เป็นชาวพุทธ ต้องกินมังสะวิรัต!!

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Toniz, 25 ธันวาคม 2005.

  1. Toniz

    Toniz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +2,065
    [​IMG]

    พุทธบริษัททุกท่านโปรดอ่าน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ข้อความต่อไปนี้มีปรากฏอยู่ในพระสูตรมหาปรินิพพาน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  2. Toniz

    Toniz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +2,065
    บุตรตถาคตทั้งหลาย! ตถาคตปรารถนาให้ท่านทั้งหลายได้รับทราบว่าหลังจากที่ตถาคตก้าวถึงนิพพานแล้ว แลหลังจากพระอริยะ (แม้ในผู้ที่สามารถบรรลุธรรมชั้นสูงสุดสี่ประการ(อริยสัจสี่)ในระยะเวลาอันสั้นๆ)ได้ละสังขารพ้นจากความเศร้าโศกไปแล้ว หลักธรรมอันศักดิ์สิทธิ์จะเสื่อมถอย แลคงไว้ซึ่งภาพอันรางเลือนประดุจเงามืดที่ซีดจาง การอ่านและการท่องพระสูตรจะเป็นภาพปรากฏการณ์ที่แทบมิเคยเกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน ความปรารถนาในเรื่องอาหารของมนุษย์จะยังคงอยู่เพียงเพื่อสนับสนุนสุขภาพร่างกาย พวกเขาจะแต่งกายด้วยอาภรณ์สีดำที่เปล่งรัศมีของความชั่วร้าย จิตใจแลจิตวิญญาณของเขาแลว่างเปล่าแลปราศจากคุณสมบัติทางด้านหลักธรรม พวกเขาจะดูแลฝูงสัตว์วัว ฝูงแกะฝูงสัตว์เลี้ยงอื่นๆ พวกเขาจะแบกฟืนหอบหญ้า แต่จะไว้ผมแลเล็บให้ยาว พวกเขาอาจสวมจีวรแต่จิตใจแลจิตวิญญาณจะมิแตกต่างจากนายพราน พวกเขาอาจแสดงความสุภาพอ่อนโย่น แล้วเดินก้มหน้า แต่ก็มิต่างจากแมวที่กำลังย่องจับหนู พวกเขาอาจกล่าวอ่างครั้งแล้วครั้งเล่าว่าตนมีอารมณ์แลความรู้สึกที่เปี่ยมด้วยความรักความเมตตา แต่พวกเขาจะแพร่เชื้อโรคแลเชื้อแห่งความเจ็บปวดอันเนื่องมาจากจิตใจและจิตวิญญาณที่มิบริสุทธิ์ พวกเขาอาจบ่มเพาะบุคลิกภาพภายนอกด้วยการสนับสนุนอุ้มชูศาสนา แต่ภายในจะแฝงด้วยความโกรธ ความริษยาและความปรารถนาที่มิต่างไปจากผู้หลงผิดทางด้านศาสนา พวกเขาจะไร้คุณธรรม ความเมตตา สงสารของพวกเขาเป็นเพียงการเสแสร้ง พวกเขาจะหาความสุขใส่ตัวบนเส้นทางที่ผิดพลาด พวกเขาจะวิจารณ์แลมองหลักธรรมบนเส้นทางแห่งความพอใจส่วนตนโดยมิคิดถึงหลักความจริง ผู้คนที่มีจิตใจเช่นนี้จะเป็นอุปสรรคในการเผยแผ่พระธรรมอันบริสุทธิ์ที่ตถาคตกำหนดขึ้น หลักคำสอนในพระธรรมวินัยแลหลักคำสอนในเส้นทางอันนำไปสูมรรคผลแลปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากความทุกข์จะได้รับการปฎิบัติอย่างขาดความระมัดระวัง พวกเขาอาจกำหนดหลักธรรมแลสร้างพระสูตรแลกฎเกณฑ์ต่างๆขึ้นมาเองด้วยความเข้าใจผิดแลด้วยภาวะจิตวิปลาส พวกเขาอาจกล่าวแลเขียนบันทึกในพระสูตรว่าตถาคตอนุญาตให้กินเนื้อสัตว์ได้ เนื่องจากเป็นคำกล่าวจากปากของพุทธะโดยตรง พวกเขาจะต่อสู้แลก่องสงครามในหมู่มนุษย์ด้วยกันเอง แลยังคงอ้าวว่าเขาคือบุตรหลานของพุทธศากยมุณีผู้ทรงคุณธรรม”<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    บุตรตถาคตเอย! เมื่อถึงเพลาหนึ่ง แม้แต่พระอันเป็นผู้สืบทอดศาสนายังกลายเป็นนักสะสม นักเก็บตุนข้าวแลอาหารอื่นๆ พวกเขาจะเป็นนักกินเนื้อปลา พวกเขาจะมีจานชามที่สวยงามประณีตและเครื่องเรือนเครื่องใช้ที่มีราคาแพง พวกเขาจะสวมรองเท้าหนัง หลักคำสอนที่พวกเขาถวายให้แก่พระราชา ข้าราชสำนักแลที่มีให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปจะมิมีอะไรมากไปกว่าศาสตร์ของไสยเวท หมอดู การทำนายโชคชะตาแลวิธีรักษาสุขภาพร่างกาย พวกเขาจะมีข้ารับใช้ ชายแลหญิง และ พวกเขาจะใช้ประโยชน์จาก ทองคำแลเงิน อัญมณี พลอยมีค่า แก้วเจียระไน ไข่มุกแลหินปะการัง พวกเขาจะสวมสร้อยคอและพอใจในรสชาติของผลไม้ทุกชนิด พวกเขาจะเล่นกีฬาแลหาความบันเทิงใจจากภาพเขียนแลประติมากรรม พวกเขาจะสอนวรรณกรรม พวกเขาจะหว่านเมล็ดพืช ลงในทุ่งนาแลเพาะปลูกพืชผลนานาชนิด พวกเขาจะร่ำเรียนเวทมนตร์ แล ผลิตยารักษาโรค ขณะเดียวกันก็จะแสวงหาวิธีรักษาที่ทรงหลังในธรรมชาติ พวกเขาจะเล่นดนตรี เต้นรำแลขับร้อง พวกเขาจะสนใจเรื่องหัตถกรรมต่างๆ เช่นเดียวกับการเตรียมการจุดธูปแลนำดอกไม้มาร้อยเป็นพวงมาลัยแลเครื่องจักสาน แต่ท่านทั้งหลายพึงจดจำเถิดว่ามีเพียงผู้ที่มิได้คิดแสวงหาผลกำไรเท่านั้นที่มีความใกล้ชิดกัยตถาคต”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ตถาคตผู้งดงามแลประเสริฐยิ่งพระโพธิสัตว์กัชยาปาถามอีกพระก็ดี ชีก็ดีแลผู้ปติบัติธรรมก็ดีล้วนต้องพึ่งพาผู้อุปถัมภ์ พวกเขาจะทำอย่างไร พวกเขาจะจำแนกแลตรวจสอบอย่างไร?”<o:p></o:p>
    ท่านทั้งหลายควรแยกอาหารที่เป็นเนื้อออกจากอาหารส่วนอื่นๆพุทธะทรงตอบเรียบๆจากนั้นก็ชำระล้างเนื้อเหล่านั้นก่อนกิน แต่หากปรากฏว่าภาชนะที่รองรับอาหารที่เป็นเนื้อมิได้รับมลทินจากกลิ่นหรือรสชาติ การกินเนื้อเหล่านี้ก็มิถือเป็นความผิด แต่หากมีผู้ใดนำเนื้อมาถวายเป็นจำนาวนมาก พวกท่านก็ชอบที่จะต้องปรามมิให้พวกเขาทำเช่นนั้น หาไม่พวกเขาจะมีความผิดแน่นอน หากตถาคตจะอธิบาลรายละเอียดในหัวข้อห้ามแลกฎเกณฑ์ในการกินเนื้อ เรื่องก็จะหาที่สิ้นสุดมิได้! แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ตถาคตรังเกียจ เพียงแต่เวลาละสังขารเข้าสู่นิพพานอันอยาเหนือห้วงทุกข์ของตถาคตมาถึงแล้วตถาคตจึงขออธิบายเพียงบางส่วนแต่เพียงเท่านี้”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ข้อความข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งที่มีปรากฏอยู่ในพระสูตรมหาปรินิพพาน และ อยู่ในส่วนของการตอบคำถาม <o:p></o:p>
     
  3. Toniz

    Toniz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +2,065
    มีพุทธศาสนิกชนบางพวกเห็นว่า การกินเนื้อสัตว์เป็ยบาปเพราะเป็นการส่งเสริมเพื่อให้ผู้อื่นข้า ในเรื่องนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเอย่างไร?

    พุทธดำรัสตอบ "...ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่าไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ๓ประการคือ
    เนื้อที่ตนเห็น
    เนื้อที่ตนได้ยิน
    เนื้อที่ตนรักเกียจ
    เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ๓ประการนี้แล
    ดูก่อนชีวก เรากล่าวว่าเนื้อเป็นของควรปริโภค ด้วยเหตุ๓ประการคือ
    เนื้อที่ตนไม่เห็น
    เนื้อที่ตนไม่ได้ยิน
    เนื้อที่ตนไม่ได้รักเกียจ
    ดูก่อนชีวกเรากล่าวเนื้อ เป็นของบริโภคด้วยเหตุ๓ประการนี้แล..."

    ชีวกสูตร ม.ม. [๕๗]
    ตบ.๑๓:๔๘-๔๙ ตท. ๑๓:๔๗
    ตอ. MLS. II :๓๓.
     
  4. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +715
    ชื่อกระทู้: เป็นชาวพุทธ ต้องกินมังสะวิรัต!! ตอบกระทู้

    พระเทวทัตได้กระทำแล้ว
    พระบรมศาสดาไม่ทรงมีพระพุทธานุญาตแล้ว
    บัดนี้ล่วงมา 2,500 กว่าปี ยังไม่ทราบว่า อันใดเรียกว่า ทางสายกลาง
     
  5. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    ถ้าไม่ทานด้วยรู้ ถึงกระแสความอาฆาต พยาบาทของเจ้าของเนื้อ

    จึงเว้น..นี้กรณีหนึ่ง

    ถ้าร่างกายนี้ไม่รับ ... นี้กรณีหนึ่ง

    ทานแล้ว ไม่ติดดี ถือดี มีมานะว่าเลิศกว่าคนอื่นนี้ประการหนึ่ง

    ถ้าเห็นเขาว่าดี ก็ตั้งข้อผูกมัดตนเองจนลำบากเกินไป ไม่เป็นไปเพื่อมรรค ผล
    นิพพาน ( สีลพตปรามาส ) หนึ่ง

    ...และจากโพส # 3 อีกหนึ่ง

    เป็นสิ่งที่พิจารณาและทำอยู่ครับผม
     
  6. ภูดาว

    ภูดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +931
    มี2ความคิดเห็นครับ .....ขอโมทนากับท่านที่กินมังสวิรัต เพื่อความสงบแห่งจิตครับ ที่ท่านสามารถงดเว้นศีล ข้อปาณา ได้เยี่ยมยิ่งที่ชาวพุทธน้อยคนนักจะสามารถทำได้

    แต่ถ้าท่านไหนกินเจ แล้วมาอวดอ้างสรรพคุณ ดูหมิ่นคนที่เขากินเนื้อ ภูมิธรรมท่านก็แพ้พวกเคี้ยวเอื้องทั้งหลายที่ก้มหน้ากินแต่ผักหญ้าตั้งแต่เกิด บุญมันก็ไม่เคยทำ ภาวนาก็ทำไม่เป็น แต่ไม่เคยเห็นมันไปอวดใครว่ามันเคี้ยวเอื้องตั้งแต่กำเนิดครับ
     
  7. pandablahblah

    pandablahblah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +71
    เอ พระเทวทัตเคยทูลขอ แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาตนี่คะ :eek:

    ที่พระเทวทัตทูลขอ มี 5 ข้อ (หากจำผิด สลับข้อ หรือตกหล่น ต้องขออภัยด้วยนะคะ ผู้รู้จริงด้วยแก้ไขข้อมูลที่แฮปปี้มีก็ดีค่ะ ^^)

    1. ภิกษุพึงอยู่ป่่าตลอดชีวิต ห้ามออกไปตามหมู่บ้าน
    2. ภิกษุพึงอยู่แต่ใต้โคนไม้ ห้ามอยู่ใต้ชายคาหรือกุฏิ
    3. ภิกษุพึงใช้แต่ผ้าบังสุกลขาด ที่ถูกทิ้งหรือเป็นชิ้น นำมาเย็บเป็นผืนผ้า เอามาห่มเท่านั้น ห้ามรับจีวรจากผู้ที่นำมาถวาย
    4. ห้ามภิกษุฉันเนื้อสัตว์
    5. ให้ภิกษุออกเที่ยวบิณฑบาตรเป็นวัตรตลอดชีวิต

    แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาต ทรงตรัสว่า

    ภิกษุใดปรารถนาจะอยู่ในป่า ก็จงอยู่ในป่า
    ภิกษุใดปรารถนาจะอยู่ใต้โคนไม้ ก็จงอยู่ใต้โคนไม้ ปรารถนาจะอยู่ใต้ชายคาหรือในกุฎิก็จงอยู่ใต้ชายคาหรือในกุฏิ
    ภิกษุสามารถรับจีวรที่มีผู้นำมาถวายได้
    ภิกษุสามารถฉันเนื้อสัตว์ได้ เพื่อไม่เป็นภาระต่อผู้นำอาหารมาถวาย (แต่ต้องไม่สั่งให้เขาฆ่า ไม่เห็นเขาฆ่า ไม่ได้ยินว่าเขาฆ่ามาเพื่อถวายพระ ไม่รังเกียจว่าเขาฆ่าเพื่อนำมาถวายพระ )
    ภิกษุใดปรารถนาที่จะเที่ยวบิณฑบาตร ก็จงเที่ยวบิณฑบาตร ไม่ปรารถนาจะเที่ยวบิณฑบาตรก็ไม่ต้องเที่ยวบิณฑบาตร

    แฮปปี้อ่านและจำได้มาจากหนังสือของหลวงพ่อพระเทพพรหมยานค่ะ ^^

    แต่ไม่ได้หมายความว่าคนไม่ทานเนื้อสัตว์ไม่ดีนะคะ แล้วก็ใช่ว่าคนที่ทานเนื้อสัตว์จะไม่ดี มันก็กรรมของเขาด้วยน่ะค่ะ เราอย่าไปสั่ง อย่าไปฆ่าเขาก็พอ มีกินก็กิน ไม่มีก็ไม่กิน เพราะอย่างไรคนที่ฆ่าก็จะฆ่าอยู่แล้ว คนที่ไม่ฆ่าก็ไม่ฆ่าอยู่แล้ว เขาทำกรรมกันมาค่ะ เว้นแต่ว่าเขาจะไม่ก่อนเหตุแก่กัน แล้วผลคือการเข่นฆ่ากันก็จะไม่เกิด จริงไหมคะ? :)
     
  8. กูไม่กินPALA

    กูไม่กินPALA สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +12
    เป็นชาวพุทธ ต้องกินมังสะวิรัต!!(วางใจ<!-- google_ad_section_end -->ภาวนาไม่เป็นเองแล้วไปโทษอาหารหรือเปล่าครับ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...