เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ภาค 2

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 15 ธันวาคม 2012.

  1. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    [​IMG]

    จะขอเกริ่นกล่าวกลอนสุนทรถ้อย .......... เป็นมาลัยผูกร้อยห้อยซ้ายขวา
    พร้อมจุดธูปเทียนขวัญขึ้นวันทา .......... เหนือเกศากราบสวัสดิ์นมัสการ
    ต่อหน้าหลวงปู่ทิมนั่งยิ้มแย้ม .......... เป็นรอยแต้มเจิดจรัสบรรทัดฐาน
    แห่งคุณงามความดีตลอดกาล .......... เชื่อมประสานศาสนาประชาชน
    ทั่วถิ่นไทยทุกที่มีความสุข .......... ได้พ้นทุกข์ถ้วนหน้าทุกแห่งหน
    บารมีแผ่ไพศาลผ่านสากล .......... เป็นมงคลทั่วหล้าประชาชี
    แม้จะนานปีแล้วที่ท่านจาก .......... ก็ยังฝากความศักดิ์สิทธิ์เป็นศักดิ์ศรี
    ไว้คู่กับเมืองระยองเป็นของดี .......... จนสุดที่จะเสกสรรพรรณา
    อันวาจาท่านเหน่อๆเผยอพูด .......... ยังก้องวูดโสตประสาทเป็นวาสนา
    ฟังทีไรก็เปรียบเหมือนต้องมนต์ตรา .......... แสนมีค่าล้ำลึกรู้สึกดี
    เปรียบเป็นพรอันประเสริฐแสนเลิศหรู .......... เหมือนคำครูสอนไว้ในวิถี
    จารึกจำคำสอนพรทวี .......... สดุดีอุปถัมภ์จำจนตาย
    ท่านไม่เคยทำให้ใครช้ำจิต .......... ชั่วชีวิตไม่เคยทำความเสียหาย
    บริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งใจกาย .......... แม้ชีพวายสลายหมดยังงดงาม
    สาธยายเพียงใดไม่สิ้นสุด .......... จึงขอหยุดก้มกราบหนึ่งสองสาม
    หลวงปู่ทิมที่เคารพขอจบความ .......... บรรยายตามความรู้สึกสำนึกคุณ


    กระทู้ภาคแรก http://palungjit.org/threads/เปิดตำนานหลวงพ่อทิม-วัดละหารไร่.287921/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2014
  2. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG]


    [​IMG]

    เอกสารตราตั้งการเป็นไวยาวัจกรวัดละหารไร่ของ นายสาย แก้วสว่าง แต่งตั้งโดย พระครูภาวนาภิรัติ (หลวงปู่ทิม อิสริโก)โดยได้ทำการแต่งตั้งไว้ ณ.วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕o๘
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2012
  3. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ในการนี้ข้าพเจ้า ขอนำบทบันทึกความทรงจำของนายสาย แก้วสว่างอดีตไวยาวัจกรวัดละหารไร่ ในยุคสมัยที่ได้มีโอกาสรับใช้หลวงปู่ทิม อิสริโก เมื่อครั้งสมัยที่ท่านดำรงขันธ์อยู่ โดยได้ถ่ายทอดเพื่อให้ประจักษ์แด่สาธุชนทั้งหลายได้เกิดความศรัทธาเพื่อการเรียนรู้และเป็นแนวทางการศึกษาในการเจริญรอยธรรมกันต่อไป

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    นี่เป็นบทความที่นายสายท่านได้เขียนบันทึกไว้เพียงคร่าวๆ และนายสายท่านเล่าว่าหลวงปู่ทิมท่านจะสอนสั่งให้ลูกศิษย์ทุกคนเน้นปฏิบัติในเรื่องของจิต หรือการทำจิตให้นิ่งเพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดยตามหลักของธรรมชาติหรือล้วนเป็นไปโดยตามกรรมที่ทุกคนนั้นได้เคยกระทำกันมา ไม่มีสิ่งใดจะอยู่เหนือกฏแห่งกรรมไปได้ อยู่ที่การกระทำของตนเอง วัตถุมงคลนั้นจะย่อมคุ้มครองคนที่ดีและมีสัจจะหรือตามความเชื่อมั่นและความศรัทธานับถือกันได้ ขอให้ทุกคนมีจิตที่พึงระลึกกันไว้ซึ่งนายสายท่านได้กล่าวทิ้งท้ายให้จดจำกันไว้เสมอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2012
  4. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG]

    นี่คือภาพวินาทีสุดท้ายแห่งชีวิตของพระครูภาวนาภิรัติ( หลวงปู่ทิม อิสริโก ) แห่งวัดละหารไร่ที่ท่านได้ละจากทางโลกนี้ไปเมื่อวันที่๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๘ รวมอายุได้๙๖ปีโดยตลอดระยะเวลาที่ท่านทรงได้ดำเนินชีวิตทางสมณเพศบรรพชิตมา ด้วยจริยวัตรอันน่าเลื่อมใสและปฏิปทาที่ดีที่ควรค่าแก่การนับถืออย่างยิ่ง โดยท่านได้ถือหลักครองธรรมและการยึดหลักตามหลักพระพุทธศาสนาที่แน่วแน่ ท่านเป็นพระสุปัฏิปันโณที่ได้นำหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้เป็นหลักปฏิบัติเพื่อให้สาธุชนผู้นับถือทั้งหลายมีความเลื่อมใสศรัทธาและเชื่อมั่นในหลักธรรมและหลักปฏิบัตที่ได้สืบสานกันมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล มีหลักคำสอนของท่านที่กล่าวย้ำอยู่เสมอแก่ลูกศิษย์ลูกหาและสาธุชนทั้งหลายว่า “ ทุกคนจงอย่าขาดสติ และควรระลึกอยู่เสมอว่าความตายของคนเราทุกคน ย่อมจะเป็นที่รักและหวงแหน โดยจะยินดีและยอมตายโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ต่อเมื่อถึงวาระแล้วก็ต้องตายด้วยกันทุกคน สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เราตายกันอย่างตาหลับได้ ก็ต้องสร้างความดีกันในหมู่เพื่อนมนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย โดยไม่คิดอิจฉาริษยาเบียดเบียนและมุ่งทำลายกัน โดยขาดเมตตาธรรม ” ซึ่งเป็นบทเขียนบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง อดีตไวยาวัจกรวัดละหารไร่ ที่ท่านได้บันทึกจากใจในกาลยุคสมัยที่ท่านได้ศึกษาเรียนรู้และรับใช้กันมา หลวงปู่ทิมท่านเป็นพระที่หมั่นเพียรในการเรียนรู้กับสรรพวิชาต่างๆและการบำเพ็ญเพียรธรรม ด้วยความมุ่งมั่นปรารถนาและแรงบันดาลใจที่มีอยู่ สามารถทำให้ท่านประสบเป็นผลสำเร็จ มีคำกล่าวที่ถือมั่นอยู่เสมอว่า “ เมื่อจิตถึงท่าน ท่านก็ถึงเรา “ เป็นคำสอนสั่งของหลวงปู่ท่านเพื่อให้มีใจยึดให้มั่นในการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนและการถือใช้วัตถุมงคลต่างๆเพื่อให้เกิดอานุภาพในสิ่งที่เชื่อมั่นกันและขอให้ทุกคนนั้นจงมีจิตที่มั่นคงในธรรม เพื่อการมีสติในการดำรงชีวิตอย่างมีความหมาย โดยหลักการดำรงสติเพื่อให้มีความเชื่อมั่นของชีวิตได้นั้น หลวงปู่ท่านได้ให้คติธรรมแก่ลูกศิษย์ไว้ว่า “ มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ “ ซึ่งเป็นคติธรรมที่มีความหมายอย่างแนบแน่นเพื่อการดำรงคงมั่นไว้ในหลักปฏิบัติของชีวิต เพื่อให้เป็นหนทางแห่งนิพพานอย่างถูกต้องต่อไป

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2012
  5. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG]

    เปิดบันทึก ..... ซึ่งตำนาน..... กาลกล่าวขาน
    ร่วมสืบสาน..... เพื่อสืบทอด..... ครูอาจารย์
    อันด้วยหลัก..... แห่งวิชา..... แก่กล้าฌาน
    จิตนั้นจาร..... จดจำไว้..... ระลึกกัน
    เมื่อกล่าวถึง..... พระ เกจิ..... เมืองระยอง
    ที่หมายปอง..... นั้นก็มี..... กันมากหลาย
    หลวงปู่ทิม..... อิสริโก..... ก็จักคลาย
    เป็นที่หมาย..... เริ่มจับจอง..... คล้องคู่กัน
    ของท่านนั้น..... สร้างเสกไว้..... เพื่อเตือนรู้
    เป็นคุณครู..... เตือนสติ..... ของเราได้
    อันดวงจิต..... ของทุกท่าน..... อย่าได้คลาย
    ความมั่นหมาย..... เป็นกันแน่..... แท้ที่จริง
    เมื่อทุกสิ่ง..... เป็นดั่งผอง..... ต้องประสงค์
    จิตมั่นคง..... ดำรงไว้..... ดุจใจหวัง
    สิ่งที่ผิด..... จงละไว้..... ต้องระวัง
    ดวงจิตพลัน..... ของเรานั้น..... อย่าคะนอง
    เพื่อเป็นแรง..... แห่งคุณค่า..... ของชีวิต
    จงทำจิต..... ของเรานั้น..... ให้มีหวัง
    ดั่งคุณค่า..... จิตนิ่งนั้น..... เอกอนันต์
    เพื่อเท่าทัน..... ในความหมาย..... ของทุกคน
    ขอเทิดทูล..... เกียรติคุณ..... ของหลวงปู่
    ให้เราสู้..... ว่าชีวิต..... มีค่าหลาย
    เพื่อโลกรู้..... ว่าท่านนั้น..... ลำบากกาย
    ด้วยความหมาย..... ดั่งที่แท้..... แห่งชีพพลัน
    ขออาลัย..... ด้วยเกียรติยศ..... และศักดิ์ศรี
    ขอยอมพลี..... ผองชาตินั้น..... กาลความหมาย
    ขอนอบน้อม..... หลวงปู่ท่าน..... ดั่งใจกาย
    แม้ชีพวาย..... ยอมสละไว้..... พระคุณเทอญ


    ด้วยแรงแห่งความศรัทธาอย่างเชื่อมั่นและการมีจิตยึดมั่นที่ดี ขออาราธนาอิทธิอำนาจบารมีแด่องค์หลวงปู่ทิม อิสริโกแห่งวัดละหารไร่และครูบาอาจารย์ทั้งหลายในสากลโลก จงคุ้มครองปกป้องผองภัยและดลบันดาลให้ทุกท่านที่มีเจตจำนงค์ที่ดีขอให้เจริญด้วยอายุ วัณโณ สุขัง พลัง พ้นภัยอันตรายทั้งปวง พุทโธยอดแก้ว นามะรูปัง หลวงปู่ทิมมาบังเกิดแล้ว นะภะคะวา ด้วยเหล่าเทพเทวาทั้งหลาย ขอจงประสิทธิ พุทธังสังมิ อุมิมิ ขอให้มั่งมีทรัพย์สิน ด้วยมินะพุทธัง เกียรติยศชื่อเสียง อุดมด้วยเงินและทองด้วยมินะธัมมัง อุดมด้วยข้าวของทั้งหลายด้วยมินะสังฆัง ด้วยอำนาจเดชะบุญญาบารมีแห่งองค์หลวงปู่ทิม อิสริโกนี้ จงขอดลบันดาลให้คณะศิษย์เปิดตำนานกาลร่วมสร้างและเหล่าสาธุชนทั้งหลายที่มีจิตยึดมั่นและศรัทธาแด่องค์หลวงปู่ทิม อิสริโก ขอขอบคุณทุกๆท่านที่มีจิตศรัทธาและเชื่อมั่นในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาและองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าและยึดมั่นในคุณงามความดีขอตนเองที่ได้กระทำมานี้ ขอให้จงประสิทธิดั่งปรารถนาทุกประการด้วยเถิด...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2012
  6. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    นี่คือตำราส่วนหนึ่งที่นายสาย แก้วสว่างได้เก็บรักษาไว้ โดยหลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านได้ใช้ศึกษาร่ำเรียนและการใช้แบบยันต์อักขระต่างๆ และตำรานี้ถือเป็นต้นกำเนิดของการใช้ยันต์สามและยันต์ห้า ซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวของท่านและเกจิอาจารย์แห่งเมืองระยองที่นิยมนำมาใช้กัน ซึ่งต้นกำเนิดน่าจะคัดลอกมาจากตำราของหลวงปู่สังข์เฒ่า ผมขอเปิดตำราที่หลวงปู่ทิมท่านได้ศึกษาให้ชมกันอย่างคร่าวๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2286.JPG
      IMG_2286.JPG
      ขนาดไฟล์:
      100.5 KB
      เปิดดู:
      6,879
    • IMG_2287.JPG
      IMG_2287.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.2 KB
      เปิดดู:
      1,557
    • IMG_2288.JPG
      IMG_2288.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68.3 KB
      เปิดดู:
      1,228
    • IMG_2289.JPG
      IMG_2289.JPG
      ขนาดไฟล์:
      102.3 KB
      เปิดดู:
      1,992
    • IMG_2290.JPG
      IMG_2290.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.8 KB
      เปิดดู:
      1,730
    • IMG_2291.JPG
      IMG_2291.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.1 KB
      เปิดดู:
      1,334
    • IMG_2292.JPG
      IMG_2292.JPG
      ขนาดไฟล์:
      105.1 KB
      เปิดดู:
      1,277
    • IMG_2293.JPG
      IMG_2293.JPG
      ขนาดไฟล์:
      82.8 KB
      เปิดดู:
      1,283
    • IMG_2294.JPG
      IMG_2294.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.3 KB
      เปิดดู:
      1,746
    • IMG_2295.JPG
      IMG_2295.JPG
      ขนาดไฟล์:
      95.9 KB
      เปิดดู:
      1,162
    • IMG_2296.JPG
      IMG_2296.JPG
      ขนาดไฟล์:
      83.5 KB
      เปิดดู:
      1,176
    • IMG_2297.JPG
      IMG_2297.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.6 KB
      เปิดดู:
      1,001
    • IMG_2301.JPG
      IMG_2301.JPG
      ขนาดไฟล์:
      92.5 KB
      เปิดดู:
      1,182
    • IMG_2302.JPG
      IMG_2302.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.2 KB
      เปิดดู:
      1,060
    • IMG_2303.JPG
      IMG_2303.JPG
      ขนาดไฟล์:
      89.1 KB
      เปิดดู:
      1,075
    • IMG_2304.JPG
      IMG_2304.JPG
      ขนาดไฟล์:
      87.2 KB
      เปิดดู:
      1,049
    • IMG_2305.JPG
      IMG_2305.JPG
      ขนาดไฟล์:
      105.5 KB
      เปิดดู:
      1,065
    • IMG_2306.JPG
      IMG_2306.JPG
      ขนาดไฟล์:
      123.1 KB
      เปิดดู:
      991
    • IMG_2307.JPG
      IMG_2307.JPG
      ขนาดไฟล์:
      91.1 KB
      เปิดดู:
      1,016
    • IMG_2399.JPG
      IMG_2399.JPG
      ขนาดไฟล์:
      92.5 KB
      เปิดดู:
      987
    • IMG_2400.JPG
      IMG_2400.JPG
      ขนาดไฟล์:
      93.2 KB
      เปิดดู:
      947
    • IMG_2405.JPG
      IMG_2405.JPG
      ขนาดไฟล์:
      94.3 KB
      เปิดดู:
      972
    • Picture 1220.jpg
      Picture 1220.jpg
      ขนาดไฟล์:
      145.7 KB
      เปิดดู:
      957
    • Picture 1224.jpg
      Picture 1224.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.1 KB
      เปิดดู:
      940
    • Picture 1225.jpg
      Picture 1225.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.4 KB
      เปิดดู:
      1,014
    • Picture 1226.jpg
      Picture 1226.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.9 KB
      เปิดดู:
      939
    • Picture 1227.jpg
      Picture 1227.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.3 KB
      เปิดดู:
      1,026
    • Picture 1228.jpg
      Picture 1228.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.8 KB
      เปิดดู:
      1,011
    • Picture 1229.jpg
      Picture 1229.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.8 KB
      เปิดดู:
      937
    • Picture 1230.jpg
      Picture 1230.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.4 KB
      เปิดดู:
      1,409
    • Picture 1231.jpg
      Picture 1231.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109 KB
      เปิดดู:
      1,197
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2012
  7. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    นี่คือวัตถุมงคลชิ้นเอกของหลวงปู่ทิม อิสริโกแห่งวัดละหารไร่ที่ถือว่าเป็นชิ้นแรกที่สร้างเป็นรูปเหมือนของหลวงปู่ท่านอันทรงคุณค่าที่สร้างไว้เป็นแบบอย่างการถือมั่นที่ดีและวัตถุมงคลชิ้นนั้นก็คือล็อคเก็ตรูปเหมือนที่กำเนิดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2500 ยุคกึ่งพุทธกาล ซึ่งในครั้งนั้นถือเป็นการถ่ายรูปครั้งแรกในชีวิตของหลวงปู่โดยขณะนั้นหลวงปู่ท่านอายุได้ 78 ปี โดยถ่ายที่ร้านแสงศิลป์ ระยอง ซึ่งจุดประสงค์ในการถ่ายรูปครั้งนั้นเพื่อต้องการทำใบสุทธิของท่าน และล็อคเก็ตของท่านนั้นสร้างขึ้นมาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น โดยทางร้านแสงศิลป์ซึ่งมีความเลื่อมใสและศรัทธาได้ทำถวายหลวงปู่โดยนำทองคำหุ้มด้านหลังไว้เพื่อเป็นเกียรติอนุสรณ์แก่ทางร้าน จากนั้นหลวงปู่ทิมท่านได้นำล็อคเก็ตดังกล่าวนี้มาอฐิษฐานจิตเสกในหัวนอนของท่านเป็นเวลาหนึ่งพรรษาและได้ลงเหล็กจารกำกับไว้ที่ด้านหลังที่หุ้มทองคำไว้ จากนั้นหลวงปู่ท่านได้มอบให้ไว้กับศิษย์ใกล้ชิดไป ต่อมาล็อคเก็ตนี้ก็ได้ตกทอดมายังศิษย์อาวุโสของท่านคือทนายแพรว คงเมือง และในการนี้ผมขอนำภาพล็อคเก็ตอันทรงคุณค่านี้มาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ.....

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2014
  8. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    นี่คือภาพถ่ายที่ใช้สำหรับติดใบสุทธิของหลวงปู่ทิมซึ่งเจ้าของเดิมที่เก็บรักษาไว้ก็คือโยมติ๊ด วิเชียรเสนาะ ซึ่งเป็นโยมวัดในยุคสมัยนั้นมาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2012
  9. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพตอนขณะที่หลวงปู่ทิมท่านรับพัดยศเป็นพระครูภาวนาภิรัติ โดยท่านไปประกอบพิธีรับในอุโบสถของวัดป่าประดู่ซึ่งเป็นวัดอารามหลวงเมื่อปีพ.ศ.๒๕o๘ ซึ่งทำให้ชาวบ้านละหารไร่และลูกศิษย์ลูกหาต่างก็ชื่นชมยินดีกันจากนั้นก็ได้มีการจัดฉลองงานสมณะศักดิ์ขึ้น และก็เป็นที่มาของการกำเนิดสร้างเหรียญรุ่นแรกหรือรุ่นฉลองสมณะศักดิ์ของท่านขึ้นมา

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2012
  10. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG]

    นี่คือพระประธานและพระโมคคัลลาพระสารีบุตรในโบสถ์ไม้เก่าของวัดละหารไร่ ซึ่งถือว่าเป็นพระประธานองค์แรกของวัดที่สร้างขึ้นมา โดยหลวงปู่ทิมและชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันปั้นจนประสบเป็นผลสำเร็จขึ้นมาได้ ตามตำนานประวัติเรื่องเล่ากล่าวว่า ปู่แดงซึ่งเป็นโยมวัดในยุคเก่าแก่และปู่พิณกับหมอทัตซึ่งเป็นลูกศิษย์ในยุคแรกๆของหลวงปู่ทิมได้ช่วยกันนำดินเหนียวหรือดินดิบซึ่งน่าจะนำมาจากวังสามพญาหรือบริเวณใกล้เคียงกัน จากนั้นก็นำมาปั้นกันโดยหลวงปู่ทิมท่านจะปั้นตกแต่งจนสำเร็จเป็นรูปพระพุทธเจ้าหรือประประธานของวัดขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นผลงานแห่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของชาวหมู่บ้านละหารไร่ที่มีพระประธานไว้กราบไหว้และสำหรับพระสงฆ์ทำสังฆกรรมต่างๆของวัดได้

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2012
  11. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG]

    นี่คือบริเวณคลองที่อยู่ติดกับหอฉันท์ของวัดละหารไร่หรือที่เราเรียกกันว่า วังสามพญา ซึ่งเป็นตำนานที่มีการกล่าวขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ โดยกล่าวกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ที่มีเรื่องราวเกี่ยวพันกันกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชผู้กอบกู้เอกราชของเมืองไทย โดยเมื่อครั้งสมัยนั้นเล่ากันว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหรืออีกนามหนึ่งว่าสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้นำไพล่พลยกทัพมาพักที่วัดละหารใหญ่ จากนั้นก็ได้นำช้างของพระเจ้าตากสินและเหล่าช้างม้าต่างๆมาอาบน้ำบริเวณวังสามพญาแห่งนี้จึงเป็นตำนานเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านละหารไร่เล่ากันมาว่า สมัยก่อนบริเวณวังสามพญานั้นมีปลาชุกชุมมากมายและมีน้ำใสเย็นมาก และมีเหตุการณ์อยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่ทิมท่านได้ยืนนิ่งอยู่บริเวณที่ริมหอฉันท์ซึ่งติดอยู่กับวังสามพญา หลังจากนั้นหลวงปู่ท่านก็เอามือไปดีดน้ำนั้นสักพักหนึ่งไม่นานก็มีฝูงปลามาแหวกว่ายกันบริเวณต่อหน้าหลวงปู่ท่าน และช่วงเวลานั้นเองก็ได้มีตะพาบเผือกตัวใหญ่มากว่ายแหวกท่ามกลางฝูงปลาที่กำลังว่ายกันเต็มไปหมด จากนั้นตะพาบเผือกตัวนั้นก็ได้มาหยุดที่หน้าหลวงปู่ทิม จากนั้นมันก็ได้ยื่นหัวออกมา โดยภายหลังจึงทราบว่าตะพาบตัวดังกล่าวโดนคนใช้ปืนยิงมาจากบริเวณวังไผ่ใกล้ๆทุ่งหัวตาบุตรซึ่งก็อยู่ไกลจากวัดพอสมควร และจากนั้นหลวงปู่ทิมท่านก็ได้รักษาตะพาบเผือกตัวนั้นโดยเมื่อใกล้ถึงเวลาเพลตะพาบก็จะว่ายน้ำมาให้หลวงปู่ท่านรักษาและรักษาอยู่ได้ไม่นานแผลก็หาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นมันก็เป็นเรื่องที่แปลกว่าหลวงปู่ทิมท่านรู้ได้อย่างไร และมันเป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริงมาเมื่อ40กว่าปีมาแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2012
  12. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG] [​IMG]

    นี่คือตะกรุดยุคแรกของหลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่ ตะกรุดในยุคแรกที่หลวงปู่ทิมท่านสร้างขึ้นมานั้น หลวงปู่ท่านจะนำตะกั่วที่อยู่ในวัดมาทุบให้แบนๆจากนั้นก็นำมาจารแล้วม้วนและปลุกเสกตามแบบฉบับของท่าน นายสาย แก้วสว่างท่านเล่าว่าในยุคสมัยก่อนที่วัดละหารไร่นั้นกันดารมาก มีแต่ท้องนาและป่าดง การสร้างวัตถุมงคลนั้นจะต้องหาวัสดุตามความนิยมหรือตามธรรมชาติ ซึ่งก่อนสมัยทองแดงหรือเงินนั้นยังไม่มีแพร่หลายกันตามชนบท ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ตะกั่วเท่านั้นที่นิยมและหาง่าย ตะกรุดที่หลวงปู่ทิมท่านทำมานั้นมีกันมาเนิ่นนานแล้ว เพราะนายสายท่านเล่าว่าตะกรุดที่สร้างมาจากตะกั่วทุบนั้นมีมาก่อนที่นายสายท่านจะมารับใช้หลวงปู่ทิม แต่เราคงคาดเดาว่าน่าจะสร้างกันมาในช่วงยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่2เพราะสมัยนั้นจะสร้างแจกคนที่ไปทหารเพราะต้องออกไปรบทัพจับศึกหรือการเสี่ยงภัยต่างๆ นายสายท่านยังเล่าอีกว่า ตะกรุดตะกั่วทุบนั้นแต่เดิมหลวงปู่ทิมท่านจะเอาตะกรุดแช่ในโหลน้ำมันงาไว้ เวลาจะมอบให้ใครหลวงปู่ท่านก็จะหยิบตระกรุดที่อยู่ในโหลน้ำมันงานั้นให้ หลวงพ่อเพ่ง สาสโนอดีตเจ้าอาวาสวัดละหารโหญ่เวลาท่านสร้างตะกรุดท่านจะให้ชาวบ้านที่ต้องการนำวัสดุต่างๆมาเองแล้วหลวงพ่อท่านจะจารแล้วเสกเดี๋ยวนั้นเลย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่แผ่นตะกั่วทุบเท่านั้นที่นำมากัน การสร้างตะกรุดสมัยนั้นจะเน้นในเรื่องของการคุ้มครองป้องกันเพื่อความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งสมัยนั้นการเสี่ยงภัยอันตรายต่างๆนั้นย่อมที่จะเกิดขึ้นได้เสมอด้วยภูมิภาคและสิ่งแวดล้อมที่เกื้อหนุน การที่จะหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจหรือวัตถุมงคลที่สามารถป้องกันภัยได้นั้นเป็นที่ต้องการกันในหมู่ผู้คน เราย้อนเวลาไปเมื่อกว่า 50-60ปีที่แล้ว ความเจริญยังไปไม่ถึงยิ่งตามบ้านนอกด้วยแล้วแทบไม่ต้องกล่าวกัน ปู่ย่าตายายที่ต้องลำบากลำบนกว่าจะหากินเลี้ยงชีพนั้นต้องเหนื่อยกันเลือดแทบตากระเด็น ด้วยความยากจนแล้งแค้นที่จะต้องดิ้นรนกันเพื่อความอยู่รอด การหาที่พึ่งทางด้านจิตใจถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำเนินชีวิตที่ดี การที่จะหาสิ่งยึดเหนี่ยวที่ให้มีผลทางพุทธคุณอย่างเชื่อมั่นนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความศรัทธาและการเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  13. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG]

    กำเนิดวัดละหารไร่
    ย้อนไปเมื่อประมาณ200 กว่าปีที่แล้ว ก่อนที่จะมาเป็นวัดละหารไร่จนทุกวันนี้ ดั้งเดิมสมัยก่อนจะเป็นป่าดงดิบหรือบางทีก็เรียกป่ารกชัก ซึ่งสมัยแต่ก่อนจะมีสัตว์ป่ามากมายชุกชุม มีทั้งช้าง เสือ เก้ง กวาง หมูป่าชุกชุม เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำลำคลองไหลผ่าน ซึ่งก็มีชาวบ้านบริเวณแถบๆนั้นที่มีอาชีพทำไร่มาบุกเบิก ถากถางป่า เพื่อมาทำไร่ข้าว สมัยนั้นวัดละหารใหญ่ซึ่งถือว่าเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของเมืองระยองซึ่ง อยู่คนละฟากกับวัดละหารไร่ในปัจจุบันนี้โดยมีแม่น้ำบ้านค่ายไหลผ่านซึ่งณ. เวลาตอนนั้น หลวงปู่สังข์เฒ่าท่านอยู่วัดละหารใหญ่แห่งนี้ ท่านก็ได้พบพื้นที่ทางด้านฝั่งคลองด้านตรงข้ามทางทิศเหนือของวัดละหารใหญ่ เป็นพื้นที่ที่มีทำเลดีเหมาะแก่การเพาะปลูกพืชผัก ไว้สำหรับขบฉันในฤดูแล้งและท่านอาจจะเล็งเห็นว่า สถานที่ที่เป็นป่าดงดิบแห่งนี้น่าจะเป็นสถานที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งประกอบกับช่วงนั้นเริ่มมีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงมาบุกเบิกถากถางป่าเพื่อ มาทำไร่ข้าวหรือไร่ทุ่งข้าว บางทีก็เรียกทุ่งข้าว ก็แล้วแต่ชาวบ้านจะเรียกกัน จากนั้นหลวงปู่สังข์เฒ่าท่านก็เลยชักชวนพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดมาช่วยกัน บุกเบิกถากถางป่าเพื่อที่จะทำการเพาะปลูกพืชผัก แรกเริ่มนั้นหลวงปู่สังข์เฒ่าและพระสงฆ์ที่มาช่วยกันจะช่วยกันปลูกเป็นเพิง สำหรับพักพิงหรือพักเหนื่อยเวลาทำงาน พอถึงเวลาฉันเพลก็กลับไปฉันเพลที่วัดละหารใหญ่หรือบางทีก็อาจมาฉันเพลที่ สำหรับปลูกเป็นเพิงแห่งนี้ ซึ่งระยะต่อๆมาชาวบ้านที่ไปทำไร่ข้าวในแถบใกล้เคียงและแถวๆบริเวณนั้นมาก ขึ้น และก็มีชาวบ้านที่เลื่อมใสก็ได้นำอาหารคาวหวานมาถวายเป็นประจำทุกครั้ง ซึ่งต่อๆมาก็เริ่มมีการก่อตั้งจากเดิมเป็นเพิงสำหรับพักพิงจนก่อตั้งมาเป็น ศาลาขนาดย่อมๆขึ้นมา จากการร่วมแรงร่วมใจของพระสงฆ์และชาวบ้านที่มาช่วยกันก่อตั้งขึ้นเรื่อยๆมา จนกระทั่งมาเป็นสำนักสงฆ์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของวัดละหารไร่ในปัจจุบัน
    วัดละหารไร่ซึ่งแต่ก่อนเดิมจะเรียกวัดไร่วารีส่วนมากชาวบ้านจะเรียกติด ปากว่าวัดไร่ ส่วนวัดละหารใหญ่เรียกว่าวัดละหาร ภายหลังจากสร้างเป็นสำนักสงฆ์ละหาร ไร่ ก๋งหนิด ซึ่งเป็นต้นตระกูลดั้งเดิมของกำนันเสถียรซึ่งเป็นอดีตกำนันตำบลละหารไร่ ท่านได้เล่าให้หลวงปู่ทิมฟังว่า สมัยก่อนท่านได้มาบุกเบิกถากถางป่าพื่อที่จะมาทำไร่ข้าว ซึ่งท่านได้มาบุกเบิกในพื้นที่ติดกับที่หลวงปู่สังข์เฒ่าท่านมาบุกเบิกในดิน แดนแห่งนี้ ซึ่งพื้นที่ที่ก๋งหนิดมาบุกเบิกจะอยู่แถบบริเวณหลังเมรุเดิมของวัดละหารไร่ ไปจนถึงแถวๆบริเวณโรงเรียนของวัดไร่ ซึ่งบริเวณที่ตั้งโรงเรียนในปัจจุบันนี้สมัยก่อนก๋งหนิดเล่าว่าจะมีต้นพลับ ขนาดใหญ่หลายคนโอบอยู่และมีต้นไม้ใหญ่ๆอยู่อีกหลายต้นและเป็นป่าดงดิบและ บริเวณเดิมที่เป็นวังสามพญาจะมีต้นตะเคียนขนาดใหญ่มากอยู่แถบข้างๆบริเวณวัง สามพญานี้ ส่วนที่เป็นบริเวณหน้าวัดในปัจจุบันนี้จะเป็นพื้นที่มาบทั้งหมด ก๋งหนิดท่านเล่าให้หลวงปู่ทิมฟังอีกว่า ตอนที่ท่านมาพบหลวงปู่สังข์เฒ่าซึ่งท่านจะมีลักษณะของท่านตัวเล็กๆแต่ท่าน สามารถยกของที่หนักๆได้อย่างสบายๆทำอะไรจะคล่องแคล่วว่องไวมาก สายตาท่านเหมือนคนดุแต่ท่านใจดีมาก ซึ่งมีอยู่คราวหนึ่งตอนที่มาบุกเบิกแรกๆท่านได้เจอเสือยืนจ้องมาที่ท่าน เพียงท่านเพ่งสายตาสบเท่านั้นเสือที่ยืนจ้องมองท่านเป็นต้องเดินหลบหนีไป ทันที ปกติท่านจะมีไม้เท้าประจำตัวอยู่อันหนึ่งศักดิ์สิทธิ์มากซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ เถาวัลย์ ซึ่งไม้เท้านี้หลวงปู่สังข์เฒ่าสามารถเสกให้เป็นงูได้ พอตั้งเป็นสำนักสงฆ์ละหารไร่ขึ้นช่วงนั้นเริ่มมีผู้คนเข้ามาพักอยู่อาศัย แต่ก็มีเพียงไม่กี่หลังคาเรือน ซึ่งปกติหลวงปู่สังข์เฒ่าจะอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ของท่านองค์เดียวมาตลอด โดยที่ก๋งหนิดซึ่งมีพื้นที่อยู่ติดกันจะไปมาหาสู่กับหลวงปู่สังข์เฒ่าเสมอ สำหรับพื้นเพเดิมของหลวงปู่สังข์เฒ่า ก๋งหนิดเล่าว่าท่านชื่อสังข์เป็นคนนามะตูม จังหวัดชลบุรี หลังจากบวชเรียนเสร็จหลวงปู่สังข์ท่านก็ได้ร่ำเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณและ วิชาอาคมต่างๆในบ้านนามะตูมแห่งนี้ หลังจากนั้นท่านก็ได้ออกธุดงธุ์รอนแรมไปร่ำเรียนวิชาจากอีกหลากหลายยอาจารย์ จนมาอยู่จำพรรษาที่วัดละหารใหญ่ จากนั้นถึงได้มาบุกเบิกมาตั้งเป็นที่สำนักสงฆ์ละหารไร่แห่งนี้
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ก๋งหนิดเล่าว่าหลวงปู่สังข์เฒ่าเรียกตนเข้าไปหาจากนั้นหลวงปู่สังข์เฒ่าท่าน ก็ได้มอบพลอยแดงให้เม็ดหนึ่งมีขนาดใหญ่ประมาณเท่าหัวแม่มือ ซึ่งหลวงปู่สังข์เฒ่าท่านเล่าว่า ท่านได้มาขุดพบที่บริเวณต้นตะเคียนใหญ่ซึ่งอยู่แถวๆบริเวณวังสามพญา จากนั้นท่านก็ได้เก็บไว้อยู่นานจนหลวงปู่สังข์เฒ่าท่านได้มอบไว้ให้แก่ก๋ง หนิดเก็บรักษาไว้ ซึ่งหลังจากนั้นก๋งหนิดท่านก็ได้ห่อผ้าติดตัวไว้ประจำตัว และมีอยู่ครั้งหนึ่งก๋งหนิดท่านได้ไปมีเรื่องกับนักเลงนอกหมู่บ้าน และก๋งหนิดท่านก็ได้ถูกนักเลงคนนั้นเอามีดดาบฟันหมายจะเอาให้ตาย แต่ผลปรากฏว่าฟันยังไงก็ฟันไม่เข้า จนนักเลงคนนั้นต้องถอยหนีไป จากนั้นก็ได้สำรวจตัวเองว่าไม่เป็นไรก๋งหนิดถึงได้รู้ว่าตนเองมีพลอยที่ห่อ ผ้าติดตัวไว้ที่หลวงปู่สังข์เฒ่าท่านมอบให้ติดตัวไว้ ซึ่งภายหลังพลอยเม็ดนี้ก็ได้ตกทอดมาที่ก๋งย้วนซึ่งเป็นบุตรได้เก็บรักษาไว้ ต่อไป
    เวลาหลายปีต่อมา ความเจริญเริ่มเข้ามาได้มีชาวบ้านมาถากถางป่าบริเวณใกล้เคียงวัดมากขึ้น ซึ่งชาวบ้านบริเวณนั้นเมื่อเห็นมีพระสงฆ์มาอยู่ พอถึงวันพระชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาก็นำภัตตาหารมาถวายเป็นประจำ ครั้นพอเวลาเข้าพรรษาหลวงปู่สังข์เฒ่าก็กลับไปจำพรรษาที่วัดละหารใหญ่ ซึ่งระยะต่อๆมาเมื่อความเจริญเติบโตของหมู่บ้านมากขึ้น ประกอบกับมีชาวบ้านมาอาศัยอยู่มากขึ้น สำนักสงฆ์ละหารไร่แห่งนี้ พอถึงฤดูเข้าพรรษาก็มีพระสงฆ์ที่อุปสมบทใหม่พอใจที่จะจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ แห่งนี้ก็เริ่มมีการก่อสร้างกุฎิวิหาร ขึ้นจนมาเป็นวัดละหารไร่ตั้งแต่นั้นมาโดยมีหลวงปู่สังข์เฒ่าเป็นเจ้าอาวาส องค์แรก
    หลังจากหลวงปู่สังข์เฒ่าท่านได้มาอยู่ที่วัดละหารไร่แห่งนี้ ท่านก็ได้สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้คนและชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆนาๆซึ่ง ในสมัยก่อนจะไม่มีโรงพยาบาล ซึ่งใครเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะไปหาหลวงปู่สังข์เฒ่าซึ่งท่านจะเป็นแพทย์แผนโบราณ ช่วยปัดเป่ารักษาชาวบ้านที่มาหาท่านหรือใครโดนผีเจ้าเข้าสิงหรือโดนของคุณ ไสยโดนกระทำต่างๆ หลวงปู่สังฆ์เฒ่าท่านจะช่วยสงเคราะห์ให้ทุกๆรายไป และมีอภินิหารเกี่ยวกับหลวงปู่สังข์เฒ่ามีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าท่านสามารถ ย่นระยะทางและล่องหนหายตัวได้ ซึ่งสามารถบิณฑบาตรไปถึงเมืองบางปลาสร้อย ( ชลบุรี )ได้ ท่านเป็นพระที่เรืองในวิทยาคมมาก วาจาของท่านศักดิ์สิทธิ์มาก แม้กระทั่งน้ำลายที่ท่านถมถ้าถูกกพื้นจะแตกทันที ซึ่งย่อมแสดงให้เห็นว่าสมัยโบราณความเลื่อมใสในวิชาอาคมและไสยศาตร์ต่างๆ ความเชื่อถือย่อมมีอิทธิพลอยู่มาก หลวงปู่สังข์เฒ่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถมากเป็นที่เลื่องลือแก่ผู้คน มากในสมัยนั้น ต่อมาภายหลังเล่ากันว่าท่านมีลูกศิษย์ที่มาร่ำเรียนวิชาจากท่านมีทั้งพระและ ฆาราวาสก็มีทั้งหลวงพ่อวงศ์ วัดดบ้านค่าย หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก หมอวังซึ่งเป็นฆาราวาสชื่อดังสมัยนั้น
    หลังจากที่ท่านอยู่วัดละหารไร่ได้หลายปี ประกอบกับท่านมีชื่อเสียงมากในสมัยนั้นและเป็นที่เคารพนับถือแก่ชาวบ้านและ ประชาชนทั่วไป และท่านได้ปกครองวัดละหารไร่อยู่มาอีกระยะหนึ่ง จากนั้นตามประวัติเล่ากันว่าเจ้าเมืองระยองในสมัยนั้นได้อาราธนานิมนต์หลวง ปู่สังข์เฒ่าไปเป็นเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์อยู่ที่วัดจันทอุดมหรือวัดเก๋ง ในอดีตซึ่งปัจจุบันคือโรงพยาบาลระยองซึ่งตอนนั้นตามประวัติเล่าว่าท่านมี ตำแหน่งเป็นพระปลัดสังข์ หลังจากที่หลวงปู่สังข์เฒ่าท่านได้มาอยู่ที่วัดเก๋ง ส่วนที่วัดละหารไร่นั้นท่านได้มอบหมายให้หลวงพ่อแดงเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อจาก ท่านต่อไป


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2012
  14. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ................................
     
  15. ทหารเก่า

    ทหารเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,027
    ค่าพลัง:
    +19,019
    ลูกขอก้มกราบบาทหลวงปู่ทิม และคุณลุงสาย แก้วสว่าง ลูกขอฝากตัวเป็นศิษย์เป็นลูกเป็นหลานหลวงปู่ ทิม และคุณปู่ สาย แก้วสว่าง ขอบารมีอันยิ่งใหญ่ไพศาลของหลวงปู่ทิม ได้โปรดสถิตย์เหนือหัวลูก ขอได้โปรดเมตตาลูกด้วยเถิด กราบ กราบ กราบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2012
  16. aouly

    aouly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +619
    เจิมบอร์ดใหม่ซะหน่อย
     
  17. ทหารเก่า

    ทหารเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,027
    ค่าพลัง:
    +19,019
    กราบสวัสดีท่านอาจารย์ แก้วสว่าง พี่เสือ พี่ รุ่ง คุณ apichet40 น้าหมู คุณโต้ง ท่านรักรังสิต และทุกๆท่านผมไม่สามราถพิมพ์ชื่อได้หมดทุกท่านเพราะเยอะมาก เมื่อเช้าผมได้ใส่บาตรถวาย หลวงปู่ทิม คุณปู่สาย แก้วสว่าง ขอเชิญทุกท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญกันครับ ขอบารมีหลวงปู่ทิม และคุณปู่สาย ช่วยดลบันดาลให้ผมและพวกเราทุกคนสมหวังในสิ่งที่ต้องการ ทุกประการเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2012
  18. ekarad

    ekarad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,196
    ค่าพลัง:
    +6,264
    กราบหลวงปู่ทิม เข้ามาเจิมบอร์ดใหม่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ธันวาคม 2012
  19. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,264
    ค่าพลัง:
    +13,236
    เข้ามากราบหลวงปู่ทิม อิสริโก ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
    มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. wonderfulbiz

    wonderfulbiz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +93
    กราบหลวงปู่ทิม ลุงสาย พี่ๆ น้องๆ ลูกหลานหลวงปู่ทุกท่านค่ะ

    อนุโมทนา สาธุ กับคณะลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน ที่สละเวลา และการนำเสนอข้อมูลอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งยังไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะชน คนรุ่นหลังที่ไม่ทันหลวงปู่ทิมให้ได้รับรู้กัน

    นับว่ามีประโยชน์มากต่อประวัติของหลวงปู่ทิม ถึงแม้ว่าวันนี้ ข้อมูลจะยังไม่ได้รับรู้กันเป็นวงกว้างเหมือนกับข้อมูลที่เขียนๆ กันตามหนังสือพระในปัจจุบัน

    บางอย่างเคยตั้งข้อสงสัยอยู่เหมือนกันในข้อมูลที่เขียนๆ กันมา จนกระทั่งมาอ่านข้อมูลจากที่นี่ ข้อสงสัยนั้นๆ ก็ได้หมดไป

    ขอบพระคุณด้วยความจริงใจอีกครั้ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...