เปรียบเทียบคำสอนดูจิตที่ผิดและที่ถูก ...เป็นอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พลน้อย, 13 มิถุนายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. dokai

    dokai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +71
    "ทำให้ถึงแล้วรุ้เอง"

    ที่พูดนั้น พุดยังไง มัน ก็ถูก เหมือนกำปั่นทุบดิน

    แล้วที่กล่าวว่า ทำให้ถึง นั้น ถึงสิ่งใด ถึงในสิ่งที่ตั่งทิฐิเอาไว้ แล้วที่กล่าวว่า รุ้ นั้น รู้ อะไร อย่าไปพูดถึงขนาดใครรับรองกันเลย เดี่ยวไปกันใหญ่ เอาแค่ว่า แยกออกหรือว่า อันใด คือ กุศล หรือ อกุศล สิ่งที่กล่าวแสดง ออกเป็นคำพูด เป็นภาษา กาย บางครั้งก็ดูดี แต่บางที่ก็ปรุงแต่ง แต่งแต้มเติม เหมือนพวกเวลาจะไปออกงาน ต้องลุกขึ้นมา แต่งองค์ทรงเครื่อง แต่งหน้าทาปาก แต่เวลาปรกติ ก็มิได้ทำอย่างนั้น เพราะสิ่งใด เพราะ หน้าตาทางโลก
    บ่อยๆ สิ่งที่กระทำมิได้ประกอบด้วยกุศลเสียด้วยซ่ำไป บางคนก็รุ้แก่ตัวดี แต่ก็ยังแสดงออก บางคนแทบไม่รุ้ตัวเองเสียด้วยซ่ำ แล้ว จะเอาอะไรไปรุ้ได้ บางคนแสดงว่าไม่โกธร เวลาโดนกระทบ แต่ภายในโกธรเป็นไฟ นี่แสดงถึงสิ่งใดกัน แสดงถึงความ ไม่ซื่อตรงต่อธรรม โกธรรุ้ว่า โกธร ก็ยังดี แต่ ที่โกธร แล้ว ยังไม่รุ้ว่า โกธรโดนอกุศลครอบงำนั้น ไม่รุ้จะบอกว่าอย่างไรกันดี

    จริง ๆ ไม่อยากจะกล่าวอะไรให้ ตรงนัก สภาวะธรรม กับ สภาวะลมจากวาจา มัน คนละขั่วกัน การกล่าวธรรมมันต้องมีสภาวะรองรับ หากมันกล่าวโดยที่ตนเองก็ยังไม่ประจักรในสภาพ มัน ก็กลายเป็น มุสา ในที่สาธารณะ ผลมันหนักขนาดไหน คงไม่ต้องบอก
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ที่คิดๆ กันแล้วมันห้ามไม่ได้ เพราะว่าเชื้อมันมี มันนิวรณ์ธรรมอยู่ในใจ
    ตัวสงสัยเหมือนกัน พอใจมันสัมผัสความ แล้วสงสัยอย่างนั้นอย่างนี้
    ตัวพยาบาท เหล่านี้มาจาก การหิวอารมณ์ของอวิชชา ที่จิต เพราะว่า จิตขาดความเป็นสมาธินั่นเอง

    จึงย้ำนักย้ำหนาว่า ให้เจริญ สมาธิภาวนาให้คล่อง มันจะได้ต้านอกุศล

    ไปอ่านในพระสูตร ที่พระศาสดาตรัส เกี่ยวกับนิวรณ์ธรรม
    นั่นแหละ ต้องไปเจริญ สมาธิ ให้เห็นผล มันจะดับตัวคิด แล้วปัญญามันจะมากขึ้นเพราะมันเห็นตัวสงบ
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    หยุดคิดไม่ได้หรอก ทำได้คือการข่มไว้ด้วย สมถะที่แนบแน่น จึงหยุดคิดได้ คิดเป็นธรรมชาติของจิต ตัวที่ต้องหยุด คือตัวที่ไหล หลงไปกับคิด จะเห็นความคิด ก้ต้องตามรู้เอา
     
  4. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ขอบคุณครับ

    ถ้าหยุดคิดไม่เป็นก็จะไม่เห็นความคิด เพราะว่าเราจะจมลงไปกับความคิดอยู่ตลอดเวลา
    ทั้ง ๆ ที่ตัวทุกข์นี้ก็อยู่ตรงหน้า แต่เรากลับไม่แลเห็น เพราะเราไม่เคยโฟกัสที่จุดนี้
    เรามัวแต่ไปสนใจกับเรื่องราวที่ชวนให้คิดต่อไม่มีหยุดนั่นเอง
    วิปัสสนาไม่ใช่การเอาแต่ันั่งคิดนั่งนึกดอก วิปัสสนาคือการพิจารณาให้เห็นจริงเรื่องความหลงคิดต่างหาก
    เราต้องรู้ให้ทันเขาในจุดนี้ให้ได้ เพราะอวิชชานั่นแหละ เป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร
    ก็สังขารมันอยู่ที่ไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่ที่กายที่ใจนี้ เราต้องหาเขาให้เจอ ไม่งั้นเราก็จะทุกข์และสุขเพราะเขาเรื่อยไปครับ...

    ส่วนวิธีการนั้น ต้องไปหากันเอาเองว่าจะทำอย่างไรจึงจะทำลายอวิชชาได้ ตรงนี้ต้องตัวใครตัวมันจริง ๆ
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    มาอีก ประเภทไม่รู้จริง แล้ว อวดรู้ ถ้าคิดเป็นธรรมชาติของจิต แล้วพระศาสดาก็คิดทั้งวันนะหรือ

    เขาก็บอกอยู่ว่าธรรมชาติของจิตมันประภัสสร แต่เพราะกิเลสจร ทำให้มันหมองหม่น
    ก็ที่มันคิด เพราะสังขารมันปรุงมาจากอวิชชาอุปาทาน มันไม่ใช่ธรรมชาติของจิต

    อ่านแล้วเหม็นขี้หน้า ไม่รู้เป็นไง
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    ก็เอาไปทิ้งซิเก็บไว้ทำไมล่ะ
     
  7. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เพราะว่าเรายังคลายความหลงไม่ถึงที่ เราจึงว่าไม่มีดังว่า ก็พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงเรื่องของความตรึกไว้ชัดเจน แต่เรายังพากันลืมไปได้ถึงเพียงนี้ ก็แต่การจะหยุดคิดได้นั้น มิใช่จะมาหยุดกันง่าย ๆ ปัญญานั่นแหละ จะทำให้เรารู้ว่าเราจะหยุดเขาอย่างไร จึงจะมีความเป็นธรรมชาติที่ไม่อึดอัด ก็ต้องหากันต่อไป

    ความคิดที่เกิดขึ้นโดยความพลั้งเผลอ ที่ไม่ได้ตั้งใจคิด ท่านคิดว่า พระอรหันต์ยังมีได้อยู่หรือ น่าสนใจนะ ท่านลองสังเกตตัวท่านเองดูสิ ความคิดผุดขึ้นมาหล่อเลี้ยงการกระทำของท่านเวลานี้ มันผุดขึ้นมาเวลาใด ด้วยอาการอย่างไร ก็ความคิดนี้แหละ คือต้นตอ คือปัญหาที่พาให้เราหลงปรุงแต่งก่อเกิดเป็นสุขเป็นทุกข์ขึ้นมา จงหาความคิดชนิดนี้ให้เจอก่อน และทำความเข้าใจกับเขาให้มาก แล้วต่อไปท่านจะรู้จักโทษของมันเองครับ...
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849

    เคยอ่านโพส ท่านขจรศักดิ์ ที่นำคำเกี่ยวกับหลวงปู่ดูลมา หากเป็นเรื่องจริง ผมเอะใจประโยคนี้ .....

    โยมถามหลวงปู่ว่า ท่านไม่มีโกรธแล้วหรือ
    หลวงปู่ตอบว่า มีแต่ไม่เอา

    เดี๋ยว หาก น้าจร มาอ่าน นำมาอีกรอบนะครับ
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ก็มันก็มีจริง ๆ มันพยากรณ์ได้ว่า ถ้าหากเราคิดต่อไปอีกจะเกิดอะไรขึ้น โกรธจะมา เราจึงไม่เอา เราจึงไม่คิดต่อ ไม่แปลกนะ เรื่องธรรมดา อยู่ที่ว่า เราอยู่ที่จุดไหนของกระบวนการก่อตัวของทุกข์ คือ โลภะ โทสะ โมหะเท่านั้นเองครับ
     
  10. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,210
    ค่าพลัง:
    +3,130
    เมื่อเห็นเป็นเพียงทุกข์ชนิดหนึ่ง แม้เป็นทุกข์ที่ปราณีต ก็ไม่แยแส ไม่หลงตามมันต่อไป เพราะเราเข้าใจแล้ว แค่เห็นมันเกิดขึ้นในใจ แล้วก็ดับท่ามกลางสติ รู้ด้วยความว่างจากอาการยึดมั่นถือมั่น นั่นเอง เจริญพร
     
  11. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ตราบใดที่เรายังอ่านกระบวนการก่อตัวของทุกข์ไม่ออกจริง สัมมาทิฏฐิย่อมไม่เกิดขึ้น

    แต่หากเมื่อใด เราเข้าใจกระบวนการก่อตัวของทุกข์ได้อย่างหมดจดโดยรอบแล้ว เมื่อนั้น เราย่อมถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้

    หมายเหตุ: แต่ผมยังไม่ถึงขั้นนั้นนะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด เพียงแต่เห็นกระบวนการของมันได้ละเอียดมากขึ้นเท่านั้น ยังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ครับ แต่ถามว่า ทำไมถึงรู้ว่าต้องอย่างนั้น ๆ ผมคงตอบตรงนี้ไม่ได้ครับ.
     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    ก็ต้องดูต่อไป
     
  13. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849

    ดีละ ดีละ เจริญสติ
     
  14. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    อย่าไปเข้าใจคำว่า หยุดคิด ในแง่ของนักปฏิบัติธรรม คือ การ Stop

    การ Stop การคิด นั้นเป็นเรื่อง สมถะ

    การ หยุดคิด ในแง่ของ นักปฏิบัติธรรม ให้หมายถึง ไม่เชื่อในความคิดจนเอา
    ความคิดนั้นมาข้ามโอฆะ เพราะ โอฆะ1ใน4คือ ทิฏฐิ หรือ ตัวคิด

    ดังนั้นเราจะไม่ยึดมั่นถือมั่นเอา ทิฏฐิ(ความคิด)มาเป็นตัวจักรในการนำออก

    หากต้องการพ้นโอฆะ ก็ต้อง อยู่เหนือโอฆะให้ได้ โดยที่ยังใช้คิด

    สภาวะที่ขณะมีความคิด ขนานไปกับการ พ้นความคิด ก็คือ การมีสติ
    มีสัมมาสมาธิหรือ ที่เรียกว่า ดูคิด หรืออาศัยสภาวะคิดเป็นเครื่องระลึก
    ในการเจริญสติ

    ความคิด คือการทำงานในส่วนขันธ์5 หากมีสัมมาสมาธิ ก็จะเกิดจิต
    แยกตัวออกจากขันธ์5(ที่กำลังคิด) ซึ่งก็คือ มี-แต่ไม่เอา(หยุดถือ)

    ความคิด เมื่อนำเอามาไตร่ตรอง ใคร่ครวญ สิ่งที่ได้ก็แค่ นามรูปปริเฉทญาณ
    และ สัมมสนญาณ

    การหยุดถือความคิดมาเป็นตัวเป็นตน ก็คือ ระงับสักกายทิฏฐิ สังโยชน์ขั้นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  15. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,210
    ค่าพลัง:
    +3,130
    ตอบเถอะตรงนี้ เถอะฮะ จะได้ตาสว่างฮะ
     
  16. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    สติของเรามาทัน ณ จุดใดของกระบวนการก่อตัวของทุกข์ เราก็จะเข้าใจจุดนั้นได้ และเห็นจุดที่ผ่านมาที่เราหลงเข้าไปถือไว้ชัดเจน เมื่อรู้แล้วทันแล้ว เราจะคิดต่อก่ออารมณ์ขึ้นมาอีกทำไมให้เหนื่อยเปล่า...
     
  17. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    แล้วแต่กรณี

    สิ่งที่ควรดูคือ มันกลับมาที่ฐานเอง หรือ ว่าไปดึงมันกลับ

    หาก ดึงกลับ เราพ้นทิฏฐิ แต่ไม่พ้นการ ฉวยจิตเป็นเรา
     
  18. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    มันไม่ทำให้เราสว่างขึ้นหรอก แต่จะทำให้เรามืดลงไปอีก เพราะเราจะสงสัยมากขึ้นไม่มีหยุด จงหยุดเสพความรู้จากภายนอกให้ได้ แล้วเข้าไปแสวงหาความรู้ภายในกายในใจตนเถิด ท่านจะโชคดี ได้พบธรรมนั้นเอง
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ขอบคุณมากครับ ท่านเป็นคนที่มีความรอบรู้มาก ผมเห็นในน้ำใจของท่าน

    ส่วนกรณีนี้สำหรับความเห็นของผม คืือ ปล่อยเขาไปเถอะ ไม่ทั้งผลักไสหรือใฝ่หา...เป็นเช่นนั้นเอง รู้แล้วก็วาง จบ case ไป
     
  20. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    ถ้ามันทันตรงนั้นแล้วโดยอัตโนมัติแล้ว ลองสังเกตุดูตัวที่มันเห็นตามมาอีกที ลองดูบ่อยๆ มันก็จะลงลึกเรื่อยๆ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...