*เปลือกไม้*สายกรรมฐานล้านนาและหลวงปู่พระมหาศิลาสวนสงฆ์แกเป๊ะกาฬสินธุ์ครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย เปลือกไม้, 26 กันยายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญรุ่น ๑๕ หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท ครูบาฟ้าหลั่ง วัดทุ่งปุย “รุ่น วัดดอยน้อย” พ.ศ. ๒๕๓๘ พระครูสาธุกิจจานันท์ (อุดม อานนฺโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยน้อย ได้ขอเมตตาจัดสร้างขึ้น เพื่อมอบเป็นที่ระลึก แก่ผู้ร่วมทำบุญบูรณะวัด และฉลองครบรอบ ๑๓๓๖ ปี พระธาตุดอยน้อย ทั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณหมอสมสุข คงอุไร และคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง หลวงปู่ครูบาอิน ปลุกเสกเดี่ยวที่วัดฟ้าหลั่ง (ทั้งสองครั้ง) เมื่อปลุกเสกเสร็จแล้วพระครูอุดม ถวายหลวงปู่จำนวนหนึ่ง ที่เหลือนำไปแจกที่วัดพระธาตุดอยน้อย จำนวนการสร้าง การจัดสร้างในครั้งแรก มีเนื้อเงิน ๑๐๐ เหรียญ เนื้อทองแดงรมดำ ๕,๐๐๐ เหรียญ และเนื้อทองผสม ๕,๐๐๐ เหรียญ ต่อมาประมาณ ๑ เดือน ได้สร้างเนื้อทองแดงรมดำเพิ่มอีกจำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ โดยใช้แม่พิมพ์เดิม ลักษณะเหรียญ เป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้า แกะเป็นรูปหลวงปู่ครูบาอิน ครึ่งองค์ ห่มจีวรพาดไหล่ ด้านบน เขียนยันต์ประจำองค์ของครูบาอิน อ่านได้ว่า “อะกะจะยัททะปะทัสสะ” ด้านล่าง มีข้อความ “พระครูวรวุฒิคุณ” บรรทัดถัดมา “วัดฟ้าหลั่ง อายุ ๙๓ ปี” ด้านหลัง เป็นรูปพระธาตุดอยน้อย ด้านบนมีข้อความ “วัดพระธาตุดอยน้อย ๑๓๓๖ ปี พ.ศ.๒๕๓๘” ด้านล่างมีข้อความว่า “ต.ดอยหล่อ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่”

    เนื้อทองแดงสวยๆเก็บมาเดิมๆแบ่งบูชาเบาๆ ๒๐๐ บาทพร้อมส่งลงทะเบียนครับ (EMS+30 บาท)


    DSCF2481.jpg DSCF2482.jpg
     
  2. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    หนึ่งในเกจิพรรษาเกินร้อยของเมืองไทย ท่านมรณะภาพตอนอายุ 102 ปีครับ
    แต่ก่อนแต่ไรนั้น เมื่อเอ่ยชื่อ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท แห่งวัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่” หลายๆ คนที่ได้ยินได้ฟังแล้ว อาจจะทำหน้าปั้นยาก ส่ายหน้าสารภาพว่า “...........ไม่รู้จัก งะ......”
    หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร
    ในเขตล้านนาภาคเหนือของสยามประเทศนั้น หากไม่นับครูบาเจ้าศรีวิไชย นักบุญแห่งล้านนาไทยผู้กระเดื่องเลื่องหล้าท่านนั้นแล้ว พระสายเหนือที่จะมักคุ้นตาและใจของ “ส่วนกลาง” จริงๆ ก็เห็นจะมีเพียงไม่กี่องค์ อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่, หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ วัดป่าตึงเชียงใหม่, ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน, หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่, หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง ฯลฯ แต่เพียงประมาณเท่านี้ เท่านั้นจริงๆ
    แต่ “ผู้รู้แจ้ง” เห็นจริง อย่างหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สุดยอดพระเกจิอาจารย์ผู้ชาญพระเวทย์แห่งวัดโฆสิตาราม ชัยนาท ถึงกับเอ่ยปากสั่งความแก่พระครูสมุห์ภาสน์ มังคลสังโฆ แห่งวัดซับลำไย ลพบุรี ศิษย์ใกล้ชิดของท่านรูปหนึ่งว่า “ให้ขึ้นไปกราบครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งที่เชียงใหม่ และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ครูบาอินนี้ท่านมีวิชาจิตตานุภาพแก่กล้าสามารถมากๆ จริงๆ...!!!!!!”ลองหลวงพ่อกวย สั่งการด้วยองค์เองเช่นนี้ ก็มิต้องสงสัยกันอีกแล้ว..!!!!!!!
    และเมื่อท่านพระครูสมุห์ภาสน์เดินทางขึ้นเหนือไปยังจังหวัดเชียงใหม่ และในก้าวแรกที่ได้ย่างเข้าสู่อาณาบริเวณวัดฟ้าหลั่ง ท่านพระครูสมุห์ภาสน์ ศิษย์หลวงพ่อกวย ก็ได้ “เจอดี” ทันที เมื่อมีภิกษุรูปหนึ่งออกมาคอยรับอยู่ที่หน้าวัดฟ้าหลั่ง ก่อนที่จะได้กล่าวสัมโมทนียกถา อย่างชวนให้สะท้านใจไม่น้อยเลยว่า “นมัสการเชิญครับ...ท่านครูบาอินท่านว่า "..จะมีพระจากแดนไกลมาหา เลยสั่งให้ผมมาคอยรับท่านขอรับ..." เป็นท่าน ท่านจะพูดออกไหม เพิ่งเหยียบเข้าวัดฟ้าหลั่งเพียงไม่กี่ก้าว และยังไม่ทันเห็นหน้ากันแม้แต่เพียงวิบเดียว แต่ “ครูบาอิน” ท่านกลับล่วงรู้หมดสิ้นแล้ว ช่าง “เก่งแท้” สมกับที่หลวงพ่อกวยสั่งให้มา “ต่อวิชา” ด้วย ไม่ผิดเลย แม้แต่เพียงครึ่งคำ...สุดยอดเลยจริงๆ

    หลวงพ่อเกษม เขมโก
    ครั้งหนึ่ง มี “พ่ออุ๊ย” แห่งวัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน ท่านหนึ่ง ได้ไปกราบหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่สุสานไตรลักษณ์ แห่งจังหวัดลำปาง แล้วเอาพระที่ตนมีอยู่ออกมาให้หลวงพ่อเกษมท่าน “ชาร์จแบ็ต” (มนต์) เพิ่มพลังให้ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายมักนิยมทำกัน เวลาได้ไปกราบครูบาอาจารย์ที่ตนเคารพนับถือ โดยหนึ่งในพระเครื่องที่นำไปขอให้หลวงพ่อเกษมท่านเสกนั้น ก็มีพระของหลวงปู่ครูบาอินรวมอยู่ด้วย...
    และในบัดดลนั่นเอง สิ่งที่ทำให้พ่ออุ๊ยจากเมือง “หละปูน” ถึงกับแปลกประหลาดใจอย่างใหญ่หลวง ก็พลันอุบัติขึ้น เมื่อหลวงพ่อเกษม เขมโก ผู้ยิ่งด้วยฤทธิ์อภิญญาอันแก่กล้าไม่ยอมเสกพระของ “ครูบาอิน” ให้อย่างสิ้นเชิง ก่อนที่จะบอกกับพ่ออุ๊ยนั้นอีกด้วยว่า “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว..!!!!!!” นี่ย่อมเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า อันอำนาจจิตฤทธิ์อภิญญาของหลวงปู่ครูบาอิน อินโทนี้ จะต้องมีความแก่กล้าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหลวงพ่อเกษมอย่างไม่ต้องสงสัย ก็ของๆ ท่าน “ดี” อยู่แล้ว “เต็ม” อยู่แล้ว เลยไม่รู้ว่าจะเสกทับไปทำไม ให้เสียเวลาเปล่าๆ น้ำเต็มตุ่มเต็มไหอยู่ดีๆ หากจะยังจะเทซ้ำลงไปอีก ก็รังแต่จะหกเรี่ยราด หาประโยชน์มิได้เท่านั้น มิสู้มิเสกเลย จะดีกว่าเป็นไหนๆ หรือมิใช่...???

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    ในบรรดาศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักถ้ำผาปล่อง แห่งอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จริงๆ แล้ว จะทราบถึงอัธยาศัยประการหนึ่งของหลวงปู่สิมท่านเป็นอย่างดีที่สุดเลยว่า “ไม่ว่าจะเป็นคนหรือพระไหนก็ตาม หากไม่ดีแท้หรือแน่จริงถึงขีดสุดๆ แล้ว หลวงปู่สิมท่านจะไม่สนใจปรารภปรารมภ์อะไรถึงเลย...”
    ขนาดมีศิษย์ “รุ่นพี่” (สายกรรมฐาน) ของท่านเองบางองค์ถึงแก่มรณภาพ หลวงปู่สิมท่านก็ไปเยี่ยมศพตามธรรมเนียม แต่เป็นการไปด้วยท่าทีที่ “เฉย” อย่างมากๆ จนศิษย์บางคนสังเกตเห็น แล้วอดรนทนไม่ได้มากราบเรียนถามท่านถึงลักษณาการที่ “นิ่งผิดปกติ” เช่นนั้น หลวงปู่สิมท่านก็ได้แต่ยิ้มๆ และไม่ยอมเฉลยอะไรมากความ ทำให้ทราบโดยนัยว่า “รุ่นพี่” องค์นั้น คงจะมีภูมิจิต ภูมิธรรมไม่ “เสมอ” กับหลวงปู่สิมท่านเป็นแน่ หลวงปู่สิมท่านจึง “เฉยเมย” เห็นปานนั้น ตรงข้ามกับ ระดับ “ยอดสุด” ของจริงมาเองแล้ว โดยไม่ต้องพักถามไถ่ว่า จะเป็น “ธรรมยุต” หรือ “มหานิกาย” ให้เสียเวลา หลวงปู่สิมท่านจะกล่าวชมเชยกราบไหว้ถึงตักถึงเท้า อย่างไม่มีรีรอเลยทีเดียว “ท่านอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น ท่านเก่งมากนะ...ท่านไม่ดุอะไรไม่มีเหตุผลหรอก แต่ท่านจะดุบาปด่าบาปต่างหาก...!!”
    “เจ้าคุณนรรัตน์ วัดเทพศิรินทร์ มีกริยามารยาทเรียบร้อยและเป็นผู้มีความกตัญญูสูงมาก..!!!”
    “หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี น่ะ ยอดเยี่ยมที่หนึ่งเลย...แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา แก่ทั้งมรรคผลนิพพาน...!!!.”
    “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าโคมมน จังหวัดเลย จิตเพิ่น (ท่าน) ดี จิตเพิ่น (ท่าน) ดี...!!!!”
    “หลวงปู่แหวน ยิ่งใหญ่มาก ท่านเข้านิพพานไปแล้วด้วย...!!!!!”
    “ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูนน่ะ ท่านเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งอีกนะ..!!!!!!” ฯลฯ
    และส่วน “ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง” น่ะหรือ..
    หลวงปู่สิม ไม่เพียงกล่าวชมแต่เพียงวาจา แต่ “ลัดฟ้า” ไปกราบถึงกุฏิที่วัดฟ้าหลั่ง ปีละหลายๆ ครั้งโน่นเลยทีเดียว...!!!???!!!
    งานนี้ ต้องมี “อะไร” ที่ “ไม่ธรรมดา” อย่างมากๆ ถึงมากที่สุดอย่างแน่ๆ ไม่ต้องสงสัย เพราะเป็นการยกย่องด้วย “การกระทำ” นั่นเลยเทียว
    หรือใครจะเถียง..????

    ปัจจุบัน สรีระขันธ์ที่ท่านทิ้งไว้คู่กับโลก เมื่ออายุได้ ๑๐๑ ปี ก็ยังคงนอนนิ่งสงบอย่างสง่าภายในโลงแก้วที่วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) กิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เหมือนหนึ่งท่านเพียงแค่ “จำวัด” หลับไปเท่านั้น
    วันมรณภาพเป็นอย่างใด ในวันนี้สรีระแห่งท่านก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ต่างไปเพียงแค่มีการ “ปิดทอง” จนเหลืออร่ามตามประเพณีล้านนาแต่เพียงอย่างเดียว และที่นั้น ก็ยังมี “วัตถุมงคล” ที่หลวงปู่ครูบาอินท่านเสกทิ้งทวนไว้อย่างดีที่สุด ตกค้างอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จไจยะเบงชร, เหรียญยืน, ประคำ, ตะกรุด, ผ้ายันต์ ฯลฯ
    รับรองว่า คุณภาพแห่งพุทธคุณที่หลวงปู่ครูบาอินท่านฝากไว้ในเครื่องมงคลทุกอย่างนั้น ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระเครื่องของอดีตพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าๆ ราคาแพงๆ เป็นแสนเป็นล้านอย่างแน่แท้ เพราะมี “อาจารย์” ศิษย์สายเจ้าคุณนรรัตน์ฯ, หลวงปู่เทสก์ ที่มีสมาธิจิตสูงเคยลองสัมผัสพลังพระของครูบาอินแล้ว ก็แทบจะถึงแก่การอึ้งพร้อมกับอุทานขึ้นมาเลยทีเดียวว่า “นี่พระของใครนี่...ทำไมพลังจึงแรงกล้าในระดับเดียวกับหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำ ทะเลจืด ซึ่งไม่น่าจะมีใครเสมอเหมือนได้อีกเล่า.???”

    เนื่องจากไม่ทราบนานผู้แต่งต้นฉบับนี้ (น่าจะเป็นคุณเนาว์ นรญาน เขียนใว้ในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ครับ) จึงขอขอบคุณท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  3. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญสุขใจ ครูบาอินวัดฟ้าหลั่ง นับเป็นเหรียญรุ่น ๑๖ ของท่านสร้าง พ.ศ. ๒๕๓๘ ครับ
    สภาพสวย แบ่งบูชา ๒๐๐ บาทพร้อมส่งลงทะเบียนครับ

    คุณshaj จองแล้วครับ

    DSCF2483.jpg DSCF2484.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2019
  4. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญสุขใจ ครูบาอินวัดฟ้าหลั่ง นับเป็นเหรียญรุ่น ๑๖ ของท่านสร้าง พ.ศ. ๒๕๓๘ ครับ
    สภาพสวย แบ่งบูชา ๒๐๐ บาทพร้อมส่งลงทะเบียนครับ (๒)


    DSCF2485.jpg DSCF2486.jpg
     
  5. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญยิ้มหวาน ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรือง ด้านหลังยันต์ประจำตัว

    ประวัติเหรียญนี้จัดสร้างปี ๒๕๕๖ ลูกศิษย์สร้างถวายครูบาบุญชุ่มในวันที่ท่านออกสมาบัติ ๘ ในปี ๕๖ และครูบาอธิฐานจิตแจกในงาน ช่วงที่ออกจากถ้ำราชคฤห์ ซึ่งท่านครูบาอธิษฐานปิดวาจา อยู่ในถ้ำ 3 ปี 3 เดือน 3 สัปดาห์ 3 วัน (ซึ่งช่วงนั้นครูบาท่านเข้าสมาบัติปิดวาจา ๓ ปี ตั้งแต่ปี ๕๓ ครับ)

    องค์ที่ ๑ แบ่งบูชา ๓๐๐ บาทพร้อมส่งลงทะเบียนครับ


    DSCF2410.jpg DSCF2411.jpg
     
  6. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญยิ้มหวาน ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรือง ด้านหลังยันต์ประจำตัว

    ประวัติเหรียญนี้จัดสร้างปี ๒๕๕๖ ลูกศิษย์สร้างถวายครูบาบุญชุ่มในวันที่ท่านออกสมาบัติ ๘ ในปี ๕๖ และครูบาอธิฐานจิตแจกในงาน ช่วงที่ออกจากถ้ำราชคฤห์ ซึ่งท่านครูบาอธิษฐานปิดวาจา อยู่ในถ้ำ 3 ปี 3 เดือน 3 สัปดาห์ 3 วัน (ซึ่งช่วงนั้นครูบาท่านเข้าสมาบัติปิดวาจา ๓ ปี ตั้งแต่ปี ๕๓ ครับ)

    องค์ที่ ๒ แบ่งบูชา ๓๐๐ บาทพร้อมส่งลงทะเบียนครับ

    คุณshaj จองแล้วครับ
    DSCF2412.jpg DSCF2413.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2019
  7. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +6,460
    ขอจองครับ
     
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +6,460
    ขอจองครับ
     
  9. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    รับทราบการจองทั้งสองรายการครับ ขอบคุณครับ
     
  10. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญครูบาขันแก้ว รุ่นพิเศษ "สร้างสำนักสงฆ์ ขันติธรรม" วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน ปี ๒๕๒๕
    เหรียญรุ่นนี้เคยมีปาฏิหาริย์หลอมไม่ละลายในการเททองสร้างพระมาแล้วครับ
    สภาพสวย บูชา ๓๕๐ บาทครับ

    คุณปัญญามรรคจองแล้วครับ

    DSCF2491.jpg DSCF2492.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2019
  11. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    ประวัติ ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน


    หลวงปู่ครูบาขันแก้ว อุตตโม หรือ “ท่านพระครูอุดมขันติธรรม” “อดีตเจ้าอาวาสวัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)” ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน เกิดเมื่อวันอังคารที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๔๔๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ (เดือนยี่เหนือ) ปีกุล ณ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน

    หลวงปู่มีชื่อเดิมว่า “ขันแก้ว” นามสกุล “อิกำเหนิด” โยมบิดาชื่อ “นายอินตา อิกำเหนิด” โยมมารดาชื่อ “นางสม อิกำเหนิด” หลวงปู่มีรูปร่างสันทัด ผิวสีเนื้อดำแดง เป็นบุตรชายคนโตของน้องสาว ๓ คนและน้องชาย ๑ คน..

    โยมปู่ของหลวงปู่ชื่อว่า “ปินตา อิกำเหนิด” โยมย่าชื่อ “ปรก” ได้อพยพครอบครัวมาจากตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน มาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินคือทำนาที่ตำบลห้วยไซ แล้วจึงได้ย้ายลงมาอยู่ที่ตำบลห้วยยาบ

    ในครั้งนั้นโยมปู่ของท่านได้อพยพมาพร้อมกับพี่น้องรวม ๖ ครอบครัวและได้มาตั้งรกรากใกล้กับ “วัดสันพระเจ้าแดง” ซึ่งเป็นวัดร้างโดยโยมปู่ของท่านได้เป็นหัวหน้าบูรณะซ่อมแซมก่อสร้างจนกลายเป็นวัดขึ้นมา

    หลวงปู่ครูบาขันแก้ว อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๔๖๓ ณ พันธสีมา “วัดต้นปืน” อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน โดยมี “พระอธิการแก้ว (หลวงปู่ครูบาอินทจักโก)” วัดป่าลาน เป็นพระอุปัชฌาย์ “พระบุญเป็ง ปัญญาวโร” วัดบ้านธิหลวง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ “พระพุฒ ปันทวงศ์” วัดห้วยไซ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงปู่ได้รับฉายาว่า “อุตตโม” ครับ

    เล่ากันว่าหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีอุปนิสัยไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย ถ้าท่านทำงานหนักไม่ได้ ท่านก็จะทำงานเบาๆ เช่นเขียนยันต์ ทำตะกรุด แม้แต่งานกวาดลานวัดท่านก็จะทำเองในทุกเวลาเช้า

    จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีนักแสวงบุญที่ชื่อ “คุณหมอสมสุข คงอุไร” แห่ง “คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก” เป็นผู้ที่เดินทางมาเปิดขุมทรัพย์แห่งธรรมอันนั้น จาก”บันทึกเรื่องการพบหลวงปู่ขันแก้ว อุตตโม ของคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก” ได้เขียนไว้อย่างละเอียดแต่ด้วยความจำเป็นในเรื่องความยาวขออนุญาตสรุปใจความดังนี้ครับ

    “ในระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๑๙ คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก โดยการนำของ ‘คุณพ่อหมอสมสุข คงอุไร’ ได้เดินทางขึ้นไปเยี่ยมอาการอาพาธของ ‘หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก’ วัดวังมุย จังหวัดลำพูน ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาชุ่ม พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสวนดอกนครเชียงใหม่

    ในวันนั้นได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งครองจีวรสีกลัก เดินทางเข้ามาเยี่ยมและตรงเข้าไปกอดเอวและพูดคุยด้วยภาษาคำเมืองกับครูบาชุ่มอย่างสนิทสนม

    ขณะที่คุณพ่อหมอสมสุข ท่านได้นึกตำหนิพระรูปนั้นอยู่ในใจ หากแต่การตำหนินั้นไม่สามารถปกปิด อภิญญาจิต เจโตปริยญาณ ของหลวงปู่ครูบาชุ่มได้

    หลวงปู่ครูบาชุ่ม ได้เรียกคุณพ่อหมอสมสุขให้เข้าไปหาและแนะนำว่าพระภิกษุที่ครองจีวรสีกลักนั้นชื่อว่า ‘ครูบาขันแก้ว’ เป็นเพื่อนรักร่วมรุ่นเดียวกับท่าน...”

    สมัยนั้น “หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก” เจ้าอาวาสวัดวังมุย เป็นพระที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของแผ่นดินล้านนา ความเชี่ยวชาญในเชิงเวทย์และคุณธรรมของท่านเป็นที่รับรู้ของคนทั่วไป

    ในช่วงเวลาที่ครูบาศรีวิชัย ยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่ครูบาชุ่มคือหนึ่งในผู้ร่วมสร้างทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ท่านได้รับความเมตตาจากครูบาศรีวิชัยเป็นอันมาก โดยครูบาศรีวิชัยได้มอบ “พัดหางนกยูงพร้อมกับไม้เท้า” ให้กับท่าน พร้อมกับสั่งว่า “เอาไว้เดินทาง เทศนาเผยแพร่ธรรมแทนท่านด้วย...”

    ภายหลังเมื่อหลวงปู่ครูบาชุ่มได้มรณภาพลง คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้ดำเนินการสร้างรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของท่าน คณะกรรมการวัดวังมุยได้นิมนต์พระอาจารย์ต่างๆมาจากจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน แต่ในจำนวนรายชื่อทั้งหมดกลับไม่มีชื่อของหลวงปู่ครูบาขันแก้ว โดยคณะกรรมการวัดวังมุยให้เหตุผลว่า

    “ไม่เคยทราบหรือเคยเห็น หลวงปู่ครูบาขันแก้วเคยได้ร่วมในพิธีปลุกเสกพระในที่ใดมาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยได้ข่าวว่าท่านเคยสร้างวัตถุมงคลอะไรเลย”

    เรื่องราวที่เริ่มจะบานปลายเนื่องจากคุณหมอสมสุข ท่านไม่ยอมเพราะเห็นว่าหลวงปู่ครูบาขันแก้วท่านเป็นเพื่อนรักกับหลวงปู่ครูบาชุ่ม อีกทั้งในระหว่างการจัดงานศพ หลวงปู่ครูบาขันแก้วท่านก็ได้มาช่วยงานทุกคืน ในที่สุดคณะกรรมการวัดวังมุยจึงต้องไปนิมนต์หลวงปู่ครูบาขันแก้วมาร่วมในงานปลุกเสกและเบิกเนตรรูปหล่อของหลวงปู่ครูบาชุ่มในครั้งนี้ด้วย

    เล่ากันว่าในขณะที่เริ่มประกอบพิธีปลุกเสก พระเกจิอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์มา ๓ รูปได้นั่งหลับตาและแผ่อำนาจจิตปลุกเสกแต่หลวงปู่ครูบาขันแก้วกลับนั่งลืมตาและเคี้ยวเมี่ยง

    เล่นเอาชาวบ้านแถววัดวังมุยเริ่มจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันว่าใครหนอไปนิมนต์พระที่ปลุกเสกไม่เป็น “บ่อมิไก๊” มาร่วมในงานพิธีปลุกเสกครั้งนี้และเมื่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์เริ่มดังขึ้น
    ท่านพระครูนวลที่มาเป็นพระควบคุมพิธีในครั้งนี้ได้เข้ามาบอกกับคุณหมอสมสุขว่า

    “โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา ดูสินั่งลืมตา ยันเมี่ยงอยู่จับๆ ไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย...”

    คุณหมอสมสุข จึงตอบไปว่าท่านเป็นคนที่นิมนต์หลวงปู่ครูบาขันแก้วมาเอง แต่ขอให้ดูกันต่อไปอีกสักพัก....จากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ทุกวันนี้เราได้รู้จักพระที่ทรงกิตติคุณเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งองค์ครับ เหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกบันทึกไว้ดังนี้ครับ....

    “หลวงปู่ครูบาขันแก้วเริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ เอาผ้าห่มขนหนูคลุมที่ไหล่ทั้งสองข้าง(ต่อมาภายหลังทราบว่าท่านกำลังป่วยเป็นไข้) หลังจากพิธีผ่านไปแล้วประมาณ ๑๐-๑๕ นาที หลวงปู่ครูบาขันแก้วได้นั่งห้อยเท้าลงมา

    ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้าแรงขึ้น ขณะนั้นช่างภาพประจำคณะของเราได้เข้าไปใกล้ที่ท่านนั่งปรกอยู่ แล้วก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น....

    ทันทีที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้าขึ้นเป็นประกาย นัยน์ตาของหลวงปู่ครูบาขันแก้วก็มิได้กระพริบเลย...

    ช่างภาพอีกคนก็เข้าไปถ่ายบ้าง แสงไฟแฟลชสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง แต่นัยน์ตาของหลวงปู่ก็ลืมอยู่อย่างปกติ

    ‘ลืมตาอยู่อย่างไร ก็ลืมตาเปิดตากว้างอยู่อย่างนั้น..’

    คุณพ่อและพวกเราที่นั่งดูอยู่อย่างใกล้ ทุกคนจ้องดูอย่างตั้งใจก็เห็นกันทุกคนว่า

    ‘นัยน์ตาของหลวงปู่ไม่กระพริบเลย’

    คราวนี้ก็ให้ช่างภาพทั้ง ๒ คนของพวกเราเข้าไปขนาบทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะยิงแฟลชถ่ายรูป ให้อธิษฐานในใจขอขมาก่อน พวกเราก็นั่งคอยดูกันจนแสงไฟแฟลชได้สว่างขึ้นทั้งซ้ายและขวาพร้อมกัน แต่นัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบอีกตามเคย

    ช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ๒ ฉบับซึ่งได้ไปทำข่าวก็เข้าไปถ่ายอีก คราวนี้แฟล็ชแรงกว่าของพวกเรา เพราะเมื่อเห็นว่าพวกเราถ่ายรูปหลวงปู่องค์นี้มากก็เข้าไปถ่ายบ้าง ผลปรากฏออกมา .....‘ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กะพริบเลย เป็นเวลานานหลายๆนาที’ คนธรรมดาสามัญย่อมทำไม่ได้อย่างแน่นอน...”

    ในหมู่นักนิยมพระเครื่องบางท่านอาจจะกล่าวว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติทั่วไป ข้อนี้ผมไม่สามารถโต้แย้งได้...

    แต่กับเรื่องที่คนธรรมดาสามารถลืมตาโดยไม่กระพริบต่อเนื่องยาวนานเป็นสิบๆนาที อันนี้สิครับเป็นเรื่องที่ต้องคิดและสิ่งที่เราต้องมาตีลังกาคิดอีกสามตลบคือการที่ดวงตาต้องกระทบกับแสงแฟลชครับ

    เพราะโดยสัญชาติญาณแล้วคนเราโดยทั่วไปไม่สามารถทำได้หรอกครับ ดังนั้นการที่หลวงปู่ครูบาขันแก้วสามารถทำได้นั่นย่อมหมายความว่า ณ ขณะนั้นจิตของท่านเข้าสู่สมาธิจริงๆ

    “ว่ากันว่าการจะทำสิ่งใดด้วยความพยายามที่เกินกว่ากำลังความสามารถ มักจะให้ผลเสียหายมากกว่าผลดี

    หากแต่บางครั้งเส้นแบ่งของการทำเกินกำลังความสามารถที่เกิดจากการกระทำด้วยความชำนาญในศาสตร์ของตนเอง

    มันก็เป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าจะหามาตรฐานใดมาเป็นตัวกำหนด....”

    พระอาจารย์ชนินทร์ ท่านบอกกับพวกเราว่าในชีวิตของท่านได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆมาพอสมควร แต่สุดท้ายแล้วท่านก็จบลงตรงที่หลวงปู่ครูบาขันแก้ว

    ท่านว่า...”หลวงปู่ครูบาขันแก้ว ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว”

    ความเป็นที่สุดของหลวงปู่ครูบาขันแก้วนี้ หมายรวมไปถึงหลักการปฏิบัติและแนวทางการเจริญสมาธิ เพื่อหวังผลให้ถึงเป้าหมายของชีวิตคือ “การหลุดพ้น”

    “ถ้าคนเรานั่งสมาธิเพื่อต้องการความสงบ ความสุข ของจิตใจ เราสามารถเจริญสมาธิในแบบใดก็ได้ แต่ถ้าหากหวังถึงมรรค ผล นิพพาน นั่นคือเราจะต้องเลือกเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง...”
     
  12. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญครูบาพรหมา วัดพระบาทตากผ้า ออกวัดทากาศ ปี 21
    สภาพสวยครับ คนในพื้นที่เรียกรุ่นถังแก๊สระเบิด เหรียญแห่งประสบการณ์ครับ
    บูชา ๒๕๐ บาทพร้อมส่งครับ


    DSCF2493.jpg DSCF2494.jpg

    พระสุพรหมยานเถร หรือ ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก เดิมชื่อ พรหมา พิมสาร เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2441 ณ บ้านป่าแพ่ง อำเภอ ป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของพ่อเป็ง และแม่บัวถา มีพี่น้องทั้งหมด 13 คน บิดามารดาของท่านเป็นผู้มีฐานะ มีอาชีพทำนา ทำสวน ประกอบสัมมาอาชีวะ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มีความขยันขันแข็ง มีจิตใจหนักแน่นในกุศลธรรม รักษาอุโบสถศีลทุกวันพระ ในบั้นปลายชีวิตบิดาของท่านได้ออกบวช เป็นที่รู้จักกันในนามของครูบาพ่อเป็ง โพธิโก มารดาของท่านได้นุ่งขาวรักษาอุโบสถศีลจนถึงแก่กรรม สำหรับพี่น้องของท่านที่ได้ออกบวชในพระพุทธศาสนา จนมีชื่อเสียงได้แก่ พระสุธรรมยานเถร (อินถา อินฺทจกฺโก) วัดน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพี่ชาย และพระครูสุนทรคัมภีรญาณ (คำ คมฺภีโร) วัดดอยน้อย จังหวัดเชียงใหม่) ซึ่งเป็นน้องชาย

    ครูบาพรหมา ได้บรรพชาเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2455 ขณะอายุได้ 15 ปี ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โดยมีครูบาแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2461 ท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดป่าเหียง โดยมีครูบาขัตติยะเป็นพระอุปัชฌาย์

    ครูบาพรหมาได้บำเพ็ญสมณธรรมจนย่างเข้าสู่วัยชรา และได้เกิดอาการอาพาธ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนที่ท่านจะละสังขาร ท่านได้ตื่นจากการจำวัดแต่เช้า และปฏิบัติธรรมตามกิจวัตร เมื่อถึงเวลาท่านลุกนั่งสมาธิ และได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนาในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2527 คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะได้รับพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2531 ภายหลังจากพระราชทานเพลิงศพแล้ว อัฐิของท่านได้แปรเป็นพระธาตุมีวรรณะสีต่างๆ ซึ่งสร้างความปิติโสมนัสแก่บรรดาศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง
     
  13. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญหลวงพ่อวัดดอนตัน รุ่นพญาครุฑแบกงาช้างดำ บล็อกงาช้างเล็ก สภาพสวยเดิมๆพร้อมผ้ายันต์ครบชุด+ถุงสภาพเดิมๆจากวัดครับ แบ่งบูชา ๙๙๐ บาทพร้อมส่งครับ
    ปิดรายการนี้ครับ


    DSCF2498.jpg DSCF2499.jpg DSCF2495.jpg DSCF2496.jpg DSCF2497.jpg

    เหรียญหลวงพ่อวัดดอนตัน รุ่นพญาครุฑแบกงาช้างดำ
    เมื่อเอ่ยชื่อ “หลวงพ่อวัดดอนตัน” อ.ท่าวังผา จ.น่าน คนทางเหนือย่อมรู้จักท่านดี เพราะเครื่องรางของขลัง เหรียญ ผ้ายันต์ ของท่าน “ดัง” มีอานุภาพปกป้องคุ้มภัย ให้โชคให้ลาภดีสารพัด เมื่อหลายปีมาแล้วแม้กระทั่งวิทยุปักกิ่ง จีนแดง เมื่อได้รู้กิตติศัพท์อานุภาพเหรียญ-ผ้ายันต์ของหลวงพ่อวัดดอนตันเข้า ก็ได้นำไปกล่าวขวัญออกอากาศ ทั้งนี้เนื่องจากตอนที่พวกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ทางชายแดนจังหวัดน่าน ประมาณ 200 คน ได้บุกเข้าโจมตีฐานที่ตั้งหน่วยงานของบริษัทอิตาเลียนไทยที่ ต.น้ำยาว อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2517 ได้ก่อความสูญเสียทั้งชีวิตร่างกายของเจ้าหน้าที่และคนงาน ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งก่อสร้างอย่างหนัก แต่รถและคนที่มีเหรียญและผ้ายันต์ของหลวงพ่อวัดดอนตันจะปลอดภัย ไม่ได้รับอันตราย ทั้งๆ ที่ถูกยิง ถูกจุดไฟเผา และถูกระเบิดขว้าง
    เมื่อปี พ.ศ.2518 พระอมรสุธี วัดเชตุพน ได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่อวัดดอนตัน ขอพึ่งเมตตาบารมีของหลวงพ่อ ขอสร้างเหรียญและผ้ายันต์ธงชัยขึ้น เพื่อหาทุนสร้างศาลาการเปรียญของวัดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
    เหรียญและผ้ายันต์ธงชัยของหลวงพ่อ เมื่อทำเสร็จก็ได้นำขึ้น เครื่องบิน บ.ด.ท. ไปให้หลวงพ่อปลุกเสกที่วัดดอนตัน จ.น่าน แล้วจึงนำกลับมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกในมงคลสมัยวิสาขฤกษ์ ณ พระอุโบสถวัดพระเชตุพน โดยมีเกจิอาจารย์เข้าร่วมพิธี คือ หลวงพ่อเมี้ยน วัดพระเชตุพน กรุงเทพฯ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. พระอาจารย์วีระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กทม. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี หลวงพ่อเหมือน วัดกำแพง ชลบุรี หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี หลวงพ่อมงคล วัดศรีมงคล (ก๋ง) อ.ท่าวังผา น่าน พระอาจารย์จรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี หลวงพ่อจ้วน วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง เพชรบุรี หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม พระอาจารย์พยนต์ วัดเกตุมดีศรีวราราม สมุทรสาคร พระอาจารย์นคร วัดเขาอิติสุคโต ประจวบคีรีขันธ์ พระอาจารย์กัสสปมุนี สำนักปิปผลิวนาราม ระยอง
    เหรียญรุ่น “พญาครุฑแบกงาช้างดำ” และ “ผ้ายันต์ธงชัย” ที่สร้างขึ้นคราวนี้มีจำนวน 120,000 ชุด เมื่อปี พ.ศ.2518 เป็นปีที่หลวงพ่อมีอายุ 79 ปี เหรียญหลวงพ่อวัดดอนตัน รุ่นพญาครุฑแบกงาช้างดำ มีทั้งหมดสองบล็อก คือ บล็อกงาช้างเล็ก และ งาช้างใหญ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2019
  14. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค รุ่นสู่พุทธภูมิ(หลวงพ่อฤาษีเสก)พร้อมเหรียญขี่ไก่หางพวงกะไหล่เงินหลังยันต์เกราะเพ็ชร ตลับเดิมๆ ๒ องค์ แบ่งบูชา ๓๕๐ บาทพร้อมส่งลงทะเบียนครับ

    DSCF2501.jpg DSCF2502.jpg DSCF2500.jpg
     
  15. ปัญญามรรค

    ปัญญามรรค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    1,158
    ค่าพลัง:
    +1,458
    ขอจองครับ
     
  16. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
  17. ปัญญามรรค

    ปัญญามรรค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    1,158
    ค่าพลัง:
    +1,458
    โอนเรียบร้อยแล้วครับที่อยู่จัดส่งตามpmครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    ล๊อคเก็ตเก่ารูปพระพุทธเจ้า+พระใบมะขามพระนิรันตรายหลังนางกวัก หลวงพ่อโชติ วัดวชิราลงกรณ์ (หลวงพ่อโชติระลึกชาติ) ปี ๒๕๐๖ รวม ๒ องค์ แบ่งบูชา ๕๕๐ บาทพร้อมส่งครับ

    DSCF2513.jpg DSCF2514.jpg

    ล๊อคเก็ตเก่ารูปพระพุทธเจ้า เป็นงานเก่ามีอายุไม่น่าต่ำกว่า ๕๐ ปี น่าสะสมบูชาครับ
     
  19. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    รุ่นรถคว่ำไม่เป็นอันตราย...หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลังหลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ ปทุมธานี จัดสร้างเมื่อปี 2537 ครับ สวย น่าบูชา รวม ๒ องค์ แบ่งบูชา ๓๕๐ บาทพร้อมส่งครับ

    DSCF2515.jpg DSCF2516.jpg
     
  20. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เหรียญเม็ดแตงวัดโสธร หลังหลวงพ่อเจียม พระราชพุทธิรังษี วัดโสธร ปี ๒๕๐๘ กะไหล่ทองสวยเก่าเดิมๆหายากครับ พร้อมเหรียญพระพุทธชินราชเนื้ออัลปาก้า แบ่งบูชา ๒ องค์ ๗๐๐ บาทพร้อมส่งครับ

    DSCF2521.jpg

    DSCF2523.jpg

    DSCF2522.jpg
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...