เสียงธรรม เพลงสุสาน ( ธรรมะ )

ในห้อง 'เพลงธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 6 เมษายน 2011.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    เพลงสุสาน ( ธรรมะ )

    ขออุทิศผลบุญของเพลงนี้ให้เเก่ทุกดวงวิญญาณในโลกนี้เเละโลกหน้าีรวมไปถึงทุกคนด้วยครับ

    " สุสานที่กักเก็บวิญญาณ สุดท้ายตายลงก็เหมือนกัน
    จบเเล้วชีวิตอันเเสนสั้น ฉับพลันคุณตายลงเมื่อใด
    ทิ้งไว้เหลือเพียงความหลัง ความฝัน เเละความเป็นไป
    กับหนทางที่วาดไว้.... หมดลมหายใจ ความฝันก็จบลง

    จบเเล้วไม่มีเหลืออีก ทิ้งกายลงบนพื้นดิน
    จากนี้ร่างกายยังกลบดิน ทรัพย์สินเงินทองลืมไป
    เหลือไว้ภาพความทรงจํา ตัวฉันเเละคุณต้องไป
    ไปอยู่ในที่ใหม่ เหลือเพียงจิตใจกับวิญญาณ ที่ยังคงอยู่ ..."
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ป่าช้าวัดดอน-สุดท้ายต้องไป "สุสาน"

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline"> โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ป่าช้าวัดดอนวันนี้กลายเป็นสวนสวย</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ขึ้นชื่อว่า "ผี" แม้บางคนจะไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัส แต่พูดถึงทีไรก็เป็นต้องขนหัวลุก ไม่ขอพบขอเจอหรือญาติดีกับผีไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ฉันเองแม้รู้ว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องกลายเป็นผีในสักวันหนึ่ง แต่ในตอนนี้ก็ยังไม่อยากจะทำความคุ้นเคยกับผีสักเท่าไร

    แต่ในเมื่ออีกไม่กี่วันนี้จะเป็นวันฮัลโลวีน (31 ตุลาคม) หรือวันปล่อยผีของพวกฝรั่งเขา ก็เลยต้องเข้ากระแส ขอพาไปชมสถานที่อยู่ของผี ที่ "สุสาน" กัน

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หลุมศพนับหมื่นในป่าช้าวัดดอน </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> สุสานหรือป่าช้าที่ใครๆก็ยกนิ้วให้ในเรื่องของความเฮี้ยนนั้น ก็ต้องนึกถึง "ป่าช้าวัดดอน" สุสานขนาดใหญ่ มีพื้นที่มากกว่า 150 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตสาทร บริเวณซอยเจริญกรุง 57 เชื่อมต่อจนถึงเซ็นต์หลุยส์ ซอย 3ที่มีเรื่องผีหลอกวิญญาณหลอนมาเล่าให้ได้ยินอยู่หลายเรื่องด้วยกัน อย่างเรื่องที่มักมีคนเล่าว่าหากใครขับรถผ่านเข้ามาบริเวณนี้ก็มักจะมีคน เห็นว่า เข้ามาคนเดียว แต่ขากลับออกไปสองคน หรือมากกว่าสองคน แล้วแต่ละคนก็สภาพกะรุ่งกะริ่งไม่ค่อยจะสมบูรณ์เท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อก่อนเวลาใครโบกแท็กซี่ให้เข้ามาส่งแถวๆ นี้โชเฟอร์ก็มักจะส่ายหัวกันเป็นแถวๆ

    สาเหตุของความเฮี้ยนก็เพราะว่าป่าช้าวัดดอนนั้นเป็นสุสานแห่งนี้อยู่ ในความดูแลของ 3 องค์กร คือ สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย มูลนิธิปอเต็กตึ้ง และสมาคมไหหลำด่านเกเต้ มีศพถูกฝังอยู่บริเวณนี้มากกว่าหมื่นศพ ทั้งศพที่ฝังในลักษณะของฮวงซุ้ย ศพที่บรรจุเฉพาะอัฐิ รวมไปถึงศพที่ไม่มีญาติบรรจุรวมกันไว้

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ผู้คนวิ่งออกกำลังกายข้างหลุมศพ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> แต่ส่วนที่ว่าเฮี้ยนนักเฮี้ยนหนาก็คือในส่วนของมูลนิธิปอเต็กตึ้งที่ มีพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ นั้น ถูกเช่าเป็นที่ฝังศพไม่มีญาติ ศพที่ตายเพราะอุบัติเหตุ หรือโรคร้ายแรงต่างๆ สรุปก็คือศพเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นการตายที่ไม่ปกติ ความเฮี้ยนที่ร่ำลือกันจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก

    พื้นที่อันกว้างใหญ่ของป่าช้าวัดดอนนั้น แต่ก่อนนี้มีรั้วรอบขอบชิดไม่เปิดให้ใครได้เข้าไป แต่จะเข้าได้ก็เฉพาะช่วงเทศกาลเชงเม้ง หรือวันที่ชาวจีนจะไปไหว้บรรพบุรุษกัน ทำให้ในช่วงเวลาอื่นๆนั้นป่าช้าวัดดอนจะเงียบสงบ มีบรรยากาศวังเวงสมเป็นป่าช้าโดยแท้

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">รูปปั้นเทพของชาวจีนในสุสานแต้จิ๋ว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> แต่มาปัจจุบันนี้เรื่องราวความเฮี้ยนเริ่มลดน้อยลงไป อย่างหนึ่งเพราะมีการล้างป่าช้าทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณเหล่านั้น ไปหลายครั้ง และอีกอย่างหนึ่งคือการขยายของเมืองเริ่มมากขึ้น บริเวณใกล้เคียงกับป่าช้ามีทางด่วนตัดผ่านและเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนเชื่อมต่อ กับถนนสาทร ถนนจันทน์ จึงต้องมีการปรับปรุงสภาพป่าช้าบริเวณโดยรอบ จนเป็นที่มาของโครงการ "สวนสวยในป่าช้า" หรือ "สวนสวยสมาคมแต้จิ๋ว" โดยได้มีการปรับปรุงป่าช้าวัดดอนบางส่วนเพื่อใช้เป็นสวนสาธารณะให้คนได้เข้า ไปออกกำลังกาย ผนวกกับปัจจุบันนี้ไม่มีการนำศพเข้ามาฝังในป่าช้าวัดดอนอีกแล้ว ทำให้บรรยากาศความเงียบสงัดที่ชวนให้ขนหัวลุกก็ลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน

    แม้ป่าช้าวัดดอนบางส่วนจะกลายเป็นสวนสาธารณะไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ทิ้งบรรยากาศของป่าช้าเดิม ซึ่งก็ทำให้ที่นี่ถือเป็นสวนสาธารณะที่แปลกไม่ซ้ำใคร เพราะขณะที่คนมาวิ่งหรือเดินออกกำลัง ก็จะได้ชมทิวทัศน์ข้างทางเป็นฮวงซุ้ยที่ตั้งอยู่เรียงราย ออกกำลังไปก็จะได้ปลงเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตายไปพร้อมกันได้เลย

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภายในสุสานโปรเตสแตนท์</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นอกจากนั้นแล้วที่นี่ก็ยังมีลานกีฬา มีมุมให้อ่านหนังสือ มีพื้นที่สงบให้คนมานั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ และส่วนของสนามเด็กเล่น ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ อีกทั้งยังมีศาลเจ้าเก่า และด้านหน้าศาลเจ้าเก่าก็มีรูปปั้นเทพของชาวจีนสีทองขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน อยู่กลางบ่อน้ำอย่างสวยงาม ลบภาพความน่าสะพรึงกลัวของป่าช้าไปเกือบหมดสิ้น

    ไม่ไกลจากป่าช้าวัดดอนเท่าไรนัก บริเวณนี้ก็ยังมีสุสานอีกแห่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย เพราะไม่ได้เปิดให้คนเข้าออกเป็นพื้นที่สาธารณะ แต่ที่นี่เป็นสุสานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก นั่นก็คือ "สุสานโปรเตสแตนท์" ที่ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับวัดราชสิงขรนั่นเอง

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หลุมศพหลากหลายสไตล์ในสุสานโปรเตสแตนท์</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในช่วงเวลานั้นได้มีชาวต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจากยุโรปและอเมริกา ซึ่งบางคนได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยจนถึงบั้นปลายของชีวิต จึงจำเป็นต้องมีสุสานสำหรับฝังศพตามขนบธรรมเนียมประเพณี แต่ในขณะนั้นยังไม่มีสถานที่ที่จะใช้เป็นสุสาน ฝรั่งชาวโปรเตสแตนท์จึงต้องมีความยุ่งยากไม่น้อย โดยในหนังสือพิมพ์เก่าชื่อ "วชิรญาณวิเศษ" ได้กล่าวถึงประวัติของสุสานแห่งนี้ไว้ว่า

    "เดิมเมื่อฝรั่งนิกายโปรเตสแตนท์ถึงแก่กรรมลงต้องได้รับความลำบากมาก ด้วยไม่มีที่ฝังศพเช่นฝ่ายโรมันคาทอลิก เมื่อจะฝังต้องไปอาศัยฝังที่บ้านจีนที่เป็นคนชอบกันบ้าง ดูน่าสังเวชนัก ภายหลังท่านบัตเตอเวิด ผู้สำเร็จราชการเมืองสิงคโปร์ ปีนัง ซึ่งคุ้นเคยกับรัชกาลที่ 4 มาแต่ก่อน จึงมีหนังสือขอพระราชทานที่มา และที่สุดก็ทรงยินดีอุดหนุนกิจ ได้ทรงซื้อที่พระราชทานให้ตามขอ เป็นจำนวนถึง 10 ชั่ง ทำให้ชาวโปรเตสแตนท์รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นยิ่งนัก"

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หินเหนือหลุมศพในสุสานโปรเตสแตนท์เป็นรูปเทวดาน้อยๆ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ภายในสุสานนี้ได้เป็นสถานที่ฝังร่างไร้ชีวิตของฝรั่งหลายเชื้อชาติ ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ ซึ่งก็เป็นทั้งพ่อค้า มิชชันนารี และผู้ที่เข้ามารับราชการในประเทศไทย ซึ่งหลายท่านเป็นผู้ที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหมอบรัดเลย์ ชาวอเมริกันผู้บุกเบิกการแพทย์สมัยใหม่และการพิมพ์ ผู้ออกหนังสือพิมพ์ฉบับแรกของเมืองไทย คือบางกอกรีคอร์ดเดอร์ เมื่อ พ.ศ.2387

    และยังเป็นสถานที่ฝังนายเฮนรี่ อลาบาสเตอร์ ชาวอังกฤษ ต้นสกุลเศวตศิลา ผู้เป็นที่ปรึกษาของรัชกาลที่ 5 เป็นผู้วางแนวถนนเจริญกรุง ผู้ตกแต่งจัดสวนสราญรมย์ ผู้ริเริ่มงานไปรษณีย์ไทย เป็นผู้สอนวิชาแผนที่ และเป็นผู้จัดการพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของไทยที่หอคองคอเดียอีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังเป็นที่ฝังกัปตันจอห์น บุช กัปตันเรือชาวอังกฤษผู้วางรากฐานงานเจ้าท่าในสมัยรัชกาลที่ 5 ให้มีมาตรฐานสากล จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิสูตรสาครดิษฐ์ มีสุสานของตระกูลแมคฟาร์แลนด์ ผู้ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีดไทย และเป็นอาจารย์แพทย์รุ่นแรกๆ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หินเหนือหลุมศพแกะเป็นรูปนางฟ้า</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> มีสุสานของจอห์น เทเลอร์ โจนส์ ชาวอเมริกันผู้ทำพจนานุกรมแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษรุ่นแรกๆ ใน พ.ศ.2389 ต้นฉบับยังอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติ แต่ยังไม่เคยตีพิมพ์ และเป็นสถานที่ฝังร่างของนายแฮมิลตัน คิง อัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 5-6 ผู้เก็บหนังสือพิมพ์บางกอกรีคอร์ดเดอร์ฉบับแรกของไทยที่ออกเมื่อปี พ.ศ.2387-2388 ของหมอบรัดเลย์ไว้ และทายาทของท่านได้นำมามอบไว้ที่สำนักข่าวสารอเมริกัน กรุงเทพฯ

    ปัจจุบันสุสานโปรเตสแตนท์นี้อยู่ในความดูแลของสถานทูตอังกฤษ บรรยากาศของสุสานฝรั่งนี้ดูน่าสนใจไม่น้อย เพราะหินเหนือหลุมฝังศพในสุสานบางชิ้นเป็นศิลปกรรมตะวันตกแบบบาร็อก ส่วนมากแล้วจะทำเป็นหินรูปไม้กางเขนแบบเรียบๆ แต่บางหลุมศพทำเป็นรูปแกะสลักสวยงาม เป็นรูปนางฟ้าบ้าง หรือเทวดาตัวน้อยๆ ดูหน้าตาเศร้าสร้อย บ้างก็ทำสุสานสวยงามคล้ายปราสาทหลังย่อมๆ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หลุมศพของหมอบรัดเลย์</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> และนี่ก็เป็นสองสุสานในกรุงเทพฯที่มีความน่าสนใจ ส่วนเรื่องจะเฮี้ยนหรือไม่นั้นฉันไม่ขอพิสูจน์ดีกว่า</td></tr></tbody></table>
    Travel - Manager Online -
     

แชร์หน้านี้

Loading...