เชิญร่วมทำบุญ! งานมหาบุญจุลกฐิน ณ วัดลาดชะโด (ดุสิตราชมัจฉา) ต.หนองน้ำใหญ่ อ.ผักไห่ จ.อยุธยา กองที่ ๑๑๑.

จะมีงานมหาบุญจุกฐิน ในวันเสาร์ที่ 7 และ อาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 (หรือถ้าพร้อมก่อนก็วันก่อนหน้า)
ผ้าป่ามีทั้งหมด 200 กอง(ตอนนี้ประมาณกองที่ 107 ณ วันที่ 12/09/2558 และกองนี้เป็นกองที่ 111) และหนึ่งกองมีซองให้ร่วมทำบุญ 50 ซองครับ ซึ่งทำบุญซองละ 100 บาทครับ สำหรับท่านที่ร่วมทำบุญก็จะได้รับหนุมานจุลกฐินทองเหลือง 1 ตนต่อ 1 ซองครับ(ตำราหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์).

ท่านที่สนใจสามารถโอนเงินมาในชื่อบัญชีของผมคือ นาย พีรณัฐ ธรรมอินทร์ เลขบัญชี 001-3-88197-9 (ธนาคารกสิกรไทย) โดยผมจะเป็นสะพานบุญเขียนหน้าซอง(สำหรับท่านที่อยู่ไกลแต่อยากร่วมทำบุญ)และรวบรวมส่งครับ

ปล.ส่วนเรื่องการจัดส่งวัตถุมงคลนั้นผมจะจัดส่งทุกท่านให้ทางไปรษณีย์ครับ โดยรบกวนแต่ละท่านโอนเงินเพิ่มเป็นค่าจัดส่ง ท่านละ 50 บาท(ems) สำหรับท่านที่ทำบุญหลายซองรบกวนเพิ่ม 50 บาทเหมือนกันครับ ราคาที่เกินจากนั้นผมจะเป็นคนออกให้ครับ ส่วนท่านที่อยากร่วมทำบุญโดยไม่เอาวัตถุมงคลรบกวนโอนเงินมาตามยอดจองที่ท่านได้จองไว้เลยครับ.

ติดต่อผมโดยตรง.
LINE: pttntm.
เบอร์โทร: 087-3603374

 

ในส่วนนี้ครับหนุมานที่เคยกล่าวไว้ครับ ประธานกองจะได้รับหนุมานจุลกฐินเนื้อเงิน 1 ตน หนุมานไม้พุทซ้อนตายพราย 1 ตน และลูกกองจะได้รับหนุมานจุลกฐินทองเหลือง ครับ สำหรับท่านใดที่พร้อมทั้งบุญญาวาสนาและทรัพย์สินเงินทองท่านสามารถโทรไปจองเป็นประธานสายได้ตามเบอร์นี้เลยครับ 086-1334100 หรือ 089-548255.

 

ตามที่ได้กล่าวไว้ครับตอนนี้ล่าสุดอยู่กองที่ 107 ครับ ณ วันที่ 12/09/2558.

 

ประวัติวัดดุสิตราชมัจฉา(วัดลาดชะโด) เป็นวัดราษฎร์ตั้งอยู่เลขที่ ๙๒ หมู่ ๓ ตำบลหนองน้ำใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย การตั้งวัดคงมีพระสงฆ์หนีภัยสงครามมากับประชาชนเมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า พ.ศ. ๒๓๓๐ จึงมาตั้งบริเวณนี้ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๐ มีพื้นที่ตั้งวัดประมาณ ๕๐ ไร่ ในส่วนของเรื่องชื่อวัดนั้นผู้เขียนเคยกราบเรียน เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ว่าคนทั่วไปเรียกว่าวัดลาดชะโด แต่ในโฉนดที่ดินชื่อวัดดุสิตราชมัจฉา เจ้าประคุณสมเด็จแนะนำว่าให้ใช้ชื่อวัดดุสิตราชมัจฉา เพราะมีความหมายแปลคือปลาเจ้า แต่คนเก่าเคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จผ่านหน้าวัดเมื่อคราวปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ทรงตรัสว่าน่าจะชื่อวัดดุสิตราชมัจฉา ถ้าเราลำดับชั้นสวรรค์ก็จะตรงกับชั้นที่๕ พอดี คือ ภุมมา,จาตุม,ดาวดึง,ยามา,ดุสิต และก็จะตรงกับรัชกาลพระองค์ด้วย อีกนัยหนึ่งว่าเมื่อคราวสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมญาณวชิโรรส เสด็จประพาสมณฑลอยุธยา เจ้าอาวาสวัดลาดชะโดในสมัยนั้นได้ไปเข้าเฝ้าทรงตรัสว่าอยู่วัดไหนก็ตอบถวายไปว่าอยู่วัดลาดชะโด ทรงปรารภว่าน่าจะเปลี่ยนใหม่เป็นชื่อวัดดุสิตราชมัจฉาเหมือนวัดชีตาเห็นก็ทรงเปลี่ยน เป็นวัดชีโพน คงจะสรุปได้ว่าชื่อเดิมคงชื่อวัดดุสิตราชมัจฉา แต่เรียกกันติดปากตามชื่อหมู่บ้านว่า "วัดลาดชะโด"

ผู้สร้างวัดลาดชะโดและทรัพย์สมบัติ เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าเป็นเด็กคนแก่ได่เล่าให้ฟังว่า พ.ศ. ๒๔๘๕ เกิดน้ำท่วมใหญ่มีพระรูปหนึ่งชื่อพระวัน ฉายา อหิงสโก ได้ไปช่วยเก็บของในกุฏิหลวงพ่ออิ่มและได้ไปเจอสมุดโบราณพระโบราณ ทำจากข่อย เขียนเป็นภาษาขอม ได้เขียนไว้ว่าวัดลาดชะโดนี้มีตาจนกับตาแจ้งเป็นผู้สร้างวัดและได้เขียนบอกที่เก็บสมบัติต่างๆวัดว่าอยู่ที่ใดบ้าง ต่อมาพระวันได้สึกไปแล้วติดฝิ่น จึงได้ไปเล่าให้พวกเพื่อนฟังเกี่ยวกับการที่ซ่อนของและได้ชวนเพื่อนมาขโมยสมบัติ ในเจดีย์รอบโบสถ์ ซึ่งครั้งนั้นได้มาขโมยในเจดีย์หน้าโบสถ์ ตาวันได้ใช้ทองแลงขุดเจดีย์เมื่อขุดไปได้สักพักหนึ่งปรากฎว่ามีเปรตปรากฎกายให้เห็นแต่ตาวันก็ไม่ได้สนใจสุดท้ายก็ขุดจนสำเร็จ ภายในเจดีย์มีพระพุทธรูปขนาดเท่าคนยืนขวางอยู่ ตาวันได้ใช้ทองแลงงัดพระขึ้นใช้มือวาดพระที่อยู่ใต้เท้าพระพุทธรูป ปรากฎว่าพระพุทธรูปที่งัดตกลงมาทับมือทำให้มือหัก แต่สุดท้ายตาวันก็ได้พระไปหลายรูปมีทั้งพระทองคำยาวประมาณ ๓ นิ้วและพระอื่นๆเป็นจำนวนมาก เช่น พระชัยอยุธยา และแผ่นเงินไปแผ่นหนึ่ง ซึ่งต่อมาได้มีวิญญาณตามไปเข้าฝันตาวันว่าให้นำแผ่นเงินมาคืนวัดไม่เช่นนั้นจะต้องตาย ต่อมานายวันมีอาการเจ็บป่วยจนต้องนำแผ่นเงินมาคืนวัดและเมื่อ่ขุดเจดีย์รอบโบสถ์ทั้งหมดแล้วจึงได้คิดวางแผนขุดลุกนิมิตกลางโบสถ์ซึ่งสมัยก่อนการจะฝั่งลูกนิมิตกลางโบสถ์ ชาวบ้านมักจะใส่ทองคำและเงิน ฝั่งไปพร้อมลูกนิมิต ไม่เป็นจำนวนมาก แต่พอพวกนายวันจะเข้าไปในโบสถ์ปรากฎว่ามีชายนุ่งขาวห่มขาวมายืนขวางทางไว้ไม่ให้เข้าไปในโบสถ์ สุดท้ายจึงไม่สามารถเข้าไปในโบสถ์เพื่อขโมยลูกนิมิตได้ ดังนั้นลูกนิมิตกลางโบสถ์จึงไม่ถูกขุดภายหลังพวกนายวันได้นำของที่ได้จากวัดไปขายซึ่งบางคนที่ได้ซื่อไว้เกิดอาการเจ็บป่วยต่างๆนานาจนต้องนำของที่ซื้อได้มาคืนวัดภายหลังนายวันได้มีอาการสติฟั่นเฟืองส่วนสมบัติของวัดที่ได้คืนมาภายหลังได้หายสาบสูญไปหมด

พระปลัดสราวุธ(ปืน) ปัญญาวุโธ.

 

อัพเดทกองผ้าป่า ณ ตอนเช้าของวันนี้ครับ 13/09/2558

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่านที่โทรเข้ามาสอบถามเมื่อสักครู่ด้วยครับ

 

อนุโมทนาสาธุมา ณ ที่นี้ด้วยครับเนื่องด้วยมีผู้สนใจร่วมทำบุญในครั้งนี้พอสมควรผมจึงได้เป็นประธานกองเล็กๆตามที่ตั้งใจไว้ครับ สาธุ หากท่านใดสนใจสามารถร่วมทำบุญด้วยกันได้ครับ ตามรายละเอียดที่ได้แจ้งให้ทราบไว้ทางด้านบทครับ ผมจะค่อยๆทยอยลงรายชื่อท่านที่ร่วมทำบุญร่วมกันครับ และสุดท้ายนี้เลขกองสวยและเป็นศิริมงคลมากครับ ๑๑๑.

 

หนุมานที่ท่านพระครูปืนได้จัดสร้างขึ้นนี้ ได้สร้างตามตำราของ"หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ จังหวัดอ่างทอง" ตามตำราทุกประการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การสวดคาถา 108 จบ รวมอยู่ด้วยครับ.

หลายท่านคงไม่เคยได้ยินชื่อ "หนุมาน หลวงพ่อภักตร์" มาก่อนแน่นอนครับ และนี้ก็เป็นครั้งแรกที่พระครูได้จัดสร้างหนุมานขึ้นและก็ถือว่าเป็นการสร้างตามตำราของหลวงพ่อภักดิ์ครั้งแรกด้วยเหมือนกันครับ!!!!!
ถ้าไม่ชัวร์จริงท่านไม่สร้างออกมาให้ญาติโยมได้บูชากันหรอกครับ เงินทองเป็นของแท้ครับ. เพราะส่วนใหญ่คงคุ้นหูกับชื่อ เบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์ ซึ่งถือว่าสุดยอดมาก ติดอันดับต้นๆของเบี้ยแก้แน่นอนครับ พุทธคุณเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครแน่นอนครับ ซึ่งมีพุทธคุณครบทุกด้าน โดยเฉพาะด้านป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้เหตุร้าย ให้กลายเป็นดี แคล้วคลาดปลอดภัยและคงกระพันชาตรี ฯลฯ

ซึ่งพระครูปืนเคยทำไว้ครับสำหรับเบี้ยแก้ตำราหลวงพ่อภักตร์ ตอนนี้เบี้ยแก้ตำราหลวงพ่อภักตร์ที่พระครูปืนสร้างได้หมดจากวัดไปนานแล้วครับ ส่วนเรื่องประสบการ์ณนั้นผู้ที่เช่าไปหลายๆท่านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ "จะเอาเรื่องไหนละ" และบางท่านที่เคยมีประสบการณ์กับเบี้ยแก้แล้วไม่เคยห่างตัวพกติดตัวตลอดครับขอบอก.

อันนี้เป็นเบี้ยแก้ตำราหลวงพ่อภักตร์ที่พระครูปืนได้จัดสร้างขึ้นมาครับ เบี้ยตัวนี้เป็นแบบไม่ถักเชือกครับ.