เชิญอนุโมทนาบุญกฐินปรับภพภูมิสัมภเวสี/รวบรวมทุนสร้างพระอุโบสถถวายเป็นพุทธบุชา

ในห้อง 'อนุโมนาบุญ - อุทิศบุญส่วนกุศล' ตั้งกระทู้โดย บุญญสิกขา, 30 ตุลาคม 2012.

  1. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    ประกาศบุญทอดกฐินปรับภพ / นำพาสัมภเวสี ดวงวิญญาณตกค้างสู่สุคติภูมิ
    และสมทบทุนสร้างพระอุโบสถถวายเป็นพุทธบุชา


    <o></o>
    <o></o>
    เนื่องด้วยวัดบ้านโนนพิมาน ตำบลเมืองคง อำเภอเมืองคง จังหวัดนครราชสีมา ยังไม่มีพระอุโบสถ เพื่อพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และชุมชนชาวบ้านพุทธบริษัทได้ใช้ในการประกอบกิจทางศาสนาเป็นไปด้วยความสะดวก เหล่าผู้มีจิตศรัทธาและและชุมชนชาวบ้านพุทธบริษัท จึงมีความดำริจะร่วมกันทำการก่อสร้างพระอุโบสถ เป็นถาวรวัตถุเพื่อถวายคุณพุทธบูชา แก่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ผู้ตั้งอยู่ในธรรมสมบูรณ์ด้วยศีลได้พำนักอาศัยประกอบกุศลกิจปฏิบัติธรรม และเจริญสืบบวรพุทธศาสนาสืบไป

    <o>
    </o>
    ประกอบกับ พุทธบริษัทผู้มีเมตตาจิต ณ บริเวณชุมชนอาณาบริวเณพื้นที่โดยรอบ ณ วัดดีดวด แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร มีความประสงค์ร่วมกันที่จะกระทำการสงเคราะห์เกื้อกูลปรับภพภูมิ ส่งดวงจิตดวงวิญญาณสัมภเวสีตกค้างจำนวนมากมายกว่าหลายหมื่นดวงจิต ที่ประสบทุกข์กรรมเวียนว่าย ตกค้างอยู่ผิดภพ ผิดภูมิ นับแต่ปลายยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาฯ ตลอดรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ตราบจนถึงปัจจุบัน ให้ได้รับส่วนบุญส่วนกุศล หลุดพ้นจากการเวียนวน และเปลี่ยนภพเลื่อนชั้นภูมิตามกำลังแห่งตนๆ แล้วเข้ากระแสพระนิพพานโดยทั่วถึงกัน



    [​IMG]



    <o>ด้วยกิจกุศลหลัก ๒ วัตถุประสงค์ดังกล่าว อันยังประโยชน์โดยส่วนรวม เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และเพิ่มพูนบุญบารมีให้ยิ่งๆขึ้น โดยทั่วกันในครั้งนี้ เหล่าผู้มีจิตศรัทธาและและชุมชนชาวบ้านพุทธบริษัท จึงใคร่บอกบุญมายังทุกท่านที่มีจิตศรัทธาได้มีโอกาสร่วมอนุโมทนากิจกุศลร่วมกัน ซึ่งอานิสงฆ์ตอบต่อผู้ถวายอย่างยิ่งใหญ่ไพบูลย์ อันเป็นเครื่องบรรเทาความทุกข์ทั้งมวลนี้ ดังที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ ในวิหารทานกถาว่า



    <o></o>“..... การถวายวิหาร (วัด) ที่อยู่อาศัยแก่ภิกษุสงฆ์ เป็นสมุฏฐานก่อให้เกิดประโยชน์สุข
    ทั้งผู้รับและ ผู้ถวาย ซึ่งทรงแสดง อานิสงส์ไว้ว่า
    เป็นยอดของสังฆทาน เป็นปัจจัยให้ประสบความเกษมศานต์
    จนบรรลุถึงพระนิพพานเป็นที่สุด …..”


    <o></o>
    <o> สาธุชนผู้มีจิตศรัทธาการร่วมกุศล สามารถกระทำได้ด้วยการน้อมจิตกล่าวอนุ<wbr>โมทนาบุญ
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่<wbr>ผู้ทำหน้าที่ ไวยาวัตรกร : คุณมงคล บุญวิจิตร โทร ๐๘๔ ๕๔๖ ๗๑๐๖


    <o></o>
    หรือหากสาธุชนท่านใดมีจิตประสงค์ร่วมเป็นเจ้าภาพโดยตรงตามกำลั<wbr>งและศรัทธา ได้ที่
    ธนาคารกรุงไทย เผื่อเรียก สาขาจรัญสนิทวงศ์ ๑๓
    บัญชีชื่อคุณมงคล บุญวิจิตร เลขที่ ๐๔๖ – ๑ – ๖๓๖๑๗ – ๔
    (บัญชีดังกล่าว เพื่อรวบรวมปัจจัยไทยทานของคณะต้นบุญเจ้าภาพฆราวาส ทำการและดำเนินการก่อสร้างแทนคณะสงฆ์)<o></o>
    </o>
    </o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  2. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    ตำนานวัดดีดวด คลองมอญ

    ตำนานวัดดีดวดคลองมอญ
    <o></o>
    <o></o>
    ตำนานเรื่องวัดดีดวดนั้น ไม่มีหลักฐานซึ่งผู้ใดได้จดบันทึกไว้ เพราะเหตุที่วัดนี้เป็นวัดเล็กวัดน้อย ไม่เป็นที่น่าสนใจของใคร ตั้งอยู่กลางสวนเงียบสงบเป็นที่พำนักอย่างผาสุกของพระภิกษุเท่านั้น มีผู้สันนิษฐานว่า วัดดีดวดเป็นวัดที่มอญสร้างขึ้น เป็นวัดสร้างมาเก่าแก่มีอายุอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ข้อสันนิษฐานนี้น่ารับฟังด้วยเหตุผลที่ว่า


    วัดนี้ตั้งอยู่ใกล้คลองมอญ ทั้งชื่อวัดว่า “ดีดวด” ก็ว่าเป็นภาษามอญ มาจากคำเดิมว่า “ดีด๊วด” หรือจะเป็นภาษาไทยปนมอญก็ได้ คือ “ดี” คำหนึ่ง และ “ด๊วด” อีกคำหนึ่ง “ด๊วด” ภาษามอญแปลว่า เล็ก ไม่ใหญ่โต “ดี” เป็นชื่อคนอาจเป็นผู้สร้างวัดนี้ ชื่อดีรูปร่างเล็กก็ได้ หรือ ดีเป็นชื่อคนหนึ่ง และด๊วดเป็นชื่ออีกคนหนึ่ง รวมกันเป็นผู้สร้างวัดนี้ก็ได้ ข้อสันนิฐานหลังนี้มีฐานะด้วยมีหลายปากเล่าสืบๆ กันมาว่า มีมอญสองผัวเมีย ผัวชื่อดี เมียชื่อด๊วด ได้นำอิฐมอญล่องเรือมาขาย เมื่อมาถึงถิ่นนี้เห็นเป็นทำเลดีพอที่จะตั้งโรงทำอิฐขายต่อไปได้ จึงได้ตั้งหลักฐานบ้านช่องทำอิฐมอญขายเป็นอาชีพต่อไป เรียกทำเลแถบนั้นว่าเตาอิฐ จึงอาจสันนิษฐานว่านายดีและนางด๊วดจะเป็นหัวหน้าสร้าง วัดนี้ และดีด๊วดได้ลายเป็นชื่อวัด จนเปลี่ยนเป็น “ดีดวด” จนทุกวันนี้ก็อาจเป็นได้<o></o>
    <o>

    เมื่อข้อสันนิษฐานน้อมไปในทางว่า
    คนมอญเป็นผู้สร้างวัดนี้แล้ว ก็ควรจะได้ศึกษาถึงเรื่อง “คลองมอญ” ว่าเป็นมาอย่างไร ซึ่งจะได้มีความเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องสร้างวัดดีดวดนี้ด้วย<o></o>
    <o>

    เรื่องนี้ ถ้าจะสืบสาวราวเรื่องไปถึงเรื่องการขุดคลองแยกไปจากแม่น้ำเจ้าพระยาตอนฝั่งพระนคร-ธนบุรี ก็จะยืดยาวมากไม่เกี่ยวกับประวัติของวัดแต่ประการใด

    จึงขอจับความว่า การสัญจรไปมาของชาวบางกอกสมัยก่อนนั้น ต้องอาศัยคูคลองเป็นทางสัญจร พาหนะที่ใช้ก็คือเรือเป็นส่วนใหญ่ เพราะพื้นที่บางกอกเป็นเรือกสวนเสียเป็นส่วนมาก ด้วยเป็นที่ลุ่ม มีคลองลัดกลางกรุงที่ขุดมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏชื่อแจ้งชัด ต่อมาสมัยกรุงธนบุรีเรียกคลองนี้ว่า คลองโรงเหล็ก เพราะปากคลองนั้นมีโรงเหล็กของเจ๊กตีเหล็กเครื่องสำเภาหลวงที่ใช้ในราชการกรุงธนบุรีตั้งอยู่ ภายหลังสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดให้ย้ายโรงเหล็กนี้ไปปลูกที่ปากคลองคูค่ายฝั่งตะวันออกตรงหน้าวัดเสาวโคนข้ามคลองคูค่าย ก็เรียกว่าคลองโรงเหล็กเช่นเดียวกัน<o></o></o>
    <o>

    เมื่อได้ย้ายโรงเหล็กที่ปากคลองพระนคร-ธนบุรีไปปลูกที่อื่นแล้ว สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงตั้งเม้ยทอ บุตรีสมิงนราเทวะ บ้านอยู่บางลี่บางขาม ซึ่งเป็นหมอช้างเฒ่าในแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชา เป็นท้าวทรงกันดาล ฐานะแม่วัง เวลาโน้นชาวกรุงธนบุรีเรียกกันว่า ท้าวทรงกันดาล (ทองมอญ)

    ท้าวทรงกันดาล เป็นมารดาพระเพทราชา เดิมชื่อมะปุ จางวางกรมพระคชบาลในกรุงธนบุรีซึ่งเป็นญาติสนิทสืบตระกูลมาจากเจ้าพระยาอินทราภัย ที่สมุหนายกในปลายแผ่นดินกรุงธนบุรี และโปรดให้ท้าวทรงกันดาล (ทองมอญ) มารดา กับพระเพทราชา (มะปุ) บุตรทั้งสองแม่ลูกไปตั้งบ้านเรือนอยู่ในลำคลองโรงเหล็ก (ริมวัดชิโนรสารามทุกวันนี้) และบ่าวไพร่บริวารของทั้งสองแม่ลูกนี้มีมาก ล้วนแต่เป็นรามัญทั้งสิ้น จึงได้ตั้งบ้านเรือนอยู่กันในลำคลองโรงเหล็กตลอดมาจนปากคลองนั้น
    <o></o>
    <o></o>
    เมื่อในแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรีนั้น ท้าวทรงกันดาล (ทองมอญ) กับพระเพทราชา และบริวารบ่าวไพร่ไปตั้งบ้านเรือนเต็มตลอดคลองโรงเหล็ก คลองโรงเหล็กก็เป็นบ้านมอญไปมากกว่าบ้านไทย เพราะฉะนั้น ชาวกรุงธนบุรีจึงยักย้ายเรียกคลองโรงเหล็กว่า “คลองมอญ” สืบต่อมาจนทุกวันนี้


    คลองมอญนั้นเป็นคู่กับคลองนครบาลครั้งกรุงธนบุรีด้วย คลองนครบาลนั้นอยู่ริมคุกกรุงธนบุรี คุกนั้นตั้งอยู่หลัง วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง ตรงปรก และเมรุปูนเดิม) ในลำคลองข้างคุกนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนของเจ้าพนักงาน กรมพระนครบาลกรุงธนบุรี เพราะฉะนั้นราษฏรจึงเรียกคลองนี้ว่า “คลองนครบาล” (เดี๋ยวนี้เป็นคลองข้างวัดแจ้ง)<o></o>
    <o>

    </o>
    ในการขุดคลองกลางพระนครธนบุรี คือ คลองโรงเหล็ก หรือคลองมอญ เพื่อเชื่อมคลองลัดที่ขุดใหม่หน้าท่าพระตำหนักกับลำแม่น้ำเดิม คือคลองบางละมาดตลิ่งชันในครั้งกระโน้น จำต้องระดมและเกณฑ์ผู้คนเป็นจำนวนมาก และต้องอพยพสมัครพรรคพวกญาติพี่น้อง ตลอดจนครอบครัวมาปักหลักตั้งรกรากถิ่นฐาน บ้านเรือนเป็นหลักแหล่ง ณ ที่พึ่งกลางที่จะทำการขุดคลอง อันเป็นการสะดวกแก่การที่จะต้องแยกย้ายกันออกไปทำการขุดคลอง


    เมื่อได้รวบรวมการตั้งบ้านเรือนขึ้นเป็นหลักแหล่ง ณ ถิ่นนี้แล้ว ตามธรรมเนียมไทยก็ดี มอญก็ดี ย่อมต้องนึกถึงพระสงฆ์ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญนิมนต์มาพำนักเพื่อเป็นที่บำเพ็ญกุศล และเป็นที่รวมจิตใจในโอกาสต่างๆ จึงได้ช่วยกันสร้างที่พำนักสงฆ์ขึ้น คือ "วัดดีดวด" นี้เอง มีข้อมูลจากกองพุทธศาสนสถาน ปรากฏว่าวัดดีดวด ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๗ ได้รับวิสุงคามสีมา พ.ศ. ๒๔๑๗ (รหัส ๑๐๑๖๐๐๗ วัดดีดวด) เป็นอันสำเร็จ ข้อสันนิษฐานแห่งประวัติศาสตร์การสร้างวัดไว้แต่เพียงเท่านี้<o></o>
    <o>
    (คัดจาก ประวัติวัดดีดวด)


    ********************<o></o>
    </o></o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  3. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    ""คลองมอญ"

    คลองมอญ อยู่ในระหว่างเขตบางกอกน้อย และเขตบางกอกใหญ่ ปลายคลองแยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่บริเวณข้างราชนาวิกสภา ผ่านคลองบ้านขมิ้นซึ่งเป็นคูเมืองเดิม ตั้งแต่ครั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ไปออกยังคลองบางขุนศรี หรือคลองชักพระ ซึ่งเป็นลำแม่น้ำเจ้าพระยาเดิม ต่อจากนั้นจนถึงวัดเกาะ บางครั้งเรียกว่า คลองมอญ ตามเดิม หรือบางแห่งก็เรียกว่า คลองบางเสาธง หรือบางทีก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคลองบางน้อย


    [​IMG]


    จากบริเวณวัดเกาะ คลองจะแยกออกเป็น ๒ สาย สายบนเรียกว่า "คลองบางน้อย" สายล่างเรียกว่า "คลองบางเชือกหนัง" คลองมอญมีความยาวประมาณ ๓ กิโลเมตร วัดสำคัญริมฝั่งคลองมีด้วยกันหลายวัด ได้แก่ วัดเครือวัลย์ วัดนาคกลาง วัดพระยาทำ วัดครุฑ วัดโพธิ์เรียง วัดบางเสาธง วัดปากน้ำฝั่งใต้ วัดเกาะ เป็นต้น



    ประวัติ ตามประวัติกล่าวว่า "คลองมอญ" นี้มีนามสัมพันธ์กับเม้ยทอ หรือท้าวทรงกันดาร (ทองมอญ) ในสมัยกรุงธนบุรี เพื่อให้ทราบความเป็นมาชัดเจนยิ่งขึ้นจึงขอกล่าวถึงประวัติท้าวทรงกันดาร (ทองมอญ) ไว้พอสังเขป ดังนี้

    นางเม้ยทอ (แปลว่านางทอง) เป็นบุตรีคนหนึ่งของสมิงนรเดชะ ผู้เป็นนายทหารมอญ ที่เข้ามายังกรุงศรีอยุธยา คราวที่บ้านเมืองมอญเสียแก่พม่า นางเม้ยทอ เป็นผู้มีรูปโฉมงดงาม ผิวพรรณดี บิดาจึงถวายตัวทำราชการฝ่ายใน ได้เป็นจอมจอมอยู่งานพระสนมโท ในกรมพระราชวังบวร ฯ แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวสุริยาศน์อมรินทร์ กษัตริย์องค์สุดท้ายกรุงศรีอยุธยา เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก นางเม้ยทอหนีออกมาจากกรุงได้ ไปพักอยู่ที่แขวงเมืองนครราชสีมา


    ต่อมาทราบข่าวว่า พระเจ้าตากสินรวบรวมผู้คนคิดกู้บ้านกู้เมือง นางเม้ยทอและบรรดาญาติ ๆ จึงได้เข้าถวายตัวกับพระเจ้าตากสิน ที่กรุงธนบุรี เพราะความที่สนิทสนมคุ้นเคยกันมาก่อน ตั้งแต่สมัยยังเล็ก พระเจ้าตากสินโปรด ฯ ให้รับราชการฝ่ายใน ดังเคยปฏิบัติมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นผู้รู้ขนบธรรมเนียมดีผู้หนึ่ง แต่ขณะนั้น นางเม้ยทอก็เป็นผู้ใหญ่สูงวัยมากแล้ว ครั้นจะตั้งเป็นสนมก็ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง ประกอบกับขณะนั้น เจ้านายฝ่ายในกระจัดกระจายล้มตายลงมาก


    เมื่อคราวเสียกรุง นางเม้ยทอ หรือท้าวทรงกันดาร (ทองมอญ)จึงได้รับความไว้วางใจ พระเจ้าตากสินทรงแต่งตั้งให้เป็นท้าวทรงกันดาร อธิบดีพระคลังฝ่ายใน และเป็นใหญ่ในบรรดาฝ่ายในทั้งหมด ซึ่งชาววังนิยมเรียกท่านว่า “ท้าวทรงกันดารทองมอญ”


    ท้าวทรงกันดาร (ทองมอญ) ผู้นี้ ไม่มีทายาทสืบตระกูล เพราะนางไม่คิดมีสามีใหม่ นอกจากกรมพระราชวังบวร ฯ ดังกล่าวมาแล้วเท่านั้น


    [​IMG]



    บ้านของท่านท้าวทรงกันดาร (ทองมอญ) นั้นอยู่ระหว่างเขตบางกอกน้อย และเขตบางกอกใหญ่ ปลายคลองแยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่บริเวณข้างราชนาวิกสภา ผ่านคลองบ้านขมิ้น ซึ่งเป็นคูเมืองเดิม ตั้งแต่ครั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ไปออกยังคลองบางขุนศรี หรือคลองชักพระ ซึ่งเป็นลำแม่น้ำเจ้าพระยาเดิม จนถึงวัดเกาะ ซึ่งเป็นนิวาสสถานเดิม ที่พระเจ้าตากสินพระราชทานให้ นอกจากท่านท้าวทรงกันดาร (ทองมอญ) แล้ว ยังมีบ้านเรือนบรรดาญาติ ๆ ข้าทาสบริวารจำนวนมากอยู่กันอย่างหนาแน่น ผู้คนในสมัยนั้น จึงนิยมเรียกคลองย่านนั้นว่า “คลองมอญ” และยังคงเรียกติดปากมาจนทุกวันนี้


    อนุโมทนาที่มาข้อมูล : http://pirun.kps.ku.ac.th/~b4927046/mon2_2.html
    อนุโมทนาภาพประกอบ จากอินเตอร์เน็ต<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2012
  4. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]



    สัมภเวสี
    โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    สัมภเวสี คือคนที่ตายก่อนอายุขัย เรียกว่ามีกรรม ที่เรียกกันว่า อุปฆาตกรรมมาริดรอน ตัดรอนเสียตั้งแต่ยังไม่หมดอายุขัย ท่านพวกนี้เวลาตาย ทางนรกไม่ต้องการ ทางสวรรค์ไม่ต้องการ บุญที่ทำไว้ยังไม่ให้ผล หรือว่าบาปที่เขาทำยังไม่ให้ผล ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเรียกไปสอบสวนและจัดการลงโทษ

    มีสภาพเหมือนกับคนออกจากบ้านนี้ แล้วไปเข้าบ้านโน้นไม่ได้ จะกลับมาเข้าบ้านนี้ก็ไม่ได้ เดินไปเดินมาอยู่ด้วยความลำบาก อยากจะกินอะไรก็หากินไม่ได้ ผีประเภทนี้เรียกว่า สัมภเวสี แปลว่าพวกแสวงหาที่เกิด





    [​IMG]


    <o></o>
    วิธีช่วยคนตายก่อนอายุขัย (สัมภเวสี)
    ถ้าญาติของเราตาย ตายด้วยอำนาจของสัมภเวสี คือไม่สิ้นอายุ ฟ้าผ่าตาย สุนัขกัดตาย มดกัดตาย ยุงกัดตาย คลอดบุตรตายถูกฆ่าตาย ถูกยิงตาย รถชนตาย แต่ก็ไม่แน่นักนะบรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มี แต่เผื่อเหนี่ยวไว้ก่อน

    สมมุติว่าเขาเป็นสัมภเวสี พอตายไปแล้วไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัดๆ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร เอาพระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบๆ อย่าให้มีเหล้ายาปลาปิ้ง อย่าทุบแม้แต่ไข่สักหนึ่งฟอง เมื่อทำบุญเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตาย ไม่ให้ใครทั้งหมด ถ้าทำอย่างนี้ละ ท่านพวกนี้จะมีความสุข ได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบ เมื่อเข้าถึงอายุขัยเมื่อใด ก็เป็นอันว่าพวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน


    <o></o>อนุโมทนาที่มาข้อมูล : ศูนย์พุทธศรัทธาสำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    อนุโมทนาภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

    หมายเหตุ :- กำหนดการดำเนินการโดยย่อ
    - วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๕ - ขึ้นเสาพระอุโบสถ ๑๖ ต้น
    - วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ - พิธีอัญเชิญพระประธาน จากวัดดีดวด ไปประดิษฐาน ณ วัดโนนพิมาน เมืองคง

    (ช่วงที่ผ่านมา มีดวงจิตสัมภเวสีได้ปรับเลื่อนภูมิจำนวนมาก บางส่วนเข้าศีล เจริญภาวนา)


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]



    สาธุชนผู้มีจิตศรัทธาการร่วมกุศล สามารถกระทำได้ด้วยการน้อมจิตกล่าวอนุ<wbr>โมทนาบุญ
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่<wbr>ผู้ทำหน้าที่ ไวยาวัตรกร : คุณมงคล บุญวิจิตร โทร ๐๘๔ ๕๔๖ ๗๑๐๖


    หรือหากสาธุชนท่านใดมีจิตประสงค์ร่วมเป็นเจ้าภาพโดยตรงตามกำลั<wbr>งและศรัทธา ได้ที่
    ธนาคารกรุงไทย เผื่อเรียก สาขาจรัญสนิทวงศ์ ๑๓
    บัญชีชื่อคุณมงคล บุญวิจิตร เลขที่ ๐๔๖ – ๑ – ๖๓๖๑๗ – ๔
    (บัญชีดังกล่าว เพื่อรวบรวมปัจจัยไทยทานของคณะต้นบุญเจ้าภาพฆราวาส ทำการและดำเนินการก่อสร้างแทนคณะสงฆ์)<o></o>

    <o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  5. วิรวิน

    วิรวิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +195
    กระผมโอนเงินทำบุญไปแล้วครับ
    เมื่อวันที่ 31/10/55 เวลา 15:13
    จำนวนเงิน 200 บาท
    ขอบคุณครับ
     
  6. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471


    ห้วงน้ำในมหาสมุทร ตักไม่พร่องไม่หมด ฉันใด ขอท่าน อิ่มในบุญไม่หมดฉันนั้น
    แสงตะวันยามเที่ยง พ้นเมฆหมอก บดบัง สว่างไสว ฉันใด
    ขอท่าน จงมีปัญญาเยี่ยงนั้น ศรีมหาโพธิ์ ให้ร่มเงาแด่เหล่าสัตว์ เพียงใด ขอท่าน มีจิตเป็นที่พึ่งเหล่าสัตว์เพียงนั้น

    มหาปฐพี แผ่นดิน รับทุกสรรพสิ่งได้ ฉันใด ขอท่าน ยังจิตมั่นคงในธรรมได้ดังนั้น
    พระกาล วันเวลา ล่วงเลย ไปเท่าใด ขอท่านไม่ประมาท ในการสร้างบุญในครั้งนั้น

    บุญกุศล อานิสงส์ที่เกิดในครั้งนี้เท่าใด ท่านได้ทำไว้ด้วยดีแล้ว
    ขอท่านและครอบครัว พึงได้รับเป็นล้านเท่า พันทวี เพียงนั้น

    ขอให้เจริญธรรม เจริญปัญญา เจริญปณิธาน สำเร็จบรรลุธรรม กันตามปรารถนา ทุกประการ
    ขอให้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้ด้วยเทอญ

    อิทํ เม ทานํ อาสวกฺขยาวหํ นิพฺพาน ปรมัง สุขัง
    ขอบุญนี้หรือทานนี้ จงเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะ
    จงเป็นปัจจัยให้เข้าถึงนิพพาน (อันบรมสุข) ในอนาคตกาล อันใกล้นี้ด้วยเทอญ
    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ


    อนุโมทนาสาธุการจิตบุญท่านค่ะ

    เพียงความตั้งใจ
    (๑) นำใบบุญมาประกาศ เพื่อก่อบุญจัดสรร กรรมสัมพันธ์ แก่สาธุชนผู้อาจเกี่ยวข้อง จักได้เกื้อกูลมหากุศลเกิดประโยชน์ตน สู่ประโยชน์ท่าน ถึงที่สุดประโยชน์ยิ่ง .... แด่เหล่าภพภูมิตกค้างได้หลุดพ้นผ่านวัฏฏะ ช่วงกึ่งกาลแห่งพุทธ .... โดยเฉพาะ "พุทธยันตี : ปีมหามงคลแห่งการฉลองครบรอบ ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"
    กันนะคะ สาธุ สาธุ สาธุยิ่ง

    (๒) จากนัั้น จะได้ทำการเคลื่อนย้ายกระทู้ไปที่ ห้องอนุโมทนาบุญในโอกาสต่อไป
     
  7. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    บทอุทิศบุญกรวดน้ำ /ส่งความปรารถนาอันดีงาม

    การกรวดน้ำ เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธนิยมกระทำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ “กรวดน้ำ” เป็นคำที่มาจากคำเขมร จฺรวจ กับคำว่า น้ำ ภาษาเขมรคำว่า จรวจทึก แปลว่า กรวดน้ำ เป็นอาการเทน้ำลงดินเพื่อให้แม่พระธรณีนำบุญกุศลที่ได้กระทำแล้ว แผ่ไปสู่ญาติพี่น้องผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เช่นเดียวกับการกรวดน้ำของไทย


    การกรวดน้ำ หมายถึง การเทน้ำสะอาดลงดินโดยไม่ต้องเอานิ้วรอง พร้อมกับกล่าวคำอุทิศบุญที่ตนได้กระทำให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แก่เจ้าเวรนายกรรม และแก่สรรพสัตว์ที่ได้รับความทุกข์อยู่ เป็นต้น


    ความมุ่งหมายของการกรวดน้ำ มีอยู่ 3 ประการ คือ

    1. เป็นการแสดงกิริยายกให้ ของบางอย่างถ้าเป็นของใหญ่โตไม่สามารถหยิบยกให้กันได้ ก็นิยมกรวดน้ำให้กัน เช่นพระเจ้าพิมพิสารถวายวัดเวฬุวันแก่พระพุทธเจ้า ก็ใช้หลั่งน้ำลงแทนน้ำพระทัย เป็นต้น

    2. เป็นการตั้งความปรารถนา เช่น พระปรารถนานิพพาน หรือเช่นตอนพระนเรศวรตั้งความปรารถนาตัดขาดไมตรีจากพม่าก็ทรงหลั่งน้ำลงสู่พื้นดิน เป็นต้น

    3. เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย ข้อนี้เป็นข้อที่ชาวพุทธไทยนับถือกันมากว่า น้ำที่ใสบริสุทธิ์ เปรียบเหมือนน้ำใจใสบริสุทธิ์ของคนเรา อาการที่หลั่งน้ำลงเปรียบเหมือนสายใจที่หลั่งไหลออกมาให้ปรากฎแก่คนทั้งหลาย การกรวดน้ำจึงเป็นนิมิตหมายแห่งน้ำใจอันบริสุทธิ์ที่ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จะเป็นผู้อาวุโสกว่าหรือต่ำกว่าก็ตาม เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อท่านเหล่านั้น


    การกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลนั้น เป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้แก่ญาติสายโลหิตและมิตรสหายที่ล่วงลับไปเกิดเป็นปรทัตตูปชีวีเปรต วิธีนิยมในการกรวดน้ำ การกรวดน้ำ นิยมทำกันอย่างนี้ คือ เตรียมน้ำสะอาดใส่ภาชนะ จะเป็นคณฑี แก้วน้ำ ขวดน้ำ หรือขัน อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ และหาภาชนะสำหรับรองน้ำกรวดไว้ให้พร้อม พอพระเริ่มอนุโมทนาขึ้นบทว่า “ยถา วาริวหา……….”


    ก็เริ่มกรวดน้ำ (รินน้ำ) ลงในภาชนะรอง โดยตั้งใจนึกอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลตามแบบกรวดน้ำทั่วไป เมื่อพระว่าจบและขึ้นบทว่า สัพพีติโย….พร้อมกัน ผู้กรวดน้ำพึงหยุดกรวดน้ำแล้วประนมมือรับพร เสร็จแล้วจึงนำน้ำที่กรวดนั้นไปเทลงบนดินที่สะอาด หรือที่โคนต้นไม้ก็ได้


    กุศลกรรมที่เป็นกิริยาควรทำอันหนึ่งด้วยกาย วาจาใจ อันจะเป็นเหตุนำไปให้เกิดในสวรรค์ชั้นไตรทศเทพ ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว ขอสัตว์ซึ่งมีสัญญาและไม่มีสัญญาทุกหมู่เหล่า จะเป็นผู้มีส่วนได้รับผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้วนั้น เหล่าสัตว์ที่ไม่รู้ผลบุญที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว ขอจงเป็นผู้มีส่วนได้รับผลบุญที่ข้าพเจ้าอุทิศให้ ในบรรดาสรรพสัตว์จำพวกใดไม่รู้ข่าว ถึงบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว ขอเทพพยาดาทั้งหลาย จงนำไปบอกแก่สัตว์จำพวกนั้น ขอสัตว์ทุกหมู่ในชีวโลก ซึ่งเสพอาหารเป็นเครื่องเลี้ยงชีพ จงได้เสวยซึ่งโภชนะอันพึงใจ ด้วยอำนาจเจตนาอุทิศของข้าพเจ้านี้เถิด ฯ


    .:: กรวดน้ำ - คลังปัญญาไทย ::.




    http://www.thaigoodview.com/files/u20322/2.jpg




    @ ยถา วาริวะหา ปูรา,
    ปะริปูเรนติ สาคะรัง,
    ห้วงน้ำที่เต็ม
    ย่อมยังสาครให้เต็มเปี่ยม, ฉันใด


    เอวะ เมวะ อิโต ทินนัง,
    เปตานัง อุปะกัปปะติ,
    ทานที่ให้แล้ว, ย่อมสำเร็จแก่จิต
    ที่ตกล่วงทั้งหลาย, ฉันนั้น


    อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง,
    ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ,
    สิ่งที่ท่านปรารถนาตั้งไว้, พึงสำเร็จโดยเร็ว


    สัพเพปูเรนตุ สังกัปปา,
    พึงดำริทั้งปวงให้บริบูรณ์


    จันโทปัณณะระโส ยะถา,
    มะณิโชติระโส ยะถา ฯ
    ประหนึ่งพระจันทร์เพ็ญ
    ดุจแสงอันงามแห่งดวงมณี, ฉะนั้น


    @ สัพพีติโย วิวัชชันตุ,
    สัพพะโรโค วินัสสะตุ,
    เมื่อยิ่งกล่าวคำเหล่านี้ทั้งสิ้น
    (แล้วปฏิบัติตามธรรม)
    โรค (กิเลส) ทั้งปวงจงพินาศ


    มา เต ภะวัตวันตะราโย,
    สุขี ทีฆายุโก ภะวะ ฯ
    อันตรายอย่าได้แผ้วพานท่าน
    พึงมีความสุข, มีอายุยืนยาว


    @ อภิวาทะนะสีลิสสะ,
    นิจจัง วุฑฒา ปะจายิโน,
    เมื่อการปฏิบัติของผู้มีปกตินบไหว้
    เจริญแล้วอยู่เป็นนิจ


    จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ,
    อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง ฯ
    ธรรมทั้ง 4 ประการ พึงเจริญแก่ท่าน, คือ
    อายุ (มีอิทธิบาท), วรรณะ (มีศีล),
    สุข (มีฌาณ), และพละ (มีวิมุติ)


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1723775/[/MUSIC]



    กราบอนุโมทนาเสียงอธิษฐานส่งบุญ
    ขอมหากุศลส่งบุญธรรมทาน ท่านสุเทพ โพธิสัททา และครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2012
  8. titapoonyo

    titapoonyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,133
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,769
    ผมและครอบครัวร่วมทำบุญ 190 บาทครับ..

     
  9. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    ข้าพเจ้าและน้องนางร่วมทำบุญกฐินปรับภพภูมิสัมภเวสี และ สมทบทุนสร้างพระอุโบสถถวายเป็นพุทธบุชา วัดบ้านโนนพิมาน ตำบลเมืองคง อำเภอเมืองคง จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 3 พฤศจิกายน 2555

    จำนวน 50 บาท

    ลขที่อ้างอิงการทำรายการ 28568953592012111
    วัน/เวลาการทำรายการ 01-11-2012 09:41:23
    บัญชีผู้โอน
    ยอดเงินที่ถอนได้
    บัญชีผู้รับโอน KTB*วัดบ้านโนนพิมาน*046-1-63617-4
    ชื่อบัญชีผู้รับโอน นายมงคล บุญวิจิตร
    จำนวนเงิน 50.00 บาท
    ประเภทการโอนเงิน ทันที
     
  10. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271

    เมื่อวานเวลา 18.17 ได้โอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงไทย สาขาไอที สแควร์(หลักสี่) จำนวน 300 บาท ตามรายนามผู้ร่วมบุญดังนี้
    -บุษบา นักไร่ -Yura Baldwin -พ่อนนท์ นักไร่ -คุณแม่บัวไข นักไร่ -จ.ส.อ.สมเจต ชื่นอุรา
    และขออนุโมทนบุญกับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบุญนี้ด้วยทุกประการค่ะ

    "อิทัง ปุญญะผะลัง"
    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เคยล่วงเกินมาแล้วตั้งแต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดีขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

    และข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาคุ้มครองข้าพเจ้าและเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดีขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด"
     
  11. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,666
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,210
    ผม ธนันต์ รักจันอัด ขอร่วมบุญทอดกฐินปรับภพภูมินำพาสัมภเวสี ดวงวิญญาณตกค้างสู่สุคติภูมิ และสมทบทุนสร้างพระอุโบสถถวายเป็นพุทธบุชา ณ วัดบ้านโนนพิมาน จำนวน 50 บาท
    โอนแล้ววันนี้

    และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ทอดกฐินปรับภพภูมินำพาสัมภเวสี ดวงวิญญาณตกค้างสู่สุคติภูมิ และสมทบทุนสร้างพระอุโบสถถวายเป็นพุทธบุชา ณ วัดบ้านโนนพิมาน ในครั้งนี้ด้วยนะครับ
     
  12. เพชร2545

    เพชร2545 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +4,248
    เพ็ชรรัตน์ แซ่อึ๊ง และครอบครัว
    คุณแม่ซิ้วเช็ง แซ่เตียว
    คุณพี่นภาพร แซ่อึ๊ง
    คุณพี่รุ่งอรุณ พัฒนาพรอนันต์
    ร่วมทำบุญ 500 บาทโอนผ่านATM ไทยพานิชย์ เวลา13.30 น. วันที่1/11/2555 ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2012
  13. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +4,339
    -มหาโมทนากับกุศลจิต ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ
     
  14. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    สาธุ สาธุ สาธุ โมทนาในบุญกุศลของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ
     
  15. หวงจื้อเซวียน

    หวงจื้อเซวียน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +8,718
    ร่วมบุญด้วยครับ จำนวน 100 บาท
    โอนวันที่ 2/11/55 เวลา 10.20 น.
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
     
  16. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    สืบเนื่องจากได้นำใบบุญ "กฐินปรับภพภูมินำพาสัมเวสี และรวบรวมทุนสร้างพระอุโบสถ" มาประกาศแจ้งไว้ .... เพื่อเชิญชวนสาธุชนได้ร่วมน้อมกรุณาจิต ส่งกระแสพลังบุญท่านๆ นัยยะเสมือนแสงสว่าง ส่องนำทาง ส่งแรงกำลังแก่เหล่าทุกดวงจิตดวงวิญญาณที่ยังทุกข์ทนสภาพ จะได้พ้นทุกข์ ผ่านภัยวัฏฏะตามสภาวะสภาพของแต่ละดวงจิตๆ ....[ผ่านการหาทุนปัจจัยเตรียมการสร้างพระอุโบสถให้กับชุมชนท้องถิ่นที่ยังขาดศาสนเจดีย์สถานเพื่อการประกอบกิจพิธีการทางศาสนา

    ด้วยเมื่อวาน (ศุกร์ ๒ พ.ย. ๕๕) เหล่าคณะฯ ได้นิมนต์ท่านเจ้าคุณฯ ผู่ช่วยเจ้าอาวาสจากวัดพลับ- ราชสิทธาราม และท่านพระครูวิมลธรรมธาดา คณะ ๒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม ทำพิธีการเจริญพระพุทธคุณฉลองพระประธาน ขนาด ๕๐ นิ้ว และได้เดินทางอัญเชิญพระประธานไปประดิษฐาน ณ พระอุโบสถที่กำลังก่อสร้างกันทันที

    และวันนี้ถึงพรุ่งนี้ (๓-๔ พ.ย. ๕๕) เหล่าคณะฯ อยู่ระหว่างดำเนินการถวายผ้าพระกฐิน พร้อมทั้งไทยทานบริวารปัจจัย นำถวายวัดโนนพิมาน อ. เมืองคง เพื่อลุล่วงความก้าวหน้าตามวัตถุประสงค์ใบบุญ

    ขอเรียนเชิญท่านสาธุชนทราบข่าว พร้อมร่วมน้อมส่งกระส่งจิตร่วมกุศลใบบุญด้วยกันค่ะ พร้อมนี้ ขออานิสงฆ์กรุณาจิตที่ท่านได้กระทำไว้ด้วยดีจิตบริสุทธิ์แล้วนี้ ยังผลส่งท่านและครอบครัว เครือญาติได้พบและแวดล้อมอยู่แต่ในเหล่าสัตบุรุษผู้รู้พระสัทธรรมแท้ แล้วนำพาเข้าสู่กระแสนิพพาน เจริญแจ้งกระจ่างในพระสัจจะ พระสัทธรรมได้โดยง่ายและฉับพลัน ร่วมกันด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุการค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  17. ช่วงโชติ

    ช่วงโชติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +369
    ขอร่วมบุญกฐินปรับภพภูมิ/นำพาสัมภเวสี ดวงวิญญาณตกค้างสู่สุคติภูมิ และสมทบ
    ทุนสร้างพระอุโบสถ ถวายเป็นพุทธบูชา โดยโอนเงินแล้ว
    เมื่อวันที่ 1/11/55 จำนวน 50 บาท ขออนุโมทนาบุญกับ
    ผู้ร่วมบุญทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ
     
  18. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    ดาขอร่วมบุญทอดกฐินปรับภพ / นำพาสัมภเวสี ดวงวิญญาณตกค้างสู่สุคติภูมิ
    และสมทบทุนสร้างพระอุโบสถถวายเป็นพุทธบุชาด้วยค่ะพี่บุญญสิกขา
    โอนแล้ววันนี้ เวลา 19:20 จำนวน 111.11 บาท

    ขอร่วมมหาโมทนาในบุญกุศลด้วยค่ะ สาธุ
     
  19. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    .....วนเวียนในจักรวาล
    สุขและทุกข์ซ้ำๆไม่เคยพ้นไป
    วนเวียนกำเนิดเกิดตาย
    ดังชีวิตนั้นมีเพียงเพื่อใช้กรรม

    ดวงวิญญาณที่อ่อนที่ล้า..
    เกิดขึ้นมาใต้เงาแห่งองค์พระพุทธและพระธรรม
    เป็นทางเดียวสู่ทางนฤพาน
    อันเป็นทางที่หยุดใจ

    โอ..อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    วิญญาณที่ทุกข์ทน วนเวียนเหมือนไม่สิ้นสุด
    วางแล้วจงเดินตามทางองค์พระพุทธ
    ให้ใจมีพระธรรมนำทาง

    บ่วงอันที่ก่อเกิดกรรม
    ติดและยึดยิ่งย้ำให้เกิดทุกข์ใจ
    เพียงกายสดับหลับไป
    แต่ไม่พ้นต้องวนมาเพื่อใช้กรรม

    ดวงวิญญาณที่อ่อนที่ล้า
    เกิดขึ้นมาใต้เงาแห่งองค์พระพุทธและพระธรรม
    เป็นทางเดียวสู่ทางนฤพาน
    อันเป็นทางที่หยุดใจ

    โอ..อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    วิญญาณที่ทุกข์ทน วนเวียนเหมือนไม่สิ้นสุด
    วางแล้วจงเดินตามทางองค์พระพุทธ
    ให้ใจมีพระธรรมนำทาง......

    ******************
    ๛ บทร้อยเรียง "วนเวียนดังวัฏฏะ" ๛
    ๛ รจนาโดย องค์หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) ๛
    ขอกุศลส่งบุญ ทุกๆ ท่านผู้มีส่วนร่วมทุกๆ ประการ สาธุค่ะ :)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2012
  20. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    14:27:02 ร่วมด้วย 200 บาทครับ..
    Nopphakan ผ่าน I-banking แจ้งข้อความตามเบอร์ที่ให้ไว้คับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...