เกี่ยวกับ หลวงพ่อเกษม

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย sutanon, 15 ธันวาคม 2011.

  1. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,318
    เอ่อผมแค่บอกว่าเข้าใจครับ แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังไหว้พระอยู่
    ผมรู้ตัวอยู่ครับว่าผมกำลังทำอะไร
     
  2. thaijin

    thaijin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +16
    โต้ไปโต้มาไม่มีจบ ร้อยคนร้อยความคิดเห็น คนที่เห็นถูกก็จะเห็นถูกวันยังค่ำ
    ส่วนคนที่เห็นผิดก็จะเห็นผิดอยู่ร่ำไป บัวยังมี สี่เหล่าใช่มั้ย
    ขนาดองค์สัมมาสัมพุทธเจ้ายังต้องเล็งญาณเพื่อโปรดเพราะตระหนักดีว่า การรับรู้ของทุกคนต่างกัน ง่ายยากตามลำดับ ท่านจึงโปรดเทศน์คนที่เป็นบัวพ้นน้ำก่อน เป็นการเข้าใจง่ายบรรลุธรรมง่าย

    ถ้าเปรียบสมัยนี้ก็คือสอนให้ตายมันก็ไม่เชื่อก็เรื่องของมัน ทุกอย่างย่อมมีตรงกันข้าม ดีและชั่ว ทุกข์และสุข ก็เลือกเอาตามสติที่มีอยู่
    ส่วนตัวผมเอง ก็ต้องขอบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพระเกษม ความจริงก็คือความจริงหลีกหนีไม่พ้นแน่นอนและพฤติกรรมนอกรีตพระศาสนาแบบนี้สังคมเป็นผู้ตัดสินแต่กรรมรอจัดสรรเมื่อสิ้นลม ผู้ที่ยังหลงยังเชื่อก็คงต้องปล่อยให้เป็นกรรมของเขาต่อไปเพราะเขาพิจารณามาอย่างนั้น
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002

    พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า

    ประโยชน์อะไรในรูป(มหาภูตรูป ๔[ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม])ที่น่าเกลียดซึ่งชนพาลชอบเล่า
    ก็บัณฑิตใดเห็นสัทธรรม บัณฑิตนั้นชื่อว่าเห็นเรา ผู้ไม่เห็นสัทธรรม
    ถึงจะเห็นเราก็ชื่อว่าไม่เห็น กายมีโทษไม่สิ้นสุด เปรียบเสมอด้วย
    ต้นไม้มีพิษ เป็นที่อยู่ของโรคทุกอย่าง ล้วนเป็นที่ประชุมของทุกข์
    เพราะฉะนั้น ท่านจงเบื่อหน่ายในรูป พิจารณาเห็นความเกิดขึ้น
    และความเสื่อมไปแห่งขันธ์ทั้งหลาย จักถึงที่สุดแห่งสรรพกิเลสได้


    พระพุทธเจ้าให้สร้างเจดีย์สถูปสำหรับพระอรหันต์ ผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ผู้ถึงพระนิพพาน ผู้สิ้นแล้วซึ่งทุกข์ เจดีย์เก็บพระธาตุของพระอรหันต์เป็นสถานที่ควรบูชา สร้างโดยผู้มีศีล สมาธิ ปัญญา

    พระพุทธรูปสร้างเป็นพุทธพาณิชย์ไม่ใช้กิจของสงฆ์ พระสงฆ์ทุศีลเป็นผู้สร้าง ประกอบพิธีเปิดฟ้า เสกน้ำมนต์เป่าคาถา ปะพรมน้ำมนต์ บทสวดมนต์ก็แต่งขึ้นใหม่ ไม่ใช่บทสวดที่พระพุทธเจ้าบัญญิติ ไม่ใช่ศาสนาพุทธ
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ท่านบอกไม่เห็นด้วยกับพระเกษมแต่ท่านยังเรียกหลวงพ่อเกษมว่า "พระเกษม" ขอนับถือความคิดท่านครับ:cool:
     
  5. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ไม่ว่าพระพุทธรูปจะเกิดด้วยสิ่งใด ทำมาอย่างไรหากสำเร็จเป็นพระพุทธรูปแล้ว
    ยอมบรรลุความเป้นสัญลักษณ์ที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้

    เหมือนการบวชพระ บวชเสร้จก็เป็นสมมุติสงฆ์ จะเป็นสงฆ์จริงๆก็เมื่อเป็นอย่างน้อยโสดาบันขึ้นไป แต่ท่านก็ทำหน้าที่การทรงไว้ซึ่งศาสนาเช่นกัน

    หากจะปฏิเสธสมมุติ ก็คงต้องปฏิเสธการบวช หากปฏิเสธการบวช แล้วศาสนาจะสืบต่ออย่างไร

    ปฏิเสธพระพุทธรูป แล้วจะมีสิ่งใดให้ระลึกถึงพระศาสดา ได้ดีและง่ายแก่คนทั่วไปได้

    เราไม่ได้รอฟังธรรมจากพระพุทธรูปอยู่แล้ว เพราะต่างก็รู้อยู่ว่าพระพุทธรูปแสดงธรรมไม่ได้ แต่พระพุทธรูปก็ทำหน้าที่เหมือนพระเจดีย์

    ที่ทำให้ผู้พบเห็นระลึกถึงพระรัตนตรัย หรือไม่จริง

    เรากราบไหว้เจดีย์ เราก็ไม่ได้ไปหาว่าใครสร้าง ข้างในบรรจุพระธาตุของใครไว้จริงหรือเปล่า เราบูชาด้วยจิตเลื่อมใสบุญย่อมบังเกิด

    ดังที่พระพุทธองค์สอนไว้ว่า หากมีจิตศรัทธาเสมอกันการบูชาย่อมมีผลเสมอกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2011
  6. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +195
    คุณอุรุเวลา เคยกล่าวไว้ว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้อนุญาตให้สร้างพระพุทธรูป
    ผมก็ยังงง เค้าเอามาอ้างได้ไงฟะ ถ้าเช่นนั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้อนุญาต
    ให้ฉันน้ำชา ทำไมพระที่ท่านคอยแก้ต่างอยู่นี้ยังฉันได้อยู่ และอีกหลายอย่าง
    ที่พระพุทธเจ้าไม่ได้อนุญาต ถ้าจะนับก็คงจะไม่พ้นข้ออ้างของท่านอุรุเวลา

    มันไม่สมเหตุสมผลนะครับที่อ้างมา เรื่องการกราบไหว้รูปพระพุทธเจ้า
    ก็เหมือนคุณกราบไหว้กระดาษที่มีรูปบรรพบุรุษคุณ

    เรื่องนี้ถึงให้เหตุผลมากมายคนที่ไม่เข้าใจความหมายนี้ ก็คงจะไม่มีปัญญาเข้าใจได้แล้ว
     
  7. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +195
    จิตคุณอุรุเวลา ยังเกิดดับอยู่ตลอดอยู่มั้ยครับ

    ที่ถามเพื่อที่จะให้แน่ใจว่าคุณยังคิดแบบนี้อยู่หรือไม่

    เช่นกันเรื่องการทำลายและละเลยรูปเคารพพระพุทธเจ้า
    คุณก็คงจะไม่มีวันที่จะหันกลับมาด้วยทิฐิมานะในตน
     
  8. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +729
    คืองี้ครับ ผมก็เคยจะสร้างแต่ ท่านทรงตรัสว่า สิ่งนั้นเป็นเพียงสิ่งสมมุติ แทนเราตถาคต แต่เมื่อเธอมีเราตถาคต อยู่ในใจตลอดเวลาอยู่แล้ว อานิสงนั้นย่อมมากมาย ไม่จำเป็นต้องสร้าง สิ่งแทนตถาคต อันเป็นเพียงสิ่งสมมุติ ก็ได้
     
  9. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +195
    ---------------------

    คุณรู้ได้อย่างไรว่าท่านทรงตรัสไว้ แสดงว่าที่คุณอ้างถึง
    พระพุทธเจ้าได้เห็นมีคนสร้างมาแล้วใช่มั้ยครับ
     
  10. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +195
    ถึงรุ่นเราไม่มีให้เห็นรูปพระพุทธเจ้า แต่ก็ยังจดจำรูปลักษณะพระองค์ได้ (จากพระพุทธรูป)
    ต่อไปคนรุ่นหลังจะใช้อะไรหละที่จะลึกถึง แล้วเค้าเหล่านั้นจะได้อนิสงค์อย่างที่คุณ jate2029 กล่าวไว้ได้อย่างไรครับ
     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ครั้งนั้น สมเด็จพระมุนีผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์
    ผู้หวาดกลัว พระองค์ได้ทรงรับเราด้วยฝ่าพระหัตถ์อันอ่อนนุ่ม มี
    ตาข่ายอันท่านกำหนดด้วยจักร จำเดิมแต่นั้นมา เราก็เป็นผู้ถูก
    รักษาโดยพระพุทธเจ้า จึงเป็นผู้พ้นจากความป่วยไข้ทุกอย่าง อยู่
    โดยสุขสำราญ เราเว้นจากพระสุคตเสียเพียงครู่เดียวก็กระสัน พอ
    อายุได้ ๗ ขวบ เราก็ออกบวชเป็นบรรพชิต เราเป็นผู้ไม่อิ่มด้วย
    การดูพระรูปอันประเสริฐ เกิดพระบารมีทุกอย่าง มีดวงตาสีเขียว
    ล้วน เกลื่อนกล่นไปด้วยวรรณสันฐานอันงดงาม ครั้งนั้น พระพิชิต
    มารทรงทราบว่า เรายินดีในพระพุทธรูป จึงได้ตรัสสอนเราว่า
    อย่าเลยวักกลิ ประโยชน์อะไรในรูปที่น่าเกลียดซึ่งชนพาลชอบเล่า
    ก็บัณฑิตใดเห็นสัทธรรม บัณฑิตนั้นชื่อว่าเห็นเรา ผู้ไม่เห็นสัทธรรม
    ถึงจะเห็นเราก็ชื่อว่าไม่เห็น กายมีโทษไม่สิ้นสุด เปรียบเสมอด้วย
    ต้นไม้มีพิษ เป็นที่อยู่ของโรคทุกอย่าง ล้วนเป็นที่ประชุมของทุกข์
    เพราะฉะนั้น ท่านจงเบื่อหน่ายในรูป พิจารณาเห็นความเกิดขึ้น
    และความเสื่อมไปแห่งขันธ์ทั้งหลาย จักถึงที่สุดแห่งสรรพกิเลสได้

    พระพุทธรูปที่ท่านกราบไหว้ความหมายตามพระไตรปิฏก หมายถึง ร่างกาย ก้อนกายอันประกอบไปด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นของน่าเกลียด เป็นกายเน่า

    พระพุทธเจ้าบอกว่า รูปมีโทษไม่สิ้นสุดเปรียบเหมือนตันไม้มีพิษ ให้พิจารณาเบื่อหน่ายในรูป พิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่งขันธ์ทั้งหลาย(รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ไม่ใช่รูปปั้นที่พวกท่านเข้าใจกัน พระพุทธเจ้าบอกว่ากายของพระองค์เป็นกายเน่าเป็นรูปที่น่าเกลียด แต่ชาวพุทธกับมีความยินดีในรูปปั้นที่พระสงฆ์ทุศีลสร้าง

    เรื่อง รูปหล่อ รูปปั้น ที่พวกท่านกราบไหว้กัน ในสมัยพุทธกาลก็มีพูดถึงแต่มันจะติดเรท 18+ ไปหน่อย ใครอยากอ่านเรื่อง รูปหล่อ รูปปั้น ก็ไปค้นหาเอาเองในพระไตรปิฏกครับ
     
  12. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +195
    โอ้ววว....คุณอุรุเวลา เอาพระพุทธเจ้ามาอ้างเช่นนี้
    อย่างกับว่ามนุษย์ในโลกนี้ผ่านบารมีสิบทัศน์มากันหมดแล้ว
    จึงเห็นดั่งเช่นพระพุทธเจ้า
     
  13. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +729
    อ่านะ อันนี้หมายถึง สำหรับผมไง ครับ แต่จริงๆ สร้างได้ท่านไม่ได้ ห้ามศรัทธา ของของพุทธบริษัท หรอกเพียงแต่ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งสมมุติ ดั่งกับท่าน พระตถาคต เคย ตรัสกับ พระพาหิยะ เมื่อได้พบท่านว่า พาหิยะ เธอเมื่อเห็นรูปแล้ว จงสักเพียงแต่ว่าเห็นรูป เท่านั้น อันนั้นเราแลกเปลี่ยนกัน ผมไม่ได้ว่าอะไร ถึงแม้คุณจะแย้งผมนะครับ ผมจะตอบได้แค่ที่ผมทราบนะ ครับ เพราะการเถียงกันด้วย โทสะหรือ อัตตา นั้นไม่มีประโยชน์
     
  14. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +195
    -----------

    เรื่องนี้ เราต้องเข้าใจพื้นฐานแต่ละคนเสมือนการเรียนจาก ป.1-จบปริญญา
    ถ้าคนเรา อยู่ๆ จะไปเรียนระดับปริญญาเลยโดยไม่ผ่านพื้นฐานใดๆ
    คิดว่าผู้นั้นจะเรียนสำเร็จหรือไม่หละครับ เช่นกันใครจะหลุดโลกแล้วซึ่ง
    วัตถุและสิ่งทั้งหลายคือการปรุงแต่ง เห็นทุกอย่างเป็นเพียง 01 เหมือนใน
    หนัง เดอะแมสทริก

    นั่นก็ต้องผ่านกระบวนการพื้นฐานเหล่านั้นมาทั้งนั้น คุณเองก็ต้องศึกษามาก่อน
    ถึงได้รู้ว่าสิ่งที่คุณพูดอยู่นั้นหมายถึงอะไร
     
  15. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +729
    มีเหตุผล ใช้ได้ครับ นับถือ ๆ
     
  16. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,318
    เอาเวลาโต้วาที ไปนั่งสมาธิ จะดีกว่านะครับ
     
  17. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +195
    ------------------

    ผมเชื่อว่าที่ออกความเห็นปกป้องรูปพระพุทธเจ้า จะได้อนิสงค์ผลบุญแน่นอน
    ส่วนผู้ที่ขัดขวางอนิสงค์นี้ ก็ถือว่าต้องรับกรรม ซึ่งไปขัดขวางการได้อนิสงค์ผลบุญ
    ผมเคยกล่าวเอาไว้ว่า อนิสงค์ผลบุญที่ได้มีส่วนช่วยปกป้องรูปพระพุทธเจ้า
    เมื่อบุญสำเร็จแล้ว ขออุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของผม แต่ถ้ามีใครตามขัดขวางอนิสงค์ผลบุญนี้ ก็ขอให้เจ้ากรรมนายเวรรับรู้ไว้
     
  18. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ปกป้อง ณ. ที่นี้ มันได้ผลจริงหรอครับ
    แต่ที่ผมเห็นตอนนี้คือ จ่างคนต่างกำลังยกเหตุผล
    เพื่อให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูก ถามตัวเองก่อนว่า
    ปกป้อง พุทธศาสนา หรือ ปกป้องตัวเอง
    และผมไม่ได้จะขัดขวางอะไรหรอก
    เพียงแค่คิดว่า ถ้าไปนั่งสมาธิ จะมีประโยชน์กว่าอีก
     
  19. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +195
    ----------------

    ในความคิดคุณ ก็คงคิดได้เพียงเท่านี้แหละครับ

    สิ่งที่ถูกต้องกำลังถูกบิดเบือน ผู้ที่ไม่ได้มีปัญญาก็หลงไปว่าสิ่งที่เค้ากล่าวนั้นถูกต้อง และก็เริ่มทำลายและหันหลังให้กับรูปพระพุทธเจ้า ซึ่งนั่นจะยิ่งให้ห่างจาก
    พุทธานุสติ

    ส่วนเรื่องปฏิบัติสมาธิ ปกติผมปฏิบัติเป็นประจำ เป็นเวลา และก็ต้องเป็นที่สัปปายะ ตอนนี้ซึ่งไม่ได้อยู่ในเวลาและข้อที่ผมต้องปฎิบัติ ฉะนั้นก็ไม่ได้เสียเวลาอะไร

    ส่วนคุณเองว่าเป็นเรื่องเสียเวลา แล้วทำไมยังถึงได้เอาเวลาของคุณมาบอกคนอื่นเค้าอยู่หละครับ
     
  20. poopo_n

    poopo_n สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +21
    สุดท้ายทุกคนก็นับถือองค์พระพุทธเจ้าเหมือนกัน
    ผมเบื่อเติมทีแล้วครับ การทำลายพระพุทธรูปเพื่อไม่ให้ยึดติด
    ถ้ามีพระคิดทำลายในยุคแรกที่มีการเริ่มสร้าง น่าจะทำได้เพราะยังไม่แพ่รหลาย
    แต่ผ่านมาเป็นพันปีแล้ว ความคิดนี้คงจะยากและคงทำไม่ได้แน่
    ผมก็ไม่เห็นด้วย แต่ใจอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือหาวิธีทำยังไงให้คนรุ่นให่ม
    หันมาสนใจคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะสังคมแย่ลงทุกทีคนยึดติดวัตถุและเงิน
    สังคมเสื่อมมากตอนนี้
    ะ ส ท
     

แชร์หน้านี้

Loading...