เรื่องเล่า พ่อท่านบ้านเรา อริยสงฆ์เมืองใต้

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wichu, 5 พฤษภาคม 2015.

  1. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    [/B]กระทุ้นี้จัดตั้งขี้นเพื่อ เผยแพร่พระอริยสงฆ์ 14 จังหวัดภาคใต้ และโบราณสถานและโบราณวัตถุของ 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวภาคใต้

    ซึ่งข้อมูลบางส่วน ได้ขออนุญาต แชร์ข้อมูลมาจาก เฟส คุณกิตติ บุญนำ และหน้าเพจ พ่อท่านบ้านเรา

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p3.jpg
      p3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.2 KB
      เปิดดู:
      3,884
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2015
  2. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    โบราณสถาน และโบราณวัตถุ ไม่ใช่ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นได้เอง แต่เป็นทรัพยากรวัฒนธรรมประเภทหนึ่ง ที่มนุษย์ใช้สติปัญญา และความรู้ความสามารถสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด หรือดัดแปลงจากทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ต่อตน และสังคมในสมัยนั้นๆ สถานที่และสิ่งของเหล่านั้น เมื่อตกทอด เป็นมรดกมาถึงคนรุ่นเรา ก็กลายเป็นโบราณสถาน และโบราณวัตถุ เช่นเดียวกับอาคาร และวัตถุ ที่เราสร้างขึ้นสมัยนี้ ก็จะเป็นโบราณสถาน และโบราณวัตถุของคนในอนาคตสืบต่อไป แบบนี้ไม่ขาดตอนฉะนั้น โบราณสถาน และโบราณวัตถุ จึงเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์ประเภทหนึ่ง ที่บอกความเป็นมาของบรรพบุรุษ ที่อยู่ในสังคมระดับต่างๆ ตั้งแต่กลุ่มชนขนาดเล็ก จนถึงหมู่บ้าน เมือง และประเทศชาติ ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยเรา ประวัติศาสตร์ หรือความเป็นมาดังกล่าว แสดงพัฒนาการของผู้สร้างสมัยก่อน ส่วนการอนุรักษ์สิ่งเหล่านั้นไว้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เป็นหน้าที่ของคนรุ่นเรา และรุ่นต่อๆ ไป การ "อนุรักษ์" และการ "พัฒนา"ต่อไป
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p2.jpg
      p2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90 KB
      เปิดดู:
      3,072
  3. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    “สุขิโต โหตุ เป็นสุขๆเถิดพ่อ เป็นสุข ๆ เถิดแม่” หรือ “จำเริญ ๆ เถิดพ่อคุณแม่คุณ”
    พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ (เทวดาเมืองคอน) วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
    เกียรติประวัติพ่อท่านคล้ายเป็นพระเถระที่มั่นคงในสิกขาวินัย ไม่เคยสนใจในสมบัติอื่นใดนอกจากไตรจีวร แม้จะมีผู้ศรัทธาถวายข้าวของเงินทองนับเป็นจำนวนล้าน ๆ แต่ท่านก็ไม่เคยสนใจ สนใจแต่คุณธรรมอริยทรัพย์
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเมตตาธรรมท่านจึงมีผิวพรรณผ่องใส ใบหน้าเอิบอิ่ม พูดจาไพเราะ อ่อนหวานเมื่อมีผู้มากราบไหว้ ท่านจะให้พรเสมอว่า
    “สุขิโต โหตุ เป็นสุข ๆ เถิดพ่อ เป็นสุข ๆ เถิดแม่” หรือ “จำเริญ ๆ เถิดพ่อคุณแม่คุณ”

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p1.jpg
      p1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120.3 KB
      เปิดดู:
      2,780
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  4. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    เมื่อปี พ.ศ.2499 หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน ไปสร้างเจดีย์ที่ควน (เนินเขา) สวรรค์ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับสถานที่รถไฟทานพอ ในตำบาลไม้เรียง เมื่อสร้างเจดีย์เสร็จแล้วก็มีการฉลองในวันฉลองมีผู้คนมาร่วมพิธีกับมากมาย มีผู้หนึ่งกล่าวปรารภกับหลวงพ่อว่า ต้นไม้ใหญ่ ขนาดประมาณ 2 คนโอบ ซึ่งอยู่ใกล้กับองค์เจดีย์หากเกิดมีพายุแรง ๆ อาจจะหักโค่นล้มทับเจดีย์ได้ หลวงพ่อนั่งมองดูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอาน้ำรินใส่ในแก้วเกือบค่อนแก้ว แล้วใช้จิตเพ่งน้ำในแก้วนั้นอยู่นานพอสมควรจนแก้วลั่นดั่งเปี๊ยะแตกขาดเสมอตรงที่มีน้ำอยู่พอดี โดยไม่มีใครไปแตะต้องเลย
    ในทันใดนั้นต้นไม้ใหญ่ดังกล่าวก็หักล้มลงเหมือนกับถูกโค่น ล้มฟาดลงอีกทางหนึ่ง
    เกิดข่าวลือวิพากย์วิจารณ์กันต่าง ๆ นานา ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก แต่ทุกอย่างก็เป็นเรื่องจริง.

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p4.jpg
      p4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      159.9 KB
      เปิดดู:
      2,681
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  5. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช (พ่อท่านเป็นเทวดาของชาวปักษ์ใต้ แม้แต่ทวยเทพเทวดาบนชั้นฟ้ายังตอบรับคำพูดท่านปากท่านช่างวาจาสิทธิ์ดังปากพระร่วงเจ้า)
    เรื่อง "ขอทานเสียดีกว่าลัก"
    มีชายคนหนึ่งชื่อนายพริก เป็นหลานชายของพ่อท่าน อยู่บ้านหลักช้าง ตำบลช้างกลาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้มีนิสัยเกเรชอบลักเล็กขโมยน้อย ทั้งๆที่เป็นคนมีอันจะกิน เพราะมีสวนยางถึง 30 ไร่ ชาวบ้านต่างเอือมระอา แต่ไม่กล้าว่าเพราะเกรงใจพ่อท่านคล้าย เมื่อทนไม่ได้จึงไปเล่าให้พ่อท่านคล้ายฟังในทำนองให้ท่านช่วยห้ามปรามเสีย ท่านจึงได้เรียกนายพริกมาสอบถาม นายพริกรับสารภาพตามความจริง ท่านจึงกล่าวว่า “การลักขโมยของเขากินนั้นไม่ดี ทีหลังอย่าลักของเพื่อน ขอทานเสียดีกว่าลัก” นายพริกก็รับคำ แต่ภายหลังเที่ยวลักขโมยอีก ปรากฎว่านายพริกได้กลายเป็นขอทานไปจริง ๆ และขอทานเป็นอาชีพจนร่ำรวย โดยปล่อยให้ลูกเมียอยู่ตามลำพัง

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p5.jpg
      p5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.2 KB
      เปิดดู:
      2,652
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  6. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านคล้าย(เทวดาเมืองคอน) วันสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
    ตอน "น้ำหมากศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน"
    เมื่อปี พ.ศ.2498 หลวงพ่อคล้ายวาจาสิทธิ์ ได้ไปสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทที่เกาะแก้วพิศดาร จังหวัดภูเก็ต สถานที่ ๆ ที่จะทำการก่อสร้างนั้นมีหินก้อนใหญ่ ๆ อยู่ทั้ง 3 ทิศ นายช่างผู้ไปทำการก่อสร้างได้ทำการเจาะหิน ณ ที่ดังกล่าว แต่เจาะไม่เข้าเพราะเป็นหินกากเพ็ชรแข็งมาก
    จึงได้นมัสการหลวงพ่อคล้ายว่าทำไม่ได้ หลวงพ่อจึงได้ไป ณ ที่ก้อนหินนั้น แล้วเอาน้ำหมากจากปากเขียนวงกลมที่ก้อนหินดังกล่าวแล้วให้นายช่างเจาะใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นปรากฎว่าเจาะได้โดยไม่ยากจนสำเร็จ ทำให้นายช่างเจาะหินและผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้นเป็นมหัศจรรย์ไปตาม ๆ กัน

    บทความจากที่ระลึกทอดกฐิน ณ วัดธาตุน้อย พ.ศ.2512

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p6.jpg
      p6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.3 KB
      เปิดดู:
      2,655
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  7. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    รอยพระพุทธบาท เกาะแก้วพิศดาร จ.ภูเก็ต หากมีโอกาส ขอเชิญทุกท่านลองไปกราบขอพระรอยพุทธบาทนะครับ
    พระพุทธบาท หมายถึง รอยเท้าที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับไว้ ตามตำนาน พระพุทธบาทมีอยู่ 5 รอยด้วยกัน หนึ่งในนั้นทางภาคใต้ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญคือ ริมฝั่งแม่น้ำนิมมทา (นัมมทานที) ตั้งอยู่ที่เกาะแก้วพิศดาร ปลายแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต
    ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ก็คงดำรงอยู่ รอยพระพุทธบาทยังคงประทับรอให้สาธุชนได้มากราบไหว้สักการะ เฉกเช่นเป็นปูชนียสถานสำคัญอีกแห่งหนึ่ง เล่ากัีนว่าเมื่อครั้งอดีตกาล หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ก็เคยใช้เกาะแห่งนี้เป็นสถานปลีกวิเวกบำเพ็ญบารมีอยู่ระยะหนึ่ง เมื่อครั้งที่พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ แห่งวัดสวนขัน ยังไปมาหาสู่ระหว่างนครศรีธรรมราชกับภูเก็ตนั้น ท่านได้มาที่เกาะแก้วพิสดารแห่งนี้ และได้สร้างสถูปขึ้นครอบองค์พระพุทธบาทไว้ แต่ปัจจุบันนี้ สถูปดังกล่าวได้พังทลายเหลือเพียงซากให้เห็น.
    ขอบคุณ ภาพ facebook เกาะแก้วพิศดาร ขอบคุณ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  8. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
    เรื่องบ่อน้ำบนเกาะแก้วพิสดาร
    ผมเองเคยได้ฟังมาจาก คุณยายผู้ทรงศีล ซึ่งได้กราบและขอข้อธรรมปฏิบัติจากพ่อท่านคล้ายและได้ไปช่วยท่านสร้างเจดีย์ที่จังหวัดสงขลา
    ปัจจุบัน อายุท่าน ๘๔ ปี
    ท่านได้เล่าเรื่องราว
    ในระหว่างงานก่อสร้างมณฑป ครอบรอยพระบาท ที่เกาะแก้วพิศดาร นั้น
    ท่านเล่าว่า ตอนพ่อท่านคล้ายไปอยู่ ชาวบ้านต่างมาช่วยกันมากมาย และขนหินขนปูน ทราย มาถวายท่าน สำหรับงานก่อสร้างต่างๆ
    แต่มีปัญหาเรื่องน้ำจืด ที่จะใช้ดื่มกินหายาก ชาวบ้านขุดบ่อกันมากแล้ว ก็ไม่ได้น้ำ จึงไปเรียนบอกท่าน
    พ่อท่านคล้าย จึงได้เดินไปดู และชี้ตำแหน่งสำหรับขุดบ่อน้ำ
    ทางคณะชาวบ้านได้ขุดจนพบตาน้ำ ได้น้ำจืดเพียงพอต่อการดื่มกิน และใช้ในงานต่างๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า แม้ชาวบ้านจะตักมาใช้มากเพียงใดก็ตาม แต่น้ำในบ่อก็ไม่เคยเหือดแห้งเลย มีให้ได้ใช้สอยอย่างพอเพียงมาจนถึงปัจจุบัน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  9. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ฟังจากที่คุณยายเล่า
    ตอนพ่อท่านคล้ายยังอยู่
    เมื่อมีคณะศรัทธา จากจังหวัดภูเก็ต มากราบพ่อท่านคล้าย
    ท่านจะถามว่า "เป็นยังไงบ้าง มณฑปที่ฉานสร้างไว้ ยังสวยยังงามดีอยู่หรือม๊ายแม่"
    ผู้มากราบก็บอกว่า "มณฑปพ่อท่านยังสวยดีอยู่พ่อท่าน"
    คุณยายเล่าว่า เป็นปริศนาธรรมของพ่อท่านคล้าย คือที่ท่านถาม หมายถึงผู้มากราบ ได้อยู่ในธรรม รักษาใจให้สะอาด ดีงาม อยู่หรือเปล่า"
     
  10. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    เรื่องราวพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
    บันทึกโดย ที่ระลึกการทอดกฐิน วัดพระธาตุน้อย พ.ศ.2512
    เมื่อครั้งเกิดมหาวาตะภัยแหลมตะลุมพุกทางภาคใต้ ใคร ๆ ที่อยู่ในภาคใต้ เวลานั้นยังคงจำสภาพได้ดี ว่าเป็นธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนเลย มีทั้งฝนตกหนักและพายุพัดแรงจัดมาก ทำให้บ้านเรือนราษฎร์ ต้นไม้หักโค่นล้มรอบเกะกะทั่วไปหมด กุฏิของหลวงพ่อที่วัดเจดีย์ ซึ่งสร้างขี้นชั่วคราวเป็นเรือนไม้มีเสาเล็ก ๆ ตั้งวางอยู่บนฐานแผ่นอิฐต้นละ 2 แผ่น ไม่มีรากฐานอะไรยึดให้มั่นคงแข็งแรงเลย และปลูกอยู่กลางแจ้งในลานวัดเจดีย์ ซึ่งอยู่ตรงกับทิศทางลมพายุ ดังกล่าวพอดีเสียด้วย ในวันที่เกิดมหาวาตะภัยชาวบ้านนึกว่ากุฎิของหลวงพ่อหลังน้อยนี้ คงจะถูกฝนพายุพัดพังเสียแล้ว เพราะเห็นบ้านเรือนของราษฎร ต้นไม้ ต้นยางพาราในบริเวณใกล้เคียงรอบ ๆ วัดเจดีย์ พังล้มราบเป็นหน้ากลองทั่วไปหมด แต่เมื่อพายุฝนสงบลงแล้ว ปรากฎว่ากุฎิที่อยู่ของหลวงพ่ออยู่อย่างปลอดภัย เพียงแต่ถูกพายุฝนเปียกบ้างตามธรรมดาเท่านั้น ลูกศิษย์ที่อยู่กับหลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า
    “ในคืนเกิดเหตุมหาวาตะภัยครั้งนั้นหลวงพ่อไม่ได้หลับนอนเลย นั่งเพ่งกระแสจิตและใช้ผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ โบกแบ่งกำลังลมพายุฝนไปทางซ้ายทีทางขวาทีอยู่ตลอดเวลา นับว่าน่าแปลกประหลาดมากและอัศจรรย์ยิ่ง”

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p7.jpg
      p7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.7 KB
      เปิดดู:
      2,607
  11. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    "ถ้ำตลอด" อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช (ไปขอพรพระอรหันต์ในถ้ำ ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ)
    พ่อท่านคล้ายได้ปฏิสังขรณ์พระบรรทมและพระพุทธรูป ๒ องค์ ซึ่งอยู่หน้าถ้ำที่ถ้ำตลอด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
    พระบรรทมซึ่งประดิษฐานอยู่ในถ้ำตลอดแห่งนี้ มีพระธาตุของพระอรหันต์บรรจุอยู่ที่พระเศียรของพระบรรทม
    ซึ่งพระธาตุพระอรหันต์นี้เป็นของพ่อท่านคล้าย เล่ากันว่า ขณะที่กำลังสร้างพระบรรทมนี้ยังไม่สามารถหาพระธาตุมาบรรจุที่พระเศียรของพระบรรทมได้
    ระหว่างที่คนสนิทของพ่อท่านได้เข้าไปเฝ้าพ่อท่านคล้ายอยู่ ๒-๓วันนั้น ระหว่างนั้น
    พ่อท่านได้เล่าให้คนสนิทคนนี้ฟังว่า “บ่าวเหอ กูได้แล้ว”
    คนสนิทคนนั้นจึงถามว่า “ได้ไหรละพ่อท่าน”
    พ่อท่านตอบว่า “ได้พระธาตุแต่ไม่ใช่พระธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นพระธาตุของพระอรหันต์”
    พ่อท่านเล่าต่อว่า “มาบินวนอยู่ ๒-๓ วัน แล้วมากระทบตา แล้วตกลงมาที่มือ ฉันพิสูจน์แล้วว่าเป็นของจริง ฉานเอาใส่ตา ไม่เคืองตาแสดงว่าเป็นของจริง”
    หลังจากนั้นพ่อท่านจึงนำพระธาตุนั้นไปบรรจุอยู่ที่เศียรพระบรรทม
    ภาพจาก : จากคุณ : digimontamer เพื่อการศึกษาขอบพระคุณ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p8.jpg
      p8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.1 KB
      เปิดดู:
      2,646
  12. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    วัดธาตุน้อย
    พ่อท่านคล้ายได้สร้างองค์เจดีย์ วัดธาตุน้อย โดยได้นำแบบพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช มา
    ภายในองค์เจดีย์ นอกจากประดิษฐาน พระบรมธาตุแล้ว
    ยังมีโลงแก้ว เก็บสรีระ ของพ่อท่านคล้าย ประดิษฐานให้คณะผู้ศรัทธาได้กราบไหว้อีกด้วย
    และท่านได้สร้างพระนอนองค์ใหญ่ สวยงาม อยู่ใกล้ๆ องค์เจดีย์

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ตำนานแห่ผ้าขึ้นธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    ตามตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุมีว่า ในสมัยที่พระเจ้าสามพี่น้อง คือ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระเจ้าจันทรภาณุ และพระเจ้าพงษาสุระ กำลังดำเนินการสมโภชพระบรมธาตุอยู่นั้น คลื่นได้ซัดผ้าแถบยาวชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีลายเขียนเรื่องราวพุทธประวัติ (เรียกว่า พระบฎ หรือ พระบต) ขึ้นที่ชายหาดปากพนัง
    จึงนำผ้าผืนนั้นไปถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระองค์จึงรับสั่งให้ซักจนสะอาด แต่ลายเขียนพุทธประวัติก็ไม่ลบเลือนยังคงสมบูรณ์ดีทุกประการ
    จึงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ ได้ความว่าชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง จะเดินทางไปลังกา เพื่อนำพระบฎไปถวายเป็นพุทธบูชาพระทันตธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้ว แต่เรือถูกมรสุมซัดแตกที่ชายฝั่งเมืองนครมีรอดชีวิต 10 คน
    ส่วนพระบฏถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งปากพนัง พระเจ้าศรีธรรมโศกราชทรงพิจารณาเห็นว่าควรจะนำขึ้นไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์เนื่องในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ เจ้าของพระบฎที่รอดชีวิตก็ยินดีด้วย
    จึงโปรดให้ชาวเมืองนครจัดเครื่องประโคมแห่แหนผ้าห่มโอบฐานพระบรมธาตุเจดีย์ จึงเป็นประเพณีประจำเมืองนครสืบมาจนทุกวันนี้

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p9.jpg
      p9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      159.2 KB
      เปิดดู:
      2,680
  14. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านนวล วัดไสหร้า อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    พ่อท่านนวล ท่านเริ่มพัฒนาการศึกษาและสาธารณูปโภค
    โดยเริ่มในปี พ.ศ. 2501 ท่านเริ่มสร้างโรงเรียนวัดประดิษฐาราม โดยบริจาคที่ดินของวัดจำนวน 12 ไร่ เป็นที่ตั้งโรงเรียน และสนับสนุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี มีความประพฤติดี แต่ฐานะยากจน
    โดยได้ก่อตั้งกองทุน หลวงพ่อนวล ปริสุทโธ และได้ก่อตั้งกองทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษา แก่พระภิกษุ และ สามเณร
    นอกจากนั้น ท่านยังเริ่มก่อสร้างสิ่งต่างๆ ในวัด เช่น กุฏิ โรงธรรม หอฉัน และ บ่อน้ำสาธารณะ
    และต่อมาก็ได้ขอแรงจากแรงงานเครื่องจักรกลจากแขวงการทางนครศรีธรรมราช เพื่อมาสร้างถนน สิ่งปฏิสังขรณ์ เมรุเผาศพ ศาลาพักร้อน ซุ้มประตูวัด และโรงทานเอนกประสงค์ ใช้ในเวลาที่จะมีการประชุมกันในวัดของหน่วยงานราชการและชุมชน สร้างอาคารรับรองอาคันตุกะและอื่นๆ อีกมากมาย
    ท่านมักจะคอยอบรมสั่งสอนสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้ยึดมั่นในหลักธรรมของพุทธศาสนาในการดำรงชีวิต และทำแต่ความดี หลวงพ่อท่านมีศีลวัตรปฏิบัติอันงดงาม จนทำให้ประชาชนเกิดความเลื่อมใส พ่อท่านได้รับกิจนิมนต์เป็นประจำ ไปร่วมประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ในต่างจังหวัด หรือ ในกรุงเทพฯ หรือบางที ท่านเดินทางไปปลุกเสกวัตถุมงคล ถึงต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
    วัตถุมงคลของท่าน ก็คอยคุ้มครองคนดีเสมอ ส่วนใหญ่ท่านไม่ค่อยอยู่ประจำจังหวัด มักจะมีกิจนิมนต์มากมาย ท่านต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ มีแค่วันพระ ที่ท่านจะอยู่ที่วัด เพื่อคอยต้อนรับญาติโยม ที่มาทำบุญ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ยึดมั่นในหลักธรรมของพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด มีจริยวัตรที่งดงามปฏิบัติกิจตามหน้าที่ของสมณะอย่างสม่ำเสมอไม่เว้นแม้แต่ยามเจ็บไข้ได้ป่วย พ่อท่านเคร่งครัดในกฎระเบียบยิ่ง
    ในการประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบท คนที่เคยติดสุรา หรือ บุหรี่ จะต้องเลิกเด็ดขาด พ่อท่านมักจะอบรมสั่งสอน และให้ข้อคิดดีๆ เสมอ โดยเฉพาะเรื่องชีวิตของมนุษย์ ท่านมักจะเตือนสติ ญาติโยม ลูกศิษย์ ลูกหา ว่า "คนเราเกิดมาล้วนมีหนี้ติดตัวมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินหนี้บุญคุณและหนี้ชีวิตซึ่งตัวท่านได้ปฏิบัติเพื่อปลดเปลื้องหนี้ตลอดมา โดยเฉพาะหนี้ชีวิต"

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p10.jpg
      p10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.3 KB
      เปิดดู:
      2,460
  15. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านนวล วัดไสหร้า จังหวัดนครศรีธรรมราช (กราบขอพรท่านแล้วจะสมประสงค์ทุกอย่าง)
    พ่อท่านนวล ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์”ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากหลวงพ่อนวล ท่านไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ
     
  16. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    สู่ฉายา ‘พ่อท่านนวล วาจาสิทธิ์ วัดไหสร้า จังหวัดนครศรีธรรมราช ’ ตอนที่ 1
    ราว พ.ศ. ๒๕๑๒-๒๕๑๓ มีเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเล่าขานและโจษจันกันทั่วไปในหมู่ลูกศิษย์ของพ่อท่านนวล รวมถึงชาวบ้านในละแวกวัดไสหร้าในสมัยนั้น จนเป็นที่มาของฉายา ‘พ่อท่านนวล วาจาสิทธิ์’ มาจนถึงปัจจุบันนั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ ‘บ่าวหมัน’ ชายสติไม่สมประกอบ
    ผู้อุทิศตัวเพื่อรับใช้พระพุทธศาสนา ตอบแทนบุญคุณข้าวก้นบาตรของวัด และตอบแทนความเมตตาที่ได้รับจากพ่อท่านนวลด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ยิ่ง‘บ่าวหมัน’ เป็นชาวอิสลามโดยกำเนิด ซัดเซพเนจรมาถึงวัดไสหร้าและได้รับความเมตตาจากพ่อท่านนวลให้พักอาศัยหลับนอนอยู่ที่วัด กินข้าวก้นบาตรของวัดประทังชีวิตมานานหลายปี แม้จะมีกรรมด้วยสติไม่สมประกอบมาแต่กำเนิด แต่ก็เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าบ่าวหมันผู้นี้มีความขยันขันแข็งอย่างน่าชื่นชม ทั้งขุดดิน ถากถางหญ้า ปลูกต้นไม้ กวาดลานวัด
    ดูแลความสะอาดเรียบร้อยภายในบริเวณวัดด้วยความเอาใจใส่ ภาพของบ่าวหมันที่เดินหยิบโน่นจับนี่ช่วยเหลืองานในวัดอย่างไม่นิ่งดูดาย จึงเป็นภาพที่ชาวบ้านซึ่งแวะเวียนมาที่วัดไสหร้าบ่อยๆ ได้เห็นจนคุ้นชิน จนแม้แต่พ่อท่านนวลเองก็ถึงกับออกปากชมเชยในความขยันขันแข็งของ ‘เด็กวัด’ ผู้นี้“หลวงพ่อท่านเล่าว่า บ่าวหมันขยันมาก เขาเป็นคนที่...พอกินข้าวเสร็จจะต้องทำงาน เขาจะบอกเสมอว่า ‘อย่านอน ต้องทำงาน’ ถ้าช่วงไหนมีพระใหม่ๆ มาอยู่ที่วัด ถ้าพระองค์ไหนฉันข้าวเสร็จแล้วนอนตื่นสาย ไม่กวาดวัด
    บ่าวหมันจะไปนั่งบ่นอยู่หน้ากุฏิเลย ‘ไม่รู้เรื่อง ไม่ทำงานทำการ...’ บ่นๆอยู่หน้ากุฏินั่นแหละ” (เล่าโดยหลวงบ่าว−คุณเฉลิมพร กามูณี)ในยุคนั้นวัดไสหร้ารวมถึงชาวบ้านในเขตตำบลใกล้เคียงยังไม่มีน้ำ
    ประปาใช้ แม้แต่ในบ้านเรือนของชาวบ้านก็ต้องขุดบ่อน้ำเอาไว้ใช้ในครัวเรือนเอง สำหรับที่วัดไสหร้านั้น เมื่อแรกเริ่มสร้างวัด ชาวบ้านได้ร่วมกันขุดบ่อน้ำเอาไว้บ่อหนึ่งตรงแนวป่าด้านหลังวัด (ใกล้ๆ กับบริเวณที่เรียกว่า ‘ป่าช้า’ของวัดในปัจจุบัน) สำหรับให้ทางวัดใช้อุปโภคบริโภค แต่เนื่องจากพื้นที่วัด
    ไสหร้าอยู่ห่างจากลำน้ำตาปีแค่ประมาณ ๕๐๐ เมตร และแทบทุกปีเมื่อถึงหน้าน้ำหลาก น้ำจากลำน้ำตาปีก็จะเอ่อล้นตลิ่งขึ้นมาท่วมพื้นที่ใกล้เคียง ที่ลุ่มบริเวณแนวป่าหลังวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำจึงมักถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถนำน้ำมาใช้อุปโภคบริโภคได้แทบจะตลอดช่วงหน้าน้ำหลากนั้น
    ผู้ที่มองเห็นความเดือดร้อนนี้ก็คือ บ่าวหมัน...ชายผู้สติไม่สมประกอบในสายตาใครต่อใครนี้เอง...
    ทันทีที่ได้รับอนุญาตจากพ่อท่านนวล บ่าวหมันก็ลงมือขุดบ่อน้ำบ่อใหม่ให้แก่วัดไสหร้าด้วยความตั้งอกตั้งใจ ถากถางพื้นที่ที่จะสร้างด้วยตัวเองขุดดิน ขนดิน ทำทุกอย่างทุกขั้นตอนด้วยตัวเองคนเดียวตามสติปัญญาที่จะคิดได้ ลงแรงอย่างเต็มที่เท่าที่เรี่ยวแรงของเขาจะทำได้ จนกระทั่งบ่อน้ำบ่อใหม่
    ของวัดเสร็จสมบูรณ์ และเนื่องจากบ่อน้ำแห่งใหม่นี้อยู่ใกล้กับกุฏิและเสนาสนะส่วนใหญ่ของวัด ทำให้การนำน้ำมาใช้มีความสะดวกสบายกว่าเดิมมาก เนื่องจากไม่ต้องเดินไปไกลถึงป่าท้ายวัด ดังนั้น ทางวัดจึงได้ใช้น้ำจาก‘บ่อบ่าวหมัน’ ในการอุปโภคบริโภคอย่างคุ้มค่าสมกับความเหน็ดเหนื่อยของบ่าวหมัน ในขณะที่บ่อน้ำเก่าท้ายวัดก็ได้ถูกปิดไปโดยปริยายและเรื่องราวของบ่าวหมันผู้มีหัวใจบริสุทธิ์คนนี้เอง ที่เป็นเหตุแห่งที่มาของฉายา ‘วาจาสิทธิ์’ ของพ่อท่านนวลแห่งวัดไสหร้า

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p11.jpg
      p11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.6 KB
      เปิดดู:
      2,506
  17. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    สู่ฉายา ‘พ่อท่านนวล วาจาสิทธิ์ วัดไหสร้า จังหวัดนครศรีธรรมราช ’ ตอนที่ 2

    วันหนึ่ง ผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนหนึ่งซึ่งน่าจะดื่มเหล้ามาพอสมควร
    เดินผ่านมาและได้พบกับบ่าวหมัน เล่ากันว่าบ่าวหมันเองน่าจะพูดหรือทำอะไร
    สักอย่างที่ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่คนนี้โกรธมาก และด้วยความโกรธบวกกับฤทธิ์
    แอลกอฮอล์ก็ทำให้ผู้ใหญ่คนนั้นถึงกับลงมือทุบตีทำร้ายบ่าวหมันจนฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว
    ด้วยความเจ็บปวดปนความโกรธและน้อยอกน้อยใจ บ่าวหมันหอบ
    สังขารที่บอบช้ำมานั่งร้องครางโอดโอยอยู่หน้ากุฏิของพ่อท่านนวลที่เขาทั้งรัก
    และเทิดทูน ชาวบ้านหลายคนที่อยู่ในวัดเวลานั้นต่างเข้ามาดูและซักถาม
    ต้นสายปลายเหตุกันเป็นการใหญ่ เช่นเดียวกับพ่อท่านนวลที่ออกมาดูอาการของ
    บ่าวหมันด้วย และเมื่อเห็นสภาพอันน่าเวทนาของลูกศิษย์ผู้มีสติไม่สมประกอบ
    “ใครตีบ่าวหมัน...ตาบอด!”ทันทีที่พูดจบ พ่อท่านนวลก็นิ่งไปเหมือนจะ ‘รู้สึกตัว’
    ในขณะที่พ่อท่านนวลเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมานั้น ท่านมิได้อยู่ในอาการ
    ขึ้งโกรธจนขาดสติ หากแต่ท่านพูดด้วยสติที่สมบูรณ์พร้อม พูดด้วยเหตุและผลตามหลักธรรมะซึ่งมีนัยยะที่กินความหมายลึกซึ้งว่า...ใครก็ตาม ที่ไม่มีสติพอที่จะควบคุมอารมณ์ด้านมืดของตนเอาไว้ได้
    ใครก็ตามที่ลงมือทำร้ายได้แม้แต่คนพิการที่สติไม่สมประกอบ ก็เสมือนคนผู้นั้นมีความคิดที่มืดบอด ซึ่งคนที่มีความคิดมืดบอดก็ไม่ต่างอะไรกับคนตาบอด...
    นั่นคือความหมายของประโยคที่ว่า ‘ใครตีบ่าวหมัน...ตาบอด’
    แต่ทันทีที่พูดจบ ท่านก็ ‘รู้สึกตัว’ ว่าคำพูดในเชิง ‘อุปมา’ ของท่าน
    ครั้งนี้ เมื่อแปลแบบ ‘ตรงตัว’ แล้ว ช่างเป็นความหมายที่น่าหวาดหวั่นสำหรับคนผู้ถูกเอ่ยถึงเหลือเกิน
    อาการนิ่งของพ่อท่านนวลจึงเกิดขึ้นด้วยเหตุผลดังกล่าว แล้วท่านก็ไม่
    ได้เอ่ยปากพูดถึงคนผู้ทำร้ายบ่าวหมันอีกเลยตลอดเวลาที่ดูอาการของบ่าวหมันในวันนั้น
    “หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ใหญ่คนนั้นก็ตาบอดจริงๆ บอดตาใสด้วย คือ
    ตาของแกก็ยังคงมีลักษณะเหมือนตาของคนเราปกตินี่แหละ เพียงแต่แกมอง
    อะไรไม่เห็นไปเลย ซึ่งทำให้หลังจากนั้นมาชาวบ้านก็ยิ่งเกรงบารมีพ่อท่านมาก
    ขึ้น แล้วก็ระมัดระวังตัวในการที่จะทำอะไรต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะถ้าเป็น
    เรื่องที่ไม่ดี ทุกคนจะเกรงท่านหมด กลัวว่าท่านจะรู้ กลัวว่าท่านจะพูดอะไร
    ที่กระทบกับตนเอง แต่หลวงพ่อเองท่านก็รู้นะ และพอท่านทราบว่าผู้ใหญ่
    คนนั้นตาบอดจริงๆ ท่านก็ไม่ได้สบายใจเลย เพราะเจตนาของท่านนั้นไม่ได้
    จะแช่ง ท่านเพียงแค่พูดเปรียบเปรยเท่านั้น แต่พอเรื่องเป็นแบบนี้ก็เลย
    กลายเป็นว่ายิ่งทำให้ท่านพูดน้อยลงไปอีก ยิ่งระวังคำพูดมากขึ้นไปอีก”
    (เล่าโดยพระครูวินัยธรวีระพงศ์ วรปญฺโญ)
    (หมายเหตุ : ปัจจุบันบ่าวหมันได้เสียชีวิตลงแล้วที่บ้านเกิดของเขาเองส่วน ‘บ่อบ่าวหมัน’ นั้น ภายหลังเมื่อมีน้ำประปาใช้ บ่อนี้จึงถูกปิดไป และเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณูปการของบ่าวหมันที่มีต่อพระพุทธศาสนา พ่อท่านนวลจึงดำริให้ปรับแต่งบ่อน้ำแห่งนี้เสียใหม่ โดยให้ช่างสร้างฐานเป็นรูปดอกบัวปิด
    ทับบ่อน้ำเอาไว้ ส่วนด้านบนของดอกบัวสร้างเป็นรูปธรรมจักรซึ่งเป็นสัญลักษณ์
    ของพระพุทธศาสนา อันมีความหมายเป็นนัยยะว่า...ไม่ว่าคนผู้นั้นจะนับถือศาสนาใด แต่เมื่อเขาได้ทำประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนา ก็นับได้ว่าเขาเป็นชาวพุทธคนหนึ่ง และสมควรได้รับความเคารพในฐานะผู้นำความเจริญมาสู่พระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน)

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p12.jpg
      p12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.6 KB
      เปิดดู:
      2,560
  18. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ผมเอง ได้ทราบประวัติพ่อท่านนวล ปริสุทโธ และเรื่องราวของท่าน ทราบว่าท่านเป็นศิษย์พ่อท่านคล้าย และต่อมาได้รับกล่าวขานว่า ท่านวาจาสิทธิ์
    จึงพยายามหาโอกาศ ไปทำบุญถวายสังฆทานกับท่าน เพื่อได้มีโอกาศรับพรจากท่าน
    ในแต่ละวันจะมีคณะผู้ศรัทธา มากราบทำบุญกับท่านมากมาย เพื่อรับพรจากท่านเป็นมงคลกับชีวิตด้วยเชื่อมั่นถึงวาจาสิทธิ์ของท่าน
    ในพิธีพุทธาภิเษก เหรียญรุ่นรับเลื่อนสมณศักดิ์ และพระพุทธสิหิง ในวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๔ ผมได้มีโอกาศนำพระผงจักรพรรดิ์ ที่สร้างตามรูปแบบของหลวงปู่ดู่ที่หลวงตาม้าอนุญาต มาเข้าพิธีในครั้งนี้เป็นครั้งแรก
    ในพิธีนั้น ท่านเสกเดี่ยว ระหว่างพิธี ฝูงตัวต่อที่ทำรังด้านข้างโบสถ์บินวนไปมาตลอดพิธี
    เดี๋ยว ค่อยนำวัตถุมงคลของท่าน ที่มีให้บูชาที่วัด ในงานยกช่อฟ้าฝังลูกนิมิต วัดไสหร้า มาฝากครับ
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  19. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จังหวัดนครศรีธรรมราช
    [​IMG]
    หลวงปู่คลิ้ง เป็นพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช มีนามเดิมว่า คลิ้ง ฉิมแป้น เป็นบุตรของนายแก้ว กับนางทุ่ม เกิดที่บ้านป่าตอ หมู่ที่ 1 ตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีที่ธรรมราช เป็นเจ้าอาวาสวัดถลุงทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ พุทธศาสนิกชนนับว่าเป็นพระภิกษุที่ศักดิ์สิทธิ์
    หลวงปู่คลิ้งไม่ได้ผ่านการศึกษาในระบบโรงเรียน แต่อาศัยพระและพ่อแม่ช่วยสอนให้ จึงสามารถอ่านออกเขียนได้ ได้บรรพชา ณ วัดเชิงแตระ ตำบลท้ายสำเภอ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปละปีถัดมา พ.ศ. 2448 ได้อุปสมบท ณ วัดป่าตอ ตำบลเดียวกัน โดยมีพระขำ เจ้าอาวาส วัดถลุงทอง เป็นอุปัชณณาย์
    เมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพระที่ชาวบ้านนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์ มีวาจาสิทธิ์ ได้ฝันว่ามีคนหนึ่งมาขอเด็กหลวงพ่อคล้ายสัก 1000 คน แต่ท่านไม่ยอมให้ ผู้นั้นถามท่านว่า เด็กของท่านมีอะไรเป็นเครื่องหมาย หลวงพ่อคล้ายบอกว่ามีจีวรผูกคอหรือไม่ก็ข้อมือ หลังจากท่านเล่าความฝันให้ชาวบ้านฟังแล้ว เล่าลือไปถึงร่อนพิบูลย์แต่สมัยนั้นเดินทางลำบาก จึงได้ไปพึ่งบารมีพ่อท่านคลิ้งแทน เพื่อที่จะขอจีวรพ่อท่านคลิ้ง
    ท่านนำจีวรเก่า ๆ มาฉีกให้ ต่อมาเกิดรถไฟชนรถยนต์ที่ 4 แยกวังวัว มีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่ผู้ที่มีจีวรของท่านผูกคอหรือข้อมือไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ยึ่งทำให้ให้มีผู้ศรัทธาพ่อท่านคลิ้งมากขึ้น เล่ากันว่ายังกันสุนัขกัดอีกด้วย และภายหลังจีวรของท่านถือเป็นเครื่องลางประจำตัว ความศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่คคลิ้งยังแสดงให้เห็นอีกมากมาย อาทิ ท่านทักคนที่เมาเหล้าที่เอะอะวุ่นวายในวัดว่า ท่าจะบ้าแล้วหรือ ผู้นั้นก็บ้าจริง ๆ มีคนยิ่งรถรับจ้างสองแถวที่ซึ่งท่านผูกคอพวงมาลัยเอาไว้ด้วยจีวร แต่ยิงไม่ออก เหล่านี้ล้วนทำให้ความเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ของท่านเล่าลือไปไกล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2015
  20. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +4,694
    หลวงพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง อ.ร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    [​IMG]
    พระครูภาวนาภิรมย์ พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นับว่าเป็นอริยะสงฆ์แดนทักษิณอีกองค์หนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช ตลอดชีวิตร้อยกว่าปีของท่านมีแต่เมตตาธรรมต่อผู้ที่ได้ไปกราบท่านสำหรับความศักดิ์สิทธิ์ของท่านนั้น ขนาดพ่อท่านคล้าย แห่งวัดสวนขัน ยังกล่าวยกย่อง พ่อท่านคลิ้งเสมอ เช่นว่า มีชาวบ้านจาก อ.ร่อนพิบูลย์ไปกราบพ่อท่านคล้าย พอท่านทราบว่ามาจากร่อนพิบูลย์ ท่านก็จะกล่าวว่า “ทีหลังไม่ต้องมาไกลถึงนี้หรอก ไปหาท่านคลิ้งนั้นแหละ ท่านคลิ้ง(หลวงพ่อคลิ้ง)ให้พรดีเหมือนเหมือนฉัน” หรือ แม้แต่พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ก็ยังกล่าวยกย่อง พ่อท่านคลิ้ง อยู่เสมอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p13.jpg
      p13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.9 KB
      เปิดดู:
      2,474

แชร์หน้านี้

Loading...