พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 18 พฤษภาคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091

    รับทราบ ขอบคุณครับ
     
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิด

    เหรียญพญาเต่าเรือนหลวงปู่หลิว รุ่นรวยแล้วให้รวยอีก ออกวัดสนามแย้ ตอกโค๊ดหลิว ปี 2532 สภาพสวยๆเลยครับ รุ่นอื่นราคาไปหลายพันถึงหมื่น ใช้รุ่นนี้ดีเหมือนกันครับ รับประกันแท้

    บูชา 2,500 บาท


    IMG_25631029_085319.jpg Screenshot_25631029_085220.jpg IMG_25631029_085250.jpg IMG_25631029_085242.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2020
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    เข็มกลัดสมเด็จพระสุพรรณกัลยา พระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรฯ วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี ปี 2512 ปลุกเสกพร้อมพระเครื่องรุ่นอื่นๆสร้างน้อยเหมาะสำหรับผู้หญิง ที่ไม่ชอบแขวนพระเครื่อง รับประกันแท้

    บูชา 650บาท


    IMG_25631029_124512.jpg IMG_25631029_124502.jpg Screenshot_25631029_125914.jpg Screenshot_25631029_125655.jpg Screenshot_25631029_125648.jpg
     
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    เหรียญหยดน้ำ ร.5 หลัง พระพิฆเนศ วัดนางพญา จ.พิษณุโลกปี 38 พิธีใหญ่กล่องเดิม รับประกันแท้

    บูชา 350 บาท

    IMG_25631029_140045.jpg IMG_25631029_140129.jpg IMG_25631029_140100.jpg
     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    เหรียญแปะโรงสี นำโชครุ่น เฮงสมปรารถนา เนื้ออัลปาก้าลงยา 2 สี หลวงพ่อหยัด วัดลำกะดาน, หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน, พระมหาสุรศักดิ์ ไทยจีน ทำพิธี ที่วัดลำกระดานปี 2563 ตอกโค๊ตและลงหมายเลขกำกับ no.124 รับประกันแท้

    บูชา 650 บาท



    IMG_25631029_135820.jpg IMG_25631029_135833.jpg
    Screenshot_25631029_155529.jpg Screenshot_25631029_155443.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2020
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิด

    IMG_25631029_135743.jpg IMG_25631029_135737.jpg IMG_25631029_135729.jpg

    พระชัยวัฒน์ ท่านเจ้ามาวัดสามปลื้ม พิมพ์ล้มลุกถือดอกบัวออกวัดตึก
    คมชัดลึกล่ำ ไม่ผ่านการใช้เนื้อจัดมันคลาสสิค หายากสุดๆแล้วสภาพสวยปรี๊ดแบบนี้

    การสร้างพระตามตำราของสมเด็จพระนรัต วัดป่าแก้ว องค์พระอจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ท่านเจ้ามาวัดสามปลื้ม)
    การปลุกเสกและพุทธคุณ

    ท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวด้วยตัวของท่านเอง มีคนนำไปใช้พบกับคุณวิเศษนานับประการ ทั้งในด้านคงกะพันชาตรี และ เมตตามหานิยม จนเป็นที่เลื่องลือกันทั่วไปอย่างมาก

    ขนาดท่านบิดาของท่านเจ้าคุณนร สมัยที่เป็นนายอำเภอที่บางปลาม้า สุพรรณบุรี มีพระท่านเจ้ามาติดตัวองค์เดียว ถูกเสือร้ายชื่อดังยิงด้วยปืน แต่ปืนไม่ลั่น เสียงดังแชะๆ เรื่องนี้ ท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นผู้เล่าให้บรรดาศิษย์ฟังครับ ลองคิดดูกันแล้วกันครับ ว่าถ้าพอมีกำลังควรหามาติดกายบูชาสักองค์หนึ่งไหม

    เนื้อพระ

    ท่านสร้างพระด้วยโลหะผสม มีหลายเนื้อ เช่น เนื้อทองผสม บางองค์ออกทองเหลืองประแจจีน ออกแดง ขันลงหิน หรือ แม้แต่เนื้อกลับดำ ก็มี แบบมีประกายเงินในแบบนวโลหะ หรือ ออกแก่ทองคำหรือ แก่เงิน หรือ แก่สำริดก็มีครับ

    แต่โดยทั่วไป เนื้อพระของท่านจะหนักไปทางทองเหลืองหรือทองแดง เพราะ ท่านมีเศษพระบูชาและ พวกโลหะทองเหลือง ทองแดงมากมายที่ได้จากการบูรณะรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี และ ที่วัดนี้ยังมีการหล่อพระบูชาสร้างพระพุทธรูปบูชาอีกด้วย พวกเศษทองเหลืองจึงมีมากครับ

    วัสดุที่มาสร้างเนื้อพระ

    ส่วนสาเหตุที่เนื้อพระบางองค์กลับดำ ประกายเงิน หรือประกายทอง นั้น มีที่มีดังจะกล่าวต่อไปครับ

    ทำไมพระบางองค์จึงกลับดำ มีประกายเงิน หรือ ทอง

    ครั้งหนึ่งไฟได้ไหม้พระมณฑป อันเป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี สิ่งของที่มีค่าราคาประเมินไม่ได้ เช่น เสื่อเงิน เสื่อทอง ม่านทอง ผ้าซึ่งประดับเพชรพลอย และ ของมีค่าราคาสูงของกษัตริย์โบราณหลายยุคหลายสมัยที่สร้างถวายเป็นพุทธบูชา ได้สูญสิ้นไปกับเพลิงไหม้ครั้งนั้น

    ท่านได้เก็บเศษเสื่อเงิน เสื่อทอง ที่ไฟไหม้ และ เศษเงิน เศษทอง ที่ไฟไหม้ มาหล่อหลอมขึ้นมาเป็นเส้นทอง และ เส้นเงินใหม่ ในครั้งนั้น บางครั้งเศษเงินและทอง ก็กระเด็นออกจากเบ้าหลอม ท่านได้เก็บเศษโลหะเงินทองเหล่านั้น มาผสมกับเนื้อพระท่าน ทำให้ บางรุ่นเนื้อกลับดำออกประกายเงิน หรือ ประกายทองคำ นี่คือ ต้นกำเนิด พระเครื่องท่านเจ้ามาเนื้อกลับดำ มีประกายเงิน หรือ เนื้อประกายทองแก่ทองหรืออาจแก่เงินครับ

    ความสัมพันธ์กันระหว่างท่านเจ้ามา สมเด็จสังฆราชแพ วัดสุทัศน์

    และ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

    ท่านเจ้ามาเปรียบเสมือนอาจารย์ เพราะก็เป็นคนถ่ายทอดและมอบตำราวิชาการสร้างพระกริ่งและชัยวัฒน์ แก่สมเด็จสังฆราชแพ แห่งวัดสุทัศน์ และเข้าใจว่าได้ถ่ายทอดการสร้างพระชัยวัฒน์แก่หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วด้วย เพราะ พระหลายพิมพ์ของปู่บุญ เป็นพระพิมพ์ที่คล้ายและในลักษณะเดียวกับเจ้ามาเลยทีเดียว สมเด็จสังฆราชแพ ท่านเจ้ามา และ ปู่บุญ ทั้งสามท่านนี้ มีความสนิทสนมกันในทางธรรมวินัยมาก ทำให้ การสร้างพระกริ่ง และ ชัยวัฒน์ของสามท่านนี้ เกี่ยวเนื่องจากตำราเดียวกันทุกประการ และ เป็นที่นิยมในวงการอย่างสูงยิ่ง

    กล่าวโดยสรุป ท่านเจ้ามา นอกจากจะเป็นผู้ได้รับสืบทอดตำราการสร้างพระกริ่งชัยวัฒน์โบราณสมัยอยุธยาในเข้ามาสู่เมืองไทยในยุคสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยหลักฐานท่านได้รับตกทอดมาจากสมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส ท่านเจ้ามาได้เป็นผู้ก่อกำเนิดตำนานพระชัยวัฒน์อันยิ่งใหญ่แห่งเมืองไทย และท่านเคยมีดำริจะสร้างพระกริ่งตามตำรับเดิมที่ได้รับตกทอดมา เมื่อท่านอายุครบ 80 ปี แต่ท่านได้มรณภาพลงก่อนเมื่ออายุ 77 ปี ทำให้ตำรับดังกล่าวตกไปอยู่กับศิษย์ของท่านคือสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ และ ตำนานพระกริ่งอันยิ่งใหญ่จึงก่อกำเนิดที่วัดสุทัศน์แต่นั้นมา

    นอกจากคุณวิเศษมหัศจรรย์ในพระชัยวัฒน์ที่ท่านปลุกเสกด้วยไสยเวทย์กล้าแกร่งแล้ว ในทางปฏิบัติ ท่านก็เป็นพระเถระที่เอาใจใส่ในวิปัสสนาธุระ และ นวกรรมนับตั้งแต่เป็นพระภิกษุหนุ่ม จนถึงมรณภาพ ได้ทำชื่อ เสียงเกียรติคุณมาสู่วัดอันเป็นอเนกอนันต์ ดังปรากฏว่า มีผู้เคารพนับถือมาก ตั้งต้นแต่สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า รัชกาลที่ 5 เจ้านายขุนนางตลอดจนลงมาถึงประชาชนทั่วไป และ เมื่อท่านถึงแก่มรณภาพ พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ประจำ 1 สร้าง มีกำหนด 1 เดือน เป็นเกียรติยศยิ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2020
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อเกษม เขมโก (รุ่นไตรมาส) ปี พ.ศ. 2518 สภาพสวย พร้อมเลี่ยมทองคำแท้ รับประกันพระแท้.ทองแท้

    พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อเกษม เขมโก (รุ่นไตรมาส) ปี พ.ศ. 2518 สภาพสวย เป็นพระเนื้อผงที่ได้รวบรวมสุดยอดแห่งมวลสารสำคัญของหลวงพ่อเอาไว้...มีเนื้อผง5รอบ,เศษจีวรและเส้นเกศาของหลวงพ่อเกษม มีจำนวนการสร้างไม่มากเพียง 3,000 องค์...หลวงพ่อใช้เวลาปลุกเสกพระรุ่นนี้นานถึง 3 เดือนเต็ม ครับผม เฉพาะค่าเลี่ยมทอง 5,***กว่าบาทครับ สนใจจริงสอบถามได้


    บูชา 9,000 บาท

    1591868499117.jpg 1591868497121.jpg 1591868495259.jpg FB_IMG_1587568944849.jpg FB_IMG_1587568984543.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2020
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    พระปิดตา หลวงพ่อแพ รุ่นแรก เนื้อผงใบลาน ปี2514 วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี (มีบัตรรับรอง)

    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อแพนั้น ท่านมิได้เน้นเรื่องความสวยงาม หากแต่เน้นไปในเรื่องของความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลนั้น ๆ โดยท่านจะพิถีพิถันในการปลุกเสก ทั้งวิชาอาคม ทั้งอำนาจจิต เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และด้วยพลังบริสุทธิ์ดังกล่าว จึงทำให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อแพรุ่นต่าง ๆ มีประสบการณ์อภินิหารมากมาย สืบสานยาวนานมาจนทุกวันนี้

    ในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ หลวงพ่อแพได้สร้างพระสมเด็จเนื้อผงรุ่นหนึ่งขึ้นมาหลายพิมพ์ กล่าวกันว่า พระสมเด็จที่หลวงพ่อแพสร้างขึ้น มีอานุภาพด้านพุทธคุณ ไม่ได้เป็นรองพระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง แม้แต่น้อย ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากหลวงพ่อแพท่านมีศรัทธาในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง เป็นอย่างมาก

    ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อแพจึงได้สร้างพระสมเด็จขึ้น โดยยึดถือแนวทางการสร้างวัตถุมงคลชุดพระสมเด็จของสมเด็จโตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหลักใหญ่หลวงพ่อแพท่านได้ลบผง เรียกว่า ผงวิเศษห้าประการ เป็นผงหลักในการสร้างพระสมเด็จ คือ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห และ ผงพุทธคุณ โดยเฉพาะผงพุทธคุณนั้น ท่านเขียนและลบด้วยพระคาถาชินบัญชร เพื่อใช้เป็นส่วนผสมอีกด้วย

    นอกจากผงวิเศษห้าประการแล้ว ยังมีผงอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ เช่น ผงบดจากหนังสือ ๗ ตำนาน, ผงยันต์ในคัมภีร์ต่าง ๆ เป็นต้น
    ในการทำผงแต่ละอย่างนั้น มีเคล็ดลับที่หลวงพ่อแพถือปฏิบัติคือ รักษาความสะอาดบริสุทธิ์ทั้งภายในและภายนอก, ตั้งจิตสงบเป็นสมาธิจดจ่ออยู่กับคาถาอาคม และอักขระต่าง ๆ โดยเฉพาะการบริกรรมภาวนา ต้องแม่นยำ ไม่ผิดพลาด ด้วยเหตุนี้ พระสมเด็จที่หลวงพ่อแพจัดสร้างขึ้น จึงมีพุทธานุภาพทรงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เยี่ยมยอดทุกรุ่น ทุกแบบพิมพ์

    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ท่านสร้างพระไว้มาก ถ้าจะประเมินกันอย่างคร่าว ๆ ก็คงไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ แบบพิมพ์เป็นอย่างต่ำ แต่ที่นิยมแพร่หลายนั้น ส่วนมากจะเป็นเนื้อผง เช่น พระสมเด็จ พระนางพญา พระรอด พระปิดตา พระลีลาทุ่งเศรษฐี พระสิวลี พระสังกัจจายน์ พระขุนแผน พระผงรูปเหมือน นางกวัก ฯลฯ ซึ่งลูกศิษย์ลูกหา ญาติโยม ต่างก็เชื่อว่า มีพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยม, แคล้วคลาด อุดมด้วยลาภผล โภคทรัพย์พูลทวี ซึ่งก็คือ คำอวยพรของท่าน

    พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ " พระราชสิงหคณาจารย์ " หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงพ่อแพ
    ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาก พระเครื่องของท่านทุกรุ่น ทุกพิมพ์ทรงล้วนมีพุทธคุณสูงเยี่ยมในทุกๆด้าน ผู้ประสบปาฏิหาริย์แห่งความเข้มขลังเป็นที่เลื่องชื่อลือชาอย่างกว้างขวาง ทั้งชาวไทย ชาวจีน ตลอดจนชาวต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ต่างรู้จักกิตติคุณของหลวงพ่อแพเป็นอย่างดี

    หลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี ท่านมีนามเดิมว่า "แพ ใจมั่นคง" เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๘ ตรงกับ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเส็ง ณ บ้านสวนกล้วย เลขที่ ๙๓/๓ หมู่ที่ ๓ ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี บิดาชื่อ นายเทียน ใจมั่นคง มารดาชื่อ นางหน่าย ใจมั่นคง เมื่ออายุได้ ๘ เดือน มารดาผู้ให้กำเนิดได้ถึงแก่กรรม ดังนั้น นายบุญ และนางเพียร ขำวิบูลย์ สามี ภรรยา ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ได้ขอเด็กชายน้อยๆ ที่มีอายุเพียง ๘ เดือน จากนายเทียน ใจมั่นคง บิดาผู้บังเกิดเกล้าโดยรับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม

    เมื่ออายุได้ ๑๑ ปี บิดามารดาบุญธรรม ได้นำเด็กชายแพไปฝากอยู่วัด กับสำนักอาจารย์ป้อม เพื่อที่จะศึกษาเล่าเรียนตามแบบโบราณนิยม คือ การเรียนภาษาไทยภาษาขอม นอกจากนั้น ยังได้เรียนหนังสือ มูลบทบรรพกิจ ทางธรรมก็มีพระมาลัยสูตร และยังได้หัดอ่านพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี บิดามารดาบุญธรรมได้ส่งไปศึกษาต่อที่สำนักวัดอาจารย์ อาจารย์ สม ภิกษุชาวเขมร วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ การศึกษาในกรุงเทพฯขั้นแรกได้เริ่มเรียนหนังสือโบราณท่องสนธิ เรียนมูลกัจจายนสูตร เป็นเวลา ๑ ปี ต่อมา ก็ไปเป็นนักเรียนบาลีไวยากรณ์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ

    ครั้นหลวงพ่อแพศึกษาหาความรู้จนอายุได้ ๑๖ ปี ก็กลับบ้านเกิด เพื่อบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๓ ณ วัดพิกุลทอง ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีพระอธิการพันจันทสโร เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ครั้นเมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็ได้เดินทางกลับไปอยู่วัดชนะสงครามตามเดิม และได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ต่อไปอีก จนสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร

    ในปีพ.ศ.๒๔๖๘ นายเทียน ใจมั่นคง บิดาผู้บังเกิดเกล้าก็ได้ถึงแก่กรรม โดยความมุมานะพยายาม โดยอาศัยแสงสว่างจากเทียนไขหรือตะเกียง โดยส่วนมากเพราะสาเหตุนี้ นัยน์ตา อันเป็นส่วนสำคัญของสังขาร ก็เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่ตรากตรำอ่านหนังสือมากเกินไปในที่สุด นายแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ได้แนะนำ ไม่ให้อ่านหนังสืออีกต่อไป มิฉะนั้น นัยน์ตาอาจพิการได้ ดังนั้นภายหลังจากสอบได้เปรียญธรรม ๔ ประโยคแล้ว การศึกษาด้านพระปริยัติธรรมก็ต้องยุติลง แต่ด้วยความที่เป็นผู้มีใจใฝ่การศึกษา พระภิกษุแพ เขมังกะโร จึงได้ศึกษา และปฏิบัติสมถกัมมัฎฐาน วิปัสสนากัมมัฎฐานในสำนักของพระครูภาวนา วัดเชตุพน จนชำนาญ และดำเนินการสั่งสอนให้แก่ประชาชนทั่วไป

    สามเณรเปรียญแพ ขำวิบูลย์ได้ทำการอุปสมบทเมื่ออายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ในวันขึ้น ๖ ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันพุธที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๙ ณ พระอุโบสถวัดพิกุลทอง โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านเจ้าอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "เขมังกะโร" (แปลว่า ผู้ทำความเกษม) ภายหลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แพ เขมังกะโร หรือมหาแพ ก็ได้เดินทางกลับสู่วัดชนะสงคราม เพื่อตั้งใจศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรม ให้ได้ในระดับสูงที่สุด เพื่อที่จะได้นำความรู้ ความสามารถที่ได้ฝักใฝ่ศึกษาเล่าเรียนนั้น นำไปสร้างสรรค์ให้เกิดคุณค่า และประโยชน์ต่อชุมชนและพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ พระภิกษุแพ เขมังกะโร พยายามที่จะศึกษาเล่าเรียนหาความรู้ อ่านหนังสือตำราเรียนอยู่เสมอ

    ในปี พ.ศ.๒๔๗๔ อาจารย์หยด พวงมสิต เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ได้ลาสิกขาบท ทำให้ตำแหน่งว่างลง ชาวบ้านพิกุลทอง และชาวบ้านจำปาทอง จึงนิมนต์ให้พระภิกษุแพมารับเป็นเจ้าอาวาสในเดือน เมษายน พ.ศ.๒๔๗๔ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุเพียง ๒๖ ปี ต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงค์ตำแหน่ง ตามหน้าที่การงานต่างๆ ดังนี้

    พ.ศ.๒๔๘๒ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลถอนสมอ
    พ.ศ.๒๔๘๓ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น พระอุปัชฌายะ
    พ.ศ.๒๔๘๔ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอท่าช้าง
    พ.ศ.๒๕๒๕ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดสมณศักดิ์
    พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ทำกิจปริยัติธรรมวินัยที่พระคณุศรีพรหมโสภิต
    พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ
    พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรธรรมภาณี
    พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระสิงหคณาจารย์
    พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ
    วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕ ในวาระครบ ๖๐ พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพที่พระเทพสิงหบุราจารย์

    พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๙ ใน วโรกาสเสด็จครองราชย์ครบ ๕๐ ปี เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมมุนี นับตั้งแต่พระภิกษุแพ ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพิกุลทอง ได้บำเพ็ญประโยชน์ภายในวัด และสาธารณประโยชน์ทั่วไป พอสรุปได้ดังนี้ ดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ หอประชุมกุฎิสงฆ์ หอไตร หอฉัน ศาลาวิปัสสนา โรงฟังธรรม ฌาปนสถาน ศาลาเอนกประสงค์ เขื่อนหน้าวัด ฯลฯ ดำเนินการก่อสร้างสาธารณะประโยชน์ เพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่ประชาชนทั่วไป พอสรุปได้ดังนี้
    1. เป็นประธานในการก่อสร้างโรงพยาบาลอำเภอท่าช้าง
    2. เป็นประธานในการก่อสร้างที่ว่าการอำเภอท่าช้าง
    3. เป็นประธานในการก่อสร้างสถานีตำรวจอำเภอท่าช้าง
    4. เป็นประธานในการก่อสร้างสถานีอนามัยตำบลพิกุลทอง
    5. เป็นประธานในการก่อสร้างโรงเรียนประชาบาลวัดพิกุลทอง
    6. เป็นประธานในการหาทุนสมทบในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอ อินทร์บุรีและสะพานข้ามแม่น้ำน้อย อำเภอท่าช้าง

    ดำเนินการก่อสร้างสาธารณประโยชน์ ให้กับโรงพยาบาลสิงห์บุรี
    พ.ศ. ๒๕๒๘ ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ ๘๐ ปี เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง ๔ ชั้น มูลค่า ๑๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน) สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ ๘๙ เตียง พร้อมทั้งจัดตั้งกองทุนเพื่อใช้เป็นค่ายาและเวชภัณฑ์ สำหรับพระภิกษุสามเณรที่อาพาธในโรงพยาบาลสิงห์บุรี เป็นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน)
    พ.ศ. ๒๕๓๒ ก่อสร้างอาคารเอ็กซเรย์ (อาคารหลวงพ่อแพ ๘๖ ปี) เป็นอาคารคอนกรีต เสริมเหล็ก สูง ๒ ชั้น มูลค่า ๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท (เจ็ดล้านบาทถ้วน) ก่อสร้างแล้วเสร็จ และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๓ พ.ศ. ๒๕๓๕
    พ.ศ.๒๕๓๔ ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ ๙๐ ปี เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง ๖ ชั้น มูลค่า ๓๕,๐๙๕,๕๕๕ บาท (สามสิบห้าล้านเก้าหมื่นห้าพันห้าร้อยห้าสิบห้าบาทถ้วน) อาคารหลังนี้ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๔ เวลา ๐๙.๐๙ น. และเปิดให้บริการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๗ โดยชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๕ เป็นหอผู้ป่วยสามัญ ชั้นที่ ๖ เป็นหอผู้ป่วยพิเศษ จำนวน๑๕ ห้อง และทางโรงพยาบาลสิงห์บุรีได้กราบทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารหลวงพ่อแพ ๙๐ ปี เมื่อวันจันทร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ พ.ศ. ๒๕๓๘

    พ.ศ. ๒๕๓๘ ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง ๙ ชั้น มูลค่า ๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อ วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ อาคารหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอย ๑๑,๔๓๐ ตารางเมตร โดย ชั้นที่ ๑ - ๒ เป็นแผนกบริการผู้ป่วยนอก ชั้นที่ ๓ - ๔ เป็นฝ่ายอำนวยการ ชั้นที่ ๕ - ๙ เป็นห้องผู้ป่วย จำนวน ๖๐ ห้อง ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑
    พระธรรมมุนี ปัจจุบันมีอายุได้ 95 ปี พรรษา 74 ตลอดชีวิตของหลวงพ่อได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างเอนกอนันต์ และได้อุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้แก่ประชาชนผู้เดือดร้อนหรือตกทุกข์ได้ยากตลอดมาหลวงพ่อแพ เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนทั่วไปได้แผ่บารมีช่วยเหลือกิจการต่างๆ นอกจากด้านศาสนาแล้วยังช่วยเหลือด้านการศึกษาและสาธารณสุขด้วยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมายโดยเฉพาะ ในส่วนของโรงพยาบาลสิงห์บุรีได้รับความอนุเคราะห์จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อแพดังจะเห็นได้จากการก่อสร้าง อาคารหลวงพ่อแพ 80 ปี ,อาคารหลวงพ่อแพ 86 ปี (อาคารเอ็กซเรย์) ,อาคารหลวงพ่อแพ 90 ปี ที่เด่นเป็นสง่า และดูสวยงามภายในโรงพยาบาสิงห์บุรี และปัจจุบันกับอาคารหลวงพ่อแพเขมังกโร ที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็ด้วยเพราะบุญบารมีของหลวงพ่อแพ ที่ท่านมอบต่อสาธุชนด้วยเมตตาธรรม

    พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นชั้นธรรม ที่ พระธรรมมุนี

    หลวงพ่อแพท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ณ โรงพยาบาลสิงห์บุรีสิริรวมอายุได้ 94 ปี ยังความเศร้าโศกเสียแก่แก่ชาวพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นอย่างมาก


    พระปิดตารุ่นนี้แทบจะไม่เจอในสนามพระ หายาก รับประกันแท้

    1604401122987.jpg 1604401126345.jpg
     
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    IMG_25631103_180442.jpg IMG_25631103_180458.jpg
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิด

    รูปหล่อลอยองค์ในหลวงทรงงาน รุ่นเย็นศิระเพราะพระบริบาล 80 พรรษา พ.ศ.2550 เนื้อเงิน
    หมายเลข 5143

    รูปหล่อในหลวงทรงงาน เย็นศิระเพราะพระบริบาล 80พรรษา รุ่น1 (ขนาดสูง 1นิ้ว เนื้อเงิน) ปลุกเสกดี พิธีใหญ่
    : จัดสร้าง 10,000องค์
    : เนื่องในวโรกาส 80 พรรษา มหามิ่งมงคลแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชจึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้าง “พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระพุทธรูปคุ้มเกล้าฯ มหามงคล 80 พรรษา”
    **พิธีปลุกเสก
    ในการจัดสร้างครั้งนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงอนุโมทนาและประทานผงพุทธคุณ (ผงจิตรลดา) โลหะชนวนพระ ภ.ป.ร.2508 และผงตะไบพระกริ่งปวเรศ 2530 มาร่วมในการจัดสร้างด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี 2550 และอีกส่วนหนึ่งนำไปจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) ของทางโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช อีกทั้งเพื่อเปิดโอกาสให้พสกนิกรอัญเชิญไปสักการะบูชาเป็นพุทธานุสติ ยึดมั่นในพระรัตนตรัยและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีและมีศีลธรรมตลอดไป


    องค์นี้เดิมเลี่ยมทองใช้มาครับ รับประกันแท้

    บูชา 8,000 บาท

    1604401133969.jpg 1604401135272.jpg 1604401136403.jpg 1604401642874.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2020
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ไม้ต้นเดียวกัน
    ท่อนหนึ่ง กลายเป็นพุทธรูป
    ท่อนหนึ่ง กลายเป็นไม้กระดาน
    ไม้กระดานรู้สึกไม่พอใจ "เราต่างก็เป็นไม้ที่มาจากต้นเดียวกัน ทำไมคนอื่นๆ ถึงเหยียบฉันเพื่อขึ้นไปกราบเธอ?"
    พุทธรูปบอกกับไม้กระดานว่า "เพราะเธอถูกเลื่อยเพียงครั้งเดียว แต่ฉันถูกแกะถูกกรีดเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง!"
    ...
    ชีวิตคนก็เช่นกัน ทนได้กับการหล่อหลอม ชีวิตจึงเกิดคุณค่า เมื่อใดก็ตามที่เธอเห็นความรุ่งเรืองของใครๆ อย่าได้เกิดความอิจฉา แต่จงถามตัวเธอเองว่า เธออดทนและทุ่มเทมากกว่าใครคนนั้นแล้วหรือยัง?
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    พระปิดตา 8 เหลี่ยมวัดอนงค์ เป็นมหาอุตม์ 8 ทิศ ด้านหลังจารยันต์เต็มพื้นที่ เรียกว่ายันต์โป๊ยข่วย ปิดตา 9 ปางครบสูตรมหาอุตม์สุดยอด บูชาครั้งเดียวเหมือนได้บูชาทั้ง 9 องค์สุดคุ้ม สวยงามครับ เนื้อทองผสมครับ สร้างพศ. 2485 เพื่อให้ทหารไปรบในสงครามอินโดจีนครับ พิธีดีสร้างตามตำราเก่าของวัดอนงค์ ใส่แล้วจะคึกครับเห็นคนทะเลาะกัน แล้วเกิดอารมณ์เราจะไม่กลัวใครเลยครับพร้อมสู้ ทุกสถาณการณ์ครับเป็นทหารตำรวจใช้ดีครับนอกจากจะเหนียวแล้วยังมีพุทธคุณใน เรื่องเมตตามหานิยม อำนาจเสริมดวงให้แข็งแก้ดวงตกปีชง และกันคุณไสยวิญญาณผีร้ายด้วย ครับที่กล่าวมานี้เป็นเรื่องจริงครับดูจากพระปิดตาแต่ละเหลี่ยมพิมพ์พระจะ ไม่เหมือนกันสักพิมพ์ครับพระปิดตาแต่ละพิมพ์จะบ่งบอกในเรื่องของพุทธคุณแต่ ละด้านครับและการสร้างพ.ศ. ลึกเกจิเมื่อก่อนดังๆร่วมปลุกเสกเพียบ เป็นของดีปีลึกราคาไม่แพง

    องค์นี้ผิวเดิมสวยมาก เลี่ยมกันน้ำพร้อมใช้ น่าใช้ รับประกันแท้้


    บูชา 950 บาท

    IMG_25631105_081117.jpg IMG_25631105_081127.jpg Screenshot_25631105_081628.jpg
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดแล้วครับ

    เหรียญนาคปรกรุ่นแรกเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร กรุงเทพ ปี 2541
    เนื้อทองแดง จัดสร้างโดยเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร โดยได้อาราธนาพระเถราจารย์ร่วมอธิษฐานจิตอย่างมากมายอาทิ
    1.) หลวงพ่อพูน วัดไผ่ล้อม
    2.) หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    3.) หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
    4.) หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    5.) หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
    6.) หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทพนมดิน
    7.) หลวงปู่เจียม วัดอินทราสุการาม
    8.) หลวงปู่อิง โชติโญ สำนักสงฆ์โคกชม
    9.) หลวงพ่อสิริ วัดตาล
    10.) หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก
    11.) หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    12.) หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง เป็นต้น
    ดังนั้นวัตถุมงคลชุดนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ควรค่าแก่การเก็บสะสมหรือพกติดตัวเนื่องด้วยได้รับการปลุกเสกจากยอดพระเกจิระดับต้นๆของประเทศ


    IMG_25631105_081031.jpg IMG_25631105_081041.jpg IMG_25631105_081055.jpg

    พระนาคปรก ปี 2541 พระเทพภาวนาวิกรม เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรวิทยาราม

    "พระนาคปรก"เปรียบเสมือนมีพญานาคราชแผ่พังพานปกป้อง คุ้มครองเจ้าชะตาให้พ้นทุกข์และภัยพิบัติต่างๆ และยังมีความเชื่อว่าพระปางนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ทางเมตตา ซึ่งเป็นการสอนทางอ้อมให้เห็นอานิสงส์หรือผลดีของความเมตตา เพราะแม้แต่พญานาคยังขึ้นจากสระน้ำมาถวายอารักขาพระพุทธเจ้า ทั้งนี้ก็ด้วยพลานุภาพแห่งพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์

    เหรียญพระนาคปรกนี้ท่านเจ้าคุณธงชัย ได้ศึกษาและได้รวบรวมโลหะธาตุ แผ่นยันต์ แผ่นจาร ตามตำราที่นำมาจัดสร้างพระเนื้อโลหะและชนวนโลหะจากพิธีต่าง ๆ มากมาย โลหะโบราณไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เนื้อสำริด ที่ได้เก็บสะสมรวบรวมมาเททองหล่อเป็นพระนาคปรก เพื่อมอบให้กับศิษยานุศิษย์และประชาชนทั่วไปนำไปบูชาพกพาอาราธนาติดตัว ขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ แคล้วคลาดปลอดภัย ดลบันดาลให้ทุกท่านที่บูชาพกพาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และสิ่งที่คิดจะทำทุกประการ

    พุทธคุณของพระปางนาคปรก เชื่อกันว่าดีครบทุกด้าน เป็นพระประจำวันของผู้ที่เกิดวันเสาร์ แต่ผู้ที่เกิดวันอื่นๆ ก็สามารถสักการบูชาได้

    คาถาสวดบูชา

    ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตาโวโรเปตา เตน สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ คัพภัสสะ ฯ


    เลี่ยมเงินผ่าหวาย สวยรับประกันแท้

    บูชา 650 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2020
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดครับ

    เหรียญเสือซ่อนเล็บ’พระพุฒาจารย์(เข้ม)วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)

    เหรียญสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ท่าเตียน กทม. หรือ เหรียญสมเด็จฯ (เข้ม) เป็นเหรียญเก่า พ.ศ.ลึก ขอบเลื่อยพุทธคุณแรงจัดจ้านในทุกด้าน นับเป็นเพชรน้ำเอกเหรียญหนึ่งของวงการ ที่คนส่วนใหญ่พากันมองข้ามกันไปอย่างน่าเสียดาย เป็นเหรียญที่มีสนนราคาไม่แพง ซึ่งถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของเราๆ ท่านๆ ที่จะได้เหรียญดีมีพุทธคุณสูงเอาไว้สักการบูชาในราคาที่ไม่ต้องคิดมาก เป็นเหรียญที่ผมได้พบเห็นประสบการณ์มาแล้วมากมาย
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) ท่านเป็นชาวพิจิตร เมืองแห่งพระเครื่องพิมพ์เล็กจิ๋วแต่แจ๋วด้วยพุทธคุณ ที่วงการพระเครื่องเชื่อถือมานานปี อาทิ พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า, พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และพระพิจิตรเขี้ยวงู ฯลฯ ....ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๖ เมื่ออุปสมบทมีฉายาว่า "ธัมมสิโร" ท่านมรณภาพเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ สิริอายุได้ ๘๘ ปี ครองวัดพระเชตุพนฯ นาน ๓๒ ปี ในด้านพุทธาคม ท่านได้ศึกษาจากพระเกจิอาจารย์ของเมืองพิจิตร ซึ่งในสมัยนั้นเต็มไปด้วยหลวงพ่อที่ชื่อเสียงโด่งดังมากมาย อาทิ หลวงพ่อโม วัดวังหมาเน่า ผู้สร้างตะกรุดสามกษัตริย์ ทองแดง ตะกั่ว ฝาบาตร เจ้าของตำนาน "ตะกรุดจระเข้กัดไม่เข้า" จนคนเป็นพ่อต้องตัดแบ่งให้ลูกๆ ใช้
    อีกท่านหนึ่ง คือ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เจ้าของพระรูปเหมือนหล่อโบราณที่ได้รับการยกย่องให้เป็นจักรพรรดิแห่งพระรูปหล่อราคาหลักล้าน
    สมเด็จฯ (เข้ม) ท่านได้ศึกษาพุทธาคมจากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ จนเชี่ยวชาญและแตกฉานชำนาญการอย่างกว้างขวาง แต่ท่านชอบเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่โอ้อวด งำประกาย จึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักท่าน
    อย่างไรก็ดี มีหลายเรื่องที่ยืนยันได้ถึงความเก่งกล้าสามารถของท่าน จึงขอนำมากล่าวถึงขอสังเขปดังนี้ คือ
    ๑.การได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ให้เป็นแม่งานฝ่ายสงฆ์ ไปดำเนินการหล่อองค์พระพุทธชินราช (จำลอง) ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๓ จนสำเร็จสมบูรณ์ด้วยความเรียบร้อยทุกประการ เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๔ แล้วจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ กทม.
    ๒.การเข้าร่วมปลุกเสกเหรียญพระพุทธนรสีห์ ในวาระสมโภชพระพุทธนรสีห์ ณ พระอุโบสถชั่วคราว วัดเบญจมบพิตร เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๒ ร่วมกับหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง และพระพุฒาจารย์ (มา) วัดสามปลื้ม ฯลฯ
    ๓.การเข้าร่วมพิธีปลุกเสกครั้งประวัติศาสตร์ เหรียญพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ กรมหลวงชินวรณ์สิริวัฒน์ และแหวนมงคลเก้า ฯลฯ ณ วัดราชบพิธฯ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ ร่วมกับพระคณาจารย์เลื่องชื่อในสมัยนั้น อาทิ หลวงพ่อจาด สัตหีบ ฯลฯ
    สำหรับวัตถุมงคลของท่านเอง มีเพียงเหรียญอย่างเดียว โดยสร้างขึ้น ๒ รุ่น คือ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๒ และเหรียญรุ่น ๒ พ.ศ.๒๔๗๖
    เหรียญทั้ง ๒ รุ่นนี้มีพุทธคุณดีเด็ดขาดเหมือนๆ กัน โดยเฉพาะด้านคงกระพัน แบบว่าไม่เสียชื่อพระเมืองพิจิตร
    เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๒ ออกในวาระที่ท่านได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ "สมเด็จพระพุฒาจารย์" เป็นเหรียญรูปอาร์ม ด้านหน้าเป็นรูปท่านหน้าตรง ครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่ มีข้อความว่า "สมเด็จพระพุฒาจารย์" พิมพ์ทรงเหรียญเรียบง่าย แต่คลาสสิก ดูแล้วเข้มขลังดี
    ด้านหลังมีข้อความ ๓ บรรทัด จารึกว่า "ที่ ระฤก พ.ศ. ๒๔๗๒" ไม่มีอักขระเลขยันต์ใดๆ เหรียญรุ่น ๒ สร้างในโอกาสฉลองอายุ ๘๐ ปี เป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปท่านครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่ หันข้างไปทางซ้ายมือ มีตัวหนังสือจารึกว่า "สมเด็จพระพุฒาจารย์"
    ด้านหลังมีข้อความสี่บรรทัด "ที่ระฤก ในงานฉลองอายุ ครบ ๘๐ ปี พ.ศ.๒๔๗๖" ไม่มีอักขระเลขยันต์ใดๆ เหมือนรุ่นแรก
    เหรียญที่ไม่มีอักขระเลขยันต์ใดๆ เลย เช่นนี้ นักเลงพระรุ่นเก่า และอาจารย์ผม (อาจารย์เภา ศกุนตะศุต) จะเรียกว่า"เหรียญเสือซ่อนเล็บ" เป็นเหรียญที่ปลุกเสกแบบซ่อนคมไว้ภายใน ไม่อาจรู้ได้ว่า ปลุกเสกด้วยคาถาอาคมใด เหมือนเสือที่ซ่อนความแหลมคมของกรงเล็บไว้ รอจนถึงเวลาตะปบเหยื่อ นักเลงดีจะ "คัดของ" ก็เลยคัดไม่ได้
    ลูกผู้ชายสมัยก่อน มีพิษสงรอบตัว นอกจากมีอาจารย์ดี มีของดีติดตัว แล้วยังมีอาคมดีด้วย ที่สามารถ "คัดของ" ดีของคนอื่นให้กลายเป็นเช่นก้อนดิน เศษโลหะ
    นักเลงสมัยก่อน นอกจากเพื่อนที่กรีดเลือดสาบานเป็นเพื่อนตายกันแล้ว จะไม่ยอมให้ใครดูหรือแตะต้องพระเครื่องในคออย่างเด็ดขาด เพราะกลัวถูก “คัดของ” ซึ่งต้องเห็นอักขระเลขยันต์ที่ลงไว้ เมื่อเจอกับ “เหรียญเสือซ่อนเล็บ” ของเหรียญสมเด็จฯ (เข้ม) นี้เข้าก็อับจนปัญญา ทำอะไรไม่ได้เลย ( และอีกเหตุผลหนึ่งคือ สมเด็จท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ยุคเก่า ที่เคร่งพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง เกร็งว่าการผูกอักขระยันต์ใดๆในเหรียญนั้น จะเป็นการอวดอุตริคุณวิเศษของตัวเอง ซึ่งผิดพระธรรมวินัย ท่านจึงไม่ให้ผูกอักขระยันต์ใดๆในเหรียญของท่านเลย .... ซึ่งคุณวิเศษของเหรียญจะเป็นที่ประจักรแก่ผู้อารธนาเอง ถือว่าท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ที่น่าเคารพนับถืออย่างที่สุดครับ )
    ฉายา "เสือซ่อนเล็บ" เป็นฉายาที่น่าเกรงขาม ศักดิ์สิทธิ์ และพึ่งพิงได้ ฉายานี้ได้มาจากเซียนพระยุคเก่าๆที่ทุกท่านล้วนทราบถึงคุณวิเศษของเหรียญนี้เป็นอย่างดีครับ ซึ่งเป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากมายเหรียญหนึ่ง ซึ่งมีเรื่องราวดังนี้
    เมื่อก่อนปี ๒๕๑๐ เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นในสมัยนั้น ที่นัดเคลียร์ปัญหาหัวใจกัน มีฝ่ายละ ๕-๖ คน อาวุธมีมีด ไม้ แต่ไม่มีปืน สถานที่คือบริเวณข้างกำแพงโบสถ์ วัดคูหาสวรรค์ (วัดศาลาสี่หน้า) แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ
    ซึ่งปรากฏว่า วันที่นัดดวลกันนั้น กว่าตำรวจจะมาถึง ต่างได้แผลได้เลือดกันทุกคน ที่เจ็บมากหน่อยก็ส่งไปโรงพยาบาล ที่เจ็บน้อยหน่อย หนีได้ก็หนีไปเลย
    มีชายคนหนึ่งถูกแทงที่ชายโครงด้านซ้าย แต่ไม่เข้า ถูกตำรวจจับไปโรงพักบางเสาธง เขาให้ดูชายเสื้อที่ขาดเป็นทางยาว และให้ดูรอยแผลที่ถูกแทง เห็นเป็นทางยาวเกือบหนึ่งฝ่ามือ มีแค่ยางบอนซึมๆ ไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด
    เขาถอดสร้อยจากคอที่มีเหรียญเสือซ่อนเล็บ (สมเด็จฯเข้ม) รุ่นแรก ๒๔๗๒ เพียงเหรียญเดียวเพียงเท่านั้น เหรียญเก่าพุทธคุณแรงฤทธิ์อย่างนี้ แต่ราคาเช่าหายังถูกมาก เหรียญชนิดนี้หาไม่ได้ง่ายนัก และนี่คือ เหรียญสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) วัดโพธิ์ เจ้าตำรับ “เหรียญเสือซ่อนเล็บ” ที่น่าสนใจยิ่ง

    เหรียญนี้กะไหล่เงินสวยๆ เหรียญปีลึกขอบเลื่อย หาไม่ง่าย ราคาเอื้อมถึง รับประกันแท้

    บูชา 9,500บาท

    IMG_25631106_182424.jpg IMG_25631106_182335.jpg IMG_25631106_182340.jpg IMG_25631106_182403.jpg IMG_25631106_182417.jpg IMG_25631106_182044.jpg IMG_25631106_182049.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2020
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    Screenshot_25631106_172356.jpg Screenshot_25631106_174220.jpg Screenshot_25631106_174231.jpg Screenshot_25631106_174235.jpg Screenshot_25631106_172339.jpg Screenshot_25631106_172346.jpg Screenshot_25631106_174239.jpg
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    1ใน9เครื่องรางยอดนิยมของไทย...........



    " หมากดีที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง

    ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพธิ์

    พิสมรวัดพวงมาลัย

    ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง

    ราหูคู่วัดศรีษะฯ เเหวนอักขระวัดหนองบัว

    ลูกเเร่ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน

    เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา

    ติดกายยามญาตตรา ภัยมิกล้ามาเเพ้วพาน"



    เป็นโคลงกลอนที่คนเก่าโบราณกล่าวถึงเครื่องราง-ของขลัง 9 อย่างที่ทรงคุณค่าและควรหามาติดกาย



    .............................ตะกรุดพิสมรใบลาน บ้านบางปืน ถูกจัดไว้ในลำดับที่ ๕ และ เป็น ๑ ใน ๙ เครื่องรางมหงมงคล ของไทย ลงรักหนาแตกเป็นเกร็ด ๆๆ (หลวงพ่อแก้ว พรหมสโร) ท่านเคยพูดเอาไว้ ในหลายๆๆตำราว่า "อยากได้ของดีก็ ต้องรี่ไปเอา ไกลแค่ไหนถ้าไม่ไป ก็ไม่ได้ของดี" นั่นหมายถึงท่านมั่นใจ และใช้ใบลานบ้านบางปืน (บังปืน) เป็นการตัดไม้ข่มนามในตัว และใบลานที่นั้น เหนียวคงทนดี กว่าที่อื่น ยอดใบลานเดือน ๕ เป็นใบลานอ่อน ตากแห้งม้วนไม่แตก เมื่อได้ ใบลาน จาก บางปืน มาแล้ว ท่านจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ ๕-๖ นิ้ว แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง จากนั้นจึงนำมาลงอักขระบนใบลาน ว่า "ภู ภิ ภู ภะ" ล้อมรอบด้วยตัว "มิ" "ภูภิ ภูภะ อะมิ อุทถัง อัดโธ นะโมพุทธายะ

    สำหรับคาถาในการอาราธนาตะกรุดใบลานบังปืน ให้ตั้งนะโม ๓ จบ ระลึกถึงท่าน เอาตะกรุดจบที่หน้าผาก แล้วว่าคาถา ดังนี้ "ภูภิ ภูภะ อะมิ อุทถัง อัดโธ นะโมพุทธายะ" เมื่อคาดเข้าติดตัว ให้ว่าคาถาเวลาผูกปมเชือก ดังนี้ "ภูภิ ภูภะ อะมิ มิมังกายะพัทธนัง อธิษฐานมิ" เด่นทางคงกระพัน เป็นเลิศ ของท่านในสมัยนั้นโด่งดัง ไปถึงเจ้าขุนมูลนายในวังกันเลยทีเดียว


    ดอกนี้เนื้อเก่าถึงยุค รับประกัน

    บูชา 16,000 บาท

    1604711520601.jpg 1604711522041.jpg 1604711523357.jpg 1604711524625.jpg 1604711512458.jpg
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    1604715910773.jpg 1604715912719.jpg 1604715914424.jpg 1604715907011.jpg 1604715908364.jpg 1604715909442.jpg
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,462
    ค่าพลัง:
    +53,091
    ปิดแล้วครับ

    หางช้าง มีดีอย่างไรถึงได้เป็นเครื่องรางที่ “บิ๊กตู่” เลือกใส่

    ความเชื่อเรื่องวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง อยู่คู่กับคนไทยมานานนับร้อยๆ ปี แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยังใส่ "กำไลเงินหางช้างสีขาว" และใส่มานานแล้วด้วย

    วันนี้มาดูความหมายกันว่า "กำไลหางช้าง" มีความหมายอะไรดี จึงไปอยู่บนข้อมือนายกฯไทยคนที่ 29 ได้

    "ช้าง" เป็นสัตว์ใหญ่ที่แสดงถึงอำนาจคนโบราณเชื่อว่าผู้ที่มีหางช้างพกติดตัวจะปลอดภัยแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ เครื่องรางช้างที่ทำจาก "ขนหางช้าง" ว่ากันว่าสามารถป้องกันคุณไสยได้ทุกชนิด จึงมีผู้นิยมนำมาทำแหวน กำไล หรือพกติดตัวไว้ ลำพังแต่ขนหางช้างอย่างเดียวก็ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีความขลังอยู่ในตัวอยู่แล้ว

    ความเชื่อเกี่ยวกับ "หางช้าง" คนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลังปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆ สำหรับชาวเหมอะโหน่งซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางของเวียดนาม เชื่อว่า "ขนหางช้าง" เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบให้แก่กันเป็นการแสดงออกซึ่งความรัก กำไลหางช้าง เครื่องราง เสริมมงคลบารมี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ตามความเชื่อโบราณของชาวกูยเลี้ยงช้าง

    "หางช้าง" มีสองประเภท 1.ขนหางช้างสีดำ 2. (บางท่านเรียกว่าขนหางแก้วขนหางดอก ขนหางช้างเผือก) เป็นของหายากคล้ายกับงากำจัดกำจายมีความเชื่อว่าเป็นของแรงในตัวมีอานุภาพทวีคูณกว่าห้างช้างสีดำ

    เมื่อวันที่ 17 กันยายน สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ลงพื้นที่หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ภายในศูนย์คชศึกษา ซึ่งพื้นที่เป็นที่มีการเลี้ยงช้างมากที่สุด และมีเครื่องรางของขลังที่ทำจากหางช้าง งาช้าง ตะขอช้าง ที่มีให้ผู้สนใจนับถือ ได้มาเช่าบูชา เป็นเครื่องรางของขลังประจำตัวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกำไลหางช้าง ที่มีการทำเป็นกำไลข้อมือ ตีเป็นเกลียวขนาดเท่าข้อมือซึ่งเป็นหางช้างจริง ที่มีการตัดมาจากหางช้าง และบางส่วนก็นำมาจาก ช้างที่ล้มตาย ไปแล้ว นำมาทำเป็นเครื่องรางของขลัง ซึ่งผู้ที่บูชา หรือชื้อไปแล้ว ก็จะนำไปตกแต่งให้สวยงาม โดยนำเครื่องเงินครอบไว้ หรือ มีฐานะหน่อย ก็จะครอบหรือหุ้มด้วยทองคำ ซึ่งก็จะทำให้ กำไลหางช้างมีราคาสูงขึ้นไปด้วย

    ส่วนที่หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ บรรยากาศการท่องเที่ยว ที่ศูนย์คชศึกษา พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ เดินทางมาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ของที่ระลึกก็ยังคงเป็น สิ่งของ จากช้าง เช่น แหวนงาช้าง แหวนหางช้าง กำไลข้อมืองาช้าง กำไลข้อมือกระดูกช้าง ตะขอบังคับช้าง กำไลหางช้าง นอกจากนั้นยังมีการแสดงของช้างที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้าชมอย่างต่อเนื่องทุกวัน แต่ช่วงนี้ นักท่องเที่ยวค่อนข้างบางตา

    นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ยังมีคนดังที่สวมเครื่องประดับหางช้างด้วย อย่างเซเลบริตี้ชื่อดัง วัฒน์ธิดา ชุมสาย ณ อยุธยา หรือ โอบอุ้ม มีความเชื่อในเรื่องลี้ลับ ไสยศาสตร์ด้วย ถึงขนาดพกแหวนหางช้าง ซึ่งมีสรรพคุณป้องกันคุณไสย ติดตัวไว้ตลอดเวลา ส่วน รังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ก็ยังสวมกำไลหางช้างที่ข้อมือขวา ซึ่งได้มาจากผู้ใหญ่เหมา ศาลางาม ผู้ซึ่งเป็นเสี่ยว (เพื่อนรักในภาษาอีสาน) มาแต่เด็กๆ และเป็นตระกูลเก่าแก่ในการเลี้ยงช้าง ซึ่งปัจจุบันมีช้างกว่า 20 เชือก รวมถึงดาราชื่อดัง อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ ที่ซื้อกำไลหางช้างมาจากอินเดียมอบให้กับ นัท มีเรีย เบเนเดตตี้ แฟนสาว เพื่อเอาไว้ป้องกันภัย

    ส่วนเรื่องราคานั้น จากเว็บไซต์ http://www.gold5616.net ได้ลงข้อมูลราคาเครื่องประดับที่ทำจากหางช้าง งาช้าง กระดูกช้าง ในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกำไล แหวน สร้อยคอ มีประมาณ 170 แบบ สนนราคาเริ่มที่ 100 กว่าบาทไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน พลอย หรืออัญมณีต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีเฟซบุ๊กจำหน่ายกำไลหางช้าง ลูกค้าสามารถสั่งผลิตในรูปแบบตามต้องการ ราคาสูงสุดอยู่ที่ 58,000 บาท เนื่องจากวัสดุที่นำมาตกแต่งนั้นทำจากทองคำแท้น้ำหนัก 2 บาท และทำจากหางช้างเผือก

    วงนี้เจ้าของเดิมเป็นคนสุรินทร์ แกบอกว่าเอาหางช้างไปใว้ให้หลวงปู่หงษ์ท่านใว้แจกญาติโยมประมาณปี30 เยอะพอสมควรท่านเลยถักใว้ให้มาใส่2วง ให้พี่สาวไป1
    รับประกันที่มาดีเก่า ไม่ใช่ของสนามทำขาย

    บูชา 1,500 บาท

    IMG_25631107_174338.jpg IMG_25631107_174346.jpg IMG_25631107_174203.jpg IMG_25631107_175346.jpg IMG_25631107_175404.jpg IMG_25631107_174215.jpg IMG_25631107_175412.jpg IMG_25631107_174226.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2020
  19. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  20. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...