เสียงธรรม เพลงบทสวดและธารณีมนตร์ต่างๆ#10 (+ new*)

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย tammychee, 6 สิงหาคม 2012.

  1. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    1. พระตาราพุทธมารดา (โพธิสัตว์)
    绿度母心咒 Green Tara Mantra


    [​IMG]


    嗡 达列 都达列 都列 梭哈
    om tare tuttare ture soha
    โอม ตาเร ตูตาเร ตูเร โซฮา


    http://buddha.goodweb.cn/music/musicdownload_all/musicdownload49/I_3.wma

    http://buddha.goodweb.cn/music/musicdownload_all/musicdownload2/ldm_12.WMA

    http://buddha.goodweb.cn/music/musicdownload_all/musicdownload44/11绿度母心咒.mp3

    http://buddha.goodweb.cn/music/musicdownload_all/musicdownload/ldm_n.mp3


    ๑. เมื่ออดีตอนันตกัลป์อันแสนยาวนานล่วงมา มีโลกธาตุแห่งหนึ่งนามว่า ขันธประภา ในโลกธาตุแห่งนั้นมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นทรงพระนามว่า ทิวยทุนทุภิ เมฆนิรโฆษ(บางตำราว่าคือพระอักโษภยะพุทธะ) ในโลกธาตุแห่งนั้น มีนครอยู่แห่งหนึ่งซึ่งเจ้าผู้ครองเมืองมีราชธิดานามว่า จันทรปรัชญา

    จันทรปรัชญาราชกุมารีนี้เป็นผู้มีพีชะปัญญาคัมภีรภาพ ศรัทธาพระรัตนตรัย ในสมัยนั้น อายุขัยของมนุษย์ยาวนานยิ่งนัก ราชกุมารีได้ถวายกัปปิยภัณฑ์ต่อพระพุทธเจ้าและพระสาวกด้วยความเป็นที่สุดแห่งใจ ผ่านกาลเวลาไปหนึ่งล้านแปดพันปี ได้สร้างเกยูรรัตนภรณ์ยาวหกร้อยลี้ เพื่อถวายสักการะ บรรดาภิกษุจึงอนุโมทนาเป็นเสียงเดียวกันว่า จนถึงบัดนี้ท่านจักได้บรรลุมรรคผลแล้ว หากประกาศปณิธานด้วยความแน่วแน่แล้วไซร้ ย่อมจักสำเร็จได้ตามปณิธาน

    จันทรปรัชญาราชกุมารีตรัสว่า ในบัดนี้ ความรับรู้ของข้าพเจ้านั้น ไร้ซึ่งสิ่งที่เรียกว่าบุรุษ และสตรี ไร้ซึ่งความยึดมั่นว่าตัวตนแม้ในตนเอง หรือผู้อื่น ไร้ซึ่งความรู้แจ้งและความเห็นใดๆ ไร้ซึ่งนามบัญญัติว่าหญิงชาย ลักษณะและสิ่งต่างๆในจักรวาลล้วนลวงหลอก เพราะใจไปยึดมั่นจึงเกิดความมี(ภพ) อีกผู้ใช้สรีระแห่งบุรุษบำเพ็ญโพธิมรรคมีมายมายนัก แต่ผู้ใช้กายแห่งสตรีบำเพ็ญโพธิมรรคนั้นน้อยนิด ข้าพเจ้าขอปณิธานว่า จากโลกธาตุแห่งนี้ไปจนถึงสิ้นสุดโลกธาตุทั้งปวง สิ้นสุดอากาศธาตุ เราจักใช้กายแห่งสตรีนี้อนุเคราะห์สรรพสัตว์

    เมื่อจันทรปรัชญาราชกุมารี ประกาศปณิธานแล้วจึงประทับนั่งลง ใช้ปัญญาพิจารณาอินทรีย์ภายนอกคือจักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ และอินทรีย์ภายในคือใจแล้ว จิตได้รู้แจ้งบรรลุอนุตปตติก ธรรมกษานติ คือความปลงใจเชื่อในธรรมที่ไม่เกิดอีกต่อไปในทันที ได้สำเร็จเป็นพระพุทธมารดาผู้โปรดสรรพสัตว์ทั้งปวง

    หลังจากสำเร็จมรรคแล้ว ทุกเพลาอรุณรุ่งจักประกาศโพธิจิต ว่าจักโปรดสรรพสัตว์ทั้งปวง หากมิกระทำเช่นนี้ก็จักไม่บริโภคอาหารเช้า ในเพลาเที่ยงและราตรีก็เช่นเดียวกันนี้ เหตุฉะนี้จึงมีสมญานามว่า พระมารดาผู้อนุเคราะห์ อันนามนี้ได้ขจรกำจายไป ยังให้โลกธาตุในทศทิศได้สดับ แล้วแลพระชินพุทธเจ้าทั้งปวงก็ทรงประทานพยากรณ์ว่า อันมารดาผู้อนุเคราะห์ผู้ยิ่งใหญ่นี้ เมื่อคราที่ยังมิสำเร็จพุทธภูมิ ก็จักมิเสื่อมถอยเลย…


    ๒. อีกสมัยหนึ่งยังเบื้องพระพักตร์แห่งพระอโมฆสิทธิพุทธะ พระตาราโพธิสัตว์ ได้ประกาศปณิธานว่า สรรพสัตว์ผู้รับทุกข์ทรมานจากวิบากทั้งปวง ในทศทิศโลกธาตุ เราจักเป็นผู้ปกป้องดูแล จักบำราบมารทั้งปวง นับแต่กาลนั้นไปเก้าสิบห้ามหากัลป์ ทุกวารพระตาราโพธิสัตว์จักช่วยให้สรรพสัตว์จำนวนมหาศาล ได้บรรลุถึงความบริสุทธิ์และศานติ ด้วยเหตุนี้จึงได้สมญานามว่า พระมารดาผู้อนุเคราะห์ หรือพระมารดาผู้สามารถ หรือพระมารดาผู้รวดเร็ว หรือพระมารดาผู้แกล้วกล้า ทั้งหมดนั้นเพราะพระองค์มิได้หวาดกลัวในสิ่งทั้งปวง

    และในพระสูตรฝ่ายวัชรยานยังว่า พระตาราโพธิสัตว์เป็นอวตารของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เช่นว่าพระอวโลกิเตศวรเมื่อทอดทัศนาจากเบื้องสูง แล้วเห็นสรรพสัตว์ได้รับทุกข์ทรมาน จึงหลั่งน้ำพระเนตรสู่โลก น้ำพระเนตรนั้นได้กลายเป็นสระโบกขรณี กลางสระนั้นมีปทุมมาลย์ดอกใหญ่ เมื่อดอกบัวนั้นบานออกจึงปรากฏมีพระตาราประทับอยู่ภายใน

    พระคัมภีร์อื่นกล่าวว่า พระอวโลกิเตศวร ได้นิรมาณกายเป็นสตรีเพื่อโปรดสรรพสัตว์ผู้สมควรโปรดด้วยกายของสตรี จึงเรียกขานนิรมาณกายนั้นว่าพระตารา

    พระคัมภีร์กล่าวว่า พระตาราทั้ง ๒๑ พระองค์นี้ล้วนมีจิตเดียวกัน หรือคือองค์เดียวกันนั้นเอง หากภาวนาหรือบูชาพระตาราองค์ใดจนสำเร็จก็เสมือนได้บรรลุคุณสิทธิแห่งพระตาราทั้ง ๒๑ องค์ ทุกเดือนจันทรคติ วันที่ ๒๕ เป็นวันระลึกถึงการอุบัติขึ้นของพระตารา หากปฏิบัติบูชาในวันนี้จะมีอานุภาพและอานิสงส์มหาศาล



    พระตาราพุทธมารดา (โพธิสัตว์) ๒๑ พระองค์





    (มีต่อด้านล่าง...)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2012
  2. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    มหามยุรีวิทยาราชามหาธารณี
    大孔雀明王心咒
    Peacock Wisdom King Mantra


    [​IMG]


    唵 摩由啰 讫兰帝 娑嚩哈
    Om Mayura Krante Svaha
    โอม มายูรา เกอรันเท สวาหา






    ความจาก “มหามยุรีวิทยาราชาสูตร” แสดงไว้ว่า “สมัยหนึ่งมีภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัด พระอานนท์นำความกราบบังคมทูลพระผู้มีพระภาค ครานั้นสมเด็จพระโลกเชษฐ์ตรัสว่า ในอดีตอันกาลอันเนิ่นนานมาแล้ว เบื้องหิมาลัยบรรพต มีสุวรรณรูปมหามยุรีราชาอาศัยอยู่ อันสุวรรณรูปมหามยุรีราชาได้เจริญมหามยุรีวิทยาราชามหาธารณีอยู่เป็นนิจ พ้นแล้วจากอันตรายทั้งปวง สืบมาวันหนึ่งสุวรรณรูปมหามยุรีราชาได้ไปท่องเที่ยว ลืมเจริญซึ่งมหาธารณี จึงถูกมนุษย์จับตัวไป ภายหลังได้เมื่อสติจึงเจริญมหาธารณีอีกครั้งก็พ้นภัย จากนั้นสุวรรณรูปมหามยุรีราชาได้แสดงธรรมแก่ปวงชน แล้วจากไป

    ก็ในสมัยนั้น พระศาสดาจึงทรงแสดงมหามยุรีวิทยาราชามหาธารณี อันจักระงับแล้วซึ่งสรรพพิษ สรรพโรคาพาธ และสัพพันตรายทั้งปวง ดังนี้ “โอม มยุระ กรันเต สวาหา”

    แท้จริงแล้ว สุวรรณรูปมหามยุรีราชา ทรงมีนามว่า “มหามยุรีวิทยาราชา” ทรงเป็นสัมโภคกายแห่งพระมหาไวโรจนตถาคตพุทธเจ้าและพระอมิตาภตถาคตพระพุทธเจ้า และยังทรงเป็นนิรมาณกายแห่งพระศากยมุนีตถาคตพุทธเจ้าอีกด้วย

    รูปลักษณ์แห่งพระมหามยุรีวิทยาราชานั้น ทรงมี ๑ เศียร ๔ กร สำแดงพระองค์เป็นมหาโพธิสัตวลักษณ์ ประทับบนบุณฑริก อันสถิตเหนือยูงทอง (มยุราสนะ) พระหัตถ์ทรงดอกอุบล, ขนนกยูง, และผลไม้ทั้ง ๒ อันได้แก่ มังคลผล และปัจจยผล (ผลไม้เป็นเครื่องหมายแห่งการบรรลุมรรคผล) ในคัพภโลกธาตุ ทรงสำแดงพระองค์มี ๒ พระกร พระหัตถ์ขวาทรงขนนกยูง พระหัตถ์ซ้ายทรงดอกบัว ประทับบนบัวสัตตบรรณ เป็นลำดับที่ ๖ ในหนทักษิณแห่งวิหารสุสิทธิ

    “มหามยุรีวิทยาราชามหาธารณี” มีคุณพ้นประมาณ จักระงับแล้วซึ่งภัยทั้งปวง อันเกิดแต่ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ, ศาสตรา, ยาพิษ เป็นอาทิ (โดยเฉพาะมีคุณอย่างยิ่งในการสลายแล้ว ซึ่งพิษทั้งปวง เช่น พิษงูและสัตว์ต่างๆ ยาพิษทั้งปวง สารเคมี ตลอดจนพิษร้ายและเชื้อโรคต่างๆ อันเกิดแต่ มนุษย์, สัตว์, วัตถุสิ่งของ, เวทย์มนต์ ฯลฯ) นอกจากนี้ ยังช่วยระงับซึ่งภัยธรรมชาติ ช่วยในการขอฝน และยังให้ฤดูกาลเป็นปกติ พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์


    มหามยุรี[FONT=メイリオ]孔雀明王[/FONT][FONT=メイリオ]([/FONT][FONT=メイリオ]くじゃくみょうおう)[/FONT]ประทับบนนกยูง ([FONT=メイリオ]孔雀[FONT=メイリオ]([FONT=メイリオ]くじゃく)[/FONT][FONT=メイリオ][FONT=メイリオ]) [/FONT]ซึ่งกินสัตว์ที่มีพิษ ([FONT=メイリオ]毒[FONT=メイリオ]([FONT=メイリオ]どく)[FONT=メイリオ][FONT=メイリオ])[/FONT][/FONT][/FONT] เช่น งูเห่า จึงเชื่อกันว่าจะช่วยกำจัดโทษ 3 ([FONT=メイリオ]三毒[FONT=メイリオ]([/FONT][FONT=メイリオ]さんどく)[/FONT][FONT=メイリオ][FONT=メイリオ])[/FONT][/FONT][/FONT] ได้แก่ โลภ ([FONT=メイリオ]貪欲[FONT=メイリオ]([/FONT][FONT=メイリオ]とんよく)[/FONT][FONT=メイリオ][FONT=メイリオ]) โกรธ ([FONT=メイリオ]瞋恚[FONT=メイリオ]([/FONT][FONT=メイリオ]しんい)[/FONT][FONT=メイリオ][FONT=メイリオ]) หลง ([FONT=メイリオ]愚痴[FONT=メイリオ]([/FONT][FONT=メイリオ]ぐち)[/FONT][FONT=メイリオ][FONT=メイリオ])[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]



    http://www.mysutras.com/?p=57
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2012
  3. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    พระสมันตภัทรจริยาปณิธาน


    大方廣佛華嚴經 普賢行願品
    อวตังสกะสูตร พระสมันตภัทรจริยาปณิธานวรรค
    Avatamsaka Sutra (The Flower Garland Sutra)
    Practices and Vows of the Bodhisattva Samantabhadra



    [​IMG]




    สมัยนั้น พระสมันตภัทรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้ปรารถนาจะกล่าวย้ำในอรรถะนี้ เมื่อพิจารณาไปทั่วทิศทั้งสิบแล้ว จึงกล่าวโศลกว่า...

    ท่ามกลางโลกธาตุบรรดามีในทศทิศ พระผู้นรสิงห์ทั้งปวงในตรีกาลเหล่านั้น เราจักใช้กาย วาจาและใจที่บริสุทธิ์ นมัสการทุกพระองค์เหล่านั้นอย่างมิขาดตกบกพร่อง ด้วยพลานุภาพแห่งจริยาและปณิธานของพระสมันตภัทร เราจักปรากฏอยู่เบื้องหน้าพระตถาคตเจ้าทั้งปวง กายเดียวยังปรากฏมีหลายกายเท่าจำนวนปรมาณูในโลกธาตุ กายหนึ่งๆ จักนมัสการพระพุทธเจ้าจำนวนเท่าปรมาณูนั้น ภายในปรมาณูธุลีหนึ่งยังมีพระพุทธเจ้าจำนวนเท่าปรมาณูธุลี ทุกสถานที่ต่างมีหมู่โพธิสัตว์ประชุมอยู่ ปรมาณูแห่งธรรมธาตุที่ไม่สิ้นสุดก็เป็นเช่นกันนี้ เราจะศรัทธามั่นต่อพระสัมมาพุทธเจ้าเหล่านั้นอย่างเต็มเปี่ยม (ทุกกายของเรา)จักใช้สัทสาครสำเนียงต่างๆ บังเกิดเป็นวจนะที่ไพเราะไม่สิ้นสุด จนสิ้นกัลป์ทั้งปวงในอนาคต ก็จักยังสรรเสริญอยู่ซึ่งพระพุทธคุณที่ดุจห้วงมหรรณพ จักใช้มาลัยดอกไม้ที่วิจิตร เครื่องดนตรี เครื่องทาหอมและร่มฉัตรที่เป็นเลิศทั้งมวลนี้ อันเป็นเครื่องบูชาที่อลังการอย่างยิ่ง เราขอใช้ถวายสักการะต่อพระตถาคตทั้งปวง แพรพรรณที่เป็นเลิศ เครื่องหอมที่เป็นเลิศ ผงหอม เครื่องหอมเผาร้อน อีกทั้งประทีปดวงเทียน แต่ละสิ่งหนึ่งกองสูงดุจเขาสุเมรุ เราขอถวายสักการะต่อพระตถาคตทั้งปวง เราจักใช้จิตศรัทธาไพบูลย์ที่น้อมไปอย่างยิ่งนี้ ศรัทธามั่นต่อพระพุทธเจ้าทั้งหลายในตรีกาล จักใช้กำลังจริยาวัตรและปณิธานของพระสมันตภัทร บูชาพระตถาคตทั้งปวงอย่างทั่วถึง อกุศลกรรมทั้งปวงที่เราได้ทำแล้ว ล้วนมีสาเหตุจากโลภะ โทสะ โมหะ ที่หาจุดเริ่มไม่ได้ ที่เกิดขึ้นทางการกระทำ คำพูดและความนึกคิด บัดนี้เราสำนึกในผิดนั้นทั้งปวง หมู่สัตว์ทั้งหลายในทศทิศ ทวิยานิก* เสขบุคคลและพระอเสขะ พระตถาคตและพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เราจักอนุโมทนากับกุศลของท่านเหล่านั้น (*บุคคลในยาน ๒ ประเภท คือ สาวกยาน และปัจเจกยาน) พระโลกประทีปเจ้าในทิศทั้งสิบ เมื่อปฐมสมัยที่สำเร็จพระโพธิญาณ เราจักอาราธนาด้วยประการทั้งปวง ให้ทรงหมุนกงล้อพระธรรมจักร พระพุทธเจ้าทั้งหลายหากปรารภเข้าสู่ห้วงนิพพาน เราจักทูลอาราธนาอย่างที่สุด ขอให้ทรงพระชนม์ชีพอยู่ในโลกหลายกัลป์เท่าปรมาณูในโลก เพื่อยังประโยชน์แก่หมู่สัตว์ทั้งปวง บรรดากุศลจากการวันทนาและบูชา การเชิญพระพุทธองค์ให้สถิตในโลกและหมุนธรรมจักร กุศลมูลทั้งปวงของการโมทนาและขมากรรม ขออุทิศแก่สรรพสัตว์และพุทธภูมิ เราจักศึกษาตามพระตถาคตทั้งปวง ประพฤติจริยาวัตรอันสมบูรณ์ของพระสมันตภัทร จักบูชาพระตถาคตทั้งหลายในอดีต และพระพุทธเจ้าในทศทิศ ณ กาลปัจจุบัน พระศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายในอนาคต ล้วนมีพระอัธยาศัยสมบูรณ์ เราจักประพฤติตามพระพุทธเจ้าในกาลทั้งสาม เพื่อสำเร็จถึงมหาโพธิญาณโดยเร็ว ในบรรดาโลกธาตุทั้งปวงในทศทิศ ล้วนกว้างใหญ่ไพศาล บริสุทธิ์ อลังการยิ่ง หมู่ชนที่แวดล้อมพระตถาคตทั้งหลายอยู่ ล้วนแต่ประทับใต้โพธิรุกขราชา ขอให้หมู่สัตว์ทั้งหลายในทิศทั้งสิบ จงไกลจากทุกข์โศก มีปกติอยู่เป็นผาสุก ได้เสวยประโยชน์แห่งพระสัทธรรมที่คัมภีรภาพ แล้วดับกิเลสจนสิ้นไม่เหลือเชื้อ สมัยที่เราประพฤติโพธิจริยานั้น ในทุกสถานจงได้สำเร็จปุพเพนิวาสานุสติญาณ* ได้ออกบวชและประพฤติศีลบริสุทธิ์อยู่เป็นนิจ ด้วยความไม่แปดเปื้อน ไม่ทำลาย ไม่เคลือบย้อมเถิด (*ความรู้คือ สามารถระลึกชาติได้) เทพ นาค ยักษ์และกุมภัณฑ์ จนถึงมนุษย์และอมนุษย์ทั้งปวง บรรดาภาษาของหมู่สัตว์เหล่านั้น เราจักใช้เสียงทั้งปวงนั้นแสดงธรรม ให้เพียรบำเพ็ญปารมิตาบริสุทธิ์ และไม่วิบัติหลงลืมโพธิจิต วิบากและมลทินเมื่อกำจัดสิ้นไม่มีเหลือ จริยาที่ประเสริฐทั้งปวงจึงสำเร็จได้ ในเหล่ากิเลสกรรมและมารวิสัย หนทางแห่งโลกียะ ก็ได้หลุดพ้นแล้ว อุปมาปุณฑริกชาติมิสัมผัสวารี อีกดั่งอาทิตย์และจันทรามิได้ติดข้องในอากาศ ทุกข์จากอบายมรรคทั้งปวงถูกขจัดจนสิ้น มีสุขเสมอด้วยเวไนยสัตว์ทั้งปวง เมื่อผ่านกัลป์ไปเท่ากับปรมาณูในโลก จึงสามารถยังประโยชน์ทั่วทศทิศไปตลอดไม่มีประมาณ เราจักอนุโลมตามสรรพสัตว์อยู่เป็นนิจ แม้สิ้นกัลป์ทั้งปวงในอนาคต เพราะบำเพ็ญสมันตภัทรไพบูลยจริยาอยู่นี้ จึงได้สมบูรณ์ซึ่งพระอนุตรสัมโพธิ ขอให้ท่านทั้งหลายและเรามีจริยาเหมือนกัน ได้ร่วมชุมนุมร่วมกันแม้ในสถานที่ทั้งปวง ได้มีกาย วาจา ใจที่เสมือนกัน จริยาวัตร ปณิธานทั้งปวงนั้นก็จะร่วมกันศึกษาบำเพ็ญ บรรดากัลยาณมิตรของเรานี้ เมื่อเราแสดงสมันตภัทรจริยาแล้ว จึงมีปณิธานจักอยู่พร้อมกับเรา ยังให้เราเกิดจิตยินดีอยู่เป็นนิจ มีปณิธานจักประสบพระตถาคตทั้งหลาย พร้อมกับเหล่าพุทธบุตรที่แวดล้อม ด้วยจักถวายมหาสักการะต่อท่านเหล่านั้น จนสิ้นกัลป์ในอนาคตอย่างมิเบื่อหน่าย มีปณิธานจะธำรงคัมภีรธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งปวง สำแดงโพธิจริยาทั้งปวงให้รุ่งเรือง ประพฤติสมันตภัทรจริยาอย่างหมดจดถึงที่สุด จนถึงกัลป์อันเป็นที่สุดของอนาคตกาล เราจักอาศัยภพทั้งปวง บำเพ็ญกุศลและปัญญาไปไม่จบสิ้น ทั้งสมาธิ ญาณ อุปายะและวิมุตติ ได้เสวยกุศลทั้งปวงไม่จบสิ้น ภายในปรมาณูหนึ่งยังมีปรมาณูเท่าที่มีอยู่ในโลกธาตุ แต่ละโลกธาตุยังมีพระพุทธเจ้า(มากมาย)ยากแก่การนึกคิดได้ รวมทั้งมหาชนที่แวดล้อมพระพุทธเจ้าหนึ่งๆนั้นด้วย ซึ่งเราเห็นว่ากำลังกระทำโพธิจริยาอยู่เป็นนิจ อยู่ทั่วไปในเกษตรสาครในทศทิศ ปลายโลมชาติหนึ่งๆก็มีตรีภูมิ*สาคร มีพุทธสาครและโลกธาตุสาคร เราก็บำเพ็ญจริยาผ่านล่วงกัลปสาครมาแล้ว** (*ตรีภูมิคือ ภูมิ ๓ มี กามภูมิ รูปภูมิ อรูปภูมิ **สาคร ,มหาสมุทร เป็นสำนวนเปรียบว่า มีจำนวนมากมาย เหมือนห้วงแห่งมหาสาครที่กว้างออกไปไม่มีขอบเขต และลึกล้ำหยั่งวัดไม่ได้) พระวจนะที่บริสุทธิ์ของพระตถาคตทั้งปวง วจีหนึ่งนั้นประกอบด้วยเสียงแลสำเนียงดุจห้วงสาคร คล้อยตามเสียงที่หมู่สัตว์พึงพอใจ ซึ่งแต่ละเสียงหนึ่งๆคือกระแสแห่งพุทธปฏิภาณสาคร ระตถาคตทั้งปวงในกาลสาม ทรงใช้วจนะภาษาที่ไม่สิ้นสุดประหนึ่งสาครนั้น ในการหมุนพระธรรมจักรให้เคลื่อนไป เราจักใช้กำลังของปัญญาที่แยบคายในการเข้าถึง เราสามารถเข้าถึงภาวะแห่งอนาคต ตลอดกัลป์ทั้งหลายในระลึกเดียว และกัลป์ทั้งปวงแห่งตรีกาล เราก็สามารถเข้าถึงได้ภายในขณะเดียว เราอาศัยความระลึกเดียวแลเห็นตรีกาล บรรดาพระนรสิงห์ทั้งปวง ยังเสด็จสู่พุทธวิสัยอยู่เป็นนิจ ประดุจมายา วิมุตติและพลานุภาพ ในเบื้องปลายสุดของโลมชาติ ยังปรากฏวยูหโลกธาตุของกาลทั้งสาม โลกธาตุจำนวนเท่าปรมาณูในทศทิศ ก็อยู่ที่ปลายแห่งโลมชาติทั้งปวง เราจักดำเนินลึกเข้าไปเพื่อชำระให้บริสุทธิ์ บรรดาพระโลกประทีปเจ้าในอนาคต ที่ได้สำเร็จมรรค เคลื่อนธรรมจักร ให้หมู่สัตว์ตื่นขึ้น กระทำพุทธกิจถึงที่สุดแล้วสู่นิพพาน เราจะไปเฝ้ายังที่นั้นอย่างใกล้ชิด ด้วยกำลังแห่งฤทธิ์ที่รวดเร็วครบถ้วน ด้วยกำลังแห่งมหายาน อันเป็นวิถีที่สามารถเข้าถึงได้ทั่วไป ด้วยกำลังแห่งปัญญาและกุศลที่บำเพ็ญ ด้วยกำลังแห่งเดชานุภาพของมหาเมตตาที่ปกแผ่ ด้วยกำลังแห่งบุญที่ประเสริฐ วิสุทธิ์ อลังการ ด้วยกำลังแห่งปัญญาญาณ ที่ไร้เครื่องพันผูก เครื่องอิงอาศัย(กับสิ่งอื่น) ด้วยกำลังทั้งปวงแห่งสมาธิ ญาณ อุปายะ ด้วยกำลังแห่งการสามารถสั่งสมโพธิญาณ ด้วยกำลังแห่งกุศลธรรมทั้งปวงที่บริสุทธิ์ ด้วยกำลังแห่งการกำจัดกิเลสทั้งปวง ด้วยกำลังแห่งการบำราบมารทั้งปวง ด้วยกำลังแห่งสมันตภัทรจริยาทั้งปวงที่บริบูรณ์ สามารถชำระโลกธาตุสาครทั้งหลายให้บริสุทธิ์ ได้หลุดพ้นจากห้วงมหรรณพของหมู่สัตว์ทั้งหลาย สามารถจำแนกธรรมสาครทั้งปวงได้เป็นอย่างดี สามารถเข้าสู่ปัญญาญาณได้โดยแยบคาย สามารถชำระจริยาสาครทั้งหลายให้บริสุทธิ์ สมบูรณ์ในปณิธานสาครทั้งปวง สักการะใกล้ชิดพระพุทธตถาคตสาครทั้งหลาย แลประพฤติจริยาโดยไม่หน่ายแหนงตลอดกัลป์สาคร พระตถาคตทั้งปวงในกาลสาม มีพระโพธิ จริยาวัตรและปณิธานทั้งปวงประเสริฐสุด เราจักขอบูชาโดยสมบูรณ์ ด้วยสมันตภัทรจริยา เพื่อรู้แจ้งโพธิญาณ พระตถาคตเจ้าทั้งปวงมีโอรสองค์โต นามกรว่า “สมันตภัทร” บัดนี้เราขออุทิศกุศลมูลทั้งปวง ขอให้ปัญญาและจริยาทั้งปวงเสมือนพระองค์ ขอให้กาย วาจา ใจบริสุทธิ์อยู่เป็นนิจ อีกทั้งจริยา โลกธาตุทั้งปวงก็เช่นกัน ดั่งปัญญาญาณของ “พระสมันตภัทร” ขอให้เราและพระองค์เสมือนกัน ด้วยเรามีจริยาวัตรของพระสมันตภัทร และมหาปณิธานทั้งปวงของพระมัญชุศรีที่สะอาดรอบ จึงพร้อมอยู่ในกิจเหล่านั้นทั้งสิ้น ในกัลป์แห่งอนาคตจักไม่ต้องย่อท้อเลย อันการบำเพ็ญจริยาวัตรของเรานั้นไม่มีประมาณ จึงได้รับกุศลต่างๆ ไม่มีประมาณ แล้วตั้งอยู่ในจริยาวัตรทั้งปวงไม่มีประมาณ ได้แทงตลอดซึ่งอภิญญาพละทั้งปวง พระมัญชุศรีมีปัญญาอันแกล้วกล้า พระสมันตภัทรก็มีญาณจริยาดุจเดียวกัน บัดนี้เราขออุทิศกุศลมูลทั้งปวง เพื่อศึกษาบำเพ็ญสิ่งทั้งปวงตามพระองค์อยู่เป็นนิจ พระพุทธเจ้าในตรีกาลล้วนสดุดี ในมหาปณิธานที่ประเสริฐยิ่งเหล่านี้ บัดนี้เราขออุทิศกุศลมูลทั้งปวง เพื่อบรรลุวิชยจริยาของพระสมันตภัทร ขอให้เมื่อสมัยเราจะสิ้นชีพ วิบากคือสิ่งกีดกั้นทั้งหลายจงหมดสิ้น ได้ประสบพระอมิตายุสะพุทธเจ้าองค์นั้น แล้วไปอุบัติที่แดนสุขาวตี เมื่อเราไปอุบัติที่โลกธาตุนั้นแล้ว จักได้สำเร็จซึ่งมหาปณิธานนี้ ทุกสรรพสิ่งจักบริบูรณ์ไม่มีเหลือ แล้วยังประโยชน์สุขให้หมู่สัตว์ทั้งปวง อันประชุมชนของพระพุทธเจ้าองค์นั้นก็ล้วนบริสุทธิ์ เมื่อสมัยที่เรากำเนิดจากปัทมชาติที่ยอดเยี่ยมนั้น จักได้เห็นพระตถาคตอมิตาภะอย่างใกล้ชิด จะทรงประทานพุทธพยากรณ์ยังเบื้องหน้าของเรา ก็เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์จากพระตถาคตเจ้านั้นแล้ว จักนิรมาณกายได้นับร้อยโกฏิอสงไขย ปัญญามีอำนาจไพบูลย์ทั่วทศทิศ เพื่อยังประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทั้งปวง จนถึงอากาศโลกธาตุสิ้นสูญ สรรพสัตว์ และกรรม กิเลสสูญสิ้น ดั่งที่ทุกสิ่งไม่อาจสูญสิ้นไปเช่นนี้ ปณิธานของเราที่สุดแล้วย่อมไม่สูญสิ้น หากในบรรดาโลกธาตุที่ไร้ขอบเขตทั่วทศทิศ จักใช้มวลรัตนชาติที่อลังการบูชาพระตถาคต นำความผาสุกอย่างยอดเยี่ยมมอบให้เทวดาและมนุษย์ โดยผ่านไปหลายกัลป์เท่าปรมาณูในโลกทั้งปวง ประการหนึ่ง และหากมีผู้ได้สดับปณิธานราชาอันประเสริฐนี้ แม้หนึ่งครั้ง แล้วสามารถเกิดความเลื่อมใส ปรารถนาโพธิจิตอันประเสริฐอย่างแรงกล้าแล้ว ย่อมได้รับกุศลยอดเยี่ยมกว่าประการแรกนั้น ย่อมห่างไกลจากมิตรชั่วอยู่เป็นนิจ ไกลจากอบายภูมิทั้งปวง จักได้พบพระตถาคตอมิตาภะโดยเร็ว แล้วสมบูรณ์ซึ่งสมันตภัทรปณิธานที่ประเสริฐสุด บุคคลนี้ย่อมได้รับชีวิตที่ประเสริฐ บุคคลนี้ย่อมเป็นผู้มากำเนิดในภูมิมนุษย์โดยดี บุคคลนี้มิช้านานจักได้สำเร็จ ประดุจจริยาวัตรของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์นั้นแล ด้วยอำนาจที่ในอดีตไร้ซึ่งปัญญาญาณ จึงสร้างความชั่วร้ายสาหัส และอนันตริยกรรมทั้งห้า เมื่อสาธยายสมันตภัทรมหาปณิธานราชนี้แล้ว ก็จักดับสลายไปในขณะเดียวอย่างรวดเร็ว ตระกูล เชื้อสาย และใบหน้า ลักษณะ ปัญญาญานต่างสมบูรณ์พร้อม บรรดามาร เดียรถีร์มิอาจหักล้าง พึงได้รับสักการะจากสามภูมิ จะได้ถึงมหาโพธิราชพฤกษ์โดยเร็ว(ตรัสรู้) ประทับนั่งแล้วกำราบมารทั้งปวง ได้สำเร็จพระสัมโพธิ หมุนกงพระธรรมจักร ยังประโยชน์แก่สัตว์ผู้มีปราณ*ทั้งปวง (*สัตว์โลกทั้งหลาย) หากผู้ได้อ่านท่อง จดจำและกล่าวแสดง สมันตภัทรปณิธานนี้ ผลที่พึงได้รับมีแต่พระพุทธตถาคตเท่านั้นที่ทรงทราบ จักได้บรรลุพระโพธิมรรคเป็นแน่แท้ หากผู้ท่องสมันตภัทรปณิธานนี้ เราจักพรรณนากุศลมูลนั้นได้เพียงส่วนน้อย ระลึกเดียวกับสรรพสิ่งนั้นล้วนแต่สมบูรณ์ ยังให้ปณิธานที่บริสุทธิ์ของสรรพสัตว์ได้สำเร็จ เราจักอาศัยจริยาวัตรอันวิเศษของพระสมันตภัทร อุทิศกุศลอันยอดเยี่ยมไม่มีขอบเขต ขอให้หมู่สัตว์ในวัฏสงสาร ได้ไปอุบัติยังพุทธเกษตรแห่งพระอมิตาภะโดยเร็วเทอญ



    สมันตภัทรจริยาปณิธานวรรค

    ทศมหาปณิธานของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ จริยาวัตรแม่บทของโพธิสัตว์ในยุคปัจจุบัน
    ---------------------------------------------------------------------
    พระพุทธาวตังสกะมหาไวปุลยสูตร
    เป็นพระสูตรที่ว่าด้วยศูนยตาภาวะ (สูญญตา) ที่มีจุดประสงค์ให้ผู้ศึกษาได้ละวางความแตกต่างระหว่างกันและความมีอยู่ของกันและกันให้เข้าถึงสภาวะที่เรียกว่า เอกภาพ หรือ ตถตา หรือ ก็คือสิ่งสากลชนิดหนึ่งของสรรพสิ่ง

    พุทธาวตังสกะ มหาไวปุลยสูตรโพธิสัตวทศภูมิวรรค

    พระพุทธาวตังสกะ มหาไวปุลยสูตร โพธิสัตวทศภูมิวรรค (ปกรณ์ที่ ๑)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2012
  4. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2012
  5. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    พระสัทธรรมปุณฑริกสูตร
    อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์สมันตมุขปริวรรค

    妙法蓮華經 觀世音菩薩普門品
    เมี่ยว ฝ่า เหลียน หัว จิง กวน ซื่อ อิน ผู่ ซ่า ผู่ เหมิน ผิ่น
    The Wonderful Dharma Lotus Sutra
    The Universal Door of Avalokitesvara Bodhisattva


    [​IMG]



    爾 時 無 盡 意 菩 薩 以 偈 問 曰:
    ěr Shí Wú Jìn Yì Pú Sà Yǐ Jì Wèn Yuē :
    เอ่อร์ สือ อู๋ จิ้น อี้ ผู ซ่า อี่ จี้ เวิ่น เยวีย :
    กาลบัดนั้น พระอักษยมติโพธิสัตว์จึงเอื้อนโอษฐ์ ทูลถามเป็นโศลกว่า...


    世 尊 妙 相 具, 我 今 重 問 彼
    Shì Zūn Miào Xiānɡ Jù , Wǒ Jīn Zhònɡ Wèn Bǐ
    ซื่อ จุน เมี่ยว เซียง จวี้, หว่อ จิน ฉง เวิ่น ปี่
    ข้าแต่พระโลกนาถเจ้าผู้สมบูรณ์พร้อมในศุภลักษณะ ข้าพระองค์ขอทูลถามถึงพุทธบุตรท่านนั้น


    佛 子 何 因 緣, 名 為 觀 世 音?
    Fó Zǐ Hé Yīn Yuán , Mínɡ Wéi Guān Shì Yīn
    ฝอ จื่อ เหอ อิน เยวี๋ยน, หมิง เหวย กวัน ซื่อ อิน
    ว่าประกอบด้วยเหตุปัจจัยเช่นใด ถึงได้รับสมญานามว่า “อวโลกิเตศวร” พระพุทธเจ้าข้า


    具 足 妙 相 尊, 偈 答 無 盡 意
    Jù Zú Miào Xiānɡ Zūn , Jì Dá Wú Jìn Yì
    จวี้ จู๋ เมี่ยว เซียง จุน, จี้ ต๋า อู๋ จิ้น อี้
    พระผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยลักษณะวิเศษ จึงตรัสตอบแก่พระอักษยมติเป็นโศลกว่า


    汝 聽 觀 音 行, 善 應 諸 方 所
    Rǔ Tīnɡ Guān Yīn Xínɡ , Shàn Yīnɡ Zhū Fānɡ Suǒ
    หรู่ ทิง กวน อิน หัง(สิง), ซ่าน อิ้ง จู ฟาง สั่ว
    เธอจงได้ฟังจริยาของพระอวโลกิเตศวร ที่ซึ่งตอบสนองได้ในสถานทั้งปวง


    弘 誓 深 如 海, 歷 劫 不 思 議
    Hónɡ Shì Shēn Rú Hǎi , Lì Jié Bù Sī Yì
    หง ซื่อ เซิน หรู ห่าย, ลี่ เจี๋ย ปู้ ซือ อี้
    ประกอบด้วยปฏิญญาลึกล้ำดุจห้วงมหาสมุทร ในกัลป์ที่ยาวนานอันเกินจะคาดคิดนั้น


    侍 多 千 億 佛, 發 大 清 淨 願
    Shì Duō Qiān Yì Fó , Fā Dà Qīnɡ Jìnɡ Yuàn
    ซื่อ ตัว เชียน อี้ ฝอ, ฟา ต้า ชิง จิ้ง เยวี้ยน
    ได้เคยเฝ้าพระพุทธเจ้าจำนวนถึงหลายพันโกฏิ ได้ประกาศมหาปณิธานอันบริสุทธิ์ยิ่ง


    我 為 汝 略 說, 聞 名 及 見 身
    Wǒ Wéi Rǔ Luè Shuō , Wén Mínɡ Jí Jiàn Shēn
    หว่อ เว๋ย หรู่ เลี่ย ซัว, เหวิน หมิง จี๋ เจี้ยน เซิน
    เราตถาคตจักกล่าวแก่เธอโดยสังเขป หากได้สดับนามฤๅได้พบรูปกายของพระอวโลกิเตศวร


    心 念 不 空 過, 能 滅 諸 有 苦
    Xīn Niàn Bù Kōnɡ Guò , Nénɡ Miè Zhū Yǒu Kǔ
    ซิน เนี่ยน ปู้ คง กั้ว, เหนิง เมี่ย จู โหย่ว ขู่
    แล้วมีจิตระลึกถึงโดยมิว่างเว้นแล้วไซร้ ก็สามารถดับสิ้นซึ่งสรรพทุกข์ทั้งปวงได้


    假 使 興 害 意, 推 落 大 火 坑
    Jiǎ Shǐ Xìnɡ Hài Yì , Tuī Luò Dà Huǒ Kēnɡ
    เจี่ย สื่อ ซิ่ง ฮ่าย อี้, ทุย ลั่ว ต้า หั่ว เคิง
    สมมติว่ามีผู้จิตชั่วร้าย ผลักให้ร่วงสู่บ่อมหาอัคคี


    念 彼 觀 音 力, 火 坑 變 成 池
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Huǒ Kēnɡ Biàn Chénɡ Chí
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, หั่ว เคิง เปี้ยน เฉิง ฉือ
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร บ่อเพลิงย่อมแปรเปลี่ยนเป็นสระโบกขรณี



    或 漂 流 巨 海, 龍 魚 諸 鬼 難
    Huò Piāo Liú Jù Hǎi , Lónɡ Yú Zhū Guǐ Nán
    ฮั่ว เพียว หลิว จวี้ ห่าย, หลง อวี๋ จู กุ่ย น่าน
    ฤๅว่าถูกพัดพาไปในมหาสมุทร มีภยันตรายจากพญานาค มัจฉาและปีศาจทั้งปวง


    念 彼 觀 音 力, 波 浪 不 能 沒
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Bō Lànɡ Bù Nénɡ Mò
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, ปอ ลั่ง ปู้ เหนิง ม่อ
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร กระแสคลื่นลมมิอาจซัดสาดให้จมได้


    或 在 須 彌 峰, 為 人 所 推 墮
    Huò Zài Xū Mí Fēnɡ , Wéi Rén Suǒ Tuī Duò
    ฮั่ว จ้าย ซวี หมี ฟง, เหวย เหริน สั่ว ทุย ตั้ว
    ฤๅว่าอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ แล้วมีบุคคลผลักดันให้ตกลงมา


    念 彼 觀 音 力, 如 日 虛 空 住
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Rú Rì Xū Kōnɡ Zhù
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, หรู ยรื่อ ซวี คง จู้
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร จักยังให้สถิตอยู่กลางนภากาศดุจดวงอาทิตย์


    或 被 惡 人 逐, 墮 落 金 剛 山
    Huò Bèi è Rén Zhú , Duò Luò Jīn Gānɡ Shān
    ฮั่ว เป้ย เอ้อ เหริน จู๋, ตั้ว ลั่ว จิน กัง ซาน
    ฤๅว่าถูกบุคคลผู้ชั่วร้ายไล่ล่า จนพลัดตกจากภูเขาวัชระ


    念 彼 觀 音 力, 不 能 損 一 毛
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Bù Nénɡ Sǔn Yì Máo
    เนี่ยน ปี่ กวน อิน ลี่, ปู้ เหนิง สุ่น อี้ เหมา
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ย่อมมิเป็นอันตรายแม้นโลมาเพียงเส้น


    或 值 怨 賊 繞, 各 執 刀 加 害
    Huò Zhí Yuàn Zéi Rào , Gè Zhí Dāo Jiā Hài
    ฮั่ว จื๋อ เยวี้ยน เจ๋ย เร่า, เก้อ จื๋อ เตา เจีย ฮ่าย
    ฤๅว่าถูกกลุ่มโจรอำมหิตโอบล้อม ต่างก็ถืออาวุธครบมือหวังเข้าทำร้าย


    念 彼 觀 音 力, 咸 即 起 慈 心
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Xián Jí Qǐ Cí Xīn
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, เสียน จี๋ ฉี่ ฉือ ซิน
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร จักยังให้เกิดจิตเมตตาโดยทั่วกัน


    或 遭 王 難 苦, 臨 刑 欲 壽 終
    Huò Zāo Wánɡ Nán Kǔ , Lín Xínɡ Yù Shòu Zhōnɡ
    ฮั่ว เจา หวัง หนาน ขู่, หลิน สิง อวี้ โซ่ว จง
    ฤๅว่าได้รับทุกข์ทรมานจากราชอาญา จวนจะถูกประหารชีวาใกล้จะดับสิ้น


    念 彼 觀 音 力, 刀 尋 段 段 壞
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Dāo Xún Duàn Duàn Huài
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, เตา สวิน ต้วน ต้วน ไฮว่
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร มีดดาบก็จักหักสะบั้นเป็นชิ้นไป


    或 囚 禁 枷 鎖, 手 足 被 杻 械
    Huò Qiú Jìn Jiā Suǒ , Shǒu Zú Bèi Niǔ Xiè
    ฮั่ว ฉิว จิ้น เจีย สั่ว, โส่ว จู๋ เป้ย โฉ่ว เซี่ย
    ฤๅว่าถูกจองจำ ต้องด้วยขื่อคา มือแลเท้าถูกพันธนาด้วยโซ่ตรวน


    念 彼 觀 音 力, 釋 然 得 解 脫
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Shì Rán Dé Jiě Tuō
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, ซื่อ หราน เต๋อ เจี่ย ทัว
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ก็จักได้หลุดพ้นจากเครื่องพันธนาการทันที


    咒 詛 諸 毒 藥, 所 欲 害 身 者
    Zhòu Zǔ Zhū Dú Yào 、 Suǒ Yù Hài Shēn Zhě
    โจ้ว จู่ จู ตู๋ เย่า, สั่ว อวี้ ฮ่าย เซิน เจ่อ
    อีกเวทย์มนต์และโอสถพิษทั้งปวง ที่มุ่งหมายจักให้โทษแก่บุคคลอื่น


    念 彼 觀 音 力, 還 著 於 本 人
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Hái Zhe Yú Běn Rén
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, ฮวั๋น จั๋ว อวี๋ เปิ่น เหริน
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ย่อมหวนคืนแก่ผู้กระทำ


    或 遇 惡 羅 剎, 毒 龍 諸 鬼 等
    Huò Yù è Luó Chà 、 Dú Lónɡ Zhū Guǐ Děnɡ
    ฮั่ว อวี้ เอ้อ หลัว ช่า, ตู๋ หลง จู กุ่ย เติ่ง
    ฤาว่าประสบกับรากษสร้าย นาคมีพิษและเหล่าปีศาจ


    念 彼 觀 音 力, 時 悉 不 敢 害
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Shí Xī Bù Gǎn Hài
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, สือ ซี ปู้ กั่น ฮ่าย
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ในเวลานั้นย่อมมิกล้าทำร้าย


    若 惡 獸 圍 繞, 利 牙 爪 可 怖
    Ruò è Shòu Wéi Rào , Lì Yá Zhǎo Kě Bù
    รั่ว เอ้อ โซ่ว เหวย เร่า, ลี่ หยา เจ่า เข่อ ปู้
    หากถูกแวดล้อมด้วยสัตว์ร้าย มีเขี้ยวเล็บแหลมคมน่าพรั่นพรึงยิ่งนัก


    念 彼 觀 音 力, 疾 走 無 邊 方
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Jí Zǒu Wú Biān Fānɡ
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, จี๋ โจ่ว อู๋ เปียน ฟาง
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ก็จักรีบถอยหนีไปแสนไกล


    蚖 蛇 及 蝮 蠍, 氣 毒 煙 火 然
    Yuán Shé Jí Fù Xiē , Qì Dú Yān Huǒ Rán
    เยวี๋ยน เสอ จี๋ ฟู่ เซีย, ชี่ ตู๋ เยียน หั่ว หราน
    อสรพิษและแมลงที่มีพิษร้าย มีไอพิษรุ่มร้อนเหมือนควันไฟ


    念 彼 觀 音 力, 尋 聲 自 迴 去
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Xún Shēnɡ Zì Huí Qù
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, สวิน เซิง จื้อ หุย ชวี่
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร เมื่อได้ยินเสียงภาวนานั้นย่อมกลับไปเอง


    雲 雷 鼓 掣 電, 降 雹 澍 大 雨
    Yún Léi Gǔ Chè Diàn , Jiànɡ Báo Shù Dà Yǔ
    ยวิ๋น เล๋ย กู่ เช่อ เตี้ยน, เจี้ยง เป๋า ซู่ ต้า อวี่
    กลุ่มเมฆและสายฟ้ากึกก้องสะท้านสะเทือน เกิดเป็นลูกเห็บและฝนห่าใหญ่


    念 彼 觀 音 力, 應 時 得 消 散
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Yìnɡ Shí Dé Xiāo Sàn
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, อิ้ง สือ เต๋อ เซียว ซ่าน
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ครั้งนั้นสิ่งต่างๆจักมลายสูญไป


    眾 生 被 困 厄, 無 量 苦 逼 身
    Zhònɡ Shēnɡ Bèi Kùn è , Wú Liànɡ Kǔ Bī Shēn
    จ้ง เซิง เป้ย คุ่น เอ้อ, อู๋ เลี่ยง ขู่ ปี เซิน
    สรรพสัตว์ได้รับความทรมาน เพราะความทุกข์มิอาจประมาณเบียดเบียนอยู่


    觀 音 妙 智 力, 能 救 世 間 苦
    Guān Yīn Miào Zhì Lì , Nénɡ Jiù Shì Jiān Kǔ
    กวัน อิน เมี่ยว จื้อ ลี่, เหนิง จิ้ว ซื่อ เจียน ขู่
    ด้วยอำนาจแห่งปัญญาญาณของพระอวโลกิเตศวร สามารถปลดเปลื้องความทุกข์ของจักรวาลได้


    具 足 神 通 力, 廣 修 智 方 便
    Jù Zú Shén Tōnɡ Lì , Guǎnɡ Xiū Zhì Fānɡ Biàn
    จวี้ จู๋ เสิน ทง ลี่, กวั่ง ซิว จื้อ ฟาง เปี้ยน
    สมบูรณ์พร้อมในอำนาจแห่งอภิญญา ได้บำเพ็ญอุปายปัญญามหาศาล


    十 方 諸 國 土, 無 剎 不 現 身
    Shí Fānɡ Zhū Guó Tǔ , Wú Chà Bú Xiàn Shēn
    สือ ฟาง จู กั๋ว ถู่, อู๋ ช่า ปู๋ เสี้ยน เซิน
    บรรดาโลกธาตุในทศทิศ ไร้ซึ่งภพภูมิใดที่มิปรากฏกาย


    種 種 諸 惡 趣, 地 獄 鬼 畜 生
    Zhǒnɡ Zhǒnɡ Zhū è Qù , Dì Yù Guǐ Chù Shenɡ
    จ่ง จ่ง จู เอ้อ ชวี่, ตี้ อวี้ กุ่ย ชู่ เซิง
    ในอบายภูมิต่างๆ มีนรกภูมิ เปรตภูมิ เดรัจฉานภูมิ


    生 老 病 死 苦, 以 漸 悉 令 滅
    Shēnɡ Lǎo Bìnɡ Sǐ Kǔ , Yǐ Jiàn Xī Lìnɡ Miè
    เซิง เหล่า ปิ้ง สื่อ ขู่, อี่ เจี้ยน ซี ลิ่ง เมี่ย
    ความทุกข์ของชาติ ชรา โรคาและมรณะ ก็จักค่อยๆดับสิ้นไป


    真 觀 清 淨 觀, 廣 大 智 慧 觀
    Zhēn Guān Qīnɡ Jìnɡ Guān , Guǎnɡ Dà Zhì Huì Guān
    เจิน กวัน ชิง จิ้ง กวัน, กวั่ง ต้า จื้อ หุ้ย กวัน
    พิจารณาด้วยสัตยะและด้วยความบริสุทธิ์ พิจารณาด้วยปัญญาญาณที่กว้างขวาง


    悲 觀 及 慈 觀, 常 願 常 瞻 仰
    Bēi Guān Jí Cí Guān , Chánɡ Yuàn Chánɡ Zhān Yǎnɡ
    เปย กวัน จี๋ ฉือ กวน, ฉาง เยวี้ยน ฉาง จัน หยั่ง
    พิจารณาด้วยกรุณาและเมตตา พิจารณาด้วยปณิธาน และด้วยความคารวะ*


    (*พระโพธิสัตว์เพ่งพิศสรรพสัตว์ด้วยความคารวะคือ จิตโพธิสัตว์ที่มิได้เพ่งมองสรรพสัตว์ด้วยยึดมั่นว่าคือสรรพสัตว์ มิได้ติดในรูปและนาม แต่กลับมองว่าสรรพสัตว์และตนเองล้วนเสมอภาคเท่าเทียมกัน เช่นนี้แล้วจึงมองสรรพสัตว์ด้วยความมิดูแคลนหรือเหยียดหยาม แต่จะแลมองและช่วยเหลือด้วยความเมตตาและกรุณาที่ไม่มีประมาณ)


    無 垢 清 淨 光, 慧 日 破 諸 暗
    Wú Gòu Qīnɡ Jìnɡ Guānɡ 、 Huì Rì Pò Zhū àn
    อู๋ โก้ว ชิง จิ้ง กวัง, หุ้ย รื่อ พั่ว จู อั้น
    พระองค์มีรัศมีบริสุทธิ์ไร้มลทิน พระปัญญาดุจดวงอาทิตย์กำจัดความมืดมนทั้งปวง


    能 伏 災 風 火, 普 明 照 世 間
    Nénɡ Fú Zāi Fēnɡ Huǒ , Pǔ Mínɡ Zhào Shì Jiān
    เหนิง ฝู ไจ ฟง หั่ว, ผู่ หมิง เจ้า ซื่อ เจียน
    สามารถระงับภัยจากลมและไฟ แสงรัศมีนั้นฉายสว่างไปทั่วจักรวาล


    悲 體 戒 雷 震, 慈 意 妙 大 雲
    Bēi Tǐ Jiè Léi Zhèn , Cí Yì Miào Dà Yún
    เปย ถี่ เจี้ย เล๋ย เจิ้น, ฉือ อี้ เมี่ยว ต้า อวิ๋น
    ความกรุณาเป็นกาย มีศีลปานอสุนีคำรณ จิตที่เมตตาดุจมหาเมฆาวิเศษ


    澍 甘 露 法 雨, 滅 除 煩 惱 焰
    Shù Gān Lù Fǎ Yǔ , Miè Chú Fán Nǎo Yàn
    ซู่ กัน ลู่ ฝ่า อวี่, เมี่ย ฉู ฝาน เหน่า เยี่ยน
    ยังให้สายฝนอมฤตธรรมโปรยปราย ดับเพลิงแห่งกิเลส


    諍 訟 經 官 處, 怖 畏 軍 陣 中
    Zhènɡ Sònɡ Jīnɡ Guān Chù , Bù Wèi Jūn Zhèn Zhōnɡ
    เจิ้ง ซ่ง จิง กวัน ชู่, ปู้ เว่ย จวิน เจิ้น จง
    ในขณะเป็นความต่อหน้าราชการ ในท่ามกลางกองทัพอันน่าเกรงขาม


    念 彼 觀 音 力, 眾 怨 悉 退 散
    Niàn Bǐ Guān Yīn Lì , Zhònɡ Yuàn Xī Tuì Sàn
    เนี่ยน ปี่ กวัน อิน ลี่, จ้ง เยวี้ยน ซี ทุ่ย ซ่าน
    ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ยังให้ศัตรูทั้งปวงล่าถอยไป


    妙 音 觀 世 音, 梵 音 海 潮 音
    Miào Yīn Guān Shì Yīn 、 Fàn Yīn Hǎi Cháo Yīn
    เมี่ยว อิน กวัน ซื่อ อิน, ฟั่น อิน ห่าย เฉา อิน
    มีสำเนียงอันเป็นทิพย์ พิจารณาเสียงของโลก มีสำเนียงประดุจพรหม แลมีเสียงดุจกระแสน้ำทะเล


    勝 彼 世 間 音, 是 故 須 常 念
    Shènɡ Bǐ Shì Jiān Yīn , Shì Gù Xū Chánɡ Niàn
    เซิ่ง ปี่ ซื่อ เจียน อิน, ซื่อ กู้ ซวี ฉาง เนี่ยน
    วิเศษกว่าสรรพเสียงใดในจักรวาล ด้วยเหตุนี้จึงต้องระลึกถึงสม่ำเสมอ


    念 念 勿 生 疑, 觀 世 音 淨 聖
    Niàn Niàn Wù Shēnɡ Yí 。 Guān Shì Yīn Jìnɡ Shènɡ
    เนี่ยน เนี่ยน อู้ เซิง อี๋, กวัน ซื่อ อิน จิ้ง เซิ่ง
    ระลึกถึงทุกวาระจิตมิเคลือบแคลง พระอวโลกิเตศวร พระอริยเจ้าที่บริสุทธิ์


    於 苦 惱 死 厄, 能 為 作 依 怙
    Yú Kǔ Nǎo Sǐ è 、 Nénɡ Wéi Zuò Yī Hù
    อวี๋ ขู่ เหน่า สื่อ เอ้อ, เหนิง เว๋ย จั้ว อี ฮู่
    แม้ในความทุกข์ทรมานฤๅอันตรายถึงชีวิต ก็สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้


    具 一 切 功 德, 慈 眼 視 眾 生
    Jù Yì Qiè Gōnɡ Dé , Cí Yǎn Shì Zhònɡ Shēnɡ
    จวี้ อี เชี่ย กง เต๋อ, ฉือ เหยี่ยน ซื่อ จ้ง เซิง
    สมบูรณ์ด้วยกุศลดีงามทั้งปวง แลมองสรรพสัตว์ด้วยดวงเนตรที่เมตตา


    福 聚 海 無 量, 是 故 應 頂 禮
    Fú Jù Hǎi Wú Liànɡ , Shì Gù Yīnɡ Dǐnɡ Lǐ
    ฝู จวี้ ห่าย อู๋ เลี่ยง, ซื่อ กู้ อิง ติ่ง หลี่
    ประชุมอยู่ด้วยบารมีไม่มีประมาณดุจห้วงมหาสาคร จึงสมควรนมัสการด้วยเหตุแห่งประการฉะนี้แล




    -----------------------------------------------------------------------

    MV
    普門品頌(完整版)第一版 - YouTube


    ภาพวาด
    妙 法 蓮 華 經 觀 世 音 菩 薩 普 門 品 Diệu P


    วีดีโอ
    1) พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ 1/3 觀世音 on Vimeo (ไทย)
    2) พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ 2/3 觀世音 on Vimeo (ไทย)
    3) พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ 3/3 觀世音 on Vimeo (ไทย)

    觀世音菩薩的故事 (Ch/Eng 13 videos)
    01觀世音菩薩的故事--不珣太子 - YouTube


    วีดีโอ อธิบายพระสูตร
    1) รายการโพธิประทีป ตอนที่ 3 - ช่วงที่ 3 - YouTube
    2) รายการโพธิประทีป ตอนที่ 4 - ช่วงที่ 2 - YouTube
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2013
  6. bzbeer

    bzbeer สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    มีบทสวดอื่นๆอีกไหมครับ
     
  7. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/Ws3-KCqa4DA" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>




    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/vAQxElzJeAg" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>





    <EMBED height=370 name=ssss type=application/x-shockwave-flash pluginspage=http://www.macromedia.com/go/getflashplayer width=480 src=http://you.video.sina.com.cn/api/sinawebApi/outplayrefer.php/vid=68170792_1624952402_PxnnTyAxD2HK+l1lHz2stqkP7KQNt6nkj2iwslemIQ5bQ0/XM5GfatwA4C7fAtkEqDhAQpA+cv4h3h8/s.swf allowFullScreen="true" allowScriptAccess="always"></EMBED>




    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/DlVmP8MbLMU" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>




    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/tEEktrYDXy4" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>




    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/4N5DwZtmUsE" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2012
  8. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/Kga_hYCeRv0" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>
     
  9. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    สมาธิ

    <IFRAME height=441 src="http://www.youtube.com/embed/pMJ4UlfNs5M" frameBorder=0 width=588 allowfullscreen></IFRAME>


    BrainWave คลื่นสมอง

    การทำงานของสมอง คือการรับส่งข้อมูลเป็นสัญญาณไฟฟ้า และการเคลื่อนไหวของพลังงานเหล่านี้ ทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือ คลื่นสมอง BrainWave นักวิทยาศาสตร์ใช้เครื่องมือ Electroencephalogram (EEG) จับภาพสัญญาณไฟฟ้าบริเวณสมอง และแบ่งคลื่นสมองออกได้เป็น 4 กลุ่มดังนี้


    [​IMG]



    1. คลื่นสมองระดับเบต้า Beta Brainwave ( ความถี่ระหว่าง 14 – 30 Hz )
    เป็นคลื่นสมองที่เร็วที่สุด สมองควบคุมจิตใต้สำนึก
    เมื่อใช้สมองเปิดรับข้อมูลพร้อมระบบประสาทสัมผัสทุกด้าน
    เช่น การทำกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับความทรงจำระยะสั้น

    2. คลื่นสมองระดับอัลฟ่า Alpha Brainwave ( ความถี่ระหว่าง 8 – 13.9 Hz )
    เมื่อเราพักผ่อน และมีความสงบ (relaxation) แต่อยู่ในภาวะที่รู้สึกตัว สภาวะนี้จะทำให้รับข้อมูลได้ดีที่สุด สามารถเรียนรู้ได้ดี (superlearning)
    เข้าถึงและเรียกความจำได้ง่ายและรวดเร็ว พบบ่อยในเด็กที่มีความสุข และผู้ใหญ่ที่มีจิตสมดุล หรือผู้ที่นั่งสมาธิเป็นประจำ
    หรือในขณะร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย สภาวะก่อนหลับ
    ในทางการแพทย์ คลื่นระดับนี้เหมาะกับการสะกดจิต เพื่อบำบัดโรค
    ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการป้อนข้อมูลให้แก่จิตใต้สำนึก สมองสามารถเปิดรับข้อมูลได้อย่างเต็มที่และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
    มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นสภาวะที่จิตมีประสิทธิภาพสูง


    3. คลื่นสมองระดับธีต้า Theta Brainwave ( ความถี่ระหว่าง 4 – 7.9 Hz )
    เมื่อมีการผ่อนคลายระดับลึก ความคิดสร้างสรรค์ (inspiration) คลื่นปัญญาญาณ เป็นคลื่นที่เราสามารถดึงข้อมูลจากจิตใต้สำนึกได้ (subconscious mind)
    การแก้ไขปัญหาโดยไม่รู้ตัว เป็นคลื่นระดับเดียวกับสมาธิระดับลึก (meditaion) เข้าถึงและเรียกความทรงจำระยะยาวได้ดี
    คลื่นสมองสภาวะนี้ จะมีความสุข ลืมความทุกข์ มีแต่ความปิติยินดี
    เป็นคลื่นสมองที่สะท้อนการทำงานของจิตใต้สำนึก (Subconscious Mind)


    4. คลื่นสมองระดับเดลต้า Delta Brainwave ( ความถี่ระหว่าง 0.1 – 3.9 Hz )
    เป็นคลื่นสมองที่ช้าที่สุด เกิดขึ้นในขณะนอนหลับ สมองทำงานตามความจำเป็นเท่านั้น แต่กระบวนการของจิตใต้สำนึกจะจัดและเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
    เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังพักผ่อนอย่างเต็มที่ หลับลึกโดยไม่มีความฝัน จะรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษเมื่อยามตื่น



    [​IMG]


    ประโยชน์ของการทำให้คลื่นสมอง BrainWave มีความถี่ต่ำ

    คลื่นสมองที่อยู่ในระดับ Alpha Brainwave ( ความถี่ระหว่าง 8 – 13.9 Hz )
    ทำให้เป็นคนจิตใจสงบ เยือกเย็น สุขุม มีอารมณ์ดี เบิกบาน ความคิดสร้างสรรค์สูง
    สมาธิสูง มีความจำดี และมีพลังความคิดด้านบวกสูง มองโลกในแง่ดี
    มักพบในนักบวช พระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติธรรม ผู้ที่กำลังมีความสุข ผู้ที่กำลังสวดมนต์


    (http://www.magicboxaudio.com/brainwave-benefit/)


    อ่านเพิ่มเติม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2012
  10. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    คลื่นสมองตอนผ่อนคลาย vs เล่นดนตรีแบบทำสมาธิไปด้วย

    Shakuhachi and EEG - YouTube




    คลื่นสมองตอนเล่นเกม vs ตอนสวดมนต์

    Brainwaves plaing a game - IBVA, Macbook Pro and iPod touch - YouTube

    Chanting EEG , brainwaves with voice - YouTube



    คลื่นสมองตอนวางแผน เป็นเบต้าเหมือนกัน
    แต่ตอนพัดลูกกอล์ฟ แบบแรกเป็นอัลฟา(สงบ) แบบสองเป็นเบต้า

    EEG - FOCUSED and ZONE brainwaves (www.sports-mind.com) - YouTube

    EEG- Brainwaves in wrong area (www.sports-mind.com) - YouTube
     
  11. tammychee

    tammychee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +7
    เสียงความถี่ต่างๆ

    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/GtiSCBXbHAg" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>



    เสียงสวด คำว่า โอม (จักรวาล)

    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/Yw13EAX3cZk" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...