เรื่องสั้นจากหนังสือขายหัวเราะ (ขอกะทู้เดียวแต่ขอบอกว่าหลายเรื่อง)

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อาจารย์เตี้ย, 1 เมษายน 2009.

  1. อาจารย์เตี้ย

    อาจารย์เตี้ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +603
    เรื่องแรกครับ จากหนังสือมหาสนุก ปีที่24 ฉบับที่ 935

    ฮีโร่ตัวจริง ผู้แต่ง สิริ รักสกุลนิตย์

    ถ้าความสามารถในการช่วยเหลือมนุษย์ในยามที่ประสบกับวิกฤติต่างๆ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของเหล่าฮีโร่ ผมมั่นใจว่าตัวผมเองมั่นใจว่าเป้นฮีโร่กับเขาด้วยเหมือนกัน

    ผมอาจไม่เก่งเหมือนบรรดาตัวฮีโร่ตัวอื่นๆที่โด่งดัง ผมบินไม่ได้และไม่มีพลังมหาศาลเหมือนซุปเปอร์แมน ไม่สามารถใต่กำแพงได้ ห้อยโหนและพ่นใยได้เหมือนกับไอ้แมงมุม ผมไม่สามรถต่อสู้กับเหล่าร้ายได้ครั้งละเป็นสิบคนเหมือนมนุษย์ค้างคาว ไม่สามารถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้เหมือนกับฮีโร่หลากสีพาวเวอร์เรนเจอร์

    แต่ถึงผมจะไม่มีความสามารถอย่างที่กล่าวมา แต่ผมก็ยังเชื่อว่าผมคือฮีโร่ตัว
    จริง เพราะสามารถช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้มากกว่าบรรดาฮีโร่ทั้งหลาย

    ตอนนี้คงคิดว่าผมคุยโวโอ้อวดหรือไม่ก้เป็นพวกโรคจิต ดูหนังมากเกินไปจนหลงผิด แล้วเอาชุดบ้าๆบอไมใส่ คิดไปเองว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์ฮีโร่อะไรแบบนั้นผมสาบานได้เลยว่าผมไม่ได้บ้า และมีสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์

    ตอนนี้อยากคงรู้แล้วละสิว่าผมเป็นใคร และมีความสามารถอะไรกันแน่น ผมยังไม่เฉลยตอนนี้ดีกว่า ผมอยากให้ลองดูวีรกรรมในความเป็นฮีโร่ของผมเข้าช่วยเหลือผู้คน แล้วค่อยทายกันดูว่าผมเป็นใคร ฮีโร่รายอื่นๆ อาจต้องการสัญญาณ
    ขอความช่วยเหลือ อย่างเช่นมนุษย์ค้างคาว ส่วนซุปเปอร์แมนหรือไอ้แมงมุม
    อาจจะต้องตะโกนร้องเรียกหรือมองเห็นเหตุการณ์ร้าย แต่สำหรับผมไม่จำเป็นเลยสักนิดผมจะรู้อย่างอัตโนมัติว่าใครต้องการความช่วยเหลือ แล้วผมจะรีบเข้าไปช่วยโดยทันที

    เอาละ ผมขอเล่าถึงวีรกรรมที่ผมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก่อนดีกว่า วันนั้นเป็นวันศุกรืที่แสนเศร้าเพราะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หลายคนต้องถูเลิกจ้างอย่างกะทันหัน หลายคนก็พอทำใจได้และเตรียมหางออกไว้แล้วแต่มีบางคนที่ยังซับสนและซึ่งไร้หนทาง

    และผมกำลังจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเดินออกจากที่ทำงานหลังจากได้รับข่าวร้าย เขาอายุราว30ปี แต่ตัวเหมือนหนุ่มออฟฟิตทั่วไปแต่ต่างกันตรงเสือเซิ้ตสีขาวของเขาดูยับย่น เนกไทถุกปลดหลุม ผมเผ้าดูยุ่งเหยิง แต่ที่เห็นได้ชัดคือสีหน้าเขาเคร่งเครียดเหมือนคนแบบกทุกขืมากมายไว้ในใจ หน้าผากมีลิ้วลอยแก่กว่าวัยอัยควร คิ้วแทบขมวดชนกัน ริมฝีปากเม้นสนิท เขาเดินก้มหน้าเก้าเท้าอย่างไร้สิ้นเรี่ยวแรงเหมือนกับหุ่นยนต์ที่แบตเตอร์รี่เริ่มอ่อนแรง เมื่อถึงที่พักเขาก้เดินไปหยิบน้ำจากตู้เย็นก่อนจะเดินไปนั่ง

    "หยุดก่อน"

    ผมทำให้เขาชะงัก

    "คุณต้องฟังผมก่อน"

    ไม่ ! ผมไม่อยากฟัง อย่างมายุ่งกับผม"

    "แต่ผมก็ต้องยุ่งกับคุณ เพราะผมรู้ว่าคุณวางแผนอะไรอยู่ คุณกำลังจะกินยาฆ่าตัวตาย"

    คำพูดของผมต้องทำให้เขาหยุดกึกดดยทันที

    ถึงตอนนี้คุณคงรู้แล้วว่าความสามารถพิเศษฮีโร่อย่างผมคืออะไร ใช่........ผมอ่าน ความคิดอ่านใจของมนุษย์ได้ ผมรู้ว่าเขาคิดอะไร รู้สึกอย่างไร สภาพจิตตอนนี้เป็นแบบไหน และกำลังวางแผนที่จะทำอะไร

    สีหน้าของเขาเริ่มสับสน เขาหยิบถุงยาออกมา แน่นนอนผมรู้ว่าข้างในมียานอนหลับหลายสิบเม็ดที่อาจจะฆ่าเขาได้ถ้าเขากินมันรวดเดียวหมด

    "คุณคิดดีแล้วหรือที่จะฆ่าตัวตาย"

    ผมเริ่มกล่อมให้เขาเปลี่ยนใจ

    "ใช่...ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ผมเพิ่มถูกไล่ออก บริษัทบอกล่วงหน้าว่าจำเป็นปลดลดพนักงานโดยการไล่บางคนออกผมนึกแล้วว่าผมต้องโดนแจ็กพอต ตอนนี้ผมหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ผมยังมีภาระอีกเยอะ รถยังผ่อนไม่หมด ผมต้องเก็บเงินไว้แต่กับแฟนสาวที่คบกันมาหลายปี ถ้าผมตกงานเธอคงทิ้งผมไปแน่นๆ"

    "ใครบอกว่าคุณไม่เหลืออะไร ลองคิดดูให้ดี ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้ทำงานเป็นพนักงานบริษัท แต่คุรก้มีความสามารถอย่างอื่นที่สามารถนำไปสร้างงานเองได้คุณทำอาหารเก่งไม่ใช่เหรอ โดยเฉพาะข้าวมันไก่ คุณจำไม่ได้เหรอว่าทุกคนที่ได้วิมข้าวมันไก่ของคุณ ต่างก็ยุให้คุณไปเปิดร้านทั้งนั้น "

    เป็นไงบ้างครับคงแปลกใจว่าทำไมผมถึงรู้เรื่องราวของเขาไปหมดทุกอย่างก็ผมบอกแล้วว่าผมคือฮีโร่ตัวจริง

    "แต่ผมไม่มีเงินทุน จะทำธุรกิจมันต้องมีเงินลงทุน ผมจะไปเอาเงินมาจากไหน"
    เขาแย้งผม

    "ใครบอกว่าคุณไม่มี เงินลงทุน ลองคิดดูให้ดี ที่รถที่คุณผ่อนยังไม่หมดนั่นไงเอามันไปขายแล้วเอาเงินมาลงทุน มีเงินแล้วค่อยซื้อรถคันใหม่ก้ได้"

    ถ้าผมออกมาเป็นผมค้าขายข้าวมันไก่ แฟนผมคงรับไม่ได้ เธอชอบผู้ชายดูดีแต่ตัวเนี้ยบ ที่สำคัญต้องมีรถขับ"

    "โธ่เอ๊ย เรื่องนี้คุณน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว คุณลองย้อนคิดดูว่าตั้งแต่คบกับผู้หญิงคนนี้ คุณมีความทุกข์หรือความสุขมากกว่ากัน"

    เขาใช้ความคิดค่อนข้างนาน ก่อนจะให้คำตอบ

    "น่าจะทุกข์มากกว่าสุขนะ เธอเป็นคนเอาแต่ใจตนเอง ไม่ค่อยเหตุผล แถมยังใช้เงินเก่ง เราทะเลาะกันบ่อยครั้ง เธอก้แสนงอนให้ผมง้อตามอยู่เรื่อย"

    "เห็นไหมละ คุณจะหลอกตัวเองไปทำไมว่ารักเธอ เลิกกับเอแล้วหาผู้หญิงคนคนใหม่ดีกว่าที่เหมาะกับตัวคุณดีกว่า"

    เขาเริ่มคิด และใบหน้าที่เคยเคร่งเครียดเริ่มมีรอยยิ้มปรากฎเป็นรอยยิ้มแห่งความหวัง เขาล้วงไปในกะเป๋าก่อนจะดึงถุงที่ใส่ยานนหลับออกมาและทิ้งลงถังขยะ


    เอาละครับเรื่องราวกำลังเข้มข้นเขาจะช่วยคนนี้ได้หรือไมจะเป็นไงต่อไปยังมีคนช่วยอีกหลายคนโปรดติดตามอ่านในตอนต่อไป เนื่องจากจอมมารง่วงแล้วเด๋วจอมมารมาพิมให้อ่านใหม่ในตอนหน้าปู่เสื่อรออ่านได้เลยครับว่าแต่จะมีใครมาสนใจอ่านไหมหนอ 555555555555+

    โปรดติดตามตอนต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...