เรารักพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย Amata_club, 18 กันยายน 2014.

  1. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
  2. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
  3. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
  4. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    แจกฟรี ไฟล์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ขนาด 3000 x 4500 13.5 ล้านพิกเซล
    ไฟล์โดยคุณ vorapol napapenwannakul


    คลิ๊กดาวน์โหลด >>>>> https://drive.google.com/file/d/0B1PSabQ0RgzGOWVnUFpDem5wQTg/view <<<<<

    วิธีดาวน์โหลดตามภาพ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    "วันที่ฟ้าเปิดเหล่าทวยเทพชั้นผู้ใหญ่
    พระสยามเทวาธิราช เสด็จมารับด้วยตนเอง
    พร้อมบริวารเทวดานางฟ้า ครุฑ
    ท้าวจตุมหาราชทั้งสี่ทิศ
    มาเป็นล้านๆองค์ นับไม่ได้ มันแน่นไปหมด
    น่าอัศจรรย์ใจ!!!
    ท่านเป็นพระโพธิสัตว์นะ
    จึงมีปรากฎการณ์ที่มองได้ด้วยตาเปล่า
    ไม่ว่าภาพแสงส่องจากฟ้าลงมาที่ศิริราช
    ก็เพราะฉัพพรรณรังสี
    ของสมเด็จพ่ออยู่หัวในพระบรมโกศ
    สว่างไปทั่วหมื่นโลกธาตุ ไม่ใช่เพียงมนุษย์นะโยม
    เทพาอารักษ์ คนธรรพ์ เมืองบาดาล พญานาคราช
    ก็โศกกันหมดT_T

    เพราะท่านเกิดดับมาแล้ว 16 อสงไขย
    กับอีกแสนกำไรกัป
    มีความเกี่ยวเนื่องทุกชั้นของวัฏสงสาร
    เทวดา มารพรหม รับรู้หมด

    ถึงมีปรากฏการณ์น่าอัศจรรย์
    ที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้
    อย่างผี เปรต สัมภเวสีที่อยู่ในอากาศบ้าง
    เมืองลับแลที่รอไปเกิด ที่เป็นภพซ้อนกับเรา
    ก็โศกร่ำไห้ให้พระองค์

    นี่ท่านเป็นโพธิสัตว์โดยแท้
    อาตมากำหนดดู พระอริยเจ้า ครูบาอาจารย์
    ก็ได้ทรงมารับเสด็จ แน่นไปหมด
    องค์ประธานที่มารับท่านในคืนนั้น
    คือ สมเด็จองค์ปฐม(พระพุทธเจ้า)
    นะ อัศจรรย์มากนะ

    อาตมาเป็นเพียงผู้ทรงศีล
    ยังอดปิติสุขในใจอย่างหาที่สุดมิได้
    เพราะบารมีท่านมาก มากไปเป็นหมื่นโลกธาตุ
    นี่ไม่พูดถึงประชาชนในประเทศของพระองค์
    โลกทิพย์นี่หากผู้ใดมีฌาณสมาบัติแก่กล้า
    จะรู้ถึงความโศกเศร้าที่เกิดขึ้น
    ยกตัวอย่างคืนหลังท่านสวรรคต
    เที่ยงคืนวันที่สิบสี่เป็นต้นไป
    สาธุชนในประเทศนอนไม่หลับกันนะ
    เทวดาที่ประจำตัว พ่อเกิดแม่เกิด ก็ต่างโศกเศร้า
    เลยทำให้ชาวเราสยามประเทศ นอนไม่หลับ
    จิตส่งผ่าน คิดถึงท่านทุกขณะจิต
    นี่แหละเพราะพระบารมีท่านแท้ๆ




    ไม่ต้องห่วงท่านหรอกนะ
    พระโพธิสัตว์นั้นท่านไม่เมือนเรานะ
    ที่ต้องมีนายนิรยบาล หรือผู้คุมมารับไปพิจารณาโทษ
    หรือใครมีศีลครบก็ไปจุติ
    อย่างต่ำก็เป็นบริวารของเทวดาชั้นผู้ใหญ่
    มีวิมานเป็นของตนเอง
    เสวยทิพยสมบัติจนกว่าจะหมดวาระ
    อย่างพระโพธิสัตว์ท่านพิเศษนะ
    วันที่พระสยามเทวาธิราชมารับองค์พ่ออยู่หัวบรมโกศ
    บันไดทองอร่ามงดงามลอยลงมาเลยนะ
    ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย เทวดาก็แน่น
    มาต้อนรับกลับที่เดิมของท่านที่บำเพ็ญมา
    คือ สวรรค์ชั้นดุสิต
    ที่ของพระโพธิสัตว์ที่ทรงปรารถนาพุทธภูมิ
    (บำเพ็ญเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าในกาลอนาคต)
    ท่านอยู่กันมาก
    และเมื่อถึงเวลาเหมาะสม
    ท่านก็จะมาจุติในสังสารวัฏอีก
    สมเด็จพ่ออยู่หัวในพระบรมโกศ
    อีกไม่เกิน 5 ชาติ นะโยม ในการบำเพ็ญของท่าน
    คนไทยนี่โชคดีมากที่มีพระมหากษัตริย์
    ที่เพรียบพร้อมทั้งทศพิศราชธรรม
    เกิดในประเทศไทย
    จงภูมิใจและทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดนะ
    ทรัพยากรเราไม่มีวันหมดหรอก
    เพียงยังไม่ถึงเวลา ของเหล่านี้มีเทวดากำกับอยู่
    เมื่อถึงเวลาประเทศเราจะกลายเป็นมหาอำนาจ
    ต่างชาติจะง้อเราเอง ตามรอยฝ่าพระบาท
    ตามคำสอนของพระองค์ไว้
    ยามมีภัยให้นึกถึงท่านนะ บารมีจะเกิดทันที
    ทำความดีเพื่อพ่อต่อไป
    ก็อธิษฐานจิตหากเกิดจุติที่ใดในภพหน้า
    ขอให้เกิดทันยุคท่านอีก
    อุปมาเหมือนผู้อธิษฐานจิต
    ขอเกิดในชาติที่พระศรีอริยเมตไตย
    (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป)
    จะทรงมาโปรดสัตว์ในโลกมนุษย์
    ในอนาคตกาลอย่างไงก็อย่างงั้น
    นี่แล้วแต่จะพิจารณา
    เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้."


    ..(เทศนาธรรม โดย..
    พระวัดป่าธุดงคกรรมฐานรูปหนึ่ง
    ไม่ประสงค์เปิดเผยนาม)


    วาทินทร์ภิกขุ



    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    สำนักพระราชวังจะมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ในพระบรมพระราชวัง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป จากเดิมที่กำหนดให้ขบวนประชาชนทุกหมู่เหล่าซึ่งเดินมาจากมณฑลพิธีสนามหลวงเข้ามาทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี จากนั้นเลี้ยวขวาไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

    โดยจะเปลี่ยนเป็นเส้นทาง ดังนี้ ให้ขบวนประชาชนทุกหมู่เหล่าซึ่งเดินมาจากมณฑลพิธีสนามหลวงเข้าพระบรมมหาราชวังมาทางประตูมณีนพรัตน์ และประตูเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดารามฝั่งทิศเหนือ จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย เดินตามทางพระระเบียงคต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จนถึงประตูศรีรัตนศาสดาราม เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนอมรวิถี หน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน แล้วเลี้ยวขวาตั้งแถวบนถนนอมรวิถี หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เพื่อเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สถานที่ประดิษฐาน พระบรมศพ

    เนื่องจากนับแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป สำนักพระราชวังจะเปิดขายบัตรเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมและสักการะ ระหว่างเวลา 08.00-15.30 น. อีกครั้ง หลังจากหยุดการจำหน่ายบัตรเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา และจะให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูวิเศษไชยศรี
     
  8. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
  9. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.5 KB
      เปิดดู:
      282
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.8 KB
      เปิดดู:
      299
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.4 KB
      เปิดดู:
      287
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.5 KB
      เปิดดู:
      299
    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.2 KB
      เปิดดู:
      280
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.8 KB
      เปิดดู:
      308
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      123 KB
      เปิดดู:
      263
    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.2 KB
      เปิดดู:
      289
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.5 KB
      เปิดดู:
      285
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.5 KB
      เปิดดู:
      278
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.2 KB
      เปิดดู:
      278
  10. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
  11. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1490683.jpg
      1490683.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.1 KB
      เปิดดู:
      287
    • 14962611.jpg
      14962611.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.3 KB
      เปิดดู:
      279
    • 1473228.jpg
      1473228.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.8 KB
      เปิดดู:
      284
    • 1491057.jpg
      1491057.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.4 KB
      เปิดดู:
      273
    • 14938195.jpg
      14938195.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109.6 KB
      เปิดดู:
      284
    • 14955835.jpg
      14955835.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.3 KB
      เปิดดู:
      318
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,614
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    คลิปที่มีพระบรมฉายาลักษณ์มากที่สุดในโลก #ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
    [ame]https://youtu.be/uGJRai6EjqM[/ame]
     
  13. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พ.ย. ที่หน้ากระทรวงกระทรวงกลาโหม กลุ่มควาญช้างจากเพนียดช้างจังหวัด พระนครศรีอยุธยานำช้างพลายจำนวน 11 เชือก เข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าประตูมณีนพรัตน์ โดยช้างทั้งหมดได้ยืนสงบนิ่ง ถวายอาลัย และหมอบกราบ จากนั้นทางคณะควาญช้างบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยมีประชาชนที่ให้ความสนใจร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเปล่งเสียงดังกังวานไปทั่วบริเวณ
     
  14. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 001.jpg
      001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.1 KB
      เปิดดู:
      246
    • 002.jpg
      002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.8 KB
      เปิดดู:
      244
    • 003.jpg
      003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128 KB
      เปิดดู:
      242
    • 004.jpg
      004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.5 KB
      เปิดดู:
      264
    • 005.jpg
      005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109.6 KB
      เปิดดู:
      265
    • 006.jpg
      006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.2 KB
      เปิดดู:
      254
    • 007.jpg
      007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.4 KB
      เปิดดู:
      244
    • 008.jpg
      008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      135 KB
      เปิดดู:
      251
    • 009.jpg
      009.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.2 KB
      เปิดดู:
      266
  15. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 010.jpg
      010.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.2 KB
      เปิดดู:
      246
    • 011.jpg
      011.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109 KB
      เปิดดู:
      238
    • 012.jpg
      012.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.1 KB
      เปิดดู:
      264
    • 013.jpg
      013.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.1 KB
      เปิดดู:
      250
    • 014.jpg
      014.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.3 KB
      เปิดดู:
      249
    • 015.jpg
      015.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.3 KB
      เปิดดู:
      297
    • 016.jpg
      016.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.2 KB
      เปิดดู:
      270
    • 017.jpg
      017.jpg
      ขนาดไฟล์:
      147.8 KB
      เปิดดู:
      235
    • 018.jpg
      018.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.2 KB
      เปิดดู:
      236
  16. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 019.jpg
      019.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.7 KB
      เปิดดู:
      228
    • 020.jpg
      020.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.4 KB
      เปิดดู:
      241
    • 021.jpg
      021.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.5 KB
      เปิดดู:
      276
    • 022.jpg
      022.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.5 KB
      เปิดดู:
      230
    • 023.jpg
      023.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      228
    • 024.jpg
      024.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.2 KB
      เปิดดู:
      219
    • 025.jpg
      025.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.5 KB
      เปิดดู:
      224
    • 026.jpg
      026.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.6 KB
      เปิดดู:
      219
  17. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    ทฤษฎีแกล้งดิน
    แนวคิดและทฤษฎีการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จ ฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรในเขตจังหวัดนราธิวาส ในปี พ.ศ. 2524 ทรงพบว่า หลังจากมีการชักน้ำออกจากพื้นที่พรุ เพื่อจะได้มีพื้นที่ใช้ทำการเกษตรและเป็นการบรรเทาอุทกภัยนั้น ปรากฎว่า ดินในพื้นที่พรุแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด ทำให้เพาะปลูกไม่ได้ผล จึงมีพระราชดำริให้ส่วนราชการต่าง ๆ พิจารณาหาแนวทางในการปรับปรุงพื้นที่พรุที่มีน้ำแช่ขังตลอดปีให้เกิดประโยชน์ ในทางการเกษตรมากที่สุดและให้คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ด้วย การแปรสภาพเป็นดินเปรี้ยวจัด เนื่องจากดินมีลักษณะเป็นเศษอินทรีย์วัตถุหรือซากพืชเน่าเปื่อย อยู่ข้างบนและมีระดับความลึก 1-2 เมตร เป็นดินเลนสีเทาปนน้ำเงิน ซึ่งมีสารประกอบกำมะถัน ที่เรียกว่า สารประกอบไพไรท์ (Pyrite : FeS2) อยู่มาก ดังนั้น เมื่อดินแห้ง สารไพไรท์จะทำปฏิกิริยากับอากาศปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมา ทำให้ดินแปรสภาพเป็นดินกรดจัดหรือเปรี้ยวจัด ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่อง มาจากพระราชดำริ จึงได้ดำเนินการสนองพระราชดำริโครงการ "แกล้งดิน" เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดของดิน เริ่มจากวิธีการ "แกล้งดินให้เปรี้ยว" ด้วยการทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป เพื่อเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดิน ซึ่งจะไปกระตุ้นให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ปลดปล่อยกรดกำมะถันออกมา ทำให้ดินเป็นกรดจัดจนถึงขั้น "แกล้งดินให้เปรี้ยวสุดขีด" จนกระทั่งถึงจุดที่พืชไม่สามารถเจริญงอกงามได้ จากนั้นจึงหาวิธีการปรับปรุงดินดังกล่าวให้สามารถปลูกพืชได้ วิธีการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจัดตามแนวพระราชดำริ มีดังนี้ ควบคุมระดับน้ำใต้ดิน เพื่อป้องกันการเกิดกรดกำมะถัน จึงต้องควบคุมน้ำใต้ดินให้อยู่เหนือชั้นดินเลนที่มีสารไพไรท์อยู่ เพื่อมิให้สารไพไรท์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนหรือถูกออกซิไดซ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 14705738.jpg
      14705738.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.4 KB
      เปิดดู:
      271
  18. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    ฝนหลวง
    ในปี พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงเยี่ยม พสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ย่านบริเวณเทือกเขาภูพานทรงสังเกตว่า มีปริมาณเมฆมากปกคลุมเหนือพื้นที่ระหว่างเส้นทางบิน แต่ไมสามารถรวมตัวจนเกิดเป็นฝนตกได้ ทั้งที่เป็นช่วงฤดูฝน และทรงพบเห็นว่าหลายแห่งประสบปัญหา พื้นดินแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูเพาะปลูก เกษตรกรมักประสบความเดือดร้อนจากภาวะฝนแล้ง หรือฝนทิ้งช่วงในระยะวิกฤติของพืชผล ทำให้ผลผลิตต่ำ หรืออาจไม่มีผลผลิตเลย และอาจทำให้ ผลผลิตที่มีอยู่เสียหายได้ จึงเป็นความเดือดร้อนอย่างสาหัส และก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจแก่เกษตรกรอย่างใหญ่หลวง นอกจากนี้ความต้องการใช้น้ำมีมากขึ้น เพราะการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรมเกษตรกรรม และการเพิ่มขึ้นของประชากร ซึ่งมีผลให้ปริมาณน้ำต้นทุนจากทรัพยากรน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ซึ่งเห็นได้ชัดจากปริมาณ น้ำในเขื่อนภูมิพลที่ลดลงอย่างน่าตกใจ ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกล และทรงความอัจฉริยะของพระองค์ด้วยคุณลักษณะของนักวิทยาศาสตร์ ทรงสังเกตวิเคราะห์ข้อมูลในขั้นต้น และได้มีพระราชดำริครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2498 แก่หม่อมราชวงศ์เทพฤทธิ์ เทวกุล ว่าจะทรงค้นหา วิธีการที่จะทำให้เกิดฝนตกนอกเหนือจากที่จะได้รับจากธรรมชาติโดยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ กับทรัพยากร ที่มีอยู่ให้เกิดมีศักยภาพของการเป็นฝนให้ได้ "ฝนหลวง" หรือ"ฝนเทียม" จึงกำเนิดขึ้นโดยประยุกต์ผลการวิจัยค้นคว้าทางวิชาการด้านฝนเทียมของประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอิสราเอล ภายใต้การพระราชทานข้อแนะนำจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่าง ใกล้ชิดพร้อมกันนี้ได้มีการจัดตั้ง "สำนักงานปฎิบัติการฝนหลวง" ขึ้น เพื่อรับผิดชอบการดำเนินงานฝนหลวงในระยะต่อ มาจนถึงปัจจุบัน พระบรมราโชบายในการพัฒนาโครงการพระราชดำริ "ฝนหลวง" ทรงเน้นความจำเป็นในด้านพัฒนาการ และปรับปรุงวิธีการทำฝนในแนวทางของการออกแบบการปฎิบัติการ การ ติดตามและประเมินผลที่เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น ตลอดจนความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อไศึกษารูปแบบเมฆและการปฎิบัติการทำฝนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ทรงย้ำถึงบทบาทของการดัดแปรสภาพอากาศ หรือการทำฝนว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอันหนึ่งในกระบวน การจัดการทรัพยากรแหล่งน้ำ ทรงเน้นความร่วมมือประสานงานของหน่วยงาน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่จะเป็นกุญแจสำคัญในอันที่จะทำ ให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้

    ทรงวิเคราะห์การทำฝนหลวงว่ามี 3 ขั้นตอน คือ
    ขั้นตอนที่ 1 ก่อกวน
    เป็นการกระตุ้นให้เมฆรวมตัวเป็นกลุ่มแกน เพื่อใช้เป็น แกนกลางในการสร้างกลุ่มเมฆฝนในระยะต่อมา สารเคมีที่ใช้ ได้แก่ แคลเซียมคลอไรแคลเซียมคาร์ไบด์ แคลเซียมอ๊อกไซด์ หรือสารผสมระหว่าง เกลือแกงกับสารยูเรีย หรือสารผสม ระหว่างสารยูเรียกับแอมโมเนียมไนเตรท ซึ่งสารผสมดังกล่าวนี้จะก่อให้เกิดกระบวนการกลั่นตัวของไอน้ำในอากาศ
    ขั้นตอนที่ 2 เลี้ยงให้อ้วน
    ขั้นตอนนี้ใช้สารเคมี คือ เกลือแกง สารประกอบสูตร ท.1 สารยูเรีย สารแอมโมเนียไนเตรท น้ำแข็งแห้ง และอาจใช้สารแคลเซียมคลอไรด์ร่วมด้วยเพื่อเป็นการเพิ่มแกนเม็ดไอน้ำ (Nuclii) ให้กลุ่มเมฆฝน มีความหนาแน่นมากขึ้น
    ขั้นตอนที่ 3 โจมตี
    สารเคมีที่ใช้ในขั้นตอนนี้เป็นสารเย็นจัด คือซิลเวอร์ไอโอได น้ำแข็งแห้ง เพื่อทำให้เกิดภาวะความไม่สมดุลมากที่สุด ซึ่งจะเกิดเป็นเม็ดน้ำ ที่มีขนาดใหญ่มาก และตกกลายเป็นฝนในที่สุดอย่างไรก็ดี ทุกขั้นตอนจะต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในการตัดสินใจที่จะเลือกใช้สารเคมีในปริมาณที่พอเหมาะ ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงสภาพอากาศสภาพภูมิประเทศ ทิศทางและความเร็วของลม ตลอดจนกำหนดบริเวณหรือแนวพิกัด ที่จะโปรยสารเคมี บทบาท "ฝนหลวง" วันนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในการเกษตรในช่วงที่เกิดภาวะฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วงยาวนานเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำ ให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำของแม่น้ำสายต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำต้นทุนลดน้อยลง เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เสริมสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำ เป็นการเพิ่มปริมาณน้ำโดยเฉพาะในบริเวณแม่น้ำที่ตื้นเขินให้สามารถใช้เป็นเส้นทางคมนาคมได้
    เพื่อป้องกันและบำบัดภาวะมลพิษของสิ่งแวดล้อม "ฝนหลวง" ได้บรรเทาภาวะแวดล้อมเป็นพิษอันเกิดจากการระบาย น้ำเสีย และขยะมูลฝอยลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำจากฝนหลวงจะทำให้ภาวะมลพิษจากน้ำเสียเจือจางลง
    เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าฝนหลวงในอนาคตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวความคิดให้ทำการศึกษาวิจัยพัฒนา ฝนหลวงหลายประการ คือ สร้างจรวดฝนเทียมบรรจุสารเคมีจากพื้นดินเข้าสู่เมฆหรือยิงจากเครื่องบิน การใช้เครื่องพ่นสารเคมีอัดแรงกำลังสูงจากยอดเขาสู่ฐานของก้อนเมฆโดยตรง เพื่อช่วยให้เมฆที่ลอยปกคลุมอยู่เหนือยอดเขาสามารถรวมตัวหนาแน่น จนเกิดฝนตกลงสู่บริเวณภูเขาหรือพื้นที่ใต้ลมของภูเขา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    ทฤษฎีการป้องกันการเสื่อมโทรมและพังทลายของดินโดยหญ้าแฝก
    ทฤษฎีการป้องกันการเสื่อมโทรมและพังทลายของดินโดยหญ้าแฝก พืชจากพระราชดำริ : กำแพงที่มีชีวิตในการอนุรักษ์และคืนธรรมชาติ
    สู่แผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงสภาพปัญหาการชะล้างพังทลายของดินและการสูญเสียหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์
    จึงทรงศึกษาถึงศักยภาพของ “หญ้าแฝก” ซึ่งเป็นพืช พื้นบ้านของไทย ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้า
    ดินและอนุรักษ์ความชุ่มชื้นใต้ดิน ซึ่งมีวิธีการปลูกแบบง่าย ๆ เกษตรกรสามารถดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องให้การดูแลหลังการปลูกมากนัก
    ทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าวิธีอื่น ๆ อีกด้วย จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการศึกษาทดลองเกี่ยวกับหญ้าแฝก ลักษณะของหญ้าแฝก
    หญ้าแฝกมีชื่อสามัญเป็นภาษาอังกฤษว่า Vetiver Grass มีด้วยกัน 2 สายพันธุ์ คือ หญ้าแฝกดอน (Vetiveria nemoralis A. Camus) และ
    หญ้าแฝกหอม(Vetiveria zizanioides Nash) เป็นพืชที่มีอายุได้หลายปี ขึ้นเป็นกอแน่น มีใบเป็นรูปขอบขนานแคบปลายสอบแหลม
    ยาว 35-80 ซม.มีส่วนกว้าง 5-9 มม. หญ้าแฝกจะมีการขยายพันธุ์ที่ได้ผลรวดเร็ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
    [​IMG]

    จากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ ทางภาคเหนือ และภาคอีสาน พบว่าปัญหาการขาดสารไอโอดีนจนเกิด
    โรคคอพอก มีเป็นจำนวนมาก และมีราษฎรขอรับการรักษาจากคณะแพทย์หลวงที่ตามเสด็จอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพ
    รัตนราชสุดาฯ ทรงสนพระราชหฤทัย เกี่ยวกับการ แก้ไขโรคขาดสารไอโอดีนเป็นอย่างมาก เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ทรงเสด็จไปเยี่ยมชมกิจกรรม ของวิทยาลัยเทคนิค เชียงใหม่ ซึ่งได้ทอดพระเนตรเห็นการสาธิตการทำงานของเครื่องผสมเกลือไอโอดีน ซึ่งทางมหาวิทยาลัย
    เทคนิคได้ผลิตขึ้น และน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อพระราชทานให้แก่จังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือที่ราษฎรกำลังประสบปัญหาของ
    การขาดสารไอโอดีน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัสว่า "...ให้พิจารณาแก้ไขปัญหาของการขาดสารไอโอดีนของราษฎรโดยสำรวจในแต่ละพื้นที่ถึงปัญหาและความต้องการของเกลือซึ่งแต่ละท้องถิ่นที่จะมีปัญหา
    และความต้องการไม่เหมือนกันโดยเฉพาะต้องสำรวจเส้นทางเกลือว่าผลิตมาจากแหล่งใด ก็น่าที่จะนำเอาไอโอดีนไปผสมกับผลิตต้นทางเกลือเสียเลยทีเดียว..."
    วิธีการดำเนินการตามแนวพระราชดำริ "เส้นทางเกลือ" ศึกษาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนสารไอโอดีน โดยการค้นหา "เส้นทางเกลือ" ตั้งแต่
    แหล่งผลิตจนถึงผู้บริโภค นำไอโอดีนไปผสมที่แหล่งผลิตหรือแหล่งจัดจำหน่ายโดยเติมให้ฟรีก่อน หากภายหลังพ่อค้าและเกิดเอกชนเกิดศรัทธาสมทบก็
    สามารถทำได้ บางท้องที่ที่ไม่อาจเติมไอโอดีนที่แหล่งต้นทางได้ ทรงแนะนำว่าควรนำเครื่องผสมไอโอดีนไปบริการในลักษณะ หน่วยบริการเคลื่อนที่เข้าไปใน
    หมู่บ้านต่างๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกำหนดให้อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอต้นแบบในการศึกษาแก้ไข ปัญหาการขาดแคลน
    สารไอโอดีนว่ามี "เส้นทางเกลือ" มาจากแหล่งใดผลการสำรวจ "เส้นทางเกลือ" ตั้งแต่ เดือนเมษายน 2536 สรุปได้ว่า
    - เกลือผสมไอโอดีนส่วนใหญ่เป็นเกลือป่น
    - เกลือที่ไม่ผสมสารไอโอดีนเพิ่มเข้าไปจะมีทั้งเกลือป่นและเกลือเมล็ด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...