เปิด "กฎแห่งกรรม" ตามหลักวิทยาศาสตร์ ยุคพลังงานใหม่ ความลึกลับถูกเปิดเผยในกึ่งพุทธกาล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 21 มิถุนายน 2018.

  1. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    เดี๋ยว ๆ รับ ผมยังพูดไม่ชัด

    "แต่สิ่งที่โดนกระทบไม่ใช่สิ่งที่มากระทบ"

    อันนี้ผมพูดผิดนะ

    คือ ลูกสนุกลูกแรกที่โดนกระทบจากไม้ เป็นตัวไปกระทบลูกสนุกลูกอื่น ลูกที่โดนลูกขาวกระทบ ก็วิ่งไปตามแรงที่โดนลูกขาวมากระทบอีกที

    พลังงาน ที่เกิดขึ้น อาจเป็น พลังงานชนิดเดียวกัน

    แต่สิ่งที่เป็นตัวกลางของพลังงานมันไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

    จึงไม่อาจพูดได้ว่า ไก่ย่อมเกิดจากไก่น่ะครับ

    และการที่จะพูดว่า พลังงานอย่างเดียวทำให้ลูกสนุกลูกแรกวิ่งไปกระทบลูกอื่น มันไม่ใช่ไง
    มันต้องมีเหตุการณ์ที่ ตัวเราหยิบไม้ขึ้นมา เล็งแล้วแทง

    จึงจะเกิดพลังงานการเคลื่อนที่ ถ่ายทอดผ่านไม้ไปยังลูกสนุกได้

    ดังนั้น ผมเลยมีความคิดเห็นว่า การที่จะพูดว่า พลังงานบีเกิดจากพลังงานเออาจจริงอยู่ แต่ก็อาจไม่ถูกทั้งหมด เพราะ พลังงานเอไม่ได้เปลี่ยนพลังงานบีเป็นพลังงานเอด้วยตัวของมันเองเพียงอย่างเดียวโดยตรง

    ซึ่งถ้ามอง เหตุการณ์ ผมแทงลูกสนุก โดยเจตนาแค่ใช้พลังงานแทงให้ไปกระทบลูกอื่น
    การแทงลูกโดยมีผลสำเร็จไปกระทบลูกอื่น คือกรรม ส่วนผลของกรรมก็คือ พลังงานที่ถูกขับเคลื่อนออกไปจากการแทงลูกสนุกทำให้วิ่งออกไปกระทบกันไปมาบนโต๊ะ จนกว่าแรงที่กระทำต่อลูกสนุกบนโต๊ะจะหมดลงจนหยุดวิ่งไปเอง

    วิบากกรรมคือ

    คนที่ดูอยู่ โห่ เพราะเราไม่ได้ทำแต้มและมีกลยุทธที่ติดตราตรึงใจสมกับเป็นนักกีฬา อย่างนี้เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ไม่ใช่ไม่มีพลังงานค่ะ ทุกสรรพสิ่งมีแก่นแท้เป็นพลังงานค่ะ และแก่นแท้พลังงานที่มีความสมดุลคลื่นความถี่สูงละเอียดมากที่เหมือนกับไม่ได้สั่นสะเทือนหรือหยุดนิ่ง แท้แล้วที่จริงมันสั่นสะเทือนอยู่ หากแม้มิได้มีการสั่นสะเทือนเลยปรากฎการณ์ไหวจะเกิดขึ้นมิได้เลยค่ะ ปัจจัยอื่นที่มาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าทุกสิ่งล้วนเกิดมาจากเหตุ หากมองให้เห็น เหตุของวงจรปฏิจจสมุปบาท ที่เป็นเหตุซึ่งกันและกัน และการไหวกระเพื่อม เปรียบดั่งเป็นกริยาจิต ที่สร้างปรากฎการณ์ขึ้น เปรียบเทียบตามนัยยะนี้ค่ะ
     
  3. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    เอาเป็นว่ามันมีพลังงานอยู่ แล้วมีพลังงานอื่นไปกระทำ ทำให้มีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปก็ได้ครับ
    แต่ยังไงกระบวนการของเหตุการณ์ที่ผมยกตัวอย่างมันก็ไม่น่าจะเปลี่ยนหรอก
    แค่พูดให้เห็นในมุมมองของคนที่มองด้วยตาเปล่าเฉย ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  4. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    เพราะอวกาศหนาว วัตถุธาตุเลยต้องสั่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อเพิ่มความร้อนแต่ก็ทำให้เสียพลังงานเยอะตามจึงกลายเป็นคลื่นหมุนวนก่อกำเนิดเป็นดวงดาว กาแล็คซี่ เพื่อหาที่ปกป้อง ผมมนุสวิญญาณกล่าวจากประสบการณ์จริง
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    การเปิดเผยกรรมที่เข้ามาเกี่ยวข้องในยีนส์ดีเอ็นเอ ของมนุษย์แต่ละคนได้อย่างไร?

    เมื่อมนุษย์สร้างพลังกรรมขึ้นมาแล้วแผ่ออกมาภายนอกร่างกายที่อยู่ในสนามพลังงาน และเคลื่อนไหลไปสู่สนามพลังงานจักรวาล ที่ว่าพลังงานบวกจะสะสมไว้ เพราะเป็นพลังงานชนิดเดียวกันกับจักรวาล ส่วนพลังงานลบเป็นคนละชนิดกันจะถูกผลักสะท้อนกลับคืนกลับมายังผู้เจ้าของทันที จะรุนแรงหรือรวดเร็วเพียงใด ขึ้นอยู่กับพลังอำนาจกรรมด้านลบมีพลังรุนแรงแค่ไหน ? กับผลกรรมลบที่สร้างขึ้นแล้วสะท้อนกลับคืนสู่เจ้าของ ตามลำดับกาลเวลาที่ได้กระทำไว้บนโลก เนื่องจากมนุษย์อยู่ในกรอบเวลาที่เป็นเส้นตรง โดยเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์หนึ่งเสมอ พลังงานกรรมแต่ละกลุ่มที่ต้องเผชิญก็เป็นเช่นนั้นด้วยเช่นกัน

    คนที่ทำกรรมชั่วในชาตินี้แล้ว ดูเหมือนว่ากรรมไม่สนองนั้น เพราะยังไม่ถึงเวลา เนื่องจากกรรมเก่าในภพชาติก่อน ๆ ยังมีอีกมาก ที่เคยกล่าวไว้แล้วค่ะ

    ทำไมการตายของมนุษย์แต่ละคนจึงไม่เท่ากัน?

    ในร่างกายมนุษย์ จะมีดีเอ็นเออยู่ในทุกเซลล์ของร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งเป็นพลังงานไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็ก ยีนส์หรือดีเอ็นเอนี้ จะถูกกติดตั้งรหัสกรรมจากอดีตชาติ คือเป็นรหัสบุรพกรรมแม่เหล็กของแต่ละคน
    ก็คือข้อมูลอันเป็นคุณสมบัติกรรมที่เป็นวิบากกรรมต่าง ๆ ในอดีตชาติที่สั่งสมไว้ และยังไม่ได้รับการชดใช้ หรือทำให้เป็นโมฆะ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือบุญ อันเป็นพลังงานด้านบวก กรรมชั่วหรือบาปอันเป็นพลังงานด้านลบ เส้นใยเกลียวแม่เหล็กจะทวนรหัสสัญญาณที่นำมา คอยกำกับยีนส์หรือดีเอ็นเอซึ่งอยู่ภายนอกอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อดีเอ็นเอรับเอาข้อมูลรหัสดังกล่าวไว้แล้ว จะนำพลังงานเก่านั้นมาสร้างสู่กระบวนการชีวภาพ ทำให้ร่างกายทั้งระบบมีการเจริญเติบโตตามสัดส่วนพลังงานกรรมจากอดีตชาติของจิตวิญญาณแต่ละคนต่อไป นี้ค่ะที่ทำไมคนเราจึงมีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกัน

    อายุขัย การเจ็บไข้ได้ป่วย การบกพร่องอวัยวะภายนอก ภายใน ที่ไม่ได้เกิดจากการสร้างใหม่ที่ประมาท ล้วนเป็นผลกรรมในอดีตชาติ หรือเป็นไปตามพันธสัญญาที่ตนเองกำหนดมาให้ต้องเป็นเช่นนั้น

    หลังจากที่ดีเอ็นเอได้รับรหัสกรรมเก่าจากเส้นใยเกลียวแม่เหล็กที่อยู่ในเซลล์แล้ว
    ดีเอ็นเอจะเป็นตัวจะเป็นตัวกำหนดให้เส้นใยเกลียวแม่เหล็ก เปิดรับพลังงานจักรวาลซึ่งถูกส่งผ่านมาตามโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกที่ห่อหุ้มตัวมนุษย์ไว้ ตามสัดส่วนที่ได้รับมา

    เนื่องจากจิตวิญญาณทุกดวง นำรหัสกรรมเก่ามาจากอดีตชาติ ที่มีพลังงานด้านลบติดตัวมาด้วยทั้งสิ้น ระบบร่างกายจะได้รับพลังงานจักรวาลขาดความสมดุล จะทำให้สังขารมนุษย์มีการร่วงโรยไปเร็วหรือข้า
    ขึ้นอยู่กับพลังกรรมเก่าที่เคยสั่งสมไว้ในอดีตชาติเป็นสำคัญ

    การขาดพลังงานจักรวาลจะทำให้เซลล์ร่างกายหรืออวัยวะต่าง ๆ หยุดการเจริญเติบโตหรือหยุดฟื้นฟูตนเอง ในที่สุดมนุษย์คนนั้นต้องตายไปตามกรรมหรือหมดอายุขัย

    เส้นใยแม่เหล็กดีเอ็นเอ จีงถูกจัดวางขึ้นภายในเซลล์ต่าง ๆ ทุกเซลล์ ก็เพื่อช่วยให้แผนการตายเพื่อการกลับชาติมาเกิดใหม่ของมนุษย์ด้วยอำนาจแห่งผลกรรมที่เรียกว่า
    "พลังงานเก่า" ของแต่ละคนเป็นไปอย่างเหมาะสมนั่นเอง

    พอมองภาพออกไหมค่ะว่า กรรมที่สร้างขึ้นแล้วแผ่ออกมาภายนอกร่างกาย แล้วเป็นดั่งเงาตามตัวเป็นอย่างไร? และที่ว่าเป็นดั่งบูมเมอแรง กว้างไปไกลเท่าไหร่ก็กลับมาคงเดิม ถ้าเป็นพลังงานบวกหากสะสมไว้มากพอจะถูกดึงดูดให้เจ้าของด้วยพลังแห่งจิตใต้สำนึก แต่ถ้าเป็นพลังงานลบจะไหลคืนกลับตามระยะเวลาที่สร้างกับความรุนแรงของกรรมนั้น ๆ ค่ะ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  6. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ผมยังมองไม่ออกหรอกครับ

    แล้วเวลาตาย คนเราก็เอาดีเอ็นเอไปด้วยไม่ได้นี่ สิ่งที่ถูกบันทุกในดีเอ็นเอต้องหายไปกับดีเอ็นเอสิ
    งั้นก็ไม่ควรที่จะมีใครจำกรรมของคนอื่นได้เมื่อตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ


    อันนี้ ขอ พูดแบบมโน ๆ นะครับ สีแดงคทอมโนละกัน

    ไม่ว่าพลังงานด้านดีหรือด้านลบ ล้วนมีอยู่ในโลก และมีอยู่ในตัวเรา
    พลังงานความดีของเราก็ออกจากตัวเราเมื่อเราทำดีใจดี พลังงานด้านลบของเราก็ออกจากตัวเราเมื่อเราทำชั่วใจร้าย

    แต่ ผมมองว่า กรรมที่เราทำ มันจะถูกบันทึกลงไปจิตของเราและคนที่เคยเกี่ยวข้องอยุ่กับเราในเวลาที่เราทำกรรมมากกว่า
    และฝังลงไปในจิตใต้สำนึกอย่างที่คุณจิตยิ้มว่า

    จิตใต้สำนึกของใครจำกรรมเราได้เขาก็จะสนองเราตามกรรมของเราที่เขาได้รับรู้ในขณะที่เขามีความเกี่ยวข้องกับเรามากกว่าครับ

    ส่วนพลังงานกรรมที่ลอยอยู่ข้างนอก ตามความเชื่อของผม ถ้าไม่ทำกรรมหนักจริง ๆ มันมีผลกับเราน้อยมากกว่ากรรมอื่น ๆ อีกนะ ผมมองว่ามันน่าจะเป็นเหมือนเทปบันทึกเหตุการที่แฝงไว้ในบรรยากาศมากกว่า
    ซึ่งผมก็เชื่อว่ามี แต่แค่ไม่เข้าใจการทำงานของมันมาก เพราะสัมผัสไม่ได้
    และพลังงานกรรมชนิดนี้ มันไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเจ้าของกรรมได้มากเท่าไรหรอกถ้าไม่ก่อกรรมหนักหนาไว้จริง ๆ
    (มโน ความจริงอาจเป็นพลังงานกรรมชนิดที่มีผลมากที่สุดหรือเปล่า ใครรู้บอกที)
    เช่นพลังงานกรรมของคนที่ทำกรรมฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาก ๆ ตายไป พลังงานกรรมที่เกิดจากการฆ่าสัตว์อาจจะก่อเกิดเป็นรูปรา่งเป็น คนครึ่งสัตว์ที่เขาฆ่า เช่น คนฆ่าปลา เวลาตายไปเกิดในนรก ก็อาจมีกรรมที่ปรากฏรูปร่างตัวเป็นคนหัวเป็นปลาไปทรมานเขาในนรกอะไรแบบนี้น่ะครับ หรือเกิดใหม่มีร่างกายพิการอะไรก็ว่าไป

    ที่ผมอยากเข้าใจมากที่สุดคือพลังงานกรรมชนิดที่ก่อเป็นรูปร่างได้นี้แหละ ว่าทำไมมันจึงสามารถปรากฏเป็นรูปร่างและสนองผู้ทำกรรมได้ รอเก็บไว้วิจัยทีหลังตอนความสามารถถึงละกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    นั่นนะซิค่ะ ท่านพูดถูกเลยค่ะ

    ทีนี้พอคนเราตายขันธ์ห้าดับแตกไป วิญญาณขันธ์กับจิตวิญญาณ วิญญาณขันธ์แตกดับ แต่...จิตวิญญาณท่องไปในภพภูมิต่าง ๆ ตามแรงกรรมที่สั่งสมไว้

    จิตเป็นผู้บันทึกเทปเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ จิต หรือ อยู่รอบ ๆ จิต โดยมีวิญญาณที่เป็นหมุนรักษากรรมไว้ นึกภาพอิกไหมค่ะ ที่ว่าจิตประกอบด้วย 3 ส่วน ชั้นในสุดเป็นนิวเคลียส(คิดรู้ได้ทุกสรรพสิ่ง) และถัดมาเรียกว่าจิตวิญญาณ (คิดรู้ได้ และตรงนี้แหละค่ะที่เป็นที่อยู่ของกรรม) และมีวิญญาณรอบนอกสุด ที่หน้าที่ห่อหุ้มไว้ และเป็นยานพาหนะพาจิตไปเกิดตามกรรมที่สั่งสมไว้ไปเกิดตามภพภูมิต่างๆ

    แล้วพลังงานกรรมที่เป็นวิทยาศาสตร์ ที่กล่าววว่า เมื่อจิตคลื่นสั่นสะเทือนเป็นพลังอำนาจใหม่และแผ่ออกมานอกร่างกาย เพื่อติดตามเจ้าของดั่งเงาตามตัว คำว่า"เงาตามตัวนี้" มีในพระไตรปิฎกด้วยนะค่ะ ที่ว่าพระภิกษุรูปหนึ่งปฏิบัติแล้วเหมือนกับมีผู้หญิงอยู่ด้วย พอตรวจสอบแล้วไม่มี พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นกรรมเก่าที่คอยติดตามพระภิกษุองค์นั้น เคยอ่านค่ะแต่จำพระสูตรไม่ได้

    กรรมในเชิงวิทยาศาสตร์โลก

    การให้คำจำกัดความหรือความหมายของคำว่า "กรรม" นั้นส่วนใหญ่ มักคุ้นเคยกับอรรถาธิบายเชิงปรัชญาของศาสนากันอยู่มาก ซึ่งค่อนข้างยากต่อการทำความเข้าใจของมนุษย์ยุคใหม่ เมื่อไม่รู้ว่ากฎแห่งกรรมคืออะไร จึงยากให้เข้าใจยอมรับกฎแห่งกรรมได้เช่นกัน

    ที่ได้กล่าวไว้บางส่วนมาแล้ว คลื่นความคิดของจิตมนุษย์และคลื่นพลังงานทางอารมณ์จะผลักดันออกมาสู่ภายนอกตลอดเวลา ส่วนใหญ่เป็นการตอบสนองบุคคลอื่นด้วยการแสดงออกและการกระทำอย่างต่อเนื่อง คลื่นพลังงานเหล่านี้จะเกิดเร็วและสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสง มนุษย์มักจำกันไม่ได้ว่า ในแต่ละวันตนได้สร้างคลื่นพลังงานกรรมอะไรไว้บ้าง

    กรรมที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์ คือ พลังงานกรรมลบ และผลกรรมทั้งทางด้านบวกและลบ คือ ตัวการก่อให้เกิดกฎแห่งกรรมขึ้น ซ่อนกฎของจักรวาลไว้อีกชั้นหนึ่ง โดยไม่ต้องมีใครควบคุมมัน
     
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    พลังงานกรรมใด ๆ ก็ตาม ที่เกิดจากการคิดและอารมณ์ เมื่อนำไปสู่การแสดงออกและการกระทำต่อสรรพสิ่งใด ๆ แล้วก็ตาม เมื่อแผ่ออกสู่สนามพลังงานภายนอกร่างกาย แล้วจะเป็นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กชนิดหนึ่งที่จับกลุ่มกันไว้

    เมื่อจิตวิญญาณมาสู่รูปธรรมมนุษย์โลกเข้าจริง ๆ ปรากฎว่าบานประตูถูกปิดสนิท จนมนุษย์ไม่รู้ที่มาที่ไปของตนเองเลย จึงได้ก่อกรรมขึ้นทับซ้อนมากมาย พลังงานกรรมที่สร้างขึ้นไม่อาจสูญหายไปไหนได้ กลุ่มพลังงานกรรมเหล่านั้นจะไร้พลังอำนาจ ก็ต่อเมื่อมนุษย์ที่เป็นเจ้าของมัน ทำให้มันแตกสลายกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง แทรกซึมไปทั่วจักรวาลเท่านั้น คุณสมบัติของกรรมนั้นจึงจะหมดไปได้

    พลังกรรมไม่มีวันสูญสิ้น นอกจากมนุษย์ที่เป็นเจ้าของจะยอมรับและชดใช้มันสถานเดียว

    จึงเป็นคุณสมบัติจิตวิญญาณที่ติดตามไปในการเกิดทุก ๆ ภพชาติ ไม่ว่าจะไปสู่รูปธรรมใด ที่ใด หรือบนดาวเคราะห์ดวงใดในจักรวาลนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    กฎแห่งกรรม

    การเกิดภพชาติของมนุษย์ ล้วนเป็นไปตามพลังงานที่เป็นบุรพกรรม หรือวิบากกรรมของจิตวิญญาณในกายมนุษย์แต่ละคน เป็นตัวผลักดันให้เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งลักษณะกรรมส่วนใหญ่ที่มนุษย์ต้องเผชิญ มักจะเป็นเรื่องราว สถานการณ์ และบุคคลที่เป็นปัญหา วิบากกรรมเหล่านี้เป็นอุปสรรคกีดกันไม่ให้รู้ความจริง โดยที่มนุษย์ผู้มีกรรมมากจะเข้าใจผิดคิดว่ารูปธรรมสังขารของตนนั้นคือ ตัวตนที่แท้จริง จึงเกิดหลงรูปเงาของตน และสร้างกรรมใหม่ทับซ้อนเพิ่มขึ้นมากมายในภพชาตินั้น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่รู้สิ้นสุด ด้วยอำนาจพลังกรรมที่ตนสะสมไว้ จนหาทางหลุดพ้นไปจากวงเวียนกรรมได้ยากกว่าคนอื่น ๆ

    พลังงานกรรมกลุ่มใด ๆ ก็ตาม มนุษย์นั้นจะต้องชดใช้มันสถานเดียว กรรมนั้นจึงจะสิ้นสุดได้

    การชดใช้กรรม เพื่อดับพลังงานกรรมของตน แต่ละกลุ่ม มี 3 วิธี
    ๑.ต้องเผชิญและฝ่าฟันมันไป
    ๒.ต้องทำกรรมนั้นให้เป็นโมฆะให้จงได้
    ๓.ต้องรอขอจากจักรวาล สำหรับยุคพลังงานใหม่ ด้วยคำพูดจากเจตนาจากจิตใจของเรา พร้อมกับคลื่นพลังงานจากการสั่นสะเทือนของจิตนั้น จะใช้เส้นทางนี้สื่อกับจักรวาลเป็นสำคัญ คือ

    ๑.การร้องขอกรรมดีมาแทนกรรมปัจจุบันที่ไม่พอใจ คือ การตั้งสัจจะในการมีจิตสำนึกที่ดีนั่นเอง หมายถึง การน้อมเอาพลังงานด้านบวกของมนุษย์ที่เคยสะสมไว้ในภพอดีต มาสู่บทเรียนการดำเนินชีวิตในภพชาตินี้ก่อนเวลาที่ควรจะเป็น ซึ่งมนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์กระทำได้หากต้องการ เช่น อยากมีชีวิตรอด อยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อยากโชคดีเป็นต้น ในขณะที่สถานการณ์ของตนนั้น ต้องเผชิญชะตากรรมในทางที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ร้องขอ

    มนุษย์สามารถร้องขอด้วยการสร้างคลื่นความคิดในสภาวะมีสมาธิ ได้โดยใช้ช่องทางสื่อผ่านช่องทางสื่อตาที่สาม

    เมื่อถึงเวลาเหมาะสมมนุษย์จะได้ทันที

    ต้องหมั่นทำทุกวัน มีความเชื่อมั่นและมีศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม เพื่อให้ผลึกแห่งความต้องการตกลงสู่จิตใต้สำนึก หากมีวิบากกรรมด้านลบไว้มาก ต้องอาจรอคอยที่ค่อนข้างยาวนาน การร้องขอกรรมใด ๆ มาทดแทนกรรมเก่าแบบลัดคิวเช่นนี้ จะต้องได้รับจากการยินยอมจากจิตวิญญาณของตนเองก่อนเสมอ ถ้าวิญญาณของผู้นั้น ยังไม่ได้เรียนรู้บทเรียนนั้นเลย หรือยังเรียนรู้ได้ไม่เป็นที่พอใจ วิญญาณผู้นั้นจะปฏิเสธการร้องขอนั้น โดยจะไม่ยินยอมใช้พลังอำนาจที่ตนมีอยู่เพื่อสิ่งที่ร้องขอโดยเด็ดขาด การร้องขอใด ๆ ไม่มีวันสัมฤทธิ์ผลแน่นอน ส่วนใหญ่จะเป็นกรรมหนัก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสี่ยงภัย เสี่ยงตาย และความทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง

    ๒.การร้องขอโอกาสเพื่อบำบัดรักษาโรค
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ท่านไฮเปอร์ไปไหนหนอ ! ไม่สนใจเรื่องแบบนี้เหรอ! ถ้าทำได้จริงก็ประสบความสำเร็จจริงค่ะ แต่ไม่ใช่เป็นการกระทำแบบอ้อนวอนนะ แต่ต้องเป็นการดึงกรรมดีที่สั่งสมในอดีตชาติมาใช้ และสร้างพลังกรรมบวกทดแทนกรรมลบ แต่การที่จะทำได้ที่ว่าต้องได้ยอมรับจากจิตวิญญาณ ก็คือเรียนรู้กรรม จนตนเองเข้าใจกรรมที่ตอบสนองอย่างถ่องแท้จริง สำนึกผิด ตั้งสัจจะกระทำใหม่ จิตวิญญาณนั้นจึงจะยอมทำค่ะ ถ้าไม่เข้าใจและรับกรรมอย่างเพียงพอ และมีความสำนึกผิดแล้ว ยากที่จะทำและจะต่อต้านทันทีค่ะ
     
  11. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    จริงหรือค่ะ

    นี่ขนาดท่านไร้กรอบว่าไม่ธรรมดาแล้วนะ แต่คงไม่ยากเกินพยายามหรอกค่ะ

    และเรื่องกฎแห่งกรรมนี้ถ้าทำความเข้าใจได้จริง ๆ จะเข้าใจชีวิตได้มากขึ้นเลยค่ะ
     
  12. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    คุยกับกรรมแล้วมานไม่รู้เรื่องอะ มานจะพาเราไปทัวร์นรกลูกเดียวตอนมีอาการใหม่ๆ หลังๆก็เริ่มออกทะเล มีความสุขจริงๆ แค่ 2 ฝันเองมั้ง ดูเป็นผู้เป็นคน คาดว่าตอนนี้เป็นกัปที่พึ่งกำลังสร้าง รอยุคไฮเทคก่อนค่อยว่ากันใหม่ ต้องปราบซินให้หมดก่อนจึงจะพบกับความสุขที่แท้จริงได้
     
  13. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    เรื่องร้องขอ หรือภาวนาให้เกิดแต่เรื่องดีๆ ผมก็ทำตลอดเวลาอะ แต่มันยากมากเลยกับปริมาณบาปของคนเราที่ทำมาตั้งแต่อดีต (พระพุทธเจ้ายังทำไม่ได้เลย) สักวันเราต้องไปพัวพันกับบาปกรรมอันหนักใหญ่หลวงเข้าสักวัน วันนั้นละจะคือจุดเปลี่ยนชีวิตเรา มาทำตัวเป็นพ่อพระอีกมีแต่บวชสถานเดียวแหละ หัวมันรับอะไรใหม่ๆ ไม่ไหวแล้ว กับสถานการผณ์โลกปัจจุบันก็ได้แต่เดา ลุ้นหวยก็ยังไม่ถูกเลย บุญไปไหนหมดก็ไม่รู้ เจอซินสาปส่งทุกวันด้วย ผมก็อาการจะตายได้ทุกเย็น เหนื่อย ชีวิต
     
  14. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    มีเรื่องข้องใจอีกเยอะ คือเรื่องบารมีของพระพุทธเจ้า เราคิดอะไรเกินเลยท่านไม่ได้เลย ไม่งั้นจะเกิดความรู้สึกว่าบาป ทำพระอรหันต์โกรธก็สาปส่ง ไม่มีความสุขแล้ว ทีนี้ผมยิ่งนับถือพระเจ้าผิดๆ ถูกๆ อีก ชีวิตยิ่งเละไปกันใหญ่ บารมีตีกันจนผมไปไม่ถูก กลัวนรกของแต่ละท่านมาก ผมก็พยายามอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ว่ามันไม่มีจริง นรกเวอร์ๆ อะ ตายฟื้นอะไรประมาณเนี๊ยะ พระเจ้าอีกบึงไฟกำมะถันซึ่งผมก็เป็นออยู่ โรคกลัวขี้ขึ้นสมองทั้งนั้น มาเจอจุดเปลี่ยนกับพระเจ้าอีก ไปแนวซึซึมิยะไปแล้วผม ยากที่จะหวนกลับ ไม่รู้จะคืนดีไงกับพระเจ้าไม่มีตัวตน ไปกราบพ่อ แม่ยังดีกว่า กลัวไปหมดแล้ว บารมีแต่ละท่านสูงส่ง ผมก็ลุยเดี่ยวด้วย เหนื่อย ทำได้แต่อธิบายลงเน็ต กรรมปากด้วย ใบ้จะกินเอา
     
  15. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,560
    ค่าพลัง:
    +4,728
    _20180625_215022.JPG มาส่งกำลังใจค่ะ. ^^
     
  16. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    เป็นเหมือนกัน
    มีเรื่องที่ไม่เข้าใจหลายเรื่อง มีเรื่องที่กลัวหลายเรื่อง และกลัวมันทุกเรื่อง
    ผมเกลียดความไม่รู้เพราะงี้แหละ
    ถ้าไม่รู้ก็ต้องแสวงหาความรู้ครับ พอตัดสินใจได้ดังนั้น ผมก็ตัดสินใจว่าจะทำแต่สิ่งที่ตัวเองเข้าใจแล้วเท่านั้น เพราะไม่ชอบการสอนของบรรพบุรุษเรา ที่เอาบาปกรรมมาขู่ และบางครั้งก็กลัวบาปกรรมเกินจน บูชาคนที่ผิด บูชาคำสอนที่ผิด ไม่กล้าทำให้ตัวเองเกิดปัญญา ไม่กล้าแย้งครูบาอาจารย์ ทำให้ได้แต่ฟังโดยที่ยังสงสัย
    ผลก็ออกมาเป็นผมตอนนี้แหละ หยาบ ๆ ห้วน ๆ แสดงความรู้สึกไปตรง ๆ อะไรที่ยากเกินเรียนรู้ ข้ามไปก่อน เอาที่เรียนได้ รู้ได้ เป็นการตัดสินใจลุยแบบบ้าบิ่นน่ะครับ

    ทำความเข้าใจว่าศาสนาพุทธแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร และทำตามสิ่งที่เข้าใจ ระหว่างนั้นก็ศึกษาธรรมดาของโลกไปด้วย

    จนพอที่จะเข้าใจว่า ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มีเค้าโครงเป็นอย่างไร

    ก็ทำตามความตั้งใจของตัวเองเอาล่ะครับ คือเข้าใจดีแล้วค่อยทำ อะไรไม่เข้าใจก็ยังไม่ต้องทำหรือให้ทำเท่าที่เข้าใจ จะติดกรรมติดอะไรช่างมัน เพราะตัดสินใจว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าให้ได้ เลยต้องทำอะไรแหกคอกแหกลู่แหกรั้วเพื่อความเข้าใจที่กว้างหน่อย

    แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะขอพรกับธรรมชาติ ว่า เกิดชาติต่อ ๆ ไป ขออย่าให้โง่แบบในชาตินี้เลย ขอปัญญามากขึ้นมาบ้าง ขอใจที่สงบพอที่ะทำให้เกิดฌาณบ้าง อย่าได้เกิดมาเป็นโรคประสาทอย่างชาตินี้เลย

    แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจำความรู้ที่สั่งสมมา จากทุก ๆ ชาติของผมที่ผ่านมาได้มากกว่า
    รู้สึกว่าการที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความไม่รู้นี่มันยากลำบากเหลือเกิน มันเจ็บปวด มืดมน หม่นหมอง เหลือเกิน

    อ้อ คำว่ารู้ในศาสนาพุทธ คือ คำว่า เข้าใจ ในยุคปัจจุบันนะครับ และ ศาสนาพุทธตามความเข้าใจของผม คือ ศาสนาที่สอนให้เข้าใจธรรมดาของโลกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  17. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ติดตามค่ะ
    ชอบการสอนธรรมะของท่านจิตยิ้ม
    เห็นความเชื่อมโยงของธรรมะทั้งกายและจิต
    อ่านเพลินไม่น่าเบื่อเลยค่ะ
     
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    อ้างถึงโพสของท่านเซลิวาน ใน#7 ที่ผ่านมา กล่าวเรื่องการชดใช้กรรม และก็การแก้กรรม

    เรื่องการชดใช้กรรมของมนุษย์ พลังกรรมกลุ่มใด ๆ ก็ตาม มนุษย์ต้องชดใช้มันสถานเดียว กรรมนั้นจึงจะสิ้นสุด


    การที่เราตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก ไว้ในชาตินี้ เมื่อตายไปสู่การเกิดใหม่ เราจะต้องกลับชาติมาเกิดเป็นหมา เป็นเจ๊ก ให้หมากับเจ๊กได้กลับชาติมาเกิดเป็นเรา เพื่อเราจะเป็นฝ่ายถูกตีหัวหรือถูกด่าแม่เข้าให้บ้าง ตามกฏแห่งกรรมจริงหรือ? และถ้าไม่ใช่เช่นนั้น เราต้องเผชิญผลกรรมอย่างไร? ความหมายที่แท้จริงของกฎแห่งกรรม คืออย่างไร?

    ในการทำความดีและความชั่วแต่ละเรื่อง อารมณ์รู้สึกนึกคิด ล้วนออกมาจากจิตใจ เครื่องมือของจิตใจก็คือสมอง ทั้งระบบ(จิตใจ+สมอง) รวมเรียกันว่า "จิตสำนึก" จิตสำนึกเป็นตัวสั่งการให้เกิดพฤติกรรมทางกายและใจ ผู้ให้พลังอำนาจในการขับเคลื่อนกระบวนการต่าง ๆ คือ "จิตวิญญาณ"

    การแก้กรรมและชดใช้กรรม

    การที่เราตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊กไว้ในชาตินี้ หากเรากลับชาติมาเกิดใหม่ภพชาติใหม่ต่อไป ไม่ได้หมายความว่า เราต้องเกิดเป็นเจ๊กหรือหมา ให้ผู้ที่เคยถูกเรากระทำไม่ถูกต้องเหล่านั้น มีโอกาสกระทำตอบต่อเราบ้าง แต่การเผชิญผลกรรมนั้นก็คือ การที่เรากลับสู่เงื่อนไขสถานการณ์แบบเดิมอีกครั้ง เพื่อให้ตัวเราได้มีโอกาสแก้ตัว ด้วยการคิดตัดสินใจใหม่ว่าเราจะตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊กอีกหรือไม่?

    เมฆหมอกสีดำของพลังงานกรรมด้านลบ คือคุณสมบัติของสถานการณ์ที่เป็นเงื่อนไขเดิมที่เราต้องฝ่าฟันมันเข้าไปให้ถึงใจกลาง ที่มีคำตอบที่ถูกต้องในการตัดสินใจเร้นอยู่ข้างในอันเป็นรหัสบุรพกรรมของเราในชาติก่อน จะกลายมาเป็นเงื่อนไขใหม่ในชาติใหม่ การเผชิญสถานการณ์แบบเดิม ก็คือการที่เราก้าวเดินไปในเมฆหมอกสีดำนั้น ถ้าเราตัดสินใจใหม่ได้อย่างถูกต้อง ก็เท่ากับว่าเราเดินฝ่าฟันเข้าไปตรงจุดศูนย์กลางของเมฆหมอกสีดำนั้น เพื่อสัมผัสพลังงานด้านบวกที่เร้นอยู่ ทันทีที่มนุษย์สัมผัสมันได้จากการตัดสินใจใหม่ที่ถูกต้อง เมฆหมอกสีดำนั้นจะสลายหายวับไปทันที กรรมนั้นก็จะสิ้นสุดถือเป็นหมดกรรม เพราะพลังงานด้านลบถูกทำให้เป็นกลางหมดสิ้นแล้ว

    ถ้ามนุษย์ยังตัดสินใจผิดอีกครั้ง
    กรรมนั้นก็ยังคงอยู่ ถือว่าเป็นการสอบตกซ้ำชั้น ต้องกลับมาเกิดใหม่เพื่อหนทางกำจัดมันให้ได้ในภพชาติต่อไปอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าจะอีกกี่ภพชาติก็ตาม

    พลังงานกรรมด้านลบที่ให้มนุษย์ต้องตัดสินใจ ต้องมีสติ และกล้าหาญ มนุษย์จะพบทางออกของปัญหา เพราะกลุ่มพลังงานกรรมที่เป็นเมฆหมอกสีดำ ภายในใจกลางจะมีแสงสว่างเร้นอยู่ข้างใน อันเป็นความสำเร็จของการเผชิญหน้าและฝ่าฟันปัญหา เสมือนเดินฝ่าเข้าไปในกลุ่มเมฆหมอกนั้น เมื่อถึงจุดหมายคือแสงสว่าง เมฆหมอกหนานั้นจะสลายหายตัววับไปทันที มนุษย์ก็จะอิสระจากกลุ่มกรรมนั้นทันทีเช่นกัน

    ทั้งหมดนี้โดยสังเขปที่อธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ในแง่คุณสมบัติของพลังงาน ค่ะ
     
  19. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    อยากรู้ว่าโรคย้ำคิดย้ำทำนี่เป็นการชดใช้กรรม รึแก้กรรมอะครับ
     
  20. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    อาการซินลงอีก มันชอบมีเสียงคนเถื่อนๆ คุยกันในหัว คาดว่าเป็นภาษาสมัยพ่อขุนราม รวมกับย้ำคิดย้ำทำอีกโคตรทรมาน พร่ำเพ้อไปเรื่อย ใครมีวิธีแก้ช่วยบอกด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...