เวลาของโลกมนุษย์และโลกวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 5 กุมภาพันธ์ 2009.

แท็ก: แก้ไข
  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,238
    พวกเราทุกคนเคยได้รู้มาได้ฟังมาว่า เวลาของสวรรค์ นรก หรือ เวลาของผู้ที่ตายไปนั้นช้ากว่าเวลาของโลกเรามากๆเช่น 1000ปีบนโลกมนุษย์อาจเท่ากับ1วันบนสวรรค์เป็นต้น หรือการที่มีคนบอกว่าคนตายกว่าจะรู้ตัวเองว่าตายไปนั้นก็ตั้ง3วัน 7วัน มีบ้างบางคนที่ฟื้นขึ้นมาเขาบอกว่าเวลาที่เขานอนหลับไป7วันนั้นน่ะ เขายังไม่ได้ไปไหนเลยเพียงแค่เห็นหมู่คนมากมายคุยกันยังไม่กี่คำก็ฟึ้นขึ้นมา และจริงๆแล้วเรื่องเวลาที่แตกต่างกันนี้พระพุทธองค์ก็ได้พูดถึงมากว่า2500 ปีแล้วดังที่เราจะเห็นได้ในพระตรัยปิฎก
    จริงๆแล้วก็มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่ยอมรับกันในปจุบันที่ไอสไตน์ได้อธิบายไว้
    แต่ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจดังนี้ก่อนนะครับว่า
    นักวิทยาศาสตร์อาจทำใจยอมรับวิญญาณได้ หากมองว่าวิญญาณเป็น พลังงานอย่างหนึ่ง
    และหากเรามองเหมือนนักวิทยาศาตร์ว่าวิญญาณคือ พลังงานอย่างหนึ่ง
    ผมจะอธิบายด้วยตัวอย่างง่ายๆนะครับ ซึ่งอัลเบิร์ต ไอสไตน์ พูดถึงเรื่องพลังงานดังนี้ครับ

    1.วัตถุใดมีขนาดเล็กมากไปถึงขนาดของอะตอม เรียกวัตถุนั้นว่า พลังงาน เช่นถ้าเราสามารถย่อตัวเราให้เล็กลงไปถึงขนาดอะตอม ตัวเราก็จะถูกเป็นพลังงานเช่นกันครับ
    2.วัตถุใดที่เคลื่อนที่ได้เร็ว เวลาบนวัตถุนั้นจะช้ากว่า เช่นถ้ามีรถอยู่2คัน แล้วเราเอาคนฝาแฝดไปอยู่บนรถคนละคันนะครับ รถคันแรกวิ่งเร็วกว่ารถคันที่สอง โดยรถคันแรกวิ่งด้วยความเร็ว 3000 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง รถคนที่สองวิ่งด้วยความเร็ว300กิโลเมตรต่อชั่วโมง แฝดที่อยู่บนรถคันแรกจะแก่ช้ากว่าแฝดอีกคนที่อยู่บนรถคันที่สองครับ เพราะเคลื่อนที่เร็วกว่า เวลาจะเดินช้ากว่า ความคิดนี้เองเป็นบ่อเกิด time machine เครื่องเดินทางข้ามอนาคตขึ้นมา
    3.โดยปกติพลังงานส่วนมากการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง คือ ประมาณ300000กิโลเมตรต่อวินาที ถ้าคิดไม่ออกว่าเร็วขนาดไหน ให้ลองสังเกตดูว่าตอนที่เราคุยโทรศัพท์กับเพื่อนต่างจังหวัดน่ะ เช่นคุยกับเพื่อนที่อยู่เชียงใหม่เพื่อนพูดมาเราได้ยินทันทีเลยหรือเราพูดไปเพื่อนก็
    ได้ยินทันทีเลย เพราะว่าสัญญาณเสียงถูกส่งออกไปกับสัญญาณวิทยุที่มีความเร็วประมาณ300000กม./วินาที

    ทีนี้จาก3ข้อด้านบนแล้วเราลองมาคิดตามนะครับ
    1.ถ้าวิญญาณเป็นพลังงาน ก็แสดงว่าวิญญาณก็เคลื่อนที่ได้เร็วเช่นกัน มีคนเคยบอกว่า คนตายนั้นเพียงแค่เขาคิดถึงใครวิญญาณเขาก็ปิ๊งไปหาคนนั้นทันที คิดถึงอะไรก็จะไปหาสิ่งนั้นทันทีเลย
    2.ถ้าวิญญาณเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนั้น ก็เข้าสู่กฎที่ว่า วัตถุใดมีความเร็วใกล้ความเร็วแสงเวลาที่วัตถุนั้นจะช้ามาก ทีนี้ก็ตรงกับที่เราได้ฟังมาว่า เวลาของสวรรค์ นรก และโลกคนตายจะช้ากว่าโลกมนุษย์ครับ

    นักวิทยาศาตร์เชื่อทฤษฎีนี้ก็ตอนที่มีดาวเทียมขึ้นไปลอยรอบโลก เพราะเวลาบนดาวเทียมจะช้ากว่าเวลาบนโลกครับ ก็ดาวเทียมโคจรรอบโลกประมาณ 24000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องมีการชดเชยเวลาที่เสียไปเมื่อดาวเทียมทวนสัญญาณมายังโลกไงครับ

    ที่มา...ศาลาธรรม<!--sizec--><!--/sizec--><!--IBF.ATTACHMENT_846997--><!-- THE POST --><!--sizec--><!--/sizec--><!--IBF.ATTACHMENT_846997--><!-- THE POST -->
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    มีเหตุมีผลดีครับ ขอบคุณครับพี่ /\
     
  3. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    มีเหตุมีผลดีครับ หุๆๆ

    หนังสือเรื่อง ไอนสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น ก็อธิบายเรื่องการยืดหดของเวลาที่สัมพัทกับความเร็ว หุๆๆๆ
     
  4. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    หนังภิภพวานร หนังแบคทูเดอะฟิวเจอร์ หนังซูเปอร์แมนภาคแรก ต่างล้วนอิงทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ของไอน์สไตน์ ไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อใดๆ
    ดูหนังจีนเห้งเจีย อาระวาดบนสวรรค์ 2 นาที เจ้าสวรรค์ห้องยาบอก เดี๋ยวก็ไปช่วยพระถังซำจั๋งไม่ทัน เพราะเวลาโลกมนุษย์เปลี่ยนไปเร็วมาก นี่ก็คือทางมหายาน
    พลังงานวิญญาณ น่าจะขดตัวอยู่ในทฤษฎี ซูเปอร์สตริง เทียรี่ ใกล้ๆเรานี่แหละ แต่เรามองไม่เห็นมิตินี้ แต่โครงการเซิน ในสวิส กำลังวิจัยเรื่องนี้อยู่ อาจจะคล้ายตอนพระพุทธเจ้าเปิด 3 โลกให้มนุษย์เห็นในอดีต แต่ปัจจุบัน โครงการเซิน อาจเปิด 3 โลกให้ดูกันก็ได้ แต่ไม่รู้เมื่อใด
     
  5. หล่อลำน้ำ

    หล่อลำน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +40
    พูดถึงเรื่องการทดลองของเซิร์น ตอนนี้เขาแอบทดลองอยู่หรือเปล่า เห็นเป็นข่าวหวือหวาอยู่ช่วงหนึ่งแล้วก็หายเงียบไป หรืออาจจะเป็นพวกกลุ่มนักวิทย์สติต๊องส์ที่บอกว่าจะทำให้เกิดหลุมดำ จำได้ว่ามีคนฆ่าตัวตายกับเรื่องนี้ด้วย .. มันจะเป็นไปได้อย่างไรรึท่าน?

    ผมตะหงิดๆ ว่ามันมีการทดลองอยู่ลับๆนะ แต่ไม่อยากเปิดเผยหรือเป็นข่าว ก็เหมือนกับความลึกลับของแอเรียห้าสิบหนึ่ง ที่ชอบทำอะไรแบบซุ่มเงียบ
     
  6. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ความน่ากลัวของ สังสารวัฏ คือ เวลา และความจำนี่ละครับ

    เพราะว่า กว่าที่เราจะเกิดมาเป็นคนได้ สนใจธรรมะ เข้าวัด ฟังธรรม ปฏิบัติ ภาวนา เชื่อคำสอนพระพุทธเจ้าได้นั้น ไม่ใช่

    ชาตินี้เราเพิ่งมาสนใจนะครับ ต้องอาศัยเวลาแต่ละชาติ ค่อยๆ สะสมมาทีนิดทีละหน่อย เริ่มตั้งแต่การไม่โกหก ของศีล 5

    ทีละข้อ ทีละข้อ สะสมเรื่อยมา จนรักษาศีลเป็นปกติ แค่ศีล 5 ก็วนเกิดมาไม่รู้กี่ชาติแล้ว แล้วถ้าเราพลาดตกนรกขึ้นมา

    บารมี สัญญาที่เราเคยทำความดีติดมาในจิตจะหายเกลี้ยง ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ ทีละชาติ ทีละชาติ ซึ่งลงไปนรก

    เวลาบนโลก จะช้า เราไปนรก 100 วันเวลาบนโลกอาจจะผ่านไปแค่ 1 วัน พอเสร็จจากนรก ก็ขึ้นมาเป็นสัตว์

    ไล่ไปตั้งแต่ สัตว์ตัวเล็กๆ ไปจนถึงสัตว์ใหญ่ แล้วค่อยมาเป็นมนุษย์ ก็คำนวนดูนะครับ กี่ชาติ แล้วเป็นมนุษย์ได้

    กว่าจะเป็นมนุษย์ที่ สนใจธรรมะอีก สะสมไปอีกหลายร้อยหลายแสนชาติ เลยครับ เพราะฉะนั้น ได้พบกับธรรมะแล้ว

    ก็มาทำความดี กันให้เยอะๆ นะครับ อย่าพลาดลงไปข้างล่างละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2009
  7. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    แล้วงัยต่อ
     
  8. humanbeing

    humanbeing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +214
    อ่านแล้วเข้าใจทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์มากขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ถ้าเป็นไปได้ก็อยากอ่านพุทธพจน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในพระไตรปิฎกด้วยจังเลยค่ะ เคยอ่านเจอแต่เรื่องที่สุดแห่งโลกที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ในพระคิริมานนทสูตร อยากรู้จังว่าเคยมีนักวิทยาศาสตร์ประเทศไหนทำการค้นคว้าเรื่องนี้ไว้บ้างไหมคะ

    "ที่สุดแห่งโลกนั้น จะถือเอาอากาศโลกหรือจักรวาลโลกนั้นมีที่สุดเบื้องต่ำก็เพียงใต้แผ่นดิน แผ่นดินนี้มีน้ำรอง ใต้น้ำนั้นมีลม ลมนั้นหนาได้ ๙ แสน ๔ หมื่นโยชน์สำหรับรองน้ำไว้ ใต้ลมนั้นลงไปเป็นอากาศหาที่สุดไม่ได้ ที่สุดโลกเบื้องต่ำก็เพียงลมเท่านั้น...."
    Source: http://santati2007.googlepages.com/kirimanont


     
  9. teeo79

    teeo79 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +96
    เยอะจังคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...