เรื่องเล่าจากในวัง....>>>>

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย naron, 5 กรกฎาคม 2011.

  1. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    [​IMG]

    เรื่อง : มณีเมขลากับแอนเจลล่า

    สมิทธ ธรรมสโรช
    อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

    .....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หั<wbr>​ว ทรงศึกษาลักษณะอากาศโดยใช้ข้อมู<wbr>​ลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเ<wbr>​กล้าฯ ถวายทุกวัน ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่พ<wbr>​ระองค์ทรงเลือกเองจากระบบสื่อสา<wbr>​รต่างๆ....

    .....ในหลายครั้งที่พระองค์ทรงม<wbr>​ีพระราชวินิจฉัยในลักษณะแตกต่าง<wbr>​ออกไป และผลก็ออกมาตามพระราชวินิจฉัย
    พระองค์ท่านก็จะทรงมีพระราชดำรั<wbr>​สในทางขำขันเพื่อไม่ให้เราเสียใ<wbr>​จ เช่น การไม่เข้ามาของพายุ Angela ในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ทรงมีรับสั่งว่า

    " ไม่เป็นไร ลูกนี้ไม่เข้า ฉันให้นางเมขลาพาไปที่เขาพระสุเ<wbr>​มรุแล้ว "

    ที่มา : บทความ " พระปรีชาสามารถในกิจการสื่อสารอ<wbr>​ุตุนิยมวิทยา " เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์นายสมิท<wbr>​ธ ธรรมสโรช ในหนังสือ " เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ<wbr>​เจ้าอยู่หัว ด้านการสื่อสาร "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2011
  2. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้า<wbr>​อยู่หัว

    [​IMG]

    “...คำว่า พอเพียง มีความหมายอีกอย่างหนึ่ง มีความหมายกว้างออกไปอีกไม่ได้ห<wbr>​มายถึงการมีพอสำหรับใช้ของเท่าน<wbr>​ั้น แต่มีความหมายว่าพอมีพอกิน...พอ<wbr>​มีพอกินนี้ก็แปลว่า เศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง...”

    “...พอเพียงนี้ก็หมายความว่า มีกินมีอยู่ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่หรูหราก็ได้ แต่ว่าพอแม้บางอย่างอาจจะดูฟุ่ม<wbr>​เฟือย แต่ถ้าทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ก็สมควรที่จะทำ สมควร ที่จะปฏิบัติ...”

    “...Self-Sufficiency นั้น หมายความว่า ผลิตอะไร มีพอที่จะใช้ไม่ต้องไปขอซื้อคนอ<wbr>​ื่น อยู่ได้ด้วยตนเอง...”

    “...คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียน<wbr>​คนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิด อันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจมีความคิดว<wbr>​่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณไม่สุดโต่งไม่โลภอย่างม<wbr>​าก คนเราก็อยู่เป็นสุข...”


    พระราชทานเนื่องในโอกาสวันเฉลิม<wbr>​พระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต
    วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • king.jpg
      king.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.7 KB
      เปิดดู:
      3,841
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2011
  3. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800

    [​IMG]

    เรื่อง : หลานรัง


    .....ครั้ง หนึ่งในภาคใต้เช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าติดตามคุณหญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ (ปัจจุบันเป็นท่านผู้หญิง) ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระท<wbr>​รวงคมนาคม ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนา<wbr>​งเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ค่ายทหารบ้านทอน จ.นราธิวาส พระองค์มีพระราชดำรัสกับคุณหญิงหลายเรื่อง<wbr>​ ได้รับสั่งถึงสภาพทางหลวงหลายสายในภาคใต้ ซึ่งคุณหญิงได้ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้กราบบังค<wbr>​มทูลถวายรายงาน เมื่อทรงถามถึงสภาพทางสาย อ.รามัน - ดโละหะลอ - อ.รือเสาะ

    ข้าพเจ้ากราบบังคมทูลว่ายังมีสภาพทางเป็นท<wbr>​างก่อสร้าง และได้จัดให้เข้าอยู่ในโครงการเงินกู้ธนาค<wbr>​ารโลกขณะนี้ได้ลงลูกรังไว้แล้ว รถยนต์วิ่งผ่านได้ตลอดปี พระองค์รับสั่งว่า

    " เห็นมีแต่หลานรัง "

    ครั้งแรกข้าพเจ้ายังงงอยู่ นึกไม่ออกว่าคำว่าหลานรังคืออะไร แต่ก็คิดได้ทันทีนั้นว่า
    แม่รังหมายถึงลูกรังก้อนใหญ่ และลูกรังนั้นมีขนาดเล็กขนาดต่างๆ คละกัน
    ดังนั้น คำว่าหลานรังคงหมายถึงลูกรังที่มีขนาดละเอ<wbr>​ียดมากนั่นเอง...ทางคงจะลื่นมากหรือติดหล่<wbr>​มในเวลาฝนตก...

    ที่มา : บทความ " พระมหาราชานักปกครอง "
    โดย เฉลียว วัชรพุกก์
    อดีตอธิบดีกรมทางหลวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • family-3.jpg
      family-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.9 KB
      เปิดดู:
      3,349
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2011
  4. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800

    [​IMG]

    เรื่อง : เบื้องหลังความสำเร็จ

    .....ในหลวงทรงแบดมินตันได้ดีมา<wbr>​กทีเดียว โดยเฉพาะลูกโด่งสี่สิบห้าองศา ลูกตบของท่านดีมาก รุนแรง ระหว่างที่ไปถวายทรงแบดมินตันแร<wbr>​กๆ พระองค์ท่านจะทรงซักถามรายละเอี<wbr>​ยดอย่างมากมาย เช่น ทำไมลูกแบคแฮนด์ถึงตีไม่แรงเท่า<wbr>​กับโฟร์แฮนด์ พอแข่งขันเสร็จ ท่านก็พระราชทานเลี้ยงก๋วยเตี๋ย<wbr>​วหาบ ที่สั่งมาจากถนนหลานหลวง...ท่าน<wbr>​ก็เสวยก๋วยเตี๋ยวหาบแบบสามัญชนธ<wbr>​รรมดาด้วย ไม่ถือพระองค์เลย...

    .....คู่แข่งคนสำคัญของผู้เขียน<wbr>​ในยุคบุกเบิกเข้าสู่ระดับโลก ได้แก่นักแบดมินตันจากเดนมาร์กแ<wbr>​ละอินโดนีเซีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงร<wbr>​ู้จักนักแบดมินตันเหล่านี้ดีทุก<wbr>​คน

    .....ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านรับส<wbr>​ั่งถามว่า หนักใจไหมที่เล่นกับเออร์แลนด์ คอปส์ และที่หนักใจนั้นหนักใจในการเล่นแบบไหนของคอปส์ จำได้ว่ากราบบังคมทูลพระองค์ท่า<wbr>​นว่า เออร์แลนด์ คอปส์ มีลูกตบที่รุนแรง ที่เสียแต้มให้คอปส์ ส่วนมากเป็นเพราะรับลูกตบที่หนั<wbr>​กหน่วงไม่ได้และคอปส์ยังมีพละกำลังมาก อึดและอดทน ยิ่งเล่นก็ยิ่งมีกำลังมาก ยังจดจำใส่เกล้าใส่กระหม่อมตราบ<wbr>​เท่าทุกวันนี้

    .....พระองค์ท่านรับสั่งว่า " เมื่อคอปส์มีลูกตบที่หนักและรุน<wbr>​แรง สิ่งที่ควรจะทำคือ หลีกเลี่ยงอย่าให้คอปส์ตบลูกได้<wbr>​บ่อย หรือใช้ลูกตบได้ถนัด ควรดึงคอปส์มาเล่นลูกหน้าให้มาก<wbr>​ เมื่อเขาพะวงบริเวณหน้าตาข่าย จะทำให้เขาถอยตบลูกไม่ถนัด "

    .....และนั่นคือกลยุทธ์ที่ผู้เข<wbr>​ียนใช้ปราบมือแชมเปี้ยนโลกชาวเด<wbr>​นมาร์กผู้นี้ ในการป้องกันตำแหน่งแชมเปี้ยนชา<wbr>​ยเดี่ยวออลมาลายัน ที่เกาะสิงคโปร์เมื่อ พ.ศ. 2502...

    ที่มา : บทสัมภาษณ์ในสารคดีโทรทัศน์ " พ่อของแผ่นดิน " และบทความ " บรมครูแห่งแบดมินตัน "
    โดย ศาสตราจารย์(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน
    อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย

    หนังสือ " ราชภัฎเฉลิมพระเกียรติ "
    เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัต<wbr>​ิครบ ๕๐ ปี พ.ศ. ๒๕๓๙
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2011
  5. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    [​IMG]

    "ในบ้านเมืองเราทุกวันนี้ มีเสียงกล่าวกันว่า ความคิดจิตใจของคนเปลี่ยนแปลงไป<wbr>​ในทางที่เสื่อม ความประพฤติที่เป็นความทุจริตหล<wbr>​ายอย่างมีท่าทีจะกลายเป็นสิ่งที<wbr>​่คนทั่วไปพากันยอมรับ และสมยอมให้กระทำกันได้เป็นธรรม<wbr>​ดา สภาพการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้วิถีช<wbr>​ีวิตของแต่ละคนมืดมัวลงไป เป็นปัญหาใหญ่ที่เหมือนกระแสคลื่<wbr>​่นอันไหลบ่าเข้ามาท่วมทั่วไปหมด<wbr>​ จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการฝืนคลื่น<wbr>​ที่กล่าวนั้น
    ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใด ๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่า ชั่วเสื่อมเราต้องฝืนต้องต้านคว<wbr>​ามคิด และความประพฤติทุกอย่าง ที่รู้สึกว่าขัดต่อธรรมะ เราต้องกล้า และบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เรา<wbr>​ทราบว่า เป็นความดีเป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ให้ได้จร<wbr>​ิง ๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้น ๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เ<wbr>​สื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป<wbr>​็นลำดับ"

    พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสพระ​ราชทานเพื่ออัญเชิญไปอ่านในพิธี​เปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่​วประเทศ ครั้งที่ ๑๒ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๓
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • n14.jpg
      n14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.6 KB
      เปิดดู:
      3,655
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2011
  6. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    [​IMG]

    ในหลวงกับสัญญาณไฟแดง


    วันหนึ่งมีคนสงสัยว่า รถนายกฯทำไมต้องติดไฟแดง.... เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน บนถนนแห่งหนึ่งในกทม มีรถยี่ห้อโตโยต้าสีดำคันหนึ่ง ได้ขับไปบนถนนเส้นนั้นโดยในรถคั<wbr>​นดังกล่าว มีเพียงชายผู้หนึ่งที่กำลังขับร<wbr>​ถอยู่เพียงคนเดียวและในระหว่างท<wbr>​างที่ขับไปนั้น ชายดังกล่าวได้จอดรถแวะข้างทางเ<wbr>​พื่อซื้อกาแฟ 1 ถุง และได้ออกรถไปจนกระทั่งขับมาถึง<wbr>​สี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง ชายดังกล่าวก็ได้จอดติดไฟแดงอยู<wbr>​่ จนมีรถตำรวจคันหนึ่งซึ่งขับนำรถ<wbr>​เบนซ์มาได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้<wbr>​นั้นจอดติดไฟแดงอยู่นั้นให้ถอยไ<wbr>​ป และรถตำรวจยังได้พูดผ่านไซเรนว่<wbr>​า "เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรีให้รถของช<wbr>​ายดังกล่าวหลบไป" แต่รถของชายผู้นั้นก็ไม่หลบให้ จนกระทั่งตำรวจได้ลงจากรถมาที่ร<wbr>​ถของชายดังกล่าวและเรียกให้ชายผ<wbr>​ู้นั้นลงจากรถ พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ ตำรวจได้เห็นชายคนนั้นถึงกลับเป<wbr>​็นลมล้มทั้งยืน สร้างความตกใจให้แก่ตำรวจอีกคนท<wbr>​ี่นั่งอยู่ในรถ จนต้องวิ่งลงมาดูพร้อมกับรัฐมนต<wbr>​รี พอตำรวจและรัฐมนตรีมาถึง ทั้งคู่ได้เห็นชายดังกล่าว ทั้งตำรวจและรัฐมนตรีได้นั่งลงไ<wbr>​ปกับพื้นทันที เสมือนกับว่าขาทั้ง 2 ข้างได้อ่อนแรงลงไปทันใด และได้เงยหน้ามองดูชายซึ่งยืนอย<wbr>​ู่ข้างหน้าตนด้วยอาการตัวสั่น ชายคนนั้นที่ทั้งคู่ได้เห็นเป็น<wbr>​ชายที่มีรูปอยู่ บนธนบัตร ซึ่งก็คือ " ในหลวงองค์ปัจจุบัน " ในหลวงได้ทรงตรัสถามรัฐมนตรีและ<wbr>​ตำรวจติดตามว่า
    "พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกลับจ
    <wbr>​ะต้องฝ่าไฟแดง ข้าพเจ้ายังรอติดไฟแดงได้เลย" รัฐมนตรีไม่ตอบได้แต่นั่ง ตัวสั่นและกราบลงบนพระบาทและในห<wbr>​ลวงก็ได้ทรงขึ้นรถ ตำรวจที่นำขบวนรัฐมนตรีมานั้นก็<wbr>​ได้ทูลว่า "ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระ<wbr>​ที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้<wbr>​าข้า" ในหลวงทรงตรัสว่า "เราไม่ต้องให้ท่านมานำขบวนรถเร<wbr>​าหรอก เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถของท่านรัฐมนตรีเถอะ"<wbr>​ และในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจาก<wbr>​สี่แยกนั้น โดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไปแต่อย่าง<wbr>​ใดเลย ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2011
  7. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800

    “วาเด็ง ปูเต๊ะ” พระสหายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอ
    <wbr>ยู่หัว

    [​IMG]

    กิ่งอ้อ เล่าฮง
    ไพรัช มิ่งขวัญ
    ศูนย์ข่าวอิศรา,สมาคมนักข่าวนัก<wbr>หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

    “เป็นไปได้อย่างไรที่คนสามจังหว<wbr>ัดจะอยู่กันอย่างแคบๆ ประเทศเปรียบเหมือนรั้วบ้าน อยู่ที่กว้างๆ กับอยู่ที่แคบๆ อย่างไหนดีกว่ากัน”

    ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้วขณะที่ “วาเด็ง ปูเต๊ะ” ผู้เฒ่าวัย 70 ปีแห่งบ้านบาเลาะ ต. ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการดูแลต<wbr>้นทุเรียนและลองกองในสวน ช่วงเวลาใกล้ค่ำได้เห็นคนกลุ่มห<wbr>นึ่งเดินเข้ามา หนึ่งในจำนวนนั้นได้กวักมือเรีย<wbr>กให้เข้าไปหา แต่ตัวผู้เฒ่าเองกลับรู้สึกกล้า<wbr>ๆ กลัวๆ ไม่กล้าเข้าใกล้

    ผู้เฒ่าเห็นทหารกลุ่มหนึ่งเดินเ<wbr>ข้ามา และบอกกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็<wbr>จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรความเ<wbr>ป็นไปได้ในการสร้างอาคารกั้นน้ำ<wbr>ที่คลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี

    “ตอนนั้นเป๊าะทราบแล้วว่าเป็นใน<wbr>หลวง แต่จะเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่กล้า เพราะว่านุ่งโสร่งตัวเดียว ไม่ได้สวมเสื้อ พอเข้าไปใกล้ๆ ในหลวงก็บอกว่า จะมาขุดคลองชลประทานให้ พอได้ยินอย่างนั้น เป๊าะก็ดีใจมาก คุยกันเยอะ ท่านถามว่าถ้าขุดคลองสายทุ่งเค็<wbr>จนี้จะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน เป๊าะบอกท่านว่าคลองเส้นนี้มีที<wbr>่ดิน ติดเขต ต.แป้น ทางเหนือขึ้นไปสุดที่ อ.ศรีสาคร ในหลวงถามต่อว่า ถ้าไปออกทะเลจะมีกี่เกาะ เป๊าะก็ตอบท่านไปว่ามี 4 เกาะ ท่านก็ชมว่า เก่งสามารถจำทุกที่ที่ผ่านไปได้<wbr> แล้วท่านก็เปิดดูแผนที่ที่นำมาด<wbr>้วย แล้วบอกว่า เป๊าะรู้จริง ไม่โกหก ทุกสิ่งที่เป๊าะบอกมีอยู่ในแผนท<wbr>ี่ของพระองค์แล้ว” เป๊าะเด็งในวัย 90 ปีทบทวนความทรงจำด้วยแววตาสดชื่<wbr>น

    “ในหลวงคุยกับเป๊าะเป็นภาษามลาย<wbr>ู ท่านพูดมลายูสำเนียงไทรบุรี คุยกันก็เข้าใจเลย พอเจอกันบ่อยๆ คุยกัน มีความเห็นตรงกัน ท่านก็เลยรับเป๊าะเป็นพระสหาย เป๊าะบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่บอกท่านไป ทั้งหมดเป็นความจริง พูดโกหกไม่ได้จะเป็นบาป ” เป๊าะเด็๋ง กล่าว

    หลังจากได้กราบบังคมทูลเส้นทางข<wbr>ุดคลองในโครงการพระราชดำริแล้ว ในครั้งนั้นผู้เฒ่าแห่งบ้านเบาะ<wbr>เลาะ ยังได้ถวายที่ดินเพื่อดำเนินโคร<wbr>งการพระราชดำริอีกด้วย และหลังขุดคลองชลประทานดังกล่าว<wbr>เสร็จแล้ว ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า<wbr>อยู่หัว เสด็จฯ มาทรงงานและประทับแปรพระราชฐานท<wbr>ี่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส เป๊าะเด็งก็จะไปเข้าเฝ้าฯ แทบทุกครั้ง หรือบางครั้งถ้าหากคิดถึงพระองค<wbr>์มากๆ เป๊าะเด็งก็จะไปขอเข้าเฝ้าถึงพร<wbr>ะราชวังสวนจิตรลดา

    “เวลาถึงหน้าทุเรียน ลองกอง จำปาดะ ก็จะนึกถึงในหลวงตลอด ถ้าท่านมาที่นี่ ก็เอาไปถวายที่นี่ บางปีท่านไม่ได้มา เป็าะก็ส่งผลไม้ไปถวายท่าน ทางไปรษณีย์ ส่งอีเอ็มเอสไปเลย เวลาไปส่ง เป๊าะเขียนหนังสือไม่เป็น ก็บอกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ว่า จะส่งของไปให้ในหลวงที่สวนจิตร เขาก็จัดการให้” เป๊าะเด็ง เล่าด้วยภาษามลายูผ่านล่าม

    เป๊าะเด็ง บอกว่า ผลไม้ที่ส่งไปถวายพระบาทสมเด็จพ<wbr>ระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถนั้นถึงพระหัตถ์<wbr>เสมอ เพราะทุกครั้งที่มีโอกาสได้เข้า<wbr>เฝ้า ทั้งสองพระองค์มักจะมีรับสั่งว่<wbr>า “ขอบใจ ผลไม้ที่ส่งไปให้ ได้รับแล้ว”

    เมื่อเร็วๆ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จโดยรถยน<wbr>ต์พระที่นั่งมาเยี่ยมเยียนราษฎร<wbr>ที่บ้านละเวง เป๊าะเด็งก็ได้ไปเข้าเฝ้า

    “บอกท่านว่า จะเอาเงาะ ลองกองมาให้ ท่านก็บอกว่า ไม่เอา ปีนี้ผลไม้ราคาไม่ดี ไม่มีคนเข้ามาซื้อ ลำบาก ให้เป๊าะเก็บไว้ให้ลูกหลานกินเถ
    <wbr>อะ เมื่อวันก่อนในหลวงก็ฝากอินทผลั<wbr>มมาให้ เป๊าะเองเวลามีผลไม้ดีๆ จะคิดถึงท่านมากๆ ลูกๆ ของท่านทุกคนเวลามา เป๊าะก็ได้ไปหา ทุกคนพูดภาษามลายูได้”

    เป็าะเด็ง เล่าว่า เสียค่าส่งผลไม้ไปถวายพระบาทสมเ<wbr>ด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งละ 1,000 กว่าบาท เป๊าะเด็งอยากให้พระบาทสมเด็จพร<wbr>ะเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้<wbr>าฯพระบรมราชินีนาถได้เสวยผลไม้ท<wbr>ี่ส่งไปถวาย เช่นเดียวกับที่ดินที่ถวายไป เป็าะเด็งก็ไม่เคยคิดเสียดายแม้<wbr>แต่น้อย และหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห<wbr>ัวมีพระประสงค์จะใช้ประโยชน์ที่<wbr>บริเวณไหนที่เป็นของเป๊าะเด็งแล<wbr>้ว เป๊าะเด็งพร้อมที่จะทูลเกล้าฯถว<wbr>ายให้ทั้งหมด

    “เมื่อในหลวงมาที่ อ.แม่ลานครั้งล่าสุด พอเจอเป๊าะก็เข้าไปกอดเลยไม่ได้<wbr>พูดอะไรกับท่าน ท่านรู้นิสัยเป๊าะดีว่าไม่ค่อยพ<wbr>ูดอะไร ท่านก็เรียกเป๊าะ”

    “คิดถึงท่านที่สุดเลย” เป๊าะเด็ง บอกผ่านล่ามเมื่อถูกถามว่ารู้สึ<wbr>กอย่างไรหากไม่ได้เจอพระบาทสมเด<wbr>็จพระเจ้าอยู่หัวนานๆ

    เป๊าะเด็ง ยังกล่าวถึงปัญหาความไม่สงบที่เ<wbr>กิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแ<wbr>ดนภาคใต้ว่า

    “ไม่รู้ว่าโคลนมาจากไหน” เพราะที่ผ่านมาไทยพุทธและมุสลิม<wbr>อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ชาวบ้านด้วยกันเองไม่เคยมีความข<wbr>ัดแย้งแบ่งแยก แต่ปัญหานี้ทำให้ชาวบ้านเดือดร้<wbr>อน ออกไปทำมาหากินไม่ได้ ไม่กล้าออกไปทำงาน ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์รู้สึกไม<wbr>่สบายใจเลย เพราะศาสนาไม่เคยทำให้เกิดความแ<wbr>ตกต่างหรือทำให้เกิดการแตกแยกกั<wbr>น

    แม้จะมีปัญหาความไม่สงบเกิดขึ้น<wbr>อยู่ทั่วไปพื้นที่ต่างๆ แต่สำหรับความรู้สึกของชาวไทยมุ<wbr>สลิมอย่างเป๊าะเด็ง ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เคยมีความรู้สึกแบ่งฝักฝ่ายแ<wbr>ละความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านทั<wbr>้งไทยพุทธและมุสลิม ในหมู่บ้านโดยเฉพาะกับคนรุ่นเก่<wbr>าๆ ยังเหมือนเดิม

    “คนที่ไม่หวังดี มีน้อย ถ้าเป็นผู้ไม่หวังดีจริงๆ เขาจะเข้าไปอยู่ในป่า แต่อยู่หลายๆ วันจะอยู่ได้ยังไง เป๊าะสงสัยจะเป็นคนอื่น คนก่อการร้ายเดี๋ยวนี้ไม่ได้อยู<wbr>่ในป่าเหมือนก่อน แต่มักจะอยู่ในตลาดไม่รู้ว่าเป็<wbr>นแผนการของใคร ปัญหานี้ชาวบ้านหนักใจแต่ในหลวง<wbr>คงหนักใจยิ่งกว่าพวกเราอีก เพราะประชาชนของพระองค์เดือดร้อ<wbr>น”

    เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับปัญหาท<wbr>ี่รัฐอ้างว่าความไม่สงบที่เกิดข<wbr>ึ้นเพราะมีกลุ่มคนที่ต้องการแบ่<wbr>งแยกดินแดน และมีการเรียกร้องเอารัฐปัตตานี<wbr>กลับคืน เป๊าะเด็ง กล่าวว่าการนำรัฐปัตตานีคืนจะเป<wbr>็นไปได้อย่างไรที่คนสามจังหวัดจ<wbr>ะอยู่กันอย่างแคบๆ ประเทศเปรียบเหมือนรั้วบ้าน อยู่ที่กว้างๆ กับอยู่ที่แคบๆ อย่างไหนดีกว่ากัน ต้องถามชาวบ้านว่าต้องการแบบไหน<wbr>ดี

    “สิ่งพูดออกมาเป็นความจริงทั้งน<wbr>ั้น เมื่อก่อนเราจะไปไหนมาไหนไม่ต้อ<wbr>งเป็นห่วง แต่ทุกวันนี้จะออกไปไหนก็ไม่สบา<wbr>ยใจ เป๊าะก็กลัว ชาวบ้านแถวนี้ก็กลัวไม่กล้าออกไ<wbr>ปไหน กลัวเขาซุ่มอยู่ในป่า” เป๊าะเด็ง กล่าว

    เมื่อถามว่าเขาที่ว่านี้เป็นใคร<wbr>? คำตอบสั้นๆ ที่ได้รับจากผู้เฒ่าใจดีคนนี้คื<wbr>อ

    “ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ารู้ก็จะไปบอกในหลวง”

    “ทุกคนรู้จักลุงวาเด็ง” อภิรักษ์ สะมะแอ นายอำเภอสายบุรีกล่าว

    : “ลุงวาเด็งเป็นที่รู้จักของชาวบ<wbr>้านและข้าราชการใน ต.ปะเสยะวอดี เพราะเป็นผู้ถวายที่ดินตามโครงก<wbr>ารพัฒนาพรุแฆแฆ เพื่อขุดคลองชลประทาน เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ<wbr>้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินในปี<wbr> 2535

    ลุงเป็นพระสหายของในหลวงจริงๆ ทุกพระองค์ที่เสด็จฯ แปรพระราชฐานมาที่นราธิวาส จะเชิญลุงวาเด็งเข้าเฝ้าทุกครั้<wbr>ง เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ท่านองคมนตรีพลากร สุวรรณรัตน์ ได้นำอินทผลัมพระราชทานจากในหลว<wbr>งไปมอบให้ลุงวาเด็งที่บ้าน แกจะเป็นห่วงในหลวงมากๆ เวลาหน้าผลไม้ก็จะส่งผลไม้อีเอ็<wbr>มเอสทางไปรษณีย์ไปถวายในหลวงทุก<wbr>ปี ลุงผูกพันกับในหลวงมากๆ ตอนที่ทราบข่าวว่าคุณพุ่มถึงแก่<wbr>อสัญกรรม ก็อยากจะไปเฝ้าในหลวง แต่ก็ไม่ได้ไป

    ลุงวาเด็งเป็นคนแก่ที่มีอัธยาศร<wbr>ัยไมตรีดี เป็นคนน่ารักไม่เป็นพิษเป็นภัยก<wbr>ับใคร เมื่อตอนที่สมเด็จพระเทพรัตนราช<wbr>สุดาฯ เสด็จฯ มาประทับที่พระตำหนักทักษิณราชน<wbr>ิเวศน์ ลุงก็ได้มีโอกาสไปเข้าเฝ้า”

    “พระสหาย”

    เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เ<wbr>สด็จพระราชดำเนินไปโครงการพัฒนา<wbr>พรุแฆแฆ อ.สายบุรี จ.นราธิวาส ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ป<wbr>่าเสื่อมโทรมขนาดใหญ่ใช้ประโยชน<wbr>์ไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงม<wbr>ีพระราชดำรัสให้ศึกษาหาวิธีระบา<wbr>ยน้ำในที่ลุ่มยามน้ำหลากและเก็บ<wbr>กักไว้ใช้ยามหน้าแล้ง ชาวบ้านจะได้มีน้ำใช้เพื่อการเพ<wbr>าะปลูก และเพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนจึงเ<wbr>สด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรด้<wbr>วยพระองค์เอง ณ บ้านเจาะใบ ต.แป้น อ.สายบุรี และได้ประทับทอดพระเนตรพรุแฆแฆด<wbr>้านตะวันตก และทรงมีพระราชดำริกับชาวบ้านเป<wbr>็นเวลานาน

    จนกระทั่งได้ข้อมูลใหม่จากชาวบ้<wbr>านจึงสนพระทัยที่จะเสด็จฯไปทอดพ<wbr>ระเนตรความเป็นไปได้ในการสร้างอ<wbr>าคารกั้นน้ำที่คลองน้ำจืด บ้านทุ่งเค็จ แต่ติดด้วยเวลาเย็นแล้ว ในขณะที่ไม่ได้เตรียมเส้นทางไว้<wbr>รอรับเสด็จล่วงหน้า

    ที่สำคัญเป็นเส้นทางทุรกันดาร และรถยนต์ยังเข้าไปไม่ถึงจุดหมา<wbr>ย เจ้าหน้าที่จึงกราบบังคมทูลว่าเ<wbr>สด็จฯ ไปไม่ได้

    “ไปได้” พระราชดำรัสเพียงสั้นๆ รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนตัวลึกเ<wbr>ข้าไปในหมู่บ้านท่ามกลางฝุ่นฟุ้<wbr>งกระจาย จนรถคันหลังเกือบจะไม่เห็นรถคัน<wbr>หน้า เมื่อสิ้นสุดเส้นทางรถยนต์จึงเส<wbr>ด็จฯ ตามทางเท้าเล็กๆ สองข้างรกชัฎต่อไปอีกไกลด้วยพระ<wbr>บาท เมื่อถึงชายคลองน้ำจืดบ้านทุ่งเ<wbr>ค็จนั้นตะวันลับขอบฟ้าพอดี ทรงพิจารณาแผนที่ด้วยแสงจากไฟฉา<wbr>ยเป็นเวลานาน ท่ามกลางความมืดมิดและความตึงเค<wbr>รียดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอ<wbr>ดภัย แต่มิได้ทรงปริวิตกแต่อย่างใด

    ไม่นานนักก็มีเงาตะคุ่มของผู้คน<wbr>เป็นวงรอบเมื่อที่เดินทางมา เมื่อรู้ว่าผู้ยืนเด่นกลางดงไม้<wbr>ในสวนลึก คือ พระเจ้าแผ่นดิน นายวาเด็ง หนึ่งในบรรดาชาวไทยมุสลิมวัยกว่<wbr>า 70 ปี ได้เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ พร้อมกับชาวบ้านคนอื่นๆ ด้วยโสร่งตัวเดียวไม่สวมเสื้อ

    นายมนูญ มุกข์ประดิษฐ์ ปัจจุบันคือ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่อง<wbr>มาจากพระราชดำริ (กปร.) ซึ่งตามเสด็จเพื่อถวายงาน ได้บันทึกเหตุการณ์นี้เมื่อ 30 กันยายน 2535 ไว้ว่า ลุงวาเด็งมีโอกาสได้เข้าเฝ้าทั้<wbr>งชุดนั้นอย่างใกล้ชิด แล้วยังได้ถวายคำตอบเพื่อทรงถาม<wbr>ข้อมูลได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อรู้ว่าเสด็จพระราชดำเนินมา<wbr>เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือ ลุงวาเด็งจึงกราบบังคมทูลเป็นภา<wbr>ษาพื้นบ้านว่าดีใจมากแต่ก็เหลีย<wbr>วซ้ายแลขวาผิดปกติ แล้วก็ตัดสินใจกราบบังคมทูลอย่า<wbr>งฉะฉานว่า พระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ มาเยี่ยมทั้งที ไม่มีอะไรจะถวายเลย ผลไม้ในสวนเพิ่งเก็บขายได้เงินม<wbr>า 20,000 บาทก็นำไปซื้อเครื่องสูบน้ำ ทั้งสวนเหลือทุเรียนผลเดียว หนำซ้ำยังดิบ

    มีเสียงเย้าว่า เครื่องสูบน้ำนั่นไง ยังใหม่อยู่ด้วย

    “ถอดเอาขึ้นรถขนไปเลย ขอถวายพระเจ้าอยู่หัว” ลุงวาเด็งกล่าวเด็ดเดี่ยวโดยไม่<wbr>เสียเวลาคิด แล้วยิ้มซื่อโดยไม่คิดว่าเป็นกา<wbr>รพูดเล่น และด้วยท่าทียินดีที่จะสละสมบัต<wbr>ิมีค่าชิ้นเดียวซึ่งได้มาด้วยหย<wbr>าดเหงื่อ และแรงกายจากการทำงานมาทั้งปีถว<wbr>ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ที่ตามเสด็จฯเกิดความรู้สึกต<wbr>ื้นตันใจเมื่อเห็นอากัปกิริยาอั<wbr>นเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้เสแสร้งข<wbr>องลุงวาเด็ง

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพ<wbr>ระสรวลอย่างมีความสุขไม่ต่างไปจ<wbr>ากลุงวาเด็ง

    (ข้อมูลจากนิตยสารอีคอนนิวส์ ฉบับที่ 335 วันที่ 2 สิงหาคม 2542)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2011
  8. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909
    ................ซาบซึ้งในพระองค์ท่านและเรื่องราวของพระองค์ท่านครับ......แต่ที่

    ซาบซึ้งมาก ๆ ก็คือ ท่าน 5314786..."จิตใจของท่านงดงามแท้ ๆ"....ดูท่าน

    เขียนอยู่เสมอครับ......
     
  9. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800

    มิกล้าๆ ผู้น้อย ยังปัญญาทรามอยู่มากครับ

    แต่ก็ขอบคุณครับ ที่คอยเป็นกำลังใจให้ผู้น้อยอยู่เสมอ
     
  10. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    [​IMG]

    ดอกไม้แห่งหัวใจ



    คุณยายตุ้ม จันทนิตย์ หญิงชราวัย 102 ปี (เกิดเมื่อปีพทุธศักราช 2396) บ้านธาตุน้อย ตำบลพระกลางทุ่ง
    อำเภอธาตุพนม ห่างจากจุดที่ทางราชการกำหนดให้เป็นจุดรับ<wbr>เสด็จ ประมาณ 700 เมตร ก็ไม่ต่างจากครอบครัวอื่นๆ
    ที่ลูกหลานได้นำ "คุณยายตุ้ม จันทนิตย์" ไปรอรับเสด็จด้วย โดยตามคำบอกเล่าของ นางเพ็ง จันทนิตย์ (ลูกสะใภ้)
    และนางหอม แสงพระธาตุ (น้องสาวของนางเพ็ง) ได้ความว่า ลูกหลายได้นำคุณยายตุ้มไปรอบรับเสด็จตั้งแ<wbr>ต่เช้าโดยนางหอมฯ
    เป็นผู้จัด "ดอกบัวสีชมพู" ให้แ่ก่คุณยายจำนวน 3 ดอก เพื่อนำขึ้นจบบูชาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่<wbr>หัว
    และพาออกไปรอเฝ้ารับเสด็จที่แถวหน้าสุดเพื<wbr>่อให้ได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมากที่สุด<wbr>เท่าที่จะมากได้

    เป็นที่ชาวไทยคุ้นตา ประทับใจในหัวใจเป็นที่สุด และตามที่ท่านเจ้าคุณพระราชธีราจารย์
    เจ้าคณะจังหวัดนครพนม/เจ้าอาวาสวัดพระธาตุ<wbr>พนมวรมหาวิหาร ให้ความรู้ “ ดอกบัวในใจยังคงบานไม่มีโรยรา ”
    บนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทางสามแยกชยางก<wbr>ูร- เรณูนคร ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
    เมื่อบ่ายวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่<wbr>หัวภูมิพลอดุลยเดช
    และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรภาคอีสานเป<wbr>็นครั้งแรก

    คุณยายไปรอรับเสด็จพร้อมดอกบัวสายสีชมพู จำนวนสามดอก ตั้งแต่เช้าจนบ่าย
    แสงแดดแผดเผาจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวโรย แต่หัวใจความจงรักภักดีของหญิงชรา ยังคงเบิกบาน

    เมื่อในหลวงเสด็จมาถึง ตรงมาที่คุณยายได้ยกดอกบัวสายโรยราสามดอกน<wbr>ั้นขึ้นจนเหนือศีรษะ แสดงความจงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช<wbr>ทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์ เกือบชิดกับศีรษะของคุณยาย
    ทรงแย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน พระหัตถ์แตะมือกร้านคล้ำของเกษตรกรชาวภาคอ
    <wbr>ีสานอย่างนุ่มนวล
    ไม่มีใครรู้ว่าทรงกระซิบคำใดกับคุณยาย แต่แน่นอนว่า คุณยายไม่มีวันลืมเช่นเดียวกับที่ในหลวง
    ไม<wbr>่ทรงลืมราษฎรคนสำคัญที่ทรงพบริมถนนวันนั้นหลังจากที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับกร<wbr>ุงเทพฯ
    แล้ว ทางสำนักพระราชวัง ได้ส่งภาพรับเสด็จของคุณยายตุ้ม พร้อมพระบรมรูปหล่อด้วยปูนพาสเตอร์
    ผ่านมาทางอำเภอธาตุพนม ให้คุณยายตุ้มไว้เป็นที่ระลึกพระมหากรุณาธ<wbr>ิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้
    อาจมีส่วนชุบชูชีวิตให้คุณยายอายุยืนยาวขึ<wbr>้นอีกด้วย ความสุขต่อมาอีก 3 ปี เต็ม ๆ
    โดยคุณยายตุ้ม จันทนิตย์ ถึงแก่กรรมเมื่อปี พ.ศ. 2501
    หลังจากนั้นลูกหลานได้สร้างธาตุเจดีย์บรรจ<wbr>ุอัฐิคุณยายตุ้ม จันทนิตย์ ไว้ ณ หน้าบ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 11
    ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ในบริเวณพื้นที่ 2 งาน
    โดยยกผืนดินดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณประโย<wbr>ชน์ สมบัติของแผ่นดิน ภาพที่คุณยายตุ้ม จันทนิตย์
    ทูลเกล้าฯถวายดอกบัวสามดอก ถ่ายโดยหัวหน้าช่างภาพส่วนพระองค์ อาณัติ บุนนาค
    ได้บันทึกภาพวินาทีสำคัญที่ถูกเรียกว่า ภาพดอกไม้แห่งหัวใจ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ภาพห<wbr>นึ่งของประเทศไทย
    และเป็นภาพที่ใช้แทนคำพูดได้มากกว่าหนึ่งล<wbr>้านคำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2011
  11. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    [​IMG]

    แขนตกสะพาน


    พระองค์ท่านเสด็จไปที่จังหวัดสกลนคร เพื่อเยี่ยมเยียนชาวบ้าน
    และพระองค์ก็ทรงตรัสถามชายคนหนึ่งที่มาเข้าเฝ้า
    เพราะแขนเจ็บเข้าเฝือกในหลวงทรงรับสั่งถามว่า “ แขนเจ็บไปโดนอะไรมา ”
    ชายคนนั้นตอบว่า “ ตกสะพาน ”
    แล้วในหลวงทรงรับสั่งกลับไปอีกว่า “ แล้วแขนอีกข้างหนึ่งละ ”
    ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาอีกว่า “ แขนข้างนี้ไม่ได้ตกลงไปด้วย ตกข้างเดียว ”
    ในหลวงของเราก็ทรงพระสรวล.....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    [​IMG]

    ดินเค็มไหม

    พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยม<wbr>พสกนิกรที่ ทางภาคใต้
    คือจังหวัดนราธิวาส ทางใต้นี้มีปัญหาเรื่องดินเป็นก<wbr>รดมีความเค็ม
    พระองค์จึงทรงรับสั่งถามกับชาวบ<wbr>้าน ที่มาเฝ้ารับเสด็จว่า "ดินหลังบ้านเป็นอย่างไร เค็มไหม "
    ชาวบ้านก็มองหน้ากันแล้วทำหน้าง<wbr>ง ก่อนตอบกลับมาว่า " ไม่เคยชิมซักที "
    ในหลวงก็รับทรงสั่งกับข้าราชบริ<wbr>ภารที่ตามเสด็จว่า "ชาวบ้านแถวนี้เขามีอารมณ์ขันกั<wbr>นดีนะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3-4.jpg
      3-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.4 KB
      เปิดดู:
      5,570
  13. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800

    [​IMG]


    แอลกอฮอล์เข้มข้น

    เหตุการณ์เมื่อปี 2513 วันนั้นท่านทรงเสด็จไปหมู่บ้านท<wbr>้ายดอยจอมหด อ.พร้าว เชียงใหม่
    ผู้ใหญ่บ้านลีซอกราบทูลชวนให้ไป<wbr>แอ่วบ้านเฮา ท่านก็ทรงเสด็จ ตามเขาเข้าไปในบ้าน
    ซึ่งทำด้วยไม้ไผ่และมุงหญ้าแห้ง<wbr> เขาเอาที่นอนมาปูสำหรับให้พระอง<wbr>ค์ประทับ
    แล้วก็รินเหล้าทำเองใส่ถ้วยที่ค<wbr>งไม่ค่อยจะได้ล้าง จนมีคราบดำๆ จับอยู่
    ทางผู้ติดตามรู้สึกเป็นห่วงพระอ<wbr>งค์ท่าน เพราะปกติไม่ทรงใช้ถ้วยที่มีครา<wbr>บ
    จึงกระซิบทูลว่าควรจะทรงแค่ทำท่าเสวย แล้วส่งถ้วยมาพระราชทาน
    ผู้ติดตามจะจัดการเอง แต่ท่านก็ทรงดวดเอง กร้อบเดียวเกลี้ยง
    หลังจากนั้นจึงทรงรับสั่งว่า “ ไม่เป็นไร แอลกอฮอล์เข้มข้นเชื้อโรคตายหมด<wbr>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    [​IMG]

    วันนี้ฉันเป็นในหลวง

    ระยะแรกราวปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา
    คราใดที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพร<wbr>ะราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังไกลกังวลนั้น
    จะทรงขับรถยนต์พระที่นั่งไปยังท<wbr>้องที่ห่างไกลทุรกันดารย่านหัวห<wbr>ิน
    หนองพลับแก่งกระจาน ด้วยพระองค์เอง ทำนองเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที<wbr>่๕
    โดยที่ราษฎรไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่<wbr>าทรงมาถึงแล้ว
    วันหนึ่งทรงขับรถยนต์พระที่นั่ง<wbr>ผ่านไปถึงยังบริเวณหมู่บ้านแห่ง<wbr>หนึ่งย่านหมู่บ้านห้วยมงคล อำเภอหัวหิน
    ซึ่งราษฎรกำลังช่วยกันตบแต่งประ<wbr>ดับซุ้มรับเสด็จกันอย่างสนุกสนา<wbr>นครื้นเครง
    และไม่คาดคิดว่าเป็นรถยนต์พระที<wbr>่นั่งส่วนพระองค์
    “ต้องให้ในหลวงเสด็จฯก่อนแล้วพร<wbr>ุ่งนี้ถึงจะลอดผ่านซุ้มได้..วันนี้ห้ามลอดผ่านซุ้มนี้ เพราะขอให้ในหลวงผ่านก่อนนะ.. ”
    ทรงขับรถพระที่นั่งเบี่ยงข้างทา<wbr>งไม่ลอดซุ้มดังกล่าว

    วัน รุ่งขึ้นเมื่อทรงขับรถยนต์พระที<wbr>่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี<wbr>่ยมราษฎรใน หมู่บ้านนี้อย่างเป็นทางการพร้อ<wbr>มคณะข้าราชบริพารผู้ติดตามและทร<wbr>งมีพระดำรัส ทักทายกับชายผู้นั้นที่เฝ้าอยู่<wbr>หน้าซุ้มเมื่อวันวานว่า ”วันนี้ฉันเป็นในหลวง..คงผ่านซุ<wbr>้มนี้ได้แล้วนะ..”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. toon0901

    toon0901 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +17
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
    ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
     
  16. นิลจันทร์

    นิลจันทร์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +2
    รักในหลวงค่ะ......ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  17. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800

    [​IMG]



    วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2554

    สดๆจากชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช ทรงปรับห้องประทับพักผ่อน มาเป็นห้องทรงงานส่วนพระองค์ พระราชทานพระราชดำริแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม

    ผมมิอาจหาคำบรรยายใดๆ มากล่าวถึงน้ำพระทัยของพระองค์ท่าน ที่มีต่อปวงชนชาวไทยทั้งปวงได้เลยครับ

    ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน ตลอดกาล ตลอดไป


    ขอบคุณที่มาของภาพและข้อมูลจากหน้าแฟนเพจเฟสบุ๊ค คนไทยรักในหลวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2011
  18. goldtop

    goldtop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +113
    พระองค์ทรงห่วงใยประชาชน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  19. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอพระองค์ท่านทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเพคะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  20. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    น้ำพระทัยจากในวัง

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    น้ำท่วมครั้งนี้ นอกจากประชาชนและหลายๆหน่วยงานจะช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ประสบภัยแล้ว

    เรายังได้เห็นน้ำพระทัย ของพระบรมวงศานุวงศ์ หลายๆพระองค์ ที่เสด็จลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านในครั้งนี้ด้วย

    นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...