41.เมื่อสาว สาว พลังจิต ไปเที่ยวอยุธยา ภาค ๒

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 6 พฤษภาคม 2011.

  1. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    พี่ขอไปเที่ยววัดนะคะ ถ่ายรูปไม่เก่งแค่เอาตัวรอดว่ามาถึงแล้ว อิ อิ
     
  2. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    ได้ใจอ่ะน้องสร้อยงามจริงๆดูแล้วชื่นใจจัง (kiss)(kiss)
    โมทนาทั้งหมดทั้งมวลด้วยจ๊ะ สาธุ สาธุ...
     
  3. gaiou419

    gaiou419 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +716
    สถานที่น่าไปกราบสักการะมากเลยค่ะ ทางเวปพลังจิตน่าจะมีจัดทริปเที่ยว
    ไปไหว้พระที่สำคัญบ้างนะคะ แบบเป็นทริปเที่ยวไปกินไป อิ่มท้องอิ่มบุญ
    ไปสักวันสองวัน แล้วก็เก็บค่าใช้จ่ายบวกกำไร เหลือเท่าไหร่ก็นำไปทำบุญ
    สมาชิกจะได้รู้จักตัวจริงเสียงจริงกันเสียทีว่า คนนี้ที่เราชอบเข้าไปอ่านโพสดีๆ
    เขาเป็นใครกันบ้าง
    แต่ถ้ามีทริปเที่ยวแบบนี้ ได้กัลยาณมิตรทางธรรมเพิ่มขึ้น ได้กราบไหว้พระ
    สำคัญของบ้านเมืองเป็นมงคล ได้ทำบุญ ได้เที่ยว ได้ทานอาหารอร่อยๆ
    มีแต่ได้กับได้นะคะเนี่ย อิอิ
     
  4. gaiou419

    gaiou419 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +716
    สถานที่น่าไปกราบสักการะมากเลยค่ะ ทางเวปพลังจิตน่าจะมีจัดทริปเที่ยว
    ไปไหว้พระที่สำคัญบ้างนะคะ แบบเป็นทริปเที่ยวไปกินไป อิ่มท้องอิ่มบุญ
    ไปสักวันสองวัน แล้วก็เก็บค่าใช้จ่ายบวกกำไร เหลือเท่าไหร่ก็นำไปทำบุญ
    สมาชิกจะได้รู้จักตัวจริงเสียงจริงกันเสียทีว่า คนนี้ที่เราชอบเข้าไปอ่านโพสดีๆ
    เขาเป็นใครกันบ้าง
    แต่ถ้ามีทริปเที่ยวแบบนี้ ได้กัลยาณมิตรทางธรรมเพิ่มขึ้น ได้กราบไหว้พระ
    สำคัญของบ้านเมืองเป็นมงคล ได้ทำบุญ ได้เที่ยว ได้ทานอาหารอร่อยๆ
    มีแต่ได้กับได้นะคะเนี่ย อิอิ
     
  5. P.S._FabriNET

    P.S._FabriNET เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2010
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +803
  6. Phusaard

    Phusaard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    437
    ค่าพลัง:
    +349
    สวยงามมากเลยครับต้องหาโอกาสไปบ้างแล้ว:cool:
     
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ก็พี่แอ๊ด ไม่มีเวลาให้เค้าสักกะทีอ่ะ... คอยมานานแล้วววว....:'(
     
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ขอบคุณจ้า.... ขอบคุณสำหรับคำชม... ^^
     
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ขอบคุณจ้า พี่ภพ เค้ากำลังมีโปรแกรมเด็ดๆ อีก คอยติดตามนะจ๊ะ.....
     
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536

    ขอบคุณสำหรับคุณแนะนำจ่ะ คุณ gaiou419 ... ^^

    ลองดูคณะบึงลับแล สิ มีสมาชิกในเว็ปที่ไปร่วมทำบุญในทริปต่างๆ เยอะแยะเลย....
     
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ขอบคุณสำหรับคำชมจ่ะ ....^^
    มีกำลังใจขึ้นแระ... อิ อิ
     
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536

    ขอบคุณจ้า.....

    ยังมีอีกหลายมุมที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากนะ เพราะต้องรีบทำเวลา โอกาสหน้าถ้ามีเวลาเยอะกว่านี้จะ เก็บรูปมาอวดอีก ^^
     
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ตอนนี้ฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล ฟ้าร้องเสียงดัง ลมพัดแรง เอาหล่ะสิพวกเราจะไปต่อได้ไหมนี่ ก็เลยบกกับฟ้ากับฝนว่า ไปตกที่อื่นก่อนนะจ๊ะฝนจ๋า ตอนนี้ยังไหว้พระไม่เสร็จ อืมมม... เหมือนพูดกับรู้เรื่องแฮะ ก็ตกลงมาปรอยๆ แล้วก็หยุดไปเลย ขอบคุณจ่ะ คุณฝน คริ คริ เมื่อมาอยุธยาแล้วก็ต้องเข้าสู่จุดศูนย์กลางของอยุธยาก็คือ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งอยู่ภายในเขตพระราชวังหลวง

    วัดพระศรีสรรเพชญ์
    อยู่ในพระราชวังหลวงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานครหรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับที่บริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดินเดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา


    [​IMG]

    ต่อมาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์ใหญ่สององค์เมื่อ พ.ศ.๒๐๓๕

    เจดีย์องค์ที่ ๑ อยู่ทางทิศตะวันออกเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถพระราชบิดา
    เจดีย์องค์ที่ ๒ คือองค์กลางเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ พระบรมเชษฐา ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๐๔๒ ทรงสร้างพระวิหารขนาดใหญ่และในปี พ.ศ.๒๐๔๓ ทรงหล่อพระพุทธรูปยืนสูง ๘ วา (๑๖ เมตร) หุ้มด้วยทองคำหนัก ๒๘๖ ชั่ง (ประมาณ ๑๗๑ กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหาร พระนามว่าพระศรีสรรเพชญดาญาณ ซึ่งภายหลังเมื่อเสียกรุง พ.ศ. ๒๓๑๐ พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด และองค์พระพังยับเยิน รัชกาลที่ ๑ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายมาประดิษฐานวัดพระเชตุพน และ บรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นแล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า เจดีย์สรรเพชญดาญาณ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วิหารทิศ
    เจดีย์องค์ที่ ๓ ถัดมาจากด้านทิศตะวันตกเป็น เจดีย์บรรจุพระอัฐิ ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๔ (พระหน่อพุทธางกูร) พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น เจดีย์ทั้งสามองค์นี้เป็นเจดีย์แบบลังกา


    [​IMG]

    ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมพระองค์โปรดเกล้าฯให้สร้าง พระที่นั่งจอมทอง ตั้งอยู่ใกล้ๆ กำแพงทางด้านติดกับวิหารพระมงคลบพิตรเพื่อให้เป็นสถานที่ให้พระสงฆ์บอกเล่าหนังสือพระสงฆ์

    ราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดหลวงแห่งนี้เป็นครั้งแรก

    ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่าได้ดำเนิน การขุดสมบัติจากกรุภายในเจดีย์ พบพระพุทธรูป เครื่องทองคำมากมาย และในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้มีการบูรณะวัดนี้จนมีสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

    [​IMG]


    เดินอยู่ในวัดพระศรีสรรเพชญ์ ก็จินตนาการไปว่าตรงโน้นเป็นอย่างโน้น ตรงนั้นเคยมีอย่างนี้ เสียดาย....


    .......................................
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1488609/[/MUSIC]


    ......................................​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2013
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    มาว่ากันต่อเลยดีกว่าวัดต่อไปคือ วัดพุทไธศวรรย์ ในที่สุดก็ได้มาอีกครั้งจนได้เพิ่งลงกระทู้ วัดพุทไธศวรรย์ วันวารจากแรกตั้งกรุงศรีอยุธยา ไปหมาดๆ เลย แต่ก็ต้องรีบไหว้ รีบเดินเพราะเย็นแล้วเวลานี่เดินเร็วจัง ว่าจะไม่ขับรถเร็วก็ทำไม่ได้เพราะไม่ทันเวลา


    a.jpg

    วัดพุทไธศวรรย์
    วัดพุทไธศวรรย์ มีฐานะเป็นพระอารามหลวง ผู้สร้างคือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ หรือ พระเจ้าอู่ทอง มีเรื่องราวการสร้างวัดปรากฎอยู่ในพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ซึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์การสร้างวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ว่า ศักราช ๗๑๕ ปีมะเส็ง เบญจศก วันพฤหัสบดี เดือน ๔ ขึ้น ๑ ค่ำเพลา ๒ นาฬิกา ๕ บาท ทรงพระกรุณาตรัสว่า ที่พระตำหนักเวียงเหล็กนี้ให้สถาปนาพระวิหารและพระมหาธาตุ เป็นพระอารามแล้วให้นามชื่อ “วัดพุทไธศวรรย์” พระตำหนักเวียงที่กล่าวไว้ในพงศาวดารนี้คือ บริเวณที่ประทับของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระเจ้าอู่ทอง ก่อนที่จะยกไพร่พลข้ามแม่น้ำไปสร้างพระราชวังที่บึงพระรามวัดพุทไธศวรรย์ เป็นวัดซึ่งตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองกรุงศรีอยุธยา ในคราวที่พม่านำกำลังมาล้อมกรุงไว้นั้นวัดนี้จึงกลายเป็นที่ตั้งทัพของพม่าอยู่คราวหนึ่งคือ เมื่อพระเจ้าบุเรงนองแห่งกรุงหงสาวดีทรงส่งพระราชสาสน์ขอม้าขอช้างเผือกจากสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แต่ถูกปฏิเสธพระเจ้าบุเรงนองจึงยกทัพเข้ามาและกวาดต้อนเอากำลังทางหัวเมืองเหนือของไทยมาสมทบด้วย เมื่อยกทัพมาถึงกรุงศรีอยุธยา จึงโปรดให้พระมหาอุปราชาเป็นกองหน้าตั้งค่าย ณ ตำบลเพนียด ทัพพระเจ้าแปรเป็นปีกซ้าย ตั้งค่าย ณ ตำบลทุ่งวัดโพธาราม ทัพพระเจ้าอังวะเป็นปีกขวา ตั้งค่าย ณ ตำบลวัดพุทไธศวรรย์ ทัพพระยาตองอูทับพระยาจิตตอง ทัพพระยาละเคิ่งเกียกกาย ตั้งค่ายวัดท่าการ้องลงไปถึงวัดไชยวัฒนาราม วัดพุทไธศวรรย์จึงเป็นอีกวัดหนึ่งที่ไม่ถูกพม่าทำลาย


    ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าเสือ ราว พ.ศ.๒๒๔๓ กรมหลวงโยธาทิพย์ กรมหลวงโยธเทพ สมเด็จพระอัครมเหสีฝ่ายซ้าย และฝ่ายขวาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โปรดฯให้ตั้งพระตำหนักใกล้วัดพุทไธศวรรย์ และได้ผนวช “เจ้าตรัสน้อย” พระราชโอรสที่วัดพุทไธศวรรย์นี้ด้วยครั้นต่อมาในปี พ.ศ.๒๒๕๘กรมหลวงโยธาทิพย์เสด็จทิวงคต ณ พระตำหนักริมวัดพุทไธศวรรย์ พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระจึงได้จัดงานพระศพตามพระราชประเพณีในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพุทไธศวรรย์ เมื่อวันขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีเถาะ แต่เดิมนั้นวัดพุทไธศวรรย์ถือเป็นพระอารามหลวง เนื่องจากกษัตริย์เป็นผู้สร้างต่อมาได้กลายเป็นวัดราษฎร์แต่เมื่อใดไม่มีหลักฐานปรากฎ สันนิษฐานกันว่าคงเป็นในช่วงปลายรัชกาลที่ ๔ นี่เองวัดพุทไธศวรรย์ทางกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดยได้รับประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๘

    a.jpg


    พระปรางค์ประธาน
    ตั้งอยู่กึ่งกลางของเขตพุทธาวาส ล้อมรอบด้วยระเบียงคดและกำแพงแก้ว มีพระทุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน องค์พระปรางค์ตั้งอยู่บนฐานไพทีย่อมุมงดงาม มีบันไดขึ้นทางทิศตะวันตกและตะวันออก มีมณฑปตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ๒หลัง ทางด้านเหนือและใต้ ภายในมณฑปมีพระประธาน ด้านตะวันออกของฐานไพทีเป็นมุขเด็จ เดิมมีพระรูป(เทวรูป) พระเจ้าอู่ทองประดิษฐาน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระรูปนี้ไปไว้ที่กรุงเทพมหานครและโปรดเกล้าฯ ให้หล่อองค์ใหม่ไปประดิษฐานไว้แทน ส่วนองค์จริงที่อัญเชิญมาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดรทรงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อขึ้นใหม่ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหุ้มเงินทั้งองค์ มีวิหารคตหรือระเบียงคต
    อยู่รอบองค์พระปรางค์ประธาน


    a.jpg

    วิหารพระพุทธไสยาสน์
    อยู่ทางทิศใต้ ภายในบริเวณมีวิหารพระพุทธไสยาสน์ซึ่งปัจจุบันเหลือแต่เพียงผนังและกรอบหน้าต่างบางส่วนและองค์พระพุทธไสยาสน์ก่อด้วยอิฐถือปูน ซึ่งมีพุทธลักษณะพิเศษ คือเป็นหนึ่งในพระพุทธไสยาสน์ของอยุธยาเพียงไม่กี่องค์ที่แสดงลักษณะการวางพระบาทเหลื่อมอันเป็นลักษณะเบื้องต้นของการคลี่คลายพุทธลักษณะให้คล้ายคนธรรมดานอกจากนั้นพระพาหา และพระกรที่พับวางราบด้านหน้าในลักษณะหงายพระหัตถ์เพื่อรองรับพระเศียรนั้นเป็นรูปแบบที่นิยมมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ลพบุรี อู่ทองแตกต่างจากพระนอนในอิทธิพลศิลปะสุโขทัยที่พบในเขตเกาะเมืองอยุธยาซึ่งมักจะตั้งพระกรขึ้นและหงายพระหัตถ์รองรับพระเศียรอยู่บนพระเขนยจึงนับเป็นตัวอย่างในการศึกษาพุทธศิลป์ในสมัยอยุธยาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง


    ส่วนรายละเอียดแบบเต็มๆ สามารถติดตามอ่านได้ที่กระทู้ วัดพุทไธศวรรย์ วันวารจากแรกตั้งกรุงศรีอยุธยา นี้นะจ๊ะ....


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2023
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    หลังจากนั้นพวกเราก็ต้องเดินทางย้อนกลับไปที่วัดวรเชษฐ์อีกครั้ง เพื่อทำภารกิจที่ค้างคามานาน แต่จะเป็นเรื่องอะไร ขออนุญาตละไว้ไม่อาจบอกได้ พอมาถึงวัดวรเชษฐ์ ก็เป็นเวลาที่พระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ สวดมนต์พอดีก็เลยได้นั่งฟังหลวงพ่อสวดมนต์ และได้ไปกราบท่านด้วย..

    มาชมภาพวัดวรเชษฐ์กัน ส่วนรายละเอียดของวัดวรเชษฐ์ขอไม่ลงนะ หาอ่านได้จากกระทู้ เมื่อสาว สาวพลังจิต ไปเที่ยวอยุธยา ภาคแรกได้นะจ๊ะ....

    a.jpg


    a.jpg


    a.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2023
  16. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    คุณสร้อยมีภาพสวย ข้อมูลชัดเจนถูกต้องเหมือนได้มาเที่ยวด้วย
    แหะๆ สงสัยจะได้ไปด้วยไหมนี่?
     
  17. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +3,592
    โดยส่วนตัวชอบวัดวรเชษฐ์มาก
    แต่เห็นวัดนครหลวงแล้วรู้สึกว่า ตัวเองพลาดสถานที่นี้ไปได้ยังงัยไว้มีโอกาสพาไปมั้งนะครับ ขอบคุณสัหรับทริปนี้ครับคุณส้มแป้น
     
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536

    เห็นไหม วัดรอบนอกๆ มีอะไรดีๆ เยอะ ที่เรายังไม่เคยเห็นกัน.....
     
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ออกจากวัดวรเชษฐ์ได้ก็เป็นเวลาเลยหกโมงครึ่งไปแล้ว ท้องฟ้าสลัวๆ และเริ่มหิวอีกครั้ง ก็เลยพากันย้อนเข้าไปที่เกาะเมืองอีกแล้วก็วิ่งออกจากตัวเมืองสู่ตลาดน้ำอโยธยา หาอะไรกิดีกว่า.....


    [​IMG]


    ไปถึงร้านค้าก็เริ่มทะยอยปิดกันแล้ว มาเดินตลาดน้ำตอนกลางคืนก็ได้บรรยากาศอีกแบบ ตอนนี้สร้อยฟ้าฯ เริ่มหมดสภาพตะลอนมาทั้งวัน ไม่รู้ว่าสมาชิกคนอื่นจะหมดสภาพด้วยหรือเปล่าแต่เห็นว่าแรงยังดีกันอยู่...
    ทานอาหารเสร็จ ก็ไม่ได้เดินดูข้าวของอะไร เพราะร้านปิดเกือบหมดแล้ว


    [​IMG]

    [​IMG]


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2013
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    แต่วันนี้การเที่ยวของพวกเรายังไม่จบ เพราะว่ามีสมาชิกหลายๆ คน อยากไปวัดกู้ ที่ปากเกร็ด ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทาง และสร้อยฟ้าฯ ก็ไม่ทราบมาก่อนว่าประสงค์จะไปกัน มารู้ก็เมื่อขับรถกำลังจะเข้าสู่จังหวัดปทุมธานีแล้ว แต่เนื่องจากขับรถค่อนข้างเร็ว พี่สมาชิกที่ไปด้วยบอกว่า ระยะทางจะไปวัดกู้ขับช้าๆ หน่อยก็ได้ ก็เลยขับช้าลงเหลือแค่ ๙๐ – ๑๐๐ สุดท้ายก็จบเหมือนกับกระทู้ภาคที่ ๑ คือ ไม่ได้ถ่ายรูปวัดกู้มาให้ดู เพราะมืดแล้ว

    วัดกู้ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี (ขอใช้ภาพเดิมนะ โอกาสหน้าไปวัดกู้อีกครั้งเมื่อไหร่จะถ่ายรูปมาฝากใหม่ เป็นการแก้ตัว)
    เมื่อตอนต้นปีได้ทราบว่าที่วัดกู้มีการยกตัวพระอุโบสถขึ้นเพื่อที่จะให้น้ำท่วมไม่ถึง แต่ผนังพระอุโบสถด้านหนึ่งพังลงมาในข่าวบอกว่าจะซ่อมแซม พอมาดูวันนี้เห็นว่าพระอุโบสถถูกทุบไปหมดแล้วเหลือแต่พระประธาน



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    จากนั้นก็ขับรถเลยไปถึงท่าน้ำหลังวัดเพื่อจะไปยังศาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทกุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี มองผ่านความมืดลงไปยังสะพานที่ทอดสู่ศาลา ไม่เห็นศาลาหลังนั้นแล้ว เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ดังอยู่ในหัว ศาลาเดิมที่คุ้นเคยหายไปไหน ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ก็เลยต้องพากันเดินกลับไปยังศาลหลังใหม่ที่กลางวัด แต่ก่อนจะถึงศาลหลังใหม่ มีการสร้างศาลหลังใหญ่อีกหลังถัดจากศาลหลังใหม่แต่ด้วยความมืดสร้อยฟ้าฯ ไม่ทราบว่าเป็นศาลอะไรเพราะยังสร้างไม่เสร็จ ก็ได้เดินไปดูใกล้ๆ ก็ดูไม่ออก แต่ในความคิด สร้างยังไงเหมือนเมรุมาศเลย รูปแบบแปล่งๆ พิกล ถ้าเป็นการสร้างเพื่อทดแทนศาลริมน้ำ ก็รู้สึกเสียดายศาลริมน้ำยิ่งนัก ทุกอย่างกาลเวลาเดินไป อะไรก็เปลี่ยนไป แต่ความจริงไม่เคยเปลี่ยนไป พวกเราก็ได้มาหยุดไหว้อยู่ตรงหน้าศาลของพระองค์ เสียดายที่ศาลปิดเสียแล้ว ได้แต่มองลอดบานหน้าต่างบานประตูที่เป็นกระจกใส แค่กระจกกั้นแค่นั้น แค่นั้น...

    ตอนนี้ก็ได้เวลากลับแล้ว ออกจากวัดมา บรรยากาศหมองหม่น ฟ้าร้องไห้ฝนตกลงมา ตอนนี้ขับรถไม่ได้ใช้ความเร็วมากขับไปเรื่อยๆ เข้าสู่กรุงเทพมหานคร ก็ถึงเวลาต้องอำลาเพื่อนสมาชิกที่ไปด้วยกันในครั้งนี้ขับรถไปส่งแต่ละคนตามที่พัก


    กลับมาก็ได้รู้อะไรขึ้นมาอีกหลายอย่าง ซึ่งเป็นการตอกย้ำสิ่งที่เคยรู้ สิ่งที่เคยไม่แน่ใจและสิ่งที่ลืมเลือนไป สุดท้าย สุข ทุกข์ อยู่ที่ใจเรา เรากำหนดเองให้เป็นไป ทั้งนั้น.....


    .............................

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1488609/[/MUSIC]

    .............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...