เทศน์มหาชาติยิ่งใหญ่ 13 กัณฑ์ 163 ปี วัดยานนาวา เฉลิมพระเกียรติ"ในหลวง-พระพี่นาง"

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 6 ตุลาคม 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    เทศน์มหาชาติยิ่งใหญ่ 13 กัณฑ์ 163 ปี วัดยานนาวา เฉลิมพระเกียรติ"ในหลวง-พระพี่นาง"

    โดย ตวงศักดิ์ ชื่นสินธุ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    สำเภาทองวัดยานนาวา

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ช่วงเวลา 163 ปี นับแต่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงริเริ่มจัดให้มีการเทศน์มหาชาติขึ้นที่ "วัดยานนาวา" หรือ "วัดสำเภา" พระอารามหลวงแห่งนี้ ยังไม่เคยมีการจัดเทศน์มหาชาติชาดกขึ้นอีกเลย จนกาลเวลาล่วงมาถึงปัจจุบัน

    ดังนั้น ปี 2551 นี้ วัดยานนาวาจึงถือโอกาสสำคัญสมโภชพระอารามหลวงอายุครบ 240 ปี ด้วยการจัด "เทศน์มหาชาติ" ขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ด้วย

    *ที่สำคัญยิ่ง คือเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับฟังการเทศน์มหาชาติชาดกและร่วมทำบุญเพื่อช่วยเสริมสร้างคุณความดีให้เกิดขึ้นในจิตใจในสภาวะที่ปัญหาสังคม และเศรษฐกิจ รวมทั้งการบ้านการเมืองเกิดเหตุการณ์ร้อนรุ่มขึ้นแบบไม่หยุดหย่อน*

    โดยทางวัดเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติครั้งสำคัญนี้ด้วย

    *พระพรหมวชิรญาณ* เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นผู้จัดการเทศน์มหาชาติครั้งนี้ บอกเล่ารายละเอียดให้ทราบ ว่าการเทศน์มหาชาติเป็นประเพณีที่ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติกันสืบมาแต่โบราณกาล ตั้งแต่สมัยสุโขทัยเรื่อยมาจนถึงกรุงศรีอยุธยาและมาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ โดยทั่วไปแล้วการเทศน์มหาชาตินิยมจัดเป็นประจำทุกปีระหว่างเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนธันวาคม

    พระพรหมวชิรญาณบอกว่า สำหรับวัดยานนาวานั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะพระอุโบสถและเสนาสนะสงฆ์ในปี 2387 สืบสานต่อจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เมื่อบูรณาพระอุโบสถเสร็จแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการแสดงพระธรรมเทศนา "เทศน์มหาชาติชาดก" ขึ้น พร้อมกับจัดพระราชพิธีแห่รูปพระเวสสันดร กัณหา ชาลี ขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่ท้ายเจดีย์เรือสำเภา

    พระราชพิธีครั้งนี้ถือว่าเป็นพระราชพิธีประวัติศาสตร์สำคัญยิ่งของวัดยานนาวา เพราะหลังจากนั้นมายังไม่เคยปรากฏหลักฐานว่ามีการจัดแสดงพระธรรมเทศนาเทศน์มหาชาติ "มหาเวสสันดรชาดก" ที่พระอารามหลวงแห่งนี้อีกเลย

    ผ่านมา 163 ปีทางวัดโดยเจ้าอาวาสเห็นว่าการจัดเทศน์มหาชาติชาดกเป็นกิจกรรมที่จะทำให้เกิดบุญกุศลอย่างใหญ่หลวง และประกอบกับมีการจัดงานสมโภชพระอุโบสถที่มีอายุครบ 240 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งของงานสมโภชครั้งนี้เห็นชอบให้จัดเทศน์มหาชาติชาดก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "อาตมาเห็นว่าคนรุ่นใหม่ยังไม่เคยได้ยินได้ฟังการเทศน์แบบนี้ อยากให้เขามีโอกาสได้ฟังได้สัมผัสของโบราณบ้าง" น้ำเสียงเปี่ยมเมตตาของเจ้าอาวาส

    "การจัดเทศน์มหาชาติชาดกครั้งนี้ ถือว่ายิ่งใหญ่ เพราะมีทั้งหมด 13 กัณฑ์ และทั้ง 13 กัณฑ์นั้นดีหมดทุกกัณฑ์ เพราะได้พระนักเทศน์ฝีปากดี น้ำเสียงไพเราะ เป็นสุดยอดพระนักเทศน์มาแสดงธรรมครั้งนี้ ส่วนการเทศน์จะเทศน์เป็นทำนองหลวง ถ้าคนฟังไม่ถนัดก็จะไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ เหมือนฟังงานสวดพระอภิธรรมที่เป็นภาษาบาลี ดังนั้น เราจึงจัดใหม่ให้มีการเทศน์ทำนองหลวงสัก 1-2 บท จากนั้น จะเน้นการเทศน์ที่เป็นทำนองธรรมดาเพื่อให้ชาวบ้านฟังรู้เรื่อง ฟังเข้าใจ โดยเนื้อหาในแต่ละกัณฑ์จะใช้เวลาเทศน์ประมาณ 30 นาที และแต่ละกัณฑ์ต้องมีรับศีล คนที่มาฟังก็จะเป็นเจ้าภาพกัณฑ์หลัก และสามารถเป็นเจ้าภาพร่วมได้ ถือหลักที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าการทำความดีใดๆ ก็ตาม ทำบุญกุศลใดๆ ก็ตาม ถ้าทำคนเดียวก็ได้ทรัพย์สมบัติ แต่บริวารสมบัติไม่ได้ คนเราต้องครบทั้งทรัพย์สมบัติและบริวาร" เจ้าอาวาสกล่าว

    *การเทศน์มหาชาติชาดกของวัดยานนาวาจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคม 2551 ที่ อาคารมหาเจษฎาบดินทร์ วัดยานนาวา ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปเป็นประธานในการบำเพ็ญพระกุศล*

    พระพรหมวชิรญาณ บอกด้วยว่า ถึงแม้การเทศน์จะมีเพียง 2 วัน แต่จะพิจารณาให้บันทึกเทปเก็บไว้เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังติดต่อประสานงานกับทางสถานีโทรทัศน์อยู่

    สำหรับการเทศน์มหาชาติชาดกที่นำมาเทศน์ 13 กัณฑ์นั้น เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กล่าวว่ามีกัณฑ์ที่เพิ่มเป็นพิเศษขึ้นมาคือ "กัณฑ์ที่ 14" เพื่อให้ที่เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ มีชื่อกัณฑ์ว่า "อริยสัจ 4"

    "เนื่องจากบ้านเมืองในเวลานี้มีความขัดแย้งกันอย่างมาก อาตมาเห็นว่าน่าจะมีกัณฑ์พิเศษขึ้นมาเป็นการเตือนสติประชาชนพลเมือง จึงมีกัณฑ์ที่ 14 ขึ้น คือทุกสิ่งทุกอย่างมาจากเหตุ เมื่อมีเหตุ มีปัจจัย ก็มีผล เหตุมาจากความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็นำไปสู่ความทุกข์ นำไปสู่ปัญหา แต่ถ้ามีสติปัญญาระลึกรู้ คำว่าปัญญาไม่ได้หมายความโลกียะปัญญา หรือปัญญาของชาวโลก แต่เป็นปัญญาทางธรรม จะเห็นว่าบางคนยิ่งเรียนสูงจบดอกเตอร์ก็ยิ่งมีกิเลส ยิ่งคนมีความรู้ยิ่งพัฒนาความรู้ไปใช้ทำความผิด ทำชั่ว โดยไม่ผิดกฎหมายหรือกฎหมายเอาผิดไม่ได้ เรียกว่าเป็นความผิดที่หายนะ แต่ปัญญาของพระพุทธเจ้าเป็นปัญญาที่บริสุทธิ์ ปัญญาสร้างสรรค์ให้เกิดสันติภาพ คุณงามความดี" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    *สุดท้ายพระพรหมวชิรญาณบอกถึงอานิสงส์ของการตั้งใจฟังเทศน์มหาชาติให้จบครบบริบูรณ์ทั้ง 13 กัณฑ์ว่า เป็นเหตุให้สำเร็จความปรารถนาในทุกประการ*

    "ดังนั้น อาตมภาพจึงอยากจะเชิญชวนชาวพุทธทั้งหลายมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบุญกุศลในงานนี้ร่วมกัน และอยากฝากข้อคิดให้ประชาชนที่ได้ฟังเทศน์มหาชาติครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ จงนำข้อคิดที่ได้ไปคิดใคร่ครวญในการกระทำการใดๆ อย่างมีสติ เพื่อประโยชน์ของตัวเองและประเทศชาติ และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา"

    คนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสธรรมในรูปแบบที่ไม่น่าเบื่อ และคนที่ยังหาโอกาสพิเศษทำบุญไม่ได้ ลองแวะไปฟังเทศน์มหาชาติชาดกที่วัดยานนาวา นอกจากเกิดสติปัญญาในการนำพาชีวิตประจำวันแล้ว

    ดวงตาอาจเห็นธรรม เข้าใจถึงความไม่เที่ยงแท้ของสิ่งต่างๆ บนโลกนี้



    มหาชาติชาดก 13 กัณฑ์

    มหาเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ ประกอบด้วย กัณฑ์ทศพร-เป็นกัณฑ์ที่พระอินทร์ประสาทพรแก่พระนางผุสดี ก่อนจะจุติลงมาเป็นพระราชมารดาของพระเวสสันดร ใครที่บูชากัณฑ์นี้จะได้รับทรัพย์สมบัติดังปรารถนา ถ้าเป็นสตรีจะได้สามีถูกใจ บุรุษจะได้ภรรยาตามที่ต้องการ และจะได้บุตรหญิงชายเป็นคนว่านอนสอนง่าย งดงามและความประพฤติดี

    กัณฑ์หิมพานต์-เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรบริจาคทานช้างปัจจัยนาค ประชาชนโกรธแค้นจึงขับไล่ให้ไปอยู่เขาวงกต ใครที่บูชากัณฑ์นี้เมื่อตายแล้วได้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เสวยสมบัติอันมโหฬาร มีบริวารแวดล้อม และถ้าจุติจากสวรรค์ก็จะมาเกิดในตระกูลขัตติยะมหาศาล

    กัณฑ์ทานกัณฑ์- เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรทรงแจกทานครั้งยิ่งใหญ่ ช้าง ม้า โคนม นารี ทาสี ทาสา สรรพวัตถาภรณ์ต่างๆ ใครบูชากัณฑ์นี้จะบริบูรณ์ด้วยแก้วแหวนเงินทอง ทาส ทาสี เมื่อตายแล้วได้เสวยสุขอยู่ในปราสาทแก้ว 7 ชั้น สวรรค์ชั้นฉกามาพจร

    กัณฑ์วนประเวศน์-เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดร นางมัทรี กัณหาและชาลี เดินป่ามุ่งหน้าสู่เขาวงกต ใครที่บูชากัณฑ์นี้จะได้รับความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า จะได้เป็นบรมกษัตริย์ผู้ปรีชาสามารถ

    กัณฑ์ชูชก-เป็นกัณฑ์ที่ชูชกได้นางอมิตดามาเป็นภรรยา ใครบูชากัณฑ์นี้จะได้บังเกิดในตระกูลกษัตริย์

    กัณฑ์จุลพน- เป็นกัณฑ์ที่พรานเจตบุตรหลงกลชูชกและชี้ทางสู่อาศรมพระเวสสันดร ใครบูชากัณฑ์นี้แม้จะไปเกิดในภพใดๆ จะเป็นผู้มีทรัพย์สมบัติบริวาร มีอุทยานดอกไม้หอมตลบไปทั่ว

    กัณฑ์มหาพน-เป็นกัณฑ์ที่ชูชกรอนแรมเดินป่าไปจนถึงอาศรมพระเวสสันดร ใครบูชากัณฑ์นี้จะได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อจุติในโลกมนุษย์ก็จะได้เป็นกษัตริย์มีศักดานุภาพ ทรัพย์ศฤงคาร บริวารมากมาย

    กัณฑ์กุมาร-เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรทรงให้ทานสองโอรสแก่เฒ่าชูชก ใครบูชากัณฑ์นี้ย่อมประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา และได้เกิดในสวรรค์ชั้นฉกามาพจร

    กัณฑ์มัทรี-เป็นกัณฑ์ที่พระนางมัทรีทรงตัดความห่วงหาอาลัยในกัณหา-ชาลี อนุโมทนาทานโอรสทั้งสองแก่ชูชก ใครได้บูชากัณฑ์นี้เมื่อเกิดในโลกหน้าจะเป็นผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติ มีอายุยืนยาวและรูปโฉมงดงาม

    กัณฑ์สักกบรรพ-เป็นกัณฑ์ที่พระอินทร์แปลงกายเป็นพราหมณ์มาขอพระนางมัทรี ใครบูชากัณฑ์นี้จะได้เป็นผู้เจริญด้วยลาภ ยศ ตลอดจนจตุรพิธพรทั้ง 4 คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดกาล

    กัณฑ์มหาราช- เป็นกัณฑ์ที่เทวดาแปลงองค์มากล่อมขวัญสองกุมารก่อนเสด็จถึงมหานครสีพีของปู่และย่า ใครได้บูชากัณฑ์นี้จะได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ

    กัณฑ์ฉกษัตริย์- เป็นกัณฑ์ที่กษัตริย์ทั้งหกคือพระเวสสันดร พระนางมัทรี กัณหา ชาลี และปู่ย่า เป็นลมสลบเมื่อพบหน้ากัน ใครได้บูชากัณฑ์นี้จะได้เป็นผู้เจริญด้วยพร 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ทุกๆ ชาติ

    นครกัณฑ์-เป็นกัณฑ์ที่หกกษัตริย์เสด็จนิวัตพระนคร ใครได้บูชากัณฑ์นี้จะเป็นผู้บริบูรณ์ด้วยวงศาคณาญาติ ข้าทาสชายหญิง กระทำการใดๆ ก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี


    -------------
    ที่มา: [​IMG]
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra02061051&sectionid=0131&day=2008-10-06
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG] ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     
  3. ทรัพย์พระฤาษี

    ทรัพย์พระฤาษี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    โมทนาด้วยครับ


    <TABLE class=webtitle2 height=76 width="53%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=10>พระนิพพาน ไม่ใช่ภาษาพูด


    </TD></TR><TR><TD height=10>ไม่ใช่ภาษาเขียน แต่เป็นภาษาปฏิบัติ


    </TD></TR><TR><TD height=10>( คำสอนของ พระองค์ที่ 10 )


    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    [​IMG]




    [​IMG][​IMG][​IMG]ผมมีบทความดีๆเกี่ยวกับในหลวง อยากให้ลองอ่านกันครับ[​IMG][​IMG][​IMG]
    คลิกนี้
    http://palungjit.org//showthread.php?t=150879
    <!-- / message -->
     
  4. lovebird

    lovebird เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +2,964
    ผมได้ไปไหว้พระ ทำบุญที่วัดยานนาวาเป็นประจำ แม่ชีท่านหนึ่ง บอกว่า เรือสำเภาทององค์เหนือหัวล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 ท่านสร้างด้วยจำนวนเงิน เพียง 100 กว่าบาทในสมัยนั้นครับ
     
  5. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะกับงานสมโภชพระอารามหลวงอายุครบ 240 ปี
    ในการจัด "เทศน์มหาชาติ" ครั้งนี้
     
  6. punyawat

    punyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +183
    อนุโมทนาครับ

    สาธุ อนุโมทนามิ
    _________
    "กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยเจ้าเอง"

    ---------------หลวงปู่โต พรหมรังสี------------------
     
  7. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"



    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ




    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  8. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    อืมมน่าไปฟังมาก
     
  9. vilawan

    vilawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,432
    อนุโมทนาคะ โชคดีจังเปิดพบวันนี้ยังมีเวลา จะหาโอกาสไปฟังคะ
     
  10. lasomchai

    lasomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +2,035
    ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งยวดครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  11. jake009

    jake009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +285
    พระศรีอาริย์ทรงสดับเช่นนั้น ก็ทรงพระสรวล พลางรับสั่งต่อไป
    "ถ้าหากเขาอยากเกิดทันศาสนาของข้าพเจ้า ก็จงอุตส่าห์ฟังธรรมมหาเวสสันดรชาดก ให้จบในวันเดียว แล้วบูชาด้วยธูปเทียน ดอกไม้อย่างละพันฉัตร ดอกบัวหลวง บัวเขียว บังขาว ดอกสามหาวอย่างละพัน ถ้าทำได้ดังนี้ ก็จะพบศาสนาของข้าพเจ้า และเมื่อข้าพเจ้าตรัสรู้ ผู้นั้นก็จะได้บรรลุพระอรหันต์ พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ส่วนที่ทำบาปหนัก เช่น ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้า พระภิกษุสงฆ์ ทำลายหมู่คณะให้แตกแยกกัน ทำลายเจดีย์สถาน และคนที่ตระหนี่ขี้เหนียว ไม่รู้จักทำบุญให้ทาน ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ เป็นคนโง่ มีความประมาทอยู่เสมอ คนพวกนี้ จะไม่มีโอกาสได้พบศาสนาของข้าพเจ้า"
    http://blog.hunsa.com/papamama/blog/25959
     
  12. ถนอม021

    ถนอม021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,098
    ค่าพลัง:
    +3,163
    อนุโมทนาสาธุด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    และขออุทิศบุญกุศลทั้งปวงแด่เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ
    ขอให้ทุกท่านมีความสุขกายสุขใจตลอดไป ขอให้อโหสิรรมและ
    ขออโหสิกรรมกับทุกรูปทุกนามด้วยเถิด

    ถนอม สุพัตรา ถกนธ์

    หลังจากสวดบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลามาก แนะนำบทสวดพุทธมนต์แบบย่อ ๆ แต่มีพลานุภาพมาก มีอานิสงส์มาก สวดไม่เกิน 5 นาทีจบ ดังนี้

    นะโม 3 จบ

    หัวใจ อิติปิโส ว่า
    อิสะวาสุ
    หัวใจพาหุง
    พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ
    หัวใจพระเจ้าสิบชาติ
    เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
    หัวใจบารมี 30 ทัส
    ทา สี เน ปะ วิ ขะ สะ อะ เม อุ
    หัวใจพระอาการวัตตาสูตร
    มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพพะสัมภาวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะ ยะตัง มะนัง
    หัวใจพระธารณะปริตร
    ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระรา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
    หัวใจพระไตรปิฎก
    จิเจรุนิ
    หัวใจพระคาถาชินบัญชร
    ชะ จะ ต ะ สะ สี สัง หะ โก ทะ กะ เก นิ กุ โส ปุ เถ เส เอ ชะ ระ ธะ ขะ อา ชิ วา อะ ชิ สะ อิ ตัง
    คาถาบูชาพระพุทธเจ้า 16 พระองค์
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

    [​IMG]สวดจบควรแผ่เมตตาทุกครั้ง[​IMG]
     
  13. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467

แชร์หน้านี้

Loading...