เธออยู่ในตู้

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 9 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    หมอนิ้ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกที่ดอยสะเก็ด

    อ้นเป็นเพื่อนสนิทของดิฉัน เรานัดกันไปเที่ยวเชียงใหม่ หวังโต้ลมหนาวสุดๆ เดือนธันวาคม เรื่องที่พักไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะญาติของอ้นเพิ่งแต่งงานกับพ่อม่าย-เศรษฐีเจ้าของไร่กาแฟเมื่อปีกลาย

    มาปีนี้เลยชวนคนชอบๆ กันไปเคานต์ดาวน์ที่นั่น ดิฉันกับอ้นต่างมีธุรกิจส่วนตัวก็เลยมีอิสรเสรีเต็มที่ ยังโสดเสียด้วยซิคะ ทั้งๆ ที่เราอายุสามสิบกว่าๆ กันแล้ว

    วันที่ 28 ธันวาคม เรานั่งเครื่องบินไปเชียงใหม่ พี่อ้อย-ญาติของอ้นเอารถมารับถึงสนามบิน เธอแก่กว่าเราแค่ 2-3 ปีแต่ดูสาวสวย มีสง่าราศี แต่งตัวเก่งและคุยสนุก มีเสน่ห์มากค่ะ สามีของพี่อ้อยเป็นม่าย ภรรยาเสียชีวิตไปร่วมสิบปี ลูกๆ ของเขาโตๆ กันหมดแล้วและไปอยู่เมืองนอกกันหมด คุณวิชัยก็เลยเหงา...ต้องนับว่าพี่อ้อยโชคดีมาก

    ไร่กาแฟของคุณวิชัยอยู่ที่ดอยสะเก็ด มีเนื้อที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา ทิวทัศน์สวยงามมาก มีภูเขาและสวนดอกไม้ด้วยค่ะ ในไร่นี่ปลูกกระท่อมสไตล์ยุโรปไว้ 5-6 หลัง เอาไว้ให้เพื่อนฝูงและญาติๆ มาพักไงคะ

    ปีนี้ผู้คนก็มากันร่วมสามสิบคนแน่ะ ญาติของคุณวิชัยทั้งนั้น มีแต่ดิฉันกับอ้นที่เป็นเพื่อนและญาติฝ่ายพี่อ้อย แต่เราก็เข้ากับทุกคนได้ดีค่ะ พวกเขามีครอบครัวแล้ว แต่ละคนก็พาลูกพาหลานมา ทำให้ครึกครื้นดีจัง

    พี่อ้อยให้เราสองคนพักอยู่ที่กระท่อมขนาดสามห้องนอน อยู่ไกลออกมาจากบ้านใหญ่ น่าแปลกใจว่า ทำไมครอบครัวของคุณนุชกับคุณวิเชียร พี่ชายสามีพี่อ้อยพาลูกหลานกับพี่เลี้ยงมาหลายคน กลับได้นอนกระท่อมที่มีแค่สองห้องนอน ดิฉันก็เกรงใจพยายามพูดให้เขามานอนทางนี้ แต่พวกเขาทำหน้าแปลกๆ มองตากันแล้วบอกว่าไม่เป็นไร นอนหลังนั้นดีกว่าเพราะใกล้กับบ้านใหญ่ดี

    เขาว่าดิฉันกับอ้นจะได้อยู่กันตามสบาย...

    แหม! ตอนกลางวันก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ยามมืดตะวันลับฟ้าไปแล้วกระท่อมนี้ดูยังไงๆ อยู่ ที่จริงมันสวยมากนะคะ ห้องกลางมีเตาผิงด้วยเหมือนในหนังเลยละ วิวก็สวยมากๆ พอเปิดหน้าต่างไปจะเห็นเนินเขาลาดต่ำสู่ลำธาร มีดอกไม้ป่าสะพรั่ง

    ดิฉันกับอ้นเลือกนอนห้องนี้แหละ เสียอย่างเดียวเวลาอาบน้ำหรืออยากเข้าห้องน้ำต้องเดินออกมาจากห้องนอน

    คิดดูซิคะ อยู่แค่สองคนในกระท่อมขนาดใหญ่มันโหวงเหวงน่าดู ทั้งเงียบ มืด และรู้สึกตลอดเวลาว่ามีใครมองเราอยู่!

    คืนแรก หลังจากไปร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำที่บ้านใหญ่แล้ว ดิฉันกับอ้นก็เดินดูดาวกัน นับดาวก่อนเคานต์ดาวน์ปีใหม่นะคะ...ถ้าเรามีแฟนคงโรแมนติคน่าดู

    ต้องยอมรับอย่างว่าเราเป็นคนกลัวผีทั้งคู่ อ้นบ่นเจ็บใจตัวเอง รู้งี้ชวนเหมียวมาด้วยก็ดี เหมียวมีสามีกับลูกเล็กๆ คนหนึ่ง ถ้ามาด้วยกันกระท่อมก็ไม่วิเวกวังเวงแบบนี้หรอก ที่ไม่ได้ชวนก็เพราะเกรงใจพี่อ้อย กับไม่นึกว่าจะมีห้องพักเหลือเฟือขนาดนี้

    อ้นอาบน้ำก่อนดิฉัน น้ำจากเครื่องทำน้ำอุ่นทำให้เราสบาย หายหนาวไปเยอะ...แต่ไม่หายกลัวผี!

    สี่ทุ่มเราก็เข้านอน เปิดไฟที่ห้องกลางไว้ เผื่อเวลาเข้าห้องน้ำจะได้ไม่กลัว ถึงอย่างนั้นยังตกลงกันว่าใครอยากเข้าห้องน้ำจะต้องปลุกอีกคนไปเป็นเพื่อน

    อากาศหนาวมากจนต้องปิดหน้าต่าง เรานอนบนเตียงขนาดคิงไซซ์ ห่มผ้าผืนหนา ปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้าที่ยาวตลอดผนัง แบ่งเป็นสามตอน เราเปิดใช้เก็บเสื้อผ้าได้แค่สองตอน ส่วนที่สามปิดล็อกไว้...ไม่เป็นไร แค่นี้ก็เหลือแหล่แล้ว

    เราคุยกันถึงเรื่องสมัยเรียนหนังสืออยู่ที่สาธิตด้วยกันจนหลับผล็อยไป...

    ตอนเคลิ้มๆ ดิฉันเห็นใครคนหนึ่งเดินอยู่ปลายเตียง ตอนแรกคิดว่าอ้นลุกไปห้องน้ำ แต่เอ๊ะ....ทำไมผมยาวประบ่า ส่วนอ้นน่ะซอยสั้นทันสมัย...ไม่ใช่อ้นแล้วใครล่ะ?

    ดิฉันอยากขยับตัวแต่ทำไม่ได้ เหมือนผีอำ! ผู้หญิงคนนั้นมีผมปรกหน้า เธอหันมาดูดิฉันกับอ้นอย่างโกรธๆ พูดอะไรบางอย่างแต่ไม่มีเสียง คล้ายหนังเงียบเลยค่ะ

    แน่แล้ว! ดิฉันใจหายวาบ กลัวแทบสิ้นชีวิต...เธอเป็นผีแน่ๆ เลย!

    ดิฉันเห็นเธอจับข้อเท้าอ้นแล้วลาก...อ้นส่งเสียงอึกอักๆ ขณะถูกดึงไปปลายเตียงช้าๆ แล้วหล่นพลั่กลงไป เธอยังลากอ้นต่อจนถึงหน้าตู้ที่ปิดล็อกนั่น แล้วตัวเธอก็หายเข้าไปในตู้ค่ะ

    เท่านั้นเอง อาการผีอำก็หายวับ! ดิฉันขยับได้ รีบเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง สิ่งที่เห็นเป็นของจริงไม่ใช่ฝัน อ้นร้องครางอย่างเจ็บปวดเพราะตกเตียง เธอกลัวมากพอๆ กับดิฉัน เราเปิดไฟสว่างโร่ทั้งบ้าน บอกกันและกันว่าอยู่ไม่ได้แล้ว!

    อ้นโทร.เข้ามือถือพี่อ้อย เพิ่งห้าทุ่ม คงยังไม่นอนหรอกน่า....

    ไม่ช้าพี่อ้อยก็เดินมากับคนงานผู้หญิงสองคน ช่วยกันขนสัมภาระของเราไปอยู่บ้านใหญ่...น่าโมโหมั้ยคะ? ให้เราอยู่บ้านใหญ่ซะแต่แรกก็ไม่ต้องโดนผีหลอก! เรานอนห้องเล็กๆ ใต้บันได พี่อ้อยบอกว่าเดิมเป็นห้องคนใช้เลยเกรงใจ อยากให้เรานอนสบายๆ ที่กระท่อมสวยๆ

    กระท่อมสวยแค่ไหนแต่มีผีดุก็ไม่ไหวหรอกค่ะ!

    ปรากฏว่าผีผู้หญิงเป็นเมียเก่าที่ตายไปแล้วน่ะเอง พี่อ้อยเอาโกศกระดูกเธอจากบ้านใหญ่ไปไว้กระท่อมหลังไกลที่สุด เอาไปซุกไว้ในตู้...ไม่ให้เกียรติเธอเลย! มันก็น่าโกรธ น่าออกมาอาละวาดนะคะ

    คนงานพี่อ้อยแอบเล่าว่า ใครมานอนก็เจอดีทุกราย พี่อ้อยเองเวลาเล่าให้ดิฉันฟังก็ทำเหมือนไม่ให้ความสำคัญ หลอกได้ก็หลอกไป! ดิฉันกับอ้นขอให้เธอเอากระดูกไปไว้ที่วัดก็ยังดี แต่พี่อ้อยทำเฉยๆ เฮ้อ! กลุ้มค่ะ...ช่างเถอะเรื่องของเขา

    ส่วนเรื่องของดิฉันน่ะเหรอ? ก็กลับซิคะ อยู่ทำไม กลัวผีจะตาย กลับมาตอนบ่ายวันที่ 29 นั่นเอง อ้นกลับมาด้วย...มาเคานต์ดาวน์ที่บ้านเราดีกว่า อบอุ่นปลอดภัยมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ จริงไหมคะ?

     

แชร์หน้านี้

Loading...