เทพ เทวดา ภาวนาได้หรือเปล่า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย tunotun, 1 ตุลาคม 2010.

  1. tunotun

    tunotun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +79
    เทพ เทวดา ภาวนาได้หรือเปล่า ครับ
     
  2. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    พวกเทพเทวดานางฟ้าที่เป็นสัมมาทิฏฐิและไม่หลงความสุขที่เป็นทิพย์ทำต่อครับ และ มักเป็นพวกที่ตอนเป็นมนุย์ทำทานศีลภาวนาอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว พอจุติและไปเกิดยังภพใหม่ก็ยังจำได้ ทำต่อครับ พวกที่ไปเป็นเทพเทวดาจากการทำทานก็จะไม่ทำต่อครับเพราะสัญญาเดิมไม่มี

    ครูบาอาจารย์สอนว่า เป็นเทวดาไม่ใช่ไปจากทาน ให้ไปจากการปฏิบัติ (ทาน ศีล ภาวนา) พวกทีไปจากทานมีอานุภาพน้อยปัญญาทางธรรมน้อย พวกที่ไปจากการปฏิบัติอานุภาพมากมัญญาทางธรรมมาก

    เทวดาก็มีหลากหลายพวกเหมือนมนุษย์นั่นแหละ มีตั้งแต่บารมี ๑๐ น้อย ปัญญญาน้อย จนกระทั่งพวกบารมีมากปัญญาทางธรรมาก ก็เพราะตอนเป็นมนุษย์ทำไว้มาก มีทุนเดิมอยู่มาก

    ภพและอัตภาพการเป็นมนุษย์เหมาะแก่การปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนามากที่สุดกว่าภพอื่น ๆ เพราะทำได้เต็มที่เนื่องจากมีร่างกายที่แท้จริง (หยาบ)ที่จะสามารถสร้างบารมี ๑๐ ทัศได้เต็มที่ มนุษย์จัดได้ว่ามีปัญญามาก มีร่างกายที่อำนวย ทั้งยังได้เห็นความจริงของชีวิตคือทั้งสุขทั้งทุกข์ จึงทำให้เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริงได้ดีกว่าสัตว์หมู่อื่น (เทวดาเห็นแต่สุขจึงไม่รู้ทุกข์ จึงหลงเลยไม่หาทางออก พอหมดบุญก็ไปนรกเป็นส่วนมาก)

    มีเทวดาบางพวกบำเพ็ญเพียรเพราะกลัวว่าสวรรค์จะถูกทำลายเลยจะหาทางหนีขึ้นไปยังพรหมโลกชั้นสูง ๆ เพราะบางช่วงเวลาที่ น้ำ ไฟ หรือลม ทำลายไปถึงพรหมโลกชั้นต้น ๆ เขาเลยกลัวจึงคิดหนีกัน แทนที่ปฏิบัติเพื่อไม่ต้องเกิดกลับกลายเป็นเพื่อหนี เหมือนคนที่ปฏิบัติแล้วหวังไปสวรรค์ เป็นความคิดที่ผิด ที่จริงต้องหวังให้ดับกิเลสอย่างสิ้นเชิง

    พระพุทธเจ้าตรัสว่าภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ถ้าปฏิบัติเพื่อไปสวรรค์ ก็เปรียบดังผู้ถูกผีสิง

    ดังนั้นสวรรค์จึงไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่มีประโยชน์คือ ใช้เป็นที่พักในบางช่วงเวลา เช่น ช่วงที่โลกเกิดภัยภิบัติ หรือ เมื่อยังไม่ถึงนิพพานก็ใช้เป็นที่พักระหว่างทาง ดีกว่าไปอบายภูมิ

    แปลกดีคนอยากเป็นเทวดาเป็นพรหมเพื่อจะได้มีแต่ความสุขที่เป็นทิพย์ แต่เทวดากับพรหมอยากเป็นมนุย์เพื่อมาสร้างบารมีเพราะเขารู้ว่าอยู่ที่เทวโลกได้แต่กินของเก่า (พวกเทวดาสัมมาทิฏฐินะจะเข้าใจ/เหมือนคนนั่นแหละ พวกสัมมาทิฏฐิถึงจะรู้ว่ามาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสร้างบารมี ทาน ศีล ภาวนา)

    คนอยากเป็นเทวดา ทาวดาอยากเป็นคน นี่ก็เป็นตัณหา อุปาทาน หลอกให้สัตว์วนตายวนเกิดอยู่นี่ ไม่ต้องหนีออกจากวัฏฏะสงสารอันหน้ากลัวนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2010
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    พรหมชั้นสุทธาวาส ที่เป็นพระอนาคามี สามารถบรรลุอรหันต์ในชั้นนั้นโดยไม่ต้องกลับมาเกิดอีกต่อไป.....
     
  4. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ๑. ศึกษามาก ค้นคว้ามาก ปฏิบัติมาก ก็รู้มาก ศึกษาน้อย ค้นน้อย ปฏิบัติน้อย ก็รู้ได้น้อย
    ๒. คนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน
    ๓. เรื่องเหล้านี้มีกล่าวไว้แล้วทั้งหมดในพระไตรปิฏก ทั้งในสุตันปิฎก และอภิธรรมปิฎก (ปริเฉทที่ ๖ เรื่องภพภูมิ) ที่เขียนข้างบนนี้ยังแค่ผงฝุ่น การไปของเทพเทวดาและพรหมแต่ละพวกว่าไปอย่างไรก็อธิบายไว้ละเอียดยิบในนั้น
    ๔. ไปมาเห็นมาเห็นมาแล้วจึงกล้าตอบ
    ๕. คนจะเขียนอะไรขึ้นมาสักประโยค ไม่เสียเวลาพูดพล่ามสิ่งที่ไม่รู้ไม่เข้าใจ ด้นเดาเอา เสียทั้งเวลาโดยที่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่เสี่ยงกับบาปกรรมของความมั่วเอาเดาเอา
    ๖. ไม่ได้ให้เชื่อ ถ้าไม่เชื่อก็ต้องหาทางพิสูจน์ ไม่ใช่ค้านว่าไม่ แต่ไม่ได้มีเหตุผลอะไรประกอบเลย ถ้ารู้จริงกว่านี้ก้ควรจะอธิบายออกมา
    ๗. ถ้าคิดว่าข้อเขี่ยนจุดใดคลาดเคลื่อนหรือไม่ถูกต้องให้แย้งเป็นประเด็นแล้วกรุณาให้เหตุผล อย่าเอาตนเองมาเทียบว่าไม่รู้เเล้วคนอื่นเขาจะไม่รู้เหมือนกันหมดเหมือนตน ก็บัวยังมีหลายเหล่า นกกับเต่าอยู่ในเฉพาะที่ของตนแล้วบอกว่า โลกนี้ไม่มีนกโลกนี้ไม่มีเต่าไม่มีเต่า
    ๘. เสอนให้คุณไปหาทางให้รู้มากกว่านี้ (พิสูจน์ตามกาลามสูตร)แล้วค่อยมาตรวจเช็คว่าที่คนอืนเขาเขียน ๆ มานั้นคลาดเคลื่อนตรงไหน

    ลองเข้าไปศึกษาดู

    http://www.buddhism-online.org/pdf/section6.1.pdf
    http://www.buddhism-online.org/pdf/section6.2.pdf
    http://palungjit.org/threads/ภาพวัฎสงสาร-๓๑-ภพภูมิ-ความละเอียดสูง-พร้อมคำอธิบายอย่างละเอียด.260079/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2010
  5. ผู้เห็นภัย

    ผู้เห็นภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +476
    พระไตรปิฏก หมวดสุตตันปิฏฏ หรือพุทธประวัติ มีกล่าวไว้เยอะเลยนะครับ

    อย่างเทวดาชั้น จาตุมหาราชิกา ก็จะคอยคุ้มครองดูแล มนุษย์ ที่ตั้งใจทำความดี ที่มีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ทิศผู้เป็นใหญ่ และก็มีบริวารอีกมากมาย

    ชั้นดาวดึงษ์ เป็นคล้ายเมืองหลวงของเมืองสวรรค์ เทวดาชั้นนี้ ก็ชอบการเทิง ฟ้อนนรำ สนุกรื่นเริงกัน

    ชั้นยามากาวจร ก็ชั้นนี่แหละที่ชอบสวดมนต์เป็นอย่างมาก เทวดาชั้นนี้ ชอบแต่ชุดขาว ชอบสวดมนต์ (พระท่านบอกว่า สมัยมีชีวิตเป็นคนก่อนตาย ชอบเข้าวัด ฟังธรรม แต่ที่ชอบมากก็คือสวดมนต์ ตายไปก็อยู่ชั้นนี้)

    และอย่างพรหมชั้นสุทธาวาส ชั้นนี้ ต้องท่านที่ได้โลกุตรฌาณเท่านั้น ที่จะมีบารมีเข้าอยู่ชั้นนี้ได้

    และก็บำเพ็ญภาวนาต่อเลย สำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่นั่นเลย

    ตัวอย่างเล็กน้อยนะ ศึกษาเพิ่มเติมที่ พุทธประวัติฉบับประชาชนก็ได้ ดูที่หมวดพุทธประวัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2010
  6. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +3,168
    เคยได้ยินเรื่องเทวดาลงมาฟังธรรมไหม ท่านฟังไปเพื่ออะไร ถ้าเป็นผม ฟังไปเพื่อปฏิบัติ
     
  7. ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +2,082
    อนุโมทนา ครับ

    ขอถามหน่อยนะครับ ผี นี้ภาวนาหรือสวดมนต์ได้ไหมอะครับ

    เพื่อต้องการให้ภพภูมิสูงขึ้น หรือรอดจากการทนทุกข์บนโลกอะครับ
     
  8. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ได้ แต่เพราะว่าบนสวรรค์เพลินอยู่กับความสุขและไม่มีทุกข์ให้เห็นเลยไม่ขวนขวาย ไม่ดิ้นล้นจะปฏิบัติ
    เมื่อมีเหตุถึงจะภาวนา เช่น เมื่อก่อนถึงกาลที่โลกจะวิบัติ ในช่วงแสนปีจะมีเทวดาโพกผ้าแดงป่าวประกาศให้รู้ ผู้คนก็จะปฏิบัติและได้ขึ้นสวรรค์ต่อจากนั้นเหล่าเทวดาก็จะภาวนากสิณลม เพื่อไปเกิดเป็นพรหมชั้นที่สูงกว่าที่ไฟบรรลัยกัลจะเผาไปถึง
    อีกตัวอย่างคือ พวกมาร(เทวดาชั้นที่6)เมื่อภาวนากรรมฐานจนมีกำลังมากก็ยกทัพมาสู้กับเหล่าเทพที่มีพระอินทร์เป็นหัวหน้าจนพระอินทร์ต้องหนีไปสุดขอบจักวาล และกาลใดเหล่าเทพมีกำลังมากกว่าพวกมารก็จะหนีเข้าสู่ประตูแห่งมารเหล่าเทพก็จะเข้าไปไม่ได้
     
  9. เพชรกร

    เพชรกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    291
    ค่าพลัง:
    +1,260
    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน.... เวทัลละ ธรรมเหล่านั้นเธอฟังเสมอ ๆ คล่องปาก เพ่งพิจารณาด้วยใจ และกาย ตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
    "ต่อมา เธอมีสติเหลงลืมถึงแก่มรณะ ย่อมไปบังเกิดในเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง เมื่อเธอมีความสุขอยู่ในภพนั้น บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมปรากฏแก่เธอ สติบังเกิดขึ้นช้า แต่สัตว์นั้นย่อมบรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน
    “อีกประการหนึ่ง... บทแห่งธรรมย่อมไม่ปรากฏแก่เธอ แต่ภิกษุผู้มีฤทธิ์ มีความชำนาญทางจิต แสดงธรรมแก่เทพบริษัท เธอตรึกตรองจนเห็นว่า ในกาลก่อน เราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยใด นี้คือธรรมวินัยนั้น สติบังเกิดขึ้นช้า แต่สัตว์นั้นย่อมบรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน.... ดุจบุรุษผู้ฉลาดในเสียงกลอง เขาเดินทางไกล เมื่อได้ยินเสียงกลอง ไม่มีความสงสัยหรือเคลือบแคลงว่า นั่นเสียงกลองหรือไม่ใช่....
    “อีกประการหนึ่ง... บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏแก่เธอ ผู้มีความสุขอยู่ในภพนั้นเลย ทั้งภิกษุผู้มีฤทธิ์ ก็ไม่ได้แสดงธรรมในเทพบริษัท แต่เทพบุตรย่อมแสดงธรรมในเทพบริษัท เธอคิดได้ดังนี้ว่า นี้คือ นี้คือธรรมวินัยนั้น สติบังเกิดขึ้นช้า แต่สัตว์นั้นย่อมบรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน.... ดุจบุรุษผู้ฉลาดในเสียงสังข์ สติบังเกิดขึ้นช้า เดินทางไกลได้ยินเสียงสังข์เข้า ไม่พึงมีความเคลือบแคลงสงสัย ว่านั่นเสียงสังข์หรือไม่ใช่....
    มหาวรรคที่ ๕ จ. อํ. (๑๙๑)
    ตบ. ๒๑ : ๒๕๑-๒๕๓ ตท. ๒๑ : ๒๑๔-๒๑๕
    ตอ. G.S. II : ๑๙๓-๑๙๕
     
  10. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ผมคิดเองน่ะครับว่า พระพุทธศาสนานั้นไม่ได้มีข้อห้ามว่าภพไหนปฏิบัติไม่ได้ ทำได้หมดครับ ขึ้นอยู่กับทิฐธิของแต่ละคนครับ ว่าเขาจะปฏิบัติหรือไม่ ความเห็นส่วนตัว
     
  11. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682

    ใช้หลักกาลามสูตรที่พระพุทธองค์ตรัสไว้นั้นดีอยู่แล้วตรัสไว้ชอบแล้วครับ

    แต่การจะรู้ได้อย่างไรว่าเทวดานั้นเป็นเช่นไร อันนี้เป็นเรื่องของปัญญา
    ราวกับว่า รู้ได้อย่างไรว่าสมการ x และy จะเกิดเป็นจริงได้ ฉนั้นสมการเทวดาจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อได้ประจักษ์ด้วยสติปัญญาของตนเองและทางที่จะพบกับคำตอบได้ก็ต้องมีการทำโจทย์นั่นก็คือการปฏิบัติที่ตรงทางนั่นเอง

    เรืองเหล่านี้เป็นคำถามที่อยากจะตอบและยากจะยอมรับหากเมื่อสมการนั้นๆยังมีข้อสงสัยอยู่คำถามก็จะไม่จบสิ้น ในทางปฏิบัติแล้วการจะรับรู้ถึงสภาวะใดๆที่มีขั้นและลำดับที่ละเอียดลึกซึ่งมากเท่าใด คำจำกัดความหรือนิยามที่ใช้เรียกนั้นมักจะหาไม่เจอ แต่โชคดีที่พระพุทธองค์ได้แทนค่าสภาวะนั้นๆไว้แล้ว จะเหลือก็แต่เราท่านทั้งหลายเข้าไปตรวจสอบว่าจะจริงหรือไม่จริงเพียงแต่ก็ต้องมีกาลามสูตรเป็นพื้นฐานและความเป็นสัมมาทิฐิ จงอย่าเชื่อแม้แต่ตัวเราเอง พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้เช่นนี้

    อนุโมทนาครับ

    จงอย่าพึ่งเชื่อ และไม่ใช่ไม่เชื่อ เพียงเพราะ....10ประการดังกล่าว
     
  12. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +3,602
    เมื่อพระศานาดํารงครบถ้วน 5000 ปี อริยะจะหมดไปจากโลก แต่มรรคผลนิพพานยังมีอยู่ใน เทวโลกและ พรหมโลก

    พุทธมารดาก็สําเร็จบนเทวโลก เทพเทวดาก็ภาวนาได้ เพียงแค่สังขารในการบําเพ็ญบุญไม่เอื้ออํานวยเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้เบียดบัง มรรค ผล นิพพาน
     
  13. kencito

    kencito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +954
    อย่าเถียงกันเลยครับ

    ผมรู้ครับว่าทุกๆคนในนี้มีความรู้กันมาก และผมเคารพทุกความเห็น
    แต่ขออย่างเดียวครับ อย่าเถียงกันรุนแรงเลย เอาชนะกันไปเพื่ออะไร ใครอยากจะเอาชนะกันเรื่องการเมือง เรื่องอะไรข้างนอกให้เขาทำไปครับ ในนี้ ในเว็บไซต์ของศาสนาพุทธ ศาสนาที่ขึ้นชื่อว่า มีสันติภาพมาก อย่าเถียงกันเอาชนะกันเลยครับ สุดท้ายแล้วคนมาอ่านก็เกิด สับสน หดหู่ใจ ไม่ก่อเกิดเรื่องดีเลยครับ
     
  14. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    คุณบุญพิชิต

    ลองเข้าไปศึกษาดูก่อน อย่าเพิ่งควันออกหู บ่ มีประโยชน์ ไปกว่าไปศึกษา ไปค้น ไปทำให้รู้เห็นให้เข้าใจได้ด้วยตนเองก่อน แล้วค่อยมาแย้ง

    http://www.buddhism-online.org/pdf/section6.1.pdf
    http://www.buddhism-online.org/pdf/section6.2.pdf
    ภาพวัฎสงสาร ๓๑ ภพภูมิ (ความละเอียดสูง พร้อมคำอธิบายอย่างละเอียด)
    http://www.dharma-gateway.com/dhamma/misc-sin_path_10_10.htm

    สิ่งที่มีที่เป็นอยู่ ถึงใครจะพูดว่าไม่มีไม่เป็นมันก็ไม่ได้เป็นไปตามปากคนนั้น

    สิ่งที่ไม่มีไม่เป็น ถึงใครจะพูดว่ามีว่าเป็น มันก็ไม่เป็นไปตามปากของคนนั้น

    ธรรม(ชาติ)นั้นนั้นก็เป็นเช่นนั้น
    ท่านฯ พูดว่า "ก็เป็นเช่นนั้นเอง"

    เจริญในธรรมทุกท่าน<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2010
  15. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]อันนี้สำหรับน้องเจ้าของกระทู้โดยตรง[/FONT][/FONT][/FONT]​

    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าแม้พระอนาคามีซึ่งเป็นพรหมพระอริยะเจ้าขั้นที่ ๓ เมื่อไปอุบัติยังพรหมโลกยังต้องเพียรต่อ[/FONT][/FONT][/FONT][FONT=2005_iannnnnGMO]​


    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเทวดาหรือพรหม ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิ และมีเป้าหมายที่มั่นคงแน่นอนก็ย่อมที่จะเพียรให้ถึงเป้าหมายนั้น[/FONT]


    [FONT=2005_iannnnnGMO]ข้อความข้างล่างเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาจากเว็บไซต์ข้างล่างนี้ อยากให้น้องเจ้าของกระทู้ที่ตั้งกระทู้ถามเข้าไปพิจารณาดู จะได้ไม่สับสนกับข้อความต่าง ๆ ที่มีผู้พยายามค้านเรื่องเทวดา[/FONT]

    [FONT=2005_iannnnnGMO]อนาคามีโลกุตรภูมิ[/FONT]​

    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO](ภูมิพ้นโลก ชั้นที่ ๓) ผู้ถึงภูมินี้ได้ชื่อว่าพระอนาคามี จะไม่กลับมาเกิดในกามภูมิอีก แบ่งเป็น ๕ ประเภท คือ [/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]๑.อันตราปรินิพพายีสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานภายในอายุครึ่งแรกของสุทธาวาสภู[/FONT][/FONT][/FONT][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]มิพรหมโลกที่สถิตอยู่ [/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]๒.อุปหัจจปรินิพพายี สำเร็จเป็นพระอรหันต์ปรินิพพานภายในอายุครึ่งหลังของสุทธาวาสภูมิพรหมโลกที่สถิตอยู่ [/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]๓.อสังขารปรินิพพายี สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานในพรหมโลกที่สถิตอยู่[/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]โดยสะดวกสบายไม่ต้องใช้ความเพียรมาก [/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]๔.สสังขารปรินิพพายี สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานในพรหมโลกโดยต้องพยายาอย่างแรงกล้า[/FONT][/FONT][/FONT][FONT=2005_iannnnnGMO]
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]๕.อุทธังโสตอกนิฏฐคามี ไปเกิดในสุทธาวาสพรหมโลกชั้นต่ำที่สุด (อวิหาสุทธาวาสพรหมโลก) แล้วจึงจุติไปเกิดชั้นสูงขึ้นไปตามลำดับ คือ อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี แล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์ปรินิพพานในอกนิฏฐพรหมโลก[/FONT][/FONT]
    [/FONT]


    [/FONT]
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2010
  16. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,305
    ทุกอย่างเป็นเรื่องที่แลกเปลี่ยนกันรู้ ไม่มีใครรู้ว่าถูกทั้งหมดหรอก หากมองว่าสิ่งที่เรารู้ทั้งหมดถูก ท่านอื่นก็ผิดหมด จริงหรือเปล่า
     
  17. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +688
    ตอบ..สรุปคุณไม่เชื่อ คุณว่าเป็นนิทาน มันก็ไม่ผิดอีกนั่นแหละ

    แต่พระพุทธเจ้าของพวกเรา พระองค์ทรงบอกว่า "คถาคตตรัส
    อะไรไปแล้ว พวกเธออย่าพึ่งเชื่อ" แต่ทรงท้าไห้มาพิสูจน์ โดยการปฏิบัติ โดยการสร้งทิพย์จักขุญาณไห้มีเกิดขึ้น แล้วจึงจะพิสูจน์ได้

    รักษาศีล ฝึกสมาธิไห้ตั้งมั่น วิปัสสนาญาณทำไห้รู้แจ้ง
    จึงจะพิสูจน์คำสอนของพระองค์ได้

    ผมเตือนคุณแล้ว...........MR Warning
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2010
  18. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,359
    ค่าพลัง:
    +6,493
    ผมชอบพี่คับ พี่เก่งจัง ผมมักตามอ่านโพสต์ของคนเก่งอ่ะคับ พี่รู้ลึกดีนะครับ ผมเข้าใจที่พี่พูดหมดเลย พี่ลึกซึ้งแก่นธรรมได้ดีจริงๆ ขออนุโมทนาฮะ
     
  19. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,359
    ค่าพลัง:
    +6,493
    อันนี้ก็ถูกต้อง เป๋งเลยครับ ไม่มีใครเข้าใจที่พี่พูด แต่ผมเข้าใจครับ ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ ไม่ต้องท้อ ความจริงคือความจริงครับผม...
     
  20. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +688
    ท่านบุญพิชิต ท่านมีสาวก มีเพื่อนที่คิดเหมือนท่านแล้ว

    ท่านก่อตั้ง ศาสนาเองได้แล้ว คิดอย่างไร ชอบแบบไหน

    ไม่มีใครค้าน ตามสดวก

    แต่พวกเราเหล่าพุทธบริษัท พระพุทธเจ้าตรัสอะไรมาแล้วเราเชื่อ เพราะพวกเราเป็นสาวกของท่าน (สาวก แปลว่า ผู้รับฟัง ผู้เชื่อฟัง และปฏิบัติตาม)

    พวกคุณ ไม่ไช่สาวก ก็ไม่ผิด แต่ขอร้องอย่าเข้ามา

    ก่อกวน ศาสนาของพวกเรากันเลย เพราะเราเชื่อเรื่องกรรม เชื่องเรื่องผลของกรรม

    เชื่องว่าทำดีจะได้ดี ทำชั่วจะได้ชั่ว

    พระพุทธเจ้า ตรัสว่า เทวทัต ตั้งใจฆ่าพรพุทธเจ้า
    โดยการกลิ้งหินทับ แต่ทำได้แค่ทรงห้อเลือด

    แล้วเทวทัต ทำบาปอีกมากมาย สร้างกรรมหนัก

    เลยถูกธรณีสูบ ตายทั้งเป็น ตายแล้ว ก็ไปเสวยผลกรรมในอเวจีมหานรก

    อันนี้พวกคุณก็ต้องบอกว่านิทานอีกสินะ เขาแต่งมา

    ที่บอกว่าเขาแต่งมา ก็คือพระพุทธเจ้าแต่งมา

    แต่พวกเราเชื่อว่าเป็นความจริง เป็นเรื่องจริงๆ

    ที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล

    ศีลห้า เรารักษา เราทำตาม พระพุทธเจ้าสอนไห้

    เหล่าพุทธบริษัทรักษาศีลห้า ซึ้งเป็นความดีเบื้องต้น

    แต่พระองค์กลับมาแต่งนิทาน แต่งเรื่องเทวทัตหลอกกันซะงั้น


    แต่พวกเราชาวพุทธไม่คิดเช่นนั้น คิดว่าที่พระองค์ทรงตรัสไว้ เป็นความจริงทั้งหมด

    ทุกวลี ทุกถ้อยคำ ไม่ได้ทรงแต่งขึ้นเอง ไม่ว่าจะเพื่อเจตนาใดๆก็ตาม

    .............Warning
     

แชร์หน้านี้

Loading...