เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 28 มิถุนายน 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,651
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,970
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2021
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,651
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,970
    วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ ๒๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ มีญาติโยมหลายรายโทรศัพท์เข้ามาสอบถามว่า การที่จะไปอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุนมีกฎเกณฑ์กติกาอย่างไรบ้าง ? ก็บอกไปเพียงว่า ถ้าตั้งใจจะมาอยู่ยาวจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม อย่างน้อยก็ควรจะฉีดวัคซีนมาแล้วหนึ่งเข็ม จะได้ไม่ต้องมาเป็นตัวแพร่เชื้อให้ทั้งพระภิกษุสามเณร แม่ชีและฆราวาส ที่นี่ให้เดือดร้อน

    ความจริงแล้วในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ไม่มีวัดไหนอยากรับคนนอกเข้ามา แต่วัดท่าขนุนเห็นใจญาติโยมซึ่งไม่มีที่ไป และขณะเดียวกันก็คิดคนละอย่างกับคนอื่น ก็คือในขณะที่ญาติโยมลำบากหรือเดือดร้อน ควรที่สุดที่เราจะช่วยเหลือ ประมาณว่าถ้าตอนเขาปกติสุขแล้วไปช่วยก็คงจะไม่ได้อะไรขึ้นมา แต่ถ้าหากว่าเขาเดือดร้อนอยู่ เราไปช่วยเหลือ อย่างน้อยก็เป็นการบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นได้

    ถ้าเป็นภาษิตจีนเขาบอกว่า ส่งฟืนไฟกลางหิมะย่อมดีกว่าเพิ่มดิ้นเงินดิ้นทองบนแพรพรรณ ก็คือเวลาหน้าหนาว สิ่งที่คนต้องการที่สุดก็คือความอบอุ่น ส่งฟืนส่งไฟไปตรงกับความต้องการ คนก็ดีใจ สำนึกในบุญคุณ แต่สำหรับคนร่ำรวยที่นุ่งผ้าแพรห่มผ้าแพรเป็นปกติ เราไปเพิ่มดิ้นเงินดิ้นทองเข้าไป เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย

    เพียงแต่ว่าการอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีกฎเกณฑ์บางอย่างเพื่อที่จะรักษาส่วนรวมเอาไว้ ถึงได้บอกกล่าวให้ชัดเจนไปว่า อย่างน้อยให้ฉีดวัคซีนมาแล้ว ๑ เข็ม ถึงเวลาถ้าติดเชื้อจากที่นี่ไป จะได้ตายยากขึ้นนิดหนึ่ง..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,651
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,970
    วันนี้ช่วงบ่ายอาตมภาพนำพระของเรา ซึ่งส่วนใหญ่กลับมาจากการเรียนบาลีที่จังหวัดนครปฐม ไปย้ายเข้าทะเบียนวัด เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ แล้วก็ทำบัตรประชาชนพระ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทะเบียนถามหาหนังสือรับรองการเป็นพระมหา..! ทั้ง ๆ ที่พระทุกรูปก็นำเอาประกาศนียบัตรตั้งแต่ประโยค ๓ ขึ้นไป มายืนยันตนเองว่าเป็น "พระมหา" ตามที่ทางโลกเขาเรียกกัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้

    ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะว่ามีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เคยมีสามเณรเปรียญธรรม ๙ ประโยค รอพระบรมราชโองการโปรดรับเป็นนาคหลวง จะได้อุปสมบทในพระอุโบสถวัดพระแก้ว แต่คราวนี้ช่วงอายุ ๒๑ ปี ก็ต้องไปเกณฑ์ทหาร จึงนำเอาปริญญาบัตรเปรียญธรรม ๙ ประโยค ไปขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารก่อน

    ในเรื่องใบรับรองของประโยคบาลีนั้น ตั้งแต่ประโยค ๑ - ๒ ไปจนถึงประโยค ๘ เขาเรียกว่า ประกาศนียบัตร แต่ถ้าประโยค ๙ เขาเรียก ปริญญาบัตร ก็คือให้วุฒิความรู้เทียบเท่ากับระดับปริญญาตรี ปรากฏว่าสัสดีไม่ยอมรับปริญญาบัตรเปรียญธรรม ๙ ประโยค ยืนยันอยู่อย่างเดียวว่า "ต้องนักธรรมชั้นตรีเท่านั้น..!" ในระเบียบบอกว่านักธรรมชั้นตรีสามารถผ่อนผันการเกณฑ์ทหารได้

    เรื่องแบบนี้ถ้าหากว่าไม่ใช่บุคคลที่อยู่ใกล้วัดใกล้วา เราก็ตำหนิเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าเปรียญธรรม ๙ ประโยคนั้นห่างจากนักธรรมชั้นตรี อย่างน้อยก็ ๗ ปีเต็ม ๆ ก็คือถ้าหากว่าสอบตั้งแต่ประโยค ๑ - ๒ ถึงประโยค ๙ โดยไม่ตกเลย ต้องใช้เวลา ๘ ปี แล้วนักธรรมชั้นตรีเป็นชั้นแรกเลยที่ต้องเรียน กว่าจะถึงเปรียญธรรม ๙ ประโยค ส่วนใหญ่ประกาศนียบัตรนักธรรมตรีก็ไม่รู้ว่าไปซุกไว้ที่ไหนแล้ว แต่สัสดีไม่รู้ว่าเปรียญธรรม ๙ ประโยคสูงกว่านักธรรมชั้นตรีขนาดไหน ยืนยันอย่างเดียว ต้องเป็นประกาศนียบัตรนักธรรมชั้นตรีเท่านั้น เป็นเรื่องตลกที่หัวเราะไม่ออก..!

    แบบเดียวกับที่พระบางรูปถามอาตมาว่า ถ้าหากว่าอย่างของท่าน เมื่อถึงเวลาลงวิทยฐานะต่อท้ายชื่อ ก็คือนักธรรมชั้นเอก, เปรียญธรรม ๔ ประโยค แล้วทำไมของท่านอาจารย์พระครูศรีกาญจนารักษ์ ถึงลงแค่พระครูศรีกาญจนารักษ์, ป.ธ. ๗ ไม่มี น.ธ.เอก

    เรื่องนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เป็นที่รู้กันว่า บุคคลที่จะเรียนเปรียญธรรมประโยค ๗ , ๘ , ๙ ได้ ต้องจบนักธรรมชั้นเอกแล้วเท่านั้น ดังนั้น..บุคคลที่สอบผ่านเปรียญธรรมประโยคที่ ๗ ที่ ๘ ที่ ๙ ไม่ต้องมีคำว่านักธรรมชั้นเอกต่อท้าย เพราะว่าประโยคบาลีของตนเองเป็นเครื่องยืนยันอยู่แล้วว่าผ่านนักธรรมชั้นเอกมา
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,651
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,970
    อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องขำที่หัวเราะไม่ออก ก็คือ ท่านอาจารย์ปู่ (ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ) ท่านเล่าให้ฟังเองว่า ตอนสมัยที่ยังไม่ลาสิกขา ท่านอยู่ที่วัดสระเกศ เป็นเจ้าคุณประโยค ๙ หนุ่มฟ้อที่พระกวีวรญาณ คราวนี้การที่ได้เป็นเจ้าคุณนั้นมีสิทธิพิเศษ ได้นั่งรถไฟฟรี ก็แบบเดียวกับหลวงปู่ทองอยู่ อดีตพระธรรมโมลี ปัจจุบันท่านเป็นพระพรหมวชิรโมลี วัดศาลาลอย จังหวัดสุรินทร์ คือเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะหิรัญบัฏแล้ว ท่านนั่งรถไฟมาเรียนหนังสือที่ มจร.วังน้อยทุกอาทิตย์ เพราะว่าตอนนั้นท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ มีสิทธิ์ขึ้นรถไฟ ขึ้นเครื่องบินฟรี

    แต่คราวนี้พอท่านอาจารย์ปู่ให้เด็กวัดไปขอตั๋วรถไฟ อุตส่าห์ถ่ายสัญญาบัตรเจ้าคุณพระกวีวรญาณไปยืนยัน เจ้าหน้าที่การรถไฟไม่ออกตั๋วให้ บอกว่าพระกวีวรญาณไม่มีสิทธิ์ได้ตั๋วฟรี เพราะเป็นพระภิกษุธรรมดา คือเห็นว่าเป็นพระชื่อกวี นามสกุลวรญาณ..! แบบเดียวกับที่นักข่าวสมัยนี้ ส่วนใหญ่เวลาเขียนข่าว ก็จะเขียนสมณศักดิ์เว้นวรรคเป็นนามสกุล อย่างของอาตมาก็จะชื่อ "พระครูวิลาศ กาญจนธรรม" เพราะว่าไม่เข้าใจว่าเรื่องของสมณศักดิ์นั้นต้องเขียนต่อเนื่องกัน ถ้าไม่ใช่มีสร้อยต่อท้ายสมณศักดิ์ก็ไม่ต้องเว้นวรรค

    อาตมาเองเวลาไปต่างประเทศก็มักจะมีปัญหา เพราะว่าสมณศักดิ์ของพระ เมื่อเขียนต่อเนื่องไม่เว้นวรรค จะกลายเป็นคนไม่มีนามสกุล ไม่สามารถใช้ระบบอัตโนมัติในการตรวจสอบหนังสือเดินทางได้ ไปเก้ ๆ กัง ๆ จนเจ้าหน้าที่ต้องมาช่วย พอถึงเวลาก็เคาะเว้นวรรคให้ เป็น "พระครูวิลาศ กาญจนธรรม" เครื่องถึงได้ยอมอ่านให้

    ดังนั้น..ในเรื่องพวกนี้บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในวงการสงฆ์ บางทีก็ไม่ทราบ แล้วก็ปฏิบัติต่อพระในลักษณะที่ขาด ๆ เกิน ๆ แม้กระทั่งการใช้คำพูด พยายามที่จะใช้คำพูดที่เป็นศัพท์เฉพาะกับพระ แต่ก็ใช้ผิด พระสงฆ์ของเราใช้คำศัพท์เฉพาะประเภทเดียวกับราชาศัพท์ อย่างเช่น กินใช้คำว่าฉัน นอนใช้คำว่าจำวัด เป็นต้น

    แต่ก็ไปเจอคนที่รู้ศัพท์แต่ใช้ผิด อย่างเช่นถามอาตมาว่า "หลวงพ่อนิมนต์ไปไหนมาครับ ?" แล้วมึงจะใส่นิมนต์ไปทำไม...?! พระฟังแล้วก็งง ๆ ตกลงเขาจะนิมนต์เราหรือเขาถามเรากันแน่ หรือไม่ก็ที่อาตมาเจอเองที่วัดท่าขนุน โยมเป็นสาววัยรุ่น น่าจะมาทำบุญวันเกิด ลงจากรถมาได้ก็ "ท่านเจ้าคะ..ช่วยนิมนต์พระให้อาตมา ๕ รูปด้วยค่ะ อาตมาจะถวายสังฆทาน..!" ใช้สรรพนามแทนตัวแบบมั่นใจมาก แล้วจะทำอย่างไรได้ ก็ในเมื่อเขามั่นใจว่าถูก เราก็ได้แต่ทำตามประสงค์ของโยมไปก็แล้วกัน
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,651
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,970
    เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า เกิดจากการที่คนไทยเราห่างวัดห่างวา สมัยกรุงศรีอยุธยาบุคคลที่จะรับราชการ ถ้าไม่ผ่านการบวชเรียนมาก่อน ในหลวงไม่รับเข้ารับราชการ ถือว่ายังเป็น "คนดิบ" ไม่ได้ผ่านการขัดเกลามาก่อน แต่ปัจจุบันนี้ความสำคัญในการบวชลดน้อยถอยลงไปเรื่อย เนื่องจากการเร่งรัดของการทำมาหากิน จากที่เคยบวชเป็นพรรษา เดี๋ยวนี้ถ้าได้ ๗ วัน ๑๐ วัน พ่อแม่ก็คงดีใจน้ำตาไหลแล้ว

    สมัยก่อนเขากำหนดไว้ว่า ต้องบวชแล้วถึงจะเบียดได้ เพราะมีความเข้าใจผิดว่า ถ้ามีภรรยาก่อนแล้วค่อยบวช อานิสงส์ที่จะพึงได้จากการบวชจะตกอยู่ที่ภรรยา ไม่ได้ตกอยู่ที่พ่อแม่ นี่เป็นการเข้าใจผิด ความจริงแล้วก็คือ การที่พระภิกษุสามเณรบวชเข้ามาเป็นพรรษา ต้องรับแรงกระทบเยอะมาก เพราะว่าโดนตีกรอบด้วยศีล ๒๒๗ ข้อ สิ่งที่เคยทำก็ทำไม่ได้ อึดอัดขัดข้อง อกจะแตกตาย..!


    ถ้าสามารถทนสถานการณ์แบบนั้นจนผ่านพรรษาไปได้ เขาถือว่ามีวุฒิภาวะทางอารมณ์เพียงพอที่จะไปเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ ก็คือรู้จักระงับอกระงับใจ หักห้าม รัก โลภ โกรธ หลง ของตนเองเอาไว้ได้ แต่มาสมัยนี้การที่จะบวชระยะยาว ๆ น้อยลง คนเราได้รับการขัดเกลาจากวัดน้อยลง โอกาสที่จะเข้าใจผิด หรือว่าทำผิดทำพลาด ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติต่อพระภิกษุสามเณรอย่างไรจึงมีมาก

    เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่ว่าทำอย่างไรที่จะให้ญาติโยมมีความเข้าใจเรื่องของพระภิกษุสงฆ์ เรื่องของพระพุทธศาสนาให้ดียิ่งไปกว่านี้ เรื่องพวกนี้ก็คงต้องถวายให้กับพระเถระในระดับกุมนโยบายว่า ท่านมีแนวทางอย่างไรที่จะช่วยให้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ดีขึ้น


    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และเจริญพรให้แก่ญาติโยมทั้งหลายได้ทราบเอาไว้แต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๒๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...