เตรียมจัดงานสะเดาะเคราะห์นอนโรงศพครั้งใหญ่ที่สุดในโลก

ตะลึง! เมืองย่าโมเตรียมจัดพิธีสะเดาะเคราะห์ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ให้คนลงไปนอนในโลงศพพร้อมกัน 39 โลง
นายประมินทร์ วิศิษฏ์ ธีรกุล รองประธานกลุ่มมิตรสัมพันธ์ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา กล่าวว่า จะจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีหีบศพเพื่อมอบให้กับผู้ยากไร้และผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำและนับวันก็จะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างน่าวิตก โดยการจัดงานครั้งนี้เป็นปีที่ 12 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีองค์กรการกุศล วัด มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ได้แจ้งความประสงค์ขอรับบริจาคหีบศพมายังกลุ่มมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นจำนวนมาก โดยการจัดงานดังกล่าวจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 ส.ค.นี้ ณ วัดพลับ (ประตูน้ำ) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงขอบอกบุญมายังผู้มีจิตศรัทธาและผู้ใจบุญทั้งหลายได้ร่วมบริจาคปัจจัยเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีหีบศพในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ สามารถแจ้งความประสงค์ไปยังโรงแรมเมืองทอง หลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เลขที่ 50 ถนนชุมพล อำเมือง จังหวัดนครราชสีมา หมายเลขโทรศัพท์ 086-1404442 , 087-9606745 และ089-2854697 หรือบริจาคเข้าบัญชีของกลุ่มมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ได้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาโพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ชื่อบัญชี”กลุ่มมิตรสัมพันธ์ กทม.-นม.” หมายเลขบัญชี 323-1-32648-6
นายประมินทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากจะมีพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีหีบศพเพื่อบริจาคให้กับผู้ยากไร้แล้ว ในวันดังกล่าวกลุ่มมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ยังจัดให้มีพิธีสะเดาะเคราะห์แก่ประชาชนทั่วไปโดยวิธีการลงไปนอนในโลงศพ ซึ่งในปีนี้ได้จัดเตรียมโลงศพไว้ จำนวน 39 โลง เป็นโลงศพที่จัดทำขึ้นเป็นกรณีพิเศษที่จะใช้สำหรับการสะเดาะเคราะห์โดยเฉพาะ ซึ่งพิธีจะเริ่มจากการให้คนลงไปนอนในโลงศพแล้วเจ้าหน้าที่จะปิดฝาโลงจากนั้นจะเป็นพิธีบังสุกุลตายและบังสุกุลเป็นโดยมีเกจิอาจารย์ชื่อดังจากหลายจังหวัดเป็นผู้ประกอบพิธีให้ และสุดท้ายผู้ที่ลงไปนอนในโลงศพจะได้รับการประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ที่นำมาจากวัดชื่อดังต่างๆทั่วประเทศรวม 108 วัด
รองประธานกลุ่มมิตรสัมพันธ์ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา กล่าวว่า การสะเดาะเคราะห์ครั้งนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และทางผู้จัดงานยังจะมีการบรรจุน้ำพระพุทธมนต์จาก 108 วัด แจกจ่ายแก่ประชาชนที่มาร่วมงานครั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลกับทุกคน และในวันดังกล่าวยังจัดให้มีโรงทานไว้บริการเลี้ยงอาหาร-เครื่องดื่มแก่ผู้มาร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

ด้านนายจำลอง กาญจนวัฒนา เลขานุการกลุ่มมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ-นครราชสีมากล่าวว่า สำหรับพิธีสะเดาะเคราะห์โดยการลงไปนอนในโลงศพเป็นความเชื่อมาแต่โบราณว่า หากผู้ใดที่มีเคราะห์ มีวิบากกรรม มีปัญหาขัดข้องหรือมีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตในช่วงระยะเวลาในปีดังกล่าว ถ้าหากได้กระทำพิธีสะเดาะ เคราะห์ด้วยการลงไปนอนในโลงศพแล้วมีพระสงฆ์ประกอบพิธีบังสุกุลตายและบังสุกุลเป็นเหมือนพิธีสวดอภิธรรมศพคนตายและประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ให้ก็จะเป็นสิริมงคลที่ดีแก่ชีวิต เป็นการขจัดปัดเป่าปัญหา อุปสรรคและภัยอันตรายทั้งปวง จะทำให้ชีวิตของผู้นั้นดีขึ้นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เป็นคนใหม่ และเชื่อว่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆได้ตายไปกับคนเก่าแล้ว ต่อไปนี้ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ทำแต่ในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อสังคมและประเทศชาติ
"ปีนี้ทางกลุ่มฯได้ตั้งเป้าไว้ว่าหากมีผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคปัจจัยมากๆ ก็จะได้โลงศพเพื่อบริจาคให้กับผู้ยากไร้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2,000 โลง เนื่องจากมีวัดและองค์กรมูลนิธิการกุศลแจ้งความจำนงขอรับบริจาคมาเป็นจำนวนมาก ส่วนพิธีสะเดาะเคราะห์ปีที่ผ่านมามีประชาชนจากหลายจังหวัดทั่วประเทศที่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมากจนต้องเข้าคิวรอ และเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการทางคณะกรรมการจัดงานได้เตรียมโลงศพในปีนี้จำนวน 39 โลง เพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้ลงนอนในโลงศพจะมีพระสงฆ์มาประกอบพิธีบังสุกุลเป็น-บังสุกุลตายตามความเชื่อของประเพณีทางพุทธศาสนาของไทยพร้อมกันครั้งละ 39 โลง ซึ่งถือว่าเป็นพิธีสะเดาะเคราะห์ลงไปนอนในโลงศพใหญ่ที่สุดในโลก และจะมีการแจกทานและเลี้ยงอาหารแก่ผู้มาร่วมในงานอีกด้วย" นายจำลองฯ กล่าว
นางชนิดา จงเจริญใจ คณะกรรมการจัดงานกลุ่มมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ-นครราชสีมา กล่าวว่า ในเดือนส.ค.ของทุกปี คนไทยเชื้อสายจีน จะเรียกว่า ชีก่วย ซึ่งเป็นเดือนที่เจ้ากรรมนายเวรจะสามารถทวงบาปบุญคุณโทษได้ง่ายในขณะเดียวกันก็สามารถส่งผลบุญที่ได้กระทำให้กับเจ้ากรรมนายเวรได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นการที่เข้าร่วมพิธีทอดผ้าป่าโลงศพจะทำให้สิ่งที่ไม่ดีที่จะเข้ามาในชีวิตประจำวันนั้น สามารถลดจากหนักเป็นเบาได้ และต้องการให้ประชาชนทุกคนที่เข้าร่วมทอดผ้าป่าโลงศพมีส่วนร่วมในการนำปัจจัยมาช่วยสร้างโลงศพมอบให้กับตามวัดต่างๆ เพื่อนำไปให้กับศพผู้ยากไร้ที่ไม่มีเงินที่จะไปซื้อโลงศพ
"เชื่อว่าหากในสังคมไทยในปัจจุบันผู้ที่มีโอกาสที่ดีกว่าแบ่งปันให้กับผู้ที่ด้อยโอกาส สังคมไทยก็จะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตนจึงต้องการบอกบุญไปยังประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียงให้มาร่วมสร้างบุญครั้งใหญ่เพื่อเป็นการตอบแทนแผ่นดินที่เราเกิดมา" นางชนิดา กล่าว
นางมุฑิตา แซ่ตั้ง คณะกรรมการฝ่ายพิธีการสืบชะตาสะเดาะคราะห์กลุ่มมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ-นครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับปี 2553 -2534 นี้ ตามโหราศาสตร์ผู้หญิงที่เกิดปีมะเมีย , ปีระกา , ปีชวด , ปีเถาะ และผู้ชายที่เกิดปีวอก , ปีมะเส็ง , ปีขาล และปีกุน ควรจะได้สะเดาะเคราะห์ในปีนี้เพราะตามความเชื่อในโหราศาสตร์ระบุว่าบุคคลที่เกิดปีดังกล่าวจะตกราหู คนถูกจองจำต้องโทษ ตกพญานาคราชและตกคนคอขาด เพื่อเป็นการขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้ายดังกล่าวและปัญหาอุปสรรคต่างๆรวมทั้งสุขภาพพลานามัยที่ไม่ดีให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองประสบแต่ผลสำเร็จในชีวิตและครอบครัว
นอกจากนี้ ในเรื่องดังกล่าวถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และหากท่านมีความเชื่อดังเช่นนี้แล้วก็ควรจะมาสะเดาะเคราะห์เสริมมงคลชีวิตให้บังเกิดโชคลาภเป็นทวีคูณศัตรูหมู่มารมลายหายสิ้นภัยอันตรายไม่บังเกิดกลับเป็นมิตรที่ดีต่อกันด้วยการไหว้ฟ้าดินและลงไปนอนในโลงศพในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกันซึ่งในแต่ละปีของการจัดงานจะมีผู้มีจิตศรัทธาและประชาชนที่มีความเชื่อและศรัทธาในการสะเดาะเคราะห์ได้เดินทางมาร่วมพิธีจำนวนมากและหลายคนก็กลับมาร่วมงานอีกเนื่องจากได้พบและประสบแต่สิ่งที่ดีในชีวิตหลังจากตัวเองได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ ในเมื่อได้มานอนในโลงศพ นางมุฑิตาฯกล่าว

http://www.posttoday.com/กทม.-ภูมิภาค/ทั่วไทยทูเดย์/เบิ่งอิสาน/45458/จัดงานสะเดาะเคราะห์นอนโรงศพครั้งใหญ่ที่สุดในโลก

 

เท่าที่ศึกษาพระศาสนามายังไม่มีตอนไหนที่พระพุทธองค์สอนว่าลงไปนอนในโลงแล้วจะสะเดาะเคราะห์ได้ คนที่มีเคราะห์มีโศกก็เพราะกรรมเก่าสนับสนุนให้มันเป็นเช่นนั้น วิธีแก้คือการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เขาแล้วขออโหสิกรรมไม่ใช้หรือ!? ใครรู้จริงช่วยตอบที นอนโลงแล้วบังสุกุลจะช่วยให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมได้อย่างไร
ขอโทษถ้าไปคิดเห็นผิดใจใครเข้า เพราะนับวันจะเห็นพิธีกรรมต่างๆที่ไม่ใช่หลักการในพระพุทธศาสนาแต่มาอาศัยปฏิบัติในวัดของพระพุทธศาสนานั้นมากขึ้น