เชิญร่วมบุญจองพระกริ่งปโชตาไจเบ็งจร

เชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมบุญบูชาพระกริ่งปโชตา เพื่อ หาปัจจัยบูรณะ ปฏิสังขรณ์ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในวัดดอยแม่ปั๋ง สืบมาจากในยุคที่หลวงปู่แหวน ยังทรงสังขาร วัดดอยแม่ปั๋งมีประชาชนมามืดฟ้ามัวดินจากทั่วทุกสารทิศ ส่งผลให้วัดดอยแม่ปั๋งมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ภายหลังที่หลวงปู่แหวน ท่านละสังขาร เข้าสู่แดนพระนิพพาน สิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัดก็ค่อยๆ ทรุดโทรมตามกาลเวลา อาจารย์ปริญญา ณ เชียง มีความคิดที่จะสร้างพระกริ่งเพื่อหาปัจจัยบูรณะ ปฏิสังขรณ์ สิ่งก่อสร้างและค่าใช้จ่ายภายในวัดดอยแม่ปั๋งจึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมบุญในครั้งนี้ครับ
สำหรับท่านที่สนใจร่วมบุญสามารถร่วมบุญได้ดังนี้
1. พระกริ่งปโชตา ชุดกรรมการใหญ่ สร้าง 108 ชุด ราคา 5,000 บาท
( รับพระกริ่งปโชตา 3 องค์ประกอบด้วย เนื้อ นวะโลหะ, ชนวนเข้มข้น , สัมฤทธิ์ บรรจุเกศา จีวร อัฐิธาตุหลวงปู่แหวนและผงพุทธคุณ )
2. พระกริ่งปโชตา ชุดกรรมการเล็ก สร้าง 108 ชุด ราคา 2,000 บาท
( รับพระกริ่งปโชตาเนื้อ ชนวน 1 องค์ บรรจุเกศา จีวร อัฐิธาตุหลวงปู่แหวนและผงพุทธคุณ )
3. พระกริ่งปโชตา เนื้อสัมฤทธิ์สร้าง 999 องค์ ราคา 1,000 บาท
( รับพระกริ่งปโชตาเนื้อสัมฤทธิ์ 1 องค์ อัฐิธาตุหลวงปู่แหวนและผงพุทธคุณ )
สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อบูชาได้ที่
1. คุณบพิตร ไม้เท้าแก้ว 099- 2417497
Fb : บพิตร ไม้เท้าแก้ว
2. คุณรัตชปรัจศ์ สาแก้ว 083- 5935495
Fb : รัตชปรัจศ์ สาแก้ว
3. คุณปริญญา ณ เชียงใหม่ เบอร์โทร 081-5942883
Fb : ภัทร เป็นหนึ่ง
ทุกรายการสามารถจองได้ถึง วันที่ 26 มิถุนายน 2560

 

การสร้างพระกริ่งในครั้งนี้เพื่อหาปัจจัยบูรณะ สิ่งก่อสร้าง ปฏิสังขรณ์ และค่าใช้จ่ายภายในวัดดอยแม่ปั๋ง โดยได้รับการขออนุญาต จากหลวงพ่อหนูพิณเจ้าอาวาส วัดดอยแม่ปั๋ง

 

หลวงพ่อดูแบบพระกริ่ง และเซนใบขออนุญาต ในการจัดสร้างในครั้งนี้

 

พระสามัญประจำบ้าน(ตอน๑)
ครูอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "พระกริ่ง" ท่านสร้างไว้ให้คู่กับบ้าน เนื่องจากอัญเชิญมาทำน้ำมนต์ตามวาระ "พระชัย" (วัฒน์)นั้นเล่าท่านทำให้พกติดตัว(คติใหม่จากการสร้างพระสายวัดสุทัศน์นะครับ เพราะแต่เดิมพระชัยเป็นพระราชพิธี ที่ใช้ในพิธีใหญ่ๆเช่นเสด็จพระราชสงคราม,การถือน้ำ,พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ มักปรากฎในพระราชพิธี)

เนื่องพระกริ่ง แต่เดิมสร้างมาเป็นตัวแทนของพระไภษัชยคุรุ ที่ท่านทรงมีพุทธปณิธาน๑๒ประการอันมีสาระสำคัญประการหนึ่งคือ ต้องการให้สรรพสัตว์พ้นจากโลกภัยไข้เจ็บ พระกริ่งจึงเป็นที่พึ่งยามป่วยเจ็บ
แต่เดิมพระกริ่งโบราณพบที่ธิเบตบ้าง,จีน ,เขมร ผู้ที่ได้พระกริ่งโบราณจึงเป็นชนชั้นสูงในสังคมที่หาพระกริ่งโบราณมาครอบครองได้ เจ้านายของเมืองไทยหลายองค์จึงนิยมสะสมพระกริ่ง
สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ท่านได้รับการถวายพระกริ่งโบราณจากเจ้านายเขมร (น่าจะเป็นพระปทุมสุริยวงศ์ ผิดถูกขออภัย) เป็นสมบัติติดตัวท่าน

...กาลครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ท่านยังทรงสมณศักดิ์เป็น"พระศรีสมโพธิ) สมเด็จพระวันรัต(แดง)อุปัชฌาย์ของท่านอาพาธเป็นโรคอหิวาต์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสพระสังฆราช ทราบเรื่อง จึงเสด็จมาเยี่ยม ท่านรับสั่งว่า เคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯอาราธนาพระกริ่งทำน้ำมนต์ให้คนป่วยกินหายเป็นปรกติ
ท่านจึงอาราธนาพระกริ่งทำน้ำมนต์ประทานแก่พระวันรัต
เมื่อพระวันรัตได้ฉันน้ำพุทธมนต์อาการป่วยก็หายเป็นอัศจรรย์
เหตุการณ์นี้ เป็นแรงบันดาลใจให้ พระสังฆราช(แพ)สนพระทัยในการสร้างพระกริ่ง
จึงเป็นที่มาของการสร้างพระกริ่งในสายวัดสุทัศน์ในเวลาต่อมา

ผมเองคิดว่า เราเองควรมีพระกริ่งดีๆสักองค์ที่เป็นพระกริ่งแท้ๆโดยเนื้อหา(สร้างตามกระบวนการ) พระกริ่งปัจจุบันเป็นพระกริ่9งโรงงานที่มีเฉพาะรูปแบบ
เพราะพระกริ่งดีๆ เป็นที่พึ่งในยามทุกข์กายใจได้ อัญเชิญทำน้ำมนต์เป็นศิริมงคลแก้โรคภัย ดุจเป็นยาสามัญประจำบา้น

.......การสร้างพระกริ่ง จึงเป็นการสร้างที่มีแบบแผน
โอกาสที่อ.ปริญญาจะสร้าง"พระกริ่ง ปโชตาไจยเบ็จจร"ในครั้งนี้ เราจะมารื้อฟื้นแบบแผนดังกล่าวมาทำพระกริ่งดีๆใช้กัน ทำถึง พึ่งได้....
***** เขียนโดย ******
อาจารย์เอก นาครทรรพ

 

ขอจอง ชุดกรรมการ ชุดใหญ่ ๕๐๐๐บาท 1 ชุด ครับ

 

อ่านข้อความด้วยนะครับ
รับทราบและขอรายละเอียดด้วยนะครับ

 

พระสามัญประจำบ้าน(๒)
การสร้างพระกริ่งนั้นมีขั้นตอนในการประกอบพิธีที่ซับซ้อน ดังอเทพย์ สาริกบุตรได้เคยเขียนให้อ่านกันแล้ว ยังโชคดีมีการค้นพบบันทึกของหลวงศุภกร บันทึกนี้ได้ทำให้เรารู้ขั้นตอนเติมเต็มกันอีกมาก(บันทึกนี้ยังคงเก็บไว้ศึกษากันเฉพาะกลุ่ม)
พิธีการคงปล่อยให้เป็นเรื่องของพราหมณ์และบัณฑิตย์เจ้าพิธีไป
ผมขอเล่าให้ฟังเฉพาะเรื่องเลกยันต์
ในพิธีการสร้างพระกริง มียันต์๑๐๘ นะ๑๔ ดวงพระพุทธเจ้า อักขรพระคุณพ่อ แม่
ผมโชคดีได้มีโอกาสร่ำเรียนพระยันต์เหล่านี้จากผู้รู้จริงหลายท่าน
เป็นต้นว่า -พระยันต์ร้อยแปดสายวัดโพธินิมิตร(วัดเดิมพระวันรัตแดง) ของหลวงปู่เหลี่ยม คงคสุวัณโณ เรียนจาก อ.ชายเจริญ วรรณสันทัด
-เป็นลูกมือ อ.ถนอม ศรหุนะ ศิษย์ก้นกุฎิ อ.เทพย์ สาริกบุตรในการเขียนพระยันต์ชุดนี้ โดยได้รับครอบจากท่านในวันที่15เมษา2547
นอกจากนันยังได้รับคำแนะนำจากผู้รู้จริงอีกหลายท่าน ที่ไม่สะดวกจะเปิดเผย
ผมเองได้เขียนพระยันต์ชุดนี้ถวายร่วมหล่อพระถวายครูบาอาจารย์ตลอดสิบกว่าปีมานี้
ครั้งหนึ่งมีคนบอกผมว่า ไสยศาสตร์เป็นเรื่องง่ายดาย จิตถึง ก็ซื้อตำราในตลาดมาอ่านเอาก็ได้ ซึ่งเป็นที่มาของบทความของผมคือ "เรียนไสยศาสตร์ไม่มีครูเขาเรียกว่าไอ้บ้า"
อ.เทพย์ท่านว่า บอกวิชาให้ไปหมดก็เป็นอ.กันเต็มบ้านเต็มเมืองนะสิ (ถ้าอ.อยู่ทันยุคนี้ ก็คงเห็นสภาพที่อ.ไสยศาสตร์เดินกันเต็มบ้านเต็มเมือง..อันสืบเนื่องจากตำราของท่านด้วยส่วนหนึ่ง ทั้งๆที่ท่านบอกไม่หมด เพราะวิชาพวกนี้ มีข้อจำกัดด้วยจารีต)
ผมยืนยันว่าตำราที่ลงเผยแพร่กันนันมีบางส่วนที่ไม่เปิดเผยด้วย และพระยันต์ทุกอันมีสูตรลงโดยเฉพาะทั้งสิ้น!!!
ตำราชุดนี้ยังอธิบายได้ด้วยในเหตุผลเชิงระบบ ถ้าหาระบบไม่เจอก็แปลว่า ยังเข้าไม่ึงยันต์ชุดนี้ (ผมขอสงวนไว้ เผยแพร่กับคนที่เรียนตามจารีตแบบต่อมือ)
...สำหรับท่านที่จิตถึงๆ ผมแนะนำว่าท่านไม่จำเป็นต้องใช้ไสยศาสตร์ให้เสียเวลาหรอกครับ ท่านใช้ฤทธิ์ทางจิตของท่านได้เลย...
พระยันต์๑๐๘ นะ๑๔ประกอบด้วย
พระยันต์ประทุมจักร 5 ยันต์ ,พระยันต์ ภควัมติ 5 ยันต์
พระยันต์ไตรสรณคมน์ 3 ยันต์ ,พระยันต์นวโลกุตรธรรม 1 ยันต์
พระยันต์พระพุทธคุณ 7 ยันต์ พระยันต์นะโมพุทธายะ 5 ยันต์
พระยันต์จตุราริยสัจจ์ 2 ยันต์ ,พระยันต์พระรัตนตรัย 1 ยันต์
พระยันต์จักรสิรโลก 9 ยันต์ ,พระยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า 1 ยันต์
พระยันต์พระบารมี 30 ทิศ 1 ยันต์, พระยันต์มหาละลวย 2 ยันต์
พระยันต์ปถมังพระเจ้า 5 พระองค์ 5 ยันต์ ,พระยันต์องครักษ์ 4 ยันต์
พระยันต์โสฬสมงคล 1 ยันต์ ,พระยันต์ฆเฎสิ 1 ยันต์
พระยันต์นวภา 25 ยันต์ , พระยันต์วิปัสสี 28 ยันต์
สิริรวม 108 พระยันต์
กับอีก 14 นะคือ...
นะบังงสมุทร นะนาคบาศ นะวชิราวุธ นะทน
นะกำจาย นะปรีชาทุกทิศ นะครอบจักรวาล นะบังไตรภพ
นะบังเมฆา นะสะท้านดินไหว นะกำจัด นะปิด นะปิดอากาศ นะล้อม

โอกาสที่จะทำพระกริ่ง"ปโชตาไจยเบ็งจร" นี้
คงจะมีพระยันต ประโชตา และ ไจยเบงจรประกอบอีกด้วย
ท่านอ.ปริญญา ณเชียงใหม่ได้มอบหมาย ให้ผม เขียนพระยันต์ตามตำรับวัดสุทัศน์ เพื่อสมทบด้วย เป็นโอกาสของผมที่จะสร้างบุญถวายแก่ครูปฎิยายทั้งหลาย

***** เขียนโดย ******
อาจารย์เอก นาครทรรพ

 

พระสามัญประจำบ้าน (พระกริ่งปโชตาไจยเบงจร)
ตอน ๓ปถมังรามัญ๑๐๘ ครอง๕

มียันต์สายมอญชุดนึงที่ทางมอญ กำหนดเฉพาะเจาะจงให้หล่อพระ คือยันต์ปถมัง๑๐๘ ครอง๕
ผมมีอาจารย์ท่านหนึ่งท่านชื่อนนติยะ ท่านเป็นครูผมด้านเล่นแร่แปรธาตุ สร้างแมงภู่จากไม้ดุมเกวียน ,พระบัวเข็มจากโพธิ์ทักขินะสาขา, และประคำ ท่านสืบวิชามาจากเมืองมอญ และหลวงปู่อุตตมะ ท่านเป็นลูกมือทำเครื่องรางให้กับหลวงปู่อุตมะตลอดหลายๆปีด้วย
ครูประคำ เป็นครู(วุยเจีย) สำคัญหนึ่งในครูทั้ง๕ของมอญ
การทำประคำ ให้ลงยันต์ด้วยยันต์ชุดใหญ่ชุดนึงใส่กระดาษสา และควั่นเป็นประคำพอกผง ท่านสอนผมทำประคำ และให้นำยันต์ชุดนี้มา ซวางอาง หรือกินยันต์นี้เพื่อเสริมธาตุในการเล่นแร่แปรธาตุอีกด้วย การซวางอาง อยู่ในประเภทการปลุกเสกตัวเองให้เป็นผู้วิเศษ ท่านว่ายันต์ชุดนี้ยังใช้ในการหล่อหลอมพระให้ทรงความศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
น้องรักจากลพบุรี ได้ส่งพระยันต์ ปถมังรามัญ๑๐๘และครอง๕ มาให้ผมเพื่อร่วมสร้างพระ"กริ่งปโชตาไจยเบ็งจร"ครั้งนี้ด้วย ยันต์ชุดนี้จารโดย หลวงพ่อวิสุทธิ์ วัดอู่ล่อง ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่อุตตมะ เช่นเดียวกัน ยันต์ชุดนี้เป็นยันต์ชุดที่ผมกล่าวถึงนั่นเอง หลวงพ่อท่านกล่าวว่า ไทยมี ยันต์๑๐๘นะ๑๔ ทางมอญก็มีปถมัง๑๐๘ครองทั้ง๕
ไว้สำหรับสร้างพระเช่นกัน ท่านว่า พระที่สร้าง มี"ค่าควรเมือง"ทีเดียว

นับเป็นโอกาสดีที่จะได้สร้างพระกริ่งด้วยพระยันต์ชุดนี้
ขอขอบคุณน้อง โอ๊ะ พิชญะ มาณที่นี้ด้วย

.....พระกริ่งรุ่นนี้ มีคุณค่าทางสายวิชาโบราณมาก ...ผมไม่ได้โฆษณานะครับ ผมว่าควรค่าน่าเก็บมาก ..ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


***** เขียนโดย ******
อาจารย์เอก นาครทรรพ

 

เจ้าภาพร่วมสร้างพระกริ่งติดต่อได้ที่
081-5942883
ปริญญา ณ เชียงใหม่
และสามารถโอนร่วมจองพระกริ่งได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ
ชื่อบัญชี ปริญญา ณ เชียงใหม่
สาขาถนนสุเทพเลขบัญชี504-054876-9



ท่านใดสนใจโทรจองได้เลยครับ

 

"พระกริ่งปโชตาไจยเบ็งจร"
(ตอน๔ ) ปะโชตา ยอดพระคาถา
พระคาถาจุลทัสสะคาถา๑๔ บทตกทอดมาจากลังกานั้น มีบทแรก ขึ้นต้นว่า "ปะโชตา ธัมมภาโหตุ........"
ทำให้นิยมเรียกพระคาถาสำคัญทั้ง๑๔แบบรวมๆว่า ปะโชตา
คาถาทั้ง๑๔นี้ เป็นที่นับถือของคนโบราณมาก ทั้งภาคกลาง ,มอญ และ ล้านนา
ต้นสายเกิดจากนักปราชญ์ชาวลังกา ปราถนาอยากทำนุบำรุงความยิ่งใหญ่ให้กษัตราธิราช เลยเลือกพระคาถาวิเศษ๑๔ บทถวายให้ พระเจ้าเทวานัมปิยะดิษ เธอได้เล่าเรียนสาธยายตามอุปเท่ห์จึงบังเกิดให้พระเกียรติยศ เดชานุภาพแผ่ไปไพศาลจากอนุราธบุรีขจรไกลสิบทิศ
ต่อมาพระมหาชัยมงคลเถร มีโอกาสไปกราบพระทันตธาตุที่ลังกาจึงได้สืบวิชาไว้ และนำมาสืบทอดต่อ ..จนถึงล้านนา...ถึงสุวรรณภูมิ
ว่ากันว่าท้ามมหากษัตริย สมณะ ชีพราหม คหบดี กฎุมพีผ๔้ปราถนาเอาสุข และประโยชน์ในโลกทั้งสาม ได้สาธยายเป็นนิจ จะถึงซึ่งศิริสวัสดิภาพ หาโรคามิได้ เป็นที่เกรงขามแก่ปัจจามิตร อายุยืนยาว ชนะแก่ข้าศึกศตรู ปรากฎเกียรติยศในทิศานุทิศ มีคนมาอยู่ในอำนาจมาพึ่งพิงบารมี คนทั้งหลายน้อมนำเอาลาภสการมาสู่
เทพยดามารักษาคุ้มครอง แม้ดับขันไปจะเกิดเป็นใหญ่ในสวรรค์ จะเกิดในที่ใดๆ ก็เป็นใหญ่กว่าเขาสิ้นด้วยอำนาจพระคาถาทั้ง๑๔บทนี้
............พระกริ่งชุดนี้ได้อิงเอามหาคุณของคาถาวิเศษทั้ง๑๔ บทนี้
พระกริ่งนี้จึงได้ชื่อว่า.....ปโชตา ไจยเบ็งจร


***** เขียนโดย ******
อาจารย์เอก นาครทรรพ

 

ตอนนี้ชุดกรรมใหญ่ 5,000 บาท
มียอดเข้ามา 30 กว่าชุดแล้วนะครับ

 

#ครั้งแรกที่พบหลวงพ่อหนูพิน
เมื่อราวสิบปีที่แล้วผมมีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งชื่อพี่ทรงกรด ขมิ้นเขียวซึ่งเปิดร้านอาหารไทยชื่อร้านพัชรีอยู่ตรงข้ามคณะเภสัชภรรยาของพี่ทรงกรดชื่อพี่หน่อยทำอาหารอร่อยมากโดยเฉพาะแกงส้มและแกงสายบัวผมจะฝากท้องมื้อเที่ยงร้านนี้เสมอจนมีความสนิทกับเจ้าของร้านทั้งสองท่านพี่ทรงกรดกับพี่หน่อยจะมีนิสัยชอบทำบุญไปหาครูอาจารย์สายพระป่าตอนเปิดร้านอาหารจำได้ว่าพี่เขานิมนต์พระสายปฏิบัติมาเจริญพระพุทธมนต์ที่ร้านถ้าผมจำไม่ผิดมีหลวงปู่ทองอินทร์วัดสันติธรรมท่านอาจารย์เปลี่ยนวัดอรัญญวิเวกหลวงพ่อประสิทธิ์วัดป่าหมู่ใหม่พ่อหนูพินวัดดอยแม่ปั๋งนอกจากนั้นผมจำไม่ได้บรรดาครูบาอาจารย์จะเรียกพี่ทรงกรดว่าศักดิ์จนที่สุดพี่เขาก็สนิทกับผมและมักจะชวนผมไปทำบุญกับพระสายพระป่าแต่พูดตรงๆสมัยนั้นผมไม่เคยเชื่อถือพระรูปใดง่ายๆเลยด้วยผมเขียนประวัติพระภาคเหนือมานับไม่ถ้วนเจอพระสงฆ์พูดตรงๆทั้งของจริงและไม่จริงตอนนั้นผมยึดถือหลวงปู่คำวัดศรีดอนตันและครูบาคำหล้าวัดป่าลานเป็นสรณะทางใจแต่พี่เขาก็บอกเสมอว่ามีพระรูปหนึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่แหวนชื่ออาจารย์พินรูปนี้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวในการปฏิบัติยึดตามรอยครูอาจารย์ขนาดตีสองตีสามยังไม่ยอมจำวัดเดินจงกรมผมได้ฟังพี่เขาพูดอยู่หลายครั้งบอกตรงๆก็เฉยๆจนตอนหลังพี่ทรงกรดย้ายร้านผมจึงไม่ได้เจอพี่เขาอีกเลยแต่ยามใดที่ผมผ่านไปอำเภอพร้าวเชื่อไหมผมแวะวัดดอยแม่ปั๋งเพื่อจะพิสูจน์ว่าอาจารย์พินของพี่ทรงกรดจะเป็นพระที่งดงามดังที่พี่เขาบอกหรือเปล่าแต่ทุกท่านเชื่อไหมครับเวลาเป็นสิบปีผมไปวัดดอยแม่ปั๋งทุกปีแต่ไม่เคยเจอพระอาจารย์พินของพี่ทรงกรดแม้นครั้งเดียวจนสองปีที่ผ่านมาผมยังจำเหตุการได้ดีอยู่วันนั้นตรงกับวันที่๒กรกฎาคมพ.ศ.๒๕๕๗วันนั้นอยู่ๆผมก็ร้อนลุ่มอยากไปวัดดอยแม่ปั๋งเป็นที่สุดอยู่ก็อยากเจอพระที่ชื่ออาจารย์พินด้วยเป็นคนไม่ชอบขับรถเองเลยโทรไปชวนคุณตั้มสันกำแพงแบบไม่นัดเขาก่อนพอดีเขาขายของอยู่เลยเกรงใจบอกไปว่างั้นวันหลังค่อยไปและในปีนั้นเองผมและคณะอัครบุญจัดทอดกฐินที่วัดเทพกุญชรพวกเราจัดทำเหรียญครูบาศรีวิชัยเป็นทีระลึกให้แก่ผู้ร่วมทำบุญพวกเรารวบรวมชนวนมวลสารมาจากผู้บริจาคทั่วประเทศแถมเดินสายขอความเมตตาครูอาจารย์จารอักขระเลขยันต์ให้เป็นที่มาที่ผมสัจจะอธิษฐานในใจว่าผมจะไปขออาจารย์พินจารเลขยันต์ให้หากไม่เจอคราวนี้คงไม่ไปวัดดอยแม่ปั๋งจากนั้นจึงได้ชักชวนทีมงานโดยมีคุณเกรียงศักดิ์ ปันทากรุณาขับรถให้พวกเราไปถึงวัดราวสิบเอ็ดโมงไปถึงวัดเก้ๆกังๆเพราะไม่รู้จักใครเห็นพระรูปหนึ่งนั่งอยู่ตรงลานหน้าวัดเลยเข้าไปถามว่าอาจารย์พินอยู่ไหนแปลกพระรูปนั้นกลับเฉยทำหน้ายิ้มเลยไปถามแม่ค้าเขาหัวเราะใส่ชี้มือก็นั่นไงจคงถึงบางอ้อเข้าไปกราบท่านพร้อมแนะนำตัวว่าพี่ทรงกรดแนะนำมากะจะเอาเส้นเสียหน่อยปรากฏท่านบอกทรงกรดไหนเลยบอกพี่ศักดิท่านคงลองใจผมอีกศักดิ์ไหนนะเลยใช้ไม้ตายตาจ่อยครับคราวนี้ท่านยิ้มให้ต้อนรับขับสู้อย่างดีแถมเมตตาจารแผ่นทองพร้อมอธิษฐานจิตให้เป็นครั้งแรกที่ผมพบท่านและเลื่อมใสขอเป็นศิษย์ท่านในวันนั้นเองวันนี้ผมมาย้อนนึกดูเหตุการผมว่าท่านรู้ว่าผมจะมากราบท่านถึงเวลาที่ผมต้องเจอท่านแล้วเชื่อไหมครับหลังจากวันนั้นเป็นเวลาสองปีแล้วท่านไม่เคยมานั่งตรงนั้นอีกเลยพระอาจารย์พินที่ใครว่าทั้งเข้มงวดดุนักหนาท่านกลับเมตตาผมดุจคนคุ้นเคยมาเป็นสิบยี่สิบปีในตอนต่อไปผมจะเล่าเรื่องอัศจรรย์ที่ผมได้พบเจอทำไมพระที่ผมพึ่งรู้จักผมถึงนับถือเลื่อมใสจนเรียกท่านว่าพ่อพิน ,,,,,,,,,,
#พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
#ไม่สนใจลาภสัการะ
#ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ
เมื่อผมเกิดความเลื่อมใสพระรูปนี้ผมได้ถวายตัวขอเป็นศิษย์และปวารณาที่จะรับใช้ท่านเท่าที่จะทำได้โดยได้บอกท่านว่าการเข้ามาวัดดอยแม่ปั๋งของผมครั้งนี้ไม่ต้องการที่จะแสวงหาผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นผมมามีแต่ใจพ่อพินหัวเราะท่านพูดเดี๋ยวก็หายจ้อยผมบอกพ่อว่าผมเป็นคนโผงผางใจนักเลงอาจพูดคำใดเป็นคำนั้นไม่เชื่อพ่อดูที่ใจผมสิพูดเสร็จพ่อพินท่านก็นักเลงจริงท่านจ้องมาที่หัวใจผมทันทีท่านนิ่งไปพักใหญ่จึงพูดว่านักเลงแบบนี้แหละดีชอบจริตตรงกันอยู่ต้องขอเรียนว่าอุปนิสัยของพ่อพินท่านเป็นพระพูดน้อยเวลาพูดอะไรก็ดูแข็งๆคนก็เลยว่าท่านดุแต่ถ้าใครได้สนิทกับท่านจะรู้ว่าท่านเปี่ยมด้วยเมตตาอย่างที่สุดท่านเป็นพระที่ปิดตัวกลางวันทำงานวัดกลางคืนปฏิบัติธรรมจึงดูเหมือนท่านไม่รับแขกครั้งหนึ่งมีคนจากต่างจังหวัดต้องการจะไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆภายในวัดบังเอิญเจอพ่อพินเข้าจึงถามท่านจะไปกราบอัฐิหลวงปู่แหวนได้ตรงไหนพ่อพินตอบสั้นพร้อมชี้มือเสียงค่อนข้างแข็งตามนิสัยท่าน..โน่นทางโน้นปรากฏท่านผู้แสวงบุญคงไม่ค่อยพอใจจึงถามแม่ค้าในวัดว่าพระรูปนี้เป็นใครพูดไม่เพราะเลยหลังจากวันนั้นค้าจึงบอกพ่อว่าญาติโยมเขาต่อว่าปู่(คนในวัดจะเรียกท่านว่าปู่)ว่าพูดไม่เพราะท่านตอบว่าแล้วจะให้พูดว่าอย่างใด.....เชิญคุณท่านทางนี้ พูดแบบไพเราะอ่อนหวานแบบนี้มันก็ไม่เหมาะ การเป็นพระพูดหวานเอาอกเอาใจญาติโยมเพียงเพื่อหวังลาภสักการะแบบนี้ไม่ควรพระจะหอมหวลได้ก็เพราะการปฏิบัติแม้นผมจะสัมผัสพ่อพินไม่นานแต่สามารถบอกได้เลยว่าท่านเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติเป็นที่สุดเรื่องพระธรรมวินัยไม่มีหย่อนยานเลยเมื่อครั้งท่านปฏิบัติธรรมอยูที่โป่งเดือดนั้นท่านปฏิบัติแบบเอาเป็นเอาตายที่โป่งเดือดนี้หลวงพ่อประสิทธิ์วัดป่าหมู่ใหม่เคยปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี้ด้วยเป็นสถานที่สัปปายะและลำบากเหมาะแก่วิสัยของพระปฏิบัติศิษย์ของหลวงพ่อใครอยู่ที่ได้ถือว่าสอบผ่านพ่อพินปฏิบัติธรรมอยู่ที่โป่งเดือดนานถึงห้าหกปีในแวดวงของพระกัมมัฏฐานจะรู้กันดีว่าท่านเด็ดเดี่ยวในทางธรรมเป็นอย่างที่สุดสมัยที่พ่อพินดูแลอุปัฏฐากหลวงปู่แหวนนั้นส่วนใหญ่ท่านมีหน้าทีดูแลหลวงปู่แหวนในช่วงกลางคืนในสมัยนั้นท่านยังเป็นพระหนุ่มอยู่หลวงปู่แหวนมักมีคำสอนที่เรียบง่ายพ่อมักบอกว่าหลวงปู่แหวนท่านสอนในเรื่องธรรมเมาใครที่อยากพูดกับพ่อนานๆผมแนะนำให้พูดกับท่านในเรื่องการปฏิบัติการภาวนารับรองท่านได้ของดีกลับบ้านแน่นอนความจริงเรื่องราวในวัดดอยแม่ปั๋งสมัยหลวงปู่แหวนมีชีวิตอยู่นั้นมีเรื่องราวภายในวัดมากมายที่คนภายนอกไม่รู้ซึ่งผมไม่อาจเล่าในที่นี้ได้อย่างเรื่องของหลวงปู่หนูเจ้าอาวาสรูปแรกนั้นความจริงท่านเป็นพระที่ดีมีความเคร่งครัดรูปหนึ่งเลยแต่ข่าวที่ออกมากลับทำลายเกียรติคุณของท่านต้องเรียนว่าสมัยหลวงปู่แหวนหลวงปู่หนูคือพระทำงานท่านได้รับความไว้วางใจจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินให้ดูแลหลวงปู่แหวนและต้องคอยถวายรายงานพ่อมาหลวงปู่แหวนมีชื่อเสียงเป็นพระอริยสงฆ์ของแผ่นดินจึงมีนักสร้างพระเครื่องเข้ามามีบทบาทภายในวัดคนที่ขาดผลประโยชน์ก็เริ่มโจมตีหลวงปู่หนูพร้อมศึกภายในที่ต้องการที่จะเข้ามามีบทบาทแทนหลวงปู่หนูซึ่งเพื่อความเหมาะสมจะไม่ขอเจาะลึกในเรื่องนี้จวบจนหลวงปู่แหวนละสังขารเข้าสู่นิพพานวัดดอยแม่ปั๋งก็ถึงยุคเริ่มเสื่อมถอยลงตามลำดับจวบจนหลวงปู่หนูอาพาธเป็นเวลาเกือบสิบปีพ่อพินได้ดูแลอุปัฏฐากจนหลวงปู่หนูละสังขารภาระในการดูแลวัดดอยแม่ปั๋งจึงเป็นของพ่อพินท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปที่สองต่อมาจากหลวงปู่หนู
#สามพระอริยสงฆ์ให้คำรับรองในคุณธรรมหลวงพ่อพิน #ดวงประทีบที่ส่องสว่างโชติช่วงแห่งวัดดอยแม่ปั๋ง

หลวงพ่อพินรูปนี้ท่านคือเพชรแท้ของวงการพระสายปฏิบัติในปัจจุบันเลยละครับอันนี้ใช่ผมพูดเองนะครับมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์กล่าวรับรองในปฏิปทาของหลวงพ่อพินถึง 3 รูปด้วยกันนะครับท่านแรกพระอริยเจ้าหลวงปู่ขาน ฐานวโร วัดป่าบ้านเหล่า จังหวัดเชียงราย
ได้กล่าวขึ้นท่ามกลางผู้คนชี้มาที่หลวงพ่อพินว่า....อันนี้สิของจริงต่อไปวันข้างหน้าจะโด่งดังคนจะเข้าหายาก.....เรื่องนี้เท็จจริงสอบถามคุณทรงกรด ขมิ้นเขียวพี่เขาอยู่ในเหตุการวันนั้นหลวงปู่ขานรูปนี้ว่ากันว่าท่านบรรลุธรรมขั้นสูงแล้วสามารถรู้จิตใจคนและเหตุการล่วงหน้าครูอาจารย์รูปที่สองที่กล่าวรับรองภูมิธรรมของหลวงพ่อพิน คือ
หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ท่านได้กล่าวขึ้นว่าบัดนี้ได้เกิดประทีปธรรมดวงใหม่ขึ้นแล้วที่วัดดอยแม่ปั๋งคงไม่ต้องบอกนะครับว่าหลวงพ่อประสิทธิ์ท่านทิ้งปริศนาอะไรไว้ ส่วนครูอาจารย์รูปต่อไปที่ได้ทำนายวัดดอยแม่ปั๋งและหลวงพ่อพินก็คือหลวงปู่หนู สุจิตโต อดีตเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดดอยแม่ปั๋งความจริงหลวงปู่หนูท่านเป็นพระปฏิบีติที่เคร่งครัดรูปหนึ่งเลยแต่น่าเสียดายท่านถูกบิดเบือนจนกลายเป็นยักษ์เป็นมารไปท่ามกลางข่าวลือว่าท่านคือทศ...นั้นผมถามทีมีใครรู้เรื่องภายในวัดดอยแม่ปั๋งดีบ้างทุกคนรู้แต่หลวงปู่แหวนคือพระอรหันต์ถนนทุกสายมุ่งสู่ดอยแม่ปั๋งนักสร้างพระจ้องตาเป็นมันใครสมใจก็สรรเสริญเยินยอหลวงปู่หนูใครไม่สมหวังก็โจมตีคิดดูดีๆนะครับหลวงปู่หนูนี่สมัยเป็นฆราวาสท่านไปฟังท่านอาจารย์ใหญ่พระอาจารย์มั่นภูริทัตโตเทศน์สั่งสอนแล้วเกิดศรัทธาและบวชเป็นพระป่าถือเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นความตั้งใจของท่านคือบวชเพื่อละกิเลสหากท่านไม่ดีจริงผมรับรองหลวงปู่แหวนไม่มาอยู่ที่วัดดอยแม่ปั๋งอย่างแน่นอนตามประวัติตอนหลวงปู่แหวนจะมาท่านยังนิมิตรได้ยินว่าหลวงปู่จะมาอยู่ด้วยถึงสองสามคืนติดกันประการสุดท้ายที่ผมเชื่อว่าหลวงปู่หนูเกิดมาเพื่ออุปัฏฐากหลวงปู่แหวนอย่างแท้จริงดูจากหลวงปู่หนูได้รับความไว้วางใจจากในหลวงรัชกาลที่๙ ให้คอยถวายรายงานการดูแลหลวงปู่แหวนแด่พระองค์ท่านด้วยสายพระเนตรของพระเจ้ายู่หัวรัชการที่ ๙ ย่อมกว้างไกลเหนือสามัญชน
หลังจากการเข้านิพพานของหลวงปู่แหวนแล้ว วัดดอยแม่ปั๋งเริ่มเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆอย่างน่าใจหายคนเริ่มจางหายไปครั้งหนึ่งหลวงปู่หนูจึงได้พูดให้คำทำนายขึ้นว่า มาตรแม้นวันใดที่ท่านละสังขารลงแล้ว จากนั้นให้นับไปอีกสิบปีวัดดอยแม่ปั๋งจะเริ่มฟื้นขึ้นทีละน้อยและจะกลับมารุ่งเรืองใก้ลเคียงยุคหลวงปู่แหวนในยุคของเจ้าอาวาสองค์ใหม่นับจากวันนั้นมาจนบัดนี้ล่วงเข้าเวลาสิบเอ็ดปีหรือประทีปธรรมดวงใหม่จะกลับมาโชติช่วงอีกครั้งเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
#เขียนโดยอาจารย์ปริญญา ณ เชียงใหม่

 

ติดตามครับ

 

เชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมบุญบูชาพระกริ่งปโชตา เพื่อ หาปัจจัยบูรณะ ปฏิสังขรณ์ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในวัดดอยแม่ปั๋ง สืบมาจากในยุคที่หลวงปู่แหวน ยังทรงสังขาร วัดดอยแม่ปั๋งมีประชาชนมามืดฟ้ามัวดินจากทั่วทุกสารทิศ ส่งผลให้วัดดอยแม่ปั๋งมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ภายหลังที่หลวงปู่แหวน ท่านละสังขาร เข้าสู่แดนพระนิพพาน สิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัดก็ค่อยๆ ทรุดโทรมตามกาลเวลา อาจารย์ปริญญา ณ เชียง มีความคิดที่จะสร้างพระกริ่งเพื่อหาปัจจัยบูรณะ ปฏิสังขรณ์ สิ่งก่อสร้างและค่าใช้จ่ายภายในวัดดอยแม่ปั๋งจึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมบุญในครั้งนี้ครับ
สำหรับท่านที่สนใจร่วมบุญสามารถร่วมบุญได้ดังนี้
1. พระกริ่งปโชตา ชุดกรรมการใหญ่ สร้าง 108 ชุด ราคา 5,000 บาท
( รับพระกริ่งปโชตา 3 องค์ประกอบด้วย เนื้อ นวะโลหะ, ชนวนเข้มข้น , สัมฤทธิ์ บรรจุเกศา จีวร อัฐิธาตุหลวงปู่แหวนและผงพุทธคุณ )
2. พระกริ่งปโชตา ชุดกรรมการเล็ก สร้าง 108 ชุด ราคา 2,000 บาท
( รับพระกริ่งปโชตาเนื้อ ชนวน 1 องค์ บรรจุเกศา จีวร อัฐิธาตุหลวงปู่แหวนและผงพุทธคุณ )
3. พระกริ่งปโชตา เนื้อสัมฤทธิ์สร้าง 999 องค์ ราคา 1,000 บาท
( รับพระกริ่งปโชตาเนื้อสัมฤทธิ์ 1 องค์ อัฐิธาตุหลวงปู่แหวนและผงพุทธคุณ )
สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อบูชาได้ที่
1. คุณบพิตร ไม้เท้าแก้ว 099- 2417497
Fb : บพิตร ไม้เท้าแก้ว
2. คุณรัตชปรัจศ์ สาแก้ว 083- 5935495
Fb : รัตชปรัจศ์ สาแก้ว
3. คุณปริญญา ณ เชียงใหม่ เบอร์โทร 081-5942883
Fb : ภัทร เป็นหนึ่ง
ทุกรายการสามารถจองได้ถึง วันที่ 26 มิถุนายน 2560

************************************************************************************************************************************************************************************************

พระกริ่งชินปโชตา ไจเบ็งชร บังเกิดขึ้นแล้ว ‘’ อิติภควา ’’
ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2560 วันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีได้ทั้งฤกษ์เหนือใต้ยามมหาฤกษ์เพชรฤกษ์เหมาะแก่การประกอบมงคลทางชาวคณะอัครบุญได้ทำการเททองหล่อพระกริ่งปโชตา เพื่อหาปัจจัยบูรณะซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆของวัดดอยแม่ปั๋ง การสร้างพระกริ่งครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากอาจารย์ชินพร สุขสถิต ผู้สร้างตำนานพระกริ่งชินบัญชรอันโด่งดัง เป็นฆราวาสจอมขมังเวทย์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วสารทิศ เมื่อครั้งแรกเริ่มที่มีการปรึกษากันจะสร้างพระกริ่งหรือพระไภษัชยคุรุไวฑูรยาตถาคตเจ้า หรือพระพุทธเจ้าด้านการแพทย์ ขึ้นเพื่อถวายหลวงพ่อหนูพิณ หรือหลวงพ่อพิณ เจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋ง นำโดยอาจารย์ปริญญา ณ เชียงใหม่ และคุณบพิตร ไม้เท้าแก้ว ได้มาขอคำปรึกษาจากอาจารย์ชินพร สุขสถิต เมื่อครั้งมาพบท่านท่านก็บอก เออ ดีๆ รู้หรือไหมต้นแบบพระกริ่งชินบัญชรก็เทที่วัดดอยแม่ปั๋ง ทั้งหลวงปู่ทิมยังเคยบอกอาจารย์ชินพร เมื่อครั้งสร้างพระกริ่งชินบัญชรว่าให้เอาของดีบนยอดดอยมาด้วย อาจารย์ชินพรก็ไม่ทราบว่าคืออะไร เมื่อขึ้นมาถึงวัดดอยแม่ปั๋งถึงได้ทราบว่า ของดีที่ท่านว่า คือ ทรายที่หลวงปู่แหวนล้างหน้าแล้วน้ำไหลผ่านมาตรงนั้น วันนี้ผ่านมาก็ 43 ปีแล้วจนบัดนี้ได้มาร่วมสร้างพระกริ่งให้วัดดอยแม่ปั๋งท่านมีความเต็มใจและยินดีเป็นอย่างมาก เมื่อคุยกันไปสักพักจะตั้งชื่อพระกริ่งรุ่นนี้ว่า รุ่นอะไรดี ท่านก็นิ่งไปสักพักพร้อมทั้งเล่าเรื่องอดีตสมัยที่ท่านที่เหนือและได้เดินทางไปพม่าไปกราบไหว้พระมหามัยมุณีเมืองมัณฑะเลย์
พระพุทธรูปศักดิ์ศิทธิ์ เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลเป็นพระพุทธรูปมีชีวิตเพราะชาวพม่าเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้มาประทานลมหายใจอันศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่พระพุทธรูปองค์นี้ ในระหว่างนี้อาจารย์ได้พูดขึ้นมาว่า พระกริ่งปโชตา เอาชื่อนี้ดีไหม
คุณบพิตร จึงถามว่า ปโชตา แปลว่าอะไรครับ ท่านอาจารย์บอกไม่รู้เหมือนกันแต่มีชื่อนี้เข้าในหัวอยู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ เมื่อได้ทำการค้นคว้าแล้วพบว่าเป็นพระคาถาปโชตาที่พระมหากษัตรย์ในอดีตทางล้านนาหรือทางเหนือของประเทศไทยในปัจจุบันต้องศึกษาเล่าเรียนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนเป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์คู่พระคาถาชินบัญชร พร้อมทั้งมีอักขระเลขยันต์เกี่ยวกับพระคาถาปโชตาด้วย
ในวันบวงสรวงเป็นวันที่ฝนตก เรียกว่าได้ ถล่มทั่วฟ้าเมืองไทยเลยก็ว่าได้เพราะเป็นการใกล้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการทางคณะผู้จัดสร้างแอบมีความกังวลอยู่นิดๆว่าจะทำการบวงสรวงและเททองหล่อพระกริ่งปโชตาได้หรือไม่ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาผมเลยกล่าวกับคุณบพิตรว่า ยังไงก็ไม่เป็นอุปสรรคแน่นอน
แต่ฝนก็ยังตกต่อเนื่องจนถึงเมื่อเริ่มบวงสรวงฝนปรอยๆ ลงเบาๆ ประดุจน้ำพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ เมื่ออาจารย์ชินพร ได้กล่าวทำพิธีเปิด ฟ้า ดิน บอกกล่าวครูบาอาจารย์อันมีหลวงปู่ทิม หลวงปู่แหวน เป็นที่สุด จากนั้นอาจารย์เอก นาครทรรพ ได้อ่านโองการเมฆที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนกลับมีแสงส่องสว่างจากดวงอาทิตย์ฝนที่เคยตกกลับหยุดลง ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีมากๆ เป็นเหมือนการแหวกอุปสรรคทั้งปวงที่มีให้ผ่านพ้นได้ด้วยดี ครูบาอาจารย์ ลงมาประสิทธิพรชัยต่างๆ ให้กับพระกริ่งปโชตา
สำหรับผู้ที่จะได้ครอบครองบูชาจะต้องมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน
จากนั้นอาจารย์ชินพร ได้อาราธนาพระคาถาการะเวกเรียกทรัพย์เพื่อให้พระกริ่งปโชตามีพุทธคุณโดดเด่นเรื่องโภคทรัพย์อย่างเอกอุ และให้ได้ปัจจัยในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ เท่าที่ผมเองติดตามอาจารย์ชินพรมาหลายปีพึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกที่อาจารย์ใช้มนต์บทนี้ ในระหว่างทำพิธีบรวงสรวงเพื่อเตรียมจะเททองหล่อพระกริ่งปโชตา อาจารย์ปริญญา ณ เชียงใหม่ ได้แจ้งทางหลวงพ่อหนูพิณถึงเวลาบรวงสรวงเททองหล่อพระกริ่งปโตชาหลวงพ่อหนูพิณเองท่านได้นั่งสมาธิแผ่เมตตามายังบริเวณที่ทำพิธีเททองหล่อพระกริ่งปโชตาทั้งยังบอกกับอาจารย์ปริญญา ณ เชียงใหม่ พระชุดนี้ไม่ต้องตระเวนเสกท่านจะขออธิษฐานจิตเดี่ยวๆ แบบชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกิน และจะสมโภชพระในวันที่ ๒ ท่ามกลางพระสายพระป่าที่วัดดอยแม่ปั๋งโดยท่านบอกผมเพียงสั้นๆ ว่าดีแน่นอน
อาจารย์ปริญญายังบอกอีกว่า หลวงพ่อพิณได้บอกผมว่า ในพิธีอาจารย์เอก นาครทรรพ ทำน้ำมนต์อิติปิโสรัตนมาลาเพื่อประพรมน้ำมนต์ครูบาอาจารย์รจนามาแต่สมัยโบราณพระคาถาอิติปิโสรัตนมาลา เป็นการกล่าวสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้าที่มีพุทธคุณประดุจแก้วสารพัดนึกใช้ได้ตามจิตอธิฐานสามารถขจัดปัดเป่าสิ่งไม่มดีต่างๆส่งเสริมความมงคลแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงที่มองเห็นและมองไม่เห็นสุดจะกล่าวถึงอำนาจของพุทธบารมีได้
พุทโธอัปปมาโณคุณของพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณฉันใดน้ำมนต์อิติปิโสรัตนมาลาพุทธคุณก็ไม่มีประมาณฉันนั้น
ในการเททองหล่อพระกริ่งปโชตาในครั้งนี้ได้เททองพระชัยวัฒน์ก่อนเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยเป็นเคล็ดว่าจะทำการอันใดจะมีชัยเหนือคนทั้งปวงชนวนที่นำมาสร้างในครั้งนี้มีมากจริงๆ เป็นการรวมวิชาในสายล้านนา ล้านช้าง สายหลวงปู่ทิม และที่ขาดไม่ได้คือพระยันต์ 108 นะ 14 ตามตำราของสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์
ภายหลังเสร็จพิธีทุกคนล้วนมีความปิติยินดีที่การเททองหล่อพระกริ่งปโชตาสำเร็จไปด้วยดีทั้งนี้อาจารย์ชินพร สุขสถิตยังเอ่ยปากจองบอกว่า เก็บไว้ให้เราหนึ่งชุดนะน้อยครั้งที่อาจารย์ชินพรเองจะเอ่ยปากที่จะขอบูชาพระด้วยตัวเอง แน่นอนว่าฆราวาสจอมขมังเวทย์ศิษย์เอกหลวงปู่ทิมต้องทราบถึงความไม่ธรรมดาของพระกริ่งปโชตาอย่างแน่นอนก่อนที่ท่านจะกลับอาจารย์เอก นาครทรรพได้มาขอความเมตตาให้อาจารย์ชินพร เป่าหัวให้สักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าอาจารย์ชินพรจะไม่ได้แค่เป่าหัวธรรมดาเสมือนเป็นการประสิทธิวิชาเสียมากกว่าพร้อมทั้งเอ่ยปากบอกว่า ไม่ธรรมดานะเรา ปราชญ์ย่อมรู้ในปราชญ์ผมคงบอกได้แต่เพียงเท่านี้ครับ
พระที่เททองหล่อในครั้งนี้ประกอบด้วย
พระชัยวัฒน์ จำนวน 70 องค์
พระกริ่งเนื้อเงิน จำนวน 32 องค์
พระกริ่งเนื้อนวะโลหะ จำนวน 108 องค์
พระกริ่งเนื้อชนวนเข้มข้น จำนวน 108 องค์
พระกริ่งเนื้อชนวน จำนวน 214 องค์
พระกริ่งเนื้อสัมฤทธิ์ จำนวน 999 องค์

 

บรรยากาศงานบวงสรวงเททองหล่อพระกริ่งปโชตาครับ

 

เรื่อง ชนวนมวลสาร จะนำมาบอกเล่าต่อไปครับ

 

เม็ดเงินหลื่นหมู ซึ่ง เป็นของดีทางภาคอิสา หรือสายวิชา ล้านช้าง จะอุดเฉพาะ เนื้อนวะ
ในชุดกรรมการใหญ่เท่านั้นครับ

 

เนื้อเงินไม่ได้เปิดจองครับพี่ขออภัยด้วยครับ