทำนายว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่ไหน แต่ข้าพเจ้าเตรียมพร้อมรับอยู่เสมอ ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เราจะทำอย่างไร


    ขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็พยายามอย่างเต็มความสามารถ ที่จะกระชับสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศทั้งหลาย ที่มีความตั้งใจดีต่อเรา และด้วยความพยายามอันนี้ เราจึงได้ประสบความสำเร็จในบางเรื่อง เช่นปัญหาเงินเยนพิเศษ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะใช้คืนเรา เป็นจำนวนคิดเป็นเงินไทยราว 570 ล้านบาท ข้าพเจ้าขอถือเอาเงินจำนวนนี้ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องทั้งหลาย เพราะเงินจำนวนนี้จะได้มาใช้สำหรับพัฒนาประเทศเพื่อความเป็นอยู่อันดีของพี่น้องทั้งมวล ”


    นำคำกล่าวของ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่มีต่อประชาชนคนไทยในวันขึ้นปีใหม่ 2505 มาให้ได้รับทราบกันอีกครั้งหนึ่งนั้น ก็เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารบ้านเมือง และการแก้ไขปัญหาของชาติ หรือผู้มีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาความยุ่งยากวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้ ได้ตระหนักถึงการทำงานด้วยจิตสำนึกของคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ดังเช่น จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งแม้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างของการทำงานแก้ไขปัญหาชาติของผู้นำที่มาจากการปฏิวัตินั้น ทุกคนทราบดีว่า เป็นอย่างไรในการชำระสะสางสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น



    แนวหน้า - วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้ (2)
     
  11. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    คนบันเทิง ร่วมให้กำลังใจทหาร


    [​IMG]

    คนบันเทิงร่วมส่งใจพร้อมมอบดอกไม้ อาหาร เครื่องดื่มสนับสนุนทหารออกปฏิบัติหน้าที่ หลัง คสช. ประกาศยึดอำนาจ ชม “แอนนา ชวนชื่น”...สวดยวดไปเลยลวกเพี้ย...

    ได้รับแรงสนับสนุนและกำลังใจเป็นขนม-น้ำดื่ม ฯ จากประชาชนส่วนใหญ่ไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับบรรดาเหล่าทหารทั้งหลายที่ได้ออกมาปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆ ภายหลังการประกาศกฎอัยการศึกก่อนยึดอำนาจเพื่อแก้ปัญหาทางการเมืองของ “คสช.” โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา

    โดยหนึ่งในนั้นก็คือเหล่าบรรดาคนในแวดวงบันเทิงทั้งหลายที่นอกจากจะพากันโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นด้วยแล้วบางส่วนยังได้ออกไปมอบอาหาร ขนม ดอกไม้ ฯ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทหารที่ทำหน้าที่เหล่านี้ด้วย อาทิ หมอก้อง, ท็อป ดารณี, ครูลิลลี่, ต่าย เพ็ญพักตร์ ฯ

    รวมถึง ตลกชื่อดังเจ้าของวลี “ถั่วต้ม” อย่าง “แอนนา ชวนชื่น” (เอนก อินทะจันทร์) ซึ่งก็ได้มีผู้มาแสดงความเห็นชื่นชมด้วยสำเนียงมุกประโยคสุดฮิตของตลกดังคนนี้ที่ว่า...สวดยวดไปเลยลวกเพี้ย...




    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]

    ���ѹ�ԧ���������ѧ㨷��� - Entertainment - Manager Online
     
  12. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    งามหน้า! สื่อมะกันชี้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มีเอี่ยวทำ “มิเชล” เตรียมฟ้องหย่า “โอบามา”

    ���˹��! �����Сѹ��� �����ѡɳ� �Թ�ѵÔ �������Ƿ� ����Ŕ �������ͧ���� ��ͺ��Ҕ - Around the World - Manager Online

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2557 16:38 น.


    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – นิตยสาร เนชันแนล เอ็นไควเรอร์ (National Enquirer) ซึ่งเป็นสื่อซุบซิบชื่อดังของอเมริกา ตีแผ่รายงานพิเศษที่ระบุว่า มิเชล โอบามา สตรีหมายเลขหนึ่งสหรัฐฯ สั่งทีมนักสืบเตรียมเอกสารสำหรับฟ้องหย่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา ทันทีที่อำลาตำแหน่งในปี 2017 เนื่องจากรับไม่ได้ที่สามีแสดงพฤติกรรมก้อร่อก้อติกกับผู้หญิงอื่นถึง 12 คน และหนึ่งในนั้นก็คือ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย

    เนชันแนล เอ็นไควเรอร์ ฉบับใหม่ซึ่งจะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ เปิดเผยรายชื่อสตรี 12 คนที่เคยตกเป็นข่าวกิ๊กกั๊กกับผู้นำสหรัฐฯ โดยบุคคลแรกที่ถูกอ้างถึงคือ “แคโรไลน์ เคนเนดี” บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ซึ่งประกาศหนุนหลัง โอบามา อย่างออกหน้าออกตา เมื่อครั้งที่เขาลงสมัครเป็นผู้แทนพรรคเดโมแครตลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี เมื่อปี 2008

    ปัจจุบัน เคนเนดี ได้รับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงโตเกียว

    นิตยสารฉบับนี้อ้างว่า มิเชล โกรธเป็นฟืนเป็นไฟและกล่าวหาว่า เคนเนดี สร้างความอับอายให้กับเธอ ระหว่างที่ผู้นำสหรัฐฯเดินทางเยือนญี่ปุ่นในเดือนเมษายนโดยไม่มีภรรยาติดตามไปด้วย

    สตรีผู้มีชื่อเสียงอีกคนที่ตกเป็นข่าวกับ โอบามา ก็คือ “เฮลเล ธอร์นิง ชมิดต์” นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเดนมาร์ก ต้นตอของข่าวนี้มาจากภาพที่ โอบามา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับ ชมิดต์ อย่างสนิทสนม โดยมี มิเชล นั่งทำสีหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างๆ ระหว่างพิธีรำลึกการจากไปของประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา ณ สนามกีฬาเอฟเอ็นบีในเมืองโซเวโต สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว


    [​IMG]

    เมื่อไม่นานนี้ ปาปารัสซีชาวฝรั่งเศส ปาสคาล รอสเตน ได้จุดกระแสข่าวความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่าง โอบามา กับนักร้องสาวซูเปอร์สตาร์ “บียอนเซ” ทั้งที่ฝ่ายหญิงก็มีสามีอย่างหนุ่ม เจย์-ซี เป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว มิหนำซ้ำ บียอนเซ และ เจย์-ซี ยังสนิทสนมกับครอบครัวโอบามา และเคยได้รับเชิญไปร่วมงานฉลองวันเกิดปีที่ 50 ของ มิเชล เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วย

    เนชันแนล เอ็นไควเรอร์ เปิดโปงต่ออีกว่า มิเชล โอบามา ถึงกับโมโหสุดขีดเมื่อเห็นภาพถ่ายประธานาธิบดีสหรัฐฯ “จ้องตา” หวานเยิ้มกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ทำเนียบรัฐบาลในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2012

    สตรีหมายเลขหนึ่งสหรัฐฯยังต้องเจ็บช้ำน้ำใจเมื่อทราบว่า โอบามา ยังไม่เลิกติดต่อ เมแกน ฮิวจ์ส เพื่อนนักเรียนหญิงที่เคยออกเดตกับเขาตอนอายุ 17 ปี เพื่อนสนิทของ ฮิวจ์ส อ้างว่าผู้นำสหรัฐฯ ยังแอบติดต่อกับแฟนเก่าลับหลังภรรยาอยู่เสมอ และถึงขั้นส่งหนังสือบันทึกความทรงจำ Audacity of Hope ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2006 ไปให้เธอ พร้อมเขียนข้อความส่วนตัวและเซ็นชื่อกำกับว่า “บารัค”

    แหล่งข่าวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เผยกับ เนชันแนล เอ็นไควเรอร์ ด้วยว่า เอกสารฟ้องหย่าของ มิเชล ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้สารเสพติดของ โอบามา ซึ่งเจ้าตัวก็เคยยอมรับผ่านสื่อมาแล้วว่าเคยสูบทั้ง “กัญชา” และ “โคเคน” สมัยเรียนไฮสกูล
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  13. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    Paisal Puechmongkol
    49 นาทีที่แล้ว


    ทำดีคนช่วยมาก

    ทนายสหรัฐวอนทูตสหรัฐแคร์รี่อย่ายุ่งเรื่องไทย

    ทนายความของบริษัทชื่อดังในสหรัฐชี้รัฐประหารเป็นประโยชน์ต่อคนไทยเชื่อกองทัพจะคืนอำนาจให้เมื่อถึงเวลา


    โจเซฟ ครีทซ์ ที่ปรึกษาทางกฎหมายจาก “ครีทซ์ แอนด์ เซเรบิน” บริษัทกฎหมายชื่อดังแห่ง ซานฟรานซิสโก ได้ส่งจดหมายถึง จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า ในฐานะของพลเมืองสหรัฐผู้มีสิทธิในการเลือกตั้ง และมีความสัมพันธ์ทางครอบครัวและเศรษฐกิจกับประเทศไทยอย่างเหนียวแน่น ขอเรียกร้องให้ แคร์รีหยุดแทรกแซงกับสถานการณ์ทางการเมืองในไทย


    ครีทซ์ ได้อ้างกฎหมายของสหรัฐ มาตรา 22 USC 8422(b)(iii) ที่ระบุถึงการระงับความช่วยเหลือทางการทหารแก่ประเทศที่ทหารโค่นล้มอำนาจรัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี ครีทซ์ แสดงทัศนะว่า กฎหมายดังกล่าวไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในไทยเพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของไทยได้ถูกปลดออกไปแล้วก่อนหน้าที่จะเกิดการรัฐประหาร


    ที่ปรึกษาทางกฎหมายผู้นี้ยังแสดงทัศนะว่า การทำรัฐประหารจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย ทั้งคนจนและคนรวย คนเมืองและคนชนบท

    และย้ำว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนเลวร้าย หากสหรัฐยังคงสนับสนุนทักษิณต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งประเทศได้

    “เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัว รวมถึงพรรคเพื่อไทย ขาดการสนับสนุนจากคนไทยแล้ว สหรัฐควรตระหนักว่า ทักษิณ เป็นขโมย นักการเมืองที่เห็นแก่ได้ ซื้อเสียง ฆาตกร และเป็นผู้มีอิทธิพลที่ใจแคบ นี่ไม่ใช่การพูดเกินจริงและหากทางสหรัฐยังคงเข้าข้างกลุ่มที่สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ จะเป็นการทำให้คนไทยซึ่งนิยมชมชอบสหรัฐ อาจหันมาต่อต้านและเกลียดชังแทน”

    ครีทซ์ ระบุในจดหมาย พร้อมย้ำว่า การกระทำของแคร์รีครั้งนี้จะก่อให้เกิดผลเสียต่อสหรัฐ

    จดหมายระบุต่อไว้ว่าสหรัฐต้องไม่เข้าแทรกแซงกิจการภายในออกประเทศไทย และเชื่อว่าในท้ายที่สุด กองทัพจะคืนอำนาจให้กับประชาชนเองเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม


    “แคร์รี และ คริสตีย์ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย จะต้องหยุดการวิจารณ์การเมืองไทย และปล่อยให้ประเทศไทยจัดการกับปัญหาของตนเอง นอกจากนี้ ไม่ว่าสหรัฐจะเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วกองทัพไทยจะคืนอำนาจให้กับพลเรือนเอง แต่ต้องรอให้ถึงสถานการณ์และเวลาที่เหมาะสมเสียก่อน ไม่ใช่การบงการจากสหรัฐ”


    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage
     
  14. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    วันนี้กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงยินดีร่วมมือกับประเทศไทยต่อไป ไม่สนใจเรื่องภายในของประเทศไทย คือไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทย ซึ่งเป็นการยืนยันท่าทีเดิมจากที่ได้แถลงเมื่อตอนประกาศกฎอัยการศึกไปแล้ว

    มีรายงานข่าวเบื้องลึกว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง อาจมีแถลงการณ์สำคัญในทันทีหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกด้วย

    อนึ่งเมื่อวานนี้พลเอกประยุทธ์ ได้ประกาศนโยบายเดินหน้ารถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงต่อไป

    นำมาซึ่งความยินดีแก่ประเทศต่างๆทั่วโลก แต่การเดินหน้าโครงการนี้คาดว่าจะทำตามระบบปกติ ไม่ทำแบบโกงชาติเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน

    ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและความสบายใจแก่ประเทศที่จะมาลงทุน เพราะไม่ต้องเสียงติดตะรางในประเทศของตนฐานสนับการคอรัปชั่นด้วย


    การประกาศนโยบายดังกล่าวทำให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์มีพลังอำนาจต่อรองต่อนานาชาติ และปลดพลังต่อรองของระบอบทักษินลงอย่างสิ้นเชิง



    คุณไพศาล พืชมงคล
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage
     
  15. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    บทพิสูจน์"เผด็จการ-ประชาธิปไตย" | ไทยโพสต์

    เปลว สีเงิน
    Wednesday, 28 May, 2014 - 00:00


    บทพิสูจน์"เผด็จการ-ประชาธิปไตย"

    เมื่อ "การเมืองแก้ด้วยการเมือง" ไม่สำเร็จ ก็ถึงคราว "การเมืองแก้ด้วยการทหาร" ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ๓ ด่าน.........


    ๑.สามารถสร้างศรัทธา-ความเชื่อให้กับสังคมชาติได้หรือไม่?
    ๒.ได้รับความร่วมมือจากองค์กรนำ "ภาครัฐ-ภาคเอกชน" หรือไม่?
    ๓.คสช. "สัจจะ-จริงใจ-ทำประจักษ์" ตามแถลงการณ์ "ควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ" เมื่อ ๒๒ พ.ค.๕๗ ได้เสมอต้น-เสมอปลายหรือไม่?

    วันนี้ ๒๘ พฤษภา ๕๗ ก็ครบ ๗ วัน ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำเหล่าทัพเข้าควบคุมอำนาจประเทศ ซึ่งพอจะตอบได้ในชั้นต้นนี้ว่า

    ด่านที่ ๑....ผ่าน
    ด่านที่ ๒....ผ่าน
    ด่านที่ ๓....ยังอยู่ระหว่าง "เส้นทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน"!

    ด่านที่ ๑ ที่ว่าผ่าน เป็นรูปธรรมชัดเจนว่า การนำทหารเข้าแก้การเมืองครั้งนี้ มีเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นเปอร์เซ็นต์สูง
    แม้กับคนที่ยึดหลักการ "ไม่เอาปฏิวัติ-รัฐประหาร" เมื่อเจอประชาธิปไตยคลุมหนังโจรระบอบทักษิณ ทั้งที่ไม่ต้องการ ก็ไม่เห็นทางอื่นแก้ได้ นอกจากใช้ "การทหาร"
    เข้าตัดวงจรสักระยะหนึ่ง!

    ไม่ต้องดูอะไรมาก "ทุกข์ชาวนาคือทุกข์แผ่นดิน" รัฐบาลระบอบทักษิณ แทนที่จะใช้ประชาธิปไตย "แก้ทุกข์-สร้างสุข" ให้ชาวนา

    ตรงกันข้าม กลับสร้างทุกข์ให้ชาวนาและแผ่นดินแสนสาหัส อันไม่เคยปรากฏมาก่อน นับตั้งแต่ยุคสุโขทัย ยันยุครัตนโกสินทร์

    โดยรัฐบาลประชาธิปไตยระบอบทักษิณ ใช้ชาวนาเป็นหุ่นเชิดบังหน้า ตั้งงบมหาศาลอ้างว่าช่วยเหลือ แต่เนื้อแท้ ฉ้อฉลเงินค่าข้าวไปกว่า ๕ แสนล้าน!

    แล้วใคร-หน้าไหนล่ะ.....?
    จะมาแก้ทุกข์ให้แผ่นดิน แก้รัฐบาลที่ใช้ประชาธิปไตยบังหน้าโกงชาติ-โกงประชาชน

    นอกจาก "กำนันสุเทพ" พร้อมมวลมหาประชาชน กปปส.-คปท.-กองทัพธรรม-หลวงปู่พุทธอิสระ-สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่ "ปวงชนชาวไทย" ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติ
    เข้าพิทักษ์ชาติ พระพุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ จากรัฐบาลโจรแฝงประชาธิปไตย ชี้ปัญหา-นำทาง แก้ทุกข์ประเทศ
    แล้วไหนล่ะ....?

    นักประชาธิปไตยคนไหน...นักวิชาการคนไหน...นักการเมืองกลุ่มไหน-คณะไหน และองค์กรอำนาจไหน จะหาญแบกรับทุกข์แผ่นดิน ด้วยโดดเข้ามา "แก้ปัญหาชาวนาถูกโกง" ด้วยฉากประชาธิปไตย จากไอ้คนระยำ?

    ครึ่งปีกว่า หน้าไหนก็แก้ "ทุกข์แผ่นดิน" ไม่ได้ แต่พอคสช.เข้ามา ๓ วัน "ทุกข์สิ้น-แผ่นดินเป็นสุข" ทันที!

    ชาวนาหอบผัก หอบหญ้า ตามประสามี ยิ้มแข่งตะวันพากันแห่แหนเข้ามาขอบอก-ขอบใจ มอบตอบแทนน้ำใจทหาร
    ไม่ใช่ทหารเก่ง หากแต่ทหาร "จริงใจ" ในการแก้ไขทุกข์แผ่นดิน ผลที่ คสช.ได้รับฉับพลันก็คือ
    "ศรัทธาและความเชื่อ" จากประชาชน เริ่มแต่ระดับรากหญ้า เมื่อชาวนาหัวร่อและเป็นสุข ดูเหมือนคนทุกข์ในทุกระดับก็พลอยจะชื่นตามไปด้วย


    ก็ถึงจุดที่ต้องคิดและทบทวนกันว่า ใช่หรือ...ที่สรุปว่า "ประชาธิปไตยดี-เผด็จการไม่ดี"?

    เหมือนคนตะวันออกบอกว่า "กินข้าวสิ ร่างกายจึงจะเติบโต"
    แต่คนตะวันตกบอกว่า "กินขนมปังสิ ร่างกายจึงจะเติบโต"

    แท้จริงคือ ร่างกายคนตะวันออก-ตะวันตก ไม่ได้เติบโตเพราะข้าวหรือเพราะขนมปัง ซึ่งเป็นเพียงรูปลักษณ์อาหารตามวัฒนธรรมการกินในแต่ละถิ่นที่เท่านั้น

    หากแต่แร่ธาตุ "คาร์โบไฮเดรต" จากแป้งและน้ำตาลในข้าว-ในขนมปังตะหากที่ "ให้พลังงาน" แห่งการเติบโตร่างกาย ทั้งคนตะวันออกและตะวันตก
    ประชาธิปไตยหรือเผด็จการ ก็เช่นนั้น...!
    ไม่ใช่ระบบ-ระบอบปกครองไหนดี ไหนไม่ดี ความเป็นธรรมที่สร้างสุขเสมอภาคตามฐานานุรูปแก่มวลมนุษย์ตะหาก จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความป่าเถื่อน หรือความศิวิไลซ์ ในมนุษย์แต่ละสังคมชาติ

    เมื่อวาน ผมอ่านเว็บ "โพสต์ทูเดย์" เขาลงข่าวว่า นายโจเซฟ ครีทซ์ ที่ปรึกษากฎหมายบริษัท “ครีทซ์ แอนด์ เซเรบิน” ที่ซานฟรานซิสโก ส่งจดหมายถึง จอห์น แคร์รี รมต.ต่างประเทศสหรัฐ ที่แถลงการณ์หยาบคายต่อไทย กรณีคสช.เข้าควบคุมอำนาจประเทศ

    ตอนหนึ่งในจดหมายนายครีทซ์ ความว่า....

    "การทำรัฐประหารจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย ทั้งคนจนและคนรวย คนเมืองและคนชนบท อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนเลวร้าย หากสหรัฐยังคงสนับสนุนทักษิณต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งประเทศได้
    เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว รวมถึงพรรคเพื่อไทย ขาดการสนับสนุนจากคนไทยแล้ว สหรัฐควรตระหนักว่า ทักษิณ เป็นขโมย นักการเมืองที่เห็นแก่ได้ ซื้อเสียง ฆาตกร และเป็นผู้มีอิทธิพลที่ใจแคบ
    นี่ไม่ใช่การพูดเกินจริง และหากทางสหรัฐยังคงเข้าข้างกลุ่มที่สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ จะเป็นการทำให้คนไทยซึ่งนิยมชมชอบสหรัฐ อาจหันมาต่อต้านและเกลียดชังแทน”

    ในจดหมายยังระบุด้วยว่า...

    "สหรัฐต้องไม่เข้าแทรกแซงกิจการภายในออกประเทศไทย และเชื่อว่าในท้ายที่สุด กองทัพจะคืนอำนาจให้กับประชาชนเอง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม"
    จดหมายของนายครีทซ์นี้ ผมถือเป็น "คำตอบ " ประเด็น "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" ในเคสการเมืองประเทศไทยได้ "ตรงตามจริง" มากที่สุด

    ก็มาถึงด่านที่ ๒ ได้รับความร่วมมือจากองค์กรนำ "ภาครัฐ-ภาคเอกชน" หรือไม่? ในภาครัฐ ผมสังเกตว่า ทุกองคาพยพระบบราชการ

    บาน...เหมือน "บัวเบิกอรุณ"!
    ในภาคเอกชน กลไกวงจรเศรษฐกิจ "ราษฎร์ร่วมรัฐ" ทุกอย่างเร่งรุดแบบมีจุดหมายภายใต้โรดแม็พ เรียกว่า "ร่วมมือ-ร่วมใจ" กันเต็มแรง

    ๗ องค์กรภาคธุรกิจ.....
    สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย, สภาธุรกิจท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สภาธุรกิจตลาดทุนไทย, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย
    "เทศักยภาพแห่งมันสมอง" ทำแผนงานสนองทิศทาง " ฟื้นฟู ๗ ด้าน" พร้อมมอบให้ คสช.นำไปใช้ได้เลย!
    หรือผู้นำ คสช.จะเรียกตัว ๗ แกนนำองค์กรไปช่วยกันแบกล้อประเทศให้เคลื่อนแบบไหน อย่างไร
    บอกเมื่อไหร่...เขาพร้อม "ด้วยเต็มใจ" ไปเมื่อนั้น นี่..เท่าที่ผมสังเกตเห็น!

    ก็มาถึงด่านที่ ๓.....

    "คสช.สัจจะ-จริงใจ-ทำประจักษ์ ตามแถลงการณ์เข้าควบคุมอำนาจประเทศหรือไม่?"

    นี่...ยังสรุปผ่าน "ลำไม้ไผ่" ที่ตั้งลำได้ ๕-๗ วัน ว่าจะกลายหรือไม่กลายเป็น "บ้องกัญชา" ยังไม่ได้ คงต้องใช้หลัก "เส้นทางพิสูจน์ม้า-กาลเวลาพิสูจน์คน" เป็นตัวชี้ขาด

    เมื่อวาน (๒๗ พ.ค.) ลำไม้ไผ่ "แตกตา" ออกมาเป็น "คณะที่ปรึกษา คสช." ถึง ๑๐ ตาด้วยกัน ก็น่าใช้เป็นตัวประเมิน "เส้นทางและกาลเวลา" ได้ระดับหนึ่งมิใช่หรือ

    ๑.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธาน
    ๒.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองประธาน
    ๓.ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองประธาน
    ๔.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา
    ๕.นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษา
    ๖.นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา
    ๗.นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ที่ปรึกษา
    ๘.พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ ที่ปรึกษา
    ๙.พล.อ.นภดล อินทปัญญา ที่ปรึกษา
    ๑๐.พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษา และเลขานุการ

    ดูแล้วก็...ประมาณ "สินค้าแอนทีค" ที่เคยผ่านมาจาก ๓ แหล่ง คือ เหล่าทัพ, รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ,รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
    แอนทีคนี่ "ยิ่งเก่า-ยิ่งมีราคา" แต่ว่าเอาไว้ดู หรือเอามาใช้ได้ด้วย ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป

    ด่านที่ ๓ นี้ จะเป็นด่านสรุปทั้งหมดว่า "การทหารแก้การเมือง" ได้สำเร็จจริงหรือไม่ และใครก็ช่วยไม่ได้...เว้นแต่

    "สัจจะ-จริงใจ-ทำประจักษ์" เท่านั้น...จะช่วยได้!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤษภาคม 2014
  16. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    Paisal Puechmongkol
    43 นาทีที่แล้ว ·

    พี่น้องเอ๊ย เราต้องวางใจฝ่ายทหารเขานะ เขาเสี่ยงมากที่เสียสละคราวนี้

    วางความระแวงลงบ้างใจตนก็จะงามขึ้น

    1 เรื่องที่ปรึกษาก็คือที่ปรึกษา การตัดสินใจบัญชา เป็น เรื่องของผู้นำ


    2 ผมเชื่อว่า ไม่มีการตั้งอนุกรรมการที่ปรึกษาเป็นสี่ห้าร้อยคนแน่

    อย่าไปเชื่อใคร หากตั้งบ้างก็คงเพื่อภาระกิจ

    3 ผมไม่ทราบดอกว่า เขาจะยึดทรัพย์พวกโกงหรือไม่

    แต่ผมเชื่อกฎแห่งกรรมว่าสมบัติชาติ
    ต้องถูกทวงคืนมา ในรูปไหนผมไม่ทราบ


    4 ที่ทหารบางคนบอกผู้ถูกควบคุมตัวบางท่านว่าไม่มีการยึดทรัพย์พวกขี้โกงโกงแผ่นดินนั้น

    ไม่รู้ว่าพูดในบริบทไหน อาจเป็นบริบทเดียวกับที่ว่าไม่ปฏิวัติหรือเปล่า
     
  17. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ท่าทีที่สหรัฐแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐนั้น

    สวนทางกับยุทธศาสตร์หลักของเพนตากอน ที่ต้องการขยายบทบาทในเอเซียอย่างร้ายแรง


    ด้วยความขัดแย้งนี้ผมเชื่อว่าสหรัฐกดดันไทยได้ไม่นาน

    และมีแต่เสียหายต่อสหรัฐเองเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

    เพราะกระแสเกลียดชังขึ้นสู่กระแสสูง

    ในขณะที่กระแสนิยมจีนและรัสเซียก็ขึ้นสู่กระแสสูงด้วย

    กระทรวงต่างประเทศจะถูกกดดันโดยเพนตากอนอย่างแรง


    ตอนนี้คนไทยและภริยาหรือสามีคนไทยทั่วโลก กำลังระดมกันส่งหนังสือเรียกร้องต่อสมาชิกสภาคองเกรสและประธานาธิบดีโอบามา ขอให้ยุติการแทรกแซงประเทศไทยและกลับมามีไมตรีกันเช่นเดิม


    โดยเฉพาะได้ถามว่าสหรัฐว่าอุ้มชูขบวนการก่อการร้ายและคอรัปชั่นของประเทศไทยเพื่ออะไร

    อายชาวโลกไหมล่ะครับ



    Paisal Puechmongkol
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage
     
  18. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    �ꧨӹӢ��� 5 �ʹ��ҹ��ͧ�ִ��Ѿ�����������¹���索Ҵ !! - Politics - Manager Online


    ผ่าประเด็นร้อน

    จะเรียกว่า“น้ำลดตอผุด”หรือว่า“กรรมติดจรวด”อาจจะเรียกแบบนั้นก็ได้ เมื่อความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้กำลังถูกเปิดโปงออกมาให้เห็นเรื่อยๆ กรณีแรกที่เผยออกมาหลายคนรู้สึกตาค้างกับความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวของอดีตรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

    โดยมีการสรุปตัวเลขการขาดทุนในช่วงระยะเวลากว่าสองปีที่ดำเนินนโยบายนี้ มีการขาดทุนไปแล้วกว่า 5 แสนล้านบาท และมีข้าวหายไปกว่า 2.8 ล้านตัน รวมทั้งมีข้าวเสื่อมคุณภาพในโกดังอีกจำนวนมาก ทำให้มูลค่าความเสียหายหากสรุปรวมแล้วต้องไม่น้อยกว่า 6-7 แสนล้านบาท แน่นอน

    โอ นี่มันอะไรกันนี่ !!

    ตัวเลขดังกล่าวถูกเผยออกมาภายหลังการเรียกประชุมครั้งแรกของรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำกับดูแลด้านเศรษฐกิจ คือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ซึ่งในการนี้กระทรวงการคลังก็ได้มีการสรุปตัวเลขโครงการรับจำนำข้าวด้วย

    โดยคณะอนุกรรมการตรวจปิดบัญชี ที่มีผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง กุเลิศ สมบัติศิริ เป็นประธาน รายงานตัวเลขการขาดทุนดังกล่าวรวมทั้งหมด 3 ฤดูกาล คือฤดูกาล 54/55 55/56 และ 56/57

    หากย้อนกลับไปพิจารณาตัวเลขการขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวเมื่อสองฤดูกาลแรก ที่ตอนนั้นคณะอนุกรรมการปิดบัญชี นำโดย สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลังที่ออกมาเปิดโปงเป็นคนแรกว่าขาดทุนไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท ตอนนั้นหูตาเหลือก สังคมตื่นตัว ทำให้การตรวจสอบตามมามากมาย ขณะเดียวกัน เราก็ได้เห็นความพยายามในการกลบเกลื่อนปิดบังกันอย่างเป็นระบบจากฝ่ายรัฐบาลของระบอบทักษิณเช่นเดียวกัน ถึงกับมีการย้ายเปลี่ยนหน้าที่ของ สุภา ถึงขั้นสอบสวนเอาผิดกันเลยทีเดียว

    อย่างไรก็ดี ผลจากการเปิดโปงในตอนนั้น ทำให้โครงการอัปยศนี้ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก เพราะเป็นการยืนยันจากกระทรวงการคลังอย่างชัดเจน เป็นใบเสร็จตอกย้ำให้เห็นหลังจากก่อนหน้านี้นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านข้าว องค์อิสระอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ส่งหนังสือให้ทบทวน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินก็ให้ตรวจสอบ ออกมาตำหนิ คัดค้านโครงการที่ฝืนธรรมชาติที่ตั้งโครงการขึ้นมาเพื่อการทุจริตเงินงบประมาณของชาติโดยนักการเมืองในรัฐบาลเท่านั้น

    มาถึงวันนี้ วันที่มีการเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการตรวจสอบและมีการรายงานตัวเลขดังกล่าวออกมาให้เห็น แม้ว่าสำหรับหลายคนมองว่าอาจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าต้องเจ๊งแบบนี้ จากการ“ทุจริตทุกเมล็ด” เพียงแต่ว่านี่คือคำยืนยันอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง นี่ขนาดเพียงแค่ 3 ฤดูกาล ยังเสียหายขนาดนี้ ในคราวแรกที่ขาดทุน 3 แสนล้านบาทนั้น เพียงแค่สองฤดูกาล แต่เมื่อเป็นสามฤดูกาลตัวเลขขาดทุนก็พุ่งพรวด ซึ่งถ้าเงินขาดทุนตกถึงมือชาวนาผู้ยากไร้เต็มเม็ดเต็มหน่วยทั่วถึงก็ยังพออธิบายได้บ้าง แต่นี่มันเป็นการรวมหัวกันทุจริตในหมู่นักการเมือง พ่อค้าเฉพาะกลุ่ม ในครอบครัวของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเท่านั้น

    แน่นอนว่าเงินที่ขาดทุนจำนวนกว่า 5-7 แสนล้านบาท นี่มันมหาศาลมาก สามารถนำมาสร้างรถไฟรางคู่ สร้างรถไฟฟ้าได้ทั่วทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้นับสิบสาย

    ดังนั้น เชื่อได้เลยว่านับจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบกันอย่างขนานใหญ่ เพื่อเอาผิดคนที่เกี่ยวข้องกันกราวรูด ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตรัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ บุญทรง เตริยาภิรมย์ มาจนถึง นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ที่เคยอ้างว่าไม่เคยมีข้าวหายเพียงแต่ไม่ได้ลงบัญชีเท่านั้น อีกทั้งยังยืนยันว่าไม่ได้ขาดทุนมหาศาล แค่จิ๊บจ๊อยกว่าแสนล้านบาทเท่านั้น

    ก็ต้องจับตาดูว่า คสช. จะจัดการให้เป็นรูปธรรมอย่างไร จะสอบสวนหาคนผิด จะยึดทรัพย์หรือใม่ คงไม่ปล่อยให้ลอยนวลเป็นอันขาด !!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤษภาคม 2014
  19. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    Paisal Puechmongkol
    44 นาทีที่แล้ว

    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    ด่วน!!!เปิดหน้าต่างต้องระวังแมลงวัน

    พลเอก ประยุทธสั่งเร่งเบิกจ่ายงบพัฒนาที่เหลือ เวลาแค่ 4 เดือนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

    เพลงรบนี้ยอดเยี่ยมจนทำให้พวกกระทรวงคลัง งง-เลื่อมใสว่าทหารใช้เพลงกระบี่นี้ได้ด้วย

    แต่ต้องระวังนะครับ งบพัฒนานี้มันมีงบ สส คนละ50ล้านบาทอยู่ด้วย

    ต้องไม่ให้มาเกี่ยวข้องแบ่งครึ่งเด็ดขาด

    เพราะตอนนี้พวก กปปส ในหลายจังหวัด ส่งข่าวว่า อดีต สส มันยังไปแอบประสานกับจังหวัดของาน ขอแบ่งเงินอยู่

    ช่วยสั่งห้ามเถอะครับ ให้ใช้งบนี้ให้เต็มที่อย่าให้เปรตมาแอบกินเลย
     
  20. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    Paisal Puechmongkol

    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    ใครอยากลองดีขึ้นศาลทหาร

    ในเวลาไม่ปกติก็เชิญตามสบาย พี่น้องเอ๊ย ไทยทุกสีพี่น้องกัน


    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...