เกี่ยวกับ หลวงพ่อเกษม

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย sutanon, 15 ธันวาคม 2011.

  1. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    839
    ค่าพลัง:
    +1,524
    คันมือ ขอโพสอีกที ผมได้พิจารณาโดยละเอียดแล้ว ยืนยันคำเดิมว่าพระเกษมวัดสามแยกเป็นพระอรหันต์ ถ้าไม่ใช่ผมขอรับผิดชอบเพียงผู้เดียว ถ้าใช่ก็ขอให้ผมเจริญรุ่งเรืองโดยฉับพลัน ส่วนการสอนของท่านอาจแย้งในสมมุติกับอริยะองค์อื่น ถือเป็นดุลยพินิจของท่าน ผมไม่แตะ ใครจะสร้างกรรมกับพระอรหันต์โดยอ้างว่าปกป้องศาสนา ผมก็ไม่รู้ว่าได้บุญหรือบาป ต้องไปถามพญายมเอาเองนะ
     
  2. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +36
    เราคนนึงเห็นด้วยคะว่า ท่านเกษมสอนถูกต้อง ท่านเป็นพระป่า ท่านไม่มากพิธี ....และอีกอย่างหนึ่ถ้าเราลองย้อนดูวิถีของพระสงฆ์สมัยพุทธกาล ท่านห่มจีวรจากผ้าห่อศพด้วยซ้ำและมุ่งสมถะ นั่นคือเหตุผลที่พุทธต่างจากฮินดู เพราะฮินดูจะมีพิธีกรรมหรูหรา มากพิธี แต่พุทธจะเรียบง่าย และอีกอย่างการบูชารูปเคารพเป็นวัฒนธรรมแบบกรีก พุทธเรารับมาทีหลัง หลังสมัยพระเจ้าอโศกที่การเผยแพร่ศาสนาพุทธเจริญไปถึง กรีก เปอร์เซีย การทำรูปเคารพจึงแพร่เข้ามาตั้งแต่นั้น .... ยอมรับคะว่าพระเกษมท่านมีท่าทางการสอนแบบนั้นแต่ถ้าดูวีดีโอการสอนของท่านตั้งแต่ต้นจะรู้ว่าท่านสอนถูกต้อง มองท่านให้ลึกเข้าไปมากกว่านี้ ท่านทั้งหลาย มันเป็นสัญญานของการเข้าถึงอีกแ<WBR>&shy;บบนึงการสอนธรรมของพระ จริตไม่เหมือนกัน ...

    จงมองลึกไปที่แก่นของศาสนามิใช่จริตจกร้่าน การหลอกลวงปั้นแต่ง


    อาบัติใหญ่ คือ การ เสพเมถุน ลักทรัพย์ ฆ่าคน และ อวดอุตริวิเศษ และพระเกษมท่านไม่ผิดในข้อใหญ่นั้นแม้แต่ข้อเดียว ท่านจึงเป็นพระที่ไม่สมควรสึก


    ลองดูวีดีการวิเคราะห์ อธิบายถึงกรณีท่านเกษมของ ปราชญ์ของเมืองไทย ท่าน สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ถ้าใครเป็นคนรุ่นก่อนจะรู้ฉายาของท่านดี คือ ส. ศิวรักษ์

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=aXzEXg_-ISw&feature=related"]?????????????????????????? 1 - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2011
  3. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +36

    อย่าเพิ่งฟังไม่ได้สับจับไปกระเดียกกันซิคะ อย่างกรณีแม่ชีทศพรท่านก็ไม่ได้สอนให้ไปนอนกับผู้ชายแปลกหน้าจริงๆเสียเมื่อไหร่
    ในวีดีโอที่เป็นข่าวกันอยู่นั้นนะ ท่านแค่ดูอดีตกรรมให้สตรีท่านหนึ่งซึ่งมักจะพบแต่ความช้ำใจเรื่องผู้ชาย แม่ชีท่านดูอดีตให้ก็พบว่า เป็นเพราะ

    พี่ผู้หญิงคนนี้ เธอเคยไปผิดลูกเมียคนอื่นไว้ เคยไปล่อลวงชายชราอายุมากเพื่อเอาเงิน ทำให้ชีวิตของแกไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก วิธีจะให้พ้นเจ้ากรรมนายเวรนั้น ก็คือ ต้องโดนกระทำคืนเพื่อเป็นการชดใช้ อย่างที่ตัวเคยไปทำกับคนอื่นเข้าไว้... ไม่ถูกหรอคะ?


    อย่างผู้ชายที่ขมขื่นผู้หญิง...ชาติหน้าก็ต้องไปเกิดเป็นหญฺิงแล้วโดนข่มขืนคืน?...จริงไหม? แม่ชีท่านเลยทำเป็นแก้เคล็ดแทนที่จะไปให้มีผู้หญิงคนนั้นแก่ต้องไปมีอะไรกันกับผู้ชายจริงๆ...... ก็ให้เป็นเรียกผู้ชายอายุน้อยคนนึงที่นั่งฟังอยู่นั้น ซึ่งอยู่ในสายตาคนหมู่มาก และไม่มีทางจะทำอะไรอนาจารได้ ให้ไปจับแก้มผู้หญิงคนดังกล่าวทีนึงเป็นการแก้เคล็ดก็แค่นั่น แต่พวกี่จ้องจะหาเรื่องท่านก็เอาวีดีโอไปตัดต่อให้ดูเว้อเกินจริง อยากให้เป็นข่าวด้านลบ พวกเราคนธรรดาศีลไม่ถึง ข้อไม่มีสิทธิไปตัดสินว่าพระชีที่ศีลเยอะกว่าผิดได้ มันจะบาปแก่เราเปล่าๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2011
  4. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ผมเป็นคนหนึ่งที่สัทธา ในหลวงพ่อเกษมครับ
    และการกระทำหลวงพ่อท่าน ที่กระทำต่างๆ
    ผมว่าท่านจะกระตุ่น สังคมให้ตื่นตัวเรื่องทำผิด
    และที่ท่าน เผาพระพุทธรูป ท่านก็กระตุ่นสังคมเหมือนกัน
    ลำพัง จะบอกว่าห้ามคนกราบไหว้ คนคงไม่สนใจ
    แต่ถ้าเผาคนคงหันมาสนใจ และเอาคำที่ท่านบอกว่า
    พระไตรปิฎก ไม่ได้สอนให้ไหว้ พระพุทธรูป
    อย่าน้อยคนที่ได้ฟังก็ได้รับรู้ว่า พุทธศาสนา ไม่ได้ให้ไหว้พระพุทธรูป
    อะไรประมาณนี้ครับ
     
  5. จิงทรงฌาณ

    จิงทรงฌาณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +31

    ผู้ที่จะรับรองใครเป็นพระอรหันต์ได้มีองค์เดียว คือพระพุทธเจ้า

    ไห้ศึกษาพระไตรปิฏก หมวดพุทธประวัติ (จะมีเรื่องโจษจันกันตลอด

    ว่าทำไมพระองค์เป็นอย่างนี้ แล้วเรื่องก็จะถึงองค์สมเด็จพระบรมครูสัมมาสัม

    พุทธเจ้า พระองค์จะเป็นผู้ทรงรับรองว่าใครเป็น ใครไม่เป็น)

    แล้วคุณ เป็นใครตีตนเสมอพระพุทธเจ้า ทลึ่ง

    กิเลสคุณสูงท่วมหัว ยังจะรับรอง โล้นเกษม พอกัน

    อีกคนก็บ้าด่าไปทั่ว เตะโต เตะเก้าอี้ อีกคนก็เผ้อเจ้อไร้สาระ

    นี่ก้บ้าไม่เลิิก หลักฐานเห็นชัด พระพุทธรูปเต็มบ้าน เต็มเมือง

    เห็นอยู่ทนโท่ ความจริงเป็นอย่างนี้ คนไทยทั้งประเทศ

    กราบไวห้บูชา ระลึกนึกถึงความดีของพระองค์

    (ไม่งั้นพระรูปไม่เต็มประเทศอย่างที่เห็น)

    คนไทยท่ีเป็นพุทธแท้ 99.9เปอร์เซ็นกราบไหว้พระพุทธรูปครับ

    แล้วพระไตรปิฏกสองไห้พระอยู่โคนต้มไม้เป็นวัตร ก็คือไห้อยู่เป็นปกติเลย

    มีในพระวินัยเลย ไม่เห็นเกษมเอามาอ้าง

    ทำไมเกษมไม่อยู่โคนต้นไม้ อยู่ทำไมกุฏิตึก

    ส่วนพระพุทธรูป ไม่เคยตรัสไว้เลย ก็ในเมื่อพระองค์ สมัยนั้น

    ทรงพระชนชีพอยู่ จะสร้างพระพุทธรูปไปทำไม
     
  6. จิงทรงฌาณ

    จิงทรงฌาณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +31
    ธุดงค์วัตร 13 ข้อ

    ธุดงควัตร คือข้อปฏิบัติที่เข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อความขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงบังคับให้ภิกษุถือปฏิบัติ ใครจะปฏิบัติหรือไม่ก็ได้ ผู้ที่จะปฏิบัติธุดงควัตรนั้น สามารถเลือกได้เองตามความสมัครใจ ว่าจะปฏิบัติข้อใดบ้าง เป็นเวลานานเท่าใด เมื่อจะถือปฏิบัติก็เพียงแต่กล่าวคำสมาทานธุดงควัตรข้อที่ตนเลือก แล้วก็เริ่มปฏิบัติได้เลย ธุดงควัตรมี 13 ข้อคือ

    หมวดที่ ๑ จีวรปฏิสังยุตต์ (เกี่ยวกับจีวร)
    1.) การถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร คือการใช้แต่ผ้าเก่าที่คนเขาทิ้งเอาไว้ตามกองขยะบ้าง ข้างถนนบ้าง ผ้าห่อศพบ้าง นำผ้าเหล่านั้นมาซัก ย้อมสี เย็บต่อกันจนเป็นผืนใหญ่แล้วนำมาใช้ งดเว้นจากการใช้ผ้าใหม่ทุกชนิด (บังสุกุล = คลุกฝุ่น)

    2.) การถือผ้า 3 ผืน (ไตรจีวร) เป็นวัตร คือการใช้ผ้าเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น อันได้แก่ สบง(ผ้านุ่ง) จีวร(ผ้าห่ม) สังฆาฏิ(ผ้าสารพัดประโยชน์ เช่น คลุมกันหนาว ปูนั่ง ปูนอน ปัดฝุ่น ใช้แทนสบง หรือจีวรเพื่อซักผ้าเหล่านั้น ปัจจุบันภิกษุไทยมักใช้พาดบ่าเมื่อประกอบพิธีกรรม)

    หมวดที่ ๒ ปิณฑปาตปฏิสังยุตต์ (เกี่ยวกับบิณฑบาต )
    3.) การถือบิณฑบาตเป็นวัตร คือการบริโภคอาหารเฉพาะที่ได้มาจากการรับบิณฑบาตเท่านั้น ไม่บริโภคอาหารที่คนเขานิมนต์ไปฉันตามบ้าน

    4.) ถือการบิณฑบาตตามลำดับบ้านเป็นวัตร คือจะรับบิณฑบาตโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่เลือกว่าเป็นบ้านคนรวยคนจน ไม่เลือกว่าอาหารดีไม่ดี มีใครใส่บาตรก็รับไปตามลำดับ ไม่ข้ามบ้านที่ไม่ถูกใจไป

    5.) ถือการฉันในอาสนะเดียวเป็นวัตร คือ ในแต่ละวันจะบริโภคอาหารเพียงครั้งเดียว เมื่อนั่งแล้วก็ฉันจนเสร็จ หลังจากนั้นก็จะไม่บริโภคอาหารอะไรอีกเลย นอกจากน้ำดื่ม

    6.) ถือการฉันในบาตรเป็นวัตร คือจะนำอาหารทุกชนิดที่จะบริโภคในมื้อนั้น มารวมกันในบาตร แล้วจึงฉันอาหารนั้น เพื่อไม่ให้ติดในรสชาดของอาหาร

    7.) ถือการห้ามภัตที่ถวายภายหลังเป็นวัตร คือเมื่อรับอาหารมามากพอแล้ว ตัดสินใจว่าจะไม่รับอะไรเพิ่มอีกแล้ว หลังจากนั้นถึงแม้มีใครนำอะไรมาถวายเพิ่มอีก ก็จะไม่รับอะไรเพิ่มอีกเลย ถึงแม้อาหารนั้นจะถูกใจเพียงใดก็ตาม

    หมวดที่ ๓ เสนาสนปฏิสังยุตต์ (เกี่ยวกับเสนาสนะ )
    8.) ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร คือจะอยู่อาศัยเฉพาะในป่าเท่านั้น จะไม่อยู่ในหมู่บ้านเลย เพื่อไม่ให้ความพลุกพล่านวุ่นวายของเมืองรบกวนการปฏิบัติ หรือเพื่อป้องกันการพอกพูนของกิเลส

    9.) ถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตร คือจะพักอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้เท่านั้น งดเว้นจากการอยู่ในที่มีหลังคาที่สร้างขึ้นมามุงบัง

    10.) ถือการอยู่กลางแจ้งเป็นวัตร คือจะอยู่แต่ในที่กลางแจ้งเท่านั้น จะไม่เข้าสู่ที่มุงบังใดๆ เลย แม้แต่โคนต้นไม้ เพื่อไม่ให้ติดในที่อยู่อาศัย

    11.) ถือการอยู่ในป่าช้าเป็นวัตร คือจะงดเว้นจากที่พักอันสุขสบายทั้งหลาย แล้วไปอาศัยอยู่ในป่าช้า เพื่อจะได้ระลึกถึงความตายอยู่เสมอ ไม่ประมาท

    12.) ถือการอยู่ในเสนาสนะที่เขาจัดไว้ให้เป็นวัตร คือเมื่อใครชี้ให้ไปพักที่ไหน หรือจัดที่พักอย่างใดไว้ให้ ก็พักอาศัยในที่นั้นๆ โดยไม่เลือกว่าสะดวกสบาย หรือถูกใจหรือไม่ และเมื่อมีใครขอให้สละที่พักที่กำลังพักอาศัยอยู่นั้น ก็พร้อมจะสละได้ทันที

    13.) ถือการนั่งเป็นวัตร คือจะงดเว้นอิริยาบถนอน จะอยู่ใน 3 อิริยาบทเท่านั้น คือ ยืน เดิน นั่ง จะไม่เอนตัวลงให้หลังสัมผัสพื้นเลย ถ้าง่วงมากก็จะใช้การนั่งหลับเท่านั้น เพื่อไม่ให้เพลิดเพลินในการนอน


    ดูข้อที่9ครับ
     
  7. songkyunkwan

    songkyunkwan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +7
    เอางี้ดีไหม เพื่อเลี่ยงกรรมของพวกเรา
    เราเอาแค่ "ประเด็นเนื้อหา" มาถกกันก่อน
    อย่าเพิ่งวิจารณ์ตัวบุคคลที่เสนอความคิดเห็น


    ถ้าความคิดเห็นของเขาผิดหรือถูกก็ว่ากันอีกที
    เราก็ได้ฝึกปัญญาไป และจะได้ไม่มีกรรมถึงเราด้วยไง


    Ok ไหมพวก ...
     
  8. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ข้อความนี้ผมอ่านแล้วนะครบ^^
     
  9. konngaam

    konngaam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +369
    ผมเห็นด้วยกับคุณ ไอดีทริปเปิ้ลโฟร์ นะครับ ในหลายๆกรณีที่เขาพูดไป
     
  10. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    หลวงพ่อเกษมเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศานา แต่ท่านจะเป็นพระอรหันต์หรือไม่ มีแต่พระอรหันต์ดัวยกันเท่านั้นที่รู้ ท่านสอบกันด้วยพระธรรมคนไม่มีศีล สมาธิ ปัญญา อย่าได้สงสัยเลยครับ
     
  11. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ใช่ครับ ผมก็คิดว่า ไม่มีใครรู้หรอกว่า บรรลุ ยัง แต่ทางที่ดี
    อย่าไปกล่าวร้ายท่านเลย นรก อาจกินหัวก็ได้ เพราะเราไม่รู้อะไรทั้งหมด
     
  12. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,035
    มีสาวกของศาสนาใหนบ้าง ที่เขาทำลายสิ่งที่ระลึกถึงศาสดาของตนเอง
     
  13. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,318
    เอ่อเรื่องทำลาย ผมเข้าใจว่า หลวงพ่อเกษมท่านไม่ได้มองว่า
    พระพุทธรูป เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้านะครับ
    ความคิดท่านก็มองว่า เป็นแค่หินแค่ดิน เป็นสิ่งที่อยู่นอกคำสอนเท่านั้นเอง


    ผมพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยนะครับ
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    สิ่งที่ควรระลึกถึงคือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธเจ้ามอบพระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ พระสงฆ์เป็นแค่ผู้เดินตามทางที่พระองค์ตรัสรู้ เทวดา มนุษย์ ผู้เข้าไปหา ผู้เข้าไปนั่งใกล้พระสงฆ์ ศึกษาธรรมเปิดของที่ถูกปิด เห็นธรรมในธรรม เห็นทางเก่า แล้วทำไมต้องไปสร้างทางใหม่ เดินทางใหม่ หลงอยู่ในทางใหม่ หลงในรูป(ดิน น้ำ ลม ไฟ) เพลิดเพลิน หมกมุ่น ลุ้มหลงอยู่ในรูป ปรารถนา พอใจในรูป จิดวิญญาณตั้งอาศัยในรูป วิญญาณ ตัณหา อุปทาน ย่อมเกิด ย่อมเป็นทุกข์

    สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
    นั่นไม่ใช่เรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
     
  15. โฮดี้๐๐

    โฮดี้๐๐ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +14
    อวดอุตริวิเศษไงครับ คนทิพย์บ้างล่ะ เข้าทรงบ้างล่ะมีคลิปด้วย ท่านเกษมทั้งนั้นจะไม่ผิดได้ไง แต่ช่างมันเถอะแกมีความสุขก็ปล่อยแกไป ผิดถูกไม่ใช่หน้าที่ของกระผมขอรับ

    อ.ส. ศิวรักษ์ เทพจริงครับ แกเป็นคนเก่งมาก ดีมาก ใจกว้างครับ แต่ก็หัวรุนแรง ก้าวร้าว หัวแข็งไม่เคยอ่อนข้อครับ แกเป็นคนตรงๆ ลองดูข้อความที่คนรู้จักเขียนถึงแกก็ได้ครับ ในทางศาสนาถ้าพิจารณาดีๆจะเห็นว่า แกก็งมงายในเรื่องความเชื่อนะขอรับ อีกอย่างข้อแนะนำแกไม่ได้นับถือพระเกษม แกนับถือแค่สายหลวงปู่มั่น ท่านติช ท่านป.อ. และ สายสวนโมกข์ ทาไลลามะ ท่านสังฆรักษิตา
    และ ความเชื่อที่แกมีฝังหัวคือวัชรยานและรู้มากเรื่องนี้ แกขำๆๆพระเกษมเสียด้วยซ้ำ แกไม่ได้สนใจด้วยมันคนล่ะระดับกัน และ ในทางศาสนาแกเชื่อตามวัชรยานค่อนข้างมาก และ มักจะดูถูกคนที่เห็นต่างทางความเชื่อ อย่างฝรั้งไม่เชื่อเรียนเวียนว่าย แกว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ แต่จะไม่ด่วนสรุปง่ายไปหรือ ที่จะเอามุมมองชาวพุทธไปตัดสินคริสต์เตียน นี่เรื่องความเชื่อนี่แกฝังหัว มาก ฝรั้งมันคงจะพูดว่าแกก็มิจฉาทิฏฐิเหมือนกันในมุมมองฉัน อีกอย่าง อ. แกก็ไม่แน่ใจว่าจริงหรือเท็จแกบอกแกสนใจมากแต่แกก็ไม่แน่ใจนัก แกเพียงแต่เชื่อ อย่างคุณปุ่น จงประเสริฐที่เห็นต่างเรื่องคำสอนของท่านพุทธทาสกับแก แกเขียนว่ามีปัญญาแค่หางอึ่ง มีคนเห็นต่างหลวงตาบัว แกว่าหมูเห่าเสือ ส่วนในด้านสังคมแกเป็นนักต่อสู้ที่ดีคนหนึ่ง แกเป็นคนไทยที่อยู่ระดับโลกในด้านการต่อสู้เพื่อสังคม คนเดียวที่ไปถึงขั้นนี้ด้วยเหตุนี้แกถึงเป็นหนึ่งในสิบที่เป็นตำนานที่ประเทศเราคัดมายกย่องให้เป็นคนเก่งที่สุด10คนของประเทศในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ตั้งกรุงรัฒนโกสินทร์มา แต่มาตรฐานการตัดสินคนอื่นผมก็ไม่เห็นด้วยนะ มองว่าเป็นเรื่องของรัฐ และ การสร้างความชอบธรรมบางประการมากกว่า บางคนผมว่านี่ติดมาได้อย่างไรนี่ แต่ อ. แกเหมาะสมแล้วที่จะติดครับ แกเป็นคนดีมากขอรับ เป็นปัญญาชนสยามที่แท้ นี่ผมกล้าพูดเพราะรู้จักแก เพื่อนตาผมเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2011
  16. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    839
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ส.ศิวรักษ์ รู้มาก แต่ไม่มีสภาวะธรรม เป็นแค่เถรใบลานเปล่า
    ผมไม่ให้ความสำคัญแม้แต่นิดเดียว
     
  17. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,756
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ผมก็คิดว่าระดับท่านน่าจะเป็นพระอรหันต์เหมือนกันครับ ยืนยันอีกเสียงครับ ตอนแรกๆผมฟังๆคลิปท่านหลายๆอันในใจลึกๆก็รู้สึกขัดแย้งนิดๆ อันไหนที่คิดว่าดีและไม่เกินกำลังความสามารถของเรา เราก็น้อมเอามาปฏิบัติ ส่วนหลังๆก็จะพยายามทำให้ถูกต้องตามในพระไตรปิฏกครับ
     
  18. ณัฐพล ป.

    ณัฐพล ป. สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +1
    ความวุ่นวาย มันเกิดจาก ความอยากให้สิ่งนั้น สิ่งนี้ เป็นไปตามที่เราคิด เมื่อไม่เป็นไปได้ ก็ขุ่นใจ เคืองใจ
    ช่างเขาเถอะครับ พระพุืทธเจ้าทำนาย ว่า พระเทวทัต จะได้บรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ในอนาคตกาล
    พระดีหรือไม่ดี ถ้าจิตใจ มีดีอยู่บ้าง ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรมากมาย
     
  19. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,035

    สัญลักษณ์ทางศาสนา ย่อมนำพาดวงจิตสู่การระลึกถึง เป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หากจะรอให้จิตระลึกได้เอง ในหนึ่งวันมันยาก
    แต่หากได้พบได้เห้น สิ่งเหล่านี้แล้ว จิตย่อมหวนระลึกถึง พระพุทธเจ้าท่านจึงให้สร้าง เจดีย์ไว้ให้สักการะบูชาครับ

    หากพระองค์ไม่เห้นประโยชน์ของดินน้ำลมไฟที่มาประกอบเป้นเจดีย์ ท่านคงไม่รับสั่งให้สร้างเจดีย์ ท่านต้องกลัวผู้คนหลงในรูป หมกมุ่นลุ่มหลง
    และพระพุทธเจ้าท่านจะไม่รู้เลยเชียวหรือว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำครับ

    ผมว่าท่านอาจสับสน ในเรื่องของรูปที่ ตอบสนองกิเลสในใจกับ รูปที่ นำพาจิตสู่กระแสธรรมนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2011
  20. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,035

    ระวังครับ ความคิดนี้มีลักษณะคล้ายกับคำสอนนอกศาสนาในสมัยพุทธกาลที่ว่า

    ร่างกายเกิดจากธาตุทั้ง4 การที่เราเอาสิ่งใดๆไปแทรกระหว่างธาตุทั้งสี่ย่อมไม่เป็นบาปแต่อย่างใด ดังนั้นการเอาหอก ดาบ ไปแทง ฟันสัตว์ใดๆ ก็เป็นเพียงการเอาสิ่งนั้น ไปแทรกในธาตุทั้งสี่ของสัตว์นั้น เท่านั้น หากสัตว์จะตายไปก็ไม่ได้เป็นบาปแต่อย่างใด

    แล้วมันนอกคำสอนมั๊ยครับ เจดีย์ทั้งหลายมันนอกคำสอนหรือเปล่าครับ

    พระพุทธรูป เป้นสิ่งที่เราพบเห้นแล้วย่อมระลึกถึงพระศาสดา หรือไม่ใช่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...