เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 16 มีนาคม 2012.

  1. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ยินดีด้วยครับ
     
  2. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พระปรกโพธิ์เล็ก ลพ.กวย หลังยันต์กะระสะติ เนื้อหาและพิมพ์เดียวกันกับของเสี่ยตี๋ องค์ที่ได้รับจาก ลพ.กวย พิมพ์นี้ถือเป็นพระดีทางโชคลาภ
    ปรกโพธิ์เล็ก-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    This is a rare amulet from Luang Por Guay. This lead coin was created in 1961 and created from the same mold that was used to create the first coin. It is a miracle for the success of life. Pay less, but get the same good as brass coins.

    Price ...............3200. USD
    Contact us at : siamaraya@gmail.com
    Line id : siamaraya

    See more details at :
    https://www.amuletsocial.com/?p=3004

    SOLD
    1-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1-1-2.jpg
      1-1-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      428.9 KB
      เปิดดู:
      156
    • 1-2.jpg
      1-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      350.9 KB
      เปิดดู:
      163
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2020
  4. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอขอบคุณ บทความจากครูเฒ่า สุพรรณ
    เหรียญแห่งนักรบ

    คนไทย พระพุทธศาสนา และพระเครื่องเป็นของคู่กัน นักรบโบราณที่ใช้ดาบสมัยก่อน บ้างก็อยู่ด้วยคาถาอาคม บ้างก็อยู่ด้วยว่าน ด้วยอาบว่านยา บ้างก็มีผ้าประเจียด ผ้ายันต์ หรือมงคลแขน มงคลคอ ยุคต่อมาเมื่อมีอาวุธปืน พระโบราณที่พอมีอาคม รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ก็สร้างพระเครื่ององค์เล็ก ๆ ให้ไว้คล้องคอกันอาวุธปืน เล่ากันว่าที่พระมาลา (หมวก) ขององค์สมเด็จพระนเรศวร ยังทรงเหน็บพระเครื่องไว้ถึง 7 องค์ เมื่อครั้งที่ฟันคอพระมหาอุปราชของพม่าถึงตาย พร้อมกันถึง 2 องค์ กับ 1 แม่ทัพ คือสมเด็จพระเอกาทศรถ ก็ฟันเจ้าเมืองของพม่าตาย 1 องค์ และแม่ทัพของเราก็ฟันแม่ทัพของพม่าตาย 1 คน ขณะนั้นไม่มีทหารติดตามเสด็จ พม่าไหวตัวทัน ได้สั่งยิงด้วยปืนคาบศิลา ยิงมาที่พระนเรศวร, พระเอกาทศรถ และแม่ทัพไทย ยิงมาดุจห่าฝน ดังปานฟ้าจะถล่มทลาย แต่ก็หาได้ถูกต้องพระวรกายของพระองค์ไม่ แม้แม่ทัพก็ไม่ถูก แม้ช้างทรงก็ยิงไม่ถูก นับว่าพระเครื่องนั้นเป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างยิ่ง ยากที่จะหาสิ่งใดมาเสมอเหมือน ฝรั่งตื่นเต้นกับสุสานอียิปต์ ตื่นเต้นต่อสุสานโบราณ ผู้เขียนรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้ามีการขุดรื้อเจดีย์ที่บรรจุพระเครื่องของไทย เพียง 1 เจดีย์ผมว่าสิ่งที่บรรจุเอาไว้มีค่าเหนือกว่ายิ่งนัก สามารถกันมีด, กันปืน, แคล้วคลาดกำบัง ของสิ่งนี้กับศาสนาพุทธ ผมผู้เขียนถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่งนัก

    ในยุคกึ่งพุทธกาล พระเกจิอาจารย์ ก็ยังคงสร้างพระพุทธพิมพ์ขึ้นมา สืบวิชากันต่อๆมา หลวงพ่อกวยก็นิยมสร้าง แต่การทำพระสมเด็จ, ทำพระเนื้อดิน, ตะกรุด, แหวนแขน, นั้นไม่พอกับความต้องการของศิษย์ในยุคหลัง ท่านจึงได้สร้างเหรียญขึ้นมา เพราะทำได้ง่าย และหลวงพ่อก็สามารถปลุกเสกได้ พออาศัยคุ้มครองตัวศิษย์ได้ ในปี พ.ศ. 2521 ทางวัดได้ทำการฝังลูกนิมิตพระอุโบสถ หลวงพ่อได้ให้กรรมการวัดดำเนินการสร้างเหรียญรูปของท่าน โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบหนึ่งเป็นยันต์ไตรสรณคมน์ (เป็นยันต์ด้านในสุดของยันต์มหากาฬ) อีกแบบหนึ่งเป็นยันต์หนุมานยกธงรบ โดยหลวงพ่อเขียนยันต์ให้ไปทั้ง 2 แบบ (ยันต์ 2 แบบนี้สามารถเปิดดูในเว็บไซต์ของวัดได้) ผู้เขียนเคยค้นดูสมัยอาจารย์สำรวยเป็นเจ้าอาวาส ยังพบยันต์ที่ท่านเขียนให้อาจารย์ถนอม เจ้าอาวาสวัดเดิมบาง นำไปสร้างเหรียญวัดเดิมบาง ในการสร้างเหรียญของวัด ท่านสั่งว่า

    1. ให้ทำเป็นเหรียญเต็มองค์ ท่านไม่ชอบเหรียญครึ่งองค์ ท่านพูดว่าเหมือนรูปงานศพ
    2. ท่านสั่งให้ทำเหรียญด้านหลังเป็นรูปหนุมาน ให้ทำเนื้อพิเศษหน่อยนึงและให้มีการสั่งจอง
    3. เหรียญหนุมานและเหรียญหลังยันต์ ให้ทำไว้มากที่สุดเท่าที่จะพอมีทุนทรัพย์
    4. เหรียญหนุมานที่เหลือจากการจองทั้งหมด ท่านจะทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งหมด

    หลวงพ่อพูดว่า ท่านจะให้ลูกศิษย์ของท่าน คือพระครูพิมพ์ วัดสนามชัย ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอสรรคบุรี และพระครูร้อย เดชมา วัดท่ากฤษณา ลูกศิษย์ของท่านซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท ทำหนังสือทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาทรงตัดหวายลูกนิมิต ท่านพูดว่า “เหรียญหนุมานนี้กูจะเสกให้ไว้กู้ชาติ” คือตอนนั้นมี ผกค.ที่เขาค้า เขาค้อกำลังลุกเป็นไฟ ตกลงได้สร้างเหรียญหลังยันต์ 4 หมื่นเหรียญ เหรียญหลังหนุมาน 2 หมื่นเหรียญ ทางร้านดีใจที่ได้งานเป็นเงินมาก และนับถือหลวงพ่อด้วย ได้แกะพิมพ์เพิ่มให้ เป็นเหรียญพุ่มข้าวบิณฑ์ รมนาค ทำถวายฟรีๆ 1 หมื่นเหรียญ เหรียญหนุมานจองเหรียญละ 100 บาท (ถือว่าแพงในสมัยนั้น) และมีเหรียญกะไหล่ทองด้วย ไส้ในมีทั้งทองแดง และอัลปาก้า แจกผู้ที่ทำบุญข้าวสาร 1 กระสอบ (ประมาณ 600 บาท ในสมัยนั้น) และมีเหรียญหลังยันต์บางเหรียญนำไปกะไหล่ทองด้วย แจกกรรมการวัดใช้กันเอง

    ธรรมดาและปกติคนในสรรคบุรี ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อมานาน และเป็นเรื่องปกติคือเกิดขึ้นบ่อย มีคนพบเห็นหลวงพ่อ ได้รับการพรมน้ำมนต์ แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดหรือกล้าขอวัตถุมงคลจากท่าน หรือเข้าไปหาหรือพูดคุยเป็นส่วนตัว เขาเกรงใจท่าน กลัวในอำนาจตบะ เมื่อทางวัดมีงานฝังลูกนิมิต ได้เปิดโอกาสให้คนได้เช่าบูชาวัตถุมงคลโดยเสรี จึงทำให้ผู้คน ลูกศิษย์ ทั้งใกล้และไกล เดินทางมาเช่าวัตถุมงคลกันมาก เริ่มแรกประเดิมวันงาน รูปถ่ายหลังจีวร ราคา 20 บาท วัยรุ่นโดนแทงไม่เข้า โดนตีด้วยไม้หน้าสามไม่แตก โดนตีด้วยขวดไม่แตก วันงานวันแรกเช่นกัน คนมาเช่าเหรียญหลังยันต์ 20 บาท เหรียญหนุมาน 100 บาท (เปิดให้เช่า เพราะหลวงพ่อทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานยุ่ง ไม่สามารถเสด็จมาได้ แต่จริงๆแล้ว พระครูพิมพ์กับพระครูร้อย ไม่ได้ทำหนังสืออัญเชิญ)

    เมื่อเช่าตอนกลางวัน อากาศร้อนๆ เดินฝ่าเปลวแดดมา สมัยนั้นยัง นิยมเดินเอา อย่างดีก็จักรยาน ดีสุดก็มอเตอร์ไซค์ คนสมัยนั้นเดินกันได้ 10 กิโลเมตร เขาเดินได้สบายๆ คนก็ขอดูว่าเช่าอะไรมาบ้าง เจ้าของก็เอาให้ดู เป็นเหรียญหลังยันต์กับเหรียญหนุมาน เจ้าของบ้านคนสามเอก, หนองบอน, หนองหิน ขอทดลองยิง เจ้าของเหรียญกลัวเหรียญ 100 บาท จะชำรุด เสียดาย ได้นำเหรียญหลังยันต์ 20 บาทให้ยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก บางกระบอกถึงกับปืนเสียหายชำรุด ข่าวว่าเหรียญหลังยันต์ยิงไม่ออกดังทวนลม พอมืด 5-6 โมงเย็นถึง 1-2 ทุ่ม ผู้คนเดินทางกันมาวัด มากันเต็มถนน ติดต่อกันยาวเป็น 10 กิโลเมตร วัดแรกก็ลอง วันที่สองก็ลอง วันที่สามก็ลอง คนจีนในตลาดสรรคบุรี, ชัยนาท, สิงห์บุรีมาเช่ากัน โดยขอถุงพลาสติกจากกรรมวัด หยิบวัตถุมงคลอย่างละกำมือ 5-6 อย่าง กรรมการวัดเป็นชาวบ้าน เครื่องคิดเลขก็ไม่มี กว่าจะคิดสตางค์ได้ เหงื่อแตกเลย ข่าวออกมาว่า เหรียญหลังยันต์อยู่ปืน คือต้านอาวุธปืน แน่นอนกว่าและในงานมีคนคล้องและพกพาเหรียญหลังยันต์ โดนดีด้วยไม้หน้า 3 ไม่แตก โดนแทง โดนตีด้วยไม้ทุบน้ำแข็ง ไม่แตกเลย แต่เหรียญหนุมาน ซึ่งราคาแพง 100 บาท เมื่อนำไปทดลองยิง ผลคือออกทุกนัด ดีแต่ว่าไม่ถูกเท่านั้นเอง

    เรื่องนี้รู้ไปถึงหูหลวงพ่อ ท่านเฉย หัวร่อหึ ๆ ในปี พ.ศ. 2517 ผู้เขียนได้รับราชการแล้ว และได้เลือกที่ทำงานใกล้ๆ กับวัดของท่าน ในปี พ.ศ. 2518 มีโจรก๊กหนึ่ง ได้ทำการปล้นบ้านเศรษฐี ในหมู่บ้านวุ้งสุทธาวาส หรือบ้านก้นวุ้ง ผู้เขียนรับราชการที่โรงเรียนวัดวุ้งนี้ โจรที่มาปล้นเป็นทหารใช้ปืนเอ็ม 16 และอาร์ก้า โจรได้ฆ่าตัวประกัน คือภรรยาของเศรษฐี ได้ยิงบ้านเสียหาย เละเลย เศรษฐีเป็นคนมีบารมี พอรู้ว่าภรรยาที่โจรเอาไปพร้อมทองคำและเงินถูกฆ่าตาย เขาโมโหมาก ได้สั่งลูกน้องให้ตามฆ่าโจรให้ได้ ได้ตั้งค่าหัวไว้สูงมาก และได้บอกให้ตำรวจดักสกัดจับ ตำรวจได้ยิงรถโจรเสียหายไปไม่ได้ โจรถูกฆ่าตายเกือบทั้งหมด 10 คน ทุกคนมีพระเต็มคอ บางคนถูกหามมาเผาที่วัดวุ้งสุทธาวาส บางคนก็เผาข้างทาง คือโจรไม่รู้เส้นทางหนี ผมได้นำเรื่องนี้มาเล่าให้หลวงพ่อฟัง เล่าให้ฟังถึงอำนาจของเอ็ม 16 และอาร์ก้า นั้นแรงขนาดฝาไม้ฉีก สุนัขหนีไม่เข้าบ้านเลย ท่านหัวร่อหึ ๆ ผมก็คนชอบกล ได้ถามท่านว่า หลวงพ่อหัวร่อทำไม ท่านพูดว่า “กูรู้” แต่ท่านไม่เคยไปดูเขายิงกันสักที หนังก็คงไม่เคยดู ผมได้พูดว่า ต่อแต่นี้ ถ้าหลวงพ่อจะทำวัตถุมงคล ขอให้หลวงพ่อทำให้ต้านเอ็ม 16 และอาร์ก้า ให้ได้ ท่านก็เฉย ๆ พอผมผู้เขียนพูดมากๆเข้า ท่านหัวร่อหึๆ แล้วพูดว่า “กูรู้”
    วันเวลาผ่านไป ผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักเท่าไร หลวงพ่อก็คงหลงลืมไปแล้ว เพราะมีข่าวถึงอภินิหารย์ของเหรียญหนุมานที่ว่า เสกเอาไว้ให้ทหารไว้กู้ชาติ ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แถมโดยมากยิงออกด้วย มีเรื่องสมควรบันทึกเอาไว้ดังนี้

    เรื่องแรก จ.ส.ต. เปล่ง พรหมขลิบนิล ยศขณะนั้น ปัจจุบันทำงาน สภ.อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ชื่อจริง นามสกุลจริง เป็นศิษย์ของหลวงพ่อ เคารพหลวงพ่อมาก คล้องเหรียญหนุมานเหรียญเดียว ครั้งหนึ่งได้ไปล้อมจับคนร้าย คนร้ายก็ร้ายสมชื่อ ไม่ยอมให้จับ ได้ยิงต่อสู้กันระยะประชิด คนร้ายได้ยิง จ.ส.ต.เปล่ง ก่อนเลย 2 นัด ไม่ออกเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ให้สอบถาม จ.ส.ต.เปล่ง ดูได้ เข้าไจว่ายังอยู่ สภ.อ.สรรพยา จ.ชัยนาท คุณจ่าท่านนี้เคยขี่รถชนกับรถ 10 ล้อมาแล้ว ไม่รู้ว่ารอดมาได้อย่างไร รถมอเตอร์ไซค์นะครับ ชนกับรถ 10 ล้อ

    พูดถึงเรื่องรถ 10 ล้อ เอาอีกสัก 1 เรื่องแล้วกัน จ.ส.ต. แทน ประจำอยู่ สภ.อ.สรรคชุรี ได้ขับรถไปกับเพื่อนชื่อประเทือง ข้องหลิม ไปธุระต่างจังหวัด พอถึงสายเอเชีย ได้ขับรถเร็วขึ้น ปรากฏว่ารถเสียหลักเฉย ๆ รถมอเตอร์ไซค์ รถหล่นข้างทาง รถมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นอะไรเลย นายประเทือง ข้องหลิม คล้องเหรียญหนุนาน 1 เหรียญ ไม่เป็นอะไรเลย จ.ส.ต. แทน ตายคาที่ ตายเฉย ๆ ไม่ได้ชนกับรถ 10 ล้อ เรื่องนี้เล่าไห้ฟัง

    พูดถึงเรื่องตำรวจ เอาอีกสัก 1 เรื่อง ท่าน พ.ต.ท.ละออง สุขนิล บุตรบุญธรรมของหลวงพ่อ ขณะดำรงยศ ร.ต.อ. ประจำอยู่ สน.บางรัก กรุงเทพฯ ได้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มาด้วยความเร็ว รถเสียหลัก พลิกคว่ำ กลิ้งไปกับพื้นถนน ด้านปืนพกทำจากไม้แตกละเอียด เสื้อผ้าขาด แต่ท่าน พ.ต.ท.ละออง ไม่เป็นอะไรเลย

    เรื่องที่สอง นายแขก หน้าตาเหมือนแขกอิสลาม มีอาชีพซื้อวัว, ควาย ขายให้กับโรงฆ่าสัตว์ นับถืออิสลาม แต่เขาก็แอบนับถือพุทธ โดยนับถือหลวงพ่อกวย เขาไม่รู้ว่า พุทธศาสนามีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดา เขานับถือหลวงพ่อกวยองค์เดียว จะมีสาเหชุมาจากเขามีภรรยาเป็นพุทธ หรืออย่างไรไม่แน่ชัด เป็นเพื่อนกับนายเกลียว โตทอง คนหัวเด่น เขาคล้องเหรียญหนุมานไปเหรียญเดียว ไปมันทั่วในป่าในดง ครั้งหนึ่งไปซื้อควายในดง พกเงินไปด้วยหลายหมื่นมาท เงินแต่ก่อนมีค่ามาก เงินหมื่นมีค่าเท่าเงินแสน ได้ถูกคนร้าย ที่พามาจี้ด้วยปืนสั้น เขาเสียดายเงิน ได้คิดสู้ ได้ปล้ำกับคนร้ายแย่งปืนกัน ผลคือคนร้ายได้ จังหวะยิงเขาในระยะประชิด ยิงดัง ปั้ง ปั้ง ๆๆๆๆ หมดโม่เลย 6 นัด ปรากฏว่ายิงไม่ถูกเลย คนร้ายได้หนีไป ภายหลังนายแขกรู้สึกกลัวเสียงปืนมาก ขวัญเสียเลย มีผู้รู้บอกว่าเหรียญร่นหลังยันต์เก่งกว่า เคยมีคนโคนยิงไม่ออก มีผู้รู้บางคนพูดว่าถ้าเรื่องปืนต้องเหรียญรุ่น 1 หรือถ้าไม่มีจริงๆ รุ่นนะโมตาบอด หรือรุ่นเสาร์ 5 ก็แน่นอน เขาได้หามาติดตัว ภายหลังโดนจี้ แบบเดียวกัน คราวนี้ 6 นัด ไม่ออกเลยแม้นัดเดียว เขามาหานายเกลียว ไห้หาไห้ ได้ไปเกือบ 20 เหรียญ (รุ่น 2) เขาจึงเล่าให้นายเกลียวฟัง ถึงสาเหชุที่เขาหาเหรียญรุ่นเสาร์ เอาไว้ เขาพูดว่า แน่นอนกว่าเหรียญหนุมาน โดนยิงติด ๆ เง่าหูเลย หูบี้อื้อเลย ไม่ออกแม้นัดเดียว

    แต่ผู้เขียน ไม่ได้คิดแบบนายแขก เหตุการณ์ล่วงเลยมาหลายปี ผู้เขียนไม่เคยลืมเรื่องของนายแขก ผู้เขียนคิดว่า นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ที่หลวงพ่อฝากไว้ให้ศิษย์ เหรียญนี้จะต้านอำนาจของปืนเอ็ม 16 และอาร์ก้าได้ เพราะอำนาจของปืนปัจจุบันรุนแรงมาก ไม่อาจทำให้ลูกปืนด้านได้ เพราะความแรงของปืนมีมาก ผู้เขียนคิดมาหลายปี จนปี 2550-2551 ประเทศไทยประสบปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง บางคนก็เป็นลูกศิษย์ได้เดินทางมาหา มาพบ มาขอพร ผู้เขียนได้แนะนำให้หาเหรียญหนุมานติดตัวไป ผู้เขียนจึงได้แว่วในหูว่า “เหรียญหนุมานนี้ กูจะเสกให้ทหารไว้กู้ชาติ เหรียญที่เหลือจากการจอง เราจะถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เอาไปมอบให้ทหาร เอาไว้กู้ชาติ” คือ ตอนนั้น เขาค้ากำลังลุกเป็นไฟ มีข่าว ผกค. ออกอากาศทางวิทยุเป็นประจำ เมื่อผู้เขียนได้แนะนำไป และมีหลายคนที่มีพ่อเป็นทหารพลร่ม ป่าหวาย ลพบุรี และบางคนพ่อเคยเป็น นปข. เคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ เพื่อลูกจะไปรบที่ภาคใต้ พ่อก็มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ไปคุ้มตัว มีอภินิหาร สมควรบันทึกไว้ ดังนี้

    เรื่องที่สาม พลทหารสมนึก พ่อชื่อ จ่าสมชาย อดีตเป็นทหารพลร่ม ป่าหวาย ลพบุรี เมื่อพลทหารสมนึก จะถูกย้ายไปภาคใต้ พ่อก็คล้องเหรียญหนุมานให้ไป ฝากฝังกับหลวงพ่อ เอาไว้มีลูกชายคนเดียว รักปานดวงใจ หนักหนาอย่างไร หลวงพ่อช่วยด้วย พลสมนึก เจอกับปัญหาประจำ เพื่อน ๆ ตายประจำ ชาวบ้านก็ตาย อส., กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อบต. ฯ ตายเรื่อย ๆ เขารู้สึกกลัวมาก อายุเพิ่ง 20 ปี วันหนึ่งทางวิทยุ มีคำสั่งให้ส่งทหารสัก 3 นายไปคุ้มครองสัตวแพทย์ ไปทำคลอดไห้วัว ขณะกำลังเดินทาง จวนจะถึงอยู่แล้ว อยู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิด ดังมาก เขาโดดหลบสุดตัวเลย ฝุ่นด้วยเข้าใจเป็นระเบิดรีโมท เมื่อเหตุการณ์สงบ ปรากฏว่าเพื่อนอีก 2 คน เป็นคนสิงห์บุรี 1 คน คนโคราช 1 คน คล้องพระเต็มคอทั้ง 2 คน คอขาดทั้ง 2 คน ส่วนพลสมนึก ไม่เป็นอะไร เลือดเป็นเลือดของเพื่อนที่คอขาด เขาเล่าไปสั่นไป เมื่อทางราชการให้พัก 1 เดือน เขาเดินทางมาวัดพร้อมพ่อ คือ จ่าสมชาย เมื่อกลับไปอีกครั้ง ทราบว่า โดนลอบยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เพื่อนทหารด้วยกันตายทันที 3 คน ส่วนเขา ลูกปืนถูกแค่เสื้อผ้า กางเกง ปัจจุบันปลดประจำการแล้ว

    อีกคนหนึ่งเป็นคนในหมู่บ้าน เคยเป็นเด็กท้ายรถ ตัวโต ถูกย้ายไปภาคใต้ ก่อนไปเขามาลาผม เขาไม่มีพ่อ พระก็ไม่มี ทำนองมาขอ ผมเคยเช่าเหรียญหนุมานสึก ๆ เอาไว้บ้างเหมือนกัน เลยให้ไป กะลองดูด้วย เขาชื่อสมบัติ แม่เขาเป็นลูกศิษย์ผู้เขียนเอง เมื่อไปได้ เขาโดนยิงหลายครั้ง บางครั้งเพื่อน ๆ ตาย 3 คน 5 คน 10 คน แต่ไม่มีในข่าวเลย เขาโดนยิง แต่ไม่ถูกเลย ขนาดผู้กอง และผู้พัน ได้บังคับให้เขาพาผู้บังคับบัญชามาพบผู้เขียน และให้พาไปกราบที่วัด พอถึง 6 เดือน เขากะว่าจะหนี ถ้าขืนอยู่คงตายแน่ ๆ เพราะรุนแรงมาก ปรากฏว่า ตกกลางคืนสวดมนต์นึกถึงหลวงพ่อ หลวงพ่อมาบอกในฝันว่า อดทนอีกหน่อย กูกำลังหาวิธีช่วยอยู่ อยู่ต่อมาไม่ถึง 1 สัปดาห์ เขาก็ได้รับการย้ายให้กลับฐานมาทำหน้าที่ผู้ช่วยครูฝึก

    เรื่องเหรียญหนุมานนี้ กว่าผู้เขียนจะบอกว่าดี ก็แพงมากซะแล้ว และปลอมใกล้เคียงด้วย ในอดีตพระที่เสกเหรียญให้ทหารก็มี เช่น หลวงพ่อเกษม เขมโก, หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, เจ้าคุณนร ก็เคยเสกเหรียญสังฆาฏิให้ทหาร, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ก็เคยเสกเหรียญแม่ทัพภาคให้, หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว ก็เคยเสกเหรียญ รุ่น 2 ให้ทหาร ผมก็ว่าดี ลอง ๆ ให้เหรียญหลวงพ่อองค์อื่นดูบ้าง เพราะราคายังไม่ค่อยแพง คาถาเหรียญหนุมาน ให้ใช้คาถา “โอม ผง เผ่า เถ้า ธุลี คงกระพัน ชาตรี สว๋าหะ คลุกคลีตีมะอะ”

    เรื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อนี้ ประเภทเหรียญ เหรียญรุ่นแรกจะมีอำนาจต้านอาวุธได้สูง แต่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เหรียญรุ่นที่ 2 จะดีทางแคล้วคลาดกำบัง หลวงพ่อเคยสักยันต์ เป็นคาถานะโมตาบอดให้ศิษย์ที่ท้องแขนซ้ายและขวา หลวงพ่อเคยเขียนไว้ใน สมุดคาถาเอาไว้ ท่านเขียนว่ารุ่น 1 เก่ง รุ่น 2 ดี แต่ไม่ได้เขียนถึงรุ่นที่ 3 แต่เมื่อมีศิษย์มาถามท่าน ท่านจะตอบว่า เสกให้ดีครอบจักรวาล ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่า รุ่นไหนดีกว่ากัน แต่ศิษย์ใกล้ชิดได้เล่าตรงกันไว้ว่า เวลาศิษย์ที่คล้องเหรียญรุ่นที่ 3 โดนยิง ท่านจะรับอำนาจของกระสุนปืนไว้ครึ่งหนึ่ง คือรับความเจ็บไว้ครึ่งหนึ่ง ผู้เล่าไว้ต่างกรรมต่างวาระ มีคุณหมอเฉลียว เดชมา, อาจารย์สมาน อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวเด่น, คุณลุกทอด คนบ้านแค เล่าเอาไว้ว่า ขณะคุยกันอยู่กับหลวงพ่อ กลางคืนอยู่ๆ จะเห็นหลวงพ่อมีอาการสะดุ้งคล้ายๆ เจ็บ สักพักท่านจะพูดว่า ไอ้คนนั้น ไอ้คนนี้ ลูกศิษย์ของท่าน โดนยิง คือยิงออก โดนยิง แต่ไม่เข้า

    ทางหมอเฉลียว, อาจารย์สมาน, ลุงทอด ได้ถามเหตุผลว่าทำไปหลวงพ่อต้องแบ่งรับความเจ็บของศิษย์ที่เกเรครึ่งหนึ่ง ท่านไม่ยอมพูด คุณหมอเฉลียว, อาจารย์สมาน ได้แต่คิดว่า ถ้าหลวงพ่อทำอย่างนี้ ท่านคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน พวกเขาเลยรีบสร้างรูปหล่อเท่าองค์จริง และท่านก็มรณภาพในปีถัดมา เรื่องเหรียญหนุมานที่ท่านบอกว่าท่านจะสร้างเอาไว้กู้ชาตินี้ ในปี 2521 และ ปี 2522 ท่านก็มีโอกาสแจกให้ทหารในสมรภูมิเขาค้อบ้างเหมือนกัน ท่านพูดทำนองว่า เหรียญหนุมานนี้ก็ก็เสกให้ดีแล้ว สุดฝีมือแล้ว แต่จะเอาให้เก่งเหมือนพระผงคงจะไม่ได้ แต่ท่านได้พูดเว้นวรรคไว้ “ถึงชะตาจะขาด ก็ต้องกลับบ้านได้” และก็เป็นความจริง ศิษย์ของท่านสามารถกลับมาจากสมรภูมิเขาค้อ ด้วยอาการครบ 32 แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ท่านสะเทือนใจ จนได้ สมควรบันทึกเอาไว้ ดังนี้

    เรื่องที่สี่ ในปี พ.ศ. 2521 มีพลทหารคนหนึ่งเป็นคนลาว คือ คนไทยเชื้อสายลาว ได้เดินทางมากราบหลวงพ่อ มาขอวัตถุมงคลเพื่อไปรบชายแดน หลวงพ่อมอบเหรียญหนุมานให้ ทหารคนนั้นจะควักสตางค์ถวายท่าน ท่านปฏิเสธไม่รับ หลวงพ่อได้ต้อนรับเป็นอย่างดี ดุจทหารระดับนายพล หรือหลวงพ่อจะดูยศไม่ออกก็ไม่รู้ แต่หลวงพ่อก็ไม่ถามชื่อ รู้แต่ว่าเป็นคนอีสานมาอยู่ภาคกลาง เมื่อพลทหารคนนี้ไปแล้ว ท่านได้พูดกับศิษย์ว่า ไอ้ทหารคนนี้ มันชะตาขาดว่ะ กูจะทำอย่างไรดี ประมาณปีเศษ พลทหารคนนี้ก็มากราบหลวงพ่อ เขาไว้ผมยาว หนวดเครารุงรัง ใส่รองเท้าฟองน้ำ ใส่กางเกงทหาร ใส่เสื้อทหาร แต่ไม่ติดกระดุมคล้องเหรียญหนุมานอัลปาก้าสีขาว ตัดกับสีผิวสีดำ เห็นได้ชัด เขามากราบหลวงพ่อเหมือนคนปกติทุกอย่าง เพียงแต่พูดเสียงดัง และพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง มีผู้รู้หลายคนเล่าว่า เขาโดนยิงด้วยปืนที่รุนแรง เหยียบกับระเบิด จนประสาทเสีย และได้หนีจากโรงพยาบาลออกมาหลวงพ่อเมตตาเขาเป็นพิเศษ หลวงพ่อเรียกศิษย์คนนี้ว่า ไอ้กองแล (นายพลกองแล เคยปฏิวัติประเทศลาว จากทหารยศสิบเอก รองเท้าไม่มีใส่ เคยซ่องสุมทหารเอาไว้ในป่าก่อกองไปเอาไว้ ข้าศึกษาเข้ามา เขาเอาเท้าเขี่ย ดับไปได้ด้วยเท้าปลา ภายหลังถ้าใครชอบแต่งชุดทหาร คนภาคกลางมักนิยม เรียกเขา ว่า ไอ้กองแล)

    กองแลไม่ยอมกลับไปพักกับญาติพี่น้อง เขาพักอาศัยที่วัดโบสถ์ สิงห์บุรี ถ้ามีงานทำ ถากหญ้า, ขุดบ่อ, ขุดส้วมฯ เขาจะซื้ออาหารกินเอง ถ้าไม่มีงานทำเขาจึงจะขอข้าววัดกิน กองแลขยัน อดทน สมกับที่เคยเป็นทหารดี 1 ประเภท 2 อาศัยนอนศาลาเล็ก ๆ มีมุ้ง, หมอน, เสื่อ, หม้อข้าว อยู่มาหลายปี อยู่ ๆ เขาก็ไปหากระป๋องนมมาเจาะรู กับฝาน้ำอัดลม เป็นพวงยาว เขาบอกกับพระและเด็ก ๆ ว่า เขาจะไปรับเมียมาอยู่ด้วย ให้เด็กๆหาพวงมาลัยพลาสติก และโหว้วานให้เด็ก ๆ ลากกระป๋องให้ด้วยและกองแลก็ไปรับเมียมาอยู่ด้วยจริงๆ มีเด็กๆ ช่วยลากกระป๋องกันเกือบ 10 คน เมียกองแลมีพวงมาลัยพลาสติกคล้องคอ เด็กๆ รู้ว่าเป็นเมียกองแล ซื่อสร้อยฟ้า สร้อยฟ้าผิวขาวหน้าตาดี ประเภทดี 1 ประเภท 2 ถ้ามีเงินเขาจะสระผมที่ร้านเสริมสวย แม้ว่าทางร้านจะไล่เขาอย่างไร เขาก็ไม่ยอม สร้อยฟ้ามาอยู่กับกองแลใหม่ ๆ ได้ตัดมุ้งออกเป็นช่องสี่เหลี่ยม เขาพูดว่าเป็นหน้าต่างกองแลโมโหมากได้ต่อว่า ว่าอีมึงนี่ ถ้าจะบ้า มึงเย็บซะเลยน่ะ ข่าวของกองแล ผู้เขียนได้ยินแว่ว ๆ หลังจากหลวงพ่อมรณภาพไปหลายปี มีคนพาสร้อยฟ้าไปหาหมออนามัย กลัวว่าจะท้อง

    เรื่องของเหรียญหนุมาน ก็ขอยุติแต่เพียงนี้ มีคนโดนยิงด้วยปืนแมคนั่ม .22 หัวเจาะเกราะ เสื้อขาด แต่รอยกระสุนปืนแค่เอายาหม่องทาก็หาย เหรียญรุ่นนี้ ผู้เขียนก็ว่าดีเหมือนกัน ผู้เขียนต้องขอโทษ ที่เขียนและพูดถึงเหรียญรุ่นนี้ช้าไป...
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอขอบคุณ บทความจากครูเฒ่า สุพรรณ
    คุณปลัด

    ต่อไปผู้เขียนจะขอเขียนถึงเรื่องของคุณปลัด หรือปลัดขิก สักหนึ่งครั้งเพื่อความสมบูรณ์ของเรื่อง คำว่าขิกขี้น่าจะหมายถึง อวัยวะเพศของผู้ชาย จึงเรียก ไอ้ขิก ส่วนปลัดแปลว่า ผู้อยู่เคียงข้าง เมื่อแปลรวมกันคงแปลว่า ไอ้ตัวเล็กที่อยู่เคียงข้าง (เอว) คือ นิยมคาดเอา เดิมน่าจะมาจากศาสนาฮินดู หรือพราหมณ์ คงหมายถึง ศิวลึงค์ของพระศิวะ คือศาสนาพราหมณ์เขาบูชาองค์กำเนิดของมนุษย์ มาจากศิวะและโยนี ส่วนทางพุทธ มีการทำรูปศิวลึงค์เหมือนกัน ทำแบบชัดแจ้ง ทาหัวด้วยสีแดง มีที่ศาลเจ้าพ่อและเจ้าแม่ ทำขนาดใหญ่ยาว เป็นวา เป็นแขน ที่ศาลปู่แค วัดของหลวงพ่อก็มีทำไว้ โดยเฉพาะศาลเจ้าแม่ บางศาลมีมาก คือ มีคนอุตริ ทะลึ่ง บนกับเจ้าแม่ว่า จะทำปลัดตัวโตถวาย ถ้าถูกหวย รวยโปฯ เมื่อสำเร็จก็ทำมาถวาย บางศาลมีอายุเก่าเป็นร้อยปีก็มี อยู่มาอย่างไรไม่รู้ ไม่รู้ว่าพระองค์ไหน ทำปลัดให้คนคล้อง เลยเรียกกันว่าปลัดขิก ครูปลัดขิกองค์ที่โด่งดังที่สุด คือ หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ชลบุรี คาถาที่นิยมลงจาร นิยมลงด้วยคาถาหัวใจโจร คือ “กันหะเนหะ” หัวใจ (เวสสุวรรณ) ลงด้วย “เวสสะพุสสะ” หัวใจเปรตลงด้วย “ทุ สะ นะ โส” คือลงด้วยภาษาขอม อาจลงหนุนด้วย “นะ มะ พะ ทะ” ที่ลงนอกเหนือกว่านี้ก็มี แต่ไม่นิยมลงด้วยคุณพระ คือ “นะโม พุทธายะ” หรือ “มะ อะ อุ”

    ปลัดอีกแบบหนึ่ง จะมีหัว มีตา มีขาหน้า 2 ขา ขาหลัง 2 ขา มีไข่ 2 ใบ เรียกว่า “ปลัดเพชรพญาธร” (วิทยาธร) ถ้าวาดรูปให้ชัด จะมีถึง 9 หัว เขาว่ามีอยู่ที่ป่าหิมพานต์ ริมเขาไกรลาส เมืองลับแลเขาหิมาลัย เมืองลับแล เขาว่ามีจริง เป็นคนจริง ๆ เป็นคนโบราณ อยู่บนหลังคาโลกคือทิเบตก็มี เขาอายุยืน 80-90 หรือ 100 กว่าปี เขาถือศีลทำการเกษตรเล็ก ๆ น้อย ๆ เลี้ยงสัตว์เล็กน้อย ปลูกข้าวไม่ใช้สารเคมี ปลูกผักธรรมชาติ ไม่มีเรื่องคิดแบบมนุษย์โลกใหม่ ไม่ต้องคิดเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ต้องคิดแก้กฎหมายปรองดอง ไม่คิดโกงบ้านกินเมือง เขาเลยอายุยืน เขามีศีล 5 กันแทบทุกคน เขาเลยอายุยืน ผมเขาก็ดกดำ เพราะไม่เครียด (กราบขอโทษพูดนอกเรื่อง)

    ภายหลังมีการย่อส่วน มาทำเป็นปลัดตัวเล็กใช้ติดตัว หลวงพ่อก็ทำเป็นปลัดโลหะชุดแรก รุ่นแรก ทำตัวเล็กด้วยตะกั่วล้วน ๆ สีดำด้วย มีพุทธคุณทางกันเขี้ยวงา, งู สูงมาก แรกเริ่มเดิมทีหลวงพ่อทำจากไม้ก่อน เหลาเองบ้าง ให้ศิษย์ช่วยเหลาบ้าง ภายหลังปลัดของท่านโด่งดัง คนเริ่มมาหามาก ยังมีชนิดสั่งทำนับร้อยด้วย เป็นไม้รัก จารสำเร็จก็มี จารเองก็มี ชนิดไม้แก่นมีกริ่งในตัวเองก็มี ปลัดไม้ที่โด่งดังที่สุด คือ ปลัดแม่หม้าย คือ เอาสากตำน้ำพริกแม้หม้ายมาทำ มีเคล็ด คือ ต้องเป็นแม่หม้ายจริง ผัวตายและไม่มีผัวอีก ถ้ามีก็ไม่เป็นตัวเป็นตน ภาษาใหม่เรียกว่า กิ๊ก พอได้ ผู้หญิงที่สามีทิ้งเรียกว่า แม่ร้าง วิธีไปเอาสากมา ก็ต้องขโมยมา ปลัดแม่หม้ายนี้อานุภาพสูงมาก แต่ทำไว้ได้น้อย น่าจะตก 10 กว่าตัวเท่านั้น ที่พบเป็นไม้ตาล ไม้แก่นก็มี หลวงพ่อจะจารเต็มสูตรเต็มตัวเลย เหลาเองด้วย แต่เป็นปลัดในตำนานไปแล้ว

    อยู่ต่อมาท่านก็สั่งทำแม่พิมพ์เทหล่อเอง เป็นเนื้อตะกั่วผสมเงินซัดปรอท ก้อนเงินเสื่อผ่าน (จมูกขาด) เอามาถวายให้ (ปล้นเขามา) หลวงพ่อจะมีสูตรในการผสมทำ ถ้าคนทำไม่เป็นแก่ตะกั่ว (ปลอม) จะดำ ดำติดมือ เอากระดาษเช็ดจะเปื้อนติดมือ ชนิดโลหะนี้แบ่งได้ 3-4 รุ่น 3-4 แบบ คือ
    แบบที่ 1 เป็นปลัดเพชรพญาธร ไม่ดังนัก เพราะมีหาง มีขา เวลานอนจะตำเอวหรือท้องได้ ชนิดเล็กจิ๋ว ตะกั่วดำ ดังมาก แต่ก็ไม่แพง เพราะสึกเกือบชำรุด เกือบหมด หลวงพ่อสั่งทำ หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจัน อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ก็ทำ แต่ตรงรูร้อย มีไส้ทองแดงอยู่ เป็นศิษย์หลวงพ่อศรี (สี) วัดพระปรางค์เหมือนกัน ผู้เขียนเคยไปหานอนคุยกันครึ่งวัน ท่านอายุมากตก 90 กว่า เจอที่งานเสกของวัดทับขี้เหล็ก (อ.ตั้วเคยอยู่) เขาชมหลวงพ่อกวยว่า หลวงพ่อกวยเขาเก่งจริง แต่ไม่คุย (บางตัวมีลูกสะกด 2 ลูกด้วย ของหลวงพ่อกวย)

    แบบที่ 2 เป็นแบบตัวเรียบ ๆ แต่มีอักขระขอม เป็นตัวจม ลึกลงไปในตัวปลัด สั่งทำ ช่างคนทำ ทำไปจำหน่ายให้หลวงพ่อองค์อื่นก็มี (หลวงพ่อโอ วัดหางน้ำ ก็ทำ ท่านตาบอด แต่มีสติตลอดเวลา เก่ง แบบหลวงพ่อกวย นั่งเคาะกะลา ใช้แทนบัณเฑาะว์เคาะป๊อก ๆ ๆ ๆ แล้วภาวนาตลอดเวลา ใครไปหารู้เรื่องทั้งหมด เป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เหมือนกัน) อีกแบบ เป็นแบบตัวเรียบ ๆ หลวงพ่อจารเอง จารทุกตัว ถ้าเรียบ ๆ อาจมีลูกสะกด (ไข่) 2 ลูก

    แบบที่ 3 เรียกว่า รุ่นคอหยัก จะเล็กกว่ารุ่นประสบการณ์เล็กน้อย หลวงพ่อมีแม่พิมพ์ หล่อเองบ้าง สั่งหล่อเอาแม่พิมพ์ไปให้ช่างหล่อบ้าง ทำน้อยกว่าเขา เพราะบล๊อคแม่พิมพ์แตกก่อนเขา (2558) ยังไม่พบของปลอม นายนบ เจียบพลับ ที่สู้กับปืน 3 กระบอก ยิงไม่ออกเลย ก็ใช้รุ่นนี้ มีอักขระตัวนูนที่ปลัด เป็นนะเกี่ยวกับเพศตรงข้าง (ใจอ่อน)

    แบบที่ 4 เรียกว่า รุ่นประสบการณ์ ใหญ่กว่ารุ่นคอหยัก ทำมาก มีประสบการณ์สูง มีอักขระตัวนูน เนื้อเงินผสมตะกั่วซัดปรอท แบบคอหยัก สั่งทำยั้นวาระสุดท้าย

    แบบที่ 5 เรียกว่า รุ่นหัวโต เป็นโลหะแบบเดียวกับแบบที่ 3 และ 4 แต่หัวปลัดโตกว่าเขา นิยมสุด รองลงมาก็รุ่นคอหยัก และรุ่นประสบการณ์

    นอกจากนั้นก็ทำชนิดไม้ สลับกันไป ชนิดงาก็มี ตัวโตก็มี ตัวจิ๋วแบบที่คนเลี้ยงช้างเอามาจำหน่ายก็มี (ต้องดูลายมือจาร) ชนิดเล็กเกือบจิ๋ว ที่โด่งดังสุด คือ ท่านทำแจกเฉพาะคนที่จะประกวดนักร้อง โดยเฉพาะนางงาม (บ้านนอก) เช่น เทพีสงกรานต์, เทพีส้มโอ ชัยนาท หรือประกวดนักร้อง โดยเอาแอบผูกกับเส้นผม ซุกซ่อนไว้ หรือ แอบใส่ไว้ที่อกเสื้อ (ปลัดคงจะอบอุ่นน่าดู) ชนิดไม้แม่หม้าย (ปลัดแม่หม้าย) แพงมาก ที่มีขาย (จำหน่าย) เป็น 10 ตัว เป็นของเย้าเล่นครับผม

    ต่อไป จะขอบันทึกเล่าเรื่องคุณปลัด เล่าอภินิหารย์เพื่อความสมบูรณ์ของเรื่องไว้ดังนี้ หลวงพ่อไม่ให้เรียกปลัดขิกหรือไอ้ขิก ท่านให้เรียก คุณปลัด ปลัดของหลวงพ่อมืออิทธิฤทธิ์เสกแล้วลอยน้ำได้ (เสกในบาตรน้ำมนต์ ถ้าสำเร็จ จะลอยน้ำขึ้นมา อาจารย์สมานขึ้นไปเปลี่ยนสังกะสีกุฏิของท่าน ท่านนั่งเสก เสกมีดหมอและปลัดอยู่ ปลัดของหลวงพ่อแปลกกว่าขององค์อื่นคือมีตัว (มีวิญญาณ แต่ไม่รู้ว่าวิญญาณเป็นรูปแบบไหน)

    เรื่องแรก เอาเรื่องวิญญาณ (ตัว) ก่อน เดิมสนนราคาของปลัดของหลวงพ่อก็ไม่แพง ผู้เขียนเคยมีเป็น 10 มีเป็นกระป๋องนม เคยให้รุ่นประสบการณ์กับคนข้างบ้าน ชื่อ ละมัด นามสกุล สงสัย สามีชื่อเล็ก เอาไปใช้ เขามีอาชีพขายผลไม้จากสวนของตัวเอง เช่น มะปรางค์, มะไฟฯ วันหนึ่งเอามะปรางเปรี้ยวไปขายเช้ามืดตี 4-5 -6 โมงเช้า ปรากฏว่าขายไม่ได้ ใครชิมก็ขายไม่ได้ ไม่ซื้อเฉย ๆ เริ่มสายยังขายไม่ได้เลย เขานึกทะลึ่งอย่างไรไม่รู้ บ่นกับปลัดว่า ถ้าขายได้หมด คืนนี้จะให้ปลัด 1 ที พอบอกเล่าไม่นาน มีคนมาเหมา เอาไปขายต่อยกหาบเอาไปเลย ได้กลับบ้าน พอมืดจะนอนก็หลงลืม พอจะหลับเหมือนมีคนมากวน ต้องตื่นทุกที 3-4 ครั้ง พอดีนึกขึ้นได้ ต้องแก้บนจึงหาย

    อีกครั้งหนึ่งผู้เขียน ได้ให้ปลัดไม้กับคนใกล้บ้านชื่อ แถว (ปรุงใจ ขุมทอง) ไปขายของที่ตลอด ขายแป้งข้าวหมาก เขาจะบนบอกเล่ากับปลัดประจำ เดี๋ยวเดียวมีคนมาเหมาะเอาไปขายต่อหมดเลย แต่ต้องแก้บน บ้านเขาอยู่ข้างบ้าน มีลูกเป็นตำรวจ 3 คน อนาคตติดนายร้อยทั้ง 3 คน

    อีกคนหนึ่ง คือ นางสอิ้ง เทียนจัน ขายผลไม้บ้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านผู้เขียน เป็นญาติกัน เขาจะเอามะปราง, มะไฟ, กล้วย ไปขายตลาด ไปขายตลาดนัด เขามีปลัดใช้อยู่ประจำ แต่เขาไม่บน แต่บอกเล่าต่อรูปของหลวงพ่อ ก่อนจะออกไปขายเอง หลายครั้งแค่ขึ้นรถ 2 แถว ยังไม่ถึงตลาด ขายบนรถสองแถว เกือบหมดหาบ ก็หลายครั้ง โดยเหมาเอาไปขายต่อประจำ

    อีกคนหนึ่งชื่อ ตวง เทียนจันทร์ เป็นภรรยาของนายเชน เทียนจันทร์ คนปากน้ำ โดนผีเข้าประจำ เขาเป็นสะใภ้ของย่าฉวน คนที่ดูแลหลวงพ่อ ย่าฉวนพาไปกราบหลวงพ่อ บอกว่าเป็นสะใภ้ พอดีเห็นต้นมะขวิด ออกลูกเต็มต้นอยู่ติดกุฏิของหลวงพ่อเลย แต่ลูกยังไม่แก่ นางตวงอยากจะกิน เพราะแพ้ท้อง ได้เอ่ยปากขอหลวงพ่อ หลวงพ่อได้พูดว่า มันยังอ่อนอยู่เลย หลวงพ่อให้ปลัดไม้มากันผีเข้า ร่ำราเสร็จลงไปด้านล่าง มะขวิดร่วงลงมา 1 ลูก สุกด้วย ทั้ง ๆ ที่ลูกอื่น ๆ ยังอ่อนอยู่ นางตวงเลยเอ่ยปากขอหลวงพ่อ (เล่ากันว่า พระอภิญญา 6 สามารถทำผลไม้ให้ออกลูกได้ ทำให้แก่ได้ ในเวลาอันสั้น) ท่านเคยให้อาจารย์ถนอม อดีตเจ้าอาวาสวัดเดิมบาง ไปเก็บดอกกระดังงามาบูชาพระ อาจารย์ถนอมไปหาเท่าไรก็ไม่เจอ ท่านให้กลับไปหาใหม่ เจอเป็น 10 ดอกทั้ง ๆ ที่ครั้งแรกหาอย่างไรก็ไม่เจอ (แม่ชีบุญเรือนก็ทำได้ วัดอาวุธ) นางตวงไปกราบหลวงพ่อครั้งเดียว ภายหลังทำปลัดหาย หลวงพ่อยังเมตตา ฝากปลัดมาให้โดยฝากผ่านมาให้ทางย่าฉวน เทียนจันทร์ (แม่ผัว) ผีไม่มาเข้ามากวนเลย ปลัดของท่านผีกลัวมาก

    เรื่องที่ 2 เจ้าของเรื่องชื่อสมบูรณ์ เป็นลูกคนมีเงิน เจ้าของโรงสีเก่า ตลาดปากน้ำ พระไม่ได้ใช้ คาดปลัดรุ่นประสบการณ์ตัวเดียว สมบูรณ์นี้ค่อนข้างเกเร เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ (เด็กเส้น) เคยยิงคนงานโรงสี ด้วยปืน .38 ยิงไม่เข้าและไม่ถูก คนงานคล้องเหรียญหลวงปู่แหวนรุ่น เราสู้ (ตอนนั้นดังมาก ออกแบบเหรียญไม่เข้าท่าเลย) ผลคือยิงไม่เข้าเฉย ๆ เสกแค่ 5 นาที อัศจรรย์มาก ลูกปืนที่ยิงไม่ถูกตกลงกลางแม่น้ำ เกือบถึงบ้านผู้เขียน บ้านอยู่ปากน้ำ คนละฝั่งแม่น้ำ สมบูรณ์ ศัตรูพอสมควร ครั้งหนึ่งกำลังกินอาหารกับเพื่อน เพื่อนไม่ดี ได้แอบยิงสมบูรณ์ใต้โต๊ะอาหาร ยิงหมดโม่ ยิงไม่ออกเลย รู้ตัวคนยิงด้วย จับได้ด้วย อัศจรรย์ครั้งนั้นมีเพียง ครั้งเดียวที่ปลัดต้านปืนได้ คือ ปลัดนี้หลวงพ่อจะเสกทางกันผีปีศาจ ผีน้ำ, พรายน้ำ, พรายไม้ (ผีต้นกล้วย) เมตตา ค้าขาย เมตตาโดยเฉพาะเพศตรงข้าม เพิ่งจะมีครั้งนี้ที่ต้านปืนได้ (ครั้งเดียวที่รู้ จึงบันทึกไว้) ชีวิตสมบูรณ์ไม่ราบเรียบ เพราะพ่อแม่รวยใช้เงินเก่ง แม่หาว่าเขาจ้างวานฆ่าน้อง เลยติดคุกที่สุพรรณเป็นคดีอยู่หลายปีแล้ว แม่ก็ไม่รู้คิดว่า ลูกอยู่สบาย ได้ไปเยี่ยม มีเสียงลูกเดินมาแต่ไกล แม่ก็คิดถึงมาก เสียงลากโซ่ อุ้มลูกเหล็ก พอแม่เห็นลูก ทำใจไม่ได้ช๊อคตายเลย ใครที่เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ รุ่นเดียวกันอายุประมาณ 60 ปี จะไปเยี่ยมก็ไปน๊ะ เพื่อนคอย (พูดจริง ๆ)

    เรื่องที่ 3 เจ้าของเรื่องชื่อวินัย อิสริยสุนทร เป็นคนทางบ่อสุพรรณ เขตติดต่อนครปฐม เขาใช้ปลัดอยู่เป็นโลหะรุ่นประสบการณ์หรือหัวโตไม่แน่ชัด พี่เขาทำอาชีพปลูกไม้ไผ่ตง ชนิดสีเขียว อย่างไม่แพงขาย ออกหน่อง่าย เร็ว ทนแล้ง หลายครั้ง ขณะเดินอยู่ใต้ต้นกอไผ่ งูหลายชนิดที่อยู่บนต้นกอไผ่ จะแพ้อำนาจ แพ้ขนาดร่วงลงมาจากต้นกอไผ่ หลายสิบตัว ดีว่าไม่ร่วงลงมาพันคอ

    อีกคนหนึ่งคือ ภรรยา ของผู้เขียน เคยใช้รุ่นประสบการณ์ ลูกก็ใช้ ครั้งหนึ่งภรรยาคล้อง (คาด) ปลัดอยู่ เขากลัวงูมาก ถ้าเห็นกันชัด ๆ ร้องสุดเสียงเลย ร้องขนาดงูวิ่งหนีสุดชีวิตเลย (มันคงคิดว่ากูตายแน่) หลายครั้งขณะนอนเล่นบนโซฟา บังเอิญแมงป่องช้างเกาะอยู่บนฝ้า พอเขาเห็นแมงป่อง แมงป่องจะร่วงลงมาเลย จะด้วยอำนาจจิตหรืออำนาจของปลัดไม่แน่ชัด หลายครั้งเหยียบแมงป่องตาย ตะขาบก็เคยเหยียบตาย ทั้งแม่ทั้งลูกชาย แต่ผู้เขียนก็ใช้อยู่ เจองูเห่า, เจองูจงอาง, เจอเห่าม้า (ดุมาก) เห่าพ่นพิษ ไม่เห็นมันกลัวผู้เขียน ผู้เขียนก็ใช้อยู่ (ปลัด) มันสู้จะกัดอีกต่างหาก เคยเจองูเห่าพ่นพิษ สู้กันแบบลูกผู้ชาย ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ผู้เขียนถือไม้ยาวแขนกว่า ๆ เหมาะมือ งูเห่าพ่นพิษ โดนสุนัขล้อมอยู่ ผู้เขียนเอามือลูบปลัด เดินย่างสาม, สี่ขุม 3-4 วาจะถึงตัวงู มันพ่นพิษใส่สูงถึงเอวเลย ผู้เขียนเลยเดินกลับ มาคิดดูเมื่อไม่ถึงที่ตาย ก็อย่าหาเรื่องตาย วันนั้นสุนัขโดนงูเห่าพ่นพิษใส่ตาบอด 1 ข้าง คาถาเวลาเดินดง ป้องกันงูพิษของหลวงพ่อ ให้ว่าดังนี้ “อมมุดมุด พระยาครุฑจะเดินดง” อีกบทเป็นคาถาสะกดว่าดังนี้ “พุทธะฆองอ” หลวงพ่อถ่ายทอดจากหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา สุพรรณ

    แต่ผู้เขียนใช้ได้ผลในเรื่องผู้หญิง ผี ผีนี่ได้ผลเห็นชัด คือ ผู้เขียนเป็นคนจน เป็นคนพเนจร เป็นคนจรหมอนหมิ่น เคยพักวัดเรียนหนังสือ ตั้งแต่จบ ป. 4 อยู่วัดตลอดยั้นจบ ผู้เขียนนอนเล่น นอนจริงได้ในป่าช้า, เมรุเผาผี, ศาลทาง 3 แพร่ง, ศาลผี, ฮวงซุ้ยคนจีน, ศาลาธรรมสังเวศฯ บ้านที่มีคนตายโหง, ตายห่าฯ เคยนอน เคยอยู่ นึกจะนอนก็นอน ใช้ปลัด สวดมนต์ บางที่ก็มีมีดหมอ ผีจะกินหลายหนแล้ว มันพูดว่ากินไม่ได้ มากันเป็นฝูงก็เคยมา ใช้ปลัด มีดหมอ และสวดมนต์ก่อนนอนนั้นสำคัญมาก ถ้านั่งสมาธิ แผ่เมตตาก่อน จะไม่มากวนเลย เรื่องผู้หญิงก็ดี แต่เด็กสาวบริสุทธิ์เขาจะไม่ชอบคนใช้ปลัด ไม่ชอบยั้นแม่ของผู้หญิง แต่แม่หม้าย แม่ร้าง ผู้หญิงชอบชก ผู้หญิงรักสนุก เขาจะเมตตาเป็นพิเศษ ใช้คำว่า พิเศษ (เรื่องนอนตามศาล บ้านผีตายมาก ๆ (คนตาย) หลายครั้งไม่ได้พกมีดหมอ เพราะมีดพกยาก ใช้แต่ปลัด) เล่าเรื่องผู้หญิงต่อ เขาว่าผู้ชายชอบพูดเรื่องผู้หญิง เขาพูดว่า “พูดเรื่องตายละก็หูลี่ พอพูดเรื่องผู้หญิงละก็ตาใส” หลวงพ่อทำพระขุนแผน แต่ไม่นำออกจำหน่าย จะให้เฉพาะบุคคล ในสมัยหนุ่ม ๆ ผู้เขียนไม่เคยใช้พระขุนแผนเลย เคยใช้ปลัด ตะกรุดก็ไม่ค่อยได้ใช้ พระใช้รูปหลังสิงห์ สมัยเรียนวิทยาลัย แต่ปลัดใช้ประจำ คนยุค พ.ศ. 2515 นักเรียน นักศึกษา จะเรียบร้อย สุภาพ ไม่ค่อยจะมือถึงใจถึงเหมือนนักศึกษารุ่นใหม่นี้ อย่างมากก็มีแฟน คบกันจริงจัง คือไม่เปลี่ยนใจ รักแล้วรักเลย ในห้องจะมีแอบชอบ แอบคบกันแค่ 1-2 คู่ หรือมีแฟนกับห้องอื่นก็ 1-2 คู่ มีน้อยมาก จีบกันก็ไม่เป็น โตเป็นวัวเป็นควาย ยังไม่มีแฟนเลยสมัยนั้น

    สมัยนั้นผู้เขียนก็หล่อเหมือนกัน (แต่หล่อไม่เสร็จ เคยเห็นพระหล่อไม่เสร็จไหม แบบนั้นแหละ) หน้าตาแดงแบบกวนอู ก็มือไวใจเร็ว ใจถึงพอสมควร หาเงินได้เองเพียงคนเดียว (ในวิทยาลัย) คือ ชกมวย ปิดเทอมก็ทำงานโรงงาน (พระประแดงมีโรงงานมาก เดินหาวันเดียวก็มีงานทำแล้ว) พักวัด คล้องพระเต็มคอ สักเต็มตัว (สักน้ำมัน) มีอาคม ดูหมอแม่น (ดูได้ขนาดว่าใครจะสอบได้หรือตกหรือติด จ. ต้องซ่อมใหม่) เด็กวัดเรียกอาจารย์เฒ่า เวลาเด็กวัดจะยกพวกตีกัน ต้องมาหาผู้เขียนให้เสกใบพลู (ให้เหนียวตีไม่แตกพันไม่เข้า) เด็กวัดตีกับศิษย์สัก อาจารย์เป็นอิสลาม สู้เขาไม่ได้ ก็มาให้ผู้เขียนทำพิธีแก้ให้ (ขอโทษโม้อีกแล้ว) ในสมัยเรียนผู้เขียนมีแฟน (กิ๊ก) ครั้งเดียว 8 คน จะเป็นด้วยปลัด หรือ ผู้หญิงเขาดวงตก ไม่แน่ชัด มีอยู่คนหนึ่งสวยมาก พ่อเป็นอดีตทหารฝรั่งเศส มาเมืองไทยประจำอยู่ป้อมพระจุลฯ และป้องแฝงไฟฟ้า (พระประแดง) ชอบสาวมอญ หนีทหารไม่ยอมกลับประเทศเลย

    เธอสวย ตาสีฟ้า ผมสีทอง ขาวสูง (ผมโม้น่ะ ฝรั่งได้กับลาว ลูกออกมาเป็นฝรั่ง ฝรั่งได้กับมอญ ลูกออกมาตัวตำปี๋เลย) ภายหลังเธอคงคิดได้ว่า ถ้าอยู่กับผมกว่า จะรวยก็คงอีกนาน เธอเลยหาพ่อให้ลูกเธอใหม่ เกี่ยวกับมนต์ที่อยู่กับปลัด, ลูกสวาท, คาถาหรือพระขุนแผนนี้ ไม่ดีนัก วันไหนมนต์เสื่อม ผู้หญิงหมดเคราะห์กรรม เขาจะคิดได้ว่าเผลอบ้าไปซะแล้ว ในวัย 50 เพื่อนฝูงตามหาเพื่อน เพื่อชุมนุมศิษย์ร่วมรุ่น ที่วิทยาลัยเก่า ครูเก่า เพื่อนเก่าแฟนเก่าก็มา เพื่อนฝูงตามหาเพื่อน เพื่อชุมนุมศิษย์ร่วมรุ่น ที่วิทยาลัยเก่า ครูเก่า เพื่อนเก่า แฟนเก่าก็มา เพื่อน ๆ ตัวใหญ่โต เป็น ผอ.เป็นด๊อกเตอร์ เป็นผู้จัดการ (ที่เป็นมะเร็งและเบาหวานก็มี) ผมน้อย คุยใหญ่คุยโต เพื่อนหญิงก็ตัวโต ใหญ่กว่าเดิม 2-3 เท่า แฟนเก่า ๆ 7 - 8 คนก็มา เขาค่อย ๆ แอบมาหา มาคุยด้วยบางคนมาตัดเล็บให้ แอบจับไม้จับมือ น้ำตาซึม ทุกคนมีสามีเป็นใหญ่เป็นโต เป็นผู้จัดการ เป็น ผอ. เป็นด๊อกเตอร์ ถามผู้เขียนว่าทำงานอะไร (เพื่อน ๆ คุยรวย คุยใหญ่ คุยโต แทบทุกคน) ผมเลยตอบว่าขับรถ 10 ล้อบรรทุกดิน แฟนเก่า ๆ เขาสงสารผมมาก บางคนแอบยัดเงินใส่กระเป๋าเสื้อให้ บางคนแอบหยิบกระเป๋าสะพายเอาไปดูแอบยัดเงินให้ แบงค์ 1,000 เป็นปึก ๆ ผู้เขียนได้พูดว่า อย่าทำอย่างนั้นกับผม ผมขอศักดิ์ศรีบ้าง อย่าทำให้ผมไม่เหลือศักดิ์ศรีเลย (ความจริงผมพอมีสตางค์บ้างเล็กน้อย)

    เรื่องปลัดของหลวงพ่อนี้เขามีตัว ถ้าเซ่นให้ถูกวิธี เขายิ่งแก่กล้าเหมือนพ่อมด ถ้าเขาอดขึ้นมา บางครั้งหามาให้เลย ถ้าไปอบรมไปต่างถิ่นทีไรเป็นได้เรื่องทุกที นั่งอยู่เฉย ๆ มากอดเฉย ๆ เลย (แฟนก็รู้) เมื่อไม่นานมานี้ (พ.ศ. 2557) ไปถามเจ้าของร้านซีดี ดูเรื่องแผลเก่า ผู้กำกับคนใหม่เป็นหม่อมเจ้า กำกับได้ดีมาก ผูกเรื่องได้ดี ปกติผู้เขียนไม่ชอบดูหนังไทย (เคยดูเรื่อง มือปืนโลกพระจันทร์ ผู้กำกับ พระเอกเต๋า สมชาย เข็มกลัด แสดงดีมาก) ผู้กำกับเก่า เขาสร้างแผลเก่าได้ดีมาก น่าส่งไปอวดเมืองนอกประชันกับโรมีโอกับจูเลียต ไปถามเจ้าของร้านจะดูเรื่องเก่าสมัยสรพงษ์ ชาตรี แสดงจะดูความแตกต่าง ไปถามเขาว่า แผลเก่า เรื่องเดิมมีไหม เด็กสาวอายุสัก 20 เศษได้ อยู่ในร้าน เธอยิ้มให้แล้วพูดว่าไม่คิดจะดูแผลใหม่บ้างหรือ แผลเก่ามันก็อย่างนั้น ๆ ผมละซึมไปเลย เธอพูดว่าแอบชอบมานานแล้ว เห็นหลายครั้งแล้ว อยากจะนั่งรถไปด้วย (ผมซึมอยู่หลายวัน นึกถึงหมากับปลากระป๋อง)

    ไหน ๆ ก็เล่าเรื่องของผู้เขียน เล่าต่ออีกหน่อย สมัยอายุ 40 เคยไปนั่งร้านอาหารมีนักร้องยังเด็กอยู่สัก 18 ปีได้ ตาคมผมยาว ผมอยากจะลองของ ลองปลัด และคาถาดูได้สบตา พอเขาขึ้นร้องเพลง ให้เด็ก(วานไปคล้องพวงมาลัยให้ แล้วบอกว่าเป็นผมเอง อยากคุยด้วยพอเขาร้องเสร็จ เขาก็มาคุยด้วย คุยไม่เลิก ทำท่าเลยถึงดึกแล้วด้วย ผมเลยกลับบ้านวันหน้าไปใหม่ เธอพาแม่มาไหว้ผม แม่เขาอายุน้อยกว่าผม พอเธอขึ้นร้องเพลง แม่เธอพูดว่าลูกสาวฉันมันชอบกล หนุ่ม ๆ มีเยอะไม่ชอบ มาชอบคนแก่ (หมายถึงผม) ผมก็พูดว่า คนแก่น่ะรักใครรักจริง ภายหลังได้พานักร้องคนนี้ไปเที่ยวกลางคืน คุยไปคุยมาถามเธอว่า จะไปไหนต่อดี เธอบอกแล้วแต่เฮีย ตอบผมแบบนี้ได้ไง ผมเลยพามาส่งบ้านเลย เด็กอายุ 17-18 ยังเรียนอยู่มัธยม 6 เธอน่าจะพบคนที่ดีกว่านี้ ไม่น่าจะเจอไอ้เฒ่าหัวงูแบบผม มันจะเป็นตราบาปติดตัวเธอไปตลอดชีวิต ผ่านร้านอาหารรวงผึ้ง เดิมบางทีไรก็คิดถึงอยู่เสมอ

    อีกคนหนึ่งสวยมากสวยแบบคริสติน่า อากีล่า แต่งตัวแบบเดียวกันอายุสัก 22 ปี เป็นเสมียนอยู่ศูนย์รถโตโยต้า ชัยนาท รถแฟนผมเสีย ผมพยายามขับไปเข้าศูนย์ ไปเจอเธอพอดีสวยบาดใจตอนนั้นก็อายุ 40 กว่า เลยนั่งหลับตาบ้างลืมตาบ้างว่าคาถาสะกดหญิง “สะสมพรหมจารี สะหะระศรี ผู้สมทรง พงภาลี” ว่าไปเรื่อยเฉื่อยบอกกับปลัดด้วย ลืมตาขึ้นมาเธอมานั่งด้วย นั่งติด ๆ เลย ถือดอกกุหลาบ เข้าใจว่าจะให้ผู้เขียน ผมตกใจมาก คือ เธอสวยมาก ผมก็ไม่กล้าพูดด้วย ตกใจ ในอำนาจของคาถาและปลัด ศูนย์ปิดแล้ว 5 โมง แต่รถผมยังไม่เสร็จ เธอเลยกลับบ้าน พอเธอกลับบ้านขับรถจะออกจากศูนย์ ผมเลยเดินออกมาขอดูหน้าเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอหยุดรถแล้วเปิดประตูกระจก เธอยื่นดอกไม้ให้ผมพร้อมเบอร์โทรศัพท์ เธอพูดว่า โทรหาเธอ ให้ได้น๊ะ พูดแบบประหม่า ก้มหน้าเขินอาย เธอพูดย้ำว่า โทรหาเธอให้ได้ ผมพูดได้คำเดียวว่าครับ พอรุ่งขึ้นผมโทรไป เธอดีใจมาก พูดเป็นต่อยหอยเลย เธอพูดอยู่คนเดียว เธออยากพบผมอีก พอวางหูผมก็ไม่โทรไปหาเธออีกเลย ปิดเครื่องเฉยเลย เด็กสาวยังอ่อนเยาว์ ดวงตกเจอคนแก่ ผมอยากเก็บเธอไว้ในความทรงจำที่ดี ไม่ต้องการแตะต้องแม้ปลายเล็บ หรือเส้นผม แต่ยังคิดถึงเธออยู่และไม่ยอมไปศูนย์โตโยต้า ชัยนาทอีกเลย

    เรื่องนักร้องนี้ก็แปลก ผมพกพาปลัด ไม่นิยมคล้องพระขุมแผน เข้าไปในร้านอาหารตามบ้านนอก นักร้องเกือบ 10 คน จะลุกขึ้นมาต้อนรับผู้เขียนเสมอ ลุกขึ้นมานั่งล้อม (เหมือนแมลงวันตอมของเหม็นไม่ผิด) มากันเต็มโต๊ะเลย มาขอดริ้ง (ขอเครื่องดื่ม) ขอคนละแก้ว ผมเป็นคนมีสติ ผมบอกโอเคสั่งโค๊กขวดจัมโบ้มาเลย 1 ขวด น้ำแข็ง 1 เหยือก กินให้อิ่ม ปรากฏว่ากินกันคนละแก้ว แล้วลุกไปหมดเลย พูดถึงนักร้องเอาอีกสัก 1 คนน๊ะ เรื่องฤทธิ์ของปลัดและคาถาปลัด คาถา “สะสมพรหมา จารี” หลายปีมาแล้ว ตอนนั้นผู้เขียนอายุ 40 เศษได้ ไปงานกินเลี้ยงผู้ใหญ่บ้าน ม. 5 หมู่ที่ ผู้เขียนอยู่ เขาเชิญกินฟรี ผู้ใหญ่แว้น ช้างวงค์ เขาแซกแซงซื้อข้าวจากโรงสีได้เงินมาก้อนโต เขาเชิญคนใหญ่คนโต ระดับ ส.ส. , สจ. ,นายกเล็ก , เถ้าแก่โรงสีฯ ผมค่อนข้างจะขัดสนกว่าเขา งานใหญ่พอสมควร มีนักร้องมาด้วย ผมบังเอิญนั่งโต๊ะหน้าสุด ใกล้ ๆ นักร้องเลย มีนักร้องคนหนึ่งขึ้นมาร้องเพลง เพิ่งจะร้องได้ 3-4 เพลง และเป็นคนที่ 3 นักร้อง, รำวง, แสงสี ทำให้ผู้หญิงสวยขึ้นมาก บางคนหลงสาวรำวง ขนาดจำบ้านเลขที่ตัวเองไม่ได้ ผู้เขียนก็อาจคล้ายกัน นักร้องเขาอายุน้อยประมาณ 20 ปี ร้องเพลงอะไรผมก็จำไม่ได้มัวมองเพลิน ปลัดที่เอวเขาคงชอบ แสดงฤทธิ์ออกมา พอนักร้อง ร้องเพลงเสร็จเพลงแรก เขาเดินมายกมือไหว้ผม ขอนั่งด้วย คนก็มาก คนใหญ่คนโตทั้งนั้น ผู้เขียนกลัวโดนเขม่น บอกให้เขาไปหลังเวที ผมจะรีบตามไป วันรุ่งขึ้นมีข่าวว่า นักร้องที่มาร้องเพลงงานผู้ใหญ่ หนีตามผู้ชายไป ร้องเพลงแค่เพลงเดียวหนีตามแขกไปเลย บ้านผู้เขียนก็แปลกดี เกษตรกรดีเด่นระดับชาติไปรับรางวัล ปรากฏว่า มีหนี้สินรุงรังขายนา จนต้องเช่าเขาทำ แม่ดีเด่นระดับจังหวัด สามารถบังคับลูกให้อยู่ในโอวาทได้แบบอัศจรรย์คือให้ออกบน ออกล่าง ออก 4 ออก 6 ได้ เรื่องของผู้เขียนคงต้องพอแค่นี้ เดี๋ยวแฟนมาอ่านเจอ เดี๋ยวผมจะไม่ตายดี

    คาถาคุณปลัด จะใช้ทางฤทธิ์ว่าดังนี้ “อม มะ ลึง กำลัง จะ หัง สว๋าหะ” ส่วนคาถาที่ใช้ปลุกเสก หลวงพ่อจดให้อาจารย์เหวียน มณีนัย ขึ้นต้นด้วย “อม แม่น้ำ สาม จอก” คาถาที่ใช้ประกอบกันให้ใช้คาถาขุนแผน บทยาว อยู่หน้า 136 คาถาปลุกลายมือหลวงพ่อก็อยู่หน้า 136 (เล่ม 1) คาถาประกอบบทสั้นใช้ “เอหิมะมะ” คาถาสะกดหญิงใช้บท “สะ สม พรหมจารี” หน้า 4 คาถาขุนแผนเสกแป้งเสกน้ำบทยาว หน้า 5 เรื่องรูปร่างที่หล่อ (หล่อไม่เสร็จ) และคาถาที่ฝักใฝ่ตั้งแต่เรียนประถม 4 สมัยเรียนวิทยาลัยนี้ผู้เขียน อาคมแก่กล้าพอสมควร สบตาใครเป็นติดทุกคน ไม่ว่าอาจารย์สาว หรือเพื่อนหญิงในห้อง ขนาดอาจารย์ที่ปรึกษา (ครูประจำชั้น) เรียกเข้าพบ สั่งพักการเรียนเลย ผมได้ถามว่า จะให้ผมหยุดเรียนกี่วัน อาจารย์ตอบว่าจนกว่า ตาแดงของเธอจะหาย คือสมัยนั้นผมเป็นตาแดงบ่อย อาบน้ำที่คลองวัดด่านสำโรง

    เรื่องที่ 4
    คุณวิเศษของคุณปลัดของหลวงพ่อ คือ กันผี, กันปอบ, กันผีน้ำ, ผีไม้, เป็นเมตตาต่อเพศตรงข้าม ค้าขายดี ผู้หญิงก็ใช้ได้ผู้ชายก็ใช้ได้ จะมีโชคเนือง ๆ ไม่อดอยากไม่ยืนยันเรื่องปืน มีครั้งเดียวที่คุณสมบูรณ์ตลาดปากน้ำ โดนยิงไม่ออก เรื่องการทำน้ำมนต์ก็ดี ใช้ได้ นายปี มั่นปาน คนสรรคบุรี มีอาชีพพิเศษทางไม่ดีนัก เป็นนักเลง ครั้งหนึ่งไปทำไร่ทางดง อยู่กันในป่า เมียตารวกปวดท้องจะคลอดลูก (เมียตารวกเป็นคนไทยอีสานคือลาว) จะไปหาหมอก็ไม่มีรถ ตารวกมาขอคำปรึกษากับนายปี นายปีเลยเอาปลัดของหลวงพ่อมาทำน้ำมนต์ คาถาทำน้ำมนต์คลอดลูกใช้กับปลัดว่าดังนี้ “เอตาปิยะ ปุตตะ” พอเมียตารวก ได้ดื่มกินน้ำมนต์ไม่นาน ก็มีลมเบ่งออกลูกเลย ภายหลังนายปีนี้ คนเขาแต่งตั้งให้เป็น หมอผี (ผู้ช่วยหมอตำแย) เรียกอาจารย์ปี และได้บวช ตอนปลายชีวิต เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองตาแก้ว ผมเคยไปหา ตอนนั้นกำลังสร้างศาลาไม้ อาจารย์ปีเป็นเสือเก่า มองไปที่ศาลาเป็นเสือเก่าเกือบ 20 คน บนหลังคาก็มี ศิษย์หลวงพ่อปลายชีวิต จะเป็นคนดี ดีกว่าผู้เขียนซะอีก ขุดหลุมเสา เอาเสาลงหลุม มุงหลังคา แดดเปรี้ยง ๆ วันนั้นคิดว่าคงต้องเดินกลับแน่ ๆ โดนแน่ ๆ เลยเข้าไปทักทายกรรมการวัด แนะนำตัวว่า ผมเป็นหลานฉาว เขาหน้าถอดสีเลย พอรู้ว่าเป็นหลานฉาว เขาถามต่อว่าทำอาชีพอะไร ผมบอกว่าทำเหมือง รับงานบ้าง (ฆ่าคน มือปืนรับจ้าง) เป็นบางที ถ้าเงินถึง (โม้น่ะ) เลยรอดมาได้ (คาถา “เอตาปิยะ ปุตตะ” เป็นคาถา ที่พระเวสสันดร เรียก 2 กุมารขึ้นมาจากสระ)

    หมอกมล เสรยานนท์ เคยเป็นแพทย์สาธารณะสุข จังหวัดสุพรรณบุรี รพ.เจ้าพระยายมราช ใช้ปลัดของหลวงพ่ออยู่ ขุนแผนด้วยเวลาเขามาวัดมากราบรูปหล่อของหลวงพ่อเขา จะบอกต่อปลัดที่เอวประจำ ขอให้เจอผู้เขียน วันหนึ่งเขาขี่รถมาจวนจะถึงบ้านผู้เขียนแล้ว บังเอิญขี่รถสวนกัน ผู้เขียนนึกในใจว่า อาจเป็นแขกที่จะมาพบ เลยหันรถกลับ หมอกมลจำทางไม่ได้ ได้เลี้ยวเข้าปั้มน้ำมัน (ปั้มบ้านนอก) ผมสงสัยว่าอาจเป็นแขกที่จะมาบ้าน เลยถอยรถไปขวางทางออกที่ปั้มไว้ คุณหมอก็ไม่รู้ว่า เป็นผม ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ผมก็ยังไม่ทันจะลงรถ หมอใจถึงกว่าผม เปิดประตูรถออกมา ถือปืนแมกกาซีน 15 นัดออกมา กะจะขู่ยิงผู้เขียนที่จอดรถขวาง (คิดว่าอาจโดนปล้น) พอจำกันได้ก็หัวร่อ เขาพูดว่า ปลัดขลังดี บอกขอให้หาสำรวย (อดีตเจ้าอาวาส) ก็ทำแบบนี้ ก็เจอ บอกอยากเจอกับผู้เขียน ได้บอกกับปลัด ก็ได้เจอทุกครั้ง

    ปลัดแม่หม้าย เขาก็เก่งมากทำตามตำราของหลวงพ่อ หลวงพ่อให้หมอเฉลียว เดชมา ไว้ 2 ตัว ให้ปลัดตัวครูไว้ 1 ตัว (ให้พิเศษ) ผมได้มาตัวแรก ไม่รู้ว่าเป็นปลัดแม่หม้ายได้แบ่งให้คุณศิริชัย บ้านอยู่ปากน้ำ สมุทรปราการไป อีกตัวผู้เขียนใช้อยู่ เมตตาดีมาก
     
  6. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,850
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    แบ่งกันชม ปลัดยุคต้นของ ลพ.กวย ทำจากเขาสัตว์
    ปลัดเขาสัตว์-1-2.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์มีดหมอยุคแรกของหลวงพ่อกวย ทำก่อนปี2500 ความยาว 12 นิ้ว ด้ามและฝักทำจากไม้มะยมป่า ตอกลายโดยช่างเดือนซึ่งเป็นพี่ชายของช่างอุ้ย(ช่างทำมีดให้หลวงพ่อกวยยุคแรกๆ) ใบมีดตีเองจากเหล็กดำ จารคาถาหนุนธาตุ หัวใจคาถา 108 อะปะจะคะ มีดแบบนี้หายาก จารกำกับด้วยลายมือยุคแรกของ ลพ.กวย แบ่งกันชมของหายากครับ
    มีดหมอยุคต้น -3.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    1592214652631-2.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,850
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ
     
  11. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    จากการค้นคว้าและจากหลักฐาน มีประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง
    วงการพระสะเทือน "พระสมเด็จฯมีไม่น้อยกว่า 5 ล้านองค์"
    เปิดบันทึกไม่ลับ มีเอกสารโบราณยืนยันหลายฉบับ



     
  12. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
     
  13. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,850
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ
     
  14. นพพร 2553

    นพพร 2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    743
    ค่าพลัง:
    +1,230
    วันนี้19 JUNE 20 17.44 ได้โอนเงิน สำหรับรายการนั้ไปเเล้วครับ
    slip การโอน ผมได้ส่งไปทาง line เเล้ว
     
  15. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,850
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ
     
  16. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,850
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ
     
  17. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    จัดส่งให้แล้วครับ ขอบคุณมากครับ
     
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ไม้สลักเพชร.jpg
     
  19. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์เพื่อเรียนรู้ร่วมกัน กับมีดหมอยุคต้นของ ลพ.กวย มีดเล่มนี้สร้างในวัดบ้านแคช่วงต้นปี2500 ยุคก่อนช่างอุ้ยจะเข้ามาตีมีดให้ท่าน ใบมีดตอกอักขระอิติปิโส ท่านจารทั้งฝักและด้าม เป็นมีดหมอที่หายากมาก เข้มขลังครบเครื่องทั้งคุ้มครองป้องกัน เสริมชะตาชีวิตและกำจัดสิ่งไม่ดี

    มีดหมอ 18 นิ้ว-3-2.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2020
  20. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,850
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...