เรื่องจริงอิงนิทานกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ตอน พระบารมีกรมหลวงชุมพรฯ กรมหลวงชุมพรฯ ตามตำรวจ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 19 พฤษภาคม 2015.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    เรื่องจริงอิงนิทานกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ตอน พระบารมีกรมหลวงชุมพรฯ กรมหลวงชุมพรฯ ตามตำรวจที่โดนไสยศาสตร์ทำให้ลุ่มหลง
    [​IMG]
    ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้วันที่บันทึกก็ยังเป็นวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๓๑ เป็นการบันทึก ตอนที่ ๖ ของหนังสือเล่มที่ ๕ เรียกว่า หนังสืออ่านเล่น เขียนโดย ส.สังข์สุวรรณ แต่ว่า เวลานี้เขียนไม่ไหว ตาไม่เห็นเส้น ไม่เห็นน้ำหมึก ก็เลยต้องบันทึกเสียงแทน ให้เจ้าหน้าที่ลอกเป็นตัวหนังสือ

    ก็เป็นอันว่าตอนที่แล้ว เรื่องมาขาดตอนลงที่เรื่องราวของ ท่านพลเรือเอกกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ว่าท่านเป็นเทวดาที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เชื่อท่านจริง ๆ เคารพท่านจริง ๆ ขอย้ำตอนนี้นะบรรดาท่านผู้ฟัง ถ้าเชื่อไม่จริง เคารพไม่จริง อย่าลืมว่าท่านเป็นเทวดา ท่านรู้ความรู้สึกของคน ท่านจะไม่ยอมช่วย

    มาว่ากันถึงการช่วยเหลือ เขาบนกันทุกอย่างเป็นการช่วยเหลืออาตมาจะนำเรื่องมาคุยให้ฟัง อาตมาก็เคยบน แต่ทว่าบนให้คนอื่นเขาบนเพื่อช่วยเขา ท่านก็ช่วยได้ ถ้าไม่ลืมเรื่องนี้ ก็จะนำมาเล่าให้ฟังเพราะไม่ได้บันทึกมา

    เป็นอันว่า ครั้งหนึ่ง เสริมศรี ส่งสิริ เธอมีความเคารพในกรมหลวงชุมพรฯ มาก มีอะไรขัดข้องเธอก็บน แต่ว่าการบนทุกอย่างของท่านมีผลทุกคราว คนนี้มีความเลื่อมใสมาก ต่อไปเมื่อคนอื่นมีทุกข์

    ต้องการให้ท่านกรมหลวงชุมพรฯช่วย ก็มาขอร้องให้เสริมศรีบน เพราะตนเองจะบนก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะช่วยหรือไม่ช่วยทำผิดหรือทำถูก จิตใจนั้นเคารพแน่ แต่เกรงว่าจะผิดระเบียบ และเสริมศรีก็ช่วยบนให้ และก็มีผลตามนั้นทุกครั้ง เป็นที่น่าอัศจรรย์

    ใครว่าผีช่วยไม่ได้ เทวดาช่วยไม่ได้ บรรดาท่านทั้งหลาย ไม่จริง คนมันไม่ดีเทวดาท่านจะช่วยอย่างไร เทวะ แปลว่า ผู้ประเสริฐ ท่านจะเป็นเทวดาได้ ธรรมะเบื้องต้นของท่านที่ปฏิบัติได้ขั้นแรกคือ หิริ และ โอตตัปปะ ก่อนจะตายมีความรู้สึกตัว เกรงกลัวผลของความชั่ว อายความชั่ว

    เวลานั้นจิตเป็นกุศลธรรม ตายจากความเป็นคน จึงเป็นเทวดา แต่ในเมื่อคนที่จะไปใช้ท่าน หรือต้องการจะเห็นท่าน ต้องการจะให้ท่านช่วย ในเมื่อคนนั้นมันยังนิยมความชั่วไม่อายความชั่ว ไม่เกรงกลัวผลของความชั่ว เป็นคนเลว เทวดา แปลว่าผู้ประเสริฐ ผู้ประเสริฐก็ไม่กล้าสู้คนเลว ไม่กล้าช่วยคนเลว เพราะเกรงว่าจะเลวไปด้วย อย่างนี้คนเลวบนไม่ได้ผล บอกกันเสียก่อนนะ

    วิธีบน ทีแรกเขาก็บนกันตามความชอบใจ ต่อมาอาตมาถามท่าน ก็ขอพูดกันตรงไปตรงมาว่า เคยคุยกับท่าน ท่านกรมหลวงชุมพรฯ นั้น ท่านมาให้เห็นเป็นปกติ และก็ขอร้องให้ท่านช่วยอะไร ท่านก็ช่วยตามกำลังของเทวดาที่จะพึงช่วยได้ อย่าไปเกณฑ์เทวดาทุก ๆ อย่าง ถ้าจะเกณฑ์ว่าขอเทวดาจงบอกหวยให้ อันนี้ไม่ได้ เกณฑ์ได้แต่เทวดาท่านไม่ช่วย อย่างอาตมานี้ขอพูดให้ฟัง

    ท่านปู่ใหญ่ คือ สหัมบดีพรหม เดิมทีเดียวเมื่อท่านเป็นพระในหลายร้อยปีมาแล้ว อาจจะเป็นเกือบพันปีมาแล้ว ท่านชื่อ สิงห์ เป็นพระทรงสมาบัติขั้นสูง และก็เป็นพระอริยเจ้า

    ต่อมาก่อนท่านเป็นสหัมบดีพรหม ขณะเป็นรอง ไปถามเรื่องหวยท่าน ท่านเอาเรียงเบอร์มาให้อ่านเลย อ่านเรียงเบอร์ อ่านได้ทุกรางวัล เหมือนกับที่เขาพิมพ์ ทำภาพให้เห็น แต่ท่านบอกว่า ห้ามบอกใครนะ แต่ความจริงสังเกตดูแล้วว่า ถ้าไม่บอกนี่ตรงทุกที

    ถ้าบางครั้งท่านจะบอกว่า พูดได้เท่านี้นะ ถ้าพูดเท่านั้นมีผล ถ้าพูดเลยไปตัวเดียวหรือแต้มเดียว หรือว่าประโยคเดียว จะไร้ผลทั้งหมด
    เวลานี้ท่านก็เลยขอร้อง ปฏิเสธ บอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อยากจะรู้จะให้รู้ แต่ห้ามพูดเด็ดขาด
    ก็เลยเป็นอันว่า ไม่รู้เสียดีกว่า รู้แล้วพูดไม่ได้ มันอึดอัดใจ

    มาว่ากันถึงเรื่องกรมหลวงชุมพรฯกันดีกว่า วิธีบน บรรดาท่านพุทธบริษัท ฟังแล้วอาจจะบนกันบ้าง วิธีบนก็คือ

    ๑. ข้าวปากหม้อ คำว่า ข้าวปากหม้อ หมายความว่า ข้าวปากหม้อที่ยังไม่เป็นเดนใคร ตักมา ๑ ถ้วย
    ๒. หมูต้ม หมูธรรมดาต้ม ประมาณสักครึ่งกิโล ถ้าจนมาก ก็ชิ้นเดียว อย่าให้เล็กนัก
    ๓. ไก่ต้ม ถ้าจนมากมีทุนน้อย ก็ไม่ต้องถึงตัว เอาชิ้นหนึ่งก็ได้ แต่คนมีทุนมากต้องเอาถึงตัว อย่าขี้เหนียวนะ ขี้เหนียวเทวดาไม่ช่วย
    ๔. ทองหยิบ ฝอยทอง อย่างละถ้วยเล็ก ๆ ก็ได้ ๒-๓ อันก็ได้นะ
    ๕. ขนมจีนน้ำพริก

    เท่านี้ก็พอแล้ว แต่ว่าตามพิธีกรรม ถ้าจะบนท่านให้ใช้ของทั้งหมดนี้ก่อนเวลาบน ถวายก่อน เวลาถวายท่านกำหนดว่า เวลาตอนเช้าให้ใช้เวลา ก่อน ๒ โมงเช้า ๑๐ นาที หรือก่อนหน้านั้นนิดหน่อยก็ได้ แต่อย่าให้ถึง ๒ โมงเช้า ถ้าจะแก้ตอนบ่าย ตอนเย็นให้ใช้เวลา ๓ โมงเย็น แต่ก่อนเวลา ๓ โมงเย็นสัก ๑๐ นาที

    เรื่องเหล้ายาปลาปิ้งไม่ต้องใช้กัน เวลานี้ท่านเป็น วิรุฬหก เมื่อก่อนเป็น วิรุฬหก ชอบให้เขาแก้บนด้วยน้ำตาลเมา แต่เดี๋ยวนี้บอก ไม่เอาแล้ว ลูกน้องมันมาก เดี๋ยวลูกน้องมันเมา มนุษย์จะมีความลำบาก เทวดาเมานี่ยุ่ง แต่ความจริงเทวดาท่านไม่กินน้ำตงน้ำตาลหรอก ก็ว่ากันเรื่อยเฉื่อยไป เป็นสัญลักษณ์ว่าสมัยเป็นคนชอบอะไรก็ขออย่างนั้น

    มาว่าเรื่องของการบนที่มีผลเป็นพิเศษ ทำให้เทวดาลำบาก คือช่วยเขาแล้วเทวดากลับลำบาก คนบนมีความสุข แต่เทวดามีความทุกข์
    นั่นก็คือว่า มีนายตำรวจท่านหนึ่ง เป็นร้อยตำรวจโท คนนี้เป็นมือปราบ แต่อยู่ที่ไหนก็ไม่บอกละ เวลานี้ก็เป็น พันตำรวจเอกหรือนายพล รุ่นราวคราวเดียวกันเขาเป็นนายพลกันไปหมดแล้ว เขาย้ายไปนานแล้ว เข้าใจว่าจะเป็นนายพลไปแล้ว

    ถ้าตามอายุราชการ เพื่อน ๆ กัน คนไล่ ๆ กัน เวลานั้นเวลานี้เขาเป็นพลตรี พลโทไปแล้ว แต่ท่านผู้นี้จะเป็นขั้นไหน อยู่ที่ไหน ก็ไม่ทราบเหมือนกัน ท่านผู้นี้ก็ไปจับโจรร้าย คนหนึ่ง คนนี้ร้าย ปล้นฆ่าบ้าง ปล้นไม่ฆ่าบ้าง แต่ปล้นแน่ ไปจับมาแล้วคนนี้ก็ติดตะราง

    ต่อมาลูกสาวของท่านบุคคลนี้เจ็บใจว่าร้อยตำรวจโทคนนี้มาจับพ่อติดตะราง นั่นเป็นเรื่องธรรมดา จะให้เขามีเหตุมีผลว่า พ่อของเธอไปปล้นเขา เขาจับติดตะรางเป็นการถูกต้อง อย่างนี้เราพูดกันได้ แต่ว่าลูกกับ พ่อย่อมมีความรักกัน

    ย่อมมีความหวังดีในกันเขาจะโกรธคนที่จับพ่อเขา ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่น่าตำหนิ ถึงตำหนิก็ไม่มีผล แต่เธออายุยังน้อยอยู่ ประมาณ ๑๖ ปี กำลังสวย ก็เรียกว่าสวย รูปร่างค่อนข้างสวย

    ถ้าประกวดนางงามแล้ว ได้เป็นที่หนึ่งของคนรักแน่ ถ้าเป็นผู้ชายคนไหนรัก คนนั้นเขาให้ที่หนึ่งชนะเลิศ แต่คนนี้ก็หน้าตาน่ารัก ผิวพรรณดี รู้สึกว่าทรวงทรงก็ดี ส่วนสัดก็ดี เธอก็ไปสมัครเป็นหญิงโสเภณี เรียกว่า โสเภณีแก้แค้น ไม่ใช่โสเภณีสมัครเล่น

    หรือไม่ใช่โสเภณีอาชีพ โสเภณีในต่างจังหวัดเวลานั้นก็ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน เป็นแต่เพียงมีบ้านหรือมีห้องแถว ที่เขารับหญิงค้าประเวณี เข้าไปแล้วเขาก็รับสมัคร

    เมื่อเธอเข้าไปแล้วก็เป็นเรื่องธรรมดา ใครเข้าไปก็รับแขก สตางค์ก็ได้ อันนี้ก็เห็นใจเธอว่าสตางค์ก็ได้ แต่ว่าสิ่งที่เธอต้องการนั่นคือ ต้องการจะแก้เผ็ดนายตำรวจคนนี้ ก็หาอาจารย์ หาครูบาอาจารย์มาทำไสยศาสตร์ เรียกว่าทำเสน่ห์ก็แล้วกัน

    แล้วก็หาทางให้คนมาแนะนำกับนายตำรวจคนนี้ว่า หญิงสาวคนนี้เข้ามาใหม่ ใหม่เอี่ยมจ๋อง ไม่เคยผ่านงานอย่างนี้มาแต่ก่อน แต่อาศัยว่าพ่อตายไม่มีใครเลี้ยง ก็มีความจำเป็น ต้องอุทิศตัวเพื่อเงินชั่วคราว และเธอก็จะเป็นอยู่ไม่นาน พอได้สตางค์พอเธอก็จะเลิก

    แต่ว่านายตำรวจคนนี้ย่อง ๆ เข้าไป จะดีมาก ข่าวอย่างนั้นก็เข้าไป แล้วเขาก็ยังส่งข่าวพิเศษอีกนะว่า ถ้าหากว่าเป็นตำรวจแล้ว ฟรีทุกราย สามารถจะเหมาคืน เหมาเป็นวัน ๆ กันได้เลย เป็นแต่เพียงว่าถ้าหากว่าจะมีสตางค์จ่ายค่าอาหารประจำวัน แค่ข้าวราดแกงให้เธอได้กินได้อิ่ม อย่างนี้เหมาได้ตลอดกาล กี่วันก็ได้ เป็นเดือนก็ยังได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นนายตำรวจ เธอจะชอบมาก

    ท่านนายตำรวจคนนี้ทราบก็ยินดี ไอ้เรื่องเนื้อสดนี่ยังไม่ต้องต้มอย่างนี้สดแท้ ๆ เนื้อสดประเภทไม่ต้องต้มนี่รสโอชะ ท่านก็ย่องเข้าไป เธอก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี นัดหมายกันแล้ว มีแม่สื่อออกมา ติดต่อกับนายตำรวจ เธอก็จัดห้องจัดหับเสียดี แม่สื่อก็ช่วย ห้องจัดเสียสวยเรียบร้อย เสียค่าเช่าห้องเป็นพิเศษ เธอเสียเอง และพรรคพวกด้วยกัน

    พรรคพวกชาวบ้านที่เป็นญาติกันเขาช่วย พอท่านนายตำรวจคนนี้ลุ่มหลง ไม่มาทำงาน ขาดงานไปเกินกว่า ๑๐ วัน ผู้บังคับกองให้ตำรวจไปตามก็ไม่มา ผู้กำกับให้ตำรวจไปตามก็ไม่มา ไม่ยอมออกจากห้อง ความจริงเนื้อสดชิ้นนี้น่ากลัวจะโอชะมาก

    ในที่สุด บรรดานายตำรวจก็ดี บรรดาผู้ปกครอง พ่อแม่ก็ตาม พี่น้องก็ตาม ก็สงสาร คิดว่าอย่างนี้ต้องออกจากราชการแน่ เหตุผลเป็นมาอย่างไรไม่ทราบ เด็กสาวคนนี้ก็เป็นเด็กสาวธรรมดา ๆ รูปร่างหน้าตาสวย แต่คนภายนอกที่สวยอย่างนั้นก็มี สวยกว่านั้นก็มีที่นายตำรวจคนนี้ผ่านมา แต่ไม่หลงไหลใฝ่ฝันขนาดนี้

    ในที่สุดก็หมดทางแก้ ไปหาพระแก้ พระก็แก้ไม่ออก ไปหาครูบาอาจารย์ที่ไหนแก้ ก็แก้ไม่ออก ไปหานักวิทยาศาสตร์แก้ ก็แก้ไม่ออก ไสยศาสตร์แก้ ก็แก้ไม่ออก ผลที่สุดเขาก็มาหาเสริมศรี เขาได้ข่าวว่าเสริมศรีเป็นลูกศิษย์กรมหลวงชุมพรฯ เธอคงจะแก้ได้ มาหาเธอ เธอก็เห็นใจ จะช่วยแก้

    เธอก็บอกว่า แก้ได้หรือไม่ได้ก็สุดแล้วแต่สมเด็จเตี่ย เขาเรียกกัน สมเด็จเตี่ย เพราะว่าเสริมศรีเป็นลูกเจ๊ก ก็เรียกว่า สมเด็จเตี่ย ก็ถูกต้อง เตี่ยคือ พ่อ พ่อก็คือเตี่ย เธอก็จัดพิธีบน ให้เขาจัดของเพื่อบนท่าน เมื่อบนเสร็จ ก็บนขอให้ไปตามนายตำรวจคนนี้ออกมาจากซ่อง คำว่า ซ่อง ก็คือซ่องพิเศษ

    แต่ขอโปรดทราบว่า สถานที่จัดที่แห่งนี้บรรดาท่านผู้ฟัง มันไม่ใช่ซ่องที่โสเภณีอยู่กัน เดิมทีเดียวเธอมาอยู่กับเขา เพื่อประกาศตนเป็นโสเภณี แต่สถานที่ต้อนรับนายตำรวจผู้นี้มันเป็นบ้าน เขาจัดห้องหับที่บ้านของเธอเอง ทำเป็นกรณีพิเศษ

    ให้บุคคลเห็นว่านายตำรวจผู้นี้ไม่ได้เข้าซ่อง เขาให้เกียรติมาก ก็รวมความว่าเสริมศรีเธอก็บน ผลที่ได้จริง ๆ คือ บนแล้ว วันที่ ๓ นายตำรวจคนนี้ออกมากลับเข้ามาทำงานตามเดิม

    เมื่อเขาถามผลกันท่านก็ตอบว่า ก็ไม่ทราบว่ามันเป็นอย่างไร มีความหลงใหลใฝ่ฝันจริง ๆ ก็สรุปแล้วว่า เห็นว่าเนื้อสดรายนี้อร่อยมาก มีรสโอชะมาก มีการสัมผัสดี เอาอกเอาใจดีมากเป็นพิเศษ และท่านไม่คิดว่าเป็นเนื้อสดค้าขาย ท่านจะรับไว้เป็นภรรยา

    แต่เมื่อออกมาแล้ว มาทำงานแล้ว
    มีคนมาถามว่าต้องการไปบ้านนั้นอีกไหม
    ท่านก็บอกว่า เวลานี้มันหมดความรู้สึก ความต้องการคนรายนั้นกับสถานที่นั้นไม่มีอีกแล้ว อันนี้อัศจรรย์ แต่เรื่องนี้ไม่เป็นไร (ขออภัยบรรดาท่านพุทธบริษัทกระแอมไอมาก
    เพราะคอแห้งจัด) เรื่องนี้ไม่สำคัญ คือ ไม่ต้องการ

    แต่ส่วนสำคัญมีอยู่ว่า คนสบาย คนปลอดภัย พ้นจากภัยมาได้แล้ว ไม่เสียงานทางราชการ ไม่เสียประวัติ บรรดาบิดาของท่านนายตำรวจคนนั้นก็มีความสุข ญาติพี่น้องก็มีความสุข เสริมศรีก็มีความอิ่มหนำสำราญสดชื่น เพราะทำงานได้ผล

    แต่ว่าท่านที่ต้องรับโทษ คือ กรมหลวงชุมพรฯ สำหรับอาตมาเองเคยพบกับท่านทุกคน เวลาทำใจเป็นสมาธินิดหน่อย หรือกลางวัน นั่ง ๆ อยู่จิตเป็นสมาธินิดหน่อย พอนึกถึงท่านก็เห็นท่าน ท่านจะมา บางครั้งท่านจะมาในชุดแต่งขาวบ้าง

    บางครั้งท่านมาในชุดเต็มยศของทหารเรือบ้าง บางครั้งก็เห็นท่านในชุดพลเอกตามปกติของทหารเรือ ขอร้องอะไรท่านก็ช่วยทุกอย่าง แต่ส่วนที่มีความสำคัญก็มาบอกถึงอารมณ์การขัดข้องว่า วันนั้น วันนี้ ใครจะกลั่นบ้างใครจะแกล้งบ้าง ใครจะขัดข้องบ้าง ใครจะดีบ้าง ใครจะชมบ้าง

    แต่ท่านก็เตือนบอกว่า ขอให้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาว่า คนที่เกิดมาทุกคน มันต้องตายทั้งหมด มันชมเรามันก็ตาย มันติเรามันก็ตาย เราชอบคำชม เราก็ตาย เราไม่นิยมคำติเราก็ตาย

    ท่านเตือนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอย่าสนใจในมัน นัตถิ โลเก อนินทิโต ท่านบอกว่า คนที่ไม่ถูกนินทาเลยไม่มีในโลก แต่คนที่นินทาก็ดี สรรเสริญก็ดี ไม่มีอะไรเป็นผล เรารับคำนินทากลุ้มเปล่า ๆ ไม่มีอะไรเป็นผล ถ้าเราดีแล้วเขานินทาว่าชั่ว เราก็ไม่ชั่วไปตาม ถ้าเราเป็นคนชั่ว เขาสรรเสริญว่าเราดี เราก็ไม่ดีไปตาม อย่าสนใจ ท่านเตือน

    แต่ว่าหลังจากนายตำรวจออกมาแล้วก็ปรากฏว่า ไม่เห็นหน้ากรมหลวงชุมพรฯ ไปนาน ๑๕ วัน หาอย่างไรก็ไม่พบ เชิญอย่างไรก็ไม่มา เพราะทุกวันท่านเคยมาคุยเป็นเพื่อน ทำให้หมดความเหงาตามปกติชอบนั่งคนเดียว เวลาไหนอยู่คนเดียว เวลานั้นเป็นสุข ขณะที่อยู่คนเดียวก็คุยกับเทวดาบ้าง คุยกับพรหมบ้าง มีความสุขดีไม่หนักอกหนักใจเหมือนคุยกับคน

    เมื่อวันที่ ๑๖ เข้ามาถึง ก็พบกรมหลวงชุมพรฯ ในเครื่องแบบพลเรือเอกเต็มยศของทหารเรือ จึงเรียนถามท่านว่า ท่านหายไปไหนมา
    ท่านก็ตอบว่า ผมถูกกักบริเวณ ๑๕ วัน
    จึงเรียนถามท่านว่า ท่านเป็นเทวดาแล้วใครจะกักบริเวณท่าน
    ท่านก็บอกว่า ท้าววิรุฬหก ซึ่งเป็นเจ้านาย อยู่ด้านทิศใต้ของโลก

    ถามท่านว่ากักเรื่องอะไร
    ท่านบอกว่า มีโทษในฐานะที่เข้าไปในซ่องของโสเภณี
    ถามท่านว่า เพราะอะไร
    ท่านบอกว่า อีฮวย ท่านไม่เรียก เสริมศรี ท่านเรียก ฮวย อีฮวยมันขอร้องผมให้ไปช่วยนายตำรวจคนนั้น

    ไอ้ผมก็สงสารมัน จะไม่ช่วยมันก็จะเสียชื่อ มันก็เรียกผม สมเด็จเตี่ย ๆ เตี่ยก็มีความเห็นใจ สงสารลูก เมื่อจะเข้าไป มันก็ผิดระเบียบ แต่ครั้นจะไม่เข้าไปเลย นายตำรวจคนนั้นก็จะไม่ปลอดภัย ต้องถูกออก แต่เกณฑ์ชะตาบุญบารมีของเธอยังไม่ควรจะออก ต้องดูกันก่อน

    ท่านบอกว่า การจะช่วยต้องดูถึงบุญบารมีด้วย ไม่ใช่จะช่วยส่งเดช ถ้าคนเลวไม่มีบุญ ไม่มีบารมีอยู่เลย ไม่มีอะไรหนุนหลัง ไม่มีบุญหนุนหลังอยู่เบื้องหน้า เราก็ช่วยกันไม่ได้ ท่านผู้ฟัง ฟังแล้วก็จำไว้ด้วยนะ

    ก็เลยถามท่านว่า ถ้าบุญเก่าเขาไม่มี บุญใหม่เขาทำไว้ แต่ทำไว้ก่อนที่จะบน ถือว่าเป็นคนมีบุญไหม
    ท่านก็บอกว่า นั่นแหละก็เป็นบุญความดีที่เขาทำไว้ก่อน ก่อนที่เขาจะชั่ว ฉะนั้นถ้าใครทำบุญดีๆ รู้จักการให้ทาน รู้จักการรักษาศีล รู้จักการเจริญภาวนาหรือตั้งตนอยู่ในพรหมวิหาร ๔ บ้าง สังคหวัตถุ ๔ บ้าง อยู่ในศีลบ้าง อยู่ในธรรมบ้าง ตั้งใจชอบฟังเทศน์บ้าง อย่างนี้ช่วยสะดวก แต่คนไร้ความดี ไร้ศีล ไร้ธรรม ผมก็ขอยืนยันว่าผมช่วยไม่ได้

    แต่นายตำรวจคนนี้ ชาติก่อนเขาทำบุญไว้ดี ชาตินี้เขาก็ทำดี เขาเป็นนายตำรวจมือปราบ แต่เขาปราบคนผิด คนที่ทำความเดือดร้อนให้เกิดกับชาวบ้าน กับทรัพย์สินของชาวบ้าน ในเมื่อเขาช่วยคน ก็มีความสุข ก็จัดว่าเป็นบุญบารมีส่วนหนึ่งที่เขาทำ ทานเขาก็ให้ ศีลก็เคยรักษา ตามกาลเวลา ภาวนานี้เขาภาวนากันปืน นึกถึงพระก็ถือว่าใช้ได้

    จำไว้นะญาติโยมนะ ภาวนากันปืน ภาวนากันอาวุธ ถือว่านึกถึงพระ ใช้ได้ (คอไม่ดีมาก)
    ก็รวมความว่า เขาต้องช่วยท่านผู้นั้น ก็เลยถูกกักบริเวณ ๑๕ วัน วันนี้ปลอดแล้ว ผมคิดถึงท่าน ท่านคิดถึงผม ผมก็ทราบ ท่านขอร้องให้ผมมา ผมก็ทราบ แต่ผมมาไม่ได้ ถูกกักบริเวณ

    ก็รวมความว่าต่อแต่นี้ไป ขอให้บอกทุกคนให้ทราบว่า ทุกคนเวลาจะบนท่านเรื่องการเข้าซ่อง ขอเลิก ไม่ช่วยใคร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จะบน ขอให้ปฏิบัติตามระเบียบ ตามที่กล่าวมาแล้ว อย่าโกงกัน

    ก็รวมความว่าเรื่องของกรมหลวงชุมพรฯ ยังไม่หมด จะเก็บไว้ต่อตอนต่อ ๆ ไป เรื่องของผีชัยนาทนี้ต้องใช้เวลาหลายตอน เทวดานะ เทวดาชัยนาท อย่านึกว่าท่านอยู่เฉพาะชัยนาทนะ ความจริงเรื่องนี้ ธรรมะกลั้วออกมาแล้วนะ จะไม่พูดธรรมะตอนหลัง เมื่อกี้ผ่านมาแล้ว นัตถิ โลเก อนินทิโต หรือ นินทากับสรรเสริญนี่เป็นธรรมะ รายการธรรมะเอากันวันละหน่อย

    มาว่าถึงกรมหลวงชุมพรฯ ทำไมจะต้องแก้บน หรือเวลาบนกันก่อน ๒ โมงเช้า ๑๐ นาที หรือก่อน ๓ โมงเย็น ๑๐ นาที

    ท่านบอกว่า คนที่มีความสำคัญ เป็นเพื่อนกันเวลานี้ คือ เจ้าปลั่ง หรือเจ้าไปล่ ท่านสิงขร อะไรพวกนี้ ท่านทองดี แล้วก็มีเยอะ และกรมหลวงชุมพรฯ ท่านก็ชี้หน้าบอกว่า เจ้าปลั่งนี่แหละ สำคัญมาก เวลาเขาบนผม ผมทำงาน เวลาเขาแก้บน ไอ้ปลั่ง มันไม่ทำหรอก เวลาเขาบน ทำอะไรผมทำคนเดียว แต่ไอ้ปลั่งนี่ไปรับการแก้บนเสียเอง เวลาเชิญผม ผมมา เจ้าปลั่งมันว่ากันไปเรียบร้อยแล้ว

    ก็ถามว่า เทวดาโกงกันได้รึ อย่างนี้มันเป็น อทินนาทาน
    ท่านบอกว่า วิสาสา ปรมา ญาติ การคุ้นเคยกัน ถือว่าเป็นญาติสนิท เจ้าปลั่งหรือเจ้าไปล่นี่มันเป็นเพื่อนคู่หูผมเลยนะ สิงขรนี่ก็เหมือนกัน เป็นเพื่อนกัน คู่หูกัน มีอะไรก็กินด้วยกัน ใช้ด้วยกัน แต่ความจริง เทวดามีของทิพย์ ถือว่าท่านเป็นเพื่อนกัน ท่านมีสิทธิ์ร่วมกัน

    ดังนั้นเวลาเขาแก้บน เจ้าปลั่งมันก็ฉวยโอกาส ในฐานะที่เป็นญาติสนิทกันเองกับผม มันก็เลยเอาเสียทุกอย่าง แต่ผมก็ต้องทำงาน
    ก็เลยหันไปถามปลั่ง ถามว่า ปลั่ง มีหน้าที่อะไร
    ผมเป็นเทวดาพิเศษครับ มีหน้าที่ช่วยขโมยลักของ และก็มีหน้าที่รับติดตามของที่ขโมยลักไป รวมความว่า ถ้าใครจะขโมยของ ถ้าบนผม ผมรับ ช่วยให้มันขโมยได้ แล้วก็เวลาเขาบนติดตาม เขาบนผม ผมก็รับ ช่วยติดตามมาได้

    ก็เลยบอกว่า นั่นมันผิดศีลนะ มันละเมิดศีล
    ท่านบอกว่า ไม่ใช่ มันต้องเฉพาะบุคคลครับ บนกันทุกคนไม่ได้ผล มันต้องเป็นคนประเภทที่ว่า ชาติก่อนเคยยักยอกของเขาไป ชาตินี้จะต้องตอบสนองด้วยการของหาย แต่ในชาติก่อนยักยอกไปแล้ว ไม่ได้เอาไปเลย คืนให้เจ้าของ หมายความว่า เขาจับได้ เขาเอามา เอาคืนได้ เวลาชาตินี้ก็เหมือนกัน เวลาของหายตามได้ ผมช่วยตามนี้ครับ
    สวัสดี
    ที่มา http://palungjit.org/threads/เพียง๑๐๐บาทร่วมบุญปิดสมเด็จพระพุฒาจารย์โต๖๙นิ้ว.548123/
     

แชร์หน้านี้

Loading...