เรื่องเล่า "ป่าคำชะโนด"

(b-wow) (b-wow) (b-wow)
เคยได้อ่านเรื่องเล่าจากผีจ้างหนังที่ป่าคำชะโนด จากนิตยสารต่วยตูนนานแล้วตั้งแต่สมัยไดโนเสาร์แก่แกยังอยู่ทำสำนักพิมพ์ แต่ก็ยังจำรายละเอียดได้ดีเพราะเคยมีนิตยสารเกี่ยวกับ ผีๆ นี่แหละมาตีพิมพ์ใหม่ เรื่องมีอยู่ว่ามีกลุ่มที่รับจ้างทำธุรกิจฉายหนังกลางแปลงตามเทศกาลหรืองานวัดอยู่ต่างจังหวัดแถบอีสาน แล้วมีคนมาติดต่อให้ไปฉายหนังกลางแปลงที่งานวัดเข้าไปในป่าแถวคำชะโนด แต่เจ้าของหนังกลางแปลงแกไม่คุ้นชื่อวัด คนว่าจ้างก็บอกว่าไม่มีปัญหาถ้าขับไปถึงแยกปากทางเข้าหมู่บ้านจะมีคนในหมู่บ้านไปคอยรับนำทางเข้าวัดเอง หลังจากที่วางเงินมัดจำเสร็จ เจ้าของหนังก็จัดแจงเตรียมของอุปกรณ์สัมภาระฟิล์มหนังที่จะนำไปฉาย ไปกับลูกน้องอีก 4 รวมเป็น 5 คนโดยขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อมีหลังคา ออกจากตัวจังหวัดบ่ายแก่ๆ ขับรถเข้าไปแถวป่าคำชะโนดก็เริ่มมืด ยิ่งขับไปทางเส้นทางตามที่ผู้ว่าจ้างบอกก็ไม่เห็นว่าจะเจอหมู่บ้านหรือคนที่จะมารับ ก็นึกว่าหลงกัน ระหว่างจอดรถว่าจะย้อนกลับไปดีหรือไม่ ก็มีผู้หญิง 2 คนใส่ชุดดำมาร้องเรียกว่าจะนำไปที่วัด คนขับที่เป็นเจ้าของหนังก็รับขึ้นรถ แต่แกก็สงสัยว่า 2 คนนี้โผล่มาจากไหนในที่มืดๆอย่างนี้ พาหนะมอไซด์อะไรก็ไม่มี เมื่อขับเข้าไปในหมู่บ้านก็ยิ่งให้ชวนสงสัยใหญ่ว่า ทำไมไม่มีเสียงลำโพงออกมาจากงานวัด ไม่มีเสียงลิเก หมอลำ หรือการละเล่นอะไรเลย พอไปถึงหมู่บ้านก็มีคนมารับ แต่แปลกว่าทุกคนจะใส่เสื้อสีขาวกับดำ ถ้าเป็นผู้ชายใส่ชุดขาว ผู้หญิงชุดดำแยกให้เห็นชัดเจนแม้แต่เด็ก แต่ที่แปลกทุกคนจะทาหน้าขาวหมดเหมือนใช้ครีมธนาคา

เมื่อถึงที่แล้วทุกคนก็เริ่มตั้งจอ เดินสายไฟ และเปิดเครื่องปั่นไฟ ระหว่างที่กำลังกุลีกุจอติดตั้งก็เริ่มเห็นผู้คนมาทยอยนั่งดูหนัง แต่จะแยกชายหญิงชัดเจน ไม่นั่งรวมกัน และปกติของงานวัดจะต้องมีแม่ค้าแม่ขายมาขายน้ำขายถั่ว ปลาหมึกย่าง แต่ที่นี่กลับไม่มีแม่ค้าสักคน พอติดตั้งเสร็จก็เริ่มฉายหนัง หนังที่เอาไปฉายมี 4 เรื่อง เรื่องแรกเป็นหนังสงคราม เรื่องที่ 2 เป็นหนังตลกแอ็คชั่น เรื่องที่ 3 กับ 4 เป็นหนังผี ระหว่างฉายคนพากย์ก็พยามพากย์ยิงมุกตลกๆตลอด ไปฉายที่ไหนก็ฮากระจาย แต่ที่นี่แป๊กครับ ไม่มีใครหัวเราะหรือแสดงอารมณ์อย่างใดเลย จนเริ่มฉายเรื่องที่ 3 ที่เป็นหนังผี สังเกตท่าทางคนที่มาดูเริ่มตั้งใจดู ทั้งที่บรรยากาศตอนนั้นก็เที่ยงคืนดูน่ากลัวมากๆ ระหว่างนั้นทางเจ้าภาพก็จัดข้าวต้มถ้วยเล็กมาให้ทีมงานฉายหนังกินกัน ทางทีมงานเห็นแล้วก็ละเหี่ยใจ มีแต่ข้าวต้มซีดๆกะเนิ้อชิ้นเล็กๆ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ ทางทีมงานก็เลยกินกัน ปรากฎว่าเป็นข้าวต้มที่อร่อยที่สุดที่เคยกินกันมา หลังจากฉายหนังจบถึงตี 2 ผู้คนก็แยกย้ายกันกลับ แปล๊บเดียวก็สลายไปหมด ไม่มีเหลือใครอยู่เลย ทางทีมงานก็เก็บอุปกรณ์ขึ้นรถ โดยมีผู้หญิงสองคนนั่งรถออกมาส่ง ก่อนจะร่ำลาก็จ่ายค่าจ้างที่เหลือซึ่งเป็นเงินเหรียญทั้งหมด พอออกมาส่งถึงปากซอยผู้หญิงสองคนนั้นลงจากรถ พอรถออกตัวคนขับที่เป็นเจ้าของหนังกลางแปลงหันกลับมาดูก็ไม่เห็นผู้หญิง 2 คนนั่นแล้ว

หลังจากกลับมาถึง office ทางเจ้าของหนังก็เลยสงสัยเช็คประวัติกับผู้ว่าจ้าง ที่ถ่ายเอกสารให้ตอนวางมัดจำ ก็พบตัวว่ามีชื่อนี้จริง แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยไปว่าจ้างใครไปฉายหนังตามวันและเวลาที่บอก เมื่อสงสัยจัดก็เลยสอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัดที่เอาหนังไปฉาย ทางเจ้าอาวาสก็บอกว่าในวันนั้นที่วัดไม่ได้มีการจัดงานแต่อย่างใด แต่เจ้าอาวาสเล่าว่า ในคืนวันที่เจ้าของหนังมาบอกว่ามีการฉายหนัง ที่ป่าคำชะโนดจะมีเสียงซู่ๆเหมือนกับมีพายุพัดเข้ามาโดนใบ ทั้งๆที่คืนนั้นไม่มีลมใหญ่พัดมาจากไหนเลย

ปัจจุบัน "ป่าคำชะโนด" ยังรอให้ทุกท่านไปพิสูจน์อยู่ </SPAN>

<CENTER></CENTER>
:boo: :boo: :boo:

 

กำลังอยากอ่านอยู่พอดีครับ

 

ผีก็อยากดูหนังเหมือนกัน
เสียแต่ผีไม่แสดงอารมณ์เหมือนคน

 

ไม่ใช่ผีร้อก
นาคน่ะ

 

เป็นนาคได้ไงล่ะคุณอักขรฯ (ไม่เรียกพี่เปาแล้วเห็นท่านเปาบุ้นจิ้น
ไม่รุตัวจริงตัวปลอมมาเรียกร้องหาความอยุติธรรมอยู่)

จนเริ่มฉายเรื่องที่ 3 ที่เป็นหนังผี สังเกตท่าทางคนที่มาดูเริ่มตั้งใจดู
นาคชอบดูหนังผีด้วยเหรอ:boo:

 

คงจะชอบแหละ เพราะนาคไม่เคยโดนผีหลอกนิ
เรียกฝุ่นก็ได้จ้ะ พิมง่ายๆหน่อย

 

รู้ไงอ่ะว่านาคไม่เคยโดนผีหลอก
ใครตั้งให้อ่ะชื่อฝุ่น แปลกดีไม่เคยเจอชื่อนี้
(deejai) (deejai) (deejai)

 

ผีกลัวนาคง่ะ
ชื่อนี่รุ่นพี่ตั้งให้เจ้าค่ะ

 

คงได้ตอนรับน้องล่ะดิ พี่เค้าคงสั่งให้ไปคลุกฝุ่น เป็นหนุมานคลุกฝุ่นล่ะซิ แหะๆๆๆๆๆๆ
(deejai) (deejai) (deejai)

 

มีพลังจิตละป่าวเนี่ย รู้ปายหมด
รู้ว่าชอบกินไข่เจียวก็ทีละ

 

ดีนะที่บอกรู้ไปหมด ไม่บอกแสนรู้ แหะๆๆๆๆๆๆ
(deejai) (deejai) (deejai)

 

เขาเรียกผู้รู้ใจ (f)

 

ปิ้ว ปิ้ว(b-ping) (b-ping) (b-love2u) (b-love2u)

 

น่าสนใจมากๆ ครับ

 

ป่าวไม่ได้รู้ใจแค่เดาเก่งน่ะ
(deejai) (deejai) (deejai)

 

[bw-cry]

 

อ้าวซะงั้น คุณBirdSoul โอ๋หน่อยแระกัน เราไปข้างนอกก่อน เดี๋ยวมืดๆมาใหม่
: bat: : bat: : bat:

 

มะเอา จะให้บุษบาโอ๋

 

ท่าทางจะอาการหนักค่ะคุณบุษฯ
คนวัยทองก็หยั่งงี้แหล่ะ 555555
(555)

 

สงสารพี่เค้านะคะ โอ๋เค้าหน่อยเถอะค่ะ