เยือนสระบุรีแหล่งพระธาตุและพฤกษา ร่วมเทศกาลตักบาตรดอกไม้เข้าพรรษา

เยือน'สระบุรี'แหล่งพระธาตุและพฤกษา ร่วมเทศกาลตักบาตรดอกไม้เข้าพรรษา

เยือน "สระบุรี" แหล่งพระธาตุและพฤกษา ร่วมเทศกาลตักบาตรดอกไม้เข้าพรรษา

คอลัมน์ พาทัวร์

​

บทสนทนาของเพื่อนสาวสองคนว่าด้วยต้นไม้ที่เพิ่งปลูกประดับบ้านหลังใหม่เมื่อหลายวันก่อน ย้อนกลับมาสู่ความคิดแบบอัตโนมัติเมื่อได้มายืน อยู่ที่ "บ้านชะอม" อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ชาวบ้านกว่า 11 หมู่บ้านรวมตัวกันเป็น "กลุ่มไม้ขุดล้อม" ยึดเป็นอาชีพหลัก

ที่บ้านชะอมแห่งนี้คงเป็นสวรรค์ของเพื่อนทั้งสองคน รวมทั้งคนอื่นๆ ที่ชอบเรียนลัดวิธีรักต้นไม้แบบไม่ต้องรอให้เมื่อย เพราะทั้ง อินทนิล ตะแบก ราชพฤกษ์ ลีลาวดี จันทร์กะพ้อ ฯลฯ ละลานตาเต็มพื้นที่นับหมื่นไร่ ซึ่งชาวบ้านช่วยรับบทเป็นพี่เลี้ยงจนเติบโตได้ที่ ต่างพร้อมให้ลูกค้ามาเลือกซื้อไปลงดินที่บ้านกันตามอัธยาศัย กลุ่มลูกค้าที่สำคัญได้แก่เจ้าของโครงการบ้านจัดสรร และตลาดต่างประเทศอย่าง ไต้หวัน บังกลาเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์

"แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์ เศรษฐกิจดีนักไม้ขุดล้อม นอบน้อมนมัสการ พระธาตุ 500 องค์"

คำขวัญของตำบลชะอมเป็นตัวบ่งบอกได้ดีว่า ไม้ขุดล้อม หรือที่เรียกกันว่า ไม้บอน นั้นเป็นน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตชาวบ้านที่สำคัญอย่างไร แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันเริ่มมีเสียงรำพันคนในพื้นที่ว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายอดขายต้นไม้ซบเซา

คุณลุง สุริยะ อุดมพร ประธานกลุ่มเล่าให้ฟังว่า รถบรรทุกขนาดใหญ่จากกรุงเทพฯที่เคยเข้ามาบรรทุกต้นไม้กลับไปเต็มคันรถ มาวันนี้ เหลือเพียงปิกอัพคันเล็กๆ เพราะอสังหาริม ทรัพย์ซบเซาทำให้เจ้าของโครงการจะสั่งซื้อต้นไม้เฉพาะส่วนที่ขายโครงการได้เพื่อไม่ให้เป็นภาระในการเลี้ยงดู ขณะที่ตลาดส่งออกยิ่งเงียบเหงาเป็นเพราะบรรยากาศทางการเมืองไทยทำให้ลูกค้าต่างชาติหนีหาย

จึงไม่น่าแปลกที่การมาเยือนของกองทัพ ผู้สื่อข่าวในวันนั้น จะทำให้เห็นภาพเด็กตัวน้อยลูกหลานเจ้าของสวนเดินเร่แจกนามบัตรให้กับ ผู้มาเยือน โดยมีความหวังเล็กๆ ว่าสวนของตัวเองจะได้เป็นที่รู้จักและขายต้นไม้เพิ่มได้บ้างไม่มากก็น้อย

ต้นไม้ในบ้านชะอมในวันนี้อาจไร้คนจับจอง แต่สำหรับ "ดอกเข้าพรรษา" ดอกไม้ป่าตระกูลขิง กระเจียวและถั่วแปบช้าง ที่ใกล้จะผลิดอกรับเทศกาลเข้าพรรษานั้น เชื่อว่าคงจะเนื้อหอมถูกเด็ดจนเกลี้ยงป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถึง "ประเพณีตักบาตรดอกไม้" ระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคม เทศกาลใหญ่ประจำปีของชาวอำเภอพระพุทธบาทที่ปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้ เขต 7 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "อลังการแห่งอารยธรรมสระบุรี ประเพณีตักบาตรดอกไม้ เทิดไท้ 80 พรรษามหาราชัน"

ดอกเข้าพรรษา ส่วนใหญ่มีสีเหลืองและขาว แต่ชาวบ้านมีความเชื่อว่าถ้าจะตักบาตรให้ได้อานิสงส์ต้องดอกสีม่วง ซึ่งหาได้ยากกว่า น่ายินดีที่ปีนี้ทางการจังหวัดสระบุรีออกมารับประกันว่าจะออกมาตรการรักษาระดับราคามาตรฐานของดอกเข้าพรรษาให้เท่ากันทุกร้าน ไม่ปล่อยให้ความศรัทธาแปรเปลี่ยนเป็นเครื่องมือขูดรีดชาวพุทธ

และหากมีโอกาสได้มาเยือนในพิธีเปิดงานวันแรก ผู้มาเยือนยังจะได้ชมการแสดง "หุ่นคนเชิดคน" ว่าด้วย "พุทธตำนานอานิสงส์การถวายดอกไม้พระพุทธเจ้า" รวม 5 องก์โดยนักแสดงกว่า 70 ชีวิต เจ้าของงานการันตีว่ายิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคย มีมาในประเทศไทยอีกด้วย

เสร็จจากงานตักบาตร ชาวบ้านสระบุรีแนะนำให้ไปเยี่ยมชม "วัดป่าสว่างบุญ" ซึ่งมีสิ่งเชิดหน้าชูตาแห่งใหม่คือ "เจดีย์ห้าร้อยยอด" บริเวณใกล้เคียงกัน ยังไม่ทันจะลอดเข้าเขตกำแพงวัด เจดีย์สีทองอร่ามที่เป็นองค์ประธานขนาดใหญ่โดยมีบริวารอีก 500 องค์ก็สะท้อนแสงแดดตัดกับสีเขียวของผืนป่าด้านหลังดึงดูดสายตาทุกคู่แม้การก่อสร้างจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี

เด็กน้อยชาวท้องถิ่นแก่งคอยสองคนที่เดินปะปนกับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ สารภาพว่าเพิ่งมีโอกาสเดินมาเที่ยวชมเจดีย์เป็นครั้งแรก แต่เชื่อว่าเมื่อมีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุวันที่ 12 สิงหาคมนี้ เจดีย์ห้าร้อยยอด คงจะกลายเป็นแหล่งสักการะที่พักใจแห่งใหม่ของชาวสระบุรีและพุทธศาสนิกชนจากทุกสารทิศในอีกไม่นาน

ส่วนสถานที่อีกแห่งซึ่งผู้มาเยือนหลายคนไม่ยอมพลาดคือ การไปนมัสการปู่ย้า มโนธรรม ณ "วัดถ้ำเขาแก้ว" นอกจากจะได้กราบขอพรพระพุทธรูปหลวงปู่ทองดำในถ้ำเก่าแก่แล้ว จะได้มีโอกาสบูชาเทพปี่เซียะ สัตว์มงคลแห่งสวรรค์ที่ผ่านพิธีปลุกเสกมาแล้วไปเสริมสิริมงคลสร้างกำลังใจกันตามอัธยาศัย
--------
ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02tou06230750&day=2007/07/23&sectionid=0208