เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 17 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทำไมจึงต้องกำหนดเอาการดื่มสุราเข้าไว้ในศีล 5

    “หลวงพ่อครับ ผมก็ไม่เห็นว่าสุราจะเลวร้ายอะไรนักหนา ทำไมจึงต้องเอามากำหนดเข้าไว้ในศีล 5 ด้วยครับ.

    หลวงพ่อ : “ไอ้สุรานี่แหละตัวร้ายที่สุดละคุณ เพราะมันเป็นตัวทำลายสตินะ หากดื่มเข้าไปแล้วจะทำให้ขาดสติ และทำลายศีลทั้ง 4 ข้อแรกได้ทั้งหมด

    ” แต่ผมสงสัยว่าสุราจะไปทำลายศีลทั้ง 4. ข้อแรกได้อย่างไรครับหลวงพ่อ……

    “อ้าว ก็ดื่มแก้วแรก แก้วสอง แก้วสาม ก็ยังคุยกันได้เป็นเรื่องเป็นราวสนุกสนานครื้นเครงดี ……. พอแก้วที่สี่ ที่ห้า ชักหน้าตึง หูตึง ลิ้นไก่สั้น เสียงเริ่มดัง ……. ใครเก่งทางใดก็เริ่มอวดลวดลาย คุยอวดความเก่งกล้าสามารถของตัว บางรายก็ชักแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการเคี้ยวแก้วก็มี แล้วนั่งดื่ม บางรายก็ร้องไห้ หากมีการพูดผิดหูกันขึ้นอาจถึงขั้นมีการท้าดวล พูดจาแขวะกันไป
    มาก็ขาดสติ ยั้งคิด ถึงขั้นฆ่ากันตาย ก็ผิดศีลปาณาขึ้นมาด้วยขาดสติใช่ไหม

    และถ้าคุณเมามายขาดสติ แล้วเกิดไปหยิบฉวยข้าวของมีค่า เช่นปากกาปลอกทอง หรือนาฬิกาของเพื่อนฝูงที่เมาด้วยกัน ติดไม้ติดมือกลับบ้าน หรือทำเงินที่เขาฝากมาหายไป แล้วพอได้สติก็หาใช้เขาไม่ได้ ก็เป็นการผิดศีลอทินนาเข้าอีก
    หรือถ้าคุณเกิดเมามายขาดสติ กลับเข้าบ้านเกิดไปสะดุดสายมุ้ง มุดเข้าไปหลับนอนกับใครที่มิใช่เมียของคุณ ก็ผิดศีลกาเมเข้าไปอีก
    . หรือถ้าในขณะที่คุณเมามายขาดสติ เกิดไปรับปากสัญญาอะไรกับใครเขาไว้แต่พอวันรุ่งขึ้นเมื่อสร่างเมา คุณก็ลืมเสียสิ้น ปล่อยให้เขาต้องเสียเวลาไปรอคอยก็ดี หรือผิดหวังที่คุณผิดสัญญาในเรื่องที่คุณรับปากไว้ก็ดี ก็ผิดศีลมุสา อีกใช่ไหม

    นี่แหละฉันจึงว่าสุรานั้นเป็นตัวทำให้ขาดสติและทำลายศีลทั้ง 4 ข้อแรกได้ หรือคุณว่าไม่ใช่

    คัดลอกจากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม 5 หน้า 18 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ. วัดท่าซุง จ. อุทัยธานี

    26166604_1349317835179956_3533594606160258038_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    พระสกิทาคามี
    ต่อจากนั้นไปรักษาอารมณ์ ไว้ตามนั้นคือ พิจารณาขันธ์5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เรียกกันว่าร่างกาย ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา อารมณ์เบาลงไปเห็นว่าทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา คำว่ากูของกู น้อยลงไป มันชักไม่มีความรู้สึกว่ามีเหมือนกัน แต่รู้ไว้เสมอว่า มันกับเราไม่ช้าก็จากกันความรู้สึกเชื่อมันในคุณพระรัตนตรัยมีระดับสูงขึ้น มีอารมณ์ละเอียดมากขึ้นนิดหน่อย ก็เกรงอันตรายจะเกิดขึ้นกับใจและการรักษาศีลมั่นคงยิ่งขึ้น มีอารมณ์ละเอียดยิ่งกว่าพระโสดาบัน แต่ละสังโยชน์เท่ากันสามอย่างเหมือนกัน ตอนนี้อารมณ์จิตที่เราจะพิจารณาสังเกต ได้ง่ายคือ กามราคะ หรือว่าความโกรธมันจะมีน้อยเต็มที จะมีโกรธเหมือนกัน แต่ว่ามันดื้อเหลือเกิน มันมีความไวน้อย บางมีใครเขาด่าขึ้นก็งง ความโกรธมันไม่เกิด เห็นคน เห็นความสวยสด งดงามที่เคยต้องการมีความปรารถนา แต่ความปรารถนามันไม่เกิดเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไป ที่นี้เวลาที่จะกำหนดจิตรู้อารมณ์ตัวนี้จริงๆอันนี้เรียกว่า สกิทาคามี เอากันให้ชัดคือ กามฉันทะ ความต้องการในกามารมณ์จะมีเหมือนกับกามตายด้าน ไม่มีความต้องการในกามารมณ์ อย่างปกติเลยแม้แต่น้อย บางคนคิดว่าตอนนี้เราเป็นพระอนาคามี อันนี้ต้องระวังไว้ เพราะการเจริญวิปัสสนาญาณควบกับอำนาจของสมถภาวนา ในขณะที่พิจารณาขันธ์5 ก็ใช้สมถะไปด้วยการที่ควบคุมใจอยู่ในขอบเขต เป็นอารมณ์สมถะ สมถะกับภาวนานี่แยกตัวกันไม่ออก อารมรณ์ที่คงอยู่มันจะเข้าถึงระดับฌาน แต่ปฐมฌานขึ้นไปกำลังใจจึงมีอำนาจตัดกิเลส ตอนนี้อารมณ์ของสมถะถ้ามีกำลังนึก ความรู้สึกต้องการในรูป รส กลิ่น เสียง มันจะน้อยความโกรธ หวั่นไหวมันก็น้อย นี่เป็นอำนาจของอารมณ์สมถะ แล้วก็มีปัญญาคือพิจารณาเข้าด้วยก็กดกันหนักลงมากขึ้น ความรู้สึกน้อยลงบางทีมีระยะตั้งเดือนสองเดือน ความรู้สึกในกามารมณ์ไม่มีเลย ตอนนี้เรานึกว่าเราเป็นพระอนาคามี เท่าที่ผ่านหลายท่าน พระพุทธเจ้าท่านนิพพานไปแล้วก็ไม่รู้จะถามใคร อย่างนี้เกิดความเข้าใจตนเองว่าเป็นพระอนาคามี แต่ว่าขณะนั้นระวังให้ดี ตอนนี้ที่อารมณ์เงียบสงัดตั้งจิต อยู่ในอำนาจของสมาธิและวิปัสสนาญาณในการบางครั้ง อารมณ์ปรารถนาในความสวยสดงดงามมันปรากฏและอารมณ์ของความโกรธความเครียดแค้น ก็จะเกิดในใจของบุคคล ที่ตั้งใจตั้งนานถ้าเกิดแล้วมีความรู้สึก เราก็ระงับได้ทัน อย่างนี้เรียกว่า อารมณ์เป็นอานุสัย ถ้าใจของท่านทั้งหลายเข้าได้ถึงตอนนี้ท่านเรียกว่าพระสกิทาคามี ถ้าถึงขั้นสกิทาคามีตายแล้วก็ไม่เกิดเป็นเทวดา พรหม ก็ต้องเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่งแล้วก็นิพพาน
    จากหนังสือ ธรรมประวัติ เล่ม 54 หน้า 90-92

    26229843_1350420121736394_1224925878446852256_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f490.png #อธิษฐานอย่างไรได้อย่างนั้น 1f490.png

    #อธิษฐานบารมีไม่ใช่ของเล็ก #เป็นของใหญ่ การให้ทานของท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ถ้าจะให้บารมีเต็มจริง ๆ #ก็จงอย่าตั้งใจคิดว่าชาติหน้าจงรวย #เราก็ควรจะรวยเสียตั้งแต่ชาตินี้ #ถ้าชาตินี้ไม่รวยชาติหน้ามันก็ไม่รวย คำว่า #รวย คือว่า #พอ #คือยินดีเฉพาะทรัพย์สินที่เราหามาได้โดยชอบธรรม นี่เรียกว่า #สันโดษ #หมายความว่ามีมากก็กินน้อย #มีน้อยก็กินน้อย มันก็กินอิ่มเดียว ถ้าเขามีกางเกงแพรนุ่ง เราก็มีกางเกงผ้าฝ้ายนุ่ง เราก็พอใจ เขากินด้วยจานเงินจานทอง เรากินด้วยจานไม่มีลายเราก็พอใจ เขามีหมูเห็ดเป็ดไก่กิน มีอาหารพิเศษ #ที่เรียกว่าไม่ควรจะแพงมันก็แพง #ไอ้กินเอาหน้าเอาตากินอวดน่ะ เรามีผักบุ้งจิ้มน้ำปลาเราก็พอใจ มันก็อิ่มเหมือนกัน #อย่างนี้ถือว่าคนรวย #รวยที่พอ #ที่เรียกว่าถ้ามีอาการพอเมื่อไรมันรวยเมื่อนั้น เป็นการตัดโลภโมโทสัน อยากได้ทรัพย์สินของบุคคลอื่น #และให้ทานตามปกติ #ชาติหน้ามันจะรวยไปยิ่งกว่านี้

    โอวาทของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
    พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
    ที่มาจากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๕๘
    หน้า ๑๓๗ – ๑๓๘

    26167302_1351215591656847_6516591296495987526_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    โอวาทหลวงพ่อฯ เล่ม 1 หน้า 32
    คนที่เข้าฌานตาย
    เวลาจะตายเขาเข้าฌานตายกัน คนที่เข้าฌานตายมันไม่ตายเหมือนชาวบ้านเขา
    อาการตายเหมือนกัน แต่ความหนักใจของบุคคลผู้ทรงฌานไม่มี ทั้งนี้เพราะถ้าจิตทรงฌาน
    อารมณ์ก็เป็นทิพย์ เมื่ออารมณ์เป็นทิพย์แล้ว ก็สามารถจะเห็นในสิ่งที่เป็นทิพย์ได้ เห็นรูปที่
    เป็นทิพย์ได้ยินเสียงที่เป็นทิพย์ได้ ในเมื่อเราเห็นรูปที่เป็นทิพย์ได้ ได้ยินเสียงที่เป็นทิพย์ได้
    เราก็รู้สภาวะความเป็นทิพย์ของเราได้ คนที่เขาเข้าฌานตายนี่ เขาเลือกไปตามอัธยาศัย ว่า
    เขาจะไปจากร่างกายอันนี้แล้ว เขาจะไปอยู่ที่ใหม่ เขาจะไปอยู่ที่ไหนนี่รู้ก่อน คนที่ทรงฌาน
    จริง ๆ สถานที่ที่จะพึงอยู่ได้คือพรหมโลก ถ้าหากว่าเราจะไม่อยากอยู่พรหม อยากจะอยู่สวรรค์
    ชั้นใดชั้นหนึ่งที่ต่ำลงมาอันนี้ก็เลือกได้

    26229293_1352407171537689_3590119917649878060_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f33a.png 1f33a.png 1f33a.png ดัพเดตยอดล่าสุดของวันนี้ค่ะ..
    ☀งานบุญถวายมหาสังฆทาน10ชุดตอนนี้อยู่ที่ 15,015 บาท ยังต้องการเจ้าภาพอีก 4,985 บาทค่ะ..ท่านใดจะร่วมบุญใหญ่ต้อนรับปีใหม่นี้โอนได้ที่
    ธ.กสิกรไทย025-1-92179-2 น้ำฝน บุญสิงห์ปิดรับวันที่7มกราคม2560ค่ะ..หลังนี้อย่าโอนมานะคะ
    #การบอกบุญนี้เป็นความศรัทธาของน้ำฝนและคณะญาติธรรมค่ะไม่เกี่ยวข้องกับวัดท่าซุงแต่อย่างใด

    26230416_1352435508201522_3601547512360774890_n.jpg
    26167828_1352435541534852_3963007465775000785_n.jpg
    26167377_1352435571534849_4546057958606043790_n.jpg
    26168921_1352435621534844_7664473388079506809_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f698.png 1f698.png 1f698.png เดินทางถึงวัดท่าซุงแต่เช้า…วันนี้ฝนมาเป็นตัวแทนของทุกท่านที่ร่วมบุญมหาสังฆทานชุดใหญ่10ชุด(20,000บาท)นำถวายหลวงพ่อโอที่วิหารแก้ว100เมตรเรียบร้อยแล้วนะคะ
    1f607.png 1f607.png 1f607.png ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความคล่องตัวทั้งทางโลกและทางธรรมตราบเท่าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ค่ะ..รวยๆๆนะคะทุกท่าน

    26230946_1354118801366526_4662825275447533463_n.jpg
    26169199_1354118844699855_1954391099502459962_n.jpg
    26219969_1354118901366516_2289471325305699283_n.jpg
    26219926_1354118948033178_7688887668971348451_n.jpg
    26231543_1354119004699839_6049764542560470101_n.jpg
    26168304_1354119064699833_4733637739439827366_n.jpg
    26168723_1354119111366495_4996579533112683921_n.jpg
    26169204_1354119161366490_2912587492593894443_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    วิธีการทำบุญ ONLINE ทางธนาคาร
    …..ขอแจ้งเรื่องการทำบุญภายในวัดท่าซุงนี้ ที่ได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทยไว้แล้ว เพื่อให้บรรดาท่านสมาชิก (จะประกาศรายชื่อทุกวันที่ 15 ของเดือน) ได้ทำบุญแบบ online ในนามบัญชีของวัดท่าซุงโดยตรง

    (รับโอนทำบุญเฉพาะวัดท่าซุงหากจะทำบุญวัดอื่นหรือต้องการ “ใบอนุโมทนาบัตร” ขอให้ถวายหลวงพ่อท่านเจ้าคุณฯ ด้วยตนเอง) ซึ่งขณะนี้ทางวัดกำลังดำเนินงานมีอยู่ดังนี้ คือ….
    1. ลาดยางเสริมถนนในป่าธุดงค์ 100 ไร่
    2. ปิดทองและประดับเพชร พระประธาน ศาลา 12 ไร่ (มหาวิหาร ๑๐๐ ปี)
    3. ซ๋อมองค์พระศรีอาริยเมตไตรย (ประดับเพชรใหม่)
    4. ทาสีกำแพง วิหารสมเด็จองค์ปฐม และพระศรีอาริย์
    5. ทาสีกำแพง ด้านหน้าพระจุฬามณี
    6. เสริมมุขลายไทย ข้างอาคาร 25 ไร่ (ด้านติดกับปราสาททองคำ)
    7. อาคารพิพิธภัณฑ์ “สมบัติพ่อให้”
    8. สร้างวิหารหลวงพ่อ 5 พระองค์
    9. ชำระหนี้สงฆ์
    10. ค่าน้ำ – ค่าไฟฟ้า
    11. ค่าภัตตาหารพระสงฆ์
    12. สร้างพระพุทธรูป วิหารทาน สังฆทาน ธรรมทาน

    …..หมายเหตุ : ท่านที่โอนเงินจากการใส่บาตร “วิระทะโย” ทางวัดจะได้นำเงินส่วนนี้ไปเป็น “ค่าน้ำ-ค่าไฟ” และ “ค่าภัตตาหาร” ถวายแด่พระสงฆ์ นับเป็น “สังฆทาน” อีกด้วย ฉะนั้น ผู้ที่ใส่บาตร “วิระทะโย” เป็นประจำ สามารถส่งเงินออนไลน์ได้เป็นประจำทุกเดือน.

    …..สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาต้องการจะร่วมทำบุญกับทางวัดท่าซุง เพราะในขณะนี้ ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล (พระครูปลัดอนันต์) ได้มีการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ และมีการปฏิสังขรณ์ภายในวัดอีกหลายแห่ง ฉะนั้น ผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญตามรายการดังกล่าว สามารถโอนเงิน ONLINE ผ่านทาง..

    ร่วมทำบุญ “กองทุนพระอาพาธ” วัดท่าซุง

    ธนาคารกสิกรไทย สาขาอุทัยธานี
    ชื่อบัญชี…พระสมนึก แช่มเดช, พระทนงศักดิ์ แพงปัสสา
    เลขที่ 155 – 2 – 29452 – 8

    ร่วมทำบุญ Online วัดท่าซุง

    ธนาคารกรุงไทย สาขาอุทัยธานี
    ชื่อบัญชี…วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
    เลขที่ 619 – 0 – 18966 – 0

    *** ทางสำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ได้เริ่มเก็บ “ค่าธรรมเนียมการโอน” ตั้งแต่ปี 2558 และเมื่อโอนเงินที่ทำบุญเรียบร้อยแล้ว กรุณากรอกข้อความที่ว่างอยู่ให้ครบทุกช่อง (จะมีเครื่องหมาย * ดอกจันทร์) ลงใน “แบบฟอร์ม” ข้างล่างนี้ (กรุณากรอกทุกช่อง ระบบจะทำงานได้ถูกต้อง)

    ส่วนผู้ที่ต้องการโอนบัญชีผ่านระบบ กรุงไทย พร้อมเพย์ (KTB PromptPay) นั้น ทางทีมงานฯ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารแล้วว่าไม่สามารถจะทำได้ เนื่องจากการเปิดบัญชีของวัดนั้นได้รับการยกเว้นภาษีเป็นนิติบุคคล สำหรับช่องที่จะต้องกรอก คือ…

    1. * ชื่อ-นามสกุล (ผู้บริจาค / ผู้โอนเงิน)
    2. * วันที่โอนเข้าบัญชี (วัน – เดือน – ปี)
    3. * จำนวนเงินที่โอน
    4. * โปรดระบุว่าทำบุญอะไรบ้าง
    5. * ที่อยู่ของท่าน
    6. * อีเมล์ของท่าน
    7. * รหัสความปลอดภัย

    …….ถ้ากรอกไม่ครบช่อง ระบบจะไม่ทำงาน เมื่อกรอกเสร็จแล้วให้กดปุ่ม ส่งข้อความ/Send Message เป็นอันเสร็จทุกขั้นตอน หลังจากนั้น “ผู้จัดทำเว็บ” จะประกาศรายชื่อ “ผู้ทำบุญ” เป็นประจำทุกวันที่ 15 และวันที่ 31 ของเดือน (จะไม่ตอบกลับทางอีเมล์) เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมทั้งหลายได้ร่วมอนุโมทนาอีกครั้งด้วย

    26169959_1355311531247253_4555236144726909177_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f607.png 1f3f5.png ️เมื่อวานฝนเดินทางไปร่วมบุญวัดท่าซุงทั้งหมดดังนี้ค่ะ
    1f33c.png 1.ถวายสังฆทานชุดใหญ่ 10 ชุด 20,000 บาท
    1f338.png 2.ร่วมบุญค่าน้ำค่าไฟ500บาท ร่วมบุญโดยเสด็จพระราชกุศล 100 บาท
    1f3f5.png ️3.ถวายผ้าห่มสไบทองพระพุทธชินราช 200 บาท เหรียญทองถวายสมเด็จองค์ปฐม200บาาท
    1f33a.png 4.ถวายชุดสมปรารถนาแด่สมเด็จองค์ปฐม วิหารสมเด็จองค์ปฐม 2,000 บาท
    1f33c.png 5.ถวายผ้าห่มหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา 300 บาทและถวายผ้าไตรจีวรหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา200บาท
    1f33a.png 6.ถวายผ้าไตรจีวรและฉัตรเงินฉัตรทองแด่พระศรีอริเมตไตรย 300 บาทร่วมบุญสร้างพระศรีอริยเมตไตรย 200 บาท
    1f33c.png 7.ถวายผ้าห่มหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์วิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ 600 บาท
    1f3f5.png ️8.ถวายผ้าไตรจีวรที่วิหารพระองค์ที่10-11 150บาทและร่วมบุญหยอดตู้ร่วมบุญทุกอย่าง 1,000 บาท
    1f338.png 1f33c.png 1f338.png รวมเงินที่ทำบุญทุกๆอย่างในวัดท่าซุงเมื่อวานนี้(7/01/2561)จำนวน 25,750บาทค่ะ เบิกเงินมาเช้าวันที่7จำนวน25,500บาท ครอบครัวพี่พรร่วมบุญมา 1,000 บาทจึงมีเงินเหลืออยู่ 750 บาท ฝนมาดูยังมีเงินเข้ามาอีก860บาทฝนเติมให้เต็ม900บาท รวมยอดเงินที่เหลือ 1,650 บาท และได้โอนไปร่วมบุญที่บัญชีของวัดท่าซุงหมดแล้วนะคะ..ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมบุญนี้มาค่ะ
    1f4ab.png 1f4ab.png โชคดีรับปีใหม่นี้ทุกคนทุกท่านนะคะ..รวยๆๆตลอดปีและตลอดไปค่ะ

    26230970_1355348204576919_2056021281323164639_n.jpg
    26165811_1355348244576915_4553635154739348241_n.jpg
    26733993_1355348291243577_966887604400436521_n.jpg
    26195417_1355348344576905_8692331867293323434_n.jpg
    26731044_1355348387910234_6317764076602999242_n.jpg
    26231805_1355348454576894_810833734076116110_n.jpg
    26239884_1355348497910223_1322338670089315243_n.jpg
    26733398_1355348531243553_5732875275227981624_n.jpg
    26169453_1355348567910216_4489187839643735634_n.jpg
    26733446_1355348604576879_3234857514269964916_n.jpg
    26230537_1355348641243542_8148089849894783377_n.jpg
    26230825_1355348674576872_6500514174158630186_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    วิธีสิ้นทุกข์
    วิธีสิ้นทุกข์ทำยังไง เรามีการให้ทาน เป็นปกติ ถ้าอารมณ์เราพร้อมเพรียง ในทาน ก็ชื่อว่าเป็นการตัดโลภะ ความโลภ

    เรามีเมตตาเป็นปกติ อารมณ์ของเมตตาที่้เราทรงอยู่คือ รักษาศีลได้ ถ้ามีเมตตาอยู่ศีลมันก็ไม่ ขาด ถ้ามีเมตตาอยู่เป็นปกติ นอกจากมีเมตตาอยู่ศีลไม่ขาดแล้ว เมตตามันยังเป็นตัวทำลายโทสะเราก็มาพิจารณาหาความจริงว่า

    “ชาติปิ ทุกขา ความเกิดเป็นทุกข์” เจ้าอยากเกิดนี่ มันจะทุกข์อย่างไรก็ช่างมัน ใจเราก็วางเฉยไว้

    “ชราปิ ทุกขา ความแก่เป็นทุกข์”
    อาการงกๆ เงิ่นๆ ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่กระปรี้กระเปร่า มีความปรารถนา ไม่สมหวังเพราะทำเองไม่ได้แล้วเรา ก็เลยมีทุกข์ ถือว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา ของคนแก่ เกิดมาเพื่อแก่

    “มรณัมปิ ทุกขัง ความตายเป็นทุกข์” เรื่องของชาวบ้านธรรมดาเราไม่ทุกข์ ถือว่าเป็นกฎธรรมดา ตายเสียได้ก็ดี เพราะมันจะได้หมดเรื่องยุ่ง แล้วเราเห็น ว่าขันธ์ ๕ เป็นโทษเป็นทุกข์สำหรับเรา เราก็เลยคิดต่อไปว่า ขึ้นชื่อว่าขันธ์ ๕ ความเกิดมามีร่างกายขันธ์ ๕ แบบนี้จะ ไม่มีสำหรับเราอีก เราจะไม่โง่ยอมรับ นับถือให้มีร่างกายต่อไป ถ้าอารมณ์ใจ ของเราคิดไว้อย่างนี้เป็นปกติ เราก็จะ หมดความทุกข์ มันค่อยๆ เข้าใจไปเอง

    นี่เป็นบทที่บรรดาพุทธบริษัทควรจะคิดให้เป็นปกติ เพื่อความเข้าถึงซึ่ง พระนิพพาน นี่เป็นวิปัสสนาญานตัวสุดท้าย

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    _____________
    จากหนังสือธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๔๑๘ หน้า ๖๒

    26196154_1356299021148504_3137133938819415579_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    โอวาทหลวงพ่อฯ เล่ม 4 หน้า 13
    ควรทำทุกๆวัน
    เมื่อตื่นใหม่ ๆ ยังไม่ต้องลุกไปไหน ถ้ายังไม่ปวดอุจจาระ ปัสสาวะ
    ยังไม่ต้องตั้งท่า ไม่ต้องลุกขึ้นมานั่งก็ได้ ไม่จำเป็นจิตจะเคลื่อน นอน
    แบบนั้น หายใจเข้านึกว่าพุท หายใจออกนึกว่า โธ ถ้าทำอย่างนี้เป็นปกติ
    จนกระทั่งเกิดอาการชิน ต่อไปวันไหนไม่ได้ทำ วันนั้นมีความรำคาญ
    จำเป็นต้องทำอย่างนี้ท่านถือว่า เป็นผู้ทรงฌานใน พุทธานุสสติ-
    กรรมฐาน เวลาจะตายบาปต่าง ๆ จะไม่สามารถเข้ามาควบคุมจิตได้
    จะมีแต่บุญอย่างเดียว เข้ามาอยู่กับจิต เมื่อบุญเข้ามาอยู่กับจิต บาปก็เข้า
    ไม่ได้ บุญต่าง ๆ ที่เราทำ อาจจะยังไม่ปรากฏภาพ แต่ภาพที่ปรากฏ
    จริง ๆ ก็คือพระพุทธเจ้า เราจะเห็นภาพพระพุทธเจ้าก่อนตาย ถ้าเรา
    เห็นพระพุทธเจ้าก่อนตายถ้าจิตทรงตัวอย่างนั้นตามบาลีท่านบอกว่าไม่ได้
    เกิดบนสวรรค์ เป็นพรหม ถ้าถึงเวลาจิตรำคาญไม่ทำไม่ได้นี่จะต้องทำ
    ได้มากก็ได้น้อยก็ได้ต้องทำหน่อย อย่างนี้ท่านบอกว่า จิตทรงฌาน
    ตายเป็นพรหม

    26239491_1360897740688632_4478055478458457169_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    แจ้งปิดบุญการสร้างโรงครัวถวายที่สำนักสงฆ์บ้านขุนแม่ต้อบ จแม่ฮ่องสอนนะคะ ตอนนี้มีเจ้าภาพร่วมบุญมาครบ(10,000บาท)แล้วค่ะ(เมื่อสักพักฝนไปกดเงินออกมา11,200บาทและยังมียอดเงินเข้ามาอีกไงจะกดถวายให้ทั้งหมดนะคะ)และจะนำภาพงานบุญมาลงให้อนุโมทนาบุญกันอีกครั้งค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมบุญมานะคะ

    26804946_1361556613956078_5696844663596951255_n.jpg
    26731780_1361556653956074_5355252391903841673_n.jpg
    26991901_1361556677289405_5034116764237449038_n.jpg
    26730729_1361556700622736_2664776124055725327_n.jpg
    26815093_1361556737289399_6156915348314646034_n.jpg
    18556228_1361556770622729_2151194643212836898_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ขออนุญาตลงรูปให้โมทนาบุญกันนะคะ
    1f607.png 1f607.png 1f607.png ถวายงานบุญสร้างโรงครัวของสำนักสงฆ์บ้านขุนแม่ต้อบ อำเภอบ้านกาศ จังหวัดแม่ฮ่องสอนจำนวน12,000บาทและถวายงานบุญผ้าไตรจีวร2ชุด+แผ่นทองคำเปลวแท้+น้ำอบจำนวน5,500บาท แก่พระเดชพระคุณหลวงปู่องค์น้อยที่สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ สุพรรณบุรี
    1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png ขอเชิญทุกท่านอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ

    26238832_1362101880568218_7228038574564869514_n.jpg
    26239591_1362101963901543_1532573061137916540_n.jpg
    26734412_1362102003901539_817370384900820100_n.jpg
    26815427_1362102030568203_1207890990063216712_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม 5 หน้า 16
    การไม่อยากเกิดดีที่สุด

    เมื่อมาพิจารณาขันธ์ ๕ พิจารณาร่างกายว่ามันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แล้วแล้วใช้ญาณต่าง ๆ ที่เราได้เป็นเครื่องช่วยอารมณ์มันก็ตัดความสงสัยในคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้าเสียได้ ศีลก็บริสุทธิ์ ต่อมาก็เกิดความเบื่อหน่ายในกามคุณ มีผัวมีเมีย มาแล้วเท่าไรมันตายหมด แล้วก็แก่หมด รสชาติไม่เป็นเรื่อง เราก็มาระงับความโกรธ ตัดความมัวเมาในฌานและอรูปฌาน ตัดมานะความถือตัวถือตนว่าคนและ สัตว์เสีย อารมณ์มันก็ทรงอยู่ในด้านของสมาธิ ด้านกุศลตลอดเวลา ในที่สุด ตัดอวิชชา ความโง่ ออกเสียได้ไม่อยากเกิดต่อไป เพราะเห็นพระนิพพานแล้วเห็นว่าพระนิพพานเต็มไปด้วย สภาพของความแจ่มใส

    21687656_1366098530168553_2407675700319468722_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ♤ รักษาอารมณ์ปัจจุบันไว้
    .
    “สิ่งใดที่ล่วงไปแล้วจงอย่าตามนึกถึง ใช่ไหม
    มันดีหรือมันชั่วมันก็ล่วงไปแล้ว
    อาหารที่เรากินอร่อยหรือไม่อร่อย
    มันก็ผ่านไปแล้ว มันดึงกลับมาไม่ได้ ใช่ไหม
    .
    ฉะนั้น สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ดีหรือชั่วอย่าตามนึกถึง
    สิ่งใดที่ยังมาไม่ถึงก็จงอย่าคิดถึงมัน
    คือจงรักษาอารมณ์ปัจจุบันไว้
    ปัจจุบันให้ทรงความดีไว้
    .
    ข้างหน้าไม่ต้องกลัว
    เพราะข้างหน้าไม่มี ข้างหลังไม่มี
    ถ้าเราไปตามนึกถึงอารมณ์ความชั่ว
    ในอดีตที่เราทำมาแล้ว
    หมายความว่าถอยหลังไป
    อารมณ์นี้มันจะเกาะเพราะเป็นอารมณ์เลว
    จิตมันเกาะง่าย เพราะมันหยาบ
    ถ้ามันเกาะจิต เวลาจะตายไปหวนคิดแป๊ปเดียว
    ดึงลงนรกเลย”
    .
    ที่มา : หนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๕๗ (หน้า ๑๕)

    26814672_1368118543299885_7622959272899804787_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ธรรมะก่อนนอน
    หลวงพ่อฤาษี เคยเกิดเป็นนายพราน
    ต่อมาได้เป็นกษัตริย์ ในสมัยสมเด็จพระพุทธทีปังกร
    มีเรื่องที่น่าสนใจมากจากพระดำรัสของสมเด็จพระพุทธทีปังกร เรื่อง เวรและกรรม การฆ่ากันด้วยการจองเวรไม่เป็นเหตุให้ลงนรก แต่ก็ต้องชดใช้เวรที่ทำด้วยการถูกฆ่า หมุนเวียนกันไปมาถึง ๕๐๐ ชาติ
    วันนี้นอนๆ ก็ภาวนาไปเรื่อยๆ (พักอยู่ที่เมืองโอ๊คแลนด์ เดือนมีนาคม ๒๕๒๙) ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ละ ภาวนาไม่ขาด พอจิตสบายก็ขึ้นไปหาสมเด็จองค์ปัจจุบัน ที่พระจุฬามณี ท่านคุยประเดี๋ยว ก็บอกไปนิพพานเถอะ พอไปถึงนิพพาน ท่านก็คุย
    ท่านถามว่า “นึกออกไหม เธอเคยเกิดสมัยสมเด็จพระพุทธทีปังกรนะ”
    ก็บอกว่า “นึกไม่ออก ไม่เคยคิด พระพุทธเจ้าข้า”
    ท่านบอกว่า “ดินแดนนี้ สมัยนั้นเธอเคยเกิดเป็นนายพรานอยู่”
    สมเด็จพระพุทธทีปังกรองค์นี้ ท่านบอกว่า ถอยหลังจากสมเด็จพระปุทุมมุตตระไป ๓ สมัย หลายอสงไขยกัป ไม่ใช่เล่นๆ นะ
    ท่านบอกว่า สถานที่นี้มีภูเขาไฟเยอะ ท่านเปรียบเหมือนตะเกียง แต่ขอบเขตของแผ่นดินมันไม่ได้อยู่แค่นี้มันยาวไปอีกหน่อย อีตอนนั้นก็เป็นป่าบ้าง ไม่ใช่ป่าบ้าง ถามท่านเรื่องพาหนะ ท่านบอกว่า สมัยนั้นมีธนูยนต์ ธนูยนต์ คือเครื่องบินหรือจรวด
    ตอนนั้นพรานก็ไม่ใช่แต่งตัวนุ่งผ้าเตียว แต่งตัวสวยมีบริวารเป็นแสนเป็นหัวหน้าคน มีคนเคารพนับถือมาก แต่ไม่ใช่เป็นพรานอย่างเดียวนะ ก็ทำการเกษตร มีการทำนาด้วย แต่ว่าการฆ่าสัตว์ ก็เลือกเฉพาะสัตว์แก่ คือ หมายความว่าสัตว์ยังหนุ่มสาวไม่ฆ่า ถ้าสัตว์แก่แล้วมันใช้งานไม่ได้ ไม่เป็นประโยชน์จึงฆ่า
    ต่อมาเขาประกาศว่า เวลานี้พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้วในโลก พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันท่านเป็นดาบส เป็นนักบวช ก็พบกับท่านอยู่เสมอ อยู่แดนเดียวกัน และท่านก็สอน แต่ว่าเรื่องการฆ่าสัตว์ท่านไม่สอน เพราะอะไรรู้ไหม ขัดคอกัน
    ท่านก็บอกว่า “นายพรานใหญ่ วันนี้พระพุทธเจ้าเสด็จแล้ว”
    ถามว่า “พระพุทธเจ้าเป็นใคร..?”
    ท่านก็คุยบอกว่า
    “พระพุทธเจ้ามีความวิเศษมาก เหาะเหินเดินอากาศได้ นึกยังไง เป็นยังงั้น มีความศักดิ์สิทธิ์ พูดจาไพเราะ”
    ก็ตกลงไปกับท่าน เมื่อไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พอกราบท่าน ๓ ครั้ง พอเงยหน้าขึ้นมา ท่านถามว่า “สัตว์แก่ไม่มีประโยชน์รึ ?”
    ตกใจเลย ก็กราบทูลว่า
    “ที่ฆ่าสัตว์แก่เพราะสงสารมัน เห็นว่ากินไม่ทันเขา สัตว์แก่ใช้งานไม่ได้แล้ว อยู่ก็ลำบาก ถูกสัตว์หนุ่มสัตว์สาวรังแก แย่งที่ทำมาหากิน”
    ท่านก็ถามว่า
    “สัตว์แก่นี่พอใจในชีวิตไหม และสัตว์แก่ตัวไหนต้องการตายบ้าง หันไปถามคนข้างๆ ซิ ถามญาติผู้ใหญ่ของเธอว่าอยากตายหรือยัง”
    ก็หันไปถามลุง เห็นหน้าชัดๆ ท่านแก่มาก เวลานั้นอายุตั้งแสนปีนะ เป็นเด็กเท่าไร ๒ หมื่น ๕ พันปี ถามผู้ใหญ่ท่านก็บอกว่า ท่านไม่อยากตาย เมื่อแก่แล้ว ท่านก็มีชีวิตอยู่กับลูกหลาน
    พระพุทธเจ้าหันมาบอก
    “ไม่มีใครเขาอยากตายหรอก การที่เธอทำแบบนี้ ถึงว่าเธอทำตามความจำเป็นก็แล้วแต่ แต่ว่าเขายังไม่พอใจในการตาย”
    พูดตามภาษา เราก็ทำไม่ถูก แต่ท่านไม่หักโหม พระพุทธเจ้าไม่หักโหม ยังพูดแนะนำต่างๆ ว่าการประกอบอาชีพ ไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าสัตว์ ผักหญ้าเราหากินเองได้
    แล้วท่านก็ถามว่า
    “เธอนึกออกไหม เธอเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อนนะ”
    มาแล้ว หมัดหนักเข้ามาแล้ว ทีนี้ต่อยหนัก ท่านบอกว่า
    “ยังอยู่แค่อสงไขยเศษ บารมีเธอก็จะเต็มพุทธภูมิ เขาไม่ฆ่าสัตว์กันนะ”
    ก็กราบทูลท่านว่า “ข้าพระพุทธเจ้าไม่ทราบ”
    แล้วท่านก็ตรัสว่า
    “ถ้าไม่ทราบก็จงทราบเสีย เวลานี้พระพุทธเจ้าบอกเธอนะ เธอเคยเป็นลูกตถาคตมาก่อน เธอเป็นลูกตั้งแต่สมัยเป็นช้าง แล้วตอนเป็นคนก็หลายสมัย ลูกพระพุทธเจ้าเขาไม่ฆ่าสัตว์กันนะ”
    โดนอย่างหนักเชียวนะ ท่านว่าตามตำรับนะ ลูกพระพุทธเจ้าไม่ฆ่าสัตว์ แล้วท่านก็ตรัสต่อว่า
    “พระโพธิสัตว์ย่อมไม่ทำบาป ถ้าหากว่าจะทำบาปก็เพื่อความอยู่เป็นสุขของคนส่วนมาก คนส่วนน้อยรังแกอย่างนี้อาจจะทำเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ ทีนี้พระโพธิสัตว์ฆ่าสัตว์แก่ที่ไม่อยากตาย สัตว์แก่ตายไป ๑ ตัว สัตว์หนุ่มสัตว์สาวที่เป็นลูกหลานมันก็จะเสียใจมาก กำลังใจจะเสีย”
    แล้วท่านก็ตรัสต่อว่า
    “วาสนาบารมีเธอมีมาก ที่ฆ่ามาแล้วเป็นสัตว์ที่เนื่องถึงกัน สัตว์ที่เธอเคยฆ่าเขา เขาเคยฆ่าเธอ แลกกันไปแลกกันมา เวลานี้ สัตว์ประเภทนั้นมันหมดแล้ว ถ้าทำต่อไปมันไม่ใช่เวร แต่เป็นกรรม เวรนั้นไม่ลงนรก เกิดมาเพื่อฆ่ากัน ชาตินี้เราฆ่าเขา ชาติหน้าเขาฆ่าเรา เปลี่ยนกันแบบนั้น ต่อไปนี้มันเป็นกฏของกรรมไม่ใช่เวร มันต้องลงนรก”
    ท่านอธิบายเรื่องนรกเสียละเอียดละออเลย ขณะท่านพูดไป ท่านพูดช้าๆ เสียงเพราะมาก ท่านยิ้มตลอด สมเด็จพระสมณโคดม ท่านบอกว่า ท่านยิ้มกับเธอเท่านั้นนะ กับฉันไม่ค่อยยิ้มหรอก (สมัยเป็นดาบส) ท่านบอกว่า
    “ที่ท่านยิ้มมากๆ ก็เพื่อจะเอาชนะพรานแก่ เพราะนิสัยของเธอชอบคนยิ้ม”
    ท่านรู้นิสัย พอท่านพูดจบก็กราบ สั่งลูกน้องเอาธนู หอก ดาบ แร้ว เอามาถวายพระพุทธเจ้าหมด แล้วท่านก็รับประเคน ท่านรับประเคนแล้วถามว่า
    “เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือฆ่าสัตว์ใช่ไหม” ก็บอกว่าใช่
    “เธอถวายตถาคตหรือ” ก็บอกว่าใช่
    ท่านบอก “ตถาคตเป็นพระพุทธเจ้านะ แต่ตถาคตจะรับ” แล้วท่านก็สั่งเผาเดี่ยวนั้น
    ท่านตรัสต่อไปว่า
    “วาสนาบารมีของเธอก็ดี เวลานี้ในเขตนี้ไม่มีกษัตริย์ แต่ว่าเธอก็สามารถคุมคนได้เป็นแสน ควรจะประกาศตนเป็นกษัตริย์เสีย”
    ทุกคนที่นั่งป๋ออยู่นี่ พูดเก่งยกมือถามพระพุทธเจ้าว่า
    “กษัตริย์ต้องเป็นยังไง พระพุทธเจ้าข้า”
    เวลาพูดท่านยิ้มตลอดเวลา ท่านก็อธิบายถึงเรื่องการเป็นกษัตริย์ว่า ต้องปกครองคนโดยธรรม แนะนำลีลาของการเป็นกษัตริย์ และแนะนำว่ากษัตริย์ต้องทรงศีล ๕ มีทศพิธราชธรรม มีทาน มีศีล เป็นองค์ประกอบ ไม่มีการโกรธละทีนี้
    ที่ท่านพูดแบบนั้นนะ ที่แรกก็ไม่เข้าใจ องค์ปัจจุบันท่านอธิบายเมื่อตอนบ่าย ค่อยเข้าใจ ท่านบอกว่าให้ช่วยประกาศพระศาสนา ลูกน้องของเราทั้งหมดก็อยู่ในเขต ต้องช่วยกัน
    ถามว่าเครื่องแต่งกษัตริย์มีอะไรบ้าง ท่านบอกไม่มีความสำคัญ เวลานี้ไม่จำเป็น ไม่มีก็ไม่เป็นไร และท่านก็บอกว่าลีลาของการเป็นกษัตริย์ ต้องมีอะไรบ้าง กษัตริย์ถือว่าเป็นหัวหน้าคน และการเป็นหัวหน้าคนต้องป้องกันมิให้คนเบียดเบียนกัน ให้ตั้งอุดมการณ์ให้ดี
    ต่อมาก็ยอมรับเป็นกษัตริย์ ท่านตั้งชื่อให้ยาวเลย ปัญจสีลาบรมราชา ก็ว่าเรื่อย ทศพิธราชธรรม และลงท้ายว่า ธรรมราชา แปลว่า พระราชา ผู้ทรงธรรมอย่างยิ่ง เสร็จเลย ท่านมุ่งห้ามฆ่าสัตว์กัน ต่อจากนั้นก็ให้พระอรหันต์ ๕ องค์ แต่มีหัวหน้า ๑ องค์อยู่แนะนำกษัตริย์ในการปกครอง มีอะไรก็ถามพระอรหันต์องค์นั้น เป็นอัครสาวก
    เมื่อเป็นกษัตริย์ขึ้นมาแล้ว ก็ต้องสร้างบ้านสร้างเมือง ก็ถามท่านว่าการสร้างบ้านสร้างเมืองทำอย่างไร ที่ไหนจึงจะดี
    ท่านก็บอกหิมวันตประเทศ น่ะดีที่สุด ให้ตั้งพระราชฐานที่นั่น หิมวันตประเทศอย่านึกว่าเป็นป่าซะหมด มันเป็นป่าเขียวชะอุ่มมีต้นไม้มากเป็นป่าที่มีหมอก มีที่ทำมาหากิน หิมวันตประเทศตอนนั้น อยู่ห่างจากที่นี่ให้ล่องใต้ไป ๓๐ กม.
    ทีนี้มาว่ากันถึงคน ผิวพรรณของคนเป็นคนขาวเหลืองหมด และทรวดทรงดี จากนั้นก็ครองราชสมบัติอยู่ ๕ หมื่นปี สมเด็จองค์ปัจจุบันท่านบอกจริงๆ ตั้ง ๕ หมื่น ๕ พันปี
    การปกครองก็มีความเป็นสุข เพราะกษัตริย์ไม่ใช่นายคน มี อปจายนกรรม คือการอ่อนน้อม เมื่อเจอคนที่มีอายุแก่กว่า ต้องยกมือไหว้ ท่านบอกว่าการแก่กว่าต้องยกมือไหว้ ท่านบอกว่าการเป็นกษัตริย์ต้องทำแบบนั้น จึงจะชนะคนทุกชั้น ทุกประเภท เราชนะด้วยความดี
    พูดถึงอาชีพเวลานั้น ก็ต้องเลิกการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่ท่านก็สั่งไว้ว่า ถ้าต้องการกินเนื้อสัตว์ ก็ให้ไปซื้อจากเขา เราจะไม่บาป เพราะเราไม่ได้สั่งให้เขาฆ่า ไม่ได้ผลัดกันสั่ง
    และท่านก็บอกว่า การเป็นกษัตริย์สมัยนั้น ดินแดนกว้างขวางมาก มีคนเคารพนบนอบมาก การรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกันไม่มี รวมความว่ากษัตริย์ในสมัยนั้นไม่รู้จักคำว่า “รบ” รู้จักอย่างเดียวว่า ที่ไหนมีความทุกข์ ทำอย่างไรจะมีความสุข ต่างคนต่างช่วยกัน
    ถามท่านว่าคนจนมีไหม ท่านตอบว่าคนจนไม่มี นอกจากจะมีความเป็นอยู่เป็นสุข ไอ้สิ่งที่เราต้องการ แก้วและทองมีก็มาก ท่านบอกว่า แก้วก็คือเพชรและพลอย เราก็นำไปแลกเป็นสิ่งของ กับชาติอื่น จากเมืองอื่น เมืองอื่นเขามีความสมบูรณ์ แต่ว่าขาดบางอย่าง เขาขาดของที่เรามี ก็เอาไปแลกกับเขา ของที่เราขาดเขามี ก็เอามาแลกกันไปแลกกันมา
    ฉะนั้น คนจนไม่มี มีแต่คนสวย คนสวยนี่ไม่สวยแต่รูปร่าง เห็นหน้ากันมีแต่คนยิ้ม เห็นหน้าก็ยิ้มกันแต่ไกล ยังไม่ทันเห็นยิ้มแล้ว ยังไม่ทันเห็นหน้ายิ้มไว้ก่อน หน้าบึ้งไม่มี
    (แล้วหลวงพ่อก็สรุปว่า)
    จำได้ไหมว่าถอยหลังจากนี้ไป ๑ อสงไขยกับแสนกัปเศษๆ พวกเราเคยเกิด ณ ที่นี้ (เมืองโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์) สมัยสมเด็จพระพุทธทีปังกร ท่านบอกว่าต้องการให้ทราบเรื่องนี้ ต้องการให้ทุกคนทราบว่า
    เกิดมาแล้วกี่เที่ยว เกิดมาแล้วเท่าไร จงอย่าลืมว่าเกิดมาแล้วมีตาย ทรัพย์สมบัติที่เราสร้างไว้นี่ เมื่อตายแล้วเราก็หมดสิทธิ์ เกิดมาใหม่ทรัพย์สมบัติมันก็ยังอยู่ แต่เราไม่มีสิทธิ์จะเข้าไป มีหลายแห่งโผล่ไม่ได้ โผล่ถูกผลักใช่ไหม
    ลงท้าย ท่านก็สรุป อริยสัจจ์ แบบง่ายๆ
    การเกิดจะมีฐานะเป็นยังไงก็ตาม ก็ต้องมีทุกข์ หิวข้าวก็ทุกข์ การประกอบอาชีพก็ทุกข์ ถึงแม้จะมีเครื่องบินขี่ก็ทุกข์ จะมีรถนั่งก็เป็นทุกข์ มันอยู่ที่ไหน ทุกข์อยู่ในร่างกายของเราเอง คือ ความหิว ความต้องการของจิตใจ ถ้าไม่ได้สมความปรารถนาก็เป็นทุกข์
    และเวลาที่ทุกคนจะตาย เมื่อตายแล้วทุกคนก็กลับไปสวรรค์และพรหมกันหมด ไม่ไปนรก ท่านบอกว่าที่ไม่ไปนรกเพราะการฆ่าสัตว์ มีเหตุ ๒ ประการ
    ๑.สัตว์ประเภทนั้นเป็นศัตรูกันมาก่อน และก็จองล้างจองผลาญกันมาก่อน เธอฆ่าฉันได้ ชาติต่อไปถ้ามี ฉันจะฆ่าเธอบ้าง อย่างนี้ต้องแลกกัน ๕๐๐ ชาติ จึงจะหมดเวรนะ
    และคราวนั้นไม่ถึง ๕๐๐ ชาติ แค่เพียง ๓๐ ชาติเศษๆ เพราะเดิมที่พบพระอรหันต์ก็ดี พระพุทธเจ้าก็ดี ก็ระงับได้ ถ้าไม่พบพระอรหันต์หรือไม่พบพระพุทธเจ้าระงับ ก็ไม่มีทางระงับได้
    อย่างเวร ต้องระงับด้วยการไม่จองเวร แต่ท่านบอกสัตว์ที่จะพึงฆ่าประเภทนั้น มันหมดไปแล้ว และก็หมดตัวจริงๆ ต่อไปถ้าเราไม่ทำเวรไม่ทำกรรม กรรมที่เป็นอกุศลต่างคนต่างระงับ
    ๒.ช่วงหลังทำบุญอย่างเดียว อันนี้เป็นฌาน ในเมื่อเป็นฌาน เวลาตาย ก็นึกถึงบุญอย่างเดียว ก็ไปสวรรค์บ้าง ไปพรหมบ้าง
    สวัสดี แล้วหลวงพ่อกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “แล้วชาตินี้พวกเราจะไปไหนกันละ….?”
    จากหนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๒๒

    27336564_1372332229545183_260877413185989287_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...