เรื่องเด่น เล่า!!ประสบการณ์ปฎิบัติธรรม “มหาจุฬาฯ” ที่ไหน “ผีดุ”

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 1 ธันวาคม 2019.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    e0b8b0e0b8aae0b89ae0b881e0b8b2e0b8a3e0b893e0b98ce0b89be0b88ee0b8b4e0b89ae0b8b1e0b895e0b8b4e0b898.jpg


    โดย..อุทัย มณี (เปรียญ)


    ทุก ๆ ปี หลังสอบจบปลายภาคมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีธรรมเนียมวัตรปฎิบัติอย่างหนึ่งที่ปฎิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่งยุคแรก ๆ คือ “พระนิสิตทุกรูปต้องปฎิบัติกัมมฐานประจำปี” เป็นเวลา 10 วัน โดยผู้บริหารแต่ละคณะจะนำไปปฎิบัติธรรม..ตามจุดที่ประสานกับเจ้าของพื้นที่เอาไว้

    สำหรับปีนี้ วิทยาลัยพุทธศาสน์นานาชาติ หรือ IBSC ไป ปฎิบัติธรรมที่ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 -15 ธันวาคมนี้ โดยมีพระนิสิตนานาชาติไปร่วมปฎิบัติธรรมจำนวนประมาณ 300 รูป/คน จาก 32 ชาติ ท่านใดหากต้องการไปร่วมถวายภัตตาหารเช้า -เพล ก็สามารถไปร่วมได้ หากจะว่าไปแล้วจำนวนพระนิสิต 300 รูป/คนจาก 32 ชาตินี้ หากเราจะนิมนต์มาทำบุญที่ไหนสักแห่งคงเป็นเรื่องยาก แต่หากท่านไปทำบุญไปถวายภัตตาหาร ไปถวายน้ำปานะที่แคมป์สนในห้วงเวลานี้เหมือนได้ทำบุญกับ “พระทั้งโลกครบทุกนิกายจาก 32 ชาติ ” และรวมทั้งภิกษุณีด้วย ท่านใดต้องการไปร่วมทำบุญกับพระนานาชาติก็ขอเชิญชวน

    และที่แคมป์สนนี้แหละหลังวันที่ 15 พระนานาชาติกลับกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะครุศาสตร์ ท่านก็จะไปปฎิบัติธรรมที่นี้ต่อไประหว่างวันที่ 16-27 ธันวาคม สมัยเป็นพระนิสิตผู้เขียนเคยปฎิบัติธรรมในลักษณะแบบนี้ที่แคมป์สน แคมป์สนเลื่องลือชื่อเรื่อง “ผีดุ” เวลาปฎิบัติธรรมพระสอนกัมมฐานต้องเฝ้าดูอารมณ์พระนิสิตอย่างใกล้ชิด เพราะบางรูปติดในอารมณ์กัมมฐานแล้วมีอาการแปลก ๆ เช่น ร้องให้ ปฎิบัติหลับตาปลุกไม่ตื่น ตัวสั่น อันนี้เป็นอารมณ์ของการปฎิบัติจำต้องมีพระอาจารย์กัมมฐานคอยแก้ แต่เรื่องผีดุ ปีที่ไปปฎิบัตินั่น มีพระนิสิตรูปหนึ่ง ถูกผีหลอก วิ่งหนีออกจากกลดด้วยเสียงโวยวายร้องลั่น ท่านเล่าว่า มีคนแต่งตัวชุดโบราณตัวใหญ่มากระทืบท่าน ไล่ออกจากที่นอน เพราะไปนอนทับที่นอนของเขา จนต้องวิ่งออกมา ส่วนอีกรูป เล่าให้ฟังว่าเจอคนนุ่งขาวหุ่มขาวมายืนอยู่ที่ปลายเท้ามองท่านด้วยตาที่ดุร้าย ตอนหลังบรรดาพระอาจารย์และอาจารย์ที่เป็นฆราวาสเล่าให้ฟังว่า สถานที่ตรงนี้เคยมีการสู้รบกันและมีคนเสียชีวิตหลายรายในยุคคอมมิวนิสต์

    ส่วน ระหว่างวันที่ 13 -25 ธันวาคม คณะสังคมศาสตร์มีพระนิสิตประมาณ 500 รูป จะไปปฎิบัติธรรมที่สวนเวฬุวัน (สวนไผ่) พุทธมณฑล จ.นครปฐม สิ่งที่ต้องการก็เหมือนกับคณะอื่น ๆ คือ อาหารเช้า-เพล น้ำปานะ จึงขอเชิญชวนพุทธบริษัทไปร่วมถวายภัตตาหารได้ ใกล้ที่ไหนไปที่นั้น บุญใหญ่ ๆ แบบนี้หายาก ปีหนึ่งมีครั้งเดียว

    ส่วนเรื่องเล่าขานเรื่องผีดุที่สวนไผ่นี้ก็ไม่ต่างจากแคมป์สน แต่ที่แตกต่างสวนไผ่เป็น “ผีผู้หญิง” แต่หากจะว่าไปแล้วหลายปีมานี้เรื่องผี ๆ ทั้ง 2 ที่ ไม่ค่อยได้ยินพูดถึงกันแล้ว ไม่เหมือนสมัยที่ผู้เขียนเป็นพระนิสิตทั้ง 2 แห่งนี้ พระนิสิตไม่อยากจะไปปฎิบัติธรรมกัน

    สำหรับคณะมนุษยศาสตร์ ปีนี้โชคดีคงจับฉลากได้ที่สบายหน่อยคือ จัดที่สวนกลางวังน้อย เรื่องสถานที่อาจจะสบาย เพราะคงไม่ต้องทนแดด ทนหนาว เหมือนกับต่างจังหวัด ส่วนคณะพุทธศาสตร์ผู้เขียนไม่มีข้อมูล แต่หากเดาไม่ผิดน่าจะเป็นมหาจุฬาอาศรมที่สระบุรี

    การปฎิบัติธรรมแบบนี้ถือว่า “เป็นเสน่ห์” ของการเรียนในมหาวิทยาลัยสงฆ์ คือ ไม่ให้นิสิตหลงอยู่กับปริยัติอย่างเดียว ต้องปฎิบัติด้วยมันจึงจะครบเรื่องในความเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา และเพื่อน ๆ ผู้เขียนหลายคนหลังจากจบออกมาแล้ว บางรูปก็เป็นพระสายวิชาการสอนหนังสือ บางรูปเป็นเจ้าอาวาส และมีอีกหลายรูปหันไปอยู่ในป่า หันตัวเองมุ่งปฎิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น

    และเสน่ห์อีกประการหนึ่งของการศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์คือ การปฎิบัติงาน หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า เป็นข้อบังคับอย่างเคร่งครัดของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งคือ พระนิสิตทุกรูป หลังจากจบปี 4 แล้วต้องปฎิบัติศาสนกิจเป็นเวลา 1 ปี จึงถือว่าจบการศึกษาที่สมบูรณ์ หลังจบภาคการศึกษาครบ 4 ปีแล้ว หากไม่ปฎิบัติศาสนกิจสภามหาวิทยาลัยไม่อนุมัติให้จบ

    อนาคตพระนิสิตเหล่านี้ถือว่า เป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนา ปัจจุบันอดีตพระนิสิตมหาจุฬา ฯ บางรูปเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นเจ้าคณะพระสังฆาธิการผู้กำหนดทิศทางกิจการพระพุทธศาสนา และทุกรูปก็เคยผ่านมาในลักษณะแบบนี้ และทุกรูปก็ต้องปฎิบัติธรรมแบบนี้ ซึ่งบางคนบอกว่าคือ “การเข้าค่ายฟอกจิต” ปีละครั้ง

    อันนี้เล่าให้ฟัง..พร้อมกับเชิญชวนท่าน ๆ ทั้งหลายให้ไปร่วมกันถวายน้ำปานะ ถวายภัตตาหารเช้า -เพล ให้พระอาจารย์สอนกัมมฐาน พระนิสิตที่ไปร่วมปฎิบัติธรรมตามวันและสถานที่ที่ผู้เขียนได้กล่าวเอาไว้ ส่วนอานิสงส์ การถวายภัตตาหาร น้ำปานะ สำหรับพระกัมมฐาน คนปฎิบัติธรรมคงไม่ต้องอธิบาย เพราะแค่ท่านนึกอยากไปร่วมทำบุญ..ใจก็เบิกบานแล้ว





    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.posttoday.com/dhamma/607960
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ธันวาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...