เตือนภัย!“กิสนา”๑๘จังหวัด..เสี่ยงน้ำท่วมสูง

อุตุฯสั่งจับตาพายุ"กิสนา"ถล่มไทย 29-30ก.ย.นี้ คาดฝน1,600มม. สูงสุดรอบ30ปี 3จว.เจอน้ำป่าท่วมหนัก

นายบุญธรรม ตั้งล้ำเลิศ ผู้พยากรณ์อากาศประจำวัน กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผย เมื่อวันที่ 27 กันยายน ว่า ระหว่างคืนวันที่ 29 ถึงเช้าวันที่ 30 กันยายนนี้ ประเทศไทยอาจจะได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน "กิสนา" ที่ก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ทางด้านตะวันตกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อลมฟ้าอากาศของประเทศไทย ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีฝนเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ของประเทศไทย แต่ยังไม่สามารถระบุพื้นที่ได้ว่าจะเป็นพื้นที่ใดบ้าง ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่น่าจะมีความรุนแรงเพราะพายุไต้ฝุ่นจะมีลักษณะกระแสลมมากกว่าปริมาณฝน

นายบุญธรรม กล่าวว่าเป็นไปได้ว่าพายุโซนร้อนกิสนา อาจจะเข้าฝั่งที่ สปป.ลาว หรือ ทางตอนใต้ ของจีน อยากให้ประชาชนติดตามการพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนของกรมอุตุฯอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพายุดังกล่าวไม่เข้าทางฝั่งประเทศไทย ก็ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่หากเข้าฝั่งไทยกรมอุตุฯจะติดตามและประกาศให้ทราบก่อนล่วงหน้า 24-48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดความหวั่นวิตกมากจนเกินไป

ด้านนายชาญชัย วิทูรปัญญากิจ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในส่วนของการรับมือปัญหาน้ำท่วมจากพายุดังกล่าว คงไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากก่อตัวขึ้นจากประเทศอื่น เมื่อขึ้นฝั่งก็จะอ่อนกำลังลง แต่ในปีนี้ถือว่าปริมาณฝนจะหนักสุดในรอบ 30 ปี คาดปริมาณฝนสะสมในปีนี้จะทะลุ 1,600 มิลลิเมตร จากเดิมที่มีไม่ถึง 1,500 มิลลิเมตร สำหรับปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.สามารถรับได้และระบายน้ำออกได้ภายใน 1 ชั่วโมง

"ส่วนพื้นที่น่าเป็นห่วง อาทิ ฝั่งพระนคร บริเวณ ถนนศรีอยุธยา ถนนมักกะสัน รัชดาภิเษก นวมินทร์ ฝั่งธนบุรี บริเวณวัดม่วง ถนนกาญจนาภิเษกตัดเพชรเกษม เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงการระบายน้ำ คาดจะเสร็จในปี 2554 ทั้งนี้ประชาชนติดตามความเคลื่อนไหวได้ตามป้ายไฟบนถนนสายหลัก จะแจ้งเตือนพื้นที่น้ำท่วมและแนะใช้เส้นทางเลี่ยง หรือสอบถามสายด่วน 1555

ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดฝนตกอย่างหนักในหลายจังหวัดท่วมพื้นที่บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา พื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ถูกน้ำท่วมหนักหลังน้ำป่าไหลหลากลงจากเทือกเขารังและท่วมบ้านเรือนหลายตำบล ได้แก่ ต.วังชมพู ต.ห้วยสะแก และต.นายม โดยเทศบาลตำบลวังชมพูได้แจ้งเตือนชาวบ้านเร่งขนย้ายทรัพย์สินมีค่าเพื่อหลบหนีน้ำ พร้อมระดมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เข้าไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะหมู่ 11 บ้านงามประทีป ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทำให้นางคูน้ำ ไม่ทราบนามสกุล ครูโรงเรียนโลมอนุสรณ์ ติดค้างอยู่บนชั้นสองของบ้านพัก และระดับน้ำสูงจนท่วมปลั๊กไฟฟ้า ต่อมามีการนำเรือท้องแบนเข้าไปช่วยและนางคูน้ำได้ถูกแมลงมีพิษต่อยบริเวณขาจนบวมเปล่ง นอกจากนี้ยังช่วยคนแก่และเด็กที่ติดค้างอยู่บนบ้านพักข้างเคียงกันออกมาด้วย

ต่อมานายอเนก นาควิจิตร นายกเทศมนตรี ตำบลวังชมพู และนางสุเทพ เบียร์ดี หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้นำรถแบ็กโฮขุดเปิดร่องน้ำที่ท่วมขังเนื่องจากถูกถนนหลวงสาย 21 ขวางกั้น เพื่อระบายลงคลองนาแก ทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลง

ที่ จ.เลย น้ำป่าไหลท่วมไร่นาและบ้านเรือน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.นาด้วง อ.ปากชม และ อ.ภูหลวง นายยศ อินทร์ตาโคตร อายุ 57 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองบัวน้อย ต.ภูหอ อ.ภูหลวง กล่าวว่า ฝนที่ตกอย่างหนัก 2-3 วัน ทำให้ห้วยน้ำคู้ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ภูหลวงไหลลงมาอย่างรวดเร็วและท่วมบ้านหนองบัวกับบ้านหนองบัวน้อย รวมประมาณ 150 หลังคาเรือน นอกจากนี้น้ำได้ท่วมสะพานข้ามลำน้ำคู้จากภูหลวงไป อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้

ที่ จ.ตราด น้ำท่วมหนักพื้นที่ อ.เมือง โดยเฉพาะจุดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถนน 4 เลน ช่วง ต.ท่าพริก-ต.ตะกาง และ ต.แหลมกลัด ของ อ.เมืองตราด และปรากฎว่าสะพานข้ามคลองของบ้านเนินสูง ทางผู้รับเหมาได้ถมดินบริเวณคลอง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ จึงเกิดน้ำท่วมยาวกว่า 2 กิโลเมตร ต่อมาผู้รับเหมาได้นำรถแบ๊คโฮขุดเปิดทางน้ำไหลเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ในพื้นที่ ต.ชำราก ยังมีน้ำท่วมตั้งแต่ทางเข้าวัดท่าเลื่อ-วัดชำรุด

ที่ จ.จันทบุรี น้ำป่าได้ไหลบ่าจากเทือกเขาแกด ต.เขาบายศรี เข้าพื้นที่หมู่ 8 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 200 ครัวเรือน พื้นที่สวนผลไม้เสียหาย 1,200 ไร่ โดยเฉพาะที่ทำการศูนย์กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลเขาบายศรี ได้รับความเสียหายต้องปิดศูนย์ชั่วคราว โดยมีอุปกรณ์เสียหายเพียงบางส่วนเท่านั้น ยกเว้นสินค้าสินค้าแปรรูปทางเกษตรที่ทำเสร็จแล้วได้ยกขึ้นในที่สูง

นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผวจ.จันทบุรี ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจ อ.เมือง ให้เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง
นอกจากนี้ ศูนย์ อปพร.เทศบาลตำบลเขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี รับแจ้งจากนายธงชัย ชุมพล เกษตรกรชาวสวนผลไม้ หมู่ 8 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ ว่า ได้เข้าสำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากในสวนผลไม้ และพบจระเข้ตัวยาว 1 เมตรกว่า บริเวณริมน้ำ คาดว่าเป็นจระเข้เลี้ยงของนายวินัย ชุมพล พี่ชายนายธงชัย ซึ่งมีบ้านพักอยู่ห่างกันคนละฟากถนน ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจระเข้ไม่ได้กินอาหารมาหลายวัน
---------

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1254054258&grpid=00&catid

 

น้ำป่าถล่ม ซัดเก๋งทั้งคันตกถนน!

"เมืองเลย-เพชรบูรณ์"อ่วม ภาคตะวันออกก็จมหนัก!



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
น้ำป่าซัด - น้ำป่าจากเทือกเขาทะลักท่วมถนนสายเพชรบูรณ์-วิเชียรบุรี หมู่ 6 ต.น้ำร้อน อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซัดรถเก๋งจนตกถนน ขณะที่จังหวัดในภาคตะวันออกก็ถูกน้ำป่าถล่มเช่นกัน เมื่อวันที่ 27 ก.ย.



</TD></TR></TBODY></TABLE>น้ำป่าถล่มเมืองเลย ไหลทะลักจากภูหลวง ชาวบ้านเก็บข้าวของหนีจ้าละหวั่น ส่วนที่เพชรบูรณ์ก็หนักพอกัน น้ำป่าจากเทือกเขาไหลเอ่อเข้าหมู่บ้าน ถนนสายเพชรบูรณ์-วิเชียร บุรี เผยกระแสน้ำไหลแรงขนาดซัดรถเก๋งตกลงไหล่ถนน 2 ผัวเมียตะเกียกตะกายหนีรอดมาได้ โชเฟอร์เผยนาทีระทึก ช่วงลงเนินมองไม่เห็นน้ำท่วมเพราะมืดมาก โชคดีโดนซัดไปติดต้นไม้ จยย.ด้วยอีกคันโดนน้ำซัดตกถนนเหมือนกัน จันทบุรี-ตราดก็ท่วมหนัก

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 27 ก.ย. เกิดน้ำ ป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูหลวง จ.เลย ไหลลงสู่ลำน้ำคู้ ภายหลังเกิดฝนตก หนักมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมาอย่างต่อ เนื่อง ทำให้น้ำในห้วยน้ำคู้ที่ไหลผ่านบ้านหนองบัวและหนองบัวน้อย ต.ภูหอ อ.ภูหลวง ล้นตลิ่งเข้าท่วมทั้ง 2 หมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต่างพากันเก็บข้าวของหนีน้ำป่ากันจ้าละหวั่น เพราะน้ำไหลทะลักมาอย่างรวด เร็วมาก ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน โดยเฉพาะข้าวในยุ้ง และน้ำยังท่วมสะพานข้ามลำน้ำคู้ ถนนสายภูหลวง เส้นทางไป อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้

นายยศ อินทร์ตาโคตร อายุ 57 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านหนองบัวน้อย กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ฝนตกทั้งคืน ทำให้น้ำห้วยน้ำคู้ มีต้นน้ำอยู่ในป่าภูหลวงไหลลงมาอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นท่วมบ้านหนองบัว และหนองบัวน้อย มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมประมาณ 100 หลังคาเรือน บางหลังถูกน้ำท่วมเกือบ 2 เมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ที่ อ.เมือง จ.เลย มีน้ำป่าจากโสกกกเปือย จากอ่างเก็บน้ำห้วยแดง และห้วยซำจวง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร บ้านหนองหญ้าไซ ต.นาดินดำ อ.เมืองเลย ขณะเดียวกัน ระดับน้ำในแม่น้ำเลย เขตอ.ภูหลวง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากน้ำป่าที่ไหลลงจากภูเขามาหลายสาย ทางอำเภอต้องเปิด ประตูน้ำอ่างเก็บน้ำที่บ้านหนองอีเก้ง เพราะเกรงจะท่วมบ้านเรือนที่อยู่ตามริมแม่น้ำ แต่จะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.วังสะพุง เนื่องจากเป็นปลายน้ำ

ด้านจ.เพชรบูรณ์ เวลา 04.00 น. มีน้ำป่าจากเทือกเขาฝั่งตะวันออก ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านขมวด หมู่ 6 ต.น้ำร้อน อ.เมือง และทะลักข้ามถนนสายเพชรบูรณ์-วิเชียรบุรี สายใหม่ สูง 50 ซ.ม.กระแสน้ำพัดพารถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กง 51 เพชรบูรณ์ ตกลงไปในไหล่ถนน นอก จากนี้ น้ำยังพัดรถจักรยานยนต์ตกข้างทางอีก 1 คัน คนขับขี่ตะเกียกตะกายว่ายน้ำรอดมาได้

นายไพรวัลย์ ขุนทิพย์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 6 ต.น้ำร้อน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ คนขับรถเก๋ง กล่าวว่า ขับรถมากับภรรยา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงลงเนินและมืด มองไม่เห็นน้ำท่วมถนน รถเสียหลัก ก่อนถูกน้ำพัดไปตกข้างถนน โชคดีที่รถไปติดต้นไม้ จึงช่วยกันเปิดประตูรถหนีออกมาได้

ส่วนที่จ.ตราด เกิดน้ำท่วมหนักใน ต.ตะ กาง และต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายถนนจาก 2 เป็น 4 เลน ทำให้ผู้รับเหมานำรถแบ๊กโฮขุดเปิดทางน้ำไหล เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ในพื้นที่ ต.ชำราก ยังมีน้ำท่วมตั้งแต่ทางเข้าวัดท่าเลื่อน และวัดชำรุด โดยเฉพาะคลองชำราก มีน้ำสูงท่วมถนน และสะพานเป็นทางยาวกว่า 500 เมตร รวมถึงทางเข้าวัดชำราก ยาว 1 กิโลเมตร น้ำสูง 10-30 ซ.ม. บ้านเรือนนับสิบหลังถูกน้ำท่วม

ขณะที่ จ.จันทบุรี มีน้ำป่าไหลบ่าจากเทือกเขาแกด ต.เขาบายศรี ไหลเข้าพื้นที่หมู่ 8 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ น้ำท่วมบ้านเรือน 200 หลัง และพื้นที่สวนผลไม้ 1,200 ไร่ โดยเฉพาะที่ทำการศูนย์ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ต.เขาบายศรี ถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหนัก ต้องปิดศูนย์ และขณะที่เจ้าหน้าที่อปพร. เข้าสำรวจพื้นที่น้ำท่วมขัง พบจระเข้ยาวประมาณ 1 เมตร อยู่ริมน้ำ ทางเจ้าหน้าที่พยายามจับแต่จระเข้ว่ายน้ำหนีไป คาดว่าหลุดออกมาจากฟาร์มใกล้เคียงที่ถูกน้ำท่วม สร้างความหวาดผวาให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก

นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผวจ.จันท บุรี แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจในตัวเมือง ให้เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง ควรเก็บสิ่งของไว้ในที่สูง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยทางจังหวัดเตรียมแผนรอง รับไว้หมดแล้ว หากประชาชนได้รับผลกระ ทบจากน้ำท่วม สามารถร้องขอความช่วยเหลือ ไปได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.จันทบุรี โทรศัพท์ 0-3931-2100 ตลอด 24 ชั่วโมง

-----------

http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHdPUzB5T0E9PQ

 

อุตุฯเตือนภัยฉบับที่2อีสานตอนบนรับมือพายุกิสนา

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

อุตุฯเตือนภัยพายุกิสนา ฉบับที่ 2 ขึ้นฝั่งเวียดนามพรุ่งนี้(29ก.ย.) และเข้าสู่ลาวบริเวณมุกดาหาร ส่งผลอีสานตอนบนฝนตกหนัก30ก.ย.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย"พายุ “กิสนา” (KETSANA) " ฉบับที่ 2 (153/2552) เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ ให้ระวังภัยจากฝนตกหนักในวันพรุ่งนี้
พายุไต้ฝุ่น “กิสนา ” (KETSANA) บริเวณทะเลจีนใต้ เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(28 ก.ย.52) มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 400 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้(29 ก.ย.52)
จากนั้น จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณแนวจังหวัดมุกดาหาร ในวันที่ 30 กันยายน 2552 นี้
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางพื้นที่ โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนในวันที่ 29 กันยายน 2552 ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มของจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้
----------
http://www.bangkokbiznews.com/home/...ตือนภัยฉบับที่2อีสานตอนบนรับมือพายุกิสนา.html

 

เตือนภัยกิสนา 18 จังหวัด ฝนตก-น้ำท่วม



กรมอุตุฯ ประกาศเตือนภัย"พายุ กิสนา"ฉบับที่ 4 ระวังฝนตกหนักถึงหนักมากได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ 18 จังหวัดระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก...

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย"พายุ กิสนา"ฉบับที่ 4 ระบุว่า พายุไต้ฝุ่น “กิสนา ” (KETSANA) บริเวณทะเลจีนใต้ เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้(29 ก.ย.52) มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 220 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันนี้(29 ก.ย.52) และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณแนว จังหวัดมุกดาหาร ในวันที่ 30 กันยายน 2552 นี้

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ในหลายพื้นที่ โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกในวันนี้ (29 ก.ย.52) ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มของจังหวัดหนองคาย นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นได้ ในระยะนี้

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงทำให้ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้
สำหรับประเทศไทย พยากรณ์สภาพอากาศประจำวันอังคารที่ 29 กันยายน 2552 ตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้ มีดังนี้

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึง หนักมากหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดหนองคาย นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึง หนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ลมตะวันตก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
-----------

เตือนภัยกิสนา 18 จังหวัด ฝนตก-น้ำท่วม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

รับมือพายุใต้ฝุ่น"กิสนา"เข้าไทย วิธีเอาตัวรอดจาก"พายุ น้ำท่วม โคลนถล่ม"

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>กรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาของไทย ออกมาประกาศเตือนภัยล่าสุดวันนี้(29ก.ย.52)ว่า"พายุ กิสนา" หรือ KETSANA ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุใต้ฝุ่น บริเวณทะเลจีนใต้ มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันนี้(29 ก.ย.52) และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณแนว จังหวัดมุกดาหาร ในวันที่ 30 กันยายน 2552 นี้ ซึ่งจะทำให้ภาคอีสานมีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากก่อให้เกิดความหวาดวิตกของประชาชนตามมานั้น



Expert Advise ในเว็บไซต์ toonboonmag แนะนำวิธีเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ดังนี้



@กรณีเกิดน้ำท่วม โคลนถล่ม

อย่างแรกเลยคือ น้องๆ ควรติดตามข่าวพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงที่มีฝน เมื่อมีการเตือนภัยให้อพยพ ควรอพยพไปอยู่ในที่สูงหรืออาคารที่มั่นคงแข็งแรง ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ไว้ในที่ที่พ้นน้ำโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าอยู่ในพื้นที่ราบใกล้ภูเขาให้ระวังน้ำป่าไหลหลากให้ดี เพราะกระแสน้ำจะมีความรุนแรงมาก ระวังอย่าสัญจรไปมาบนทางเลียบภูเขาช่วงที่ฝนตกหนัก โอกาสเกิดดินโคลนถล่มมีสูงมาก บอกคุณพ่อคุณแม่ อย่าขับรถลงไปในกระแสน้ำหลากแม้จะบนพื้นถนนก็ตามครับ หลังน้ำท่วมระวังโรคระบาดด้วยครับ ทั้งเชื้อราและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นน้ำควรต้มก่อนดื่มทุกครั้งครับ



@ พายุไต้ฝุ่น

เช่นเดียวกันครับ ควรติดตามข่าวพยากรณ์อากาศให้ดี เตรียมอพยพไปยังที่หลบภัยที่ทางรัฐเตรียมไว้ให้ หรืออาคารที่มีความมั่นคงแข็งแรง ตรวจสอบว่ารอบบริเวณบ้านมีสิ่งของที่อาจจะปลิวหรือไม่ ของชิ้นเล็ก หรือกระถางต้นไม้ ถ้าเป็นไปได้ให้เก็บในบ้าน อีกทั้งควรตัดไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านก่อน เตรียมไฟฉายหรือเทียนไขแทน หากเกิดพายุขณะอยู่ในบ้าน ระวังอย่าออกไปข้างนอกบ้านเด็ดขาด อย่าอยู่ใกล้รั้วบ้านหรือกำแพง ให้หลบอยู่ในห้องเล็กๆ ที่แข็งแรงที่สุดเช่นเดียวกันครับ



นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำกรณีแผ่นดินไหว แต่คงไม่เกิดกับพายุกิสนา แต่อ่านไว้ก็ได้ประโยชน์เช่นกัน



@ แผ่นดินไหว


หากอยู่ในบ้านขณะเกิดแผ่นดินไหว ต้องป้องกันบริเวณศีรษะเอาไว้ พยายามหาที่หลบใต้โต๊ะหรือหาหมอนมาบังศีรษะเอาไว้ หรือวางมือเปล่าไว้เหนือศรีษะนิดๆ อย่ารีบร้อนออกจากบ้านเพราะอาจมีอันตรายจากของตกจากที่สูงและล้มทับ ถ้าอยู่ใกล้ประตู หน้าต่างให้เปิดทิ้งไว้ก่อนแต่อย่าไปอยู่ใกล้ๆ ที่หลบภัยในบ้านควรจะเป็นห้องเล็กๆที่มีเสารองรับเยอะๆ อย่างห้องน้ำ และพยายามคิดหาทางหนีภัยด้วยครับ อย่าตกใจ


กรณีอยู่นอกบ้าน สถานที่ที่ปลอดภัยคือสวน หรือพื้นที่โล่งกว้าง อย่าวิ่งเข้าบ้านหรือตึกที่ไม่น่าไว้ใจในความแข็งแรง อย่าอยู่ใกล้ชายหาดเพราะโอกาสเกิดคลื่นใหญ่ซัดชายฝั่งมีสูง กรณีอาศัยอยู่บนตึกสูง ให้รีบหนีออกมาทันทีโดยระวัง อย่าใช้ลิฟท์เด็ดขาดเพราะไฟอาจดับ ทำให้น้องมีโอกาสติดอยู่ในลิฟท์มีสูงมาก ห้ามทำกิจกรรมใดๆ ที่ทำให้เกิดประกายไฟ เพราะอาจมีก๊าซรั่วซึมอยู่บริเวณนั้นครับ

---------

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1254199464&grpid=03&catid=00