เมื่อภรรยาตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นเปรต มาขอส่วนบุญ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย phrapuwadon, 27 มีนาคม 2022.

  1. phrapuwadon

    phrapuwadon "จงเป็นผู้ให้ที่ดี...เมื่อมีโอกาส"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    496
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,184
    images (5).jpeg

    #ภรรยาตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นเปรต
    มาขอส่วนบุญขณะสามีเจริญพระกรรมฐาน...

    "..เวลาทำบุญให้คนตาย เคยพบเห็นบ่อยเวลาพระจะสวดมนต์ ลูกหลานหรือเจ้าภาพก็จะไปเคาะโลงบอก
    "ฟังสวดมนต์นะ"
    เวลาพระจะให้ศีลก็ไปเคาะโลงบอก
    "รับศีลนะ"
    พอเอาอาหารไปวางก็เคาะโลงบอก
    "กินข้าวนะ"

    ความจริงคนตายแล้วไม่มีสิทธิ์ที่จะกินของที่เอาไปวางให้กิน ผีมีสิทธิ์โมทนาในผลบุญที่มีผู้ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลไปให้เท่านั้น เราจะทำอย่างไรผู้ตายจึงได้รับ ในชาดกมีเรื่องหนึ่งเป็นตัวอย่างคือ
    มีอุบาสกคนหนึ่งนั่งเจริญพระกรรมฐานในที่สงัด ปรากฎว่าภรรยาที่ตายไปแล้วมาแสดงตัว มีแต่ซี่โครงขึ้นเป็นแถวผ้าผ่อนท่อนสไบไม่มีนุ่ง

    ท่านผู้นี้จึงถามว่า
    "เธอเป็นใคร"
    ตอบว่า
    "ฉันเป็นภรรยาของท่านเมื่อตายไปแล้ว อาศัยที่จิตเป็นอกุศล ขณะมีชีวิตอยู่เป็นคนไม่ทำบุญทำทานและก็เป็นคนใจร้าย จึงเป็นเหตุให้ไปเกิดเป็นเปรต เวลานี้มีความหิวโหยมาก หนาวก็หนาว ร้อนก็ร้อน มีทั้งหนาวและร้อนเพราะไม่มีผ้าปิดกาย และหิวอาหารมาก เพราะไม่มีอะไรจะกิน"

    ท่านสามีก็บอกว่า
    "ไปบ้านสิมีของกินมากมาย เลือกกินเอาตามชอบใจเหมือนกับสมัยที่เธอยังมีชีวิตอยู่"
    ผีเปรตจึงบอกว่า
    "สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าท่านจะเอามาวางไว้ในมือของเรา มันก็ไม่เกิดประโยชน์เพราะว่าเราไม่มีสิทธิ์ที่จะกินที่จะใช้ในวัตถุ"

    ท่านสามีจึงถามว่า
    "ถ้าฉันต้องการจะสงเคราะห์เธอ ทำอย่างไรเธอจึงจะได้ล่ะ"
    เธอก็บอกว่า
    "ขอให้ท่านนำเอาของไปถวายแก่สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านใดท่านหนึ่ง คือต้องการให้มีผ้าก็ขอให้นำผ้าไปถวาย ต้องการให้มีร่างกายสมบูรณ์ ร่างกายเป็นทิพย์ก็นำอาหารไปถวาย และก็อุทิศส่วนกุศลไปให้ฉัน ฉันจึงจะได้"
    ท่านสามีจึงนำของไปถวายแด่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา และก็อุทิศส่วนกุศลไปให้เธอ

    พอรุ่งขึ้นอีกคืนหนึ่งเธอก็มาแสดงตนใหม่ตอนที่ท่านสามีนั่งเจริญพระกรรมฐาน มาคราวนี้เป็นนางฟ้าสวยแจ๋ว ใสสว่าง มีวิมานทองคำมาปรากฎชัด
    ท่านสามีจำไม่ได้จึงถามว่า
    "เธอเป็นนางฟ้าเพราะบำเพ็ญบารมีอะไร ร่างกายจึงประดับประดาไปด้วยเครื่องอาภรณ์อันเป็นทิพย์ สวยสดงดงามมีแสงสว่างไปทั่วทิศ และก็มีวิมานทองคำ"
    นางฟ้าองค์นั้นก็ตอบว่า
    "ท่านจำไม่ได้หรือ เมื่อคืนที่แล้วที่ผ่านมาน่ะ"
    ก็เป็นอันว่าผลที่ผู้ตายจะพึงได้รับ ต้องได้รับจากการโมทนาในบุญกุศลที่อุทิศไปให้ ไม่ใช่ได้รับจากการไปเคาะโลงหรือได้จากการเอาของไปให้เฉยๆ.."

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    _______
    จากหนังสือ "ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน" หน้า ๓๒๖ - ๓๒๗
     

แชร์หน้านี้

Loading...