เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 17 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ขาดอีกเพียง 10,000 บาทก็จะปิดบุญนี้ได้ค่ะ
    1f607.png บุญชำระหนี้สงฆ์…
    1f64f.png เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถมหินคลุก สำหรับถมพื้นที่บริเวณ ลานรอบอาคารปฏิบัติธรรมพระมหาเจดีย์สมเด็จองค์ปฐม-หลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งจะเป็นพื้นที่ในการประกอบพิธีเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ ปางนั่งเมืองเเก้ว เเละเททององค์พระมหาธาตุเจดีย์พุทธบารมีศรีสัตตนาคราช
    รวมถึงเต็นท์พิธีรองรับผู้มาร่วมบุญ เต็นท์โรงทานต่างๆฯลฯ ในวันงานบูชาบูรพาจารย์หลวงปู่ใหญ่ ประจำปี 2562 วันที่ 31 มีนาคม 2562 พร้อมทั้งถมทางเข้า-ออก ให้กว้างขึ้น เวลาวันงาน รถจะสามารถเข้า-ออกได้สะดวกและสามารถเป็นที่จอดรถของญาติธรรมที่มาทำบุญอีกด้วยค่ะ
    ในวาระก่อนๆ ก็ได้เคยบอกบุญถมหินคลุกมาหลายรอบแล้ว พื้นเริ่มแข็งดี หากถมรอบนี้คงจะแน่นไปอีกนาน ซึ่งหากฝนตกก็จะช่วยบรรเทาความลำบากได้พอสมควร
    ………………

    1f607.png 1f352.png การถวายดิน หิน ถมที่วัด เป็นบุญใหญ่อเนกอนันต์ 1f352.png

    จึงขอบอกบุญดังนี้ค่ะ

    1f449.png 1. กองบุญหินคลุก จำนวน 15 เที่ยว
    -หินคลุก ร่วมบุญตันละ 200 บาท
    -หินคลุก 1 คัน รถสิบล้อ(14ตัน) ร่วมบุญคันละ 2,800 บาท

    *** 2728.png ท่านที่เป็นเจ้าภาพหินคลุก 1 คันรถสิบล้อ
    มอบหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ 1f33c.png เนื้อมหาชนวนรมดำ หน้าตัก 3 นิ้วเป็นที่ระลึก กรุณาช่วยค่าส่ง 100 บาทค่ะ
    1f4f2.png โอนร่วมบุญได้ที่ธกสิกรไทย 004-3-88112-4
    2728.png น้ำฝน บุญสิงห์
    1f603.png โทร091-5145635

    ………………………………………………………

    1f34f.png อานิสงส์การถมดินและ หินคลุก ถมลานวัด และสร้างถนนเข้าออกวัด 1f34f.png
    1.ส่งผลให้มี”ลู่ทางในการทำมาหากิน” มีช่องทางเสมอเดินทางก็ปลอดภัยแคล้วคลาดสะดวกสบายขึ้น ไม่ว่าทำอะไรก็ไม่ติดขัด
    2. มีหนทางโล่งเตียน เหมือนดั่งถนนที่ช่วยให้สาธุชนทั้งหลายได้เดินทางกันมาทำบุญในวัดได้ง่ายดาย
    3. เเละยังทำให้เดินทางไปไหนมาไหนไม่ค่อยหลงทาง
    4. ทำการงานใดไม่ค่อยมีอุปสรรค์
    5. มีคนนำพาไปในที่ต่างๆ อย่างปลอดภัย ไม่ค่อยมีอุปสรรค์
    6. เดินทางไปไหนมาไหน ก็สะดวกสะบาย เป็นต้น
    อนึ่ง..การอำนวยความสะดวกในผู้มีศีล มีธรรม ผู้มาบำเพ็ญบุญบารมี สะสมอริยทรัพย์ ผู้เเสวงหาทางพ้นทุกข์ ได้มีถนนหนทาง ได้มีสถานที่อันเอื้อเเก่การบำเพ็ญบารมี สั่งสมบุญอันสูงสุดในพระศาสนา
    ก็ได้ชื่อว่าผู้อำนวยความสะดวกได้รับผลเเห่งมหากุศลอันสูงสุดที่เกิดจากการอุปถัมภ์ผู้ปฏิบัติเช่นกัน
    1f64f.png ขออนุโมทนาบุญทุกๆท่านทุกประการค่ะ

    53695275_1875424289235972_7139406514166431744_n.jpg
    53229519_1875424415902626_7877598129766268928_n.jpg
    54422021_1875424829235918_3222259764549386240_n.jpg
    54222294_1875424952569239_410516431600353280_n.jpg
    53779480_1875425029235898_4860443854127497216_n.jpg
    53531803_1875425135902554_4319558951592001536_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f342.png#อานิสงส์บริจาคโลหิตเป็นทาน” 1f342.png

    ผู้ถาม :- “ทีนี้การ บริจาคโลหิตเป็นทาน นั้น อยากจะเรียนถามว่าเป็นทานขั้นไหนครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “เขาเรียกว่า “ทานภายใน” นะ จะถือว่าเป็นปรมัตถทานก็ยังไม่ได้ เขาเรียกทานภายใน คือให้ของภายในกายนี่เป็น “ทานภายใน” ให้ของนอกกายเขาเรียก “ทานภายนอก” นะ ยังจะถือว่าเป็นปรมัตถทานไม่ได้นะ ถ้าเป็นปรมัตถทานต้องอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านทำ”

    ผู้ถาม :- “เป็นยังไงครับหลวงพ่อ…?”

    หลวงพ่อ :- “เชือดเนื้อเอาไปเลี้ยงเขาเลย”

    ผู้ถาม :- “ถึงขนาดนั้นเชียวหรือครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ใช่ นั่นเป็น “ปรมัตถทาน” เราถือว่าเป็นปกติทานก็แล้วกัน แต่เป็นทานภายในเพราะอานิสงส์สูงมาก อาจจะสูงกว่าทานภายนอกสักหน่อยหนึ่งนะ”

    ผู้ถาม :- “แล้ว การบริจาคโลหิต กับ การอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาล เป็นทาน อันไหนมีอานิสงส์มากกว่ากันครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “อุทิศเลือดให้ขณะยังไม่ตายมีอานิสงส์สูงกว่าเมื่อตายแล้ว ตายแล้วเหมือนของเขาทิ้งแล้ว ร่างกายใช้อะไรไม่ได้ มีประโยชน์เพียงแค่วัตถุทาน จะให้มีอานิสงส์สูงเท่ากับให้เลือดตอนมีชีวิตอยู่นั้นไม่ได้แน่ ใช่ไหม… ดูอย่างพระพุทธเจ้าเมื่อสมัยเป็นพระเวสสันดร ตอนนั้นที่คนเขามาขอช้างหรือของต่าง ๆ พระองค์ก็คิดว่าทำไมไม่ขอดวงตา ถ้าขอท่านก็จะให้ ไม่ว่าจะเป็นแขนซ้ายหรือแขนขวาก็จะให้ นี่ท่านตั้งใจให้ตอนมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตอนตายแล้ว ฉะนั้นถ้าให้ได้ก็เป็นปรมัตถบารมี

    ผู้ถาม :- “ทีนี้ถ้าจะบริจาคร่างกายให้นักศึกษาแพทย์เขาศึกษาต่อเมื่อเราตายแล้ว แต่อธิฐานไว้ว่า “ตายเมื่อไรขอพ้นจากวัฏฏสงสาร” อย่างนี้จะมีโอกาสไม่ให้มาเกิดอีกใช่หรือเปล่าครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ถ้าเวลาจะตายนะ จิตตัดกิเลสแน่นอน ไม่อยากมาเกิดอีก หรือเมื่อนั้นเมื่อเวลาจะตาย จิตตัดความรักในระหว่างเพศ ตัดความโกรธ ก็ไม่มาเกิดอีก มันไม่แน่นะ เดาส่งไม่ได้ มันเฉพาะจิตใช่ไหม…จะเดาไม่ได้ แต่บังเอิญก่อนที่จะตาย เวลานี้ทรงอารมณ์ของพระโสดาบันได้นะ และก็ตัดสินใจไว้เสมอทุกเช้าว่า “ร่างกายนี้ตายเมื่อไร ขอไปนิพพานเมื่อนั้น” อันนี้จิตทรงตัวแน่นอน อย่างนี้ไปได้ทันที”

    1f342.png คัดลอกจากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๗๖-๗๗
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)

    54220438_1876073009171100_939164495568175104_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    โลกันตนรกเป็นนรกขุมพิเศษมีโทษหนักกว่าอเวจีมหานรก

    “..โลกันตนรก เป็นนรกขุมพิเศษ ซึ่งไม่นับเนื่องกับนรกขุมใหญ่ ๘ ขุมหรือนรกบริวารหรือยมโลกียนรก นรกขุมนี้แปลกประหลาดกว่านรกขุมอื่นๆ เพราะว่า
    นรกขุมอื่นๆ มีการลงโทษด้วยความร้อน แต่ทว่านรกขุมนี้มีการลงโทษด้วยความเย็น และสถานที่ตั้งก็ไม่ได้อยู่เรียงรายกับบรรดานรกทั้งหลาย สถานที่ตั้งของนรกขุมนี้อยู่ในระหว่างโลกทั้งสาม เปรียบเหมือนกับเอาดอกบัว ๓ ดอกมาตั้งติดกันเข้า ก็จะเกิดมีช่องว่างระหว่างกลาง ที่ตรงช่องว่างนั้นแหละเป็นสถานที่ตั้งของ โลกันตนรก แปลว่า นรกอันอยู่ที่สุดของโลก ๓ โลกคือ เทวโลก มนุษยโลก นรกหรือยมโลกียนรกหรือยมโลก
    ถ้าท่านทั้งหลายที่ได้มโนมยิทธิเวลาที่จะไปดูโลกันตนรก ตั้งจุดไว้ว่าจากโลกมนุษย์เราจะมุ่งหน้าไปทางด้านทิศตะวันออก มีทางใหญ่ขาวโพลนแลดูสะอาดจะว่าเหมือนสีขาวทาก็ไม่ใช่ ใสกว่าดีกว่าถนนชั้นหนึ่งในเมืองมนุษย์ เดินไปตามทางทิศตะวันออกจะไปพบทาง ๔ แพร่ง จะพบท่าน “เทวดาอิน” ยืนยามอยู่แต่ไม่ใช่ท่านปู่พระอินทร์ สมัยท่านเป็นมนุษย์ท่านเป็นพระชื่อว่า “หลวงตาอิน” คือจากที่เราเดินไปสายหนึ่ง แล้วมีทางขึ้นทางซ้ายเป็นทางเดินค่อยๆ ลาดเป็นเนินขึ้นไปน้อยๆ เป็นทางขาวใหญ่นั่นเป็นแดนสวรรค์ อีกสายทางขวาจะเป็นทางชันเป็นแดนพรหม จากนั้นมองไปข้างหน้าเป็นทางขาวใหญ่ค่อยๆ ลาดลงตํ่าถึงที่สุดของทางนั้นเป็นแดนของนรก ถ้าถึงที่สุดทางนั้นจะเลี้ยวซ้ายนิดหนึ่งเรียกว่าตะวันออกเฉียงเหนือก็ได้ เป็นช่องว่างเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์ เทวโลกและยมโลก ณ จุดนี้จะเห็นเป็นภูเขาใหญ่ ภายในเป็นถํ้าที่ใหญ่โตมโหฬารมากเรียกว่า “โลกันตนรก” ภายในถํ้ามีแต่ความมืดหาแสงสว่างไม่ได้เลย ไม่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ จากดวงจันทร์และดาว มองอะไรไม่เห็นทั้งหมด แต่แสงที่จะปรากฏในโลกนี้ได้ก็คือแสงของพระพุทธเจ้า ขณะใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณวันไหน วันนั้นจะปรากฏแสงของพระองค์ลอดเข้าไปสู่ในโลกนี้แว้บหนึ่งเหมือนกับสายฟ้าแลบเท่านั้น
    บรรดาสัตว์นรกทั้งหลายมีร่างกายใหญ่โต มีเล็บมือเล็บเท้ายาว ใช้เล็บมือเล็บเท้าเกาะเชิงเขาคือข้างถํ้าไต่ไปไต่มา มองไม่เห็นกัน ในถํ้ามีความเย็นสูงมากไม่สามารถจะเอาอะไรมาเปรียบเทียบกับความเย็นในโลกมนุษย์นี้ได้ เครื่องทำความเย็นทั้งหลายที่ว่าเย็นหรือตู้เย็น ถ้าจะเอาแสนมาคูณก็ยังมีความเย็นไม่เท่ากับความเย็นในโลกันตนรก มองลงไปส่วนลึกในถํ้าจะเห็นนํ้าใสเต็มไปด้วยความเย็นมาก แต่ความเย็นของนํ้าเป็นอันตรายกับร่างกาย เพราะนํ้าเย็นนี้เป็นนํ้ากรดที่มีความคมจัดสามารถจะละลายสัตว์นรกทั้งหลายที่ตกลงไปในนํ้านั้นให้ละลายหายไปในพริบตาเดียว บรรดาสัตว์นรกจะมีทั้งความเจ็บความแสบและความเย็นเข้ามาทับถม จะเกิดทุกขเวทนาอย่างสาหัสและมีความหิวเพราะไม่มีอะไรจะบริโภค ต่างคนต่างไต่ไปตามข้างๆ ขอบของถํ้าใหญ่ บรรดาแง่หินที่มีความคมก็เชือดเฉือนร่างกายของสัตว์นรกที่ผ่านไปเป็นแผลเหวอะหวะทั้งตัว เลือดไหลโทรมอยู่ตลอดเวลา และสัตว์นรกทั้งหลายเหล่านั้นถูกความเย็นเผาผลาญเกือบจะไม่มีแรงเคลื่อนตัวไปไหนอยู่แล้วแต่ก็ต้องไปเพื่อหนีให้พ้นจากความคมของแง่หิน แต่จะไปทางไหนก็ตาม ไปเกาะหินอันไหนก็ตามมันก็คมบาดตลอดเวลา ต่างก็ร้องครวญครางหาการเงียบเสียงไม่ได้ และการไต่ไปนั้นก็มองไม่เห็นแม้แต่มือและเท้าของตน
    เมื่อสัตว์นรกกระเสือกกระสนไปกระทบกันเข้า ร่างกายมันมีความนุ่มนิ่มกว่าหิน สัตว์นรกมีความหิวอยู่แล้วก็เข้าใจว่าเป็นอาหาร ต่างคนต่างก็เอาเล็บจิกเนื้อซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างปลํ้ากันแต่ไม่ทันจะได้กินสักที ก็หล่นลงไปในนํ้า จะเห็นกระแสนํ้ามีควันพุ่งขึ้นมาปรากฏว่าเป็นนํ้ากรดค่อยๆ ละลายเนื้อและหนังของสัตว์นรกไปทีละน้อยๆ แต่ว่าเร็วมาก ชั่วเวลา ๒-๓ นาทีจะเห็นว่าร่างกายของสัตว์นรกไม่มีเนื้อไม่มีหนังเหลือแต่กระดูก กระดูกก็ดิ้นไปดิ้นมามีการแสบหนักขึ้นแต่ก็ไม่ตาย เมื่อถูกทรมานพอสมควรร่างกายก็มีเนื้อเต็มขึ้นมาใหม่ บรรดาสัตว์นรกก็ว่ายกระเสือกกระสนเข้าหาฝั่ง บางตัวก็ว่ายไปกลางถํ้ากว่าจะไปหาผนังถํ้าได้ก็แสนจะลำบาก ตอนนั้นถ้าพบกันเข้าก็จิกเนื้อกันกินในนํ้าอีก ปลํ้ากันไปปลํ้ากันมาต่างคนต่างจะจิกกินซึ่งกันและกัน ตอนนี้นํ้ากรดก็แผลงฤทธิ์ใหม่ค่อยๆ ละลายเนื้อและหนังของสัตว์นรกทั้งหลายเหล่านั้นที่กำลังจะกินกันออกไปทีละน้อยๆ จนกระทั่งหมดตัวเหลือแต่กระดูกล่อนจ้อน กระดูกก็ดิ้นเร่าๆ มันดิ้นสุดฤทธิ์สักครู่หนึ่งก็ปรากฏว่ามีเนื้อหนังขึ้นมา ค่อยๆ เกิดเป็นร่างกายขึ้นมาใหม่ คราวนี้ก็ว่ายไปเกาะฝั่งได้ก็ไต่ขึ้นไปข้างเขา ก็ถูกความคมของหินเหล่านั้นบาดเอาเลือดไหลโทรม วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ไม่มีการหยุดพัก ต้องถูกทรมานไปจนกว่าจะถึงที่สุดของกรรม เพราะโลกันตนรกไม่มีอายุ แล้วก็จะไปเสวยทุกขเวทนาต่อไปในอเวจีมหานรกและไล่ขึ้นมาแต่ละขุม แสดงว่าโลกันตนรกมีโทษหนักกว่าอเวจีมหานรก ถือว่าเป็นนรกขึ้นต้น
    โลกันตนรกเป็นที่อยู่ของคนอกตัญญูไม่รู้คุณคน ประกอบกรรมที่ร้ายกาจหยาบช้ามากได้แก่การประทุษร้ายบิดามารดาหรือการทรมานบิดามารดาโดยปราศจากความกตัญญูรู้คุณ และคนที่ไม่รู้คุณงามความดีของครูบาอาจารย์ สามารถจะทำลายครูบาอาจารย์ได้ทุกอย่างหรือทำลายบิดามารดาได้ทุกอย่าง นินทาว่าร้าย อิจฉาริษยาท่าน เป็นคนจอมอกตัญญูไม่รู้คุณคน..”

    จากหนังสือ ตายแล้วไปไหน

    54257916_1878426985602369_4785749833069625344_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f607.png วันนี้ฝนนำเงินงานบุญเจ้าภาพหินคลุกถมทางเข้าออกพระเจดีย์สมเด็จองค์ของสวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่สุพรรณบุรีมาถวายพระเดชพระคุณหลวงปู่องค์น้อยค่ะยอดที่นำถวาย 43,700 บาท(สี่หมื่นสามพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
    1f64f.png ขออนุโมทนาบุญผู้ร่วมบุญทุกท่านค่ะ
    1f64f.png ขอเชิญทุกท่านร่งมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ

    53835456_1878672498911151_3065497590003924992_n.jpg
    53801500_1878672665577801_3052428738961604608_n.jpg
    54364888_1878672742244460_6187244086055927808_n.jpg
    54203997_1878672778911123_3136803392966361088_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f449.png ทำไมต้องห้าม #ใส่รองเท้าเข้าไปในโบสถ์และวิหาร

    บุคคลส่วนใหญ่ไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง คนส่วนใหญ่ไม่ใส่รองเท้าเข้าไป เพราะเห็นว่าโบสถ์ วิหารเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนเคารพบูชา จึงจัดเป็นธรรมเนียมและประเพณีนิยมที่ทำกันมานาน เรื่องนี้หลวงพ่อฤาษีท่านเมตตามาสอนให้รู้ความจริงไว้ดังนี้
    #พระเจ้าพิมพิสารหรือท้าวเวสสุวรรณ ท่านมาบอกว่าให้หลวงพ่อเตือนลูกหลานว่าอย่าใส่รองเท้าเข้าไปในเขตพัทธสีมาเพราะกรรมอันนี้ท่านทำมาแล้ว จึงได้ถูกลูกชายของท่าน คือ พระเจ้าอชาติศรัตรู เอามีดโกนกรีดฝ่าเท้าทั้ง ๒ ข้าง จนเดินไม่ได้

    ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย:พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน คัดลอกโดย Kong Thong

    54044985_1878689795576088_3681138077658513408_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    2728.png วันนี้แอดมินฝนและน้องปุ้ยได้ไปซื้อทองคำแล้วนะคะ..
    2728.png ได้ทองคำแท่ง1สลึง1แท่งราคา 4,925 บาท
    2728.png แหวนทอง2กรัม ราคา 3,000 บาท
    2728.png แหวนทอง0.6กรัม ราคา 940 บาท
    2728.png รวมที่ซื้อทั้งหมด 8,865 บาท
    2728.png เงินในบัญชีบอกบุญมี 8,599 บาท
    1f64f.png ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพทุกท่านค่ะ
    1f64f.png ขอเชิญทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ
    1f449.png พรุ่งนี้จะนำภาพถวายทองคำแก่ท่านเจ้าอาวาสวัดท่าซุงมาให้โมทนาบุญกันอีกครั้งค่ะ

    53439657_1879908715454196_5392402504656879616_n.jpg
    53165000_1879908765454191_670662596424105984_n.jpg
    54217405_1879908808787520_5027084955964932096_n.jpg
    54522339_1879908858787515_5765785430700064768_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    2728.png ถวายทองคำแก่พระครูปลัดสมนึกเจ้าอาวาสวัดท่าซุงเพื่อหล่อสมเด็จองค์ปฐมและเททองหล่อรูปเหมือนท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล(อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุง)
    1f607.png น้อมถวายทองคำ 1 แท่งหนัก 1 สลึง
    1f607.png แหวนทองคำขนาด 1 กรัม 2 วงและขนาด 0.6 กรัม 1 วงค่ะ
    1f64f.png ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายคล่องตัวทั้งทางธรรมและทางโลกตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญ
    1f64f.png ขอเชิญทุกท่านอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ

    53869271_1881366078641793_1510538924261376000_n.jpg
    53924504_1881366225308445_3013306599121879040_n.jpg
    53889024_1881366308641770_3499430522604486656_n.jpg
    53777534_1881366455308422_420174752192135168_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทำยุบหนอฝึกอภิญญา

    ผู้ถาม : “ผู้ที่เจริญกรรมฐานแบบยุบหนอพองหนอ เขาจะมีโอกาสได้อภิญญาหรือไม่ครับ?”
    หลวงพ่อ : “ทำไมจะไม่ได้ “หนอ ๆ ” นี่อย่าลืมว่าเขาอานาปานุสสตินะ เป็นแม่บทใหญ่ของกรรมฐาน ต้องการให้อภิญญา ถ้าหากว่าสมาธิเข้าถึงฌาน ๔ แล้วก็หลบอารมณ์นิดหนึ่ง เข้าไปจับองค์ของกสิณ นี่หมายถึงไม่เคยฝึกอภิญญามาก่อน ถ้าหากว่าคนนี้เคยฝึกอภิญญามาก่อน ถ้าจิตเข้าถึงฌาน ๔ อภิญญาจะเข้าทันที ต้องฌาน ๔ ทรงตัว นั่นหมายความว่า ฌาน ๔ ต้องการทำเมื่อไรก็ได้ ออกฌานเมื่อไรก็ได้ อย่างนี้อภิญญาก็เข้าเลย ไม่ต้องฝึกอภิญญานี่หมายความว่าต้องได้มาในชาติก่อนนะ ถ้าไม่ได้มาในชาติก่อนก็ต้องฝึกกันใหม่ ฝึกอานาปาแล้วก็ต่อด้วยกสิณ ๑๐ อย่าง”
    ผู้ถาม : “อย่างนั้นที่ลูกศิษย์หลวงพ่อมาฝึกปุ๊บได้แป๊บนี่ก็เพราะ…”
    หลวงพ่อ : “นั่นเขาเคยได้มาก่อน ที่เราฝึกนี่เราฝึกคนที่ได้มาก่อนต่างหากล่ะ ได้จนมีการคล่องตัวแล้ว แบบคนที่มีการอ่านหนังสือคล่องแคล่ว ส่งเข้าป่า ๓๐ ปี ไม่มีหนังสือเลย กลับมาโยนหนังสือให้อ่านก็อ่านหนังสือออก ใช่ไหม..”

    จากหนังสือ อภิญญาเล่ม ๑ ตอนตอบปัญหา

    54433913_1885654998212901_1445148154553958400_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f449.png อัพเดตยอดงานบุญเจ้าภาพทองคำแท้ใส่เบ้าเอก2เบ้าวันนี้17,531บาทต้องการอีก2,000บาทเพื่อจะซื้อทองแท่งขนาด2สลึงจำนวนสองแท่งค่ะ

    2728.png บอกบุญนะคะ
    1f64f.png ขอเชิญทุกท่านร่วมบุญเป็นเจ้าภาพทองคำแท้ใส่ในเบ้าเอกเพื่อเทหล่อสมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ. (ปางนั่งเมืองแก้ว)สูง 2.09 เมตรและเททองหล่อพระธาตุเจดีย์ศรีสัตตนาคราชสูง2.19เมตร ณ สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่สุพรรณบุรี
    2728.png ในวันอาทิตย์ที่31มีนาคมนี้..
    1f607.png ร่วมบุญได้ตามกำลังค่ะ..
    ท่านใดจะร่วมบุญนี้สามารถโอนได้ที่
    1f4f2.png ธ.กสิกรไทย023-3-52102-7
    1f607.png น้ำฝน บุญสิงห์
    274c.png ปิดรับวันที่25มีนาคม2562ค่ะ
    อานิสงส์ทำบุญด้วยทองคำเปลว ของท่านเมณฑกเศรษฐี
    ตระกูลนางวิสาขาจริงๆ เริ่มต้นมาจากคนที่ยากจนเข็ญใจ ต้นตระกูลนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    ท่านเมณฑกเศรษฐี นี้ ท่านเมณฑกเศรษฐีเป็นปู่ของนางวิสาขา ในชาติก่อนโน้นท่านเป็นคนยากจนเข็ญใจ
    มาก เรียกว่าเป็นคนแก่ ๒ คน ไม่มีลูก ลูกหญิงไม่มี ลูกชายไม่มี แล้วก็หาเช้ากินค่ำ หรือว่าหาค่ำกินเช้า
    ไม่ได้เกิดพร้อมท่าน ไม่รู้ ใช่ไหม…เป็นอันว่า หากันไม่ค่อยจะพอกิน บ้านอยู่ใกล้วัด ไม่มีโอกาสจะทำบุญ
    ถึงแม้วันพระที่เขาตั้งใจทำบุญกัน เวลาจะทำบุญก็ไม่มี ถ้าขืนมาทำบุญไม่ได้ทำงานก็ไม่มีกิน มีความจำเป็น
    อย่างยิ่ง ศรัทธาน่ะ มีอยู่ แต่ทรัพย์ไม่มีมาคราวหนึ่งปรากฏว่า ที่วัดเขาสร้างส้วม เมื่อเขาสร้างส้วม
    เสร็จ แล้วเขาก็ขุดหลุมส้วมเสร็จ ตอนกลางคืนสองคนตายายก็คิดในใจว่าชาตินี้ทั้งชาติเรา มันจนแสนจน
    ไม่มีเงินจะทำบุญ ไม่มีข้าวจะใส่บาตร เวลานี้เขาสร้างส้วมเสร็จ เรามีทองคำอยู่ชิ้นหนึ่งเท่าปีกริ้น นั่น
    ก็คือ “ทองคำเปลว” เราเอาไปบูชาพระรัตนตรัยดีกว่า ฉะนั้นเวลากลางคืนมันว่างงาน สองคนตายาย
    ย่องเอาทองคำมาปูตรงที่ก้นหลุมส้วม ตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย ฟังแล้วก็จำไว้ให้ดีนะ นี่สำคัญมากหลังจาก
    นั้นสองคนตายายก็นั่งคิดนอนคิดถึง บุญที่ทำแล้ว ก่อนจะหลับก็ดีใจว่าชาตินี้เราได้ทำบุญด้วยทองคำ ตื่นขึ้น
    มาก็ดีใจว่าเราได้ทำบุญด้วยทองคำ ปลื้มใจทุกวัน จนกว่าจะถึงวันตาย
    เมื่อตายจากความเป็นคนอาศัยอานิสงส์ที่ถวายทองคำเท่า ปีกริ้นหรือทองคำเปลว ไปบูชาพระรัตนตรัยไว้
    ที่ก้นหลุม ทั้งสองก็ไปเกิดเป็นเทวดาและนางฟ้าด้วยอานิสงส์อย่างยิ่ง ที่บูชาพระรัตนตรัยด้วยทองคำ ก็
    เป็นเหตุให้มาเกิดเป็นลูกของมหาเศรษฐี..ฯลฯ
    อานิสงส์ทำบุญด้วยทองคำ
    ๑. เมื่อเกิดไปในภพใดชาติใด สมบัติใดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเลิศที่สุดเท่าที่มนุษย์พึงมีในยุคนั้นเราจะเป็นผู้ครอบ
    ครองสมบัตินั้น เพราะได้ทำบุญด้วยทองคำซึ่งขึ้นชื่อว่า เป็นธาตุที่เลิศที่สุด
    ๒. สามารถเข้าถึงฐานะแห่งความเป็นมหาเศรษฐี ที่ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์สมบัติอันมากมาย เพราะได้
    บริจาคทรัพย์ไว้ในพระพุทธศาสนา และเนื้อนาบุญอันเลิศ
    ๓. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติอันงดงาม ตั้งแต่เกิดจนสิ้นอายุขัย เพราะทำบุญด้วยทองคำ ซึ่งเป็นธาตุที่
    งามอยู่ในตัวเองตั้งแต่เริ่ม และมีความงามเป็นอมตะ ไม่หมองคล้ำ ผุกร่อน แม้กาลเวลาจะผ่านไปเป็น
    พัน ๆ ปี
    ๔. เกิดในตระกูลสูง เข้าถึงฐานะอันสูงส่ง เป็นที่เคารพนับถือเกรงใจของเหล่ามนุษย์และเทวา เพราะ
    ขึ้นชื่อว่าบูชาบุคคลที่ควรบูชา ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุด
    ๕. เป็นผู้มีบุตร บริวาร ให้ความเคารพกตัญญู อยู่ในโอวาท เพราะได้ทำทานด้วยความเคารพ ความ
    กตัญญูที่มีต่อ มหาปูชนียาจารย์
    ๖. เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ เพราะได้ทำทานที่ประกอบไปด้วยปัญญา บูชาผู้ที่ปัญญาถึงพร้อมด้วยวิชชา และ
    จรณะ
    ๗. ขึ้นชื่อว่าสายบุญเชื่อมกับมหาปูชนียาจารย์ และธรรมใดที่ท่านบรรลุ ก็จะสามารถบรรลุตามอย่างท่าน
    ได้โดยง่าย สามารถเข้าถึงนิพพานและที่สุดแห่งธรรมได้โดยง่าย
    ๘. เป็นผู้มีสัมมาทิฐิ เกิดในปฎิรูปเทส ในดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื่อง เพราะได้สร้างเหตุแห่ง
    ความเจริญไว้ในพระพุทธศาสนา
    ๙. หลังจากละโลกแล้ว ได้ไปเสวยทิพยสมบัติอันเป็นเลิศ ถึงพร้อมด้วยลาภ ยศ สรรญเสริญ สุข ในทิพย
    วิมาน ฯลฯ

    54425424_1886017204843347_8256296348421193728_n.jpg
    54522949_1886017244843343_4448431833310298112_n.jpg
    54433872_1886017264843341_4225674286511161344_n.jpg
    54731335_1886017311510003_7589436077954301952_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f929.png 1f929.png ……วันพฤหัสบดี……(วันครู)…… 1f929.png 1f929.png
    เอารูปแบบการจัดโต๊ะบวงสรวงของพ่อ
    มาฝาก..พี่ๆน้องๆ พ่อเดียวกัน

    เผื่อจะเป็นประโยชน์ ( มีชุดเล็ก และ ชุดใหญ่ )
    จะได้นำไปใช้เพื่อเป็นศิริมงคล…จัดเองที่บ้าน

    ถ้าจะทำช่วงหลังเที่ยงให้ตัดของคาวออก
    จะเป็นชุดบายศรีดอกไม้

    พี่ๆน้องๆ…ที่ทำอะไรติดๆขัดๆ…
    จัดชุดเล็ก…ที่บ้านดูค่ะ..

    55644705_1888523147926086_8478714953581199360_n.jpg
    54433989_1888523191259415_6054159112730574848_n.jpg
    54519367_1888523221259412_8093836659239419904_n.jpg
    54433166_1888523241259410_2828064784199450624_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #ฝึกเข้าฌาน

    แต่ว่าวิธีการแบบประเภทฉับพลันรีบร้อนนี่ นึกพั๊บให้อารมณ์จับทันที นี่ต้องฝึกให้คล่อง

    อย่าไปห่วงการภาวนานานดี จิตเข้าถึงฌานเร็วน่ะดี

    การฝึกเข้าฌานนี่ เขาต้องฝึกให้ไม่เสียเวลาแม้แต่ ๑ วินาที เริ่มจับพั๊บนี่ต้องเริ่มไม่สนใจกับลมหายใจเข้าออกเลย ต้องฝึกตัวนี้

    “เริ่มพั๊บจับอารมณ์จับภาพพระเลย”

    ไม่สนใจกับลมหายใจเลย อันนี้ทำบ่อยๆ จับพั๊บเป็นฌาน ๔ ทันที

    ไอ้ที่เราต้องเลี้ยงลมหายใจเพราะว่าจิตกำลังมันยังอ่อนอยู่ ใช่ไหม ต้องเลี้ยงลมหายใจให้จิตมันทรงตัว อันนี้ก็จำเป็นเหมือนกัน

    “ก็ต้องฝึกอยู่ ๒ อย่าง คือจับลมหายใจไว้ให้จิตมันทรงตัว กับไม่สนใจลมหายใจเลย”

    ถ้าพอไม่สนใจกับลมหายใจเลย มันคล่องตัวแล้วไม่ต้องสนใจจับมันเลย มันจับพั๊บให้ได้เลย จับพั๊บให้ได้เลย

    พอจับพั๊บอารมณ์เป็นฌาน ๔ ทันที ก็เป็น ๒ แบบ

    คือว่าถ้าอารมณ์ใจยังอ่อนก็ต้องคุมอารมณ์หายใจ แต่ว่าลมหายใจนี่ถ้าเราคุมไปๆพอถึงฌาน ๔ นี่มันจะไม่รู้สึกว่าเราหายใจ

    นี่การฝึกไม่สนใจกับลมหายใจมันฝึกตั้งฌาน ๔ ทันทีนะ จับตัวปลาย เราลองซ้อมดู

    มันไปไม่ไหวก็มาจับลมหายใจ จับไปจับมาพั๊บฉันไม่สนลมหายใจ จับภาพพระพุทธเจ้า ก็เราเห็นแล้วใช่ไหม

    จับตรงนี้เราไม่สนใจกับลมหายใจ และประเดี๋ยวมันจะตก ตกลงมาจับลมหายใจก็ช่างมัน จิตก็จับพระพุทธรูปไว้ ภาพพระพุทธเจ้าอย่าให้เคลื่อน พอสบายดีฉันไม่สนใจแกอีก เล่นขึ้นๆ คล่องๆ แบบนี้ ไม่ช้าอารมณ์จิตมันจะชิน

    พอจับพั๊บไม่สนใจกับลมหายใจเลย

    ไอ้นั่นน่ะพอจับพั๊บทีไรเป็นฌาน ๔ ทุกที ตัวนี้แหละเราต้องการ ถ้าจิตเป็นแบบนั้น กำลังจิตมันก็เข้มข้นมันก็ตัดกิเลสง่าย

    “ฌาน ๔ มันตัดกิเลสอย่างง่าย”

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    _______________
    จากหนังสือ “ธัมมวิโมกข์” ปีที่ ๓๓
    ฉบับที่ ๓๗๗ หน้า ๘๘ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์

    54412567_1889089747869426_3630547232677167104_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f339.png 1f33b.png 1f33f.png #หลวงพ่อเล่าเรื่องอดีตของท่านท้าวมหาราชทั่งสี่หรือท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ 1f33f.png 1f33b.png 1f337.png

    1f337.png 1f33f.png มาวันนี้อารมณ์เริ่มทรงตัวขึ้นมาบ้าง ก็ใช้กำลังทรงตัวได้ แต่ถ้าใช้กำลังทรงตัวแน่นไปอีกก็ไม่เห็นอะไร พอขยับจิตเคลื่อนลงมานิดหนึ่งอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ ก็เห็นท่านท้าวมหาราชนั่งอยู่ข้างๆ ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ เขาเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาลมีหน้าที่รักษาคุ้มครองชาวมนุษยโลก ถ้าสร้างความดีก็หาทางป้องกันช่วยเหลือ จะส่งเทวดาไปอารักขา ถ้าสร้างความชั่วก็สุดวิสัยที่จะช่วยได้ ก็อดใจไว้ และก็มีหน้าที่บันทึกความดีความชั่วของคนทั้งการพูด การคิด การทำทุกอย่าง สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชอยู่กึ่งกลางเขาพระสุเมรุ คนที่ตายแล้วมาเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชได้ ต้องเคยได้ฌานสมาบัติ แต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ถ้าขณะที่ตายเข้าฌานตาย ก็จะไปเกิดเป็นพรหม

    1f337.png ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ
    1f33b.png ๑) ท่านท้าวเวสสุวัณคุมด้านทิศเหนือ
    1f33b.png ๒) ท่านท้าววิรุฬหกคุมด้านทิศใต้
    1f33b.png ๓) ท่านท้าวธตรฐคุมด้านทิศตะวันออก
    1f33b.png ๔) ท่านท้าววิรูปักข์ คุมด้านทิศตะวันตก

    1f337.png ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ 1f337.png

    1f337.png ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ และเป็นประธานของท้าวมหาราชทั้ง ๔ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักจะทำสัญลักษณ์เป็นรูปยักษ์ จะเห็นได้ตามวัด ตามถํ้าจะมีรูปปั้นยักษ์อยู่ทางด้านหน้าทางเข้า ก่อนที่ท่านจะมาเป็นท่านท้าวมหาราชเขตจาตุมหาราช ถอยหลังไป ๑ ชาติ ในตอนต้นเลยทีเดียวที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนา มีแต่ศาสนาพราหมณ์ ท่านมีนามว่า “กุเวรพราหมณ์”เป็นชื่อเดิม ต่อมาท่านเป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์มหานครทรงพระนามว่า “พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์”ท่านเกิดรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารครองกรุงกบิลพัสดุ์ ซึ่งต่อมาทรงออกผนวชบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทรง พระนามว่า “สมเด็จพระสมณโคดม”ท่านมีพระสหายอีก ๒ องค์คือ พระเจ้าปเสนทิโกศลครองกรุงสาวัตถีกับท่านพันธุรเสนารวมเป็น ๔ องค์ เป็นเพื่อนรักกันมาก ต่างคนต่างเป็นลูกกษัตริย์ สมัยนั้นไปเรียนหนังสือที่เมืองตักศิลาด้วยกัน

    1f337.png ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารทรงออกมหาภิเนษกรมณ์ พระเจ้าพิมพิสารทรงคิดว่ามีเรื่องราวกับใคร จึงนิมนต์ให้เข้าประทับในเมือง จะมอบอำนาจให้ครึ่งหนึ่งและสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ให้เป็นมหาอุปราช พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า“ไม่ได้หนีใคร ทรงเบื่อความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องการแสวงหาโมกขธรรม คือธรรมอันเป็นเครื่องหลุดพ้นจากความตาย และต้องการเอาธรรมนั้นมา สอนคนอื่น”

    1f33b.png พระเจ้าพิมพิสารจึงบอกว่า “ถ้าพระองค์ทรงบรรลุเมื่อไร ขอมาโปรดท่านก่อน”

    1f337.png พระพุทธเจ้าก็ทรงรับ เมื่อองค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็ทรงสอนคนมาตามทาง จนกระทั่งถึงกรุงราชคฤห์มหานคร พบพระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยบริวาร ก็ทรงเทศน์ พอเทศน์จบปรากฏว่า พระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบันพร้อมกับคนจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ได้อาราธนาพระพุทธเจ้าเข้าประทับในพระเวฬุวันมหาวิหาร

    1f337.png ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ที่นั้น พระเจ้าพิมพิสารไปเฝ้าทุกวัน ได้ถวายทานทุกวัน ฟังเทศน์ทุกวัน จึงมีอานิสงส์ดังนี้คือ

    1f337.png การถวายทาน เป็นปัจจัยให้ได้ทิพยสมบัติ
    การถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร เป็นเหตุให้ได้วิมานสวยงามกำลังความเป็นพระโสดาบันและทรงฌานสมาบัติด้วย เป็นเหตุให้มีกำลัง เมื่อไปเป็นเทวดาก็ทรงอำนาจมาก

    1f337.png เวลาที่ท่านจะตาย ท่านถูกลูกชายคือ พระเจ้าอชาตศัตรู ทรมาน คือพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นกบฏทรยศต่อพ่อ แย่งราชสมบัติแล้วก็ทรมานพ่อ โดยจับขังคุก ต่อมาให้อดข้าว เมื่อท่านยังเดินจงกรมได้ ท่านอยู่ด้วยธรรมปีติแม้จะอดข้าวก็ไม่ตายผิวพรรณยังผ่องใส ในที่สุดเขาก็เฉือนเท้าไม่ให้เดิน ท่านก็มีความเจ็บปวดมาก แต่จิตใจก็นึกถึงองค์สมเด็จพระจอมไตร ท่านก็มีจิตใจชุ่มชื่น ปวดน่ะปวด แต่ท่านก็ยอมรับนับถือกฎของธรรมดาว่า คนเราที่เกิดมาทุกคน แม้ฐานะจะต่างกัน แต่สภาพจริงๆ มันเหมือนกันคือ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้นเหมือนกันหมดทุกคน และก็เดินเข้าไปหาความแก่ มีทุกขเวทนา มีการทรมานจากร่างกาย และในที่สุดก็เป็นคนตาย ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ จะเป็นเศรษฐี คหบดี หรือคนยากจนก็ตาม มีสภาพเหมือนกันไม่มีอะไรแตกต่างกัน

    1f337.png พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์ท่านเป็นพระโสดาบันขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เวลาตายท่านออกด้วยกำลังของฌาน ๔ จะต้องไปเกิดเป็นพรหม แต่พอจิตแยกออกจากกายแล้ว ท่านมีความรู้สึกด้วยอำนาจกำลังจิตที่เป็นทิพย์ว่า ก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นพระเจ้าพิมพิสารท่านเคยเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชมาก่อน ท่านก็เลยไม่ไปอยู่พรหม มาอยู่ชั้นจาตุมหาราชที่เดิม เมื่อท่านเป็นเทวดาแล้ว ท่านก็ฝึกฝนจนเป็นพระอนาคามี และท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว

    1f337.png ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้ 1f337.png

    1f337.png ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักเข้าใจว่า ท่านท้าววิรุฬหกและบริวารของท่านเป็นกุมภัณฑ์

    1f337.png “กุมภะ”แปลว่า “หม้อ”ท่านจึงแสดงรูปร่างอ้วนใหญ่เหมือนกับพ้อมใส่ข้าว ผิวดำปี๋ พุงก็ปลิ้น คอก็สั้น หัวก็โต ฟันก็ขาว เขี้ยวก็โง้งออกจากปาก มีริมฝีปากนูนๆ ตาใหญ่มาก สว่างแวววาวเหมือนกับไฟฉาย มองส่ายไปส่ายมา ทำให้น่ากลัว แต่ความจริงท่านสวยสดงดงามมาก

    1f337.png ท่านมาบอกอาตมาว่า ในสมัยเป็นมนุษย์ท่านเป็นคนกรุงเทพฯ อาชีพของท่านเป็นคนมีเงินเดือน เป็นหัวหน้าคนกลุ่มใหญ่มีคนใต้บังคับบัญชานับพันคน ท่านบอกท่านเคยมีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน เคยเข้าสมาคมกับขุนนางชั้นสูงและกับคนทุกชั้น เพราะท่านมีเมตตาความรัก กรุณาความสงสาร ท่านถือว่าทุกคนฐานะไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่กำลังใจเท่านั้น นอกจากนั้นท่านมีความต้องการหนังเหนียวยิงไม่ออก แคล้วคลาดจากอาวุธ และสามารถแสดงฤทธิ์ ท่านมีอาจารย์เป็นพระและเป็นฆราวาสก็มี ถ้ามีความดีเป็นกรณีพิเศษ การทำให้หนังเหนียวต้องใช้คาถา ก่อนที่จะใช้คาถาทั้งหมด ท่านต้องมีความเคารพพระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจ เคารพในพระธรรมคำสอน และเคารพในพระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์ หลังจากนั้นต้องทำจิตให้มั่นคงโดยภาวนาให้จิตทรงตัว ก็คือ จิตเป็นสมาธินั่นเองถ้าจิตมีสมาธิสูง กำลังอานุภาพที่ต้องการก็จะมีอานุภาพมาก ถ้ากำลังสมาธิตํ่าของที่เรียนมาก็มีอานุภาพตํ่า การท่องคาถาอาคม การปลุกตัว การปลุกของ ต้องทำทุกวันเพื่อความมั่นคง จิตต้องเข้าถึงฌานสมาบัติแต่เวลาที่ท่านตาย ท่านไม่ได้เข้าฌานตาย

    1f337.png เมื่อตายแล้วท่านไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช ต่อมาก็ขึ้นเป็น เทวดาชั้นอินทกะ (คำว่า“อินทกะ”แปลว่า“ผู้เป็นใหญ่”คือเป็นรองท่านท้าวมหาราช อินทกะนี้มีได้ทิศละพันองค์ พร้อมที่จะเป็นท้าวมหาราชได้ตามความสามารถและวาสนาบารมี ในเมื่อท่านท้าวมหาราชไปจากชั้นนี้ คือจากชั้นจาตุมหาราชไปเกิดเป็นเทวดาชั้นสูงบ้าง หรือว่าไปเป็นพรหมบ้าง หรือมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ตาม) จากอินทกะท่านก็เป็นท้าวมหาราช คือท่านท้าววิรุฬหกในปัจจุบันนี้

    1f337.png ท่านท้าวธตรฐ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันออก 1f337.png

    1f337.png วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ เห็นท่านท้าวมหาราชมานั่งอยู่ องค์หนึ่งมาตัวสูงเท่ายอดตาล จึงหันไปถามว่า “ใคร” ท่านท้าววิรุฬหกตอบว่า “ท่านธตรฐครับ”พอท่านเข้ามาใกล้ก็เลยถามว่า “ทำไมสูงเหมือนเปรตแบบนี้ล่ะ” ท่านตอบว่า “อย่างนี้เขาเรียกสูงแบบเทวดา ไม่ใช่สูงแบบเปรต” ถามท่านท้าวธตรฐว่า “อดีตของท่านเคยเป็นอะไรมาตอนเป็นมนุษย์” ท่านตอบว่า“อดีตผมเป็นพระราชาเมืองพาราณสีครับ”ก็เลยถามท่านว่า “เวลานั้นไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นเทวดาได้อย่างไร”

    1f337.png ท่านตอบว่า “เทวดาหรือพรหมไม่จำเป็นต้องนับถือพระพุทธศาสนาเสมอไป พราหมณ์ก็เป็นเทวดาเป็นพรหมได้” เวลานี้ท่านเป็นพระอนาคามี เป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูง ท่านไม่กลับลงมาเกิดอีกแล้ว

    1f337.png ท่านท้าววิรูปักษ์ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันตก 1f337.png

    1f337.png ในวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ วันเดียวกันนั้นอาตมาได้หันไปถาม ท่านวิรูปักษ์ ว่า “อดีตท่านเป็นอะไร” ท่านตอบว่า “อดีตผมอยู่ปักษ์ใต้ ประเทศไทยนี่เอง เป็นผู้ชายไทย ฐานะสูงมากสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้ฌานสมาบัติแต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ตายแล้วไปเป็นอินทกะเลย เมื่อท่านวิรูปักษ์องค์เก่าขึ้นไปเป็นพรหม ท่านก็ขึ้นเป็นแทน ท่านเก่งมาก

    1f337.png เป็นอันว่าก็ได้ทราบประวัติของท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ แล้วว่าใครเป็นใคร ทำให้ทราบว่าการเป็นเทวดาก็ไม่หนักสำหรับพวกเรา การเป็นพรหมก็ไม่หนัก การไปพระนิพพานก็ไม่หนัก การไปนรกก็ไม่หนัก ชอบทางไหนก็ไปได้ทั้งนั้น. 1f33f.png 1f339.png
    . 26c5.png
    . 26c5.png
    1f337.png หลวงพ่อพระราชพรหมยาน 1f337.png
    1f337.png วัดจันทาราม(ท่าซุง)อุทัยธานี. 1f337.png
    1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png 1f33f.png
    1f33b.png กราบขอบพระคุณที่มาจาก..หนังสือ ตายไม่สูญ…แล้วไปไหน. หน้า ๒๑๑. – ๒๑๓ .,โดยคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดจันทาราม(ท่าซุง) ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี. รวบรวมจัดพิมพ์โดยครู คณิตพร บุญ เกียรติ(เปี๊ยก)และคณะ.(สงวนลิขสิทธิ์ของวัดท่าซุงห้ามคัดลอกเพื่อการค้าทุกประเภทอย่างเด็ดขาด) 1f337.png
    1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png

    55857647_1893742610737473_3335051309458915328_n.jpg
    54799499_1893742637404137_2194595200104398848_n.jpg
    54729787_1893742667404134_6146826816007962624_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...