เรื่องจริงผ่านจอ พิสูจน์ลามะเนปาล

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 ธันวาคม 2005.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    บุกพิสูจน์ "ลามะเนปาล" ผู้ที่ชาวเนปาลเชื่อว่าเป็นอวตารของพระพุทธเจ้า "เรื่องจริงผ่านจอ" จากไทยเป็นรายการแรกของโลกที่ได้เข้าพิสูจน์เป็นกรณีพิเศษ โดยประเด็นฮือฮาที่มีแสงออกจากนิ้ว

    <DD>ทีมงานเก็บภาพอย่างละเอียดตลอด 24 ช.ม. ยืนยันว่าน่าจะเป็นการตกกระทบของแสงมากกว่า ส่วนเรื่องลี้ลับอย่างอื่นต้องรอพิสูจน์ต่อไป
    <DD>หลังจากที่เป็นข่าวไปทั่วโลกเกี่ยวกับหนุ่มชาวเนปาล ว่าจะเป็นศาสดาองค์ใหม่ตามรอยพระพุทธเจ้า โดยขณะนี้นั่งสมาธิยาวนานมาได้ถึง 6 เดือนแล้ว สร้างความอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก
    <DD>ล่าสุด รายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" จากประเทศไทยได้กลายเป็นทีมงานแรกของโลก โดยเป็นรายการเดียวที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษที่ได้เข้าไปเก็บภาพในระยะใกล้ และจับภาพได้ตลอด 24 ช.ม. พร้อมทั้งได้โอกาสสัมภาษณ์ทุกคนในครอบครัว และซักถามข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับที่มาของการนั่งสมาธิของลามะหนุ่มองค์นี้อีกด้วย
    <DD>ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง พิธีกรรายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" เปิดเผยว่า ทางรายการได้รับโอกาสเป็นพิเศษในการเข้าไปเก็บภาพอิริยาบถของลามะหนุ่มตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง เป็นรายการแรก เนื่องจากพวกเขาเชื่อใจว่าทางทีมงานของเราเป็นชาวพุทธ เพราะได้รับการรับรองจากพระอาจารย์นิรันด์ พระไทยในประเทศเนปาลที่เป็นผู้นำทางพาทีมงานของเราไปถ่ายทำนั่นเอง
    <DD>"ข้อมูลที่เราได้รับจากการลงพื้นที่พบว่า มีความแตกต่างจากข่าวที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต จากภาพและข้อมูลที่เราได้ ปรากฏว่าลามะหนุ่มนั่งอยู่กับที่ตลอดทั้งคืนท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวเย็นประมาณ 13 องศาเซลเซียส โดยที่ไม่ลุกไปไหน ไม่กินอาหาร หรือแม้กระทั่งการไปเข้าห้องน้ำ ชาวเนปาลและคนต่างถิ่นกว่า 1,000 คน ต่างเดินทางมาเยี่ยมชมลามะหนุ่มนี้ทุกๆ วัน เริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า แต่พวกเขาก็มีโอกาสได้เห็นลามะหนุ่มไกลๆ ในระยะ 100 เมตรเท่านั้น และคณะกรรมการก็มีมติว่าจะเพิ่มแนวรั้วขยายออกไปอีก 5 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ลามะหนุ่มได้รับการรบกวนไปมากกว่านี้"
    <DD>พิธีกรชื่อดังกล่าวอีกว่า และช่วงเวลาที่ทุกคนต่างรอคอยก็คือการแสดงอภินิหารของลามะหนุ่ม ซึ่งพี่ชายของเขาเล่าให้ฟังว่า ทุกๆ 10 โมงเช้า จะมีแสงสว่างปรากฏขึ้นบนบริเวณนิ้วมือข้างซ้ายอย่างน่าอัศจรรย์ โดยไม่มีคำตอบหรือเหตุผลใดๆ มาอธิบายได้ ซึ่งกล้องของทีมงานก็สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์นี้เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยทีมงานของเราเป็นกลุ่มคนที่อยู่ใกล้ลามะหนุ่มนี้ที่สุดรองจากพี่ชายของเขา ซึ่งแสงที่ออกจากนิ้วเมื่อมองจากภาพ การสังเกตตลอดเวลาและวิเคราะห์กันแล้ว น่าจะเกิดขึ้นจากการหักเหของแสงที่ตกกระทบ ส่วนเรื่องของความอัศจรรย์อย่างอื่น คงต้องค่อยๆ พิสูจน์กันต่อไป
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ถนน (TARN NAM HANG) ที่มุ่งหน้าสู่เมืองพาราแห่งนี้ ยังคงเป็นเส้นทางลูกรังและมีความยากลำบากในการเดินทางค่อนข้างมาก ระยะทางที่ห่างจากเมืองกาฏมาณฑุเพียง 150 กิโลเมตร แต่กลับใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์นานกว่า 6 ชั่วโมง ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว เมืองนี้แทบจะถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก เพราะจะมีน้ำท่วมขังตลอดเส้นทาง แต่ถึงแม้ว่าน้ำจะท่วมถึงอกของลามะหนุ่มองค์นี้ แต่เขาก็ไม่เคยลุกออกจากสมาธิแต่อย่างใด ตลอดระยะเวลา 6 เดือน
    <DD>นอกจากนี้ลามะหนุ่มยอมพูดกับคนภายนอกเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกเขาพูดกับพี่ชายแท้ๆ ของเขาว่า "ขอให้พี่ชายกลับบ้านไปเถิด ไม่ต้องห่วง เพราะเขาตัดสินใจที่จะนั่งอยู่ตรงสถานที่แห่งนี้แล้ว มิเช่นนั้นตอนกลางคืนอาจจะมีอันตรายจากเสือก็เป็นได้" ครั้งที่ 2 เขาพูดกับกลุ่มกบฏ (LATTI MHAO) ซึ่งบังคับให้เขาลุกขึ้นโดยใช้ปืนขู่ ลามะหนุ่มได้กล่าวตอบกลับไปว่า "สิ่งที่เราต้องการจากการนั่งสมาธิในครั้งนี้ ก็คือเราต้องการความสงบสุขที่จะเกิดขึ้นในประเทศเนปาลนั่นเอง" หลังจากประโยคนั้นกลุ่มกบฏก็จากไป และไม่กลับมารบกวนลามะหนุ่มอีกเลย และครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อฝูงชนชาวเนปาลต้องการให้พี่ชายของลามะช่วยสัมภาษณ์ให้ว่าเขาต้องการเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปหรือไม่ ลามะหนุ่มตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวลว่า "ไม่อยากให้ทุกคนเรียกเราว่าพระพุทธเจ้า เราเพียงแต่เจริญรอยตามวิถีทางของพระพุทธองค์เท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่ามาเรียกเราว่าพระพุทธเจ้าอีก" หลังจากจบประโยคนั้น ลามะหนุ่มก็ไม่พูดอีกต่อไปจนถึงปัจจุบันนี้
    <DD>ภาพเหตุการณ์ที่ทีมงานรายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" เดินทางไปถ่ายทำ ณ สถานที่จริงที่เมืองพารา ประเทศเนปาล และแสงสว่างที่ปรากฏขึ้นบริเวณมือข้างซ้ายของลามะหนุ่มอย่างน่าอัศจรรย์ในทุกๆ 10 โมงเช้า จะถูกนำมาเผยแพร่ในรายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" ในวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคมนี้ เวลา 22.25 น. ทางช่อง 7
    </DD>
     

แชร์หน้านี้

Loading...