เจาะข่าวเด่น 25 มกราคม 2555 - หลวงพ่อเกษม พระอยากดัง หรืออยากดับ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=UMNClziYvTI&feature=player_embedded]JorKaoDen 1-2 หลวงพ่อเกษม พระอยากดัง?? 25 Jan 2012 - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=IaYFz90Ky4I&feature=player_embedded]JorKaoDen 2-2 หลวงพ่อเกษม พระอยากดัง?? 25 Jan 2012 - YouTube[/ame]

 

กราบแทบเท้าพระอริยะแห่งยุค แต่คนใจบอดย่อมไม่รู้

 

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค หน้าที่ ๓๓๒/๔๐๒
[๖๒๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน
ใกล้พระนครราชคฤห์ ก็สมัยนั้นแล เมื่อราชบริษัทนั่งประชุมกันในพระราชวังสังสนทนากันว่า
ทองและเงินย่อมควรแก่สมณศากยบุตร สมณศากยบุตรย่อมยินดีทองและเงิน ย่อมรับทองและ
เงิน ฯ
[๖๒๔] ก็สมัยนั้นแล นายบ้านนามว่ามณิจูฬกะนั่งอยู่ในบริษัทนั้น ครั้งนั้น นายบ้านนามว่า
มณิจูฬกะได้กล่าวกะบริษัทนั้นว่า ท่านผู้เจริญอย่าได้กล่าวอย่างนี้ ทองและเงินไม่ควรแก่สมณ
ศากยบุตร สมณศากยบุตรย่อมไม่ยินดีทองและเงิน ย่อมไม่รับทองและเงิน สมณศากยบุตรห้าม
แก้วและทอง ปราศจากทองและเงิน นายบ้านมณิจูฬกะไม่อาจให้บริษัทนั้นยินยอมได้ ฯ
[๖๒๕] ครั้งนั้น นายบ้านจูฬกะจึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคแล้ว นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้า
แต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อราชบริษัทนั่งประชุมกันในพระราชวังสังสนทนากันว่า ทองและเงินย่อม
ควรแก่สมณศากยบุตร สมณศากยบุตรย่อมยินดีทองและเงิน เมื่อราชบริษัทกล่าวอย่างนี้ ข้า
พระองค์ได้กล่าวกะบริษัทนั้นว่า ท่านผู้เจริญอย่าได้กล่าวอย่างนี้ ทองและเงินย่อมไม่ควรแก่สมณ
ศากยบุตรสมณศากยบุตรย่อมไม่ยินดีทองและเงิน ย่อมไม่รับทองและเงิน สมณศากยบุตร
ห้ามแก้วและทอง ปราศจากทองและเงิน ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่อาจให้บริษัทนั้น
ยินยอมได้ เมื่อข้าพระองค์พยากรณ์อย่างนี้ เป็นอันกล่าวตามคำที่พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว จะไม่
กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคด้วยคำไม่จริง และพยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้งการคล้อยตามวาทะ
ที่ถูกไรๆ จะไม่ถึงฐานะอันวิญญูชนพึงติเตียนได้แลหรือ พระเจ้าข้า ฯ
[๖๒๖] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีละ นายคามณี เมื่อท่านพยากรณ์อย่างนี้ เป็นอัน
กล่าวตามคำที่เรากล่าวแล้ว ไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่จริง และพยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้ง
การคล้อยตามวาทะที่ถูกไรๆ จะไม่ถึงฐานะอันวิญญูชนพึงติเตียนได้ เพราะว่าทองและเงินไม่ควร
แก่สมณศากยบุตร สมณศากยบุตรย่อมไม่ยินดีทองและเงิน สมณศากยบุตรห้ามแก้วและทอง
ปราศจากทองและเงิน ดูกรนายคามณี ทองและเงินควรแก่ผู้ใด เบญจกามคุณก็ควรแก่ผู้นั้น
เบญจกามคุณควรแก่ผู้ใด ทองและเงินก็ควรแก่ผู้นั้น ดูกรนายคามณี ท่านพึงทรงความที่ควรแก่
เบญจกามคุณนั้นโดยส่วนเดียวว่า ไม่ใช่ธรรมของสมณะ ไม่ใช่ธรรมของศากยบุตร อนึ่งเล่า
เรากล่าวอย่างนี้ว่า ผู้ต้องการหญ้าพึงแสวงหาหญ้าผู้ต้องการไม้พึงแสวงหาไม้ ผู้ต้องการเกวียน
พึงแสวงหาเกวียน ผู้ต้องการบุรุษพึง แสวงหาบุรุษ เรามิได้กล่าวว่า สมณศากยบุตรพึงยินดี พึง
แสวงหาทองและเงินโดยปริยายอะไรเลย ฯ

 

------------------------

ผมว่าคุณควรเอาคำว่าพระอริยะออกดีกว่าครับ
พระอริยะ ไม่มีผู้ใดเลยที่ไม่สำรวมและโกหกคนอื่น

ถ้าจะถามว่าโกหกเรื่องอะไร คงได้คุยกันอีก
ทีแรกบอกไม่อยากดัง พอเรื่องดังมาบอกว่าอยากให้คนสนใจ โกหกมั้ยหละ

 

---------

ใช้ความคิดของตัวเองบ้างสิครับ ไม่ใช่ลอกเอามาทั้งดุ้นแบบนี้

 

สันติอโศก เคยต่อกรกับมหาเถรฯ มาแล้วนะ
รู้ไหมว่า "ทำไม?"


แล้วทราบไหมว่า "ใคร" สนับสนุนเบื้องหลัง
สันติอโศกๆ ถึงได้ไปอยู่กับ "คนเสื้อเหลือง"


และทราบไหมว่า "แนวทางเกษตรผสมผสาน"
จริงๆ เริ่มต้นที่ "สันติอโศก" ไม่ใช่หรือ?


มันมีอะไรลึกอยู่นะ เบื้องหน้า เบื้องหลัง ดูดีๆ

 

ผมว่า ท่านพูดก็มี ถูกนะ.......คนเราให้ดูที่เนื้อใน (ถ้าอยากดัง อีกไม่นาน ท่านก็ตาย จะดังทำไม และจะหาเรื่องใส่ตัวทำไม) แต่คนทุกวันนี้ดูที่เนื้อนอก ไปวัดหลวงพ่อจรัญท่านก็ไม่ปลุกเสกอะไรเลย........ถ้าคนไหนแก่มากและไปวัดอัมวัน จะต้องโดนถ้าว่า แก่ขนาดนี้มาวัดทำไม...เป็นภาระให้คนอื่นเค้า.......และดูอย่างอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิสพิพัฒน์ พระที่วัดร่องขุ่น ไม่ประพฤติไม่ดี และรับเงิน อาจารย์ก็ไล่ออกจากวัดไปเลย....คน เราให้ดูที่เนื้อในว่าจิตใจ เป็นอย่างไร ทำไปเพื่ออะไร...กิริยาข้างนอกเป็นโลกิยะ ............คนไทยสมัยนี้พูดดีๆๆกันไม่ค่อยรู้เรื่อง...........ทำผิด ศีลธรรมกันมาก..และเกิดปัญหาสังคม..ขาดความเป็นระเบียบอยากมาก...........นานาประเทศ เค้ามีระเบียบเพราะมีกฎเกณฑ์ที่เด็ดขาด........คนไทยสันดาน ปากดี แต่มือตีนไม่พาย......ถ้าอะไรทำให้ตัวเองเสียประโยขน์สรุปเลยว่า คนที่ทำให้ตัวเองเสียผลประโยชน์เป็นคนไม่ดี....โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์สังคม.......คนไทย ตอนนี้ เป็นพวก มือถือสาก ปากถือศีล สมควรแล้วที่โดนด่าแรงๆๆ สันดานและความคิดจะได้พัฒนาบ้าง555555555

 

คห.ข้างบน คุณสยามสามดี

กฏคือกฏ ระเบียบคือระเบียบ ถ้าทำอะไรที่ผิดจากนี้แล้วอ้างได้
คงจะอ้างอะไรเข้าตัวกันหมดเมื่อทำผิด

พระย่อมต้องสำรวม มาอ้างได้ยังไงว่า เป็นกิริยา เช่นนั้นใครเห็นทำตามอย่างกันหมด
ศาสนาจะไม่เสื่อมเสียกับพฤติกรรมเช่นนี้หรือไร จะด่าใครก็ด่าได้ไม่มียับยั้งในคำพูด

 

ผมเคยเป็นคนยึดมั่นความถูก-ผิด, ดี-ชั่ว
แยกแยะชัดเจน แต่เมื่อพิจารณาถึงจุดหนึ่ง
ผ่านประสบการณ์ชีวิตถึงจุดหนึ่ง ถึงรู้ว่า


เราคิดผิด ...

 

ผู้ที่ศึกษาเขารู้เขาไม่พูดกันมีแต่พวกไม่รู้มาบอกว่าลอกเอามา ท่าน sutanon พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านห้ามตัดห้ามเพิ่มเติมห้ามแก้ไข ผมก็ยกมาทั้งพระสูตร ท่านศึกษาเอาเถิด

 

ผิดข้อไม่สำรวม เป็นความผิดเล็กน้อย
ไม่ถึงขั้นผิดศีลนะ จริงๆ ก็ให้พระคุยกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง

 

ผู้ต้องการหญ้าพึงแสวงหาหญ้า......ผู้ต้องการไม้พึงแสวงหาไม้...... ผู้ต้องการเกวียน
พึงแสวงหาเกวียน.......... ผู้ต้องการบุรุษพึง แสวงหาบุรุษ.............

ผู้ต้องการ ธรรมะ..........ต้องแสดงหา ธรรมะ ..........มิใช่แสวงหาเงิน และทรัพย์ มิใช่หรือ คุณ sutanon อิอิ

 

------------------

ผมว่านะคนเราอาจจะคิดถูกในตอนแรก มาตอนหลังอาจจะคิดผิดก็มี

เทวดาเค้านับกันที่คุณธรรม ใครมีมากใครมีน้อย

ความถูก-ผิด, ดี-ชั่ว ถ้าคิดว่ามันไม่มี ก็ทำชั่วได้ตามสบายไปเลย

 

----------------

ต้องอย่างนี้สิครับ ใช้ความคิดของตัวเองบ้าง
ไม่ใช่เอะอะ ก็ลอกมาทั้งดุ้น

 

วันใดที่เรามั่นใจมากๆ ว่าเราถูกเราทำดี
แล้ววันหนึ่ง เราค้นพบว่า "มันไม่จริง"



วันนั้น "อัตตา" ความหลงตน ว่าตนรู้แล้ว
ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรชั่ว ก็จะจบครับ

 

คุณบาร์โด การสำรวมเป็นสิ่งดี.........แต่ถ้าคนไหนทำผิดบ่อยๆๆและจนเกิดความเคยชิน(เช่นพระรับเงิน) ซึ่งการกระทำแบบนี้ฝังรากแก้ว.......

 

แหม่ มวยถูกคู่จริง ๆๆ ว่าแล้วพี่ satunon ต้องมาเห็นภิกษุเกษมที่ไหน เห็น พี่satunon ที่นั้น พี่จำผมได้ไหม เคยฉะกัน มานานแล้ว ยังไงขอเหตุผลกันแบบเต็มเม็ด เต็มหน่อย แล้วกัน เดี๋ยวตาม พี่ยมยักษ์ อีกสักคน กระทู้นี้ดังจน ภิกษุเกษม มาแน่ ท่านจะได้มาชี้แจงให้ทราบ เหมือนเคย

 

พระรับเงิน ก็กรรมของเขาเองนะ
ใครทำกรรม ก็รับผิดชอบเองอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปทำกรรมอะไร
ให้เขาเลิกรับ ถ้าเขามาให้เราสอน เราก็
สอนไป จะบอกเขาว่ารับเงินมันตกนรก ก็
บอกไป แต่ถ้าไม่อยู่ในข่ายกิจของเรา ก็ไม่ต้องยุ่ง


เพียงแต่ตอนนี้ มันเลย "ขอบเขต" แล้วละ
ทำไมถึงมาถึงจุดนี้ได้ ก็ "คงเป็นวิบาก" อะนะ
ใครสร้างธรรมยุติมา คนนั้นคงต้องมาเก็บเอง

 

เชิญหาเสื่ิอ หาสาด หาเก้าอี้มา ดูว่าประชาชนชาวไทย คิดยังไงกัน.แล้วคำตอบที่ได้พวกเขาคิดยังไงกัน
แต่ใครไม่รู้ก่อนหน้าไปอ่านธรรมจักรกันก่อนก็ได้นะว่า แปลิะไรไว้บ้าง แล้วจะได้คำตอบ ฮ่า ๆๆๆๆ

 

ในอดีตชาติหนึ่ง


ชายคนหนึ่งเกิดในตระกูลสูง ยึดมั่นปรัชญาความถูกต้อง
เขาได้ "ไล่จับผิด" ผู้หญิงคนหนึ่งที่มักทำผิด เพราะความ
ยากจนบีบให้ต้องทำ


ผู้หญิงคนนั้น เกิดใหม่พ้นความเป็นหญิง เป็นเจ้ากรรม
นายเวรตามมา "จับผิด" ชายผู้นั้น ณ ชาตินี้ นั่นเอง