เรื่องต้องแชร์ : เตือนพายุฤดูร้อน ต้องรู้วิธีป้องกันตัวจากฟ้าผ่า

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 19 มีนาคม 2018.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    จากสภาพสภาพอากาศแปรปรวน อากาศร้อนสลับฝนตก บางพื้นที่อาจมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดฟ้าผ่าขึ้นได้ โดยระหว่างวันที่ 20 – 23 มีนาคม 2561 กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือน ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า


    ดังนั้น ประชาชนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยข้อมูลที่ผ่านๆมา พบว่าผู้บาดเจ็บจากการถูกฟ้าผ่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็ก เยาวชน และเกษตรกรรม สถานที่เกิดเหตุพบว่ากว่าร้อยละ 50 เป็นบริเวณนา ไร่ สวน สำหรับช่วงเวลาเกิดเหตุสูงสุด คือช่วงบ่ายถึงเย็น เวลา 14.00-17.59 น. นอกจากนี้ พบว่ายังมีผู้ถูกฟ้าผ่าอีกหลายรายที่ไม่ได้เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนสาเหตุของการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเกิดจากหัวใจหยุดเต้นด้วยกระแสไฟฟ้าแรงสูง ช็อกทันที แม้บางครั้งฟ้าผ่าไม่ถูกคน แต่ก็เป็นอันตรายได้หากอยู่ใกล้สิ่งที่ฟ้าผ่า กระแสไฟจากสิ่งที่ฟ้าผ่าอาจพุ่งเข้าสู่คนที่อยู่ใกล้ได้หลายทาง เช่น ผ่านเสื้อผ้าหรือตัวที่เปียก อุปกรณ์โลหะที่ใช้ทำงาน เป็นต้น

    0b887e0b895e0b989e0b8ade0b887e0b981e0b88ae0b8a3e0b98c-e0b980e0b895e0b8b7e0b8ade0b899e0b89ee0b8b2.jpg

    การป้องกันอันตรายจากการถูกฟ้าผ่า มีดังนี้


    1.หลีกเลี่ยงอยู่กลางแจ้ง ในขณะฝนตกฟ้าคะนอง หากจำเป็นควรนั่งยอง ย่อตัวให้ต่ำและชิดกับพื้นให้มากที่สุด แต่ไม่ควรนอนราบกับพื้น รวมทั้งหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ต้นไม้สูง เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณา เพราะฟ้าผ่าลงที่สูง

    2.ควรหลบในตัวอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้า จะช่วยป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าได้ แต่ไม่ควรใช้โทรศัพท์ เปิดคอมพิวเตอร์ เล่นอินเตอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ หรือยู่ใกล้ประตู หน้าต่างที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะในขณะฟ้าร้องฟ้าผ่า

    3.หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพราะกระแสไฟจากฟ้าผ่าอาจไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสื่อไฟฟ้าต่างๆ ทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้

    4.กรณีอยู่ในรถ ควรปิดกระจกทุกบาน หากฟ้าผ่าลงรถควรตั้งสติ ไม่ควรออกจากรถโดยเด็ดขาด เพราะกระแสไฟฟ้าที่ไหลตามผิวโลหะของตัวถังรถจะไหลลงสู่พื้นดิน หากออกนอกรถจะมีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้าผ่าสูง ที่สำคัญอย่าสัมผัสส่วนที่เป็นโลหะ
    สำหรับการช่วยเหลือผู้ถูกฟ้าผ่าต้องช่วยอย่างรวดเร็ว โดยประเมินความปลอดภัยของที่เกิดเหตุ และโทรขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร 1669 โดยแจ้งข้อมูลผู้ถูกฟ้าผ่าและสถานที่เกิดเหตุ อาจเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากสถานที่โดนฟ้าผ่าไปยังที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

    ขอบคุณที่มา
    http://www.springnews.co.th/view/215827
     

แชร์หน้านี้

Loading...