เปิดกรุเจดีย์กรุงเก่าภาพ"พุทธสาวก"500ปีเทียบกรุพระปรางค์ราชบูรณะ

การขุดพบภาพจิตรกรรมผนังชิ้นนี้ ถูกเปิดเผยโดย ภัทรพงษ์ เก่าเงิน นักโบราณคดีชำนาญการ กรมศิลปากร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เขากล่าวถึงกรุเจดีย์นี้ตั้งอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นการดำเนินงานบูรณะเจดีย์ประธาน ตามโครงการขุดแต่งออกแบบบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์โบราณสถานวัดสิงหาราม ปี 2555

ภูมิบ้านภูมิเมือง
บูรพา โชติช่วง

ขุดกรุเจดีย์กรุงเก่า
ภาพจิตรกรรม “พุทธสาวก” 500 ปี



แม้ว่ากรุงเก่ากำลังเดินหน้าฟื้นฟูโบราณสถาน 130 กว่าแห่งหลังเจอฤทธิ์เดชมหาอุทกภัย 2 เดือนเต็มเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ในเวลาเดียวกันของช่วงฟื้นฟู นักโบราณคดีได้ขุดค้นพบร่องรอยภาพจิตรกรรมผนังเก่าอันคุณค่าภายในกรุเจดีย์ประธานวัดสิงหาราม ที่ตีอายุภาพไว้ราว 500 ปี

การขุดพบภาพจิตรกรรมผนังชิ้นนี้ ถูกเปิดเผยโดย ภัทรพงษ์ เก่าเงิน นักโบราณคดีชำนาญการ กรมศิลปากร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เขากล่าวถึงกรุเจดีย์นี้ตั้งอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นการดำเนินงานบูรณะเจดีย์ประธาน ตามโครงการขุดแต่งออกแบบบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์โบราณสถานวัดสิงหาราม ปี 2555

ภัทรพงษ์ ขยายความภาพจิตรกรรมประดับผนังคูหาปรากฏอยู่ภายในกรุเจดีย์ดังกล่าวด้านทิศตะวันออก ซึ่งลักษณะของกรุเป็นห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1.5 x 1.5 เมตร สภาพของพื้นภายในกรุได้ถูกขุดทำลายไปจนหมดไม่พบร่องรอยหลักฐานอื่น แต่ที่บริเวณผนังกรุทั้ง 4 ด้านปรากฏร่องรอยของภาพจิตรกรรมทั้งหมด โดยเฉพาะหลักฐานชัดเจนที่สุดในผนังด้านทิศเหนือ

จากลักษณะกรุ เดิมคงประดิษฐานพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว ส่วนลักษณะรูปแบบจิตรกรรมภายในกรุแต่ละด้าน เป็นภาพเขียนสีรูปพุทธสาวกจำนวน 3 รูป อยู่ในท่าเดินพนมมือ ลักษณะเดินเวียนขวาประทักษิณ เทคนิคในการเขียนสีจะใช้สีเหลืองดินเป็นสีพื้นผนังและใช้สีแดงตัดขอบเป็นโครงรูปทั้งหมด ในส่วนของสีพื้นของรูปนั้นมีการใช้สีแดงเป็นพื้นของจีวร และสีดำเป็นพื้นของเศียรพระ อย่างไรก็ตามบริเวณส่วนจีวรของภาพนั้นปรากฏร่องรอยของการลงรักเอาไว้ สันนิษฐานว่าเดิมในส่วนนี้คงมีการปิดทองคำเปลว

และจากรูปแบบของภาพจิตรกรรมที่เป็นภาพพุทธสาวกกำลังเดินประทักษิณรอบพระบรมสารีริกธาตุนั้น สามารถตีความอายุโดยเปรียบเทียบกับภาพจิตรกรรมเขียนสีน้ำบนแผ่นชินของผนังคูหาเจดีย์ประธานองค์ตะวันออก วัดพระศรีสรรเพชญ์ กำหนดอายุได้ราวสมัยอยุธยายุคกลาง รัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ซึ่งมีลักษณะเป็นภาพพุทธสาวกเดินพนมมือถือดอกบัวโดยรอบพระบรมสารีริกธาตุ แต่ไม่สามารถเปรียบเทียบในเรื่องของเทคนิควิธีได้ เนื่องจากหลักฐานภาพของเจดีย์ประธานวัดพระศรีสรรเพชญ์นั้นหลงเหลืออยู่น้อย

ลักษณะรูปแบบภาพจิตรกรรมภายในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ​

หากวิเคราะห์เปรียบเทียบเทคนิควิธี กับหลักฐานภาพจิตรกรรมในสมัยอยุธยายุคต้นที่พบในบริเวณกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ ที่เขียนเป็นภาพพระอดีตพุทธ พุทธประวัติ และทศชาติชาดกนั้น พบว่ามีการใช้สีดำ สีแดง และสีเหลืองดินเป็นสีหลักในการเขียนที่เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างในส่วนของสีตัดขอบรูป กล่าวคือ ภาพเขียนสีในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะนั้นจะใช้สีดำเป็นสีตัดขอบรูป ส่วนภาพจิตรกรรมในกรุเจดีย์ประธานวัดสิงหารามนี้มีการใช้สีแดงเป็นสีตัดโครงรูป

ดังนั้นเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบทั้งในส่วนคติรูปแบบในการสร้างและเทคนิควิธีในการสร้างแล้ว สามารถสรุปได้ว่าภาพเขียนสีภายในกรุวัดเจดีย์ประธานวัดสิงหารามนี้ น่าจะมีอายุสมัยอยู่ในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้น–อยุธยาตอนกลาง (ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19–22) หรือกำหนดอายุคราวๆ พ.ศ. 1950 – 2050 หรือประมาณ 500 ปี ซึ่งการกำหนดอายุที่ชัดเจนมากกว่านี้นั้นต้องพิจารณาควบคู่กับอายุสมัยของหลักฐานทางโบราณคดีอื่นต่อไป

กระนั้นก็ดี นักโบราณคดีหนุ่มผู้นี้ ยังเอ่ยถึงแนวทางการรักษาภาพจิตรกรรมผนังนี้ “ในเบื้องต้นมีผู้เสนอไว้หลายแนวทาง บางท่านแนะควรลอกผิวสีภาพทั้งหมดนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ แต่บางท่านเสนอควรถ่ายภาพแล้วนำไปจัดแสดงจะดีกว่า เพราะช่วยรักษาภาพเดิมไว้ และบางท่านมองว่า ควรเปิดกรุให้คนเข้ามาชม แต่ก็มีปัญหาไม่เหมาะที่คนจะปีนป่ายขึ้นไปดู จะส่งผลให้เจดีย์พังทลายลงได้ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด ทั้งต้องรอคำตอบจากส่วนกลางจะเอาอย่างไรดี ดังนั้นแล้ว หลังการบูรณะเสร็จเราจะทำการปิดกรุก่อน เพื่อเป็นการรักษาภาพจิตรกรรมให้อยู่ในสภาพของอุณหภูมิที่เคยอยู่ในกรุ ภาพจะได้ไม่เสื่อมสภาพนั่นเอง”

ถึงตรงนี้ ก็นึกถึงข่าวภาพจิตรกรรมเทวดาพนมมือบนบานประตูวิหารพระพุทธวัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง ปิดทองทับลายเส้นเดิม จนเสียหายยากที่จะแก้คืนมาดังเดิม แล้วภาพจิตรกรรมพุทธสาวกของกรุเจดีย์วัดสิงหาราม จ.พระนครศรีอยุธยานี้ ก็สมควรที่ให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมการตัดสินใจรับผิดชอบด้วย

เป็นทางออกของกรมศิลปากรไปในตัว


---------------------------
ที่มา ::
ข่าวเปิดกรุเจดีย์กรุงเก่าภาพ"พุทธสาวก"500ปีเทียบกรุพระปรางค์ราชบูรณะ | Siamrath.co.th

 

สมบูรณ์มากๆเลยครับ....

 

สุดยอดมากครับ โบราณวัดถุที่ควรรักษาให้ดีๆ

 

ศิลปทุกยุคทุกสมัย มีความงดงามที่ต่างกัน พร้อมยังสื่อความหมายที่ดีๆไว้สำหรับคนรุ่นหลังได้ศึกษากันด้วย. สาธุค่ะที่ได้ค้นพบสิ่งดีๆขึ้นอีก

 

ภาพจิตกรรมที่งามมากครับ 500ปีมันดูนานจังเลยเนอะ! ยังคงสภาพสมบูรณ์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา น่าดีใจแทนจริงๆ

 

สวยดีค่ะ

 

ฮือฮาภาพจิตรกรรมพุทธสาวกอายุ500ปี

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555 เวลา 13:25 น.










กรมศิลปากร พบภาพเขียนสีรูปพุทธสาวกวัดสิงหารามอายุ 500 ปีกลางเมืองกรุงเก่า



วันนี้ ( 29 มี.ค.) นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน นักโบราณคดีชำนาญการ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ดำเนินงานบูรณะเจดีย์ประธานวัดสิงหารามด้านทิศตะวันออก ตามโครงการขุดแต่งออกแบบบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์โบราณสถานวัดสิงหาราม บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ปี 2555 ได้พบภาพจิตรกรรมประดับผนังคูหาปรากฏอยู่ภายในกรุเจดีย์ประธานด้านทิศตะวันออก โดยลักษณะของกรุเป็นห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1.5 x 1.5 เมตร สภาพของพื้นภายในกรุได้ถูกขุดทำลายไปจนหมดไม่พบร่องรอยหลักฐานอื่น บริเวณผนังกรุทั้ง 4 ด้านปรากฏร่องรอยของภาพจิตรกรรม สันนิษฐานว่า แต่เดิมภายในกรุคงประดิษฐานพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว
นายภัทรพงษ์ กล่าวต่อว่า จิตรกรรมภายในกรุแต่ละด้านเป็นภาพเขียนสีรูปพุทธสาวกจำนวน 3 รูป อยู่ในท่าเดินพนมมือ ลักษณะเดินเวียนขวาประทักษิณ เทคนิคในการเขียนสีจะใช้สีเหลืองเป็นสีพื้นผนังและใช้สีแดงตัดขอบเป็นโครงรูปทั้งหมด ในส่วนของสีพื้นของรูปนั้นมีการใช้สีแดงเป็นพื้นของจีวร และสีดำเป็นพื้นของเศียรพระ อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบคติและเทคนิควิธีการสร้างนั้น จะเทียบได้กับภาพจิตรกรรมในสมัยอยุธยายุคต้น ที่พบในบริเวณกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ เขียนเป็นภาพพุทธประวัติ และทศชาติชาดกนั้น พบว่ามีการใช้สีดำ สีแดง และสีเหลืองดินเป็นสีหลักในการเขียนที่เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างในส่วนของสีตัดขอบรูป กล่าวคือ ภาพเขียนสีในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะนั้นจะใช้สีดำเป็นสีตัดขอบรูป ส่วนภาพจิตรกรรมในกรุเจดีย์ประธานวัดสิงหารามนี้มีการใช้สีแดงเป็นสีตัดโครงรูป ดังนั้น ภาพเขียนสีภายในกรุวัดเจดีย์ประธานวัดสิงหารามนี้ น่าจะมีอายุอยู่ในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้น-ตอนกลาง ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19-22 หรือประมาณ 500 ปี

+++++++++++
ฮือฮาภาพจิตรกรรมพุทธสาวกอายุ500ปี | เดลินิวส์

 

สมบัติชาติธำรงรักษาไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง

 

เก็บรักษาให้ดีครับ

 

สมบัติที่คนรุ่นก่อนทิ้งให้ลูกหลาน

 

ได้เห็นแล้วเป็นบุญตายิ่ง
ศึกษาไว้เป็นแหล่งความรู้ครับ