เกิดนานแล้ว แต่ยังโง่อยู่

มีนักร้อง กับไม่มี อย่างไหนดีกว่ากัน ?

ผมว่ามีนักร้องดีกว่าไม่มี ลองนึกเปรียบเทียบนะครับ
.. ถ้าหากมีขโมยจะเข้าบ้านใคร แล้วไม่มีใครส่งเสียง หรือบ้านนั้นไม่มีสัตว์เลี้ยงส่งเสียง มีแต่ความเงียบ ย่อมถูกใจขโมยเขาละ เพราะไม่มีอะไรมาขัดขวาง

.. แต่ถ้ามีนักร้อง (เราก็ได้ฟังเพลงกัน) เสียงร้องนั้นไม่ใช่อยู่ในวงแคบๆ แต่ออกสื่อออกลำโพงไปทั่วประเทศ คนก็ย่อมรู้เรื่องราวนั้นๆ เป็นการบล็อคไม่ให้ขโมยทำงานต่อไปสะดวก ขโมยอาจเปลี่ยนใจ ถ้าไม่เปลี่ยนใจก็อาจลดงานให้เล็กลง เช่นเดิมคิดว่าจะมาเอาตู้เย็น อาจเปลี่ยนเป็นเอาแค่หม้อหุงข้าว เป็นต้น

ท่านผู้อ่านมีความเห็นอย่างไรครับ ?
.

 

ความล้าหลังทำให้ชีวิตลำบาก
.. แต่เมื่อความเจริญมาเยือน ก็ทำให้ชีวิตลำบากเหมือนกัน แต่ลำบากคนละแบบ !!

.. สมัยก่อนไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ จะทำอะไรก็ต้องออกแรงกันหน่อย แต่คนเราก็อยู่กันแบบไม่ต้องดิ้นรนมากมาย .. อยู่กันแบบไม่ค่อยเดือดร้อน ไม่ต้องเร่งรีบอะไร กล่าวโดยสรุปชีวิตไม่ต้องแข่งขันอะไรมากมาย

.. มาปัจจุบัน มีเครื่องไม้เครื่องมือสะดวก แต่ก็กลายเป็นว่า คนเราต้องลำบาก ต้องทำงานหาเงินเพื่อมาซื้อหาเครื่องมือต่างๆเหล่านั้น ชีวิตต้องแข่งขัน อาจจะเพราะมีคนเยอะขึ้น ต้องแข่งต้องแย่งกันในเรื่องต่างๆ ทั้งการเรียน การทำงาน และเรื่องอื่นๆสาระพัด
.. จะไปใหนมาใหน แต่ก่อนว่าช้าเพราะไม่มีรถรา แต่ปัจจุบันก็กลับช้าเพราะมีรถรามากเกินไป ! ชีวิตไม่ลงตัว
.......................

กล่าวถึงความลำบาก .. เรื่องไปใหนมาใหนไม่สะดวก เพราะรถราเยอะจราจรติดขัด ยิ่งแก้ก็ยิ่งติดรึเปล่า .. อาจเพราะจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าการเพิ่มของถนน !

เมื่อนานมาแล้ว ผมได้เคยเขียนจดหมายออกสื่อ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คอลัมน์ "ลมเปลี่ยนทิศ" สมัยนั้นใน กทม มีทางด่วนคือ ดินแดง-บางนา สายเดียว สะพานลอยก็มีที่ประตูน้ำแห่งเดียว

.. ผมเขียนเสนอออกคอลัมน์ ลมเปลี่ยนทิศว่า น่าจะมีถนน 2 ชั้น ผมเรียก"ถนนลอยฟ้า" ในหลายๆเส้นทางหลัก เช่น ถนนลาดพร้าว, ถนนเพชรบุรี, ถนนเพลินจิต, ถนนพระราม 4 เป็นต้น

.. ก็น่ายินดีนะ ที่ต่อมามีถนน 2 ชั้นดังที่ผมคิดไว้ เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด !
.

 

ป้องกัน กับ แก้ไข อย่างใหนดี ?

การทำอะไรที่เป็นแบบแผน วางโครงการสำหรับวันข้างหน้า การออกแบบต้องมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล จึงไม่ใช่เอาใครก็ได้ เส้นใหญ่ เส้นหนามาทำหน้าที่
.. แต่เรื่องแบบนี้ คงยากนะเพราะมันสวนทางกับโลกแห่งความเป็นจริง
.. คนหัวดี แต่ไม่มีเส้น ไม่มีเงิน ไม่มีพวก จะเติบโตได้หรือ หัวสมองดีก็กลายเป็นหัวคั่นหูที่ตั้งอยู่บนบ่าเฉยๆไม่มีโอกาสใช้ประโยชน์ .. ในขณะที่คนหัวไม่ดีได้รับการโปรโมทเรียกใช้

.. แฟชั่นเครื่องแต่งกาย เป็นเครื่องปกปิดร่างกายให้ดูผิดจากความเป็นจริงได้ฉันใด สถานะทางฐานะและสังคม ก็สามารถปกปิดหรือก้าวข้ามความคิดความอ่านของคนได้ฉันนั้น .. ถ้าเราจะดูให้รู้ว่า ใครบื้อ ใครฉลาด ก็ต้องเอาสิ่งต่างๆที่เป็นเหมือนหน้ากากออกให้หมด ให้เหลือเหมือนๆกัน ก็จะดูได้ไม่ยาก
.. ตัวอย่าง การเป็นทหารเกณฑ์ ไปอยู่ในสภาพที่เหมือนๆกัน ย่อมจะรู้ว่าใครเป็นยังไง

.. เขียนยาวเดี๋ยวจบไม่ลง เอาเป็นว่า ทำอะไรมีแผนดี ทั้งเนื้อหาและความซื่อตรงโปร่งใส มือสะอาดชาติเจริญ .. แต่ถ้าไม่มีแผนที่ดีหรือหวังตรงข้าม คือหวังแก้ไขเพื่อจะได้มีงานและเงินหมุนเวียน คงไม่ดีแน่

.. เขียนแบบกลางๆที่ควรจะเป็น ไม่ได้ว่าใครนะครับ

หมายเหตุ ที่เขียนเพราะมีสิ่งบันดาลใจ ไปเห็นที่แห่งหนึ่ง สถานที่ใหญ่โต มีรถมากมาย มีจุดไม่ถูกต้องคือที่จอดรถจักรยานยนต์ .. จอดสองฝั่ง แต่ช่องกลางเนื้อที่กว้างไม่พอให้จูงรถถอยหลัง ตอนเอารถออกยากมากๆ .. โปรดอย่าถามว่าที่ใหน .. ฟังเพลงดีกว่า

ไปที่กูเกิล > แฟนซีชีวิต รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส​

.

 

ธรรม หรือ ธรรมะ คือสิ่งที่เป็นธรรม ยุติธรรมฯ
.. มีคำแปลอีกหลายอย่าง เปิดพจนานุกรมดูครับ อย่าด่วนเหมาว่า ผูกขาดเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
.. คำสอนของพระศาสดา คือพระธรรม .. เราเรียนพระธรรมคำสอนเพื่อให้เป็นคนดี ละกิเลสเพื่อจะได้พ้นทุกข์ เพื่อเป้าหมายที่สุดจะได้ไม่มาเกิดอีก

ธรรมชาติ ย่อมหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในโลก ในจักรวาล
.. ธรรมชาติมีแต่ความโหดร้าย เพราะชีวิตจะดำรงอยู่ได้ ก็ต้องเบียดเบียนชีวิตอื่นเพื่อให้ชีวิตตนอยู่รอด ถ้าเป็นสัตว์ในป่าชีวิตมีภัยทุกฝีก้าว .. แต่คนเรามีศีลธรรม ขนมธรรมเนียม ประเพณี กฏกติกา มีกฏหมาย จึงพอคุ้มกันให้พ้นจากภัยของการเบียดเบียนกันได้บ้าง
.. ในเมื่อธรรมชาติเป็นความโหดร้าย การเกิดแก่เจ็บตายนั้นเป็นธรรมชาติซึ่งท่านว่าเป็นทุกข์ พระธรรมคำสอนเพื่อให้พ้นจากความทุกข์เหล่านี้

!! เราเรียนธรรมเพื่อรู้ชีวิต เพื่อความพ้นทุกข์ เปรียบเปรยว่า เราเรียนวิธีหรือวิชาทำอาหาร วิธีหรือวิชาเป็นเครื่องช่วยให้เราสามารถทำอาหารขึ้นมา มิได้หมายความว่า วิธีหรือวิชานั้นจะกลายเป็นอาหารโดยตรงหาได้ไม่ !!
....................

หอยมีเปลือกหนา แต่ก็หาได้พ้นภัยไม่ !!
.. ขออนุญาตแปะ YouTube ครับ

.

 

ลดขนาดรถยนต์

จากโพสต์ที่ #77 ความว่า ปัจจุบันความเจริญเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตลำบาก จุดหนึ่งก็คือการจราจรที่ติดขัด เพราะสร้างถนนไม่ทันจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น

.. เรื่องที่พึงนึกถึง คือ ถ้าหากจะสร้างถนนเพื่อให้รองรับจำนวนรถตะพืดตะพือละก็ สักวันหนึ่งพื้นที่สำหรับคนอยู่อาศัยก็คงน้อยลง เพราะกลายเป็นถนนไปหมด

.. จะลดจำนวนรถยนต์ที่มีอยู่ให้น้อยลง ทำได้โดยปลดระวางรถที่เก่า ก็คงไม่ได้ทันที .. ทางที่ดีสำหรับอนาคตคือ ลดขนาดของรถยนต์ หมายถึงในอนาคตเน้นไปที่รถคันเล็กลง เพื่อให้ถนนรองรับจำนวนรถได้มากขึ้น .. น่าจะสามารถทำได้โดยกฏหมาย หรือมาตรการทางภาษี รถใหญ่เสียภาษีโหดๆ คนก็น่าจะหันมาหารถคันเล็กลง

.. สมัยก่อนมีค่านิยมว่า รถใหญ่นั่งได้หลายคน ช่วยกันนั่งถ้าไปทางเดียวกัน .. แต่ข้อเท็จจริง คนเราไปทำงานหรือธุระคนละที่ และค่านิยมการพึ่งคนอื่นไม่ได้รับการใส่ใจนัก .. อีกอย่างคือเคยมีการส่งเสริมรถประจำทาง ปัจจุบันรู้สึกรถเล็กอย่าง 2 แถวมีน้อยลงนะ นี่ก็ค่านิยมของคนต้องมีรถส่วนตัว รถรับจ้างวิ่งแล้วไม่คุ้มก็เลิกไป

.. รถไฟฟ้าคันเล็ก ความเห็นผมว่าเหมาะมากสำหรับบุคคลทั่วไป และนักเรียน นั่งได้ไม่ใช่แค่คนเดียว ไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝนเหมือนจักรยานยนต์ ราคาก็แพงกว่าจักรยานยนต์นิดหน่อย .. น่าสนใจ

ไปที่กูเกิล > รถไฟฟ้าคันเล็ก 2 ที่นั่ง

> ค้นรูป

> รถสีหวานๆ
> https://thai.electric-sightseeingcar.com/
> https://thai.electric-sightseeingcar.com/photo/pl18073096-2_60.jpg
​

หมายเหตุ .. เมืองใหญ่ที่เป็นชุมทาง เช่นโคราช เชียงใหม่ อุดร รถคงติด อาจถึงเวลาถามหา ถนนลอยฟ้า หรือทางด่วน เหมือนกับกทม แล้วก็ได้

 

ถ้าไม่เด็ดขาด เสียเรื่อง !

ถ้าเรามีสวน อยากกินผลไม้ มะม่วง มะละกอ หรืออย่างอื่น จะทำยังไง ?
.. ก็ไปเด็ดเอาในสวนน่ะซี ต้องเด็ดให้ขาดนะ ไม่งั้นเสียเรื่องเพราะ อดกิน น่ะ

เรื่องทุกอย่างมีศิลปะในตัว .. นี่เขียนแบบตั้งต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชานี่นา !!
.. พาดพิงถึงกัญชาแล้วงง เขียนเรื่องอื่นดีกว่า คือ ถ้าเราปลูกมะม่วง แล้วมะม่วงออกช่อ คงไม่เป็นของต้องห้ามนะ ได้ผลมะม่วงแน่นอน ถ้าช่อไม่ร่วงเสียก่อน

.. เขียน ฮาๆ จะได้ไม่เครียด
.................

ขออนุญาต แปะ YouTube ครับ

.

 

คำบางคำ ใครเคยได้ยินกันบ้าง !

ภาระสังคม .. ยุคปัจจุบัน ความรู้วิทยาการต่างๆสามารถหาได้ในตำรา ในเน็ต การพึ่งพาบุคคลก็อาจลดน้อยลง และอาจไม่จำเป็น แล้วคนล่ะจะเอาไปไว้ไหน อ๋อ ท่านก็หางานทำกันได้ จะได้พ้นจากคำว่าเป็นภาระสังคม

ขยะสังคม .. น่าจะหมายถึงประเภท หาความดีไม่ได้ สกปรก น่ารังเกียจ

ถ่วงความเจริญ .. น่าจะเป็นบางสิ่งบางอย่าง บางเรื่องบางราว ที่สร้างความวุ่นวายเดือดร้อนแก่คนอื่น พวกนี้เป็นประเภทไม่รู้ผิดชอบชั่วดี หรืออาจรับจ๊อบมา

เด็กเป-รต .. เป็นพวกมีอิทธิฤทธิ์นะ ว่านอนสอนยาก คงมีคนเคยได้ยินกันนะ ผมเองไม่เคยว่าใคร แต่เคยได้ยินบ้าง
เด็กเวร .. อาจเป็นเด็กที่ขยัน "ทำเวร" ก็ได้

มารสังคม .. "..โลกเอ๋ย ใยเลยสร้างคนเลวทราม

เหตุใดไม่คอยคิดตาม ลากตัวมาล่ามกักไว้ให้สม
.............. "​

ไปที่กูเกิล > มารสังคม วงจันทร์ ไพโรจน์
.

 

คำคม .. "เมื่อจิ๊กโก๋ปากซอยอ่อนล้า ชาวบ้านย่อมกล้าออกจากซอย"
ออกทำงานทำการได้ ไม่ต้องเก็บตัวอยู่ในซอย ทำอะไรก็ไม่ต้องคอยดูสัญญาณจากพี่โก๋ที่คุมซอย ชีวิตเริ่มดี๊ดี !!

เรื่องจริง .. คนดี คนทำมาหากิน ถ้ามีจิ็กโก๋นักเลงมาคุม จะทำอะไรก็หวาดผวา กลัวว่าเขาจะเล่นงานเอา .. สมัยก่อนที่กทม มีเล่าขาน ยุค 2499 อันธพาลครองเมือง เป็นต้น

แล้วยุคนี้ใครเป็นจิ๊กโก๋คุมซอยกันล่ะ .. เรื่องนี้ถ้าจะให้รู้ดี รู้โลก ก็ต้องอ่านเรื่องที่คุณลุงเล่านิทานเขียน คือ > นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น ท่านรู้จริง .. มีนิคเนมให้ตัวละครสารพัด ทั้งพระเอก ผู้ร้าย และอีกมากมาย

สำหรับเราชาวสารขัณฑ์ ก็น่ายินดี เหมือนคำร้องของหนังตะลุงรึไงเนื่ย "ทำอะไรทำเถิดอย่าเปิดผ้า ทำอะไรไม่ว่าผ้าอย่าเปิ๊ด" .. คือจะทำอะไรก็คงหายห่วงไปได้เยอะ เพราะพวกตัวป่วนน่าจะได้รับการส่งกำลังบำรุงน้อยลง วันหนึ่งคงถูกเท
...........................

นึกถึงข้อเขียนของใครจำไม่ได้ จำเรื่องได้เลยนำมาลงไว้ครับ

ไปที่กูเกิล > ผู้ใดควบคุมพลังงานผู้นั้นครองทวีป ผู้ใดควบคุมการเงินผู้นั้นครอบครองโลก​

ปัจจุบัน มีตัวเปลี่ยนเกมส์ คือ Hypersonic .. ฉะนั้น จะต้องเปลี่ยนม็อตโต้หรือเปล่า ??
.. ถ้าแบบตลกๆก็อาจเป็น "ไฮเปอร์โซนิก พิชิกเจ็ดคาบสมุทร"

หรือ "ผู้ใดครองไฮเปอร์โซนิกวันนี้ เป็นพี่ใหญ่วันหน้า"
​

(หมายเหตุ .. เข้ามาแก้ไขขัดเกลาเนื้อหาให้อ่านง่าย)
.

 

ถึงเขาหลอก ก็เต็มใจให้หลอก !!

เพลงๆนี้ นานทีเดียว น่าจะประมาณ พ.ศ.2520 กว่า
.. ไปที่กูเกิล > รู้ว่าเขาหลอก ศิรินทรา นิยากร

โพสต์ที่เขียนแรงไปรึไงนะ วันนี้เลยไม่ค่อยสบาย เมื่อตอนที่โพสต์เมื่อเช้า เสียงลมกรรโชกมาจากทางขวามือ .. วันนี้ทั้งวันได้ยินแต่เสียงพญานาค
.. ดังนั้นจึงขอลบออกครับ เหลือไว้แต่บทเพลง
........................

นี่เป็น หนัง+เพลง ครับ
.. ไปที่กูเกิล > โลกทั้งใบให้นายคนเดียว
.

 

เสียงพญานาค กับ พญาครุฑ สลับกัน

มาดูแลหรือไงไม่รู้นะ ขอเป็นบอกโชคลาภสักก้อนไม่ได้หรือ เพราะโลกคนซึ่งมีกายเนื้อ ต้องกินต้องจ่าย ย่อมต้องยึดเอาของมีตัวตนเป็นหลัก เงินตัวเดียวนะ .. เงินตัวเดียวที่เหนี่ยวให้ใจคนไม่ซื่อตรง อะไรๆก็เป็นไปได้ด้วยอำนาจเงิน
.. มีเงิน โลกก็สดชื่นแจ่มใส่ ถ้าไม่มีเงินก็แห้งเหี่ยว เหมือนหมาแมวจ๋องๆตัวนึง

ผมจะเป็นใหญ่ในภายภาคหน้ารึไง อีกเป็นล้านปีหรือเปล่า .. คิดว่านะ คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ เพราะคนเราเพิ่งอยู่กันมาไม่กี่พันปีก็รู้สึกนานนักหนา แล้วอีกเป็นล้านปีจะนานแค่ไหน .. จะไปคิดให้ปวดหัวทำไม่น้อ .. ใครที่ชอบคิดจะเป็นโน่นนี่ไม่ปวดหัวก็แล้วไป

ก็เพราะเรื่องจะเป็นใหญ่นี่แหละ ในสามโลกรึ ?? เปรยให้แม่บ้านฟังเรื่องสามโลกก็เจอดีเลย เธอถามว่า
แม่บ้าน .. มีอะไรบ้างล่ะ ไขมัน เบาหวาน ความดัน !
ผม .. พูดไม่ออก อึ้งกิมกี่เลย แต่ไม่ถือน่ะ แม่บ้านผมพูดเล่น เพราะคงคิดว่าผมพูดตลกนั่นเอง

พักนี้อาจมีคนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก อึ้งหรือใบ้กินกันเยอะ .. อากาศร้อนน่ะ !!
.....................

ไปที่ YouTube > เปาบุ้นจิ้น ตอน 1-80
.

 

ทะเลน้ำจืด หาดทราย และน้ำตกเทียม

ทะเลน้ำจืด แบบปกติ สามารถสร้างได้เมื่อมีที่ดินติดกับแหล่งน้ำ เช่น คลอง หรือ แม่น้ำ อาจจะต้องขออนุญาตหน่วยงานราชการ เพราะที่ดินแหล่งน้ำ มีเขตกั้นกับที่ดินของประชาชน รวมทั้งการขออนุญาตใช้น้ำ
.. เมื่อสามารถเจาะทะลุถึงกันได้ ก็ขุดที่ดินเป็นบ่อกักเก็บน้ำ ต้องมีขนาดใหญ่หน่อย จึงจะเข้ากับการเรียกว่า "ทะเลน้ำจืด" .. เมื่อมีทะเลแล้ว ก็ย่อมสร้างหาดทรายได้

อีกแบบหนึ่ง .. สามารถสร้าง "ทะเลน้ำจืด หาดทราย รวมทั้งน้ำตก" ได้ โดยใช้หลัก "การชลประทานระบบแรงโน้มถ่วง" ความหมายคือ นำน้ำจากแหล่งที่อยู่สูงกว่า เช่นภาคเหนือ ให้ไหลมาที่ต่ำกว่าทางภาคกลาง ด้วยระบบท่อ เหมือนกับกาลักน้ำ .. โดยผมเรียกว่า "การชลประทานระบบท่อและบ่อลอย"

.. ตัวเลขที่ทราบมา ความสูงกว่าระดับน้ำทะเลที่ภาคเหนือ เช่นเชียงใหม่ เชียงราย จะสูงกว่าที่ภาคกลาง สมมุติว่า กทม ประมาณ 700 เมตรจากระยะทางประมาณ 700 กิโลกเมตร เฉลี่ย 1 กม ต่างระดับกัน 1 เมตร .. เรานำสิ่งนี้มาใช้ประโยชน์ด้วยการสร้าง "การชลประทานระบบท่อ และบ่อลอย" (เรื่องนี้เคยเสนอความเห็นไปยังท่าน...รัฐบาลก่อน)

.. บ่อลอยก็คือบ่อที่วางตัวอยู่บนพื้นดิน อาจขุดบ้างเพื่อนำดินมาทำคันบ่อ โดยการสร้างคันดินล้อมเป็นบ่อ เป้าหมายควรเป็นบ่อขนาดใหญ่ เนื้อที่เป็นตารางกิโลเมตร หรือหลายตารางกิโลเมตร (ก็ไม่จำกัดตายตัวว่าต้องใหญ่ขนาดนี้)

.. นี่ก็เป็นการสร้างทะเลน้ำจืดนั่นเอง แล้วก็สามารถสร้างหาดทรายตามมา ถ้าความต่างระดับระหว่างต้นน้ำกับบ่อมีมาก เช่นซัก 30-40 เมตร เราสร้างคันดินเก็บน้ำที่ความสูงซัก 5-10 เมตร ส่วนความต่างระดับที่เหลือ ก็สร้างเป็นเนินทำน้ำตกเทียม .. ไม่ต้องมีการใช้ปั๊มแต่อย่างใด
......................

ไปที่กูเกิล > ทะเลน้ำจืด มีที่ไหนบ้าง ?
ไปที่กูเกิล.

 

ฝันเกี่ยวกับ Google และ YouTube
(นี่เป็นความฝันนะครับ ผิดถูกอย่างไรไม่มีเจตนา)

ฝันแบบเรื่องราวไหลเข้ามาในหัว
.. ในฝันเกี่ยวพันไปทาง YouTube ก่อนนะครับ .. ว่า ให้ผมลงชื่อเข้าใช้ เปิดเผยตัวตนและอาชีพ ทางกูเกิลมีเจตนาที่จะทำอะไรที่ดีๆต่อผม เพราะผมได้เขียนสิ่งที่เป็นการสร้างไอเดียที่ดี

ผมก็ได้ลงชื่อเข้าใช้ เมื่อสองวันก่อน แต่ยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดอะไรมากกว่าชื่อ จะลงรายละเอียดในโอกาสต่อไปครับ .. ต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมเป็นบุคคลธรรมดา แก่ๆคนหนึ่ง ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์อะไร หัวดีแต่กระเป๋าแฟบ เพราะไม่มีอะไรใส่ให้ตุงๆครับ

คิดว่าเมื่อลงชื่อเข้าใช้แล้ว เงาดำที่บดบังผมไว้ไม่ให้กูเกิลมองเห็นก็คงจะจางๆไป .. นี่ผมคิดมากไปเองรึเปล่านะ เพราะคนปัจจุบันเล่นแสงเล่นเงากันเยอะ
.. และคิดว่า จากนี้ไป นอกจากที่นี่แล้ว จะไปสมัครตามเว็บบอร์ดต่างๆ เพื่อเขียนอะไรที่เป็นการเชียร์ครับ
.

 

ความ"เหนื่อย" กับ ความ"มัน"

เหนื่อยมั๊ยพ่อ ?
เมื่อตอนลูกสาวผมยังเล็กประมาณ 5-6 ขวบ วันหนึ่งผมไปขนของกับเพื่อนร่วมงาน กลับมายังไม่ได้ลงจากรถ ลูกสาววิ่งมารับและถามว่า "เหนื่อยมั๊ยพ่อ?" .. เพื่อนร่วมงานว่า "น่าปลื้มน้อ ลูกตัวนิดเดียวรู้จักถามพ่อว่าเหนื่อยมั๊ย"

ขณะที่คนเราเหนื่อย การแสดงความห่วงหาอาทรจากใครก็ตาม ย่อมทำให้ปลื้ม ความเหน็ดเหนื่อยที่อาจมีก็อันตรธานหายไป .. เรื่องเช่นนี้ทุกท่านย่อมเข้าใจกันดี
.. ณ ปัจจุบัน หลายๆคนคงเหนื่อยกันมาก ไหนจะเหนื่อยกายเพราะต้องทำงานเพื่อหาเงินมาแลกเปลี่ยนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ, เหนื่อยใจเพราะหวังในสิ่งใดๆ แล้วไม่ได้ตามที่คาดหวัง "เหนื่อย"แต้ๆเนาะ ทั้งกายและใจ

อีกมิติหนึ่ง สำหรับผู้ที่มองเห็นแสงแห่งความยิ่งใหญ่ที่ปลายอุโมงค์ คงไม่อินังขังขอบอะไรมากนัก เล่นเกมส์อะไรก็ขอให้เป็นผู้ชนะก็ใช้ได้ อดีตของคนเราบ่งบอกว่า คนชนะย่อมเป็นผู้เขียน"ประวัติศาสตร" ลักษณะนี้ย่อมเกิดความ "มัน"

.. มีเรื่องนึงคือ "ท่านๆหนึ่งในโลกทิพย์" นานแล้วท่านเคยบอกว่า "เหนื่อย".. แล้วตอนนี้ท่านจะยังรู้สึกเหนื่อยมั๊ยน้อ จะทำยังไงล่ะครับท่าน
...............

เข้ามาขัดเกลาตัวหนังสือ รีไรท์ภาษาและไวยากรณ์ให้อ่านง่าย พอดีนึกขึ้นได้ว่า มีหญิงที่มีญานคนคุ้นเคย เคยบอกกับผมว่า
.. มีท่านๆหนึ่งนั่งอยู่บนดวงอาทิตย์ เท้าข้างหนึ่งขัดสมาธิ อีกข้างหนึ่งห้อยลง ยกมือข้างหนึ่งประทานพร .. ไม่ได้ถามว่าใคร ? ท่านใดรู้ช่วยเฉลยหน่อยครับ
.

 

เมตตา แต่อย่าผูกพันธ์

เคยอ่านวลีนี้จากในเว็บนี้ เป็นของสำนักปฏิบัติธรรมแถวสระบุรี รึไงเนี่ย
.. ก็คิดว่าน่าจะใช่นะ คนเราพยายามปล่อยวางกัน ถ้าเอาจิตไปผูกพันธ์กับสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยง คิดว่าจะมีผลยังไง
.. ท่านไม่กลัวจะไปเกิดเป็นสัตว์นั้นหรือไร จิตเราโหยหาอะไร ก็จะพยามยามไปหาสิ่งนั้น ตัวอย่างง่ายๆคนรักกัน ก็พยายามไปหากัน เป็นคนอยู่ดีๆถวิลหาแต่สัตว์ ชาติหน้าจะเป็นอย่างไรหนอ ?

แต่ก็มีเรื่องนึงที่อ่านเจอในเน็ตว่า "ชาติหน้าไม่มี เป็นเรื่องของคนโง่" .. อันนี้ผมไม่รู้รายละเอียดของข่าว และไม่ขอออกความเห็นนะครับ (ถ้าอยากรู้เสิร์ชกูเกิลดูเจอแน่)
.. เอาเรื่องที่ผมเข้าใจง่ายๆคือ นรก กับ สวรรค์ มีแน่ เคยพบบ่อยเหมือนกัน .. (หมายเหตุ เรื่องฮานะครับ)

นรก .. ถ้าท่านกินแล้วต้องซี๊ดแน่ จะแกงอะไรก็อย่าใส่มากเพราะเผ็ด ! น้ำพริกนรกน่ะ ชื่อดังก็แม่ประนอม
.. นอกจากนี้ยังมีโรงงานไฟนรก คือโรงงานหลอมแก้วหลอมเหล็กน่ะ

สวรรค์ .. อันนี้อร้อยอร่อย ที่มีชื่อเสียงก็ต้องแถวนครปฐม โคราช หรือขอนแก่น .. หมูสวรรค์ เนื้อสวรรค์ ไงล่ะ
.. หรือแนวตื่นเต้นสนุกสนาน ก็ต้องชิงช้าสวรรค์ เมื่อตอนเรียนหนังสือขึ้นกับเพื่อน มันซนโยกชิงช้าสะบัดไปมาเกือบตีลังกา มันสนุกแต่เราหวาดเสียว กลัวตกสวรรค์น่ะ

เขาว่าไปอย่างนั้น เราก็เลยว่ามาอย่างนี้ .. แค่นั้นเองครับ
.. ความจริงเรื่องนี้ เป็นเรื่อง "เสียของ" หรือเปล่า ?? ก็อาจเป็นอุทธาหรณ์ หรือ บทเรียน ถ้าเป็นเรื่องทางโลกก็ต้องว่า "คบคนให้ดูหน้าดูหล้ง"
.

 

เกิดเป็นคนต้องดิ้นรนบ่หยุด โลกมนุษย์มันบ่แน่บ่นอน
.. เนื้อเพลงชื่ออะไรไม่รู้ ขออนุญาตนำมาท่อนหนึ่งครับ

การดิ้นรนมันก็มีหลายแบบ
.. ดิ้นรนทำมาหากินเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด
.. ดิ้นรนทำมาหาเพิ่ม เพื่อความมีชื่อเสียง เพื่ออำนาจ เพื่อความยิ่งใหญ่ มั่งคั่ง ร่ำรวย
.. ดิ้นรนเพื่อหาความหลุดพ้นจากความทุกข์ ไม่ต้องมาเกิดอีก
.. และอีกหลายดิ้น อย่างถูกจับถูกมัดก็ต้องดิ้น .. ที่แสดงกิริยาแปลกๆเรียกว่า ดีดดิ้น เป็นต้น

อาจมีคำที่เป็นน้ำเย็นเข้าลูบคือ อยู่สงบๆกันบ้างเถอะท่านทั้งหลาย .. อย่าดิ้นรนขวนขวายกันมากนักเลย บทสุดท้าย (สำหรับผม) ก็ต้องการที่เพียง 50x50x185ซม เพื่อนอนไปวัดเท่านั้นเอง
...................

หนังสะติ๊กเป็นของเล่นโบราณ
ปลากับพรานเบ็ด และนกกับพรานหนังสะติ๊ก เป็นคู่ที่คล้ายกัน .. จะมีคำกลอนลักษณะนี้รึเปล่า ต้องถามปลาและนกดูครับ ? (เพื่อความบันเทิงครับ)

"เมื่อหนังสะติ๊กวิเศษถูกใช้งาน .... เรื่องอลหม่านในโลกจะจบลง
สกุณา อินทรี-อีกาทั่วไพรพง ...... ต่างก็คง หยุดเสียงร้องขับขาน
เลิกเอะอะวุ่นวายขายปลาช่อน .... หันมาอ้อนพี่ใหญ่ให้สงสาร
อย่าทำหนูเลยนะพี่ ขอเป็นทาน .. จะไม่ทำ ความรำคาญให้อีกเลย"​

ขออนุญาตแปะ YouTube
> https://www.youtube.com/shorts/hDCMgPLS5y4
................
ภาพจากอินเตอร์เน็ต

 

แมวมอง
เจอแม่ค้าสาวสวยขายล็อตเตอรรี่ แวะซื้อแล้วก็ถือโอกาสแซวนิดหน่อย

แม่ค้า .. หาเลขอะไรคะ?
ผม ..... เดี๋ยวขอดูก่อน .. เอ้อ แม่ค้าเห็นแมวบ้างมั๊ย ?
แม่ค้า .. แมวคุณลุงหายเหรอ สีอะไร ?
ผม ..... ไม่ใช่แมวของผมหรอก เป็นแมวทั่วไปน่ะ
แม่ค้า ..ไม่ใช่แมวคุณลุง แล้วหาทำไม?
ผม ..... คือ เป็นแมวที่สนใจคนสวย .. เคยเห็นมั๊ย "แมวมอง" น่ะ
แม่ค้า .. ยิ้มทำท่าอาย แหมคุณลุง เล่นมุกก็ไม่บอก !!​

..................

ความคิดที่ดี .. แต่จะเป็นไปได้หรือ ?
.. ถ้า เทพ พรหม เทวดา เจ้าที่เจ้าทาง ผีสางนางไม้ เจ้าพ่อ เจ้าป่าเจ้าเขา ฯลฯ จะช่วยกันดูแล ปท ก็คงเป็นเรื่องดี เป็นการเบาแรง คน, เจ้าหน้าที่ ผู้มีหน้าที่ได้เป็นอย่างมาก แล้วจะทำยังไงจึงจะเป็นแบบที่คิดนี้ได้
.. จะมีมั๊ย ผู้ที่มีบารมี สามารถขอความช่วยเหลือจากโลกทิพย์ทำการเช่นนี้ เพราะผู้ที่จะทำการนี้ได้ต้องมีบารมีมากกก ออกปากอะไรโลกทิพย์ก็ยินดีช่วยเหลือ

.. ทุกวันนี้ โลกทิพย์สวนหนึ่งก็มัวแต่รอรับส่วนบุญ หาเครื่องเซ่นสังเวย หาร่าง หาตำหนัก .. มาสร้างคุณประโยชน์ให้ปทที่รักของเราจะดีกว่ามั๊ย จะต้องขออนุญาตใครหรือไม่ สำหรับความคิดและจะกระทำการเช่นนี้ ?

วิธีการ ไม่ต้องทำบาปทำกรรมหรอก .. ผู้ใดที่ทำไม่ดี ก็แค่ไปสื่อสารให้เขารู้ หรือสื่อสารกับลูกเต้าให้ไปบอกกับพ่อแม่อีกทอดก็ได้ เพราะจิตเด็กบริสุทธิ์จะรับรู้สื่อจากโลกทิพย์ได้ง่ายกว่า .. อย่าทำร้ายหรือทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเขา

อีกมิติหนึ่ง ใครๆก็มีที่กราบไหว้บูชา ท่านที่เป็นผู้ถูกกราบไหว้บูชาโปรดตรองดูว่า คนที่เขาบูชาท่านนั้นดีหรือไม่อย่างไร .. ถ้าดีก็คุ้มครองนั่นถูกแล้ว แต่ถ้าไม่ดีล่ะ ท่านจะคุ้มครองเขาหรือ?

 

ปล่อยวาง หรือว่า เปื้อนฝุ่น
.. เปรียบเปรยว่า การไม่เอาอะไรเลยก็คือการปล่อยวาง, การเอาโน่นเอานี่ไม่ว่าดีหรือชั่ว ก็เหมือนกับฝุ่นมาเกาะตัวเรานั่นเอง

.. มีเงินมาก ท่านก็ต้องจดจำว่ามีเท่าไร ฝากกับธนาคารไหนบ้าง ต่อไปจะแบ่งให้ลูกหลานยังไง คนละเท่าไหร่
.. มีเพื่อนมาก ท่านก็ต้องจดจำเพื่อน ต้องสังสรรค์ สัมพันธ์กับเพื่อน
.. อยากเรียนรู้มาก ก็ต้องหาความรู้มาสะสมไว้ แต่ก่อนเป็นหนังสือ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นดิจิตอล ก็ต้องมีที่เก็บสะสม ผมเองมีแฮนดี้ไดรว์หลายตัว ปวดหัวกับมันมาก ต้องเสียเวลากับมันมาก กลายเป็นว่าเราถูกความรู้เกาะตัวหนักมาก

.. อยากมีลู่ทางดีๆ อยากไปสวรรค์ (คงไม่มีใครหาทางไปนรกหรอก) ก็ต้องพร่ำไหว้พร่ำสวด .. มีคนรู้จักกันคนนึง ใช้เวลาบูชาหุ่นทั้งหลาย สวด ถวายของ รวมๆแล้ววันละ เป็นชั่วโมง (เธอบอกเอง) .. เอาเวลาไปทำงานทำการบ้างดีกว่า
.. ในเมื่อมีความว่า ทุกอย่างเกิดแต่กรรม ฉะนั้นเราจะดิ้นจะรน เพื่อฝืนกรรมได้เหรอ อาจจะมีคำว่า แก้กรรม หรือสร้างกรรมดีตัดกรรมชั่ว .. ก็ว่ากันไปจริงหรือไม่ไม่รู้

สรุปว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเสาะหา และที่เราได้มา มันก็เปรียบเหมือนฝุ่นที่มาเกาะตัวเรา เกาะที่ใจเรา มีมากก็หนักมาก .. แล้วท่านจะปล่อยวางได้อย่างไร .. บางคนพร่ำแต่คำว่าปล่อยวาง ไปๆมาๆคำว่าปล่อยวางนั่นแหละ เกาะตัวเขาจนหนักอึ้งเลย

หมายเหตุ .. ความต่างกันระหว่างการดำเนินชีวิตตามปกติของสัตว์โลก กับการดำเนินชีวิตเพื่อความหลุดพ้น เป็นเรื่องไปคนละทางหรือสวนทางกัน การจะหลุดพ้นทำในสิ่งที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เช่น ไม่ฆ่ากัน ไม่ขยายพันธุ์ เป็นต้น

 

ส เสือ
เมืองไทยมีเสือเยอะนะ ที่เป็นเสือจริงๆไม่รู้ว่าเยอะหรือเปล่า ที่ว่าเยอะนี่ไม่ใช่เสือจริง เป็นชื่อย่อ ชื่อเรียก หรือเป็นเสือภาษาครับ เช่น

.. แต่ก่อนนานมาก ก็มี ส ธรรมภักดี เป็นห้างรึไงเนี่ย นานมากจำได้แต่ชื่อ มีคำร้องว่า ส ธรรมภักดีมีอะไรบ้าง ?
.. สส นี่ก็นานแล้ว สมัยนั้นมีเพลงของท่านคำรณ เนื้อร้องเกี่ยวกับการเลือกผู้แทน
.. สสส เป็นชื่อย่อ สถานีวิทยุเสียงสามยอด

.. เสือตะวันออก เป็นเสือที่ยิ่งใหญ่
.. เสือตัวที่ 5 อันนี้แต่ก่อนเขาว่า ไทยเป็นเสือตัวที่ 5 ในเอเชีย คือเป็นการติดท็อปไฟว์
.. 5 เสือ อันนี้หมายถึงระดับผู้นำในองค์กร คือเป็นระดับท็อปไฟว์ เช่นกัน

.. 5 ส อันนี้เป็นโปรแกรมการทำความสะอาดเรียบร้อยสถานที่
.. มายุคปัจจุบัน ก็มีเสือตัวที่หก เรียกแต่ตัวหน้าครับ มีตัวตามหลัง ก็คงรู้กันอยู่เป็นเสืออะไร เพราะกำลังเป็นข่าวอยู่ (ใครมีญานต้องการรู้มากกว่านี้ ต้องเรียนถามท่านเจ้าพ่อเขาใหญ่ครับ)

เขียนสนุกๆเท่านั้นครับ ไม่กล้าเขียนมาก โธ่..ก็รู้กันอยู่ ขึ้นชื่อว่าเสือย่อมไม่ใช่แมวนี่นา คนเราย่อมไม่กล้าเข้าใกล้เสือ .. ตะเข้อีกอย่าง ถ้าไม่ใช่ "ไกรทอง" ละก็ อย่าเข้าใกล้เชียว

หมายเหตุ .. เข้ามาต่อเติม คือลืมเสือระดับพระเอกในยุทธภพ ได้แก่เสือใบ เสือดำ และเสือมหเศวร ในนิยายของท่าน ป.อินทรปาลิต ครับ เยี่ยมยุทธทั้งนั้น
.. จำได้มีการดวลปืน.

 

หนักนัก เอามั๊ย ?

ก่อนนี้ เคยมีหนังทีวีเรื่อง "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" .. มีเพลงประกอบเป็นเสียงของปู่ว่า "หนักนัก เอามั๊ย ?"
.. ผู้ประพฤติธรรมก็คงเข้าใจ อะไรๆมันหนักทั้งนั้น ถ้าเสาะหามากก็ต้องแบกหนักมาก ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น
.. ความคิดของผม ถ้าเราไม่มีพื้นฐานเลย คือถ้ายังไม่รู้อะไรเลยแล้วเราจะเริ่มต้นอย่างไร ฉะนั้นการเรียนรู้ในปริมาณหนึ่งก็เป็นสิ่งจำเป็น เหมือนรถ ถ้าไม่มีการออกสตาร์ทเลย แล้วจะออกวิ่งจะไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างไร

.. สติปัญญา หัวสมองของเราทุกคนก็มีกันอยู่ น่าจะพิจารณาได้ว่า ควรจะสนใจหาความรู้แค่ไหน เพื่อที่จะสามารถกรุยทางต่อไปได้เอง โดยไม่ต้องหาฟังหาอ่านหรือเรียนรู้จากใครต่อใครแบบสัพเพเหระไม่รู้จักจบ ยิ่งปัจจุบันมีตั้งตนเป็นอาจารย์กันเกร่อมากหน้าหลายตา ขืนรับเอาคำของเขาทุกคนมาใส่สมองเรา ก็คงมีหวังเหมือนที่ปู่โสมว่า "หนักนักเอามั๊ย ?" นั่นแหละ

สรุปว่า .. เริ่มต้นก็ต้องหาความรู้ ต้องเรียนรู้ก่อน แต่ถ้าเรียนมันตะพืดตะพือไม่รู้วันจบ .. จะใช่หรือ ? เฉกเช่นโรงเรียน ถ้าใช้เวลาเรียนพอดีๆก็เซฟเวลาออกทำงานได้เร็วขึ้น ถ้าเรียนนานไปกว่าจะจบก็อายุมากขึ้น อันนี้คงเน้นไปที่หลักสูตรนะครับ .. (ความเห็นของผม ถ้าจบ ปตรีที่อายุ 20 เป็นตัวเลขที่สวย บรรลุนิติภาวะพอดี) ขออภัยที่พาดพิง

ผิด ตก ขออภัยครับ ที่เขียนออกมาแนวนี้
.. สิ่งดีมีน้อยย่อมมีค่า ถ้ามากไปค่าไม่มี ?
..

 

(ขออภัย โพสต์ถี่ไปหน่อย)

ฝียุบ .. ฝีเกิดใหม่ !

ฝีย่อมอักเสบ สร้างความเจ็บปวดให้เราเจ้าของร่างกาย การทำให้มันยุบไปนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะก็เห็นๆกันอยู่ว่า ฝีนั้นมันอันตราย ไปสมรู้ร่วมคิดกับเชื้อโรคที่มาจากต่างแดน แฝงมาเพื่อทำร้ายร่างกายเรา

ก็มีความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ แบบ "เขียนวัวให้เสือกลัว" ว่า ถ้าฝีนี้ถูกยุบ ฝีที่เกิดใหม่จะร้ายแรงกว่าฝีเก่า โดยอ้างอิงอดีตที่ผ่านมา มีฝียุบไป 3 ครั้ง ที่เกิดใหม่ล้วนรุนแรงกว่าเก่า !

.. เรื่องนี้อาจจะจริง แต่ว่ามองในด้านเจ้าของร่างกาย คิดว่า ในเมื่อมีประสบการณ์ให้เรียนรู้เช่นนี้ เจ้าของร่างกายก็ย่อมต้องเตรียมทางแก้ไว้ เพื่อไม่ให้เป็นเช่นอดีตที่ผ่านมา .. คิดว่าครั้งนี้ เมื่อฝียุบไปแล้วเจ้าของร่างกายก็ต้องหาทางป้องกัน หาทางกำจัดเชื้อที่จะเกิดใหม่ไม่ให้มีความรุนแรง

.. อีกอย่างหนึ่ง ที่พอเบาใจคือ เชื้อที่มาจากต่างแดนก็กำลังอ่อนลงไปเยอะ การจะมาสนับสนุนให้ฝีที่จะเกิดใหม่มีความรุนแรง ก็อาจทำไม่ได้หรือได้ไม่เต็มที่ ก็นับเป็นเวลาที่ดีของร่างกายเรา สามารถสร้างภูมิต้านทานได้ดีกว่าเดิม

ประการสำคัญ คือ อนูอวัยวะส่วนต่างๆของเรา จะต้องไม่เห็นดีเห็นงาม อยากให้มีฝี อย่าหาฝีมาใส่ตัว ว่างั้น .. การบอกกล่าวหรือประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจถึงความเสียหายที่จะเกิดจากฝี จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำ อย่าให้เห็นผิดเป็นชอบ .. บ้านเรามีคนไม่เข้าท่าบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าจะสนับสนุน เทใจให้คนที่คิดเอาคนอื่นมาเป็นนายเรา เพราะนั่นคือเราจะเป็นทาษเขานั่นเอง

คำคม .. สมมุติว่า บ้านเราญาติพี่น้องทะเลาะกันบ้างก็เป็นเรื่องภายในครอบครัว ย่อมดีกว่าจะมีใครคนใด ไปเอาคนนอกครอบครัว มาทะเลาะกับคนในครอบครัวเรา .. ไฟนอกอย่านำเข้า !
.