เสริมหน้าอกแบบไหนจึงจะเหมาะกับเรา

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย monkeydluffy, 24 พฤศจิกายน 2022.

  1. monkeydluffy

    monkeydluffy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2022
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +1
    GKL3RZ.jpg
    ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นที่นิยมมาก ไม่เฉพาะในกลุ่มคนไทย แต่รวมถึงชาวต่างชาติด้วย โดย การเสริมหน้าอก หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ทำนม คือการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อเพิ่มขนาดเต้านมให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้หน้าอกสวยงามเหมาะสมกับรูปร่างของแต่ละคน เพิ่มบุคลิกภาพความมั่นใจนอกจากนี้การทำหน้าอกยังช่วย แก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย รวมทั้งเป็นการสร้างเต้านมใหม่ให้ผู้ป่วยมะเร็งหลังตัดเต้านมอีกด้วย

    ประเภทของการเสริมหน้าอก
    GKLckk.jpg
    การ เสริมหน้าอก มีหลายประเภท แบ่งเป็น
    1. เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน คือการผ่าตัดนำซิลิโคนเข้าไปเพิ่มขนาดหน้าอกมี 2 ประเภท คือ ซิลิโคนน้ำเกลือ และ ซิลิโคนเจล โดยเราจะพูดถึงรูปทรงของซิลิโคนในหัวข้อต่อ ๆ ไป
    2. ฉีดไขมันหน้าอก คือการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง โดยแพทย์จะนำไขมันจากอวัยวะอื่นของผู้เสริมหน้าอกมาทำความสะอาดแล้วฉีดกลับเข้าไปยังหน้าอกเพื่อเพิ่มขนาด
    3.เสริมหน้าอกไฮบริด คือการทำนมด้วยซิลิโคน ควบคู่กับการฉีดไขมัน ซึ่งจะทำให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย, ผอม

    โดยก่อนทำแพทย์จะพูดคุยเกี่ยวกับรูปร่างและประเภทของทำหน้าอกที่เหมาะกับแต่ละคน โดยแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน

    ปัญหาเรื่องหน้าอก
    GKLOAg.jpg
    อย่างที่เคยบอกไปว่า การเสริมหน้าอก ทำนม นั้น ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่ทำเพื่อแก้ปัญหาเรื่องหน้าอกหลาย ๆ อย่างด้วย เพราะงั้นเราไปดูกันว่าการ ทำหน้าอกช่วยแก้ปัญหาเรื่องหน้าอกอะไรได้บ้าง

    หน้าอกไม่เท่ากัน
    ภาวะหน้าอกไม่เท่ากันนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้หญิงแทบทุกคน ภาวะนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ทำให้ก้อนไขมันและเนื้อเยื่อเต้านมข้างหนึ่งลดลง จนขนาดหน้าอกเปลี่ยน, การลดน้ำหนักผิดวิธี หรือ อาจเพราะใส่ชุดชั้นในที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้หน้าอกเสียรูปทรงไปได้โดยไม่รู้ตัว

    โดยการเสริมหน้าอก การทำนม จะมี 2 วิธีคือ
    1.การเพิ่มขนาดข้างที่เล็กกว่าให้ใหญ่เท่าข้างที่ใหญ่กว่า
    2.การลดขนาดข้างที่ใหญ่กว่าให้มาเท่ากับข้างที่เล็กกว่า

    หน้าอกห่าง
    หน้าอกห่าง คือ การที่ฐานของเต้านม 2 ข้างห่างจากกันมากจนเป็นพื้นที่กว้าง โดยเกิดจาก 2 สาเหตุหลักคือ โครงสร้างเดิมของเต้านมมีกระดูกอยู่ตรงกลาง หรือ ห่างหลังจากทำนมด้วยซิลิโคนเพราะเลือกไซส์ที่ไม่เหมาะกับสรีระผู้เสริม

    การเสริมหน้าอก จะช่วยให้หน้าอกที่ห่างชิดกันมากขึ้นและทำให้หน้าอกอวบอิ่มขึ้นมาอีกด้วย

    เสริมหน้าอก กี่ cc?
    การเสริมหน้าอกหลายคนอาจจะคิดว่าไหน ๆ ทำแล้วก็ต้องทำให้ใหญ่ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะถ้าเราทำนมโดยไม่คิดถึงสรีระร่างกายเรา จะเกิดผลเสียได้ เช่น ทำให้แน่นหน้าอก, หายใจไม่ออก, ปวดหลัง, หัวนมชา เนื่องจากซิลิโคนเบียดหัวนมและเส้นประสาท และมีโอกาสนมแข็งเพราะพังผืดรัดตัว

    ฉะนั้นการทำหน้าอกจะใส่กี่ cc นั้น แพทย์จะ วัดรอบอก, วัดเส้นผ่านสูงกลางหน้าอก, ความสูงหน้าอก, ระยะจากหัวนมถึงฐานนม จากนั้นจึงค่อยเลือกขนาด cc ที่เหมาะจึงจะได้ไซส์ซิลิโคนที่ดูเป็นธรรมชาติเข้ากับผู้เสริมหน้าอก

    ทรงซิลิโคนเสริมหน้าอก
    ในการทำหน้าอกนั้น ซิลิโคนเสริมหน้าอกจะมีอยู่ 2 ทรง คือ นมทรงกลม กับ นมทรงหยดน้ำ

    ทรงหยดน้ำ
    นมทรงหยดน้ำจะช่วยเพิ่มขนาดฐานเต้านม ยกหัวนมให้ตั้งขึ้น เหมาะกับคนที่ซี่โครงตรงกลางอกค่อนข้างนูน เมื่อเสริมแล้วหน้าอกจะย้อยเหมือนหยดน้ำ

    ทรงกลม
    ทรงนี้จะเมื่อเสริมแล้วหน้าอกจะนุ่มและยืดหยุ่นเหมาะกับผู้ต้องการเติมส่วนบนของเต้านมแก้ไขความหย่อนคล้อยของหน้าอก

    พื้นผิวของซิลิโคนทำนม
    พื้นผิวของซิลิโคนทำนมมี 3 แบบ คือ ผิวเรียบ, ผิวทราย และ ผิวกำมะหยี่

    ซิลิโคนเสริมหน้าอกผิวเรียบ
    ผิวเรียบสีจะใสเนื้อจะเรียบ ง่ายต่อการใส่เวลาผ่าตัดสั้นและบวมน้อย แต่ต้องนวดนมเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดพังผืด

    ซิลิโคนเสริมหน้าอกผิวทราย
    ผิวทรายสีจะขุ่นเนื้อจะละเอียด ถูกออกแบบมาให้ยึดกับเนื้อเยื่อช่วยไม่ให้เดพังผืด

    ซิลิโคนเสริมหน้าอกผิวกำมะหยี่
    หรือเรียกอีกอย่างว่าผิวนาโนป็นการผสมผสานของผิวทรายกับผิวเรียบคือ ผิวสัมผัสจะเรียบ แต่จะลดการเกิดพังผืดได้เหมือนผิวทราย

    เทคนิคเสริมหน้าอก
    GKLvxu.jpg

    การเสริมหน้าอกของแต่ละคนควรใช้เทคนิคที่ต่างกันไปตามที่แพทย์แนะนำ โดยเทคนิคการทำหน้าอกจะมี

    1.ทำนมเหนือกล้ามเนื้อ
    เหมาะกับผู้มีเนื้อเต้านมมากพอจะยึดกับซิลิโคน เพราะซิลิโคนจะอยู่บนกล้ามเนื้อ กันไม่ให้ชนกับผิวหนังหน้าอกได้

    2.ทำนมใต้กล้ามเนื้อ
    เหมาะกับผู้ที่มีนมหย่อนคล้อย โดยจะทำให้เต้านมได้รูป ลดโอกาสเกิดพังผืด แต่ช่วงแรกจะมีปัญหาซิลิโคนลอยสูงและซิลิโคนขยับไปมา

    3.เสริมนม Dual Plane
    หรือเรียกอีกอย่างว่า ทำนมกึ่งใต้กล้ามเนื้อ โดยแพทย์จะใส่ซิลิโคนให้ครึ่งบนอยู่ใต้กล้ามส่วนครึ่งล่างทำให้อยู่กับเนื้อเต้านม โดยไม่มีกล้ามเนื้อคลุม ทำให้นมไม่กลมเป็นบล็อก

    วิธีเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก
    GKe04E.jpg

    การจะเริ่มทำนมนั้นเราต้องตัดสินใจกับตัวเองก่อนว่า เราทำหน้าอกไปเพื่ออะไรแต่จริง ๆ แล้วคนที่ตัดสินใจเสริมหน้าอกมักมีปัญหาหลัก 2 อย่างคือ คนที่มีเต้านมเล็กไม่เหมาะกับสรีระจึงอยากเสริมหน้าอก และ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเต้านม เช่น หน้าอกหย่อนคล้อยหลังมีบุตร, หน้าอกห่าง หรือหน้าอกไม่เท่ากัน ที่สำคัญต้องรู้ว่าภายในหน้าอกของเรามีปัญหาอะไรไหม โดยเอกซเรย์เต้านมก่อนเสริมหน้าอกเพื่อตรวจดูว่าเต้านมผิดปกติหรือไม่ หากเป็นเนื้องอกจะได้รักษาให้เรียบร้อยก่อนทำศัลยกรรมหน้าอก

    ต่อมาต้องปรึกษาแพทย์ โดยพูดคุยอธิบายเกี่ยวกับวิธีผ่าตัด, วัสดุที่ใช้เสริมหน้าอก, เวลาที่ใช้ในการผ่าตัด และในคืนก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอก ห้ามรับทานอาหารหรือดื่มน้ำหลังผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว ควรเตรียมเสื้อผ้าและยกทรงหลวม ๆ เพื่อใช้ใส่หลังการผ่าตัด และควรเป็นยกทรงที่ไม่มีโครงด้วย

    การดูแลตัวเองหลังทำนม
    มีคำถามว่าทําหน้าอกพักฟื้นกี่วัน หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกมีผลเหมือนการผ่าตัดทั่วไป ต้องพักฟื้น1 - 2 สัปดาห์ และอาจมีอาการปวด, บวม, แผลฟกช้ำ อยู่เป็นเดือนแล้วจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นผู้ที่เพิ่งทำนมมาควรปฎิบัติดังต่อไปนี้

    1. ใส่เสื้อชั้นในสำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก, ผ้าพันหน้าอก หรือยกทรงสำหรับออกกำลังกายเพื่อให้รองรับแผลผ่าตัดไว้
    2. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรง รวมทั้งการขับรถ
    3. ทำความสะอาดแผลผ่าตัดตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
    4. งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังทำหน้าอก
    5. ไม่ควรนวดเต้านมด้วยตัวเองในกรณีเต้านมแข็งหรือผิดรูป เพราะบางรายอาจจะไม่เกิดพังผืด
    6. ให้นมลูกได้ปกติ แต่หากวางแผนตั้งครรภ์แนะนำให้ห่างอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะตั้งครรภ์

    เสริมหน้าอกมีแผลไหม
    GKeh9W.jpg

    หลายคนถามว่าเสริมหน้าอกเจ็บไหม ต้องบอกเลยว่าการผ่าตัดเจ็บเสมอ และแน่นอนการผ่าตัดต้องฝากรอยแผลไว้แน่นอนการทำนมจะมีตำแหน่งแผลดังต่อไปนี้

    1. แผลใต้ราวนมการผ่าแบบนี้ เหมาะกับคนที่แผลหายไว ไม่เป็นแผลเป็นนูน ไม่ทำให้หัวนมชา หรือท่อน้ำนมอุดตันผ่าตัดง่าย และจัดทรงง่ายกว่าการผ่าที่ตำแหน่งอื่น คนนิยมมาก
    2. แผลที่รักแร้ จะไม่มีแผลบนหน้าอก แต่จะผ่าตัดยาก แผลหายช้า กำหนดตำแหน่งซิลิโคนได้แม่นน้อยลง และหลังการผ่าตัดจะเจ็บแผลมากเนื่องจากใกล้กับกล้ามเนื้อแขน
    3. แผลที่ปานนม เวลาแผลหายจะมองไม่ค่อยเห็น ผ่าตัดง่าย แต่บางรายอาจหัวนมชา เพราะผ่าตัดใกล้หัวนม และเสี่ยงบาดเจ็บที่เส้นประสาทและท่อน้ำนม
    4. แผลที่สะดือ เวลาแผลหายแผลจะเล็กที่สุด แต่ก็ผ่าตัดยากที่สุด ซับซ้อนมากกว่าวิธีอื่น ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง

    เสริมหน้าอก สรุป
    การผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้นความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะงั้นจึงควรเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญจะทำให้ปลอดภัยและหน้าอกจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ และก่อนจะตัดสินใจเสริมหน้าอกนั้น ควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้ทำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2022

แชร์หน้านี้

Loading...