เกตส์ลั่นอำลางาน"ไมโครซอฟท์"มุ่งการกุศล

รูปภาพประกอบทางอินเตอร์เนต​

เกตส์ลั่นอำลางาน"ไมโครซอฟท์"มุ่งการกุศล

ขอเวลา2ปีถ่ายโอนอำนาจให้ราบรื่น


บิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ประกาศเตรียมอำลาหน้าที่การงานในบริษัทไมโครซอฟท์ที่ปั้นมากับมือ เพื่อมุ่งทำงานการกุศลในมูลนิธิของตนอย่างเต็มที่ เผยถึงเวลามอบคืนความร่ำรวยกลับสู่สังคม ทรัพย์สินกว่า 2 ล้านล้านขอมอบการกุศล ไม่ให้ลูกทั้ง 3 คน ขอเวลาอีก 2 ปีถ่ายโอนอำนาจ

​

​

นายวิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่ 3 หรือที่ชาวโลกรู้จักกันในนามของ บิลล์ เกตส์ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก วัย 50 ปี ประธานและผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ว่า ตนจะถอนตัวจากการทำงานรายวันในบริษัทไมโครซอฟท์ภายในเดือนกรกฎาคมปี 2551 เพื่อมุ่งทำงานให้กับมูลนิธิบิลส์ และ เมลินดา เกตส์ ที่ตนและภรรยาร่วมกันก่อตั้งขึ้นอย่างเต็มที่ ในการต่อสู้กับปัญหาด้านสุขภาพและการศึกษาของโลก

แถลงการณ์ของบริษัทไมโครซอฟท์ที่ก่อตั้งมานานกว่า 20 ปี ระบุว่า เกตส์จะถ่ายโอนบทบาทหน้าที่แบบวันต่อวันในบริษัทเพื่อใช้เวลาทำงานด้านการกุศลของมูลนิธิมากขึ้น โดยเกตส์ต้องการเวลา 2 ปี ในการถ่ายโอนอำนาจครั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าภาระรับผิดชอบรายวันของเกตส์ในบริษัทจะถูกถ่ายโอนไปอย่างราบรื่นและเป็นระเบียบเรียบร้อย และว่า อย่างไรก็ดี หลังเดือนกรกฎาคมปี 2551 ไปแล้ว เกตส์จะยังคงตำแหน่งประธานบริษัท และที่ปรึกษาในโครงการพัฒนาสำคัญๆ ของบริษัทต่อไป

นายเกตส์กล่าวผ่านเว็บไซต์ว่า "ที่จริงแล้วมันเป็นการตัดสินใจที่ยากทีเดียว ผมได้ทำงานที่ดีที่สุดงานหนึ่งในโลก ผมรักซอฟต์แวร์ และผมรักการทำงานร่วมกับคนที่มีความสร้างสรรค์ อัจฉริยะ และกระตือรือร้นที่ไมโครซอฟท์" และว่า การเปลี่ยนแปลงที่ประกาศในวันนี้ไม่ใช่ลาออกจากงาน หรือเกษียณตัวเอง แต่คือการจัดลำดับสิ่งที่ตนให้ความสำคัญใหม่ นอกจากนี้ เกตส์ยังกล่าวย้อนไปถึงความเป็นมาของไมโครซอฟท์นับจากวันที่ยังเป็นเพียงบอร์ดขีดเขียนจนกลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์สำหรับคอมพิวเตอร์แทบทุกเครื่องในโลก

ข่าวระบุว่า การตัดสินใจของเกตส์ที่จะสละจากตำแหน่งประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ที่พ่วงอยู่ด้วย และวางมือจากทุกบทบาทในงานบริหารจัดการในปี 2551 นั้น เกิดขึ้นในขณะที่ไมโครซอฟท์ ซึ่งซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการวินโดว์สของบริษัทถูกใช้อยู่ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วโลกถึงร้อยละ 90 กำลังดิ้นรนเพื่อหาสิ่งใหม่ๆ มาสร้างเสริมเพื่อการเจริญเติบโตต่อไปของบริษัท

โดยเกตส์จะโอนผ่านงานทางเทคนิคไปให้กับนายเรย์ ออสซี่ ที่เข้ามาทำงานให้กับไมโครซอฟท์เมื่อปีก่อน และถือเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันให้ไมโครซอฟท์รักษาการครองตลาดซอฟต์แวร์โลกไว้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์ไปสู่บริการต่างๆ ซึ่งจะทำให้รายได้หลั่งไหลเข้าสู่บริษัทมากกว่าการขายไปเพียงครั้งเดียว

เกตส์ได้ระบุไว้ด้วยว่า ทรัพย์สินทั้งหมดที่ตนครอบครองอยู่ ซึ่งนิตยสารธุรกิจฟอร์บส์ประเมินว่ามีอยู่ถึงกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านล้านบาท) จะมอบให้กับการกุศล ไม่ได้มอบให้กับลูกๆ ของตนทั้ง 3 คน

อนึ่ง จากการจัดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกของฟอร์บส์นั้น เกตส์ถูกจัดเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องกันมาโดยตลอด 12 ปีที่ผ่านมา และเมื่อปี 2542 ทรัพย์สินรวมทั้งหมดของเกตส์ได้พุ่งทะลุผ่านระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.8 ล้านล้านบาท) เป็นครั้งแรก และทำให้เกตส์กลายเป็นมหาเศรษฐีระดับแสนล้าน (ดอลลาร์) คนแรกของโลก (รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)


ที่มา

<TABLE cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=navFix cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>​

Overview

<TABLE cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top> Global Health

Closing the health gap between rich and poor countries by creating new health solutions and ensuring that existing solutions reach those in greatest need.
</TD><TD></TD><TD vAlign=top> Global Libraries

Supporting free access to information via computers in libraries in the United States and other countries.
</TD></TR><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD vAlign=top> Education

Ensuring that all students in the United States graduate from high school ready for college, work and citizenship by supporting great high schools.
</TD><TD></TD><TD vAlign=top> Pacific Northwest

Helping at-risk families in our region improve their lives by supporting a number of human services.
</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขออนุโมทนากับความใจบุญ
และความรู้จักพอของ บิล เกตส์ ด้วยค่ะ

โชคชะตา ให้เกิดมามีความเก่ง
ความมั่งคั่ง บันดาลให้ถูกคนแล้ว

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ประวัติมูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์-ห้องทำงานเพื่อการกุศล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 มิถุนายน 2549 15:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=344 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=344> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บิล เกตส์และภรรยา (ขอบคุณภาพจาก gatesfoundation.org)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> Bill & Melinda Gates Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 เป็นมูลนิธิที่ให้การสนับสนุนด้านสุขอนามัย และคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศกำลังพัฒนา โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาวัคซีน ยารักษาโรค ตลอดจนการวิจัยเพื่อให้ได้แนวทางในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับพลเมืองในประเทศยากจน

ปณิธานของมูลนิธิคือการมองไม่เลือกปฏิบัติ มุ่งช่วยเหลือคนทุกคน โดยยึดความเท่าเทียมกันของมนุษย์เป็นที่ตั้ง

ผลงานเด่น ๆ ของมูลนิธิดังกล่าวคือการเผยแพร่ความรู้เรื่องโรคเอดส์ในหลายประเทศ เช่นในประเทศบอสวานาซึ่งกำลังเกิดวิกฤติการณ์ไวรัสเอดส์แพร่ระบาด นอกจากนั้นทางมูลนิธิยังได้ทำการแจกจ่ายวัคซีนที่จำเป็นแก่เด็ก ๆ ในประเทศยากจน และให้การสนับสนุนงบประมาณสำหรับช่วยเหลือบุคคลไร้บ้านในวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

นอกจากนั้น ทางมูลนิธิยังได้ให้การสนับสนุนด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตแก่ห้องสมุดในสหรัฐอเมริกาด้วย สาเหตุในการให้การสนับสนุนด้านอินเทอร์เน็ตแก่ห้องสมุดนั้นเป็นเพราะว่า มูลนิธิพบว่าในพื้นที่ห่างไกลของสหรัฐอเมริกายังมีความติดขัดอยู่บ้างบางส่วน จึงต้องการเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ แต่ในภาพรวมนั้น บรรดาห้องสมุดของอเมริกามีการใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ระดับสูงถึง 99.6 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนห้องสมุดสาธารณะทั้งหมดที่มีในประเทศแล้ว

ปัจจุบัน สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่ที่เมืองซีแอตเติล สหรัฐอเมริกา และอยู่ระหว่างการสร้างสำนักงานใหม่ขึ้นที่ใจกลางเมืองด้วย ที่เลขที่ 500 ฟิฟท์ เอเวนิว นอร์ธ

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ gatesfoundation</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

กินใจมากเลยอ่ะจ๊ะ >> "ผมไม่ได้ปลดเกษียณตัวเองจากงาน มันเป็นแค่การจัดลำดับสิ่งสำคัญในชีวิตใหม่เท่านั้นเอง"

 

ความพอเพียงของบิล เกตส์

22 มิถุนายน 2549 17:59 น.
[COLOR=#00000]กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ [/COLOR]:

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลายวงการต้องแปลกใจที่จู่ๆ บิล เกตส์ ก็ประกาศออกมาว่า ภายในเวลา 2 ปีเขาจะสละตำแหน่งใหญ่ๆ ในบริษัทไมโครซอฟท์ทั้งหมดยกเว้นตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทเท่านั้น ในระบบการบริหารของไมโครซอฟท์ประธานกรรมการบริษัทไม่มีงานประจำมากจนถึงกับต้องไปทำงานทุกวันเหมือนงานประจำอื่นๆ อาจไปทำงานสัปดาห์ละครั้ง การรั้งตำแหน่งนั้นเพียงอย่างเดียวจึงเป็นเสมือนบิล เกตส์ เกษียณจากงานทั้งที่ตอนนี้เขาอายุเพียง 50 ปี และยังมีสุขภาพสมบูรณ์

คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า บิล เกตส์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์เพื่อทำธุรกิจเขียนโปรแกรมสำหรับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ในขณะนี้ ราว 90% ของคอมพิวเตอร์ชนิดนั้นทั่วโลกใช้ "คำสั่งแม่บท" (Operating System) ของไมโครซอฟท์ นอกจากนั้น ไมโครซอฟท์ยังมีโปรแกรมอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอีกด้วย ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทำให้บิล เกตส์ ร่ำรวยมหาศาล ปีนี้เป็นปีที่ 12 ติดต่อกันที่เขาครองตำแหน่งอภิมหาเศรษฐีหมายเลข 1 ของโลก เพราะมีทรัพย์สินกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2 ล้านล้านบาท
แน่ละ ทรัพย์สินกองใหญ่ขนาดนั้นย่อมทำให้บิล เกตส์ หมดความจำเป็นที่จะต้องตรากตรำไปทำงานเพื่อการยังชีพ แต่คนที่มีพลังผลักดันภายในสูงยิ่งเช่น บิล เกตส์ ย่อมอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ฉะนั้นเขาจะไม่หยุดทำงานหลังจากสละตำแหน่งใหญ่ๆ ในไมโครซอฟท์แล้ว หากจะทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับมูลนิธิเพื่อการกุศลที่เขาและภรรยาตั้งขึ้นชื่อว่า Bill & Melinda Gates Foundation
มูลนิธินี้มีคำขวัญว่า Bringing innovations in health and learning to the global community ซึ่งมีความหมายว่า "เพื่อนำนวัตกรรมด้านสุขภาพและด้านการเรียนรู้ไปสู่ชุมชนโลก" คำขวัญนี้สะท้อนความตั้งใจของบิล เกตส์ และภรรยาที่ต้องการจะใช้สมบัติกองใหญ่และความรู้ความสามารถของตนช่วยขจัดโรคร้ายและอวิชชาให้หมดไปจากโลก
ณ วันนี้ Bill & Melinda Gates Foundation เป็นมูลนิธิที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในโลก เพราะได้รับบริจาคจากสองสามีภรรยาแล้วกว่า 29,000 ล้านดอลลาร์ และจะได้รับเพิ่มอีก เนื่องจาก ทั้งสองได้ประกาศไว้นานแล้วว่า จะกันทรัพย์สินเพียงส่วนน้อยเท่านั้นไว้ให้แก่ลูกๆ ส่วนที่เหลือจะยกให้แก่มูลนิธิ คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าในสหรัฐ ผู้บริจาคทรัพย์ให้แก่มูลนิธิเพื่อการกุศลได้รับการลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลโดยเฉพาะภาษีมรดก ฉะนั้นมูลนิธิจำนวนมากจึงถูกตั้งขึ้นหรือได้รับบริจาคทรัพย์จากมหาเศรษฐีเพราะปัจจัยด้านภาษี
แต่การตั้งมูลนิธิของบิล เกตส์ และภรรยาไม่น่าจะมีปัจจัยนั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเขาเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีไม่กี่คนที่รณรงค์อย่างเต็มที่ เพื่อกดดันให้รัฐบาลอเมริกันเก็บภาษีมรดกต่อไป
อาจไม่เป็นที่ทราบกันมากนักว่า รัฐบาลอเมริกันเก็บภาษีมรดกมาเป็นเวลานาน แต่หลังจากจอร์จ ดับเบิลยู บุช เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อต้นปี ค.ศ. 2001 เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะยกเลิกภาษีนั้น เพราะเขาเป็นตัวแทนของชนชั้นเศรษฐีที่ขาดจิตสำนึกชนิดตกขอบ ถ้าเขาทำสำเร็จตามความตั้งใจมหาเศรษฐีอเมริกันจะไม่ต้องจ่ายภาษีมรดกอีก อย่างไรก็ตาม คนอเมริกันจำนวนมากไม่เห็นด้วย ร่างกฎหมายเพื่อยกเลิกภาษีนั้นจึงแพ้คะแนนเสียงในสภาสูงไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง
การเกษียณตัวเองจากไมโครซอฟท์และทิ้งรายได้ประจำเป็นจำนวนมากของบิล เกตส์ อาจเป็นที่แปลกใจของหลายวงการ แต่สำหรับผู้ที่ติดตามความคิดความอ่านและการดำเนินชีวิตของเขามาเป็นเวลานานคงไม่แปลกใจเลย (ในปัจจุบันมีหนังสือเกี่ยวกับบิล เกตส์ ในตลาดจำนวนมาก รวมทั้งหนังสือที่เขาเขียนเอง เช่น The Road Ahead และ Business @ the Speed of Thought ซึ่งครั้งหนึ่งนายกฯ ทักษิณแนะนำให้คนไทยอ่าน
สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาและไม่ค่อยถนัดภาษาฝรั่งอาจไปอ่านหนังสือชื่อ "เสือ สิงห์ กระทิง แรด" ซึ่งมีบิล เกตส์ เล่นบทบาท "กระทิง" และเรื่อง "คิดนอกคอก ทำนอกคัมภีร์" ซึ่งมีบทคัดย่อของเรื่อง Business @ the Speed of Thought)
นอกจากจะมีมันสมองระดับอัจฉริยะและมีพลังผลักดันภายในไม่ต่ำกว่าใครในโลกแล้ว บิล เกตส์ มีจิตสำนึกสูงยิ่งโดยเฉพาะในความโชคดีของตนเอง การตระหนักในความโชคดีนั้นทำให้เขาต้องการตั้งมูลนิธิขึ้นเพื่อตอบแทนคุณแก่สังคม เนื่องจากบริษัทของเขาร่ำรวยด้วยการขายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั่วโลก "สังคม" ของเขา จึงเป็นชุมชนโลกทั้งหมด
นับตั้งแต่วันก่อตั้งมูลนิธิ Bill & Melinda Gates ได้ให้เงินสนับสนุนแก่โครงการต่างๆ แล้วราว 10,500 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนั้นราว 30% บริจาคให้แก่โครงการในสหรัฐ เพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกัน ส่วนอีก 70% บริจาคให้โครงการในประเทศต่างๆ กว่า 100 ประเทศ โดยเฉพาะแก่โครงการเพื่อขจัดโรคร้าย เช่น เอดส์ มาลาเรียและวัณโรค และเพื่อปลูกฝีและฉีดยาให้เด็กเกิดใหม่ในประเทศด้อยพัฒนา
บิล เกตส์ รักบ้านเกิดอย่างสุดซึ้งจึงได้ย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัทจากรัฐนิวเม็กซิโกกลับไปตั้งในย่านบ้านเกิดที่เมืองเล็กๆ ชื่อ Redmond ในรัฐวอชิงตัน หลังจากนั้น ก็ได้ช่วยพัฒนาเมืองนั้นจนเป็นเมืองชั้นนำ
ด้วยมันสมองระดับอัจฉริยะ พลังผลักดันปานกระทิงเปลี่ยว ความตั้งใจอันแน่วแน่และทรัพย์สินจำนวนมหาศาล บิล เกตส์ จะขจัดโรคร้ายและอวิชชาให้หมดไปจากโลกสำเร็จหรือไม่ ?
ถ้าจะให้ฟันธงคงต้องตอบว่า "ไม่มีทาง" การฟันธงเช่นนี้มิได้หมายความว่าผมดูแคลนบิล เกตส์ หรือ ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขากระทำ ตรงกันข้ามผมชื่นชมการกระทำของเขามากและเคยเขียนไว้ในคอลัมน์นี้ ว่า นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราแล้ว บิล เกตส์ เป็นผู้ที่สมควรจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมากที่สุด และผมแน่ใจว่าในไม่ช้าเขาจะได้รับ แต่การได้ไปเห็นปัญหามาเกือบทั่วโลก ทำให้ผมแน่ใจว่าไม่มีใครคนใดคนหนึ่งจะแก้ปัญหาได้ จนกระทั่งโรคร้ายและอวิชชาหมดไปจากโลก
อย่างไรก็ตาม โลกของเราใบนี้จะดีขึ้นกว่าปัจจุบันมาก หากชนชั้นเศรษฐีจะมีจิตสำนึกเช่นบิล เกตส์ นั่นคือ ตระหนักในความโชคดีของตนเองและรู้จักพอเพียงแล้วอุทิศกำลังกาย กำลังสมองและกำลังทรัพย์ส่วนหนึ่งเพื่อช่วยกันขจัดปัญหาใหญ่ๆ ในชุมชนซึ่งตนอาศัยอยู่ ชุมชนนั้นอาจเป็นหมู่บ้านเล็กๆ หรือชุมชนขนาดใหญ่ในระดับประเทศและระดับโลกก็ได้


ที่มา :