เรื่องเล่าเมื่อข้าพเจ้าไป "บวชเนกขัมมะ" ที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย รสธรรม, 29 พฤษภาคม 2010.

?
  1. ดีมาก

    0 vote(s)
    0.0%
  2. ดี

    0 vote(s)
    0.0%
  3. ปานกลาง

    0 vote(s)
    0.0%
  4. ไม่ดี

    0 vote(s)
    0.0%
Multiple votes are allowed.
  1. รสธรรม

    รสธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +808
    ของฝากที่ว่านี้ เป็นเรื่องเล่าจากการที่ข้าพเจ้าได้ไป "บวชเนกขัมมะ" ที่วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี เผื่อบางท่านที่คิดอยากจะไป จะได้ทราบ ทำความเข้าใจ เตรียมตัวอย่างไร เตรียมใจไว้ว่าเราจะไปฝึกขันติบารมีกัน ขันติคือการอดทน เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วย กลั่นกรองเลือกผู้ที่ตั้งใจจริง ไม่ใช่ไปแล้วรับกับสภาพไม่ได้ ไม่ตั้งใจปฏิบัติ กลับก่อนกำหนด ท่านอาจจะได้บาปแทนบุญ เป็นการเสียสัจจะที่ได้ตั้งใจไว้

    ท่านผู้อ่านหลายท่านคงสงสัยว่าบวชเนกขัมมะคืออะไร

    การบวชเนกขัมมะคือ การให้โอกาสแก่ชีวิตในการนำตนเองเข้าหาธรรมะ เพื่อพัฒนาตนเอง พัฒนางาน และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
    อย่างเหมาะสม โดยมีกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติ คือ ศึกษาธรรม สวดมนต์ภาวนา บริหารกาย-จิต เก็บอารมณ์ เน้นทำหน้าที่คือการปฏิบัติ
    ธรรม รักษาศีล ๘ หรือการประพฤติพรหมจรรย์ การประพฤติตนอย่างพรหม หรือความประพฤติอันประเสริฐ

    ข้อความข้างต้นนั้น ออกจะวิชาการไปซักหน่อย แต่เพราะว่าอยากให้หลาย ๆ ท่านได้เข้าใจอย่างชัดเจน เพื่อที่เวลาเราจะไปบวชนี้จะทำให้เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร และทำเพื่ออะไรอยู่ค่ะ เนื่องจากปัจจุบันคนรู้จักความหมายนี้น้อยมาก ทีนี้เราก็มาเข้าเรื่องกันเลยนะคะ

    ประมาณสิบโมงเช้าของวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ข้าพเจ้าได้เดินทางออกจากบ้านไปหมอชิตเพื่อขึ้นรถไป วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี วันนั้นขออำลาความวุ่นวาย ความไม่สงบ ขอย้อนไปถึงวันที่ 18 พฤษภาคม เป็นวันที่ข้าพเจ้าเศร้าในมาก เนื่องจากคอนโดที่ข้าพเจ้าพักอาศัยนั้น อยู่ฝั่งธนบุรี แต่ระเบียงนั้นหันหน้า ไปทางฝั่งพระนคร และอยู่สูงถึงชั้นที่ 18 จึงมองเห็น กลุ่มควันไฟจากการวางเพลิงตามจุดต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ชวนให้คิดว่า อะไรหนอ ทำให้เค้าคิดเผาบ้านตัวเอง ประเทศของตัวเอง นอกจากขาดสติแล้ว ยังต้องขาดศีลธรรมด้วย จึงจะสามารถทำแบบนั้นได้

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ในตอนเช้าที่ข้าพเจ้าออกเดินทาง พ่อและแม่ของข้าพเจ้าห่วงมาก ว่าจะไปยังไง รู้ว่าใจท่านนั้นอยากให้เราเปลี่ยนใจ แต่ท่านก็ไม่อยากขัดศรัทธาของผู้เขียน ที่ได้ตั้งใจและกล่าวไว้แล้ว ประหนึ่งเปรียบได้ดั่งสัจจะที่ได้ลั่นไว้แล้ว ถึงอยากเปลี่ยนใจก็มิอาจเปลี่ยนได้ ได้แต่บอกว่าถึงแล้วโทรมาบอกด้วยนะ ข้าพเจ้าก็รับปาก เมื่อไปถึงหมอชิต ก็ไปซื้อตั๋วช่องที่ ๑๓ ด้านในอาคาร คนขายตั๋วบอกว่า รถออกเที่ยง แต่เที่ยงครึ่งก็แล้วรถก็ยังไม่มา ในระหว่างรอนั้น ก็มีคนมามากขึ้นเรื่อย ซึ่งก็พอจะเดาได้ว่าจะไปวัดอัมพวัน เหมือนกัน เพราะวัดนี้มีการกำหนดที่ชัดเจนว่า ถ้าจะบวช ๓ วัน ให้ไปวันศุกร์ ถ้าบวช ๗ วัน ให้ไปวันโกน คือวันก่อนวันพระ ก่อน ๔ โมงเย็น ก็เป็นการจัดระเบียบในการบริหารเวลาได้ง่ายขึ้น ส่วนผู้เขียนก็ จัดไปชุดใหญ่ค่ะ ๗ วันรวด

    สรุปแล้ววันนั้นรถออกบ่ายโมงกว่า ๆ ไปถึงวัดแล้ว ก็ไปลงทะเบียน กรอกประวัติ ในใบประวัตินั้นก็จะมีการถามด้วยว่า เราเคยบวชหรือไม่ ถ้าเคย บวชที่ไหน ปฏิบัติธรรมสายอะไร ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ข้าพเจ้าอยากจะบอกต่อ....แม่ชีบอกว่าส่วนใหญ่เวลาตอบ ก็ตอบว่า สายพุทโธบ้าง สายยุบหนอ พองหนอบ้าง สายสัมมา อะระหังบ้าง ซึ่งไม่ถูกค่ะ ถ้าบวชวัดไหนมาก่อนแล้ววัดนั้นให้กำหนดลมหายใจ ตามดูลมหายใจ จะภาวนาอะไรก็ชั่ง เป็นการปฏิบัติแบบ อานาปานุสสติ แต่ที่วัดนี้เป็นการปฏิบัติแบบ เจริญสติปัฏฐาน ๔ เอาแบบง่าย ๆ สั้น ๆ เลยคือ ตามดู ตามรู้ ทั้ง ๔ อย่างตามความเป็นจริงคือ ๑.กาย ๒.เวทนา ๓.จิต ๔.ธรรม เพื่อมองให้เห็นกฎไตรลักษณ์ ที่ว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปนั้น เป็นอย่างไร ทำให้เกิดวิปัสสนา หรือ ปัญญารู้แจ้งนั่นเอง ตัวข้าพเจ้าเองก็เพิ่งจะรู้ตอนที่อยู่ไปแล้วซักวันสองวันนั่นแหละ

    เมื่อกรอกใบประวัติเสร็จแล้วก็ต้องไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมบัตรประชาชน ตรงนี้แหละค่ะ ท่านผู้อ่าน งานเข้าล่ะสิ เพราะผู้เขียนไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา เพราะกะว่าของมีค่าใด ๆ จะไม่ติดตัวไปให้ใจห่วงทั้งสิ้น ก็เลยหยิบแต่เงินพอประมาณ พร้อมบัตรเอทีเอ็ม ข้าพเจ้าก็คิดว่าจะต้องโดนไล่กลับแน่ ๆ เลย แต่ผิดคาด โดนตำหนิเล็กน้อย พอเป็นน้ำย่อยบอกเราไว้ เจ้าหน้าที่ที่นี่เฮี้ยบนะ เสร็จแล้วก็เข้าที่พัก ที่พักที่นี่มีหลายหลังมาก หลังนึงก็นอนได้เป็นร้อยคนค่ะ เป็นแบบปูเสื่อและมีหมายเลขบนหัวนอน เราก็ดูที่บัตรประจำตัวเราว่าหมายเลขอะไรก็นอนตามนั้นได้เลยค่ะ ที่นอนก็กว้างประมาณนอนหงาย และพลิกตัวได้พอประมาณแต่ไม่มาก และเวลาพลิกต้องค่อย ๆ พลิกออกลีลาได้ไม่มากนัก ประมาณว่าต้องมีสติตลอด พอสี่โมงเย็นก็มีการปฐมนิเทศน์ บอกกำหนดการต่าง ๆ ว่าวันถัดไปจะมีการรับศีล ฝึกซ้อมท่ากราบ วิธีอาราธนาศีล ๘ รวมทั้งตารางการปฏิบัติธรรม และเราก็จะมีหนังสือคู่ใจหนึ่งเล่ม คอยเป็นกูรูตอบปัญหา เราได้แทบทุกอย่าง เพราะต้องกินน้อย พูดน้อย นอนน้อย แต่ปฏิบัติมาก ก็จะสงบปากสงบคำให้ได้มากที่สุด (ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆๆๆๆ สำหรับผู้เขียน)

    สองวันแรกผ่านไปได้ด้วยดี แม้ต้องทำอะไรหลายอย่างก็ยังรู้สึกเฉย ๆ จะมากออกอาการเอาวันที่สาม เพราะเป็นวันที่เข้าสู่ภาวะปกติคือ
    ตีสามตื่น ตีสี่สวดมนต์ ทำวัตรเช้า เดินจงกรม เจริญกรรมฐาน
    หกโมงเช้า รับประทานอาหาร
    แปดโมงเช้า เดินจงกรม หนึ่งชั่วโมงครึ่ง นั่งกรรมฐานหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ถึงสิบเอ็ดโมง
    ๑๑ โมงเช้า รับประทานอาหาร
    บ่ายโมง เดินจงกรมชั่วโมงครึ่ง นั่งอีกชั่วโมงครึ่ง ถึง ๔ โมงเย็น
    ๖ โมงเย็น ทำวัตรเย็น เดินจงกรม นั่งกรรมฐาน เลิกประมาณ สองทุ่ม

    นี่คือเวลาที่แม่ชีตัดออกไปบ้างแล้วเลยเลิกเร็ว เหอ ๆ นี่เร็วแล้วเหรอเนี่ย ผู้เขียนคิด แม่ชีเล่าว่าเมื่อก่อนนี้อยู่กันจน สี่ ห้าทุ่ม แต่เดี๋ยวนี้เจ้าหน้าที่น้อย วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยงานบ้าง แต่วันอาทิตย์ก็ต้องกลับ ไปทำงานของตัวเอง ฉะนั้น ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันพฤหัส จะมีแม่ชีที่สอนเราแค่สองท่าน ท่านนึงนำสวดมนต์ อีกท่านสอนกรรมฐาน ฉะนั้นท่านต้องเหนื่อยมากกับคนเป็นร้อย ๆ คน

    โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ เพราะผู้เขียนมีนัดไปช่วยชาติให้เงินทองสะพัด กับงาน Together we can grand sales พูดให้ดีก็คือไปช้อปปิ้งอ่ะค่ะ ช่วยพ่อค้าแม่ขายที่เดือดร้อนมายาวนานเหลือเกิน ยังไงอย่าลืมมาอ่านต่อนะคะ เรียกว่าการไปครั้งนี้ครบรสค่ะ มีโหด มัน ฮา พร้อมทั้งเนื้อหาสาระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 พฤษภาคม 2010
  2. pooka

    pooka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +74
    รอติดตามนะค่ะ กำลังจะไปเหมือนกัน
    แต่ยังติดเรื่องการเดินทางและลางานนี่ล่ะค่ะ
     
  3. benyapa

    benyapa ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,088
    ค่าพลัง:
    +5,431
    รออ่านค่ะ จะไปเหมือนกันค่ะ
     
  4. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    อนุโมทนาบุญค่ะ โชคดีมาก ๆ แล้วล่ะค่ะ ที่ได้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญฯ มีโอกาสได้ไปบวชอยู่เกือบสิบวันค่ะ (แอบบอกนะคะ ศรัทธาแม่ชีที่นำสวดน่ะค่ะ ท่านน่ารักมาก อายุท่านก็มากแล้ว ท่านถ่อมตัวมาก ๆ ค่ะ) ถ้ามีโอกาส (มีบุญ) ก็อยากจะกลับไปบวชอีกค่ะ ธรรมะรักษานะคะ สาธุ
     
  5. วันมงคล

    วันมงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,303
    อนุโมทนาสาธุ ในบุญในกุศลครั้งนี้ของคุณ รสธรรม สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0417.jpg
      IMG_0417.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      118
    • IMG_0333.jpg
      IMG_0333.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.3 KB
      เปิดดู:
      147
    • IMG_0203.jpg
      IMG_0203.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.5 KB
      เปิดดู:
      134
  6. รสธรรม

    รสธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +808
    "สติ อยู่ที่ไหน"

    แหม...ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณผู้ดูแลเวป เป็นอย่างมากที่กรุณาเปลี่ยนชื่อกระทู้ให้ข้าพเจ้า ดูแล้วน่าสนใจ และน่าอ่านมากค่ะ ตอนแรกที่คิดนะตั้งกระทู้นั้นก็คิดอยู่นานว่าจะใช้ชื่ออะไรดี เพื่อให้คนได้เข้ามาอ่านเยอะ ๆ

    ก่อนหน้าที่จะไปบวชนั้นก็อ่านหนังสือของหลวงพ่อท่านมาพอสมควร ทั้งเรื่องเล่าของผู้ปฏิบัติ หรือวิธีปฏิบัติ รวมทั้งคำที่หลวงพ่อท่านว่า ทำกรรมฐาน ๗ วัน ได้แน่นอน สิ่งที่ข้าพเจ้าเตรียมติดตัวไปเลยก็คือ "อุปาทาน" วันแรกของการทำกรรมฐานนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกปวดข้อมือเป็นอย่างมาก แล้วทุกครั้งที่เดินจงกรมมือจะตึงและบวมมาก ๆ ส่วนเท้า เวลาที่เดินไปจะต้องมองดูที่เท้า ข้าพเจ้าก็ดูค่ะ เห็นความเปลี่ยนแปลงก็คือจากเท้าที่เรียวงาม กลายเป็นเท้าอวบ ๆ นิ้วก็เหมือนจะป้อม ๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่ละก้าวไปนั้นรู้สึกปวดเมื่อยไปหมด มือสองข้างที่จับกันไว้ข้างหลังก็เริ่มตึงขึ้น ๆ และปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะที่เดิน ข้าพเจ้าก็คิดแล้วว่า งานเข้าล่ะสิ เจ้ากรรมนายเวรท่านมาแล้วแน่ ๆ อีกเดี๋ยวข้าพเจ้าจะต้องระลึกได้แน่ ๆ ว่าเคยไปทำบาปทำกรรมอะไร ที่จะทำให้มือเท้าบวมแบบนี้ ทีนี้พอหมดเวลาเดินจงกรมก็เริ่มนั่งสมาธิ พอจิตเป็นสมาธิซักพักนึง (คิดเอาเองอีกนั่นแหละ) อ่านมาเยอะไงคะ ว่าสติจะตอบเราได้ว่าเราเคยทำกรรมอะไรมาบ้าง ก็กำหนดถามสติเลย....สรุปวันนั้นทั้งวัน ทั้งสามรอบ ถามสติมันอยู่นั่นแหละค่ะ แต่ความเป็นจริงสติอยู่ไหนยังไม่รู้เลย ก็กลายเป็นว่าวันนั้นทั้งวัน กลายเป็นนั่งคิดอยู่นั่นแหละ ไม่ใช่สมาธินะ ใช้คำว่านั่งคิด พอนั่งคิดจิตก็เพลินไปกับความคิด ความปวดเมื่อยก็ไม่มี ข้าพเจ้าก็ว่านั่งสมาธินี่ดีจริง ๆ ไม่ปวดไม่เมื่อย เหอ ๆ อุปาทานกินเต็มตัวแล้วยังไม่รู้เลย พอคืนนั้นปฏิบัติธรรมเสร็จ ก็โทรหาแม่กะจะเล่าเรื่องมือ เท้าบวมให้แม่ฟังด้วยความตื่นเต้น ตอนแรกแม่ก็สงสัยเหมือนกันว่าอยู่ ๆ ทำไมบวมได้ แล้วแม่ก็พูดมาว่าเมื่อวานเรียนนวดเยอะไปป่าว เป็นการลงมือนวดครั้งแรกด้วย แล้วเรียนเป็นชั่วโมง ถ้าใครเคยเรียนนวด หรือนวดเป็นนั้นก็จะเข้าใจว่าการนวดนั้นต้องออกแรงเยอะมาก ๆ ใช้ทั้งมือ ทั้งขา คือใช้แรงทั้งตัวน่ะค่ะ แรก ๆ นวดไม่เป็นก็จะมีเกร็งเพราะใช้แรงจากข้อมือเป็นหลัก เหอ ๆๆ ตอนนี้สิ สติกลับมาแล้ว ใช่จริง ๆ ด้วย เพราะวันถัด ๆ ไปอาการปวดก็ค่อย ๆ ลดลงไปตามลำดับ

    สรุปแล้ว วันนั้นสติก็ อยู่ที่แม่นี่เอง ฮ่า ๆ เริ่มเข้าใจขึ้นมาอีกนิดนึงแล้ว คำว่าคนเรานั้นไม่ค่อยมีสติอยู่กะตัวแล้วนั้นเป็นยังไง พอมีอะไรนิดหน่อย ก็ทึกทักไปเรื่อย เฮ้อ ไม่เป็นไรไว้สู้ใหม่พรุ่งนี้ :'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2010
  7. รสธรรม

    รสธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +808
    จะพยายามให้เนื้อหากับ คุณ pooka ให้ได้มากที่สุดค่ะ แนะนำให้ไปคนเดียวนะคะ ข้าพเจ้านั้นก็ต่อสู้กับใจตัวเองพอสมควรตอนก่อนไป อยากจะชวนเพื่อนไปเพื่อแก้เหงา สุดท้ายก็จะรู้ว่าไปคนเดียวไม่มีเพื่อนคุยเนี่ยแหละ จะทำให้เราปฏิบัติได้เต็มที่กว่า
     
  8. รสธรรม

    รสธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +808
    เช่นกันค่ะ โดยส่วนรวมแล้วศรัทธาเจ้าหน้าทุกท่านที่มาสอน แม่ชีที่นำสวดนั้นใจเย็น และใจดีค่ะ ส่วนแม่ชีที่สอนปฏิบัตินั้นต้องบอกว่า ท่านห้าวหาญดีค่ะ พูดตรง เรียกว่าเป็น IDOL
     
  9. รสธรรม

    รสธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +808
    ถ้าคืนนี้ว่างจะกลับมาเล่าถึง คนที่เราแทบทุกคนที่บวชด้วยกันใน ๗ วันนี้ ยกย่องให้เป็นบุคคลตัวอย่างเลยล่ะค่ะ ทำไมถึงเป็นเค้า แง้มให้นิดว่า เค้าเป็นชาวฝรั่งเศสค่ะ หล่อมากกกกกกกกก เรื่องนี้พลาดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ
     
  10. pattaraniyom

    pattaraniyom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +440
    อนุโมธนากับเจ้าของกระทู้ครับ ผมไปเมื่อ ประมาณ 4 ปีที่แล้วครับ ถ้าไม่ได้หลวงพ่อจรัญแล้ว ผมคงไม่ได้มาเรียนอเมริกาอย่างที่หวังหรอกครับ ตอนไปปฏิบัติครั้งแรกท่านมาพูดกับผมในฝันด้วยล่ะครับ ทำให้มีกำลังใจทำดีมากเลยครับ ถ้าตั้งใจปฏิบัติ จะได้สิ่งดีๆๆติดตัวไปเยอะเลยครับ อนุโมทนากับทุกๆท่านครับ
     
  11. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    อนุโมทนาค่ะ อ่านแล้วอยากไปบ้างจัง
    ไว้ต้องหาเวลาไปบ้างแล้วล่ะ
     
  12. รสธรรม

    รสธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +808
    แง้.....อุตส่าห์เขียนไปตั้งเยอะ กดผิดครั้งเดียวหายหมดเลยอ่ะ ขออภัยทุกท่านนะคะ พรุ่งนี้จะเข้ามาเขียนใหม่นะ ตอนนี้ขอตัวไปเอวังก่อน ธรรมะสวัสดี
     
  13. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    อนุโมทนากับน้องแคทด้วยค่ะ....ชื่นใจจริงๆๆ
     
  14. รสธรรม

    รสธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +808
    มีเหตุขัดข้องนิดหน่อยค่ะ อดใจรอนิดนะคะ ท่านผู้อ่าน
     
  15. namangka

    namangka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +61
    เพิ่งจะไปที่วัดอัมพวันมา เมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมานี่แหละค่ะ คนเยอะค่ะ 2 พันกว่าคน แต่ไม่หนาแน่นเท่าตอนช่วงสงกรานต์ ได้ไปทดสอบขันติของตัวเองเยอะเหมือนกันค่ะ
     
  16. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    อรก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญค่ะ
    ตรงคำว่า เนกขัมมะ กล่าวได้ถูกต้อง

    คนส่วนมาก มักเข้าใจผิด เรียก การบวชเนกขัมมะ ว่าบวชชีพรามณ์

    แต่หลวงพ่อจรัญท่านเคยบอกได้ว่า บวชเนกขัมมะ เป็นการบวชเหมือนบวชพระ ผู้หญิงก็ถือว่าได้บวช ให้พ่อแม่ เช่นเดียวกัน

    คุณพระรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ ^_^
     
  17. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    [quoteเลิกประมาณ สองทุ่ม

    นี่คือเวลาที่แม่ชีตัดออกไปบ้างแล้วเลยเลิกเร็ว เหอ ๆ นี่เร็วแล้วเหรอเนี่ย ผู้เขียนคิด แม่ชีเล่าว่าเมื่อก่อนนี้อยู่กันจน สี่ ห้าทุ่ม แต่เดี๋ยวนี้เจ้าหน้าที่น้อย[/quote]


    ถูกต้องค่ะ เลิกเร็วมาก ปกติจะเลิกสามทุ่ม ถึง สามทุ่มครึ่งค่ะ


    แม่ชีพรรณทิพย์ ท่านเป็นแม่ครู ที่มีเมตตามาก เวลาสงสัยอะไรในการปฏิบัติ อรถามท่านด้วยจิต ท่านก็ตอบออกมาไขข้อสงสัยเลยค่ะ
     
  18. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144

    แม่ชีพรรณทิพย์หรือเปล่าค่ะ
     
  19. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    มาปูเสื่อรอจ้า ระหว่างรอหวยออก
    อย่าลืมมาเล่าไวๆควิ๊กนะคุณธรรมรส
    รสธรรม

     
  20. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    เมื่อปีที่แล้วของต้นเดือน มิย.นี้ล่ะค่ะ ดิฉันเคยไปบวชมาแบบ 3 วัน ลงทะเบียนวันศุกร์กลับวันอาทิตย์ อยู่ครบเทอม แต่จิตไม่ผ่านเลยค่ะ เพราะมัวแต่ไปท้อตรงปวดเมื่อยเบื่อนี่ล่ะ แต่ไม่ได้พูดคุยกับใครนะค่ะ มีวันสุดท้ายนั่นแหละถึงได้คุย กับข้าวที่โรงทานก็อร่อยดีค่ะ ได้กินก่อนกลับบ้านด้วย ได้ทำบุญกับหลวงพ่อจรัญก่อนกลับด้วยค่ะ เพราะวันที่ลาศีลเป็นวันพระพอดี ก็เลยได้ทำบุญกับหลวงพ่อค่ะ นับว่าเป็นสิริมงคลยิ่งนักในชีวิตของดิฉันค่ะ ที่ได้พบตัวจริงของท่าน และได้ทำบุญกับท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...