หนุมานคชสาร เหรียญลพ.ณรงค์ วัดมะเกลือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญหลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโข ปี ๒๕๓๑

    ให้บูชาองค์ละ150บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    ลพ.สมภพ.JPG ลพ.สมภพหลัง.JPG ลพ.สมภพ.JPG
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    ลพ.เยี่ยม.JPG หลวงพ่อ เยี่ยม สณฺหวาโจ (พระครูกาญจนคุณาธาร) วัดเลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี สถานะเดิม ชื่อเยี่ยม นามสกุล ชาญวิทยา เกิดเมื่อ ๑๕ กันยายน ๒๔๖๔ ตรงกับวันศุกร์ เดือน ๑๐ ปีระกา ณ บ้านเลขที่ ๑ ต.ดอนแสลบ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี บิดาชื่อ ทรัพย์ มารดาชื่อ เพิ่ม มีพี่น้องด้วยกัน ๖ คน หลวงพ่อท่านเป็นบุตรคนที่ ๒
    บรรพชาอุปสมบทวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๔๘๔ (วันเสาร์แรม ๗ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง) ณ อุโบสถหลังเก่า วัดจิกด่าง จำพรรษา ณ วัดเลาขวัญ เดิมยังเป็นตำบลดอนแสลบ อำเภอพนมทวน.... พระอุปัชฌาย์คือพระสมุห์ชาญ วัดหนองปลิง ....
    ท่านศึกษาเรียนธรรมได้นักธรรมชั้นโท และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเลาขวัญในปี พ.ศ.๒๔๙๑ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๒ ท่านได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลเลาขวัญ และได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าคณะอำเภอเลาขวัญในปี พ.ศ.๒๕๒๐
    สมัยหลวงพ่อท่านยังอยู่ ท่านได้สร้างผลงานและเผยแพร่ ธรรมและพุทธศาสนา อย่างมากมายและเป็นประโยชน์ต่อเราชาวพุทธและคนทั้วไป หลายต่อหลายด้านทีเดียว เช่น ด้านการศึกษา ด้านพัฒนาชุมชนและฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ด้านจัดหาทุนทรัพย์ ด้านสนับสนุนให้ความร่วมมือต่อหน่วยงานของรัฐ ด้านส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกสังคม ฯลฯ ...จนชื่อเสียงและบารมีของท่านโด่งดังและมีลูกศิษย์ลุกหาเคารพรักไป หลายจังหวัด
    จนในปี พ.ศ.๒๕๒๔ หลวงพ่อเยี่ยม ท่านได้รับเลื่อนตำแหน่งขึ่นเป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก
    หลวงพ่อเยี่ยม ท่านยังได้แสวงหาและศึกษาวิชาสมาธิคาถา ต่างๆ จากเกจิคณาจารย์ดังในยุคนั้นหลายต่อหลายท่าน และยังได้เดินทางไปแสวงธรรมสมาธิ ยังประเทศอินเดีย....ทำให้หลวงพ่อท่านเป็นเกจิที่มีชาญสมาทธิที่เป็นเลิศองค์หนึ่งทีเดียว ทั้งยังมีบารมีสูงในด้านทานบารมี เมตตาบารมี ธรรมบารมี และอิทธิบารมี ท่านมรณะภาคละสังขาร ปี พ.ศ.๔๒ รวมอายุได้ ๗๙
    หลวงพ่อเยี่ยม วัดเลาขวัญ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลทิ้งไว้ให้ลูกศิษย์หลายรุ่น และแต่ละรุ่นก็ล้วนมี อิทธิปฏิหารย์ และประสปการณ์ มากมาย จนเป็นที่เรื่องลือไปทั่วหลายจังหวัด
    วัตถุมงคล ที่เป็นที่นิยมได้แก่
    1.เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์รุ่นแรก (เหรียญกิ่งอำเภอ) สร้างฉลอง
    สมณศักดิ์ชั้นตรี ปี พ.ศ. ๒๕๑๓
    - มีแต่เนื้อทองแดง สร้าง 3,000 เหรียญ
    2.เหรียญนั่งโพธิ์อินเดียรุ่นแรก(ปรกโพธิ์รูปเหมือน)
    สร้างเป็นที่ระลึกครั้งไปนมัสการปูชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย
    ปี พ.ศ.๒๕๒๒
    - มีเนื้อเงิน และเนื้อเงินลงยา(ลงยาใหม่)
    - เนื้อทองแดง และทองแดงกะหลั่ยทองลงยา(ลงยาเดิม)
    จำนวนสร้างประมาณ 30,000
    3. เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์รุ่นสอง(เหรียญครบรอบ ๗๐ ปี) สร้างครั้ง
    งานทำบุญฉลองครบรอบอายุ ๗๐ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๓๔
    - มีเนื้อทองคำ จำนวน 3 เหรียญ
    - เนื้อเงิน จำนวน 2,300 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง จำนวน 20,000 เหรียญ
    4. เหรียญหยดน้ำ(หล่อฉีดรูปหยดน้ำ) สร้างครบรอบอายุ ๗๐ ปี
    รุ่นนี้มี พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก แต่ละพิมพ์มีสามเนื้อ
    - ทองคำใหญ่ จำนวน 4 เหรียญ
    - ทองคำเล็ก จำนวน 80 เหรียญ
    - เนื้อเงิน จำนวน 300 เหรียญ
    - เนื้อนวะ จำนวน (ญ) 2,000 - (ล) 3,000 เหรียญ
    5. รูปหล่อหลวงพ่อเยี่ยม สร้างครบรอบอายุ ๗๐ ปี
    รุ่นนี้มี พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก แต่ละพิมพ์มีสามเนื้อ
    - ทองคำใหญ๋ สองสลึง จำนวน 100 องค์
    - ทองคำเล็ก หนึ่งสลึง จำนวน 160 องค์
    - เนื้อเงินใหญ่ จำนวน 300 องค์
    - เนื้อเงินเล็ก จำนวน 300 องค์
    - เนื้อนวะใหญ่ จำนวน 3,000 องค์
    - เนื้อนวะเล็ก จำนวน 5,000 องค์

    และต่อมาหลวงพ่อก็ได้สร้งวัตถุมงคลขึ่นอีกหลายรุ่น ได้แก่
    พระบูชา พระปิดตาเนื้อผง ล็อกเกตประดับเพชรพลอย รูปถ่ายผ้ายันต์ สร้อยลูกประคำ ลูกอมลูกนิมิต แหวน เป็นต้น
    วัตถุมงคลของหลวงพ่อล้วนแต่มีประสปการณ์แก่ผู้นำไปใช้ติดตัวทั้งสิ้นดั่งที่ผมเห็นชัดๆ กับตัวเองก็คือ ด้านคลาดแคล้ว เรื่องอุบัติเหตุยานพาหนะเป็นอันต้องรอดปลอดภัย เมตตาค้าขายก็เป็นเลิสสมกับ ชื่อหลวงพ่อเยี่ยมจริงๆ ครับ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมุลอย่างสุงครับ
    เหรียญปรกโพธิ์รุ่น๒ หลวงพ่อเยี่ยมวัดเลาขวัญ กาญจนบุรี เหรียญมากประสพการณืครับรุ่นแรกท่านหายากและราคาสูง รุ่น๒ เบากว่าเยอะทันตัวท่านครับ

    ให้บูชาองค์ละ150บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    ลพ.เยี่ยม.JPG ลพ.เยี่ยมหลัง.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2018
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    ขุนแผนพรายมงคล หลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา สระบุรี พิธีใหญ่มวลสารดี

    ให้บูชาองค์ละ150บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับมี2องค์ครับ(ปิดรายการ)

    %E0%B8%A5%E0%B8%9E-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3-jpg.jpg 5%E0%B8%9E-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2018
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระผงรูปเหมือนผสมเกษาหลวงปู่เปลี่ยน วัดอรัญวิเวก แม่แตง เชียงใหม่



    ลป.เปลี่ยน.JPG ลป.เปลี่ยนหลัง.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2018
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    budd2825.jpg
    ประวัติหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา ปัจจุบันนี้มีหลวงพ่อดี ๆ ดังๆ อยู่หลายองค์ด้วยกัน ที่อำเภอบางปะหัน จ. พระนครศรีอยุธยา ยังมีคณาจารย์อยู่รูปหนึ่งทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ในเรื่องวิชาไสยศาสตร์เครื่องรางของขลัง เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง คณาจารย์ที่จะกล่าวถึงรูปนี้คือหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยกิตติศัพท์ในด้านพุทธาคมของท่านอาจารย์หน่าย อินฺทสีโล วัดบ้านแจ้ง ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ดังขจรขจายไปทั้งใกล้และไกลทุกทิศานุทิศมาเนิ่นนานแล้วแต่ของท่านดังแบบไฟสุมขอน ค่อยเป็นค่อยไป ผู้ประสบพบเห็นเหตุการณ์อันเต็มไปด้วยอภินิหารนานาประการ ต่างโจทก์จรรย์กันไปแบบปากต่อปาก ไม่มีการประชาสัมพันธ์แต่อย่างใด ดังนั้น คณะผู้จัดทำหนังสือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ – พระพุทธรูปพระเครื่อง จึงได้เดินทางไปหาประวัติความเป็นมาแต่ภูมิหลังของท่าน ท่านเป็นอาจารย์ ที่มีศีลจริยาวัตรงดงาม ตั้งอยู่ในสมณรูปโดยครบถ้วน ไม่ด่างพร้อยแต่ประการใด หลวงพ่อหน่าย อินฺทสิโล นามเดิมชื่อ หน่าย มีความดี วันที่เกิดจำไม่ได้จำได้แต่ พ.ศ. 2446 เกิดที่ตำบลหันสังข์ อำเภอบางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ นายหลาบ มารดาชื่อ นางพลอย จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัด ในสมัยนั้นการศึกษายังไม่ค่อยเจริญ พออ่านออกเขียนได้ เมื่อหลวงพ่อจบการศึกษาแล้ว ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่กับบ้าน หลวงพ่อบวชเณรเมื่ออายุ 12 ปี ที่วัดบ้านแจ้ง มีพระครูพัด เป็นพระอุปัชฌายะ ในขณะที่เป็นเณรได้ศึกษาธรรมวินัยและวิชาไสยศาสตร์บ้างเล็กน้อยเพราะตอนนั้นอายุยังน้อยอยู่ เมื่ออายุครบ 22 ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ้างแจ้ง โดยมีพระครูพัด เป็นพระอุปัชฌายะ ได้ฉายาว่า อินฺทสีโล พอหลวงพ่อบวชเป็นพระหลังพรรษาแรก ก็เริ่มออกเดินธุดงค์ไปในอ่า ในเขาตามภาคต่าง ๆ ซึ่งมีสัตว์ดุร้ายที่ชุกชุม หลวงพ่อหามีความเกรงกลัวกับสัตว์ร้ายเหล่านั้นไม่ หลวงพ่อเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งขณะที่เดินธุดงค์เข้าไปในปาได้พบช้างยืนขวางหน้าอยู่ เมื่อหลวงพ่อเดินเข้าไปใกล้มันได้ใช้งวงของมันมาเกี่ยวจีวรที่หลวงพ่อครองอยู่ไปพันกับงวงมันหลวงพ่อจึงก้มลงแล้วหยิบดินขึ้นมาก้อนหนึ่งเสกแล้วโยนไปทีช้าง ช้างจึงได้วางจีวรลงแล้วได้เดินหายเข้าไปในป่า มิได้ทำร้ายหลวงพ่อเลย เมื่อหลวงพ่อเดินธุดงค์อยู่ในป่าเป็นที่พอใจแล้ว จึงได้กลับมายังวัดแจ้ง เพื่อเยี่ยมญาติโยม กลับมาอยู่วัดบ้างแจ้งได้ 3 เดือน หลวงพ่อได้เดินทางไปศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ขณะที่หลวงพ่อเรียนวิชาไสยศาสตร์ อยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้พบกับท่านกรมหลวงชุมพร ได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับท่านบ้างพอควร ส่วนมากหลวงพ่อจะได้วิชาจากหลวงพ่อศุข เป็นส่วนใหญ่ ยังไม่ทันที่หลวงพ่อหน่ายจะได้วิชาแขนงสุดท้าย จากหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อท่านก็ได้มรณภาพไปเสียก่อน หลวงพ่อหน่าย จึงไปศึกษาวิชาเครื่องรางของขลัง และวิชาไสยศาสตร์ต่อ กับอาจารย์ย่ามแดง อาจารย์ย่ามแดงองค์นี้ ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ขณะที่หลวงพ่อศุข ยังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อศุข ได้ถ่ายทอดวิชาให้อาจารย์ย่ามแดงจนหมดสิ้นเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อหลวงพ่อหน่ายเรียนวิชาไสยศาสตร์เครื่องรางของขลังจากอาจารย์ย่ามแดง จนแก่กล้าดีแล้ว จึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่ยังวัดบ้านแจ้ง เมื่อตอนที่หลวงพ่อหน่ายมาอยู่ ที่วัดบ้านแจ้งในขณะนั้นได้มี พระครูอนุวัติสังฆกิจ(เคลือบ) เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อหน่ายได้ไปจำพรรษาอยู่ ในป่าช้านานถึง 20 ปี ไม่ยอมขึ้นมาจำพรรษาอยู่บนกุฏิ หลวงพ่อบอกว่าในป่าช้าเงียบและสงบดี เหมาะแก่การวิปัสสนากัมมัฎฐาน ขณะที่หลวงพ่อบวชเป็นพระอยู่ ได้ช่วยพระครูสังฆกิจ(เคลือบ) พัฒนาวัดได้สร้างอุโบสถ กุฏิ ศาลาการเปรียญที่วัดบ้านแจ้ง เมื่อพระครูสังฆกิจมรณภาพแล้ว ญาติโยมมีศรัทธาในตัวหลวงพ่อ จึงได้นิมนต์หลวงพ่อหน้ายขึ้นเป็นเจ้าอาวาส แทนเจ้าอาวาสองค์ที่มรณภาพไป เมื่อ พ.ศ. 2512 ปัจจุบันนี้หลวงพ่อมีอายุได้ 71 ปี พรรษาที่ 59 หลวงพ่อไม่ยอมรับสมณศักดิ์ใดๆ ทั้งสิ้น ขออยู่อย่างพระธรรมดา หลวงพ่อหน่ายท่านได้สร้างเครื่องรางของขลังไว้หลายอย่างด้วยกัน อาทิ เช่นมีตะกรุดโทน ตะกรุดมหาอุด พระโมคคัลลา มีแบบใหญ่ แบบเล็ก พระพุทธโคดมแบบใหญ่ แบบเล็ก และเหรียญรุ่นต่างๆ อีกหลายรุ่น ถ้าท่านผ่านไปทางวัดบ้านแจ้ง ลองแวะคุยกับหลวงพ่อดูบ้างท่านจะได้รับแจกวัตถุมงคลต่าง ๆ จาหลวงพ่อ ถึงแม้หลวงพ่อจะชราภาพมากแล้ว แต่ท่านยังแข็งแรงดี ท่านจะนั่งคุยกับโยม ที่ไปเยี่ยมท่านได้ตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อย มีอารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ บางท่านที่ยังไม่เคยได้พบหลวงพ่อ ได้ยินแต่เพียงเกียรติศัพท์ของหลวงพ่อเท่านั้น ยังเกิดศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่ออย่างมากมาย ถ้าท่านได้พบพูดคุยกับหลวงพ่อ ท่านจะเกิดศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่อมากยิ่งขึ้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อที่ลูกศิษย์ลูกหานำไปใช้มักจะเจอกับประสบการณ์ต่าง ๆ หลายรายด้วยกัน เช่น รายที่หนึ่ง นายอุบล อยู่ที่แปดริ้ว เขาเองได้ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 ที่สัตหีบ ซึ่งคนร้ายจะปล้นเอาทรัพย์สิน แต่คนร้ายไม่อาจที่จะเอาทรัพย์สินของเขาไปได้ เกิดการต่อสู้กันเขาไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด โดยมีเหรียญ หลวงพ่อหน่าย ติดตัวเพียงเหรียญเดียว รายที่สอง นายตี๋ อยู่บ้านที่ตำบลบ้านบึงถูกยิงด้วยปืนจุด 38แต่ไม่เข้า เพราะมีเครื่องรางของขลัง ของหลวงพ่อติดตัวอยู่ หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้งได้รับการ คัดเลือกและยกย่อง จากหลวงปู่ดู่ วัดสะแกให้ท่านเป็นหนึ่งในพระเกจิ จตุรพิธพรชัย ตามคำปรึกษาของ ท่านเรียน นุ่มดี จึงเป็นที่มาของเหรียญ จตุรพิธพรชัย หลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง จะสังเกตุว่าเนื่องจากท่านเป็น ศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลอง ท่านจึงได้รับการนิมนต์มาปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงปู่ศุข ในหลายๆรุ่น ..
    ... (ข้อมูลจากหนังสือเก่าสมัยหลวงพ่อหน่ายยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่ได้มรณะภาพ ในปี พ.ศ. 2532) ...
    ขอบคุณที่มาข้อมลอย่างสงครับ


    พระสมเด็จรุ่นแรก หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง จ.อยุธยา
    ผงมวลสารวิเศษที่ลป.รวบรวมไว้ เคลือบแล็คเดิมจากวัดเนื่องจากผงล้วนๆเพื่อรักษาเนื้อพระ รับมาจากมือลป.หน่ายโดยตรง มั่นใจได้เลยครับ

    ให้บูชา 5000 บาทครับ

    ลป.หน่าย.JPG ลป.หน่ายหลัง.JPG
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญจงเจริญหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี สร้างขึ้นและประกอบพิธีในปี พ.ศ. 2518 โดยพะรครูสุจิตตานุรักษ์ (หลวงพ่อจวน สุจิตโต) เจ้าอาวาสวัดหนองสุ่ม รองเจ้าคณะตำบลอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี

    ในระหว่างประกอบพิธีัพุทธาภิเษกในวัดพระแก้ว หลวงพ่อจวนขณะนั่งสมาธิแผ่พลังจิตปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้ จนเกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ใจขึ้นคือสายสิญจน์ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของหลวงพ่อจวน มีปฏิกริยาเหมือนโดนความร้อนจนเกิดเป็นควันและลุกเป็นไฟขึ้น คณะผู้ดำเนินการและผู้ร่วมพิธีที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างตกตลึงในเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ใจในครั้งนั้นเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เหรียญรุ่นนี้จึงถูกขนานนามว่า เหรียญรุ่น "สายสิญจน์ไหม้"

    เหรียญรุ่นนี้ได้ทำการแจกจ่ายให้แก่ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ที่ปฏิบัติหน้าดูแลปกป้องประเทศ เรื่องพุทธคุณยอดเยี่ยมทางด้านแคล้วคาดคงกระพันชาตรี ช่วยเสริมบารมีแก่ผู้เกิดธาตุไม้ ธาตุดินและธาตุทอง ซึ่งจะช่วยเร่งให้ดวงชะตาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การค้าได้อย่างเร็วพลัน

    หลวงพ่อจวนเป็นพระเกจิที่มีพลังจิตสูงท่านสำเร็จ วิชาธาตุกสิณไฟ แต่ท่านไม่เคยโอ้อวดหรือบอกกล่าวเล่าให้ใครฟัง ส่วนใหญ่ลูกศิษย์ใกล้ชิดที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทราบกันดี สังเกตได้จากพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ๆ ที่หน่วยงานข้าราชการทหาร ตำรวจ จัดขึ้นมาทุกครั้ง ต้องมานิมนต์หลวงพ่อจวนไปเข้าร่วมพิธีเสมอ วัตถุมงคลทุกรุ่นที่ "หลวงพ่อจวน" เข้าร่วมพิธีนั่งปรกปลุกเสกอัดพลังร่วมกับพระเกจิชื่อดังหลายรูปล้วนมีประสบการณ์สูงมาก

    หลวงพ่อจวน ได้มุ่งศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ (วัดโฆสิทธาธรรม) หลวงพ่อกอง จ.สุโขทัย, หลวงพ่อปั้น วัดค้างคาว อ.สรรคบุรี, หลวงพ่อลา วัดโพธิศรี, หลวงพ่อผึ่ง วัดโบสถ์, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อเจ๊ก วัดระนาม, หลวงพ่อโต๊ะ วัด กำแพง, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน, หลวงพ่อเอาะ วัดม่วง, หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข เป็นต้น

    “หลวงพ่อจวนเป็นพระองค์หนึ่ง ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ให้ลูกศิษย์ไปกราบ และทำบุญด้วย เนื่องจากหลวงพ่อ ไปเจอหลวงพ่อจวนที่พระจุฬามณี โดยหลวงพ่อจวนไปทั้งกายเนื้อ”

    “สมัยที่หลวงพ่อจวนยังอยู่ จะไม่ให้ทำหนังสือวัตถุมงคล ท่านบอกว่า ของ ๆ ฉันถ้าจะดังเดี๋ยวดังเอง”

    ตามประวัติที่บันทึกไว้

    ตอนหลวงพ่อจวน มาเยี่ยมหลวงพ่อกวยที่วัดบ้าแค ท่านทำให้ไฟฟ้าวัดบ้านแคดับ หลวงพ่อกวย จึงรินน้ำชาให้ แต่หลวงพ่อจวน ฉันไม่ได้เพราะน้ำชาในถ้วยไม่ไหล หลวงพ่อจวนถามหลวงพ่อกวยว่า แล้วผมจะฉันน้ำชาได้อย่างไร หลวงพ่อกวยตอบว่าท่านก็ทำให้ไฟมันติดขึ้นมาก่อนสิ

    หลวงพ่อจวน ประกอบด้วยศีลที่งดงาม มีเมตตาธรรมสูง ถือสันโดษ มีปฏิปทาต่อสาธุชน ไม่เลือกยากดีมีจน มีผู้คนไปขอความเมตตาจากท่าน เวลามีทุกข์ร้อน จะไปกราบไหว้ขอพร และรดน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อปัดเป่าความทุกข์ร้อน จนเป็นที่เลื่องลือกันว่าน้ำมนต์ของท่านขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

    หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม เป็นพระองค์หนึ่งที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ให้ลูกศิษย์ไปกราบ และทำบุญด้วย เนื่องจากหลวงพ่อ ไปเจอหลวงพ่อจวนที่พระจุฬามณี โดยหลวงพ่อจวนไปทั้งกายเนื้อ
    มีอยู่เที่ยวหนึ่งหลวงพ่อท่านบอกกับพวกเรา บอกว่า " เฮ้ย ! พวกแกลองสืบดูซิ มีหลวงตาองค์หนึ่งขาว ๆ ท้วม ๆ ล่ะนะ ชื่อ จวน อยู่สิงห์บุรี ลองดูสิว่ามีพระชื่อนี้อยู่สิงห์บุรีวัดไหน ช่วยบอกให้ด้วยหาไม่ยากหรอก ท่านดังด้วย หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม"
    ถาม : หลวงพ่อหาทำไมครับ
    ท่านบอกว่า : "วันก่อนขึ้นไปพระจุฬามณีเห็นหลวงตาจวนเดินตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ อยู่ เขาเก่งว่ะ เขาไปทั้งตัวเลย ไม่ได้ใช้มโนมยิทธิถอดจิตไปนะนั่น เล่นไปทั้งตัวเลยล่ะ"

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญสายสิญจ์ไหม้หลวงพ่อจวนครับ เก็บไก้เก็บครับพระดีมีประสพการณ์ พระสรา้งยุคใหม่ๆยังแพงกว่า 42 ปีแล้วครับเหรียญนี้

    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ(ปิดรายการ)


    %E0%B8%A5%E0%B8%9E-%E0%B8%88%E0%B8%A7%E0%B8%99-jpg.jpg %E0%B8%A5%E0%B8%9E-%E0%B8%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2018
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญหลวงพ่อชู กันตะวีโร วัดหินเหล็กไฟ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ รุ่นแรกรุ่นเดียว สวยมีจารหน้าหลัง อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ สร้างถวาย ปี ๒๕๒๘ สร้างเนื้อเดียวจำนวน ๙,๒๗๒ เหรียญ เมื่อสมัยที่หลวงพ่อท่านยังมีชีวิตอยู่หลวงพ่อเคยพูดว่า " ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้ของท่านไปถ้าจะถามถึงพุทธคุณเป็นอย่างไรนั้น หลวงพ่อท่านบอกให้เอาปืนเอ็ม 16 ลองยิงได้เลยจะได้รู้และถ้าไม่ดีจริงอย่าเอาไปขึ้นคอ"
    หลวงปู่ชู ผู้สร้างตำนานขุนแผนกัวเผาะ น้ำมันช้างตกมัน อันโด่งดังด้วยพุทธคุณ รวมทั้งเหรียญรุ่นแรกของท่านก็มีประสบการณ์ไม่แพ้กัน ประสบการณ์ล่าสุดเมือกลางปีที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2553) นายดาบตำรวจท่านหนึ่ง ขอสงวนนาม ประจำปฏิบัติหน้าที่อยู่ สภ.กระโพ จ.สุรินทร์ ได้ใช้อาวุธปืนทดลองยิงเหรียญรุ่นนี้ ผลปรากฎว่า กระสุนนัดแรกยิงไม่ออก กระสุนไปติดค้างอยู่ในลำกล้องปืน คาดว่าหากยิงนัดที่สองออกไปปืนต้องแตกแน่ เลยตัดสินใจไม่ยิง ข่าวนี้ดังกระฉ่อนไปทั่วพื้นที่สุรินทร์ และเขตอิสานใต้โดยเฉพาะในวงการตำรวจ จนทำให้เกิดกระแสความนิยมอย่างรุนแรง ทำให้หลายคนแปลกใจว่าทำไมราคาพระเครื่องของท่านจึงขยับสูงสึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้
    ทุกเหรียญจะจารยันต์การะแวก
    เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อชู กัณตวีโร แห่งสำนักสงฆ์หินเหล็กไฟ ต.กะโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จัดสร้างโดย
    ท่านอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก จำนวนการจัดสร้างตอนแรก ตั้งใจจะสร้างให้
    ครบ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ แต่แม่พิมพ์แตกเสียก่อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จึงสร้างได้แค่เพียง ๙,๒๗๒ เหรียญ
    เท่านั้น นับเป็นเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อชู เพราะท่านยังไม่เคยสร้างเหรียญหรือรูปหล่อใดๆมาก่อนเลย และ
    หลวงพ่อได้ปลุกเสกให้ตลอดพรรษา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงพ่อชูท่านบอกว่า เหรียญนี้เป็นรุ่นแรกของท่าน
    ต้องทำให้เต็มสติกำลังหน่อย คนเอาไปใช้จะได้ไม่เสียชื่อ หลวงพ่อชูยังบอกต่ออีกว่าเหรียญรุ่นนี้ดีทุกอย่าง มี
    ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด บังภัย และป้องกันคุณไสย เข้าป่าหรือนำติดตัวจะป้องกันไข้ป่าได้ด้วย สิ่งสำ
    คัญ หลวงพ่อลงหัวใจการะเวกไว้ด้วย ก็ดุจเดียวกับสาลิกาลิ้นทองล่ะครับ เจรจาพาทีมีมหานิยม
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลที่มาอย่างสุงครับ
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อชู วัดหินเหล็กไฟ ท่าตูม สุรินทร์ รอยจารยันตืบางๆครับยังพอเห้นครับเหรียญนี้ ปกติคนจะไปนิยมแต่ขุนแผนหลังดาบขุนแผนกัวเผาะท่าน ราคาสูงเหรียญท่านมี่รุ่นแรกรุ่นเดียวครับ

    ให้บูชา1000บาทครับ


    %E0%B8%A5%E0%B8%9E-%E0%B8%8A%E0%B8%B9-jpg.jpg %E0%B8%A5%E0%B8%9E-%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-jpg.jpg
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    จัดส่ง
    ET 9288 6277 3 TH ขุขันธ์
    ขอบคุณครับ
     
  10. gibgub

    gibgub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +232
    ขุนแผนพรายมงคล หลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา สระบุรี พิธีใหญ่มวลสารดี
    ให้บูชาองค์ละ150บาท ค่าจัดส่ง EMS50 บาท ครับมี 2 องค์ครับ
    ....ปิดทั้ง 2 องค์ครับ....
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    หลวงปู่ดี วํสปญฺโญ (กงนะ) วัดบ้านคำฮี(วัดศรีมุณฑา) อำเภอมุกดาหาร(ปัจจุบันเป็น จังหวัดมุกดาหาร) จังหวัดนครพนม ท่านเป็นเกจิอาจารย์สายวิปัสนากรรมฐาน พระอาจารย์ของ ฯพณฯ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัฐ ในสมัยนั้น หลวงปู่ดีนอกจากเป็นพระเกจิออาจารย์ชื่อดัง ในแถบลุ่มน้ำโขงแล้ว หลายคนยังให้ฉายาท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง” ผู้จาริกบุญเผยแผ่ ธรรมะ ถือครองในพระปรมัตถ์ วิปัสสนากรรมฐาน โดยการนั่งภาวนา ของหลวงปู่ดี จึงมีพระธุดงค์ เดินวิเวกรุกมูลมาสนทนาธรรมมิได้ขาด นอกจากนี้หลวงปู่ดียังเป็นพระนักพัฒนา ได้สร้างศาลาการเปรียญ แบบวิจิตรพิศดาร ด้วยไม้ทั้งหลังโดยไม่ตอกตะปูที่วัดศรีมุณฑา บ้านคำฮี ตำบลโพนทราย ไว้อีกด้วย หลวงพ่อดี วงสุปัญโญ (กงนะ) ได้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และบูรณปฏิสิงขรที่วัด ศรีมุณฑามานาน ถึง 90 พรรษา จนถึง พ.ศ.2521 จึงได้ละสังขาร ด้วยความสงบ ยังความโศกเศร้าสลดแก่บรรดาศิษย์ยานุศิษย์ ทุกคนทั่วประเทศ

    เรื่องเล่าจากคนในพื้นที่

    คิดถึงหน้าหนาวตอนเป็นเด็ก ป.๔ ที่อำเภอมุกดาหาร จ.นครพนม มีเหตุการณ์มากมายในช่วงนั้น คอมมิวนิสต์ซึ่งมีอยู่มากในสมัยนั้นมี ฮ.นำร่าง ตชด.ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิตมาลงที่สนามฟุตบอลโรงเรียนมุกดาลัยเกือบทุกวัน(โรงพยาบาลอยู่ตรงข้ามโรงเรียน) บางครั้งมีการตัดคอตัดมือตัดเท้าคอมมิวนิสต์มาเสียบไม้ประจานที่สนามเทนนิสสนามเทนนิสปัจุบันนี้และครับ สปป.ลาวแตกมีศพทหารลาวลอยตามลำน้ำโขง มีการยิงป้องกันประเทศของ นปข.และทหารลาวบ่อยครั้งมีการนำปืนใหญ่ 2 กระบอกมาเตรียมพร้อมตั้งไว้ที่สนามบินเก่า(ศาลากลางจังหวัดในปัจุบัน)แตกตี่นกันมากในตอนนั้น การปล้นธนาคารกรุงเทพได้ทำให้เกิดวีรบุรุษนาแก ยุคแห่งการจับตัวเรียกค่าไถ่ตอนนั้นที่บ้านได้รับจ.ม.ขมขู่เรียกค่าไถ่(ลูก4)เตี่ยกลัวถึงขนาดพบปืนไปเฝ้าที่รร.สุดท้ายไม่ไหวส่งไปอยู่หอประจำโรงเรียนที่ กทม. ก็จำได้เตี่ยให้แขวน หลวงปู่ดี วงสุปัญโญ ปี๑๘ วัดศรีมุสฑา บ้านคำฮี ต.โพนทราย อ.มุกดาหาร จ.นครพนม ท่านเป็นที่พึ่งในยุคนั้น จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัฐ เคยได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ ปล.นำประการณ์ชีวิตครั้งเด็กมาบอกเล่า

    ขอขอบคุณคุณพ่อเมจิ ตามลิงค์นี้ http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=135&qid=14320

    ผมไม่เคยรู้จักหลวงปู่ดี วสฺปญฺโญ แต่รู้เรื่องขลังของท่านเป็นเลาๆอยู่บ้าง มีผู้เล่าหนาหูว่าตะกรุดของท่านแขวนคอไก่แล้วสับไกปืนไม่ออก จึงได้นำพระเครื่องของท่านมาลองดู

    พระเครื่องที่เอาเข้าแท่นยิงเป็นเหรียญรูปพระปิดตาfrom พัดยศกะไหล่ทองทองสวยงามดี

    ผู้ยิงคือสิบตำรวจโท สุธีรพันธ์ ทาบศรี ตำรวจภูธรอุบลราชธานี ใช้ปืนประจำตัว smith s wessson revolver.38 ยิงในระยะเผาขนชนิดตอกหัวตะปูได้ไม่พลาด เหรียญพระปิดตากระเด็นไป แต่ไม่มีรอยระคายผิวแม้แต่นิดเดียว

    เหรียญอันนั้นเวลานี้ สตท.สรุพันธ์ ทาบศรี อาราธนาขึ้นคอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ในการทอลองยิงคราวนั้น(19มิ.ย.37)มีพระเครื่องหลากหลายเข้าทดสอบด้วย มีได้ผลดีไม่กี่องค์ นอกนั้นกระจุยหมด

    ที่กระจุยจะถูกเก็บไว้เป็นความลับต่อไป ที่ได้ผลดีจะถูกนำมาเปิดเผยต่อไป

    ตอนนี้ขอสงวนไว้ก่อน

    คงมีแต่พระเครื่องที่ไม่รู้จักประวัติความเป็นมาองค์หนึ่ง ขอนำมาเปิดเผยเพื่อหาผู้รู้มาบอกกล่าวกันบ้าง นั่นคือเหรียญหลวงพ่อพุทธมงคล นครสวรรค์(ดูรูปภาพประกอบ)เจ้าของเหรียญเข้าใจว่าเป็นพระเก่าก่อนปี 2500 และเชื่อว่ามีหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ร่วมปลุกเสกด้วย เสียแต่ผมไม่ทราบ จึงบอกอะไรเกี่ยวกับพระเครื่ององค์นี้ไม่ได้ ต้องถามมาทางผู้อ่าน ใครทราบบอกผมด้วย

    เหรียญหลวงพ่อพุทธมงคลปรากฏผลในลักษณะเดียวกันกับเหรียญพระปิดตาของหลวงปู่ดี คือยิง 2 นัด พระกระเด็นทั้งสองนัดแต่ไม่มีรอยระคายผิว

    อันนี้เป็นพระเครื่องดีที่ทดสอบแล้วและขอรายงานแก่ผู้อ่าน ถ้าใครมีอยู่ในมือจะทดสอบดูบ้างก็ได้ และผลเป็นเช่นไรบอกกล่าวกันด้วย

    สืบหาพระเครื่องดีงวดนี้ เลยออกจะดุเดือนสักหน่อย

    เกี่ยวกับเรื่องของขลังกันปืนนั้น นายทหารยศพันโทผู้หนึ่ง (ขอสงวนนาม) ประจำการอยู่จังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวยืนยันว่าของขลังดังว่านี้มีจริง “มันขึ้นอยู่กับว่าจะหาของขลังนั้นพบหรือไม่” ในส่วนตัวของเขาแล้วเชื่อเรื่องของขลังกันเป็นสุดใจ เนื่องจากว่าได้เคยทดสอบด้วยตนเองมาครั้งหนึ่ง

    “เขาเอาก้อนโลหะเล็ก ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไรมาให้ผมลองยิง” พันโทท่านนั้นหลาย “ ผมเห็นเขาชักปืนของเขาออกมาก็ไม่ยอมให้เขาทำเช่นนั้น บอกเขาว่าจะใช้ปืนของผมเอง กระสุนผมเอง เขาตกลง และให้ผมเลือกเอาก้อนโลหะก้อนใดก้อนหนึ่งในสองก้อนที่มีอยู่มายิง นัดแรกมีแต่เสียงแช๊ะ และคุณก็คงไม่มีวันเชื่อสายตาตนเองเหมือนผม หัวกระสุนค่อย ๆ ไหลออกจากปากกระบอกปืนแล้วหล่นลงดินตรงบริเวณปลายกระบอกนั่น ถึงแม้ยิงอีก 2 นัด รวมเป็น 3 นัด ก็เกิดอาการเช่นเดียวกัน กระสุนของผมใหม่ ๆ ทุกนัด”

    นายพันโทท่านนั้นได้เล่าต่อไปว่า เจ้าของก้อนโลหะบอกว่าจะขายในราคาก้อนละ 15 ล้านบาท จึงขอเวลาเขา 1 เดือนเพื่อหาเงิน ซึ่งได้ลงกรุงเทพฯ บอกกล่าวเพื่อนฝูงและนายทุนใหญ่โดยบวกกำไรเข้าด้วยรวมเป็นจำนวน 40 ล้านบาท

    “ระหว่างนั้นเขากลับมาบอกอีกว่า ผู้พันฯ ตอนนี้มันยิงออกไปแล้วครับ แต่ก้อนที่ยิงออกมาคนละก้อนกับที่ผู้พันยิง ผมเลยด่ามันไปว่าไม่มีสัจจะ ดันเอาไปให้คนอื่นลองทำไม แต่ใจหนึ่งผมคิดว่าอาจมีคนปั่นหูมันให้งดขายผม”

    นายพันโทยังได้เล่าอีกว่า หลังจากที่ได้ลองยิง 3 นัดแรกแล้ว กลับถึงบ้านยังข้องใจไม่หาย เอาปืนออกมายิงลูกที่เหลือ 3 ลูกขึ้นฟ้า ปรากฏว่าด้านหมด

    “มันดับปืนผมหมดโม่” เขากล่าว “ลองเอากระสุนใหม่มาลองดู ปรากฏว่าระเบิดเปรี้ยงทุกนัดไม่มีด้านผมถึงได้เชื่อเรื่องพรรค์นี้อย่างแท้จริงว่ามี
    แน่นอนอย่าไปสงสัย ขอแต่หาให้เจอเท่านั้น

    กรณีทดสอบยิงพระเครื่องนั้น มีความเห็นหลายกระแสเช่นว่าไม่ควรทำเพราะเป็นรูปของพระพุทธเจ้า หรือรูปครูบาอาจารย์ ถือเป็นการประมาทพระองค์และองค์ท่าน ผู้เห็นเช่นนี้จึงมักปฏิเสธการยิงพระเครื่องที่เป็นรูปครูบาอาจารย์ และพระบรมรูปจอมศาสดา หันไปยิงตะกรุด ฯลฯ แทน

    อีกระแสความเห็นหนึ่งบอกว่าการทดสอบยิงพระเครื่องไม่น่าจะเป็นอะไร ก็ในเมื่อบางที่ยังมีผู้ชอบอธิษฐานว่าถ้าพระเครื่ององค์นั้นองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์จริง ขอให้ถูกหวย

    การอธิษฐานขอให้ถูกหวยเพื่อให้พระเครื่องแสดงความศักดิ์สิทธิ์ ถือว่าเป็นการทดสอบพระเหมือนกัน

    น่าฟังทั้ง 2 กระแส

    ในความเห็นของผมแล้วยังเชื่อถือในคุณพระพุทธพระธรรมสงค์ แม้ว่าพระองค์ใดจะไม่ช่วยในถูกหวย หรือไม่ช่วยให้พ้นลูกปืน

    วิธีคิดของผมคือ ไม่ว่าใครก็ตามมักมีอารมณ์ทำงานแต่ละอย่างต่าง ๆ กัน เราเองบางวันอยากรดน้ำพรวนดิน ต้นไม้ ไม่อยากทำอย่างอื่น บางวันอยากซ่อมหลังคาบ้านที่รั่ว บางวันอยากจัดข้าวของในบ้านเสียใหม่ หรือบางวันไม่อยากทำอะไรเลย

    ครูบาอาจารย์ก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน วันไหนอารมณ์ดี ๆ ก็นึกอยากจะเสกพระเครื่องให้เป็นพระเด่นเมตตา หรืออยากทำให้เป็นพระมหาลาภ มหานิยม วันไหนเฮี้ยน ๆ นึกอยากอุดปืนก็เสกให้เป็นพระกันปืนอย่างนี้

    พระเครื่องของครูบาอาจารย์องค์เดียวกัน แต่ละรุ่นจึงมักเด่นออกมาไม่เหมือนกัน ถ้าเอาพระเด่นเมตตาไปลองก็คงต้องกระจุย

    ดังนั้นการทดลองยิงพระเครื่อง จึงควรจะทำความเข้าใจว่ากำลังทดสอบเพื่อหาพระเครื่องกันปืนเท่านั้น

    คิดอย่างนี้แล้วจะได้ไม่นึกดูถูกดูหมิ่นพระเครื่องที่กระจุยคาปืน

    มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ กันว่า กรณีเสกพระให้เป็นเมตตากับอุดปืนนั้นอย่างไหนยากง่ายกว่ากัน

    ผู้เชื่อว่าเมตตาเสกยากกว่าก็แสดงเหตุผลว่า การจะปฏิบัติให้ถึงเมตตานั้นยากยิ่ง เพียงแค่กิเลสโลภโกรธหลงยังเอาชนะไม่ได้ง่ายๆ ยิ่งทำใจให้บริสุทธิ์ถึงขั้นเมตตาต่อสัตว์ทั้งโลกทั้งหลายยิ่งยากที่สุด ถ้าไม่แน่จริงแล้วเสกได้แค่มหานิยมเท่านั้น

    เมตตากับมหานิยมแตกต่างกันอย่างไร

    ผู้ที่บอกว่าเป็นผู้รู้ ได้อธิบายว่า เมตตานั้นมีผลให้เป็นที่รักแก่ทั้งคน, สัตว์ , เทวดา หรือภูตผีปีศาจ แต่มหานิยมเพียงทำให้ คนด้วยกันรัก เท่านั้น

    น่าฟังเหมือนกัน

    ฝ่ายที่เชื่อว่าพระเครื่องอุดปืนเสกยากกว่าก็แสดงเหตุผลว่า ปืนนั้นสับไกเมื่อไหร่เป็นอันว่าโป้งได้แน่นอน จะหาอะไรไปทำให้มันไม่โป้งได้เล่า ถ้าเสกกันปืนง่ายกว่าทำไมไม่ทำ

    พระเครื่องกันปืนจึงมักประสบความสำเร็จโด่งดังกว่าและแพงกว่าพระเครื่องแนวอื่น ถ้าไม่ใช้เพราะเสกยากหรือหายากแล้วจะเพราะอะไร

    นี้เป็นข้อสังเกตที่ฝ่ายเชื่อทางนี้ตั้งให้ดู

    นับว่าน่าดูเหมือนกัน

    อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงความเห็นซึ่งไม่แน่นักว่าจะถูกต้องหรือผิดทั้งหมด

    ผู้อ่านมีความเห็นอย่างไรจะวิพากษ์วิจารณ์กันมาบ้างก็ยินดีรับฟัง

    กลับมาพูดถึงเหรียญพระปิดตาของหลวงปู่ดี วัดบ้านคำชะอี ที่ยังมีเหลืออยู่ให้ผู้สนใจบูชาอยู่ที่วัดยอดแก้วศรีวิชัยต่อไป

    ถ้าพูดถึงหลวงปู่ดีแล้วคงทราบแต่เพียงว่าท่านเป็นพระอาจารย์ฝ่ายขลัง ที่ผู้คนในพื้นที่ของท่านให้ความเชื่อถือที่สุดองค์หนึ่ง สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ พวก อส.และ ตชด. หรือเจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายปราบปราม ผกค.มักไปขอของขลังจากท่าน เคยมี อส.ขี้สงสัยได้ยิงปืนข้ามหลังคากุฏิท่าน ปรากฏว่ากระสุนด้านผู้ที่ทำงานเสียงภัย จึงให้ความเชื่อถือในของขลังของท่านเพื่อคุ้มตัว

    ส่วนประวัติท่านนั้น เห็นจะบอกว่าเวลานี้ผมยังมืดไม่รู้ แต่ถ้ามีทางเป็นไปได้ก็จะพยายามค้นออกมาเผยแพร่ที่หลัง
    ส่วนประวัติท่านนั้น เห็นจะบอกว่าเวลานี้ผมยังมืดไม่รู้ แต่ถ้ามีทางเป็นไปได้ก็จะพยายามค้นออกมาเผยแพร่ที่หลัง

    พระเครื่องของหลวงปู่ดีชุดนี้เกิดขึ้นมาเพราะโอกาสผูกพันธสีมา และฉลองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดยอดแก้วศรีวิชัย อ.มุกดาหาร จ.นครพนม ในปี พ.ศ.2519 (ปัจจุบันเป็น จ.มุกดาหาร) ท่านพระครูสิริวุฒิโสภณ เจ้าอาวาสวัดยอดแก้วศรีวิชัยได้กรุณาเล่าว่า ในโอกาสนั้น พระเจ้าอยู่หัวทรงมีหมายกำหนดการเสด็จวัดยอดแก้วศรีวิชัย เพื่อทรงประกอบพิธีนี้ด้วย ทางวัดเห็นเป็นงานและโอกาสสำคัญจึงคิดสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้นชุดหนึ่ง ท่านพระครูเองมีความเลื่อมใสในองค์ปู่ดี วสฺปญโญ จึงไปกราบขออนุญาตสร้างเป็นเหรียญของท่าน 2 แบบคือเป็นเหรียญรูปเหมือเครื่ององค์รูปไข่ กับเหรียญพระปิดตา พร้อมกับเหรียญรูปพระพุทธเจ้าอีก 2 แบบ เป็นเหรียญที่ระลึกโอกาสสำคัญนี้ แบบหนึ่งหลังด้านมีพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. อีกแบบไม่มีแต่ทำเป็นรูปใบเสมาโดยมีด้านหน้าเป็นแบบเดียวกัน

    เหรียญทั้งหมดเมื่อสร้างเสร็จแล้วนำไปถวายหลวงปู่ดีปลุกเสกเดียวที่วัดบ้าคำชะอีก่อน หลังจากนั้นจึงนำเข้าพิธีใหญ่ในวันงาน

    พิธีใหญ่นั้นสมเด็จพระสังฆราชวาสนา เสด็จมาเป็นองค์จุดเทียนชัย และมีครูบาอาจารย์มากันมากมายนับไม่ถ้วน เพื่อร่วมนั่งปลุกเสกพระชุดนี้ ท่านพระครูบอกว่าจำไม่ได้ว่ามีใครบ้างมาปลุกเสกคราวนั้น แต่ที่จำได้แม่นคือมีหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลีองค์หนึ่ง หลวงพ่อกัสสปมุนีองค์หนึ่ง หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่องค์หนึ่ง นอกนั้นนึกไม่ออก

    เมื่อเสร็จพิธีแล้วได้นำพระทั้งหมดขึ้นถ้ำขาม สกลนคร ถวายหลวงปู่ฟั่น อาจาโร ปลุกเสกเดี่ยวให้อีกหนึ่งครั้ง จึงนำลงมาแจกจ่าย


    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลที่มาอย่างสุงครับ

    เหรียญหลวงปู่ดีกะไหล่ทองสภาพสวยเดิมๆครับหายากแล้ว มากประสพการณ์

    ให้บูชา 1000 บาทครับ(ปิดรายการ)

    ลป.ดี.JPG ลป.ดีหลัง.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2018
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    ประวัติย่อ หลวงปู่สังวาลย์ ธมฺมสาโร

    10478565_788182467870342_1795044307608357595_n.jpg

    หลวงปู่สังวาลย์ ธมฺมสาโร ตอนนี้ หลวงปู่จำวัดอยู่ที่ วัดป่าเขามโนราห์ ชายป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นวัดร้าง ลักษณะเหมือนบ้านของชาวบ้านธรรมดา เป็นเรือนไม้สองชั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ช่วงนี้ท่านก็สลับออกธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เข้าธุดงค์ประมาณ1-2 เดือน เพื่อฝึกพระใหม่ที่ตามมาธุดงค์ เป็นการฝึก ซึ่งมีผู้กล่าวว่า ปู่สามารถฝึกพระบางองค์ได้ถึงขั้นอริสงฆ์ก็มีหลายรูปแล้ว ตอนนี้มีพระทั้งหมด 11 รูป



    หลวงปู่สังวาลย์ ท่านเกิดปี พ.ศ.2477 ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ขาว อนาลโย เคยธุดงค์กับพระเกจิสุปฏิปันโนมากมาย อาทิ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ชา หลวงปู่เกษม(สุสานไตรลักษณ์) หลวงปู่บุดดา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่เทศ หลวงปู่มหาบัว ฯลฯ เป็นต้น โดยธุดงค์ในป่าลึก ทั้งเหนือ อีสาน ฯ บางครั้งท่านก็เดินธุดงค์องค์เดียวเป็นเวลาหลายปี ยกเว้นตอนเข้าพรรษาเท่านั้น ที่จำเป็นต้องอยู่จำพรรษาที่วัด ก็จะเป็นวัดล้างในป่า เสียส่วนมาก ท่านกรุณาเล่าประวัติให้ฟังพอสังเขป จำได้ไม่หมด ทั้งนี้เพราะทราบมาว่าปกติท่านไม่เคยเล่าให้ใครฟัง พระที่ตามธุดงค์กับท่านก็จะไม่ทราบเรื่องราวของท่านมากนัก ท่านไม่เคยให้สัมภาษณ์หนังสือใดๆ เพราะ ท่านไม่ติดยึดกับชื่อเสียงทางโลก หรือแม้กระทั่งการถ่ายรูป ตอนที่ท่านเข้าธุดงค์ในป่าลึกห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แอบถ่ายสถานที่ในวัดหลายรูป หัวหน้าเขตป่าไม้ชื่อคุณ.ทวี.เล่าให้คณะเราฟังในภายหลังว่าเคยแ อบถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาต ปรากฎว่ากล้องระเบิดเสียหายไป 3 ตัวเลย



    ดังนั้น ขอสรุปเรื่องราวของหลวงปู่สังวาลย์ โดยสังเขปดังนี้



    ท่านเป็นลูกศิษย์ ที่ร่วมคณะเดินธุดงค์กับท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต



    และพระสุปฎิปันโนที่เอ่ยนามแล้วทุกคนรู้จักเป็นที่เคารพของคนไท ยและท่านเป็นสหายธรรมกับหลวงตามหาบัว สมัยอยู่กับหลวงปู่เทส เทสรังสีหลวงปู่สังวาลย์ เล่าว่า ปู่เคยไปธุดงค์ที่ทุ้งแสลงหลวง(ตอนนั้นอายุ53ปี) และมีเณร(อายุ 15ปี) ตามไปด้วยหนึ่งองค์ ระหว่างทางปู่ได้ไปเยียบกับระเบิดเข้า เณรได้เข้ามากอดขาหลวงปู่ แต่ปู่บอกให้เณรออกไป เดี๋ยวตายทั้งคู่ ถ้าปู่เป็นอะไร เณรจะได้ไปบอกคนมาช่วย ขณะจะถอนเท้าออกจากกับระเบิดท่านบอกให้เณรหนีไปไกลๆก่อน



    เมื่อท่านยกเท้าขึ้นก็เกิดระเบิดตูมสนั่น ตัวท่านลอยไปตกในหลุมหลาวที่ทำจากไม้ไผ่หลาวปลายแหลม(ไม้เสียบแ หลมๆของพวกผู้ก่อการร้าย) แต่หลาวไม่สามารถแถงทะลุเข้าท่านได้ ท่านก็นอนค้างอยู่นั้น แต่ท่านก็ขาหักแขนหัก และมีบาดแผลใหญ่ถูกกระเบิดเป็นรูใหญ่ ตรงช่วงต้นขาซ้าย หลังจากนั้นเณรก็เขามาช่วยปู่เอาจีวรพันขาปู่ เพราะเลือดไหลไม่หยุด จึงเอายาฉุนยัดไว้ที่รูแผล รูขนาดลูกปิงปองเลย ปู่เปิดให้ดูรอยบาดแผลใหญ่มาก ท่านบอกให้เณรเดินไปตามลำธารน้ำแล้วจะไม่หลงป่า เมื่อพบชาวบ้านให้แจ้งคนมาช่วย ส่วนตัวท่านก็นอนอยู่ที่นั้นขยับกายไปไหนไม่ได้ นอนอยู่ 3วัน แมลงวันมาเกาะขณะที่ท่านสลบไป รู้สำตัวขึ้นมาก็เห็นหนอนไชแผลเต็มไปหมด เลือดไหลจนซีดหมดทั้งตัว ปู่บอกจะตายก็ตาย ชีวิตนี้ไม่เอา ไม่ยึดติดอะไรแล้ว กว่าเณรจะเดินตามลำธาร ไปพบชาวบ้านใช้เวลา ถึง 3วัน 2คืน แล้วทหารเสนารักษ์ก็มาช่วยรักษาพาท่านไปโรงพยาบาลในที่สุด





    มีเรื่องพิเศษจากศิษย์ของหลวงปู่เล่าไว้ให้ฟังวันนั้นกำลังฉันจังหันบนศาลาใหญ่ มีพระท่านบวชใหม่ซึ่งการสำรวมกายก็ดูสวยดี แต่ในดูยิ่งสวนทางกัน หลังจากเสร็จภัตกิจหลวงพ่อท่านต้องแสดงธรรมสอนทั้งลูกพระลูกชีทุก ๆ วัน สายวันนั้นท่านเทศน์สั้น ๆ ว่า “เราต้องสำรวมกายวาจาใจ กายสำรวมง่าย เดินอย่างมีสติไว้ ตาเพ่งไปแค่แอกเกวียน ส่วนใจซิยาก อะไร ๆ ใจนั้นสำคัญนะ



    มองให้เห็นความสกปรกไม่งาม แค่หน้าไม่ได้ล้าง เท้าไม่ได้ขัดถูสัก ๒-๓ วัน.....เป็นไง พิจารณาว่าไม่งามเหม็นสาบสางเมื่อไม่ได้ฉาบทาปรุงแต่ง ฟันไม่ได้แปรงแค่วันสองวันพูดทีมันเหม็นไม่รู้จักเท่าไร



    กำหนด “รู้หนอ-คิดหนอ” ไว้ ถ้าปล่อยไม่ทำสติมันจะเพลินในอารมณ์ กายสงบวาจาสงบแล้ว เหลืออีกอย่างเดียว ทำใจให้สงบให้ได้ การบวชของเราจะมีอานิสงส์มาก



    เราบวชแล้วไม่สำรวมใจ แม้มองตีนผู้หญิง กามคุณปรุงแต่งว่ามันสวยมันดี เป็นพระเขากราบไหว้ ถ้าคิดรักชีรักสตรีเพศแม่ไม่ดีหรอก เจ้าของเขารู้อายเขาตายเชียวนะ.....!


    พระหนุ่มเจ้าของใจปรุงแต่งท่านบอกว่า “ผมอยากจะเอาหน้ามุดดินเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป”


    ตั้งแต่วันนั้นท่านเข่นกับอารมณ์ท่านตลอด ด้วยคิดว่า “เราทำไม่ดี คนอื่นไม่เห็น แต่เทวดาผีสางเห็น คิดไม่ดี ใคร ๆ หรือจะรู้แต่หลวงพ่อท่านรู้ น่าอายท่านจริง ๆ”



    เรื่องอย่างนี้มีบ่อย ๆ เช่นบนหอสวดมนต์ทรงกลม เวลาดึก ๆ ท่านเข้ากลดจำวัดแล้ว เวลามีพระองค์ใดเดินเข้ามาเสียงกุกกักเพราะพื้นกระดานยังปูไม่เรียบร้อย ท่านจะร้องทักมาจากกลดได้เลยว่า ท่าน ก. ท่าน ข. ท่านมาแล้วหรือ ? อย่างนี้เป็นต้น ทำให้พระส่วนใหญ่ที่อยู่กับท่านระวังตนระวังในใจจนตัวลีบไปเลย มีบางองค์เท่านั้นที่เหลือเข็น ในที่สุดก็แพ้ภัยตัวเอง



    หลวงปู่สังวาลย์ เขมโกแหล่งที่มา : หนังสือบูชาครู หน้าที่ 41-42

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระสมเด็จเนื้อดินเผาวัดป่าเขามดนราห์
    ให้บูชาองค์ละ 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    วัดเขามโนราห์.JPG วัดเขามโนราห์หลัง.JPG
     
  13. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เรื่องเล่าประสบการณ์เหรียญหลวงปู่ศรี
    เล่าโดยกรรมการวัดท่านหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ นามสกุล ปัจจุบันผู้เล่ายังมีชีวิตอยู่) ท่านเล่าคร่าวๆๆ ว่า เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อนี้มีประสบการณ์คือ คนขับรถสิบล้อซึ่งเป็นลูกศิษย์ เคารพบูชาหลวงพ่อศรี ได้เเขวนเหรียญของหลวงพ่อไว้ เขาได้ขับรถสิบล้อตามปรกติ ปรากฏว่ารถเสียหลัก พลิกควำ่ลงข้างทาง ปรากฎว่าคนขับรถสิบล้อไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะแขวนเหรียญหลวงพ่อไว้ เรื่องนี้เป็นที่ฮีอฮา อยู่พักหนึ่ง

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อศรี วัดบ้านด้ามพร้า อุบลราชธานี

    ให้บูชาองค์ละ 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ลพ.ศรี.JPG ลพ.ศรีหลัง.JPG
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    วันนี้จัดส่ง

    EU 3618 3894 4 TH คลองจั่น

    EU 3618 3895 8 TH ลาดกระบัง

    ขอบคุณครับ
     
  16. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,496
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ขอจองเหรียญหลวงพ่อจวน
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    รับทราบครับโอนแล้วแจ้งบอกที่อยู่ด้วยนะครับ จะจัดส่งตามแจ้งครับ บัญชีธนาคารหน้าแรกครับ
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เป็นเหรียญรุ่นแรกและเหรียญเดียวที่หลวงปู่อนุญาตให้จัดสร้าง

    ประวัติและปฏิปทา
    หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม

    วัดป่าดานศรีสำราญ
    ต.ศรีสำราญ อ.พรเจริญ จ.หนองคาย


    ๏ ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย

    หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม บวชเป็นผ้าขาว ฝึกปฏิบัติภาวนากับ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ขณะที่องค์หลวงตามหาบัวพำนักจำพรรษา ณ บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร (เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๕)


    ๏ ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา

    หลวงตามหาบัวได้เป็นธุระเตรียมจัดบริขารในการบวชให้ โดยหลวงตากล่าวว่า

    “...หลวงพ่อตันนะ องค์หนึ่งนะ อันนี้ก็เราบวชให้เลยนะ
    เป็นตาปะขาว แกภาวนาดี แกเล่าภาวนาให้ฟัง เข้าท่านี่ว่ะ
    เราเลยให้ไปบวชมุกดาหาร เราไม่ไปแหละ
    แต่ให้โยมพาไป ให้พระพาไป บริขารเราเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว
    ให้ไปบวชแล้วมาอยู่กับเรา หลวงพ่อตันนี้องค์หนึ่ง...”

    ท่านเป็นพระบวชเมื่ออายุมาก แต่ท่านตั้งใจปฏิบัติจริงจัง เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการปฏิบัติ บวชแล้วก็ได้มาอบรมธรรมเป็นศิษย์องค์หลวงตามหาบัว ภายหลังจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี จนกระทั่งองค์หลวงตามหาบัวมั่นใจในคุณธรรมหลวงปู่คำตัน แล้วจึงมอบหมายให้หลวงปู่คำตันไปดูแล และฝึกอบรมพระกรรมฐาน ณ วัดป่าดานศรีสำราญ ต.ศรีสำราญ อ.พรเจริญ จ.หนองคาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม ได้มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐


    ๏ ธรรมโอวาท

    “...หมดแนวนี้หมด หมดเฮานี้ โลกอันนี้ มีแต่เรื่องสมมติทั้งนั้นแหละ
    สู้พุทโธไม่ได้ดอก เฮาเฮ็ดแนวใด๋ ก็สู้อันนี้ บ่ได้ดอกในโลกนี้...”

    ท่านบรรลุธรรมขั้นสูงสุด ที่ภูจ้อก้อ (วัดหลวงปู่หล้า เขมปัตโต) ท่านหลวงปู่คำตันได้ไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่หล้า ตามบัญชาขององค์พระหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ...
    ..... หลังจากพูดคุยสนทนากันเพียง 2 ต่อ 2 องค์หลวงปู่หล้าท่านให้หลวงปู่ตันไปภาวนาที่กูฏิบนภูจ้อก้อ ...วันต่อมาองค์ท่านก็ไม่ได้สนทนากันอีกเลย จนหลวงปู่ตันได้ลากลับ .....
    .....หลวงปู่ตันได้จบกิจพรหมจรรย์ในคืนนั้นนั่นเอง..

    ลุงคนหนึ่ง พ่อเค้าเก็บหัวลูกระเบิดปืน ค ซึ่งข้ามมาจากลาวเมืองครั้งสงครามเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ่อเค้าใช้เป็นทั่งไว้ทุบเหล็กและมีด จนพ่อตาย

    ลุงซึ่งเป็นลูกใช่ต่อ จนคิดว่าหากกลายเป็นฆ้อนคงทุบปืนทุบหินได้ดี จึงนำท่อเหล็กมาเชื่อมกับหัวลูกระเบิด มันจึงเกิดระเบิด

    ลืม บอกว่าร้านของลุงอยู่ริมถนนหกเลน ปากคาค - สกลนคร ร้านของแกพังหมดเลย ที่ประตูร้านรูที่เกิดจากสะเก็ดระเบิดรูใหญ่สุดเท่ากับลูกมะพร้าว

    บ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนก็พังมีคนได้รับบาดเจ็บขาหัก กับ แขนหัก ตัวคุณลุงเสื้อผ้าขาดหมด เลือดออกทางหูและจมูก หูดับไปสามเดือน

    มีแผลสะเก็ดระเบิดตามตัวเต็มไปหมด รพ ต่างอำเภอต้องนำส่ง รพ หนองคาย ทาง จนท ของ รพ ถามใหญ่เลยว่าแขวนพระอะไร จึงรู้ว่าลงแกแขวน
    เหรียญหลวงปู่คำตัน ธิตธัมโม วัดป่าดานศรีสำราญ ครับ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลที่มาอย่างสุงครับ ทุกๆท่าน
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่คำตัน ธิตธัมโม วัดป่าดานศรีสำราญรุ่นแรกรุ่นเดียว ของเก๊เพียบของแท้หายาก บล๊อคกษาป

    ให้บูชา 5000 บาทครับ

    ลป.คำตัน.jpg ลป.คำตันหลัง.jpg ลป.คำตันขอบ.jpg
    http://www.guaranteepra.com/webboard/show.php?Category=not_amulets&No=161188
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,211
    ค่าพลัง:
    +21,324
    วัดป่าสุนทราราม (วัดบ้านกุดแห่)
    หมู่ 1 บ้านกุดแห่ ต.กุดแห่
    อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร 35120

    พระครูสุนทรศลีขันธ์ (หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร) เจ้าอาวาส


    วัดป่าสุนทราราม (วัดบ้านกุดแห่) เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

    หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ดี ฉนฺโน
    และเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของพระครูวิมลสีลาภรณ์ (หลวงปู่เนย สมจิตฺโต)


    วัดป่าสุนทราราม (วัดบ้านกุดแห่)
    หมู่ 1 บ้านกุดแห่ ต.กุดแห่
    อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร 35120

    พระครูสุนทรศลีขันธ์ (หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร) เจ้าอาวาส


    วัดป่าสุนทราราม (วัดบ้านกุดแห่) เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

    หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ดี ฉนฺโน
    และเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของพระครูวิมลสีลาภรณ์ (หลวงปู่เนย สมจิตฺโต)

    • ประวัติความเป็นมาของวัดป่าสุนทราราม •

    ครั้งในสมัย พระอาจารย์ดี ฉนฺโน เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรืองท่าแขก บ้านกุดแห่ วัดเจริญรุ่งเรืองมากทั้งทางโลกและทางธรรม ท่านเป็นพระนักพัฒนา พระนักก่อสร้าง ได้นำพาคณะญาติโยมทำบุญตามประเพณีจริงๆ เดือน ๓ เอาบุญข้าวจี่ เดือน ๔ เอาบุญพระเวสสันดรชาดก เดือน ๕ ก็บุญสงกรานต์ เดือน ๖ บุญบั้งไฟหมื่นบั้งไฟแสน ฯลฯ

    แต่ก่อนใกล้จะถึงวันทำบุญป่าวประกาศประชุมกันทำตูบ ทำปะรำสำหรับต้อนรับพระ ปัจจุบันใช้เต็นท์แทน ญาติโยมที่มาทำบุญใส่ฉลากมาเป็น ๖๐ กว่าบ้าน แต่ละหมู่บ้านที่มาจะประกอบด้วยหนุ่มสาว ผู้เฒ่าผู้แก่ พระเณรจะเดินทางมา บางวัดมีม้า พระจะขี่ม้ามา ญาติโยมหนุ่มสาวเดินตามหลังสนุกสนานร่าเริง พอไปถึงวัด เจ้าภาพจัดกันไว้เป็นคุ้มเป็นกลุ่ม คุ้มไหนรับบ้านไหนก็จะพาไปพักที่ตูบที่ประจำที่เตรียมไว้ ใครรับบ้านไหนจะตกลงกันในวันประชุมก็เป็นที่รับบ้านนั้น พอถึงเวลาแห่พระเวสก็จะไปรวมกัน มีกลองตุ้ม กลองหาง กลองเลง กลองกริ่ง มีวงระนาด ฆ้องวง มีหัวงิ้วหัวโขน เข้าขบวนแห่ สมัยนั้นถือเป็นของแปลกประหลาดมาก กลางคืนก็มีมหรสพ แต่ก่อนไต้กระบองไม่มีไฟฟ้า เครื่องเสียงไม่มี คนมาเที่ยวงานชมงาน ๑๐๐ กว่าหมู่บ้าน แออัดเต็มบ้านเต็มวัด คำว่าทะเลาะกันตีกันไม่มีเหมือนทุกวันนี้ มีแต่สนุกสนานร่าเริง คนหนุ่มสาวก็พูดเกี้ยวกันเป็นคำเว่าผญา แต่โบราณอาหารการกิน เลี้ยงกันเลี้ยงแขกที่มาเอาบุญอุดมสมบูรณ์ การทะเลาะวิวาทไม่มีเลย พระอาจารย์ในตอนนั้นท่านจะเป็นช่าง ทำอะไรเป็นหมด และให้ดีสมชื่อท่านด้วย ที่เห็นของเก่าที่ท่านทำไว้ก็ตู้เก็บคัมภีร์เทศนา ซึ่งจารึกด้วยตัวธรรมตัวขอมทั้งนั้นเลย ท่านมีม้าเป็นพาหนะ ท่านจะไปเทศนาบ้านกุดเชียงหมี บ้านไกลท่านจะขี่ม้า ญาติโยมก็เดินตามไป แต่ก่อนไม่มีรถเลย

    268_1242818991.jpg_376.jpg
    ท่านพระอาจารย์ดี ฉนฺโน

    _paragraphparagraphparagraph__920.jpg
    พระครูสุนทรศลีขันธ์ (หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร)
    เจ้าอาวาสวัดป่าสุนทราราม (วัดบ้านกุดแห่) รูปปัจจุบัน
    ......................................................................................
    ครั้นต่อมา ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ พระอาจารย์ดี ฉนฺโน พร้อมน้องชายได้เดินทางออกจากวัดศรีบุญเรืองท่าแขก บ้านกุดแห่ ด้วยเกิดอยากไปเที่ยวหาเรียนวิชาอาคม หาของดีหาวิชาความรู้เพิ่มเติม จึงเดินทางท่องเที่ยวขึ้นไปทางเหนือไปทางจังหวัดสกลนคร นครพนม ด้วยคงเป็นบุญกุศลแต่ชาติปางก่อนหนุนส่ง จึงจำเพาะให้การเดินทางไปมืดค่ำลงที่บ้านสามผง ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ซึ่งในขณะนั้นที่วัดบ้านสามผง ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พักปฏิบัติธรรมอบรมญาติโยมอยู่ที่นั้นพอดี เมื่อพระอาจารย์ดีเข้าไปนมัสการกราบไหว้ ท่านพระอาจารย์มั่นได้ทักท้วงทักทายได้ถูกต้องเหมือนตาเห็น เป็นอัศจรรย์มาก พระอาจารย์ดีเข้าใจทันทีว่าท่านพระอาจารย์มั่นเป็นผู้มีหูทิพย์ ตาทิพย์ สำเร็จแล้ว ท่านเป็นผู้วิเศษจริงๆ เมื่อมาพบของดีเข้าแล้วจึงขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ทันที ท่านพระอาจารย์มั่นก็แสดงธรรมให้ฟัง ชี้ทางประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย

    ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ท่านได้บวชญัตติเป็นพระสงฆ์คณะธรรมยุตใหม่อีกครั้ง ที่วัดสร่างโศก อำเภอยโสธร ในครั้งนั้น ซึ่งปัจจุบันคือ วัดศรีธรรมาราม (พระอารามหลวง) วัดธรรมยุตวัดแรกในอำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อบวชแล้วก็ได้ออกเผยแผ่พระธรรมกรรมฐาน เป็นศิษย์เอกในสมัยบุกเบิกนั้นอย่างกว้างขวาง ท่านเดินทางกลับบ้านกุดแห่ หลังจากฝึกข้อวัตรปฏิบัติจากท่านพระอาจารย์มั่น ๑ ปี พระอาจารย์ดี ฉนฺโน ได้ไปพักอยู่ที่ดอนปู่ตา ปักกลดอยู่ดอนปู่ตา รื้อหอปู่ตาทิ้งปลูกกุฏิชั่วคราวขึ้น ปฏิบัติธรรมสั่งสอนประชาชนอยู่ ๑ เดือน ให้เลิกนับถือปู่ตา ให้เลิกนับถือผีฟ้า ให้นับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงสุด

    ครั้นต่อมา พระอาจารย์ดี ฉนฺโน พิจารณาเห็นว่าสถานที่ของวัดไม่เหมาะสมและไม่สัปปายะ จึงได้ย้ายจากดอนปู่ตาไปจับจองเอาดอนคอกวัวของ พ่อเฒ่าฝ่ายหน้า บุราณรัตน์ ซึ่งเป็นผู้บริจาคที่ดินแปลงนี้ให้เพื่อสร้างวัด พระอาจารย์ดีจึงสั่งคณะญาติโยมรื้อศาลากุฏิจากวัดศรีบุญเรืองท่าแขก บ้านกุดแห่ เอาไปปลูกสร้างไว้ที่วัดใหม่ดอนคอกวัวทั้งหมด วัดศรีบุญเรืองท่าแขกจึงเป็นวัดร้างแต่นั้นมา ปัจจุบันเป็นที่ธรณีสงฆ์ของ วัดป่าสุนทราราม ดอนปู่ตาก็เป็นบ้านดอนสวรรค์ทุกวันนี้ พระอาจารย์ดีท่านจะไม่ค่อยอยู่ประจำ แต่ไปๆ มาๆ เพื่อจัดหาทุนทรัพย์มาก่อสร้างเสนาสนะ ที่ดินทั้งหมดที่พ่อเฒ่าฝ่ายหน้า บุราณรัตน์ ถวายมีทั้งหมด ๖๐ ไร่ ๓ งาน ๒๐ ตารางวา

    สำหรับความเป็นมาของชื่อวัดนั้น ในปี พ.ศ. ๒๔๗๑ พระอธิการอินทร์ สุนทโร ซึ่งเป็นบิดาของพระอาจารย์ดี ฉนฺโน อุปสมบทมาหลายพรรษาแล้ว จึงนำเรื่องเสนอพระเถระ ต่อมาพระอธิการอินทร์ สุนทโร ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก จึงได้ตั้งชื่อวัดให้คล้ายกับนามฉายาของเจ้าอาวาสรูปแรก รูปปฐมฤกษ์ ว่า “วัดสุนทราราม” สภาพเป็นป่า เป็นวัดป่าสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต สายปฏิบัติกรรมฐาน เลยเพิ่มป่าเข้าไปแล้วเรียกว่า “วัดป่าสุนทราราม” พระอธิการอินทร์ สุนทโร ได้พัฒนาก่อสร้างเสนาสนะ กุฏิ ศาลาการเปรียญ ฯลฯ วัดป่าสุนทรารามมีพระภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษาไม่เคยขาดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๑ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

    แต่ก่อน วัดป่าสุนทราราม เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันเป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย มี พระครูสุนทรศลีขันธ์ (หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร) เป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

    __2_102.jpg

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญรุ่นแรกท่านราคาสูงหายากพอควร

    เหรียญไตรมาสรุ่น๒ หลวงปู่สิงห์ทอง ให้บูชา 3000 บาทครับ

    ลป.สิงห์ทอง.jpg ลป.สิงห์ทองหลัง.jpg
     
  20. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,496
    ค่าพลัง:
    +1,263
    เหรียญหลวงพ่อจวน โอนตังแล้วครับ ที่อยู่แจ้งทาง pm แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...