เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 17 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f607.png แชร์ไปได้บุญ
    1f449.png ตอนนี้มีเจ้าภาพเต้นท์แล้ว 8 หลังยังต้องการอีก 22 หลังร่วมบุญหลังละ500บาทหรือตามกำลังได้เลยค่ะ
    1f607.png บอกบุญนะคะ
    1f64f.png ขอเชิญญาติธรรมทุกท่านร่วมบุญเป็นเจ้าภาพเต้นท์งานเททองหล่อพระวิสุทธิเทพสูง2.09เมตรและเททองหล่อพระธาตุเจดีย์ศรีสัตตนาคราชสูง2.19เมตรที่สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่สุพรรณบุรีในวันอาทิตย์ที่31 มีนาคม 2562ค่ะ
    1f33a.png ต้องการเจ้าภาพเต้นท์ 30 หลังร่วมบุญหลังละ 500 บาทหรือร่วมได้ตามกำลังค่ะ
    1f33a.png โอนร่วมบุญได้ที่ธ.ไทยพาณิชย์ 406-337594-3
    1f343.png น้ำฝน บุญสิงห์
    1f343.png พร้อมเพย์ 0915145635 ค่ะ
    1f33a.png อานิสงส์ในการถวายเต้นท์เเด่พระพุทธศาสนา
    1. ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข ไม่ร้อนรน (เพราะให้ความร่มเงาบังเเดดบังฝน)
    2. มีที่อยู่อาศัย ไม่ขัดสน (ไม่ขาดเเคลนที่พักผ่อน)
    3. ได้บุญจากผู้คนที่มาทำบุญ เททองหล่อพระ
    4. ได้สร้างถาวรวัตถุให้ผู้คนได้กราบได้ไหว้
    5. ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้ทานที่ ได้อานิสงส์มาก (เพราะมีความต้องการมาก)ทานบารมี
    6. ถวายทำนุบำรุงพระศาสนาให้จริญมั่นคง

    52890311_1855524651225936_7949379419968110592_n.jpg
    53188033_1855524697892598_8112774776365252608_n.jpg
    53036306_1855524834559251_2904884955802763264_n.jpg
    52836999_1855525071225894_5679107737921781760_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทำงานทุกอย่างให้พิจารณาเพื่อตัดโลภโกรธหลง
    ธรรมโอวาท หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    “..รักษากำลังใจให้มั่นคงจริง ๆ ให้จิตมันแน่วแน่จริง ๆ อย่าเอาจิตเข้าไปยุ่งกับอารมณ์ภายนอก ทำงานทุกอย่างเพื่อสาธารณประโยชน์ เราทำเพื่อพระนิพพาน ที่เราทำนี่ เพื่อไม่เกิด ไม่ใช่ทำเพื่อเกิด

    ไม่เกิด ทำทำไม ก็ทำเพื่อเป็นการตัดอารมณ์ว่า ไอ้งานที่เราทำไปแล้ว เราลงทั้งทุน ลงทั้งแรง แต่ว่าทำไปแล้วเราก็รู้ว่ามันเป็นอนิจจังของไม่เที่ยงนะ อนัตตาไม่ช้าก็สลาย มันไม่ตายก่อนเราก็ตายก่อน มันไม่พังก่อนเราก็ตายก่อน

    เราทำเพื่อจิตตัดโลภะความโลภ การทำงานอารมณ์มันจุกจิก ฝึกอารมณ์ใจให้มันเย็น ตัดความโกรธ การไม่สนใจว่ามันเป็นของเรา เพราะว่าเรากับมันไม่ช้าต่างก็บรรลัย เป็นการตัดความหลง ไปนิพพานเลย..”

    53283383_1857653361013065_3920105350723796992_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “ทำ ๔ ข้อให้ได้ไปนิพพานหมด”
    ธรรมโอวาท หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
    “..ชาตินี้พวกเราควรจะพอกันเสียที เกิดทุกชาติก็ตายทุกชาติ เคยเป็นใหญ่ เคยเป็นกษัตริย์มีทรัพย์สมบัติมากมาย เอาติดมาไม่ได้เลย
    ๑. ให้นึกถึงมรนัสสติกรรมฐานไว้ เพราะเป็นสมถะ และตัดสักกายทิฏฐิไปด้วย เพราะคิดถึงความเสื่อม คือ ตายเป็นปกติ
    ๒. มีอนุสสติครบ เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์
    ๓. ทรงศีลบริสุทธิ์
    ๔. นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์
    พวกเราทำ ๔ ข้อนี้ให้ได้ไปนิพพานหมด ไม่ต้องทำอะไรมากมายไปกว่านี้ เพราะเราทำทุกอย่างมาเต็มหมดแล้ว..”

    53321669_1858335137611554_4490459935137595392_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงปู่พระครูบาธรรมชัย (พระครูวรเวทย์วิสิฐ) มรณภาพแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต หลวงปู่พระครูบาธรรมชัยเดิมท่านเป็นพุทธภูมิ ต่อมาก็ลาพุทธภูมิ ขอเกิดอีกชาติต้องการเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์

    “..หลวงปู่พระครูบาธรรมชัย (พระครูวรเวทย์วิสิฐ) วัดทุ่งหลวง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ก่อนหน้านี้มีคนแจ้งข่าวให้อาตมาทราบว่าหลวงปู่ธรรมชัยท่านไม่สบายมาก เข้าโรงพยาบาล อาตมาฟังแล้วก็คิดในใจว่าวันนี้ตรงกับวัน ๑๒ ค่ำ ตามตำราโบราณถ้าป่วยวันนี้มันหายยาก หลังจากนั้นถัดไปอีก ๑ วันจากวันที่ได้รับข่าวว่าท่านมรณภาพแล้ว ก็คิดว่าเคยทำงานคู่กันในด้านสาธารณประโยชน์เหมือนกันแต่คนละด้าน ท่านไปแล้วก็เหลือแต่เรา จึงคุมกำลังใจตนเอง นอนภาวนาบ้างพิจารณาไปบ้าง พอจิตรวมตัว จิตรวมตัวนี่ไม่ต้องบังคับ พอจิตทรงตัวดีก็ไปหาพระ พอไปถึงก็กราบพระ ถ้าจิตมีกำลังอย่างนี้ตายเมื่อไรก็มาที่นี่ ก็นึกถึงหลวงปู่ธรรมชัยขึ้นมาได้ จึงกราบเรียนถามพระท่านว่า “เวลานี้หลวงปู่ธรรมชัยอยู่ที่ไหน”
    ท่านก็ตอบว่า “หลวงปู่ธรรมชัยอยู่ชั้นดุสิต” ก็ตกใจเพราะว่าหลวงปู่ธรรมชัยเดิมท่านเป็นพุทธภูมิ ต่อมาก็ลาพุทธภูมิต้องการเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์ ท่านเคยบอกว่า “ขอเกิดอีกชาติ ต้องการเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์” อาตมาจึงกราบถามพระว่า “ในเมื่อหลวงปู่ธรรมชัยไม่ได้เป็นพุทธภูมิ ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าชั้นดุสิต เพราะชั้นดุสิตผู้ที่จะเข้าได้ต้องเป็นพระอริยเจ้าขั้นพระโสดาบันขึ้นไป และในเมื่อหลวงปู่ธรรมชัยปรารถนาเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์ ก็เป็นพระอริยเจ้าไม่ได้จึงไม่มีสิทธิ์เข้าชั้นดุสิต
    และอีกประการหนึ่งหลวงปู่ธรรมชัยลาจากพุทธภูมิแล้ว และไม่ใช่บิดามารดาของพระโพธิสัตว์ ทำไมเข้าชั้นดุสิตได้” พระท่านก็บอกว่า “งานของหลวงปู่ธรรมชัยเป็นงานพุทธภูมิ มีเมตตา ความรัก กรุณา ความสงสาร ไม่มีขอบเขต ใครไปก็สงสารมีเงินหรือไม่มีไม่สำคัญ ต้องการสงเคราะห์อย่างเดียว ด้านมุทิตา ท่านไม่เคยอิจฉาริษยาใคร ใครได้ดีพลอยยินดีด้วย อุเบกขา วางเฉย คนที่ไม่ชอบใจเขาก็ว่าท่าน เขานินทาท่าน ท่านก็เฉย รวมความว่าท่านครบถ้วน บริบูรณ์ด้วยพรหมวิหาร ๔ ไม่มีขอบเขต อย่างนี้เขาเรียกเป็น อัปปมัญญา อัปปมัญญา นี้ไม่มีขอบเขต ถือว่างานประเภทนี้เป็นงานพุทธภูมิไม่ใช่งานสาวก และทำไมจะถือว่าเขาไม่มีสิทธิ์เข้าชั้นดุสิต”
    พอพูดจบท่านก็เรียกหลวงปู่ธรรมชัยเข้าไปนั่งคู่กับอาตมา อาตมาถามหลวงปู่ธรรมชัยว่า “หลวงปู่ออกจากร่างกายแล้ว รู้สึกเสียดายร่างกายไหม อยากกลับเข้าไปไหม” หลวงปู่ทำหน้าเบ้ปั้นไม่ถูกเลยตอบว่า “รังเกียจร่างกายจริงๆ” ถามว่า “อายุกาลมันสมควรหรือเปล่าในการตายครั้งนี้” ท่านบอกว่า “เป็นการตายที่ไม่สมควรแก่เวลาที่ควรจะตาย” พระท่านบอกว่า “สงสารเธอ กาลเวลามันเลยมาแล้ว เรื่องการก่อสร้างก็เหลือไม่มาก คนอื่นเขาทำต่อไปได้ ควรไปให้ได้มีความสุขบ้าง” หลังจากนั้นพระท่านก็เรียกพระศรีอาริยเมตไตรยขึ้นไป พอท่านขึ้นไปอาตมาก็กราบเรียนถามว่า “เวลานี้วิมานของหลวงปู่ธรรมชัยอยู่ที่ไหน” ท่านบอกว่า “เขาปรารถนาเป็นอัครสาวกของฉันก็อยู่ที่ฉัน”
    ใครฝึกมโนมยิทธิได้ก็สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง เวลาจะพิสูจน์ก็ต้องทิ้งความจำที่รู้มาก่อน อย่างพระท่านบอกว่า “หลวงปู่ธรรมชัยอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต” ต้องทิ้งอารมณ์นี้เสียก่อน ให้จิตมีความทรงตัวเป็นอุเบกขา อย่าให้อารมณ์เก่าที่เราได้ยินมามีในจิต จึงเริ่มภาวนา แล้วขึ้นไปหาพระแล้วก็กราบถามท่าน อย่างนี้จะไม่ผิด..”

    จากหนังสือ ตายแล้วไม่สูญ แล้วไปไหน

    52800431_1861637497281318_6276070933224488960_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #ทำสังฆทานแทนการเลี้ยงพระที่บ้าน

    กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกอยู่บ้านที่ห้วยขวางมาเป็นเวลา ๔ ปี ยังไม่เคยทำบุญบ้านเลย วันนี้ลูกมาหา หลวงพ่ออยากจะกราบเรียนถามหลวง พ่อว่า ถ้าลูกถวายสังฆทานที่ซอยสายลม แทนการนิมนต์พระมาทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน จะทำให้ผีทุกระดับชั้นภายในบ้านโมทนา และช่วยเหลือลูกต่อไป ข้างหน้าได้หรือไม่เจ้าคะ?

    ต้องบอกเขาโมทนานะ ใช้ได้เลยได้ ผลเท่ากัน สังฆทานเหมือนกัน แต่ว่า สังฆทานที่บ้านยุ่งยากไปหน่อย นี่บุญจะ ลดตัวลง

    ทำไมถึงจะลดตัวลงครับ?

    อ้าว! ไอ้นั่นขาด ไอ้นี่ไม่มี คนนั้นทำอะไรไม่ชอบใจ จิตใจมัวหมอง ความจริงอานิสงส์สังฆทานเหมือนกัน ที่บ้านนิมนต์พระไปก็สังฆทาน อย่างนี้ก็ สังฆทาน ทำสังฆทานอย่างนี้ไม่มีกังวล หมดเรื่อง จิตใจเป็นสุข ลงทุนไม่มาก ด้วย

    #แต่ก็อย่าลืมว่าทำแล้วบอกให้ผีหรือเทวดาที่บ้านท่านโมทนาด้วยเท่านั้นแหละ

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    _________________
    จากหนังสือ “ทุกคนอยากรู้” โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    หน้า ๙๘ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์

    52977683_1861643857280682_8320575219815153664_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #วิธีสิ้นทุกข์

    วิธีสิ้นทุกข์ทำยังไง เรามีการให้ทาน เป็นปกติ ถ้าอารมณ์เราพร้อมเพรียง ในทาน ก็ชื่อว่าเป็นการตัดโลภะ ความโลภ เรามีเมตตาเป็นปกติ อารมณ์ของเมตตาที่้เราทรงอยู่คือ รักษาศีลได้ ถ้ามีเมตตาอยู่ศีลมันก็ไม่ ขาด ถ้ามีเมตตาอยู่เป็นปกติ นอกจาก มีเมตตาอยู่ศีลไม่ขาดแล้ว เมตตามันยัง เป็นตัวทำลายโทสะเราก็มาพิจารณา หาความจริงว่า

    “ชาติปิ ทุกขา ความเกิดเป็นทุกข์” เจ้าอยากเกิดนี่ มันจะทุกข์อย่างไรก็ ช่างมัน ใจเราก็วางเฉยไว้

    “ชราปิ ทุกขา ความแก่เป็นทุกข์” อาการงกๆ เงิ่นๆ ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่กระปรี้กระเปร่า มีความปรารถนา ไม่สมหวังเพราะทำเองไม่ได้แล้วเรา ก็เลยมีทุกข์ ถือว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา ของคนแก่ เกิดมาเพื่อแก่

    “มรณัมปิ ทุกขัง ความตายเป็นทุกข์” เรื่องของชาวบ้านธรรมดาเราไม่ทุกข์ ถือว่าเป็นกฎธรรมดา ตายเสียได้ก็ดี เพราะมันจะได้หมดเรื่องยุ่ง แล้วเราเห็น ว่าขันธ์ ๕ เป็นโทษเป็นทุกข์สำหรับเรา เราก็เลยคิดต่อไปว่า ขึ้นชื่อว่าขันธ์ ๕ ความเกิดมามีร่างกายขันธ์ ๕ แบบนี้จะ ไม่มีสำหรับเราอีก เราจะไม่โง่ยอมรับ นับถือให้มีร่างกายต่อไป ถ้าอารมณ์ใจ ของเราคิดไว้อย่างนี้เป็นปกติ เราก็จะ หมดความทุกข์ มันค่อยๆ เข้าใจไปเอง

    นี่เป็นบทที่บรรดาพุทธบริษัทควรจะคิด ให้เป็นปกติ เพื่อความเข้าถึงซึ่ง พระนิพพาน นี่เป็นวิปัสสนาญานตัวสุดท้าย

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    ____________
    จากหนังสือธรรมวิโมกข์ ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๔๑๘. หน้า ๖๒ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์

    53352617_1864840323627702_6604323511152410624_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “สมเด็จองค์ปฐม” ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่หนึ่ง ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขี”แต่พระพุทธ เจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้วอาจจะมีชื่อซ้ำกันได้ โดยเฉพาะชื่อนี้มีด้วยกันถึง 5 พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น พระพุทธสิกขีที่ 1 พระองค์จึงเป็นต้นพระวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระพุทธองค์ว่า ทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู”อย่างแท้จริง

    สมัยที่สมเด็จพระพุทธองค์ ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้น คนมีอายุขัยประมาณ 8 หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวชออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก 2 หมื่น ปี จึงได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ อีกประมาณ 2 หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพาน หลังจาก ทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง 40 อสงไขยกัปในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณ ด้วยพระองค์เอง ทรง ใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี เนื่องจากพระพุทธองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างที่จะให้พระพุทธองค์ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อ บรรลุ พระโพธิญาณ ระยะเวลาที่บำเพ็ญพระบารมี จึงใช้ ถึง 40 อสงไขยกัปเศษ
    การพบสมเด็จองค์ปฐม ครั้งแรกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เมื่อประมาณ พ.ศ. 2511 คือท่านกำลังสอนพระกรรมฐาน และเมื่อเสร็จจากการแนะนำ ก็ได้ทำสมาธิ สิ่งที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้น นั่นคือเห็นเป็นพระพุทธเจ้าในปางนิพพานยืน สองแถวยาวเหยียดไปข้างหน้าแล้วก็พนมมือ จึง มีความรู้สึกในใจว่า บางทีอาจจะเป็น อุปาทาน เพราะว่า พระพุทธเจ้าม่เคยก้มศรีษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือน เล็กๆ ที่หลังคา ตํ่าๆ หาก พระพุทธเจ้าเข้าไป หลังคาก็จะสูงขึ้น แต่เวลานี้เห็นพระพุทธเจ้ายืนพนมมือ อุปาทานคือกิเลสคงกินใจมาก เมื่อนึกเพียงนี้ ก็เห็นภาพหลวงปู่ปาน ปรากฏขึ้นข้างข้าง ๆ หลวงปู่ปานท่านบอกว่า ” คุณ..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา ”

    อีกประมาณสัก 5 นาที ปรากฏว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง รูปร่างใหญ่โตมาก สูงมาก มาในรูป ของปางนิพพาน เดินมาระหว่างช่องกลาง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ก้มศรีษะ แสดงความเคารพ เพราะพนมมืออยู่แล้ว พอท่านเดินไปถึง พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านก็ตรัสว่า” ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า… ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าก็เอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน ” ก็เลยนั่งบนหัว แล้วท่านก็บอกว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมะก็ดี จะเทศน์ก็ดี บอกฉันก่อน ฉันให้พูดตอนไหน จะให้เทศน์ตอนไหน ให้ว่าตามนั้น”

    ก็เป็นความจริง เมื่อใดก็ตาม ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ สอนกรรมฐานก็ดี เทศน์ก็ดี บางทีคิดว่าวันนี้จะพูดเรื่องอย่างนี้ แต่พอพูดเข้าจริง ๆ เรื่องนั้นไม่ได้พูดไปพูดอีกจุดหนึ่ง อันนี้เป็นลีลาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ การเทศน์ของพระพุทธเจ้ามุ่งเฉพาะบุคคลสำคัญคนใดคนหนึ่งไม่ได้หวังคนทั่วไป คนจะนั่งสักหนึ่งพัน สองพัน ห้าพันก็ตาม ท่านจะดูจิตใจว่า บุคคลใดจะรับคำเทศนาของท่านได้ จะสาารถบรรลุมรรคผลได้ ท่านจะจี้จุดเฉพาะคนนั้นเอาจุดเด่น แต่ว่าคนที่มีความดีใกล้เคียงกันก็พลอยบรรลุมรรคผลไปตาม ๆ กัน

    อันนี้ก็เช่นเดียวกัน อาตมาเวลาเทศน์หรือสอนกรรมฐานก็ไม่เคยได้พูดตามที่คิดไว้สักที อาจเป็นเพราะท่านดลใจ ถ้าจะถามว่าเป็นที่ชอบใจของคนทุกคนไหม ก็ขอตอบว่าไม่แน่นัก ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าท่านอาจจะจี้จุดเฉพาะคนใดคนหนึ่ง แต่คนบางคนอาจจะไม่ถูกใจก็ได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา ก็จึงมาคิดว่า ในเมื่อท่านมีพระคุณอย่างนี้ และก็เห็นเป็นปกติ จึงคิดจะหล่อรูปของท่าน

    ต่อมาเมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เจริญพระกรรมฐานแล้ว จึงได้อาราธนา ขอพบท่านในสมัยที่รูปร่างเป็นมนุษย์ ท่าน ก็ปรากฏพระองค์ให้เห็น ทรวดทรงสวยมาก หน้าของท่านอิ่มเหมือนรูปไข่ แก้มอิ่ม ยิ้มน้อยๆ ริมฝีปากไม่บุ๋ม ไม่เหมือนพระพุทธเจ้าที่เขาปั้นกัน แก้มตอบปากบุ๋มลงไป แล้วสมเด็จองค์ปฐม ก็แสดงรูปร่างสมัยเป็นมนุษย์ และก็เปลี่ยนมาเป็น ปางนิพพาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็ถามว่า ถ้าจะปั้นรูปของพระองค์ จะให้ปั้นแบบไหน แบบปางพระนิพพานหรือแบบมนุษย์

    พระพุทธองค์บอกว่า ให้ปั้นแบบนี้ก็แล้วกัน ทรง แสดงภาพให้ดู เป็นเหมือนกับ พระพุทธรูป และมีเรือนแก้ว แบบพระพุทธชินราช รูปที่ทรงให้ปั้นไม่เหมือนกับรูปจริงของพระองค์ตอนเป็นมนุษย์ และก็ไม่เหมือนรูปที่นิพพาน แต่ว่าเป็นรูปที่ท่านต้องการ ท่านมาแสดงแบบนั้นอยู่ถึง 3 วัน ติดๆ กัน วันละประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ดูจนละเอียด แต่ก็คิดในใจว่า ช่าง เขาปั้น แต่เขาไม่เห็นภาพ เขาจะปั้นได้ไม่เหมือน จึงขอบารมีของท่านบอกว่า เวลาช่างปั้น ขอให้โปรดดลใจให้เป็นไปตามพระพุทธประสงค์ ท่านก็ยอมรับ ในที่สุดเมื่อเขาปั้นเสร็จ เขาก็เอามาให้ดูเหมือนกับรูปที่ท่านแสดงจริง ๆ นี่เป็นเรื่องอัศจรรย์

    เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อตัดสินใจปั้นรูปของสมเด็จองค์ปฐม ก็นึกถึงพระบรมสารีริกธาตุ เพราะพระพุทธรูปทุกองค์ในสถานที่สำคัญ ก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่เป็นพระบรมสารีริกธาตุขององค์ปัจจุบัน จึงคิพว่าจะหาได้จากไหน จึงตัดสินใจว่า ถ้าทำไม่ได้ก็จะเอาขององค์ปัจจุบันบรรจุ เพราะถือว่าเป็นคนละขั้นตอน ต่อมา ขณะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังจะนอน จิตเริ่มเคลิ้ม ก็ได้ยินเสียงว่า “พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมเอามาให้แล้วนะ วางไว้ที่ตลับบนเตียงข้าง ๆ หัวนอน” ได้ยินเสียงชัดเจนแจ่มใสมาก เหมือนเสียงขององค์ปัจจุบัน จึงลุกขึ้นไปเปิดไฟ ปรากฎว่าที่ตรงนั้นไม่เคยวางตลับ มีแต่วางหนังสือสำหรับดูก่อนหลับ ก็มีตลับพลาสติคแบบปัจจุบันอยู่ลูกหนึ่ง ไปเปิดดูเห็นพระบรมสารีริกธาตุองค์โตสององค์ ก็ดีใจว่าขององค์ปฐมแน่ จึงเก็บไว้ในที่สักการะบูชา เอาไว้บรรจุพระองค์ท่าน

    การสร้างมณฑปของสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญมาก ซึ่งสมเด็จองค์ปฐมได้ชี้สถานที่ให้ เป็นบริเวณที่มีพระบรมสารีริกธาตุสำคัญมาก และเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้คนเดินผ่านไปมา จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ซึ่งพระเพชพระคุณหลวงพ่อได้ให้ช่างทำการก่อสร้างมณฑปของสมเด็จองค์ปฐมดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

    มาพูดถึงวัสดุที่จะใช้สร้างสมเด็จองค์ปฐม สร้างหน้าตักสี่ศอก เป็นพระหล่อด้วยโลหะ แล้วก็ผสมทองคำ เฉพาะเพชรที่ประดับเรือนแก้วหรือว่าผ้าทิพย์ มีราคาประมาณเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นบาทเเศษ แต่ไม่ใช่เพชรจริง ๆ ราคาเพชรเม็ดหนึ่งประมาณ 12-13 บาทเท่านั้น ก็รวมความว่า ความสำคัญเนื่องในการสร้างองค์ปฐม คือว่าคนไม่เคยคิด หรือว่าอาจจะคิดบ้างก็ไม่ทราบ ว่า พระพุทธเจ้าจริง ๆ ที่มีความลำบากมากคือ “องค์ต้น” เพราะไม่เคยมีพระพุทธเจ้าเป็นครูมาก่อน ต้องลำบากบุกมาทั้ง ๆ ที่ไม่มีแบบ เป็นเหตุดลใจให้ตั้งใจคิดจะเป็นพระพุทะเจ้า ต้องใช้เวลาถึงสี่สิบอสงไขยกัปเศษ จึงจะได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ดังนั้น การหล่อรูปองค์ปฐมนี้จึงมีอานิสงส์มาก การหล่อรูปสมเด็จองค์ปฐม จึงได้ทำการเททองหล่อ เมื่อวันที่ 15 มีนคม 2535 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เป็นองค์ประธานจับสายสิญจน์ ในการหล่อพระพุทธรูป โดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อทำการเททองลงในเบ้าที่ช่างเตรียมไว้ โดยใช้ทองคำที่ญาติโยมร่วมกันถวาย ประมาณ 78 กิโลกรัม

    วันที่ 16 พฤษภาคม 2535 เป็นวันวิสาขบูชา พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้อัญเชิญพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ขึ้นประดิษฐานบนแท่นภายในมณฑป ซึ่งเดิมพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐม แต่เนื่องจากการตกแต่งพระวิหารก็ดี ยังไม่เรียบร้อย จึงต้องเลื่อนไข

    วันที่ 13 มีนาคม 2536 เป็นวันเริ่มงานทำบุญประจำปีของวัดท่าซุง และในวันที่ 14 มีนาคม 2536 ได้นิมนต์พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา มาเป็นประธาน และได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมไว้ในพระเกตุมาลาของพระพุทธรูป ท่านพระครูปลัดอนันต์ พุทธญาโณ เจ้าอาวาสวุดท่าซุง ได้อาราธนาพระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ นำพระเกตุมาลามาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แล้วอัญเชิญไปสวมที่พระเศียรของพระพุทธรูป แต่เนื่องจากการนำขึ้นไปลำบากและสูง พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์จึงมีบัญชาให้ท่านเจ้าอาวาสนำขึ้นไปแทน เมื่อเสร็จพิธี พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวว่า “พระองค์นี้มีลาภมากนะ”

    ส่วนอานิสงส์ของการสร้างสมเด็จองค์ปฐม ลุง 2 ลุง นายบัญชีกับลุงพุฒิ (หมายถึงท่านพระยายม) ท่านบอกว่า การสร้างองค์ปฐมนี่ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ เอาบัญชีมาให้ดู บอกนี่…บัญชีเล่มนี้ (คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่ที่จดธรรมดา) “บัญชีสีทอง” เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย ท่านบอกถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้โดยเฉพาะ ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี่ ต้องเป็นคนมีบุญมาก เพราะว่าการสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่าเป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด และกรทำบุญเนื่องในการสร้างวิหารก็ดี สถานที่ก็ดี เอาของไปประดับก็ตาม อย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด คือไม่หมายความต้องมีเงินมากเสมอไป ที่เขามีน้อย ๆ บาทสองบาท สิบสตางค์ยี่สิบสตางค์ พวกนี้เอาไปใส่แท่น อย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด ก็ถามว่าบัญชีสีทองหมายถึงอะไร ท่านบอกมันหมายถึงกลับไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าทุกองค์ต้องโมทนาหมด

    การหล่อองค์ปฐมด้วยทองคำนี่ อานิสงส์จะเหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แต่ว่าต่างกันอยู่นิดหนึ่งที่ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมาก เพราะเขาเข้าบัญชีสีทองไม่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น

    (คัดมาจากหนังสือประวัติการสร้างสมเด็จองค์ปฐม โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี)
    ———————————————————————————–

    53165140_1865215720256829_4669243171513827328_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #นึกถึงศพ

    แล้วก็นึกถึงศพใครคนใดคนหนึ่งที่เราเคยเห็น ว่าเขาคนนั้นในสมัยก่อนก็มีชีวิต เช่นเดียวกับเรา บางคนก็เคยคบหาสมาคมกันพูดจาปราศัยกัน แต่เวลานี้เขามีจิตออกจากร่าง หรือวิญญาณออกจากร่าง เพราะร่างกายมีสภาพไม่รู้เรื่องอะไรทั้งหมด

    ขณะที่เขามีชีวิตอยู่ คนนั้นก็บอกว่าเป็นลูก คนนี้ก็บอกว่าเป็นหลาน คนนั้นก็เป็นพี่ คนนี้ก็เป็นน้อง คนนั้นก็เป็นเพื่อนทุกคนต่างมีการคบหาสมาคมซึ่งกันและกัน

    แต่ว่าพอจิตออกจากร่างหน่อยเดียวทุกคนไม่อยากรู้จัก มองก็ไม่อยากจะมองจับก็ไม่อยากจะจับ เพราะอะไร เพราะร่างกายไร้วิญญาณ (จิต) แล้วก็มีสภาพเลวกว่าท่อนไม้ที่เขาไม่ต้องการ เพราะท่อนไม้ไม่เน่า แต่ร่างกายเน่า เป็นสภาวะที่ทุกคนไม่ต้องการ

    ในเมื่อร่างกายมีสภาพแบบนี้ ร่างกายก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเรา มันเกิดมาเบื้องต้นเต็มไปด้วยทุกข์ฉันใด กว่าจะตายก็เต็มไปด้วยความทุกข์

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    __________________
    จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๓๒
    ฉบับที่ ๓๖๕ หน้า ๕๗ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์

    53469073_1867706973341037_8513143944001880064_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f33c.png 1f338.png 1f33c.png 1f338.png
    1f449.png บอกบุญค่ะ
    1f64f.png ขอเชิญญาติธรรมทุกท่านร่วมบุญเป็นเจ้าภาพพื้นฟลอร์เเละอาสนะพระสงฆ์(เวทีเหล็ก)
    ในเต็นท์พิธีเททองของสวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ สุพรรณบุรีค่ะ
    1f449.png งบประมาณในการบอกบุญ 4,500 บาท
    ขอแบ่งเป็น45กองบุญๆละ100บาทหรือเชิญร่วมบุญได้ตามกำลังค่ะ
    1f4f2.png โอนร่วมบุญได้ที่ธ.กสิกรไทย004-3-88112-4
    2728.png น้ำฝน บุญสิงห์
    อานิสงส์ของการถวายอาสนะสงฆ์

    ในกาลครั้งหนึ่ง องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อพระองค์เสด็จอาศัยกรุงสาวัตถี อันเป็นที่โคจรบิณฑบาต เสด็จประทับอยู่ในบุพพารามวิหาร ณ ป่าเชตวัน มีมหาเศรษฐีผู้หนึ่งอยู่ในบ้านสถาน ชื่อว่า หะโตสะเศรษฐีปลูกโรงมณฑปไว้หน้าเรือนของตน และทำสร้างแปลงอัฏฐะบริหาร ๘ ประการเป็นต้นว่า ผ้าจีวร สบง สังฆาฏิ บาตรและผ้ากรองน้ำ คิลานเภสัช และขวานสิ่ว เสื่อสาดอาสนะ ครบเครื่องอัฏฐะ แล้วทำการมหรสพอันยิ่งใหญ่ประจบครบ ๗ วัน แล้วจึงนำกองอัฏฐะ เข้าไปสู่ป่าเชตวัน ณ บุพพรามวิหารอันเป็นที่ประทับแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้า ถวายบิณฑบาต และอัฏฐะ แก่พระพุทธองค์กับทั้งพระภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูป เสร็จจากการภัตตากิจแล้ว ก็กราบทูลถามถึงองค์ผู้เจริญ อันบุคคลที่มีจิตศรัทธา ประสันนาการ มาสร้างอัฏฐะ บริขาร ๘ ประการให้เป็นทาน จะได้อานิสงส์ อย่างไรพระเจ้าข้า

    องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสเทศนาว่า ดูกรเศรษฐีบุคคลใด ที่มีใจศรัทธาเลื่อมใส มาก่อสร้างบริการ ๘ ประการ ถวายเป็นทานก็จะได้อานิสงส์ ๓๖ กัล์ป บุคคลผู้นั้นจะไม่ไปสู่อบายภูมิได้ ๑๐๐ ชาติ จะได้เสวยสมบัติในชั้นสวรรค์ภายหลัง จะได้พระนิพพานสมบัติ อันสิ้นภพ สิ้นชาติสิ้นทุกข์สิ้นภัย ไม่เวียนว่ายตายเกิด ในวัฏฏสงสาร การถวายทานด้วยเครื่องอัฏฐะบริขารนี้ เป็นเยี่ยงอย่างประเพณี แห่งพระบรมโพธิสัตว์สืบ ๆ กันมา พระพุทธองค์จึงนำอดีตนิทานมาเทศนาว่า

    ดูกรเศรษฐีในอดีตกาลล่วงมาแล้ว ในครั้งพระบรมโพธิสัตว์ บำเพ็ญพระบารมีบริบูรณ์ ได้ตรัสรู้ปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ ทรงพระนามว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระมหากรุณาโปรดเวไนยบรรพสัตว์ ให้ตั้งอยู่ในทางสวรรค์และทางนิพพาน ครั้งนั้นยังมีบุรุษเข็ญใจ เลี้ยงชีวิตด้วยความลำบากไปเที่ยว เก็บผักหักฟืน มาขายเลี้ยงชีวิตอยู่มาวันหนึ่งไปเห็นพระปัจเจกโพธิองค์หนึ่ง อยู่ในป่า ก็มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ในพระปัจเจกโพธิ เข้าไปถวายอภิวาท แล้วแบกเอามัดฟืน และผักกับมาขายได้เงินพอสมควร แล้วจึงนำไปซื้อผ้าแพรมาทำเป็นผ้าสบง จีวรสังฆาฏิบาตรครบเครื่องอัฎฐะ แล้วจึงนำเข้าไปถวายแก่ พระปัจเจกโพธิเจ้า แล้วจึงตั้งปฏิธานด้วยเดชะบุญแห่งข้าพเจ้าได้ทำทานในครั้งนี้ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากความเข็ญใจได้ยาก เหมือนดั่งชาตินี้ และเมื่อข้าพเจ้าได้ท่องเที่ยว อยู่ในวัฏฏสงสารตราบใด ขอให้ข้าพเจ้า บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ ให้ได้จำแนกแจกทานแก่ท่านผู้มีศีล และคนยาจกวณิพกคนขอทุกทั่วหน้า และขอให้ข้าพเจ้า ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมโพธิญาณ ครั้นปรารถนาแล้วก็กลับไปสู่บ้านเรือนของตนขวนขวายหาเลี้ยงมารดา ตราบเท่าสิ้นอายุ ก็ไปบังเกิดสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานทองสูง ๒๘ โยชน์ มีนางฟ้าเทพอัปสร ๕๐๐ เป็นบริวาร ครั้นจุติจากตุสิตพิภพแล้ว มาถือกำเนิดในตระกูล สากยะเสตะราชกรุงสาวัตถี บริบูรณ์ด้วย โภคสมบัติ ครั้นเจริญวัยขึ้นก็ได้เสวยราชสมบัติแทนบิดา ทรงพระนามว่าสมเด็จพระยาปัสเสนทิโกศล ในกาลบัดนี้ ครั้นจบพระธรรมเทศนาแล้ว หะโตสะเศรษฐีได้ทูลลาไปสู่เรือนของตน ครั้นเมื่อสิ้นอายุขัยแล้วก็ไปบังเกิดในดุสิต เสวยทิพย์สมบัติ มีวิมานทองสูง ๒๐ โยชน์ มีเทพอัปสร ๓ หมื่นเป็นบริวาร

    53728809_1870193149759086_1718349164531679232_n.jpg
    53472686_1870193183092416_6658842279819608064_n.jpg
    53652028_1870193229759078_515682360860082176_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #อย่าบังคับกายและใจ
    ก็รวมความว่ากรรมฐานเบื้องต้นขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ใช้อารมณ์ อานาปานุสสติให้หนัก แต่ว่าจงอย่าบังคับร่างกายเกินไป อย่าบังคับใจเกินไป
    เวลาเจริญกรรมฐานจริงๆ จงอย่าบังคับเวลา บางทีบังคับเวลาว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เราจะบังคับใจให้ทรงตัว หรือเวลา ๑ ชั่วโมงบังคับใจให้ทรงตัว อย่างนี้จิตจะฟุ้งซ่าน
    ถ้าเกิดการบังคับขึ้นมานี่ จิตจะเริ่มฟุ้งซ่านจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ ให้ทำตามแบบสบายๆ เพราะว่าสมาธิ หรือวิปัสสนาญาณก็ตาม เราทำเพื่อจิต เป็นสุข
    ถ้าจะถามว่า จะใช้นั่ง ใช้นอน ใช้ยืน หรือใช้เดิน
    ก็ต้องตอบว่า นั่ง นอน ยืน เดิน ใช้ได้ ทั้ง ๔ อิริยาบถ สุดแล้วแต่สบายแบบไหน
    แต่เวลานั่งก็อย่าให้เครียดเกินไป นั่งนี่ ขยับตัวได้ ถ้านั่งขัดสมาธิไม่สบาย นั่งสมาธิไม่สบาย ก็นั่งเก้าอี้ห้อยขาก็ได้ตามใจชอบ หรือนั่งจะเหยียดขาก็ได้
    ถ้านั่งหน้าพระพุทธรูปอย่าเหยียดขาไป ทางพระ เหยียดขาไปทางอื่น อย่างนี้ ก็ใช้ได้ นอนก็ได้
    “รวมความว่าการปฏิบัติจริงๆ อยู่ที่ การรักษากำลังใจ”
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    _________________
    จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่๓๒
    ฉบับที่ ๓๖๕ หน้า ๕๓ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์

    53050784_1870542316390836_7171783467997331456_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #สวดมนต
    สวดมนต์เป็นสรณะอันหนึ่ง
    การสวดมนต์นี่จิตเข้าถึงอุปจารสมาธิ เป็นเทวดาชั้นยามา
    ท่านกล่าวว่า
    “สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน”
    หมายความว่า สวดไม่ต้องมากนัก “อิติปิ โส” บทเดียวนั่นคุ้มแล้ว
    ห้องต้นสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า
    ใช่ไหม
    ห้องกลางสรรเสริญคุณพระธรรม
    ห้องท้ายสรรเสริญคุณพระสงฆ์
    หมดแค่นี้ ไอ้ว่าบทอื่นว่าไปก็ไปสรรเสริญ ๓ อย่างนี่ ฉันเลยไม่เอาเปลือกเอาเนื้อ อย่างเดียว ใช่ไหม แต่เดี๋ยวนี้สวดไม่ได้
    พอเริ่มจะสวด… เปิดเลย
    พอเริ่มจะสวดปุ๊บไปแล้ว
    พอเริ่มจะสวดหยุดกึ๊กแล้ว มันชิน
    ถ้าจะสวดให้ได้ทำไง ต้องเริ่มปล่อยให้ ใจไปตั้งอยู่สักพักหนึ่งก่อน แล้วถอยหลังมาให้กำลังมันทรงตัวแล้วถอยหลังมานิด ก็ว่า
    แต่พอว่าไปก็อีกนั่นแหละ ถ้าว่าถึงบท พุทธคุณ พอถึง “อิติปิ โส” ท่านก็มาแล้ว แจ๋ว!
    พอถึง “สวากขาโต” พระธรรม
    “ธัมมานุสสติ” นี่นิมิตเป็นดอกมะลิแก้ว เป็นดอกมะลิแก้วใส ไหลจากพระโอษฐ์
    “หลวงพ่อปาน” ท่านเคยสอนยังงั้น แล้วเป็นยังงั้นจริงๆ
    พอขึ้นสวากขาโต เป็นดอกมะลิแก้วไหลลงหัว พอขึ้นสุปฏิปันโน พระอริยะมากันเต็มพรึบ
    ต้องพยายาม ต้องไม่ปล่อยจิตให้มันลึก เกินไป ต้องพยายามดึงไว้แค่ “อุปจารสมาธิ”
    พอสวดจบพับไปเลย ออก(จากร่าง) พอสวดจบก็พั๊บออกไปแล้ว ไปหาท่านนั่งคุยสบายๆ
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    _______________
    จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๓๓
    ฉบับที่ ๓๗๗ หน้า ๘๗ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์

    53061929_1870544649723936_6024403433274998784_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    มาร่วมบุญบัญชีทองคำด้วยกันนะคะ
    1f64f.png สวัสดีวันหยุดค่ะ..
    2728.png ขอเชิญญาติธรรมทุกท่านร่วมบุญเป็นเจ้าภาพทองคำแท้ขนาด2กรัมราคา 3,000 บาท เพื่อเททองหล่อพระพุทธชินราช หน้าตัก 109 นิ้ว
    พระประธานพระอุโบสถ วัดโพธิ์ลังกา อ.บางปลาม้าจ.สุพรรณบุรี..(เททองหล่อวันนี้เวลา17.39น.)
    1f449.png ท่านใดจะร่วมบุญนี้โอนได้ที่
    ธ.กสิกรไทย025-1-92179-2
    1f338.png น้ำฝน บุญสิงห์ค่ะ
    (งานนี้ฝนเดินทางไปเททองหล่อด้วยตนเองค่ะ)

    54351016_1872504126194655_7756337471989743616_n.jpg
    54435948_1872504156194652_289413716951171072_n.jpg
    54230575_1872504192861315_3154195863031513088_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f607.png ขอลงรูปให้ผู้ที่ร่วมบุญอนุโมทนาบุญกันค่ะ
    2728.png เมื่อวานนี้9มีนาคมถวายทองคำ 1 กรัม(ราคา1,590บาท)และร่วมบุญเททองหล่อพระพุทธชินราชหน้าตัก 109 นิ้ว พระประธานพระอุโบสถวัดโพธิ์ลังกา จ.สุพรรณบุรี
    2728.png วันนี้ 10 มีนาคมถวายทองคำ 2 กรัม (ราคา 3,000 บาท)และเงิน 310 บาทเพื่อเททองหล่อพระพุทธเมตตาหน้าตัก 99 นิ้ว พระประธานพระอุโบสถสำนักสงฆ์ธรรมจักร จ.สุพรรณบุรี
    1f64f.png ขอเชิญทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันค่ะ
    2728.png ติดตามรายละเอียดงานบุญได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100004016811944

    53367915_1874318132679921_5840130734773239808_n.jpg
    53465095_1874318226013245_9214583807917686784_n.jpg
    53703444_1874318726013195_5505190227045515264_n.jpg
    53556625_1874318846013183_3740057104744972288_n.jpg
    53050701_1874319096013158_8743945152797605888_n.jpg
    53783950_1874319236013144_2631341031341162496_n.jpg
    54409142_1874319339346467_4556673143837556736_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...