เรื่องเด่น เปิดวิธีการทำบุญ 4 อย่าง ที่ให้อานิสงส์แรง! ทำแล้วพลิกชีวิต มีแต่ความโชคดี

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 25 มีนาคม 2018.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    3-8.jpg

    การทำบุญนั้นโดยหลักแล้วจะมีอยู่ 10 ประการ เรียกว่าบุญกิริยาวัตถุ 10 หากย่นย่อก็จะเหลือเพียง 3 อย่าง คือ ทาน ศีล ภาวนา โดยเฉพาะการให้ทานนั้นถือว่าเป็นการทำบุญที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่การจะทำบุญอย่างไรให้เกิดผลมาก อานิสงส์ มีอยู่หลายปัจจัย เช่น จิตขณะก่อนให้ ระหว่างให้ และหลังให้ ต้องมีความเป็นกุศล ปรารถนาให้ทานอย่างแท้จริง โดยหวังผลประโยชน์ต่อผู้ได้รับ และไม่เสียดายหลังจากให้ไปแล้ว การให้ทานจึงจะเป็นการสละออกที่แท้จริง ไม่ใช่การหวังผลเอาคืน ขณะเดียวกันหากให้ทานโดยให้แก่ผู้ที่มีศีล มีเนื้อนาบุญที่ดี เช่น พระอริยเจ้า ก็ย่อมได้รับอานิสงส์ที่มากขึ้นตามลำดับ วัตถุที่ให้ก็ควรเป็นวัตถุบริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนใครมา เป็นต้น

    อย่างไรก็ดี การให้ทานอันยิ่งที่สามารถพลิกชีวิตของผู้ให้ ก็มีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะด้านทรัพย์สินเงินทอง ความไม่มีอุปสรรคทางด้านการเงิน ดังที่จะขอกล่าวต่อไปนี้

    1.บุญใหญ่จากการถวายทานแด่พระที่ออกจากนิโรธสมาบัติ

    บุญจากการถวายทานกับพระที่ออกจากนิโรธสมาบัติ ถือเป็นบุญพิเศษอีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากพระสงฆ์ที่เข้านิโรธสมาบัติจะต้องเป็น “พระอรหันต์” เท่านั้น ซึ่งเข้านิโรธสมาบัติเป็นเวลานาน 7 วัน เมื่อออกจากนิโรธแล้ว คนแรกที่ใส่บาตรหรือถวายภัตตาหารให้แก่พระจะได้รับอานิสงส์มาก สามารถพลิกชะตาได้ในระยะเวลาอันสั้น มีเรื่องเล่าในสมัยพุทธกาล ของนายปุณณะ ผู้ไถดินให้เป็นทอง ตามที่ปรากฎใน อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท โกธวรรคที่ ๑๗ นายปุณณะและภรรยาผู้ยากจน กลายเป็นเศรษฐีในพริบตา เพราะถวายทานแด่พระสารีบุตร ที่ออกจากนิโรธสมาบัติ จนทำให้ที่นาซึ่งนายปุณณะไถอยู่นั้นกลายเป็นทองคำ เขาจึงกลายเป็นเศรษฐีอย่างฉับพลัน อย่างไรก็ดีจะเห็นว่าการถวายทานในรูปแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ก็จริง แต่น้อยนัก เพราะอยู่ที่พระภิกษุท่านด้วยว่าจะมาโปรดใคร หรือใครที่มีศรัทธาสามารถทำได้ และแม้ว่าในปัจจุบันยังคงเชื่อว่ามีพระอรหันต์อยู่ก็ตาม หากแต่เราๆก็ไม่ทราบเช่นเดียวกันว่า พระภิกษุรูปใด คือพระอรหันต์ ฉะนั้นคงแล้วแต่บุญวาสนาที่ทำมาหรือบุญสัมพันธ์เท่านั้น

    2. บุญสลากภัตประเพณีสลากภัต หรือ ทานสลาก

    นิยมจัดขึ้นทางภาคเหนือ และภาคอีสาน โดยภาคอีสานนั้นจะเรียกว่า “บุญข้าวสาก” จัดขึ้นในเดือนสิบของทุกๆปีก่อนออกพรรษา ปีหนึ่งจะมีบุญสลากภัต 1 ครั้ง การถวายสลากภัต เป็นการถวายเครื่องไทยทานแก่พระสงฆ์ และถือเป็นหนึ่งในการถวายทานในลักษณะของสังฆทานอีกด้วย โดยจะมีการตัดใบลานหรือกระดาษเป็นแผ่นๆนำมาเขียนชื่อของเจ้าของก๋วยสลากพร้อมกับหมายเลข และเขียนว่าสลากนี้จะอุทิศไปให้กับใคร ต่อมาพระสงฆ์ทำการจับสลากแล้ว ให้เจ้าภาพนำไปถวายตามหมายเลขของตน หากสลากนั้นเป็นสลากกองใหญ่ พระสงฆ์จะรับและอ่านข้อความ พร้อมกล่าวคำอนุโมทนา เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการทางวัดจะนำเส้นสลากทั้งหมดไปทำการเผาตามพิธีกรรม สำหรับบุญสลากภัต มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยนางยักษิณีเป็นผู้เริ่มตั้งสลากภัต
    และอานิสงส์ของการถวายสลากภัตที่เด่นชัด คือ ผู้ถวายสลากภัต จะเป็นผู้มีอยู่มีกิน ไม่อดอยาก มีฐานะที่ดีขึ้น เป็นผู้มีโชคดีอยู่เสมอ

    3. บุญจากการบริจาคโลงศพ การทำบุญบริจาคโลงศพ

    คือการให้ทานประเภทหนึ่ง ที่มีความเชื่อกันว่า สามารถสะเดาะเคราะห์ ต่ออายุ ให้กับคนที่กำลังประสบเคราะห์กรรมได้ และในอีกนัยย์หนึ่งของอานิสงส์การทำบุญบริจาคโลงศพ เป็นการคลายความทุกข์ให้กับญาติของผู้ตาย เนื่องจากบางครอบครัวอาจมีปัญหาเรื่องเงินทองหรือเดือดเนื้อร้อนใจจากการจัดงานศพ การทำบุญบริจาคโลงศพ ก็จะทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตคลายความทุกข์ใจไปได้ และจะเกิดอานิสงส์กับผู้ให้ คือได้คลายความทุกข์ใจต่างๆ โดยเฉพาะการคลี่คลายปัญหาด้านการเงิน ตามที่ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือ หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้ตอบคำถาม จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๒๘-๓๑ ความตอนหนึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า “แต่ว่าเคยพบมาหลายรายแล้วนะ ถ้าเขาอุทิศโลงศพแล้วรวยทุกราย นี่เรื่องจริงๆ นี่พบมาจริงเลยนะ อันดับแรกเขาต่อโลงไว้ที่บ้าน ๔-๕ ลูก ต่อๆมาก็เพิ่มหลายลูกขึ้น แล้วก็มีคนร่วมหุ้นส่วน และฐานะเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นี่เคยเห็นมาแล้วนะ คือเอาผลปัจจุบัน เวลานั้นเขามีความทุกข์ยาก ญาติเขาตาย เจ้าภาพหนักใจมาก ไม่มีเงินก็ต้องกู้เขา สถานที่กู้ก็ยังไม่แน่จะไปกู้ได้ที่ไหน หนักใจไม่น้อยเลย”

    4.การทำบุญให้ทานโดยไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า

    ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการทำบุญให้ทานที่ให้ผลในด้านโชคลาภ ลาภลอย เพราะในอดีตเคยทำบุญเฉพาะหน้ามาก่อน ดังที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวไว้ในหัวข้อ “ถูกหวย 9 ล้านเขาทำบุญอย่างไร” ซึ่งปรากฏตามเว็บไซต์ต่างๆ ใจความตอนหนึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า “เป็นอันว่าคนที่พูดเมื่อกี้นี้เมื่อชาติก่อนเขาทำบุญโดยไม่ตั้งใจ ทำบุญไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน จึงถูกหวย เรียกว่า” ลาภลอย

    “ ฉะนั้นเวลาไปเจอะเขาถวายสังฆทานที่ไหนควักเลย บาทครึ่งบาท ทำเลย อย่างนี้ก็รอชาติหน้า แต่ถ้าทำบ่อยๆ ชาตินี้ก็ได้นะ แต่ไม่ต้องทำมาก อย่าให้เดือดร้อนนะ แค่นิดหน่อยพอที่เราไม่เดือดร้อน ถ้าเจอะเมื่อไรทำเมื่อนั้น ถ้าทำบ่อยๆ ได้ผลชาตินี้”

    อย่างไรก็ดี ตามหลักการทำบุญให้ทานที่แท้จริงนั้น คือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน จะทำให้ได้รับอานิสงส์มาก เมื่อให้ทานแล้ว อิ่มบุญแล้วก็จงปล่อยวางในบุญ… เพราะผลของการประกอบบุญจะตอบแทนเองตามกฎแห่งกรรม

    ที่มา www.tnews.co.th


    -------------------------
    ขอบคุณที่มา
    http://eatrices.com/ธรรมะ/8793/
     
  2. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +1,095
    sa335.jpg
     
  3. กุญแจธรรม

    กุญแจธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +286

แชร์หน้านี้

Loading...