เรื่องจริงอิงนิทาน (พิเศษ)...ตอนที่4ปีฤาษีสอนลูกใต้ร่มไทรงาม

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 21 กันยายน 2009.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    ตัดตอนจากเทป ฤาษีสอนลูกใต้ร่มไทรงาม
    [FONT=AngsanaUPC,AngsanaUPC]ท่านแม่ศรี [/FONT](ท่านพรรณวดีศรีโสภาค) สั่งมาถึงลูกทุกคนว่า ลูกทุกคน พ่อเหนื่อยมาก พ่อเหนื่อยเพื่อลูกเป็นร้อยเป็นพัน ลูกหลายคนเหนื่อยเพื่อพ่อคนเดียว พ่อทำทุกอย่างเพื่อลูก และทำเพื่อทุกคน ความจริงธรรมะของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพอกินพอใช้แล้ว แต่ว่าเราเป็นพ่อเป็นแม่
    เขา ต้องหาเผื่อลูก แม่ขอสั่งลูกทุกคนว่า ธรรมใดขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พ่อแนะนำแล้ว ขอลูกทุกคนจงตั้งอารมณ์นั้นไว้ด้วยดี จงอย่าคิดว่าชีวิตินทรีย์ของพ่อจะอยู่กับลูกตลอดกาลตลอดสมัย เพราะว่าร่างกายเวลานี้มันบุบบับเต็มทีแล้ว เกือบจะทนไม่ไหว จะต้องอาศัยกำลังในเข้าประคับประคองอีกส่วนหนึ่ง แต่กำลังกายอย่างเดียวมันทรงตัวไม่ไหว
    ฉะนั้นขอลูกทุกคน ยังรักพ่อ รกแม่ ก็ขอให้รักษาความดีที่มีอยู่แล้วให้เหมือนเกลือรักษาความเค็ม และจงสร้างความดีตลอดไป ขึ้นชื่อว่า ความดีใดที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแนะนำไว้แล้ว ขอลูกทุกคนจงนำไปประพฤติปฏิบัติ โดยส่วนสุดที่มีความสำคัญ นั่นก็คือ ั
    อย่าเมากายจนเกินไป อย่าเมาชีวิต จงอย่าคิดว่าร่างกายของใครดี ดูร่างกายของเรานี้มันสกปรกโสมม และมีความเสื่อมโทรมไปเป็นธรรมดา ในไม่ช้ามันก็พัง อยู่คนเดียวมีความสุข สุขอย่างมีคนคนเดียวแต่ก็ทุกข์อย่างมีขันธ์ ๕ ฉะนั้นขอลูกทุกคนจงตั้งหน้าตั้งตาปลงจิตคิดว่า อนิจจา วัฎฎสังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ อุปปาทวยธัมมิโน เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็แก่ไปทีละน้อยคือทรุดโทรมไป อุปัตชิตวานิรุตฌันติ เมื่อเกิดขึ้นแล้วในที่สุดก็ตาย ให้เอาใจนึกถึงภาพคนตายว่าเวลานี้คนที่เขาตายมานอนอยู่ข้างหน้าเรา สภาพมันป็นยังไง เตสังวูปสโม สุโข ร่างกายที่เปื่อยเน่าอย่างนี้ ถ้าเรางดไม่มีเสียได้แล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ตรัสว่า จะมีกายแก้วคือพระนิพพาน
    ขอขมวดท้ายว่า ขอลูกทุกคนนึกถึงสภาพนี้ไว้เป็นปกติ อย่ารื่นเริงจนเกินไป และจงอย่าทำจิตใจหดหู่เมื่อกฎของกรรมมาถึง เราจะต้องสู้เพื่อหักล้างในการเกิด เราจะไม่เกิดต่อไป ขอให้ทุกคนจงรักษากำลังใจ อย่างองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “เราจะทรงไว้ซึ่งความดี ไม่มีความเลว ตามกำลังของจิต” ตอนนี้ทุกคนมีจิตเป็นทิพย์ ให้รักษาความเป็นทิพย์ไว้อย่างดียิ่ง ต่อสู้กับอุปสรรคทุกอย่าง เราต้องเป็นลูกที่มีความกตัญญูรู้คุณ เป็นบุคคลที่มีความกตัญญูรู้คุณในบุคคลของชาติ ทั้งคนในชาติเดียวกัน และคนในชาติอื่นถ้าเขามีคุณกับเรา
    เราจะสนองคุณท่านด้วยความดี อารมณ์ใดที่ไม่ดีจงตัดอารมณ์นั้นทิ้งไป รักษากำลังใจไว้เพื่อพระนิพพานโดยเฉพาะ จิตหวนคิดดูว่าไฟร้ายที่จะไหม้ใจของเรา คือ ๑. ราคะ ความรักในระหว่างเพศ ๒. โลภะ ความโลภกอบโกยในทรัพย์สินมากเกินไป ๓.โทสะ อันตรายใหญ่เกิดความเร่าร้อนของใจด้วยอำนาจของความโกรธ ๔. จิตที่มองไม่เห็นที่เรียกว่าโมหะ คือความหลง ทั้งหมดนี้จงอย่ามีในจิตของลูก ท่านลงท้ายว่า..แม่ขอลาก่อน ขอความปรารถนาดีของแม่ จงมีแก่ลูกทุกคน สวัสดี
    [FONT=AngsanaUPC,AngsanaUPC]แม่เขาไปแล้ว ลูกรัก ถ้าจะคุยกันต่อไปอีกก็ไม่จบ พ่อพูไม่จบหรอกลูก จบเสียงพ่อเมื่อไรตายเมื่อนั้น ถ้ายังไม่ตายก็มีเรื่องพูด พ่อคิดว่า ลูกของพ่อซึ่งเป็นคนดีที่คุยกันวันนี้คงจะมีประโยชน์แก่ลูกบ้างไม่มากก็น้อย เอาละลากันเท่านี้นะลูก
    [/FONT]
     
  2. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    ตัดตอนจากเทป ภูกระดึง จังหวัดเลย
    ที่ริมสระอโนดาต หลวงพ่อเล่าให้ลูก ๆ ฟังว่า ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระพุทธกุกุธสันโธ พื้นที่บนภูกระดึงนี้อยู่ต่ำจากระดับน้ำทะเล ๑ โยชน์ และเวลาผ่านมาชั่วพุทธันดรหนึ่งแผ่นดินสูงจากเดิมขึ้นมา ๑ โยชน์ วันต่อมาพวกเราอันมีหลวงพ่อเป็นผู้นำ เดินทางไปนั่งพักคุยกันใต้ต้นไม้อีกแห่งหนึ่งบนภูกระดึง อากาศร้อนเพราะเป็นช่วงเดือนเมษายน แต่ลมพัดเย็นสบายใจของพวกเราเป็นสุข
    หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า เราเกิดบนพื้นที่ภูกระดึงแห่งนี้มา ๓ วาระแล้ว ในสมัยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระโกนาคม เราก็เกิดบนพื้นที่ภูกระดึงแห่งนี้มีเนื้อที่ ๔ หมื่นไร่เศษ มีสภาพเป็นเกาะกลางทะเล ท่านปู่และท่านย่าอินทิราเป็นกษัตริย์ปกครองดินแดนนี้มีลูกชาย ต่อมาได้เป็นพระราชาแทนพระราชบิดาต่อไป สำหรับพระราชาองค์นี้ปรารถนาพระโพธิญาณอยู่ มีน้องชายเป็นพระเจ้าอนุราช มีนามว่า พระเจ้าวชิระราชา ชื่อเล่นว่าเจ้าชายตุ่ม เพราะตอนเป็นเด็กด้วย โตแล้วไม่อ้วน
    ในสมัยนี้เอง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดบนภูกระดึง มาประทับที่พระราชวังซึ่งทำด้วยไม้ธรรมดา ๆ ก็ไม่ใหญ่โตนัก เป็นสถานที่รับรองสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เวลานั้นประชาชนมีศีล ๕ กันเป็นส่วนมาก องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงเทศน์โปรดให้ฟัง…ถึงตอนไหนภาพก็ปรากฏแก่ผู้ฟังด้วยอำนาจพุทธานุภาพ พระองค์ตรัสว่าตอนพวกเราเกิดเป็นเทวดามีรูปร่างยังไง มีวิมาน ทิพย์สมบัติเป็นประการใดก็มีภาพในตอนเราเป็นเทวดาปรากฏทันที เราเคยเกิดเป็นพรหมมาแล้วกี่ชาติแต่ละชาติมีรูปร่างอย่างไร มีวิมาน มีความสุขยังไง ภาพตอนเป็นพรหมก็ปรากฏทันที ทุกคนเห็นภาพตัวเอง ตอนเป็นเทวดา เป็นพรหม มีความสุขด้วยอำนาจของความดี
    ทั้งนี้ ด้วยอำนาจพุทธานุภาพ และพระพุทธองค์ทรงชี้ให้เห็นว่า แล้วเราก็ต้องกลับมาเกิดเป็นคนอีก การเกิดทีไรมันก็มีแต่ความทุกข์ เกิดมาทีไรมันก็แก่ แล้วเกิดมาทีไรมันก็ตาย พระองค์เน้นเรื่องการตาย การเกิดเป็นเทวดาเป็นสุขกว่าเกิดเป็นคน แต่ก็พักทุกข์ชั่วคราว การเกิดเป็นพรหมมีความสุขกว่าเกิดเป็นเทวดา แต่แล้วเราก็กลับมาเกิดเป็นคนอีก ความสุขตอนเป็นเทวดาสู้ความสุขตอนเป็นพรหมไม่ได้ แล้วพระองค์ก็จบลงด้วยความสุขบนพระนิพพาน เป็นสุขที่สุดพระพุทธองค์ทรงรับรอง จบพระธรรมเทศนา หลายคนเป็นพระอริยะเจ้า เพราะศีล ๕ เขาบริสุทธิ์อยู่แล้วเป็นปกติก็เป็นของไม่ยาก
    โดยเฉพาะท่านปู่ท่านย่าเวลาสิ้นชีพตักษัยเป็นพระอริยเจ้าขั้นพระอนาคามีแต่เวลานี้ ท่านไปนิพพานแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่เป็นพระอริยเจ้า แต่หัวหน้าคือพระราชาผู้ปกครองประเทศได้ไตรสรณาคมน์เพราะปรารถนาพระโพธิญาณ และมีบุคคลใกล้ชิดอีกพวกหนึ่งขอติดตามหัวหน้าไปด้วยกัน เลยไม่มีโอกาส ท่านที่เป็นพระอริยเจ้ากราบทูลขอบวชเป็นภิกษุ และภิกษุณี พระพุทธองค์
    ทรงบวชให้ด้วย [FONT=Cordia New,Cordia New]“[/FONT]เอหิภิกขุ อุปสัมปทา เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด[FONT=Cordia New,Cordia New]” [/FONT]จีวรสำเร็จด้วยฤทธิ์ก็มาสวมกาย ศีรษะก็โล้นเป็นภิกขุ นี่ด้วยอำนาจพุทธานุภาพ และบุคคลผู้บวชเคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนามาก่อน
    ตอนหนึ่งของพระธรรมเทศนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ตอนที่เราเกิดเป็นพรหมน่ะไม่ใช่นั่งหลับตาปี๋ เพราะเรามี สังควัตถุ ๔ และมีพรหมวิหาร ๔ เราทรงอารมณ์แบบนี้ได้เป็นปกติแบบสบาย ๆ [FONT=Cordia New,Cordia New]([/FONT]นี่แหละอารมณ์เป็นฌานไม่ใช่ต้องนั่งหลับตาปี๋จึงจะเป็นฌาน[FONT=Cordia New,Cordia New]) [/FONT]พวกเราทำหนักมาในด้าน [FONT=Cordia New,Cordia New]“[/FONT]ทาน[FONT=Cordia New,Cordia New]” [/FONT]ใจก็คิดเสมอในการให้ทาน ก็เป็นทานในจาคานุสติกรรมฐาน จิตทรงอารมณ์แบบนี้จนชินก็เป็นอารมณ์ฌาน [FONT=Cordia New,Cordia New]([/FONT]ฌานก็คืออาการชิน ทำจนชิน[FONT=Cordia New,Cordia New]) [/FONT]ตายก็ไปเป็นพรหมได้
    ตอนนี้หลวงพ่อเน้นว่า [FONT=Cordia New,Cordia New]“[/FONT]พวกเราเดินตามปฏิปทาเดิมของเราคือ ทางสายกลาง อย่าเปลี่ยนทางเดิม การเครียด ไม่ใช่ทางของเรา จะทำให้ช้าลงเพราะเป็นอัตตกิลมถานุโยค แทนที่จะก้าวหน้ากลับไปไม่ถึง[FONT=Cordia New,Cordia New]” [/FONT]
    ขณะนั้นองค์สมเด็จพระทรงธรรม เสด็จมาโปรดอีกว่า [FONT=Cordia New,Cordia New]“[/FONT]ชาตินี้พวกเราควรจะพอกันเสียที เกิดทุกชาติ ก็ตายทุกชาติ เคยเป็นใหญ่ เคยเป็นกษัตริย์นี่ทรัพย์สมบัติมากมายเอาติดมาไม่ได้เลย[FONT=Cordia New,Cordia New]” [/FONT]แล้วพระพุทธองค์ทรงเน้นสรุปว่า ๑. ให้นึกถึงมรณัสสติกรรมฐานไว้ เพราะเป็นสมถะ และตัดสักกายทิฐิไปด้วย เพราะคิดถึงความเสื่อมคือตายเป็นปกติ ๒. มีอนุสติครบ เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ๓. ทรงศีลบริสุทธิ์ ๔. นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์
    พระพุทธองค์ตรัสว่า [FONT=Cordia New,Cordia New]“[/FONT]พวกเราทำ ๔ ข้อนี้ให้ได้ ไปนิพพานหมด ไม่ต้องทำอะไรมากมายไปกว่านี้ เพราะเราทำทุกอย่างมาเต็มหมดแล้ว[FONT=Cordia New,Cordia New]” [/FONT]ในคราวนั้นเมื่อองค์สมเด็จพระทรงธรรมพระพุทธกุกุธสันโธทรงเทศน์จบ หัวหน้าคือกษัตริย์ท่านปรารถนาพระโพธิญาณเข้าขอรับพยากรณ์จากพระพุทธองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระอุตตรสมณโคดม[FONT=Cordia New,Cordia New] [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]([/FONT]ถ้าไม่ลาพุทธภูมิ[FONT=Cordia New,Cordia New]) [/FONT]แต่ในสมัยสมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าทรงพระนามว่า สมเด็จพระสมณโคดม ก็จะลาพุทธภุมิเสียก่อนเพราะจะช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะเวลานั้นมีคนกลุ่มหนึ่งขอติดตามหัวหน้าคือกษัตริย์ คนกลุ่มนั้นจึงยังไม่ไปนิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2009
  3. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2010
  4. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ขออนุโมทนาสาธุธรรม เป็นอย่างสูง ครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p



    ------------------------------------------------------------------------------------------------<O:p</O:p

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๕๐๐ รูป งานวางศิลาฤกษ์ และ เคลื่อนย้ายศาลาการเปรียญหลังเก่า เพื่อนำไปก่อสร้างอุโบสถไม้ เฉลิมพระเกียรติ พระมหาเถรคัณฉ่อง พระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และ ทอดกฐินสามัคคี<O:p</O:p
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี-ปี-2552-ณ-วัดย่านยาว-จ-พิษณุโลก.202385/<O:p</O:p<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...