ฮือฮารอยพระพุทธบาทยักษ์

<TABLE id=Table9 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left height=118><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#2b3189><TD class=messageblack vAlign=top align=left bgColor=#ffffff height=32><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#2b3189><TD class=messageblack vAlign=top align=left bgColor=#f6e7ce>

ฮือฮารอยพระพุทธบาทยักษ์​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=top align=left width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=top align=left>เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดนครราชสีมา รับแจ้งจากชาวบ้านว่าในเขตพื้นที่วัดภูวังทองศิลาอาสน์ บ้านซับคุ้ม หมู่ 5 ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่โดยบังเอิญ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าวัดดังกล่าวตั้งอยู่บนภูเขาขนาดเล็ก ห่างจากตัวเมืองโคราชประมาณ 80 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างจะทุรกันดาร มีกุฏิขนาดเล็ก 2-3 หลังซึ่งเป็นที่จำพรรษาของเจ้าอาวาสและพระลูกวัดรวม 6 รูป จากนั้นได้พบกับหลวงพ่อกา กันตะสีโร เจ้าอาวาสวัด ถึงความเป็นมาเกี่ยวกับรอยพระพุทธบาทดังกล่าว พร้อมกับนิมนต์ให้หลวงพ่อนำทางไปยังจุดที่เชื่อว่าเป็นรอยเท้าพระพุทธเจ้า
ปรากฎว่ารอยที่เชื่อว่าเป็นรอยท้าวพระพุทธเจ้า อยู่บนแผ่นหินขนาดใหญ่ห่างจากกุฏิวัดประมาณ 200 เมตร เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณดังกล่าวถูกสร้างศาลามุงไว้เพื่อกันแดดกันฝนเป็นอย่างดี จากการตรวจสอบรอยดังกล่าวพบว่ามีลักษณะคล้ายกับรอยท้าวซ้ายของมนุษย์ มีลักษณะที่สมบูรณ์มาก มีรอยนิ้วท้าวครบทั้ง 5 นิ้ว ความยาวตั้งแต่ส้นท้าวถึงปลายนิ้วประมาณ 1 เมตร กว้างประมาณ 50 ซม. ลึกประมาณ 2-3 ซม. มีแผ่นทองที่ชาวบ้านนำมาปิดและมีพวงมาลัยพร้อมทั้งธูปเทียนที่ชาวบ้านนำมากราบไหว้สักการะอีกจำนวนหนึ่ง

จากการสอบถาม หลวงพ่อกา เล่าว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ ปี พ.ศ.2538 พระประจำวัดต้องเดินลงจากเขาเพื่อลงมาตักน้ำใช้เองจากบ่อน้ำที่อยู่ข้างล่างซึ่งลำบากมาก ดังนั้นจึงให้พระลูกวัด 6 รูป ช่วยกันโกยดินที่อยู่ตามซอกเขาเพื่อทำเป็นบ่อน้ำไว้กินไว้ใช้ กระทั่งมีการค้นพบรอยเท้าดังกล่าวซึ่งมีขนาดใหญ่มาก จึงเชื่อว่าเป็นรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่มาประทับไว้ให้คนได้เห็นเป็นบุญตา ซึ่งชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงทราบข่าวก็เดินทางมากราบไหว้สักการบูชาเป็นประจำ ประชาชนที่ศรัทธาได้สร้างศาลามุงเพื่อกันแดดกันฝนให้ แต่ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบแต่อย่างใด ซึ่งทางวัดต้องการให้มีการอนุรักษ์ หรือพัฒนาให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมให้คนรู้จัก และเดินทางเข้ามาร่วมปฏิบัติธรรมยังสถานที่ดังกล่าวต่อไป.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา..