เมื่อเพื่อนข้าพเจ้าพบสมเด็จองค์ปฐมในพระกรรมฐาน

​

​

วันนี้ผมมีเรื่องของคุณ พิทักษ์ ขันติพลาคม(คุณฮ้ง) เพื่อนของผมที่ได้ทดลองฝึกพระกรรมฐานแล้วเห็นสิ่งอัศจรรย์ในการนั่งสมาธิ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาคือท่านอาจารย์อู๋ท่านได้มาพบปะกับพวกเราเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธรรมกัน ที่มาบุญครองต่อมาเป็นประเพณีคือหลังจากแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธรรมแล้วพวกเราก็จะไปสวดมนต์บำเพ็ญธรรมต่อกันที่บ้านสมาชิกในกลุ่ม

ซึ่งครั้งนี้พี่สุทัศน์ วิมุตติอรัญ ได้เอื้อเฟื้อสถานที่เราก็ตกลงไปสวดกันตอนทุ่มตรง ฮ้งเพื่อนผมเกิดความสนใจว่าสมาธิและการสวดมนต์ภาวนานั้นดีอย่างไรจึงถามท่านอาจารย์อู๋ ท่านอาจารย์บอกว่าอยากรู้ก็ลองนั่งดูสิ คุณฮ้งเองเป็นพวกชอบลองอยู่แล้วเลยตกลงว่าจะไป ผมจึงเอารูปถ่ายสมเด็จองค์ปฐมที่ท่านอาจารย์ลงให้ไปเป้นประธานในพิธีด้วย เมื่อไปถึงท่านอาจารย์ได้กล่าวจุดธูปเทียนอัญเชิญสมเด็จองค์ปฐมลงมาเป็นประธานในพิธี

แล้วอาจารย์ท่านก็นำสวด มนต์ต่างอาทิ พระคาถาเมตตายภิกขเว ชินปัญชร พระปริตรต่างๆและพระคาถาอาการวัตราสูตรแล้วท่านก็สอนให้นั่งสมาธิ คุณฮ้งสนใจมากจึงบอกว่าอยากเห็นสมเด็จองค์ปฐม ท่านอาจารย์บอกว่าให้กำหนดจิตสมาธิให้ดี แล้วจะได้เห็น ต่อมาเมื่ออกจากสมาธิแล้วคุณฮ้งเล่าให้ฟังว่า ตอนนั่งสมาธิอยู่ เห็นเหรียญกลมสีขาวใหญ่ลอยขึ้นมา

และในนั้นมีพระนั่งยิ้มในเหรียญนั้นหูยาวคล้ายพระพุทธรูปนั่งในท่ามารวิชัย คุณฮ็งสงสัยจึงถามท่านอาจารย์ว่าพระองค์นั้นคือใคร ท่านบอกว่าที่เห็นน่ะเป็นสมเด็จองค์ปฐมคุณฮ้งก็บอกอ้าวถ้าองค์ปฐมก็ต้องมาแบบพระพุทธเจ้าสิครับ พี่สุทัศน์เลยเอาพระองค์ที่11ให้ดูคุณฮ้งก็บอกว่าใช่เลยองค์นี้แหล่ะที่แกเห็นผมก็เลยอธิบายจนแกเข้าใจ แกดีใจมากและได้บอกกับพี่สุทัศน์ว่าต่อไปนี้แกจะฝึกทุกวันเลยแกปิติมากที่ท่านได้มาโปรดและแกเลยบอกว่าทำให้แกยิ่งมั่นคงในพระพุทธศาสนามากขึ้นครับ

 

เมื่อคืนนี้ คืนวันที่ 7 กรกฎาคม 2549
ผมก็ได้ เห็นสมเด็จองค์ปฐม ครั้งแรกในชีวิต
เห็นเป็นแก้วใส มีรัศมีสีรุ้ง เดี่ยวมาเล่าต่อ

 

7 กรกฎาคม ต่างหากครับ อิอิ

 

ขอบคุณมากครับ ผมใส่เดือนผิดไปจริงๆ จะไปแก้ไข

 

เมื่อคืนนี้ คืนวันที่ 7 กรกฎาคม 2549
ผมก็ได้ เห็นสมเด็จองค์ปฐม ครั้งแรกในชีวิต
เห็นเป็นแก้วใส มีรัศมีสีรุ้ง เดี่ยวมาเล่าต่อ

***************************
ว่าจะมาเล่าหลายวันแล้วพอดีติดโครงการ ฐานข้อมูลทางพุทธเลยมาเล่าไม่ได้

ขอเล่าเป็นเรื่องราว มีที่มาที่ไป

เย็นวันนั้น ผมปรึกษากับทีมงานพระไตร เรื่องวาดรูปประกอบพระไตรในโครงการที่ทำ
ว่าจะอย่างไรดีและใช้งบประมาณเท่าไหร่ เราคิดกันไว้หลายแบบ มีทั้งวาดแบบธรรมดาหรือทำเป็น 3 D
ก็ได้คำตอบแบบคร่าวๆมา ถ้าไปจ้างมืออาชีพวาดและลงสีแบบ 2D ครบทั้งหมด 1 หมื่นกว่ารูป ก็จะประมาณคร่าวๆ 3 ล้านบาท
(ตรงนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุปของโครงการนะครับ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง คือเรากะอะไรไว้หลายๆอย่าง ยังไม่สรุปว่าจะทำแบบไหนและจะใช้งบเท่าไหร่)
ส่วนถ้าเป็น 3D นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยแพงมากๆ

ตอนแรกรู้สึกว่า ราคาสูง แต่คิดไปคิดมาดว่าไม่แพง เพราะว่างานทำออกมายากและใช้เวลามาก และทำเสร็จก็จะใช้กับพระไตร ได้ทุกภาษา

ตอนนั้นก็คิดว่าจะหาทุนอย่างไรดี
ก็เลยนั้งคิดไปเรื่อยๆ ว่าจะทำอย่างไรดี ก็คุยกับทีมงาน
จะขอรัฐรัฐก็คงยากและกลัวข้อผูกมัดต่างๆ
จะขอทุนเอกชนรึก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ไม่ค่อยมี idea
ก็คงต้องทำแบบเดิมคือเปิดบริจาคแบบนี้ แล้วมีทุนเท่าไหร่ก็วาดเท่านั้น
จะใช้เวลานานเกินก็ไม่ได้ เพราะว่าเดี๋ยวคนได้ไม่ดูผลงาน และก็ไม่ได้สร้างสถิติครั้งแรกของโลก

ตอนนั้นก็เลยนึกถึงพระคำข้าวและคาถาเงินล้าน
เราเองก็มีพระคำข้าวและพระหางหมาก และท่องคาถาเงินในกรรมฐาน
ทำมานานได้พอประมาณ ถ้าเกิดว่าได้ผล นี่จะเผยแผ่แบบจริงจังเลย

คิดต่อไปเรื่อยๆจะหาเงินจากไหนหนอ เดินไปหลังบ้านที่สนามหญ้า

เลยปิ๊งขึ้นมา ไอเดียที่เคยคิดฝันหวานไว้
คือ ผมฝันหวานว่า วันนึงใกล้ๆ จะสร้าง software บางชนิด แล้วขายที่ต่างประเทศ ถ้าขายได้พอประมาณ โครงการขาดเหลืออะไร แล้วจะบริจาคให้ครบ เพื่อให้โครงการสำเร็จรุร่วง

ถ้าขายได้ 2 หมื่น copy นี่ ก็กำไร ร้อยกว่าล้านบาท
(ขอบอกก่อนว่าผมฝันหวานนะครับ คือโอกาสจะเกิดขึ้นจริงได้ยากมากๆ ก็เหมือนคนจนๆเค้าฝันว่า ถ้าฉันถูกหวยรางวัลที่1)

ผมก็ฝันหวานต่อ
-อยากจะเปิดโครงการ สร้างสมเด็จองค์ปฐมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-อยากจะเปิดโครงการ ทอดกฐิน 1-2 แสนกอง ที่เว็ปพลังจิต
คือก็ยังเปิดบริจาค แต่เราออกเยอะหน่อย อย่างไรก็สำเร็จไม่ต้องกังวลอะไรมาก
-ผลักดันความฝันที่ว่าสร้างเว็ปเผยแพร่พุทธทั่วโลกให้สำเร็จ

ถ้าผมมีเงินจากการทำงานดังว่า ก็จะเก็บไว้เอง 20-30 % พอ
ที่เหลือ 70-80 % ทำบุญและสร้างโครงการและทดแทนพระคุณบุคคลคนต่างๆ

(ที่เขียนมาข้างบน คือ ความคิดตอนวันนั้นของผมแบบเชิงฝันหวานนะ แบบจินตนาการ)

แล้วก็ง่วงนอนเข้านอน หลับฝันไป
ฝันไปว่าตัวเองฝึกกสินแสงสว่าง กำลังปล่อยลำแสงออกจากมือ
รู้สึกว่ามือร้อนๆและมีแสงสว่างออกมา เป้นลำเมหือนไฟฉาย
เลยกำหนดสินใหม่ ไปเรื่อยๆ

แล้วก็นั่งลง ทำสมาธิ กำหนดกสินแสงสว่างเล่นๆ ก้มมองต่ำ กำหนดไปสักพัก
สัมผัสได้ว่า มีพระสีใสๆเป็นแก้วลอยไกลๆอยู่สูง เหนือหน้าผากไปไกลๆ เห็นในระยะไกลๆและสูง ท่านมีรัศมีเป็นสีรุ้งรอบๆกาย เห็นสักพัก แล้วจิตตัวเองเข้าใจเองว่า นั่นคือ สมเด็จองค์ปฐม สักพักก็ออกจากสมาธิ ในความฝัน.........

*****************
เป็นนิมิตรครั้งแรก ในฝันที่ได้พบสมเด็จองค์ปฐม
ท่านมาโปรดแล้ว รู้สึกปลื้มและดีใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงความฝันว่าเห็นท่านก็ตาม


******************
ตื่นตอนเช้า ก็ไปเอา passport ที่ สถานทูตไทย.....

พอตื่นมาก็พยายามจำภาพนั้น ถ้านึกได้เมื่อไหร่ก็นึกว่าสมเด็จลอยอยู่ตำแหน่งเดิม เป็นพุทธนุสติกรรมฐาน